Friday, December 04, 2009

สูตรเสน่หา - เรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ - สูตรเสน่หา ตอนที่ 22-23

สูตรเสน่หา ตอนที่ 22

“ลินไม่ปฏิเสธเรื่องที่ข่าวลงเกี่ยวกับฐานะของครูกุ๊ก..เอ่อ..ของ “ดิน”
คุณแม่ของดินเป็นแม่ครัวจริง..แต่ท่านเป็นคนดี เป็นคนน่ารัก”
พสุเดินเข้ามาใกล้โทรทัศน์
และตั้งใจฟังคำพูดของอลินที่พูดต่อหน้านักข่าวอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจที่สุด
นงพะงาเห็นท่าทางของลูกก็ยิ้ม
“ลินไม่เคยคิดรังเกียจดินแม้แต่นิดเดียว
ลินไม่ได้วัดค่าของคนที่ชาติตระกูล
ลินเลือกผู้ชายที่หัวใจไม่ใช่ที่ฐานะหรือหน้าตา
ความดีของดิน..ชนะใจลินได้อย่างขาวสะอาด
และที่ลินมีเหตุทะเลาะวิวาท
ในวันนี้..ก็เพราะทนไม่ได้ที่ฮยองกึนมาดู
ถูกดิน” พสุเหวอ..นงพะงาอมยิ้ม อ้อนยิ้มแฉ่ง
“ลินกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า..ที่
ลินได้กลับมามีงานทำ มีงานละคร มีพี่นักข่าวให้ความสนใจ มีแฟน ๆ ที่ให้การสนับสนุน
อีกครั้ง.. ลินกลับมาได้เพราะดิน ถ้าไม่มีดินอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่มีอลินในวันนี้
!!” นักข่าวถึงกับตบมือกันกราวววววววว..
พสุอดอมยิ้มอยู่หน้าทีวีไม่ได้.. นงพะงากับอ้อนยิ้มตาม... พสุยิ้ม ๆ เขิน ๆ
แต่พยายามเก๊ก ๆ เก็บ ๆ ไว้ที่คอนโดฯ อลินอาบน้ำเสร็จอยู่ในสภาพเสื้อคลุม
มีผ้าคลุมอยู่บนหัว และหยิบยามาทาแผลที่ฟกช้ำจากการตะลุมบอนกับฮยองกึน
ระหว่างนั้นเสียงออดดังขึ้น อลินแปลกใจและเดินไปเปิดประตู ทันทีที่ประตูเปิด
อลินตาโตตกใจที่เห็นพสุตัวเป็น ๆ ยืนอยู่ด้วยท่าทางเขิน ๆ แต่พยายามทำเก๊ก
พสุอ้าปากจะพูด แต่อลินรีบบอกเดี๋ยวมาและปิดประตูใส่หน้าพสุโครมใหญ่ ปัง !!!
พสุตกใจสะดุ้งนิด ๆ..เอ่อ.. งงอลินยืนตั้งสติหนึ่งอึดใจ
“ครูกุ๊กมา..ทำไงดี..แย่แล้ว !” อลินจับผม จับเสื้อคลุม
แล้วก็วิ่งพรวดเข้าไปในห้องแต่งตัว ด้วยอาการตื่นเต้นและลนลานราวกับเด็กอายุ 15
ปีมีผู้ชายมาหาที่บ้าน อลินวิ่งตึก ๆๆๆๆ
เข้าไปในห้องแล้วก็รื้อเสื้อผ้ากระจุยกระจาย
หยิบเอาชุดทาบ..ทาบ..แล้วก็เลือกชุดที่น่ารักที่สุดมาใส่
หน้าห้องพสุยืนรออยู่..ในมือถือถุง ผ้าใส่ขวดน้ำอยู่ 2-3 ขวด
พสุทนไม่ไหว กดออดอีกที อลินกำลังแต่งหน้าอยู่ บ่น พึมพำ ๆ ว่าให้รอแป๊บนึง
อลินแต่งหน้า ทำผม ใส่ตุ้มหูเต็มที่ มือเป็นระวิง พสุยืนรออยู่
พสุเอามือล้วงกระเป๋า... “คุณนาย..ทำอาราย
อยู่เนี่ย” ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออกมาผัวะ !!!
อลินยืนอยู่ในชุดสวย เสื้อผ้า หน้า ผม กริบ...เนี้ยบ
พสุยืนมองอึ้ง..อลินยิ้ม.. คิดในใจ “สวยล่ะสิ”
แล้วพสุก็พูดว่า... “จะไปไหน ?” ตึ่งงงงง !! อลินเหวอ ๆ
นิด ๆ “เปล่า..ฉันก็แต่งตัวมารับครูกุ๊กไง” “เสียเวลา
คราวหน้าไม่ต้องนะ ผมมาแป๊บเดียว..เดี๋ยวก็ไปแล้ว” อลินหน้าจ๋อย
ๆ พูดน้ำเสียงตัดพ้อ “เฮ่อ...อุตส่าห์แต่งตัวซะสวย
มาแป๊บเดียะ” พสุเห็นแล้วก็แอบใจอ่อน ทำเป็นเสียงดุแต่เห็นใจ
“บ่น ๆ..บ่นอาไร..แล้วจะให้ผมยืนตรงนี้อีกนานมั้ย ? ตกลงจะเชิญเข้าข้างในหรือเปล่า
?” อลินรีบยิ้มรับ พร้อมกับเปิดประตูให้ “เชิญค่ะ..”
พสุเดินเข้าไปในห้อง ยังพยายามทำหน้านิ่ง ๆ พอพสุเดินเข้าห้องปุ๊บ
อลินก็แอบยิ้มเจ้าเล่ห์..คริคริ..แล้วก็ปิดประตูพสุวางถุงของไว้บนโต๊ะ
แล้วก็หันมา ทางอลินที่ยืนโพสสวยอยู่ “เมื่อกลางวันไปให้สัมภาษณ์อะไรไว้หะ ?
เป็นผู้หญิงยิงเรือ เที่ยวประกาศให้คนอื่นเขารู้ว่าคบกับผู้ชายทั้ง ๆ
ที่ผู้ชายเขายังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ไม่อายหรือไง
?” อลินชะงัก..เซ็งเลย..หยุดโพส แล้วก็เดินหน้าเหวี่ยงมาหาพสุ
“อ้าว..ก็ฉันพูดความจริงนี่ !” “ความจริงอะไร ? คบหาดูใจกับ
ผมเนี่ยนะ ผมยังไม่เห็นรู้เรื่องเลย” “ครูกุ๊กไม่รู้
แต่ฉันรู้ก็แล้วกัน” พสุสะอึก ส่ายหน้า ทั้งขำ
ทั้งขมขื่น “นี่..คุณ
การคบหาดูใจกันมันต้องรับรู้ทั้งสองฝ่ายไม่ใช่โมเมเอาเอง”
ทำเป็นต่อว่าแต่ก็ยิ้มแฉ่ง
“โอเค..งั้นตอนนี้ครูกุ๊กก็รับรู้แล้วนะ.. ถือว่าฉันไม่ได้โมเม”
“นี่คุณลินอย่ามาเจ้าเล่ห์มัดมือชก ผมนะ”
“แหม..ถ้าฉันไม่รู้ว่าครูกุ๊กมีใจ ฉันไม่กล้าทำแบบนี้หรอก”
พสุสะอึก อลินยิ้ม ..คริคริ..พสุส่ายหน้า ยัง..ยังไม่ยอม “คิดไปเอง !!”
อลิน
ชะงักหุบยิ้ม..เซ็งงง พสุอมยิ้มก่อนบอก
“ผมยังยืนยันคำพูดเดิมว่าผมไม่ไว้ใจคุณ
และไม่ได้คิดจะคบกับคุณ..เลิกให้ข่าวว่าคบกับผม ก่อนจะหน้าแตกมากไปกว่านี้..
แล้วก็นี่..” พสุส่งถุงผ้าให้ “น้ำใบบัวบก ดื่มแก้ฟกช้ำ แม่ผม..ฝากมาให้”
พสุบอกแต่ไม่กล้าสบตาอลิน
อลินมองหน้าพสุ.. จริงอ่ะ “ถ้าไม่เชื่อก็โทรฯไปถามเอาเอง” อลิน
หลิ่วตา..ม่ายเชื่อออออนงพะงาคุยโทรศัพท์บ้านกับอลิน มีรอยยิ้มพรายบนใบหน้า
“ดินเขาต้ม แล้วก็กรอง แล้วก็กรอกใส่ขวดไปให้คุณลินเองค่ะ ป้าแค่ยืนดูเฉย ๆ
เขาบอกว่าป้าทำเหรอคะ” อลินยิ้มกริ่ม..ต๊ายยยย.. มีความสุข
“ค่ะ..”
“สงสัยจะเขินน่ะค่ะก็เลยเอาชื่อป้ามาอ้าง..ดินเขาเป็นห่วงคุณลินนะคะ
ตอนดูข่าวคุณ ลินให้สัมภาษณ์เมื่อกลางวันก็ดูไปยิ้มไป”
นงพะงาแอบยุเล็กน้อย อลินยิ้ม แววตาเป็นประกาย “ครูกุ๊กชอบทำ
“ปากแข็ง” เหมือนพระเอกละคร ลินชินแล้วล่ะค่ะ งั้น..ลิน ไม่กวนคุณป้าแล้วนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ..สวัสดีค่ะ”
อลินวางสายไปแล้วก็
กำหมัดดึงเข้าหาตัวอย่างสะใจ “เยส !!
ในที่สุดครูกุ๊กก็แอบใจอ่อนจนได้.. สู้เขาอลิน..
อีกไม่นาน..ครูกุ๊กจะต้องยอมเป็นเจ้าบ่าวของฉัน !!”
อลินประกาศด้วยแววตาวาวเป็นประกาย..เย้ ๆๆนงพะงาวางสายพร้อมรอยยิ้มนิด ๆ ที่มุมปาก
แต่พอหันหลังมาแล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเพราะอ้อนยืนอยู่
อ้อนว่านงพะงาโกหกเพราะเป็นนงพะงาทั้งต้ม ทั้งกรอง ทั้งกรอกใส่ขวดเองกับมือ
แล้วบังคับให้พสุเอาไปให้อลิน นงพะงาทำจุ๊ปากบอกห้ามบอกพสุ อ้อนยิ้ม
“อุ๊ยยย..อ้อนไม่บอกหรอกค่ะถ้าเป็นอ้อน..อ้อนก็ทำแบบคุณนงล่ะค่ะ
เพราะถ้าเราไม่ทำแบบนี้ พระเอกนางเอกคงไม่ได้คืนดีกันแน่ ๆ”
ทั้งนงพะงาและอ้อนขำกันคิกคักพสุขับรถกลับบ้าน แววตาเริ่มสับสนนิด ๆ
จะทำไงดี.. จะทนได้มั้ยเนี่ย ? อลินนั่งอยู่ในบ้าน มองน้ำใบบัวบกอยู่ในมือ
ยิ้มสดใส พสุนึกถึงตอนอลินให้สัมภาษณ์ตอน กลางวัน
“ลินไม่เคยคิดรังเกียจดินแม้แต่นิดเดียว ลินไม่ได้วัดค่าของคนที่ชาติตระกูล
ลินเลือกผู้ชายที่หัวใจไม่ใช่ที่ฐานะหรือหน้าตา
ความดีของดิน..ชนะใจลินได้อย่างขาวสะอาด” พสุเครียด..จะเชื่อดีมั้ย ?
อลินนึกถึงตอนพสุแวะมาหาเมื่อกี้..
และนึกถึงคำพูดของนงพะงาที่พสุลงมือทำน้ำใบบัวบกให้ ด้วยความเป็นห่วงอลินสุด ๆ อลิน
ยิ้มปักใจเต็มเปา ขณะที่พสุถอนใจเบา
ๆ..เฮ่อ..จะทำยังไงดี อลินดื่มน้ำใบบัวบกจนหมด แล้วก็จุ๊บเบา ๆ
ที่แก้ว .. อูยยยย... มีความหวัง !!พสุมาปรึกษาโสภิตาเรื่องอลิน
โสภิตาว่าอลินคงรู้ใจตัวเองแล้วและพยายามทำทุกอย่าง ออกมาอย่างจริงใจ
พสุหน้าตาเป็นกังวลบอกว่าเขาและอลินต่างกันเกินไป
“ตกลง..ตอนนี้ดินไม่ไว้ใจคุณลิน
กลัวว่าเขาจะรับดินไม่ได้หรือดินไม่ไว้ใจตัวเอง
และดูถูกตัวเองกันแน่..มันไม่ใช่เรื่องง่าย..ที่จะได้เจอใครสักคนที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา
และรับมันได้
เมื่อโชคชะตาทำให้ดินได้เจอคนนั้น..
ดินก็ถามตัวเองดี ๆ ว่าจะรับโอกาสนี้ไว้หรือเปล่า ? และถ้าดินคิดจะปฏิเสธ
ก็อย่ากลับมาเสียใจภายหลัง”
พสุนิ่งคิด..ทันใดนั้นประตูร้านก็เปิด พร้อมกับเสียงของอนุชา “ตา..
เซอร์ไพร้ส์” โสภิตากับพสุหันไปตามเสียง เห็นอนุชา
ถือช่อดอกไม้ใหญ่มากเข้ามา กะว่าโสภิตาอยู่คนเดียว
แต่พอเห็นพสุนั่งอยู่ด้วยก็มีอาการเขินเล็กน้อย “เอ่อ..ผม”
“เอ่อ..ผมกำลังจะกลับพอดี ขอบคุณสำหรับกาแฟ..ไปก่อนนะ”
พสุหันไปบอกโสภิตาพยักหน้ารับ..พสุลุกขึ้นหันมาทางอนุชา ก้มหัวให้นิด ๆ เป็นการลา
อนุชาก็ก้มหัวนิด ๆ รับ พสุเดินออกมาจากร้าน
อนุชานิ่งคิดหนึ่งอึดใจก็หันมายัดดอกไม้ใส่มือโสภิตา โสภิตารับไว้งง ๆ
ในจังหวะโสภิตาเผลอนั้นเอง อนุชาก็แอบหอมแก้มโสภิตาหนึ่งที..จุ๊บ !
“ว้ายยยย..คุณเล็ก !!” โสภิตาตกใจ อนุชาไม่ต่อปากต่อคำ รีบเดินตามพสุไป
โสภิตาได้แต่มองตาม..เฮ่อ..คนบ้า..เซี้ยวจริง ๆอนุชารีบวิ่งตามพสุออกมาหน้าร้าน
พสุชะงักเท้าหันมา ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน
อนุชาขอบคุณที่พสุช่วยดูแลโสภิตาและปูเป้เป็นอย่างดี
และขอโทษที่เคยเข้าใจผิดเรื่องพสุกับโสภิตา
พสุยิ้มให้และแสดงความดีใจที่อนุชาและโสภิตาปรับความเข้าใจกันได้
อนุชายิ้มนิด ๆ..รับ แล้วก็ตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ในใจ
“ผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่อยากจะบอกคุณ...เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้”
พสุขมวดคิ้วนิด ๆ รอฟัง อนุชายิ้มและพูดออกมาจากใจจริง
“ที่ผ่านมา..คุณลินไม่เคยรักผมเลย..ไม่ว่าคุณลินจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม..คนที่คุณลินรัก..และไว้วางใจมาตลอด..มีเพียงคนเดียว....”
อนุชายิ้มนิด ๆ ไม่พูดต่อ ทิ้งไว้ให้ดินคิดเอาเอง..
พสุคิดพอมองไปข้างหน้าก็ต้องอึ้ง
เพราะเขายืนอยู่หน้าร้านซึ่งเป็นกระจกบานใหญ่ ภาพตัวเขาเองยืนเด่นอยู่ในกระจกนั้น
เป็นคำตอบที่อนุชาต้องการจะบอก..พสุค่อย ๆ คลาย
ปมคิ้วออก..มองตัวเองในกระจก..อืมม์...
เอาไงต่อดี..อนุชาเดินเข้ามาในร้าน โสภิตาลาก กระเป๋ามาวางไว้ให้
อนุชายิ้มแฉ่งถามถึงปูเป้ โสภิตาว่าหลับไปแล้ว
“งั้นตอนนี้ก็เหลือแค่เราสองคน แล้วสิ..” โสภิตายิ้มนิด ๆ
รู้ทัน ก่อนจะบอกให้แยกย้ายกันไปนอน อนุชาชะงัก
โสภิตายิ้มเจ้าเล่ห์บอกจะขึ้นไปนอนกับลูก และอนุชาต้องไปนอนในครัว
“ไม่นะ !! ผมไม่นอนในครัวเด็ดขาด !! ตอนนี้คุณลินเขาก็ไม่อยู่แล้ว
ตาไม่ต้องทำตามที่เขาบอกก็ได้ ถึงผมไม่ได้นอนในครัวเขาก็ไม่รู้หรอก ..”
“ตาไม่ได้ทำเพราะเชื่อคุณลิน แต่ทำเพราะอยากทำ !
ถ้าคุณเล็กทนนอนในห้องครัวไม่ได้ ก็คงต้องเชิญไปนอนโรงแรม”
โสภิตาพูดจบก็หันหน้าหนีจะเดินขึ้นบ้านไป
อนุชารีบคว้าข้อมือไว้แล้วออดอ้อน
“โธ่ตา..อย่าใจร้ายแบบนี้สิครับ..
ผมอุตส่าห์ขัดใจแม่หอบผ้าหอบผ่อนมานอนกับคุณ คุณจะผลักไสผมไปนอนที่อื่นได้ลงคอจริง
ๆ เหรอ ?” โสภิตาหันมาเอามือออก แล้วตอบ นิ่ง ๆ “จริง !!”
โสภิตาหันหลังให้อนุชา แล้วก็เดินขึ้นบ้านไป..
“ตาฟังผมก่อน..ตา..ตาอย่าเพิ่งไป..ตา” อนุชามองตาเดินไปแล้วก็ถอนใจเบา
ๆ..เฮ่อ..วายุดูข่าวบันเทิงเกี่ยวกับอลินและ พสุ
ต่อมอิจฉาและอยากเอาชนะปรี๊ดขึ้นทันที “ซูเปอร์สตาร์กับพ่อครัว ถุย!!
ไอ้หมามองเครื่องบิน แกไม่มีทางจะได้สมหวังหรอกเว้ย ฉันคนนึง..ไม่มีวันยอม!”
วายุประกาศกร้าวววว.. ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
วายุหยิบมาดูเป็นเบอร์ไม่คุ้น วายุคิดแล้วก็กดรับ “ถ้าวางมึงตาย
!” เสียงนักเลงดังขึ้น วายุชะงักกึก..ตาล่อกแล่ก..ความกลัวคุกคาม
วายุบอกให้รอก่อนเพราะยังไม่พร้อมเรื่องเงิน นักเลงบอกเจ้านายไม่ชอบรอ
“ถ้าพรุ่งนี้มึงไม่รีบเอาเงินมาคืน.. ผู้หญิงที่อยู่ในรูป.. โดนแน่
!!” “ใคร ? ผู้หญิงคนไหน ? โดนอะไร...” วายุพยายามถาม
แต่สายก็ตัดไปก่อน ทันใดนั้นก็มีเสียงข้อความเข้ามาดังขึ้น ตื๊ด ๆ วายุชะงัก
รีบหยิบมาเปิดดู แล้วก็อึ้ง !!
เป็นรูปหมิงกำลังเต้นรำอยู่ในผับโชว์ขึ้นมา...วายุมาตามหมิงในผับบอกให้กลับบ้าน
หมิงโกรธที่วายุมาขัดความสุขกับเพื่อน ๆ วายุว่าอยากอยู่ให้พวกมันฆ่าก็ตามใจ
หมิง สงสัยว่าวายุพูดถึงอะไร แต่ยังไม่ทันถามต่อ
ก็มีมือหนาหยาบกร้านมาปิดลงที่ปากหมิง หมับ !! หมิงตกใจเฮือกกกกกก วายุตกใจ
ตาเหลือก พุ่งเข้าไปช่วย
แต่ทันใดนั้นเองก็มีปืนมาจ่อที่หัววายุ..พร้อมกับขึ้นไก..กริ๊กกกกก
วายุชะงักกึก หน้าซีด เหงื่อแตกพลั่ก....ค่อย ๆ
ปรายตาไปเห็นปืนที่กำลังจ่ออยู่ที่ขมับ..วายุหัวใจแทบจะหยุดเต้น หมิง
ยืนตัวแข็งทื่อ ตาเหลือก เลิ่กลั่ก กับภาพที่อยู่ข้างหน้า
และใครก็ไม่รู้ที่ปิดปากอยู่ข้างหลัง..หมิงอยากจะกรี๊ดดดดดด เหมือนในละคร
แต่ก็ทำไม่ด้ายยยยยยย
นักเลงที่เอาปืนมาจ่อหัววายุพร้อมขู่ให้วายุหาเงินมาคืน ถ้าไม่เอามาคืนทั้งรถ
ทั้งบ้านเละแน่ แต่ถ้าหนีหมิงและญาติพี่น้องวายุจะต้องเดือดร้อนแน่
ก่อนจะไปนักเลงอัดวายุซะสองสามทีจนทรุดลงไปกอง และผลักหมิงลงไปทับวายุ
หมิงยันตัวขึ้นได้รีบหันขวับมาโวยกับวายุทันที “ลม !!
บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น !!!”วายุและหมิงกลับมาบ้านที่บริบรรณ
ในขณะที่เดินผ่านห้องแม่ใหญ่หมิงบังเอิญได้ยินนงพะงาและแม่ใหญ่คุยกัน
เรื่องเมฆากับอี่บ่นว่าเงินไม่พอจ่ายค่าเทอมลูกเพราะเอาไปให้วายุยืม
เลยอยากให้รีบเปิดพินัยกรรม แต่ก็ยังเปิดไม่ได้เพราะต้องให้แม่ใหญ่สิ้นลมเสียก่อน
อ้อนว่าถ้าเปิดพินัยกรรมก็ดี พสุจะได้มีสมบัติและไม่ถูกกล่าวหาว่าไม่คู่ควรกับอลิน
หมิงมาปรึกษาวายุให้รีบขอให้นภาเปิดพินัยกรรม
วายุว่าทำไม่ได้เพราะแม่ใหญ่ยังไม่ตาย หมิงร้อนใจบอกรอให้แม่ใหญ่สิ้นลมพอดีตายก่อน
เพราะนักเลงก็ทวงทุกวัน แถมลูกคนใช้อย่างพสุยังจะได้แต่งงานกับอลิน
หากวายุไม่อยากให้คนอื่นรู้ข่าวความตกต่ำของตัวเองก็ให้รีบหาเงินมาเคลียร์ด่วน
วายุเครียดเพราะถูกกดดันอย่างหนักวายุคิดหนัก
และคืนนั้นก็ตัดสินใจย่องเข้ามาในห้องแม่ใหญ่ที่นอนหายใจรวยริน ไม่ไหวติง
วายุยืนอยู่ริมเตียง แววตาสั่นระริกไม่มีทางออก และในวูบต่อมานั้นเอง
วายุก็หยิบหมอนที่วางอยู่ข้าง ๆ ค่อยยกขึ้น แล้วปิดทับใบหน้าของแม่ใหญ่
วายุเบือนหน้าหนี
แล้วกดย้ำลงไปอีกครั้ง..จนแน่ใจว่าร่างที่อยู่ใต้หมอนสิ้นลมหายใจแล้วจึงค่อย ๆ
เอาหมอนออก วายุหน้าซีด มือสั่น ใจเต้นรัว วายุรีบวางหมอนกลับเข้าที่เดิม
แล้ววิ่งออกจากห้องหายไปในความมืดทิ้งร่างไร้ลมหายใจของแม่ใหญ่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
วายุวิ่งพรวดพราดออกมาจากบ้าน ใจยังสั่น หน้าซีด เหงื่อซึม ชะงักเท้านิด ๆ
ด้วยความรู้สึกผิด..ลังเลว่าจะบอกคนอื่นดีมั้ย..แต่แล้วก็ตัดสินใจหันหลังแล้วรีบเดินมาที่รถ
และขับออกไปอย่างเร็วเช้าวันรุ่งขึ้น นงพะงาเข้าไปเห็นแม่ใหญ่
สิ้นลมก็จะรีบไปบอกนภา พอดีเจอเข้ากับวาริน
วารินเห็นสภาพแม่ใหญ่ที่ใบหน้าบูดเบี้ยวนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง..วารินช็อกอลินเชิดหน้าพร้อมรอยยิ้มของผู้ชนะ
“ฉันมีข่าวดีจะบอกนาย !! เมื่อวานครูกุ๊กแวะมาหาฉันด้วยความเป็นห่วง
พร้อมกับน้ำใบบัวบกที่ทำเองกับมือ” ปฏิคมหน้านิ่ง..แอบกลุ้มเล็ก
ๆ ไม่ได้ตื่นเต้นไปด้วยแม้นิดเดียว !! แต่อลินไม่ทันสังเกตยังโม้ต่อ
“แสดงว่าครูกุ๊กเริ่มใจอ่อนแล้ว อีกไม่นานฉันกับครูกุ๊กก็คงจะได้ลงเอยกัน..
ที่ฉันเรียกนายมาวันนี้ก็เพื่อจะสั่งให้นายไปเตรียมงานแต่งงานให้ฉันกับครูกุ๊กล่วงหน้าได้เลย
จะได้ไม่ต้องเสียเวลา” หะ !!
ปฏิคมหันขวับมาทางอลิน “เตรียมงานแต่งงานคุณลินกับไอ้ดิน
!!” “ใช่ !
แหม..ไม่ต้องทำเป็นช็อกหรอกน่า...ฉันรู้..ตื่นเต้นกับข่าวดีของฉันล่ะสิ....”
โหนเสียงสูง พร้อมกับยิ้มเข้าข้างตัวเอง
“เอ่อ..คุณลินจบข่าวดีแล้วใช่มั้ยครับ..
งั้นฟังข่าวร้ายของผมต่อนะครับ” “ข่าวร้ายอะไร ?”
อลินชักสีหน้า
“เมื่อเช้าคุณแม่ใหญ่..ภรรยาคนแรกของคุณพ่อไอ้ดินเพิ่งจะเสียชีวิต
หลังจากที่นอนเป็นอัมพาตมา 2 ปีกว่า..ผมคิดว่ามันคง
ไม่มีเวลาว่างงงงงง...มาจัด “งานแต่งงาน” กับ คุณลินแน่ ๆ
ครับ..เพราะมันจะต้องเอาเวลาที่ มีไปเตรียม “งานศพ”
อลินผงะ..โห..แร้งงงงงง !!

จบตอนที่ 22

สูตรเสน่หาตอนที่ 23

นภายืนน้ำตาคลอ ๆ มองดูร่างไร้วิญญาณของแม่ วารินยืนอยู่ข้าง ๆ อีกด้านเป็นอี่
นงพะงาและพสุยืนห่างออกไป นภามองไม่เห็นวายุ จึงถามถึง วารินบอกไม่ทราบ มือถือก็ปิด
นภาว่าให้รีบติดต่อวายุเพราะบ่ายนี้จะให้ทนายมาเปิดพินัยกรรม วาริน และอี่หูผึ่ง
เมฆาก็ตื่นเต้นนิด ๆ พสุไม่ได้สนใจมากนัก ทั้งวารินกับอี่สามัคคีกันขึ้นมากะทันหัน
กุลีกุจอรีบออกไปติดต่อหาลม นภาบอกให้เมฆาติดต่อโรงพยาบาลเรื่องรับศพแม่ใหญ่
ก่อนจะหันมาบอกพสุให้จองวัดและจัดอาหารเลี้ยงแขกที่จะมาในงาน และขอ
ให้นงพะงาอยู่ก่อนเพราะตำรวจกำลังมา
พสุแปลกใจว่าทำไมถึงมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง
“คุณแม่เสียในบ้านตำรวจต้องมาชันสูตร ศพ
ถึงจะออกใบมรณบัตรให้ได้” “แล้วทำไมแม่ต้องอยู่”
“แม่เป็นคนแรกที่พบศพคุณนายใหญ่จ้ะ...” นงพะงาตอบซื่อ แต่พสุรู้สึกแปลก
ๆ ชอบกล วารินโทรฯมาหาหมิงและบอกให้แจ้งวายุด้วยเรื่องแม่ใหญ่ตายแล้ว
วายุนิ่ง..อึ้ง.. สภาวะใจสั่น..กลับคืนมาอีกครั้ง..ยังทำใจไม่ค่อยได้
หมิงเห็นวายุหน้าซีด ๆ ก็ถาม วายุรีบบอกไม่เป็นอะไรแค่ตกใจ
หมิงว่าบังเอิญมากที่เพิ่งจะพูดเรื่องแม่ใหญ่เมื่อวาน แต่วันนี้ตายเสียแล้ว
วายุไม่มีอารมณ์จะคุยเดินหนีไปเลย หมิงงง ๆ
ว่าวายุเป็นอะไรพสุเดินมาที่บ้านแต่ก็ต้องชะงักเท้ากึก
เพราะอลินยืนรออยู่ในชุดดำอย่างเท่ ! อลินยิ้มให้พสุ
พสุไม่ยิ้มด้วย “วันนี้ผมไม่มีเวลามาดูคุณเล่นละคร หรือวางแผนหลอกใช้คนอื่น
ถ้าจะมาทำอะไรไร้สาระก็กลับไปได้เลย” พสุจะเดินเข้าบ้าน
อลินรีบเดินมาดัก “เดี๋ยวสิ..
ฉันไม่ได้จะมาทำอย่างที่คุณบอกสักหน่อย แต่ที่มาเพราะฉันเป็นห่วง !!
แล้วก็อยากจะมาช่วย ไม่เห็นเหรอว่าฉันแต่งชุดดำมาอย่างเรียบร้อย
ตั้งใจจะมาแบ่งเบาภาระไม่ได้จะมาสร้างภาระสักหน่อย ไม่ยอมถามก็ไล่ซะแล้ว”
น้ำเสียงแอบตัดพ้อ พสุแอบรู้สึกผิดนิด ๆ แต่ก็ยังเก๊ก
“ก็ผมไม่ได้ขอร้องให้มาช่วย อยากมาเอง..โดนไล่ก็ช่วยไม่ได้” แน้..พสุไม่สน
แล้วก็เดินเข้าบ้านไป..อลิน ชักสีหน้านิดนึง เกือบจะถอดใจวีน
แต่ก็ระงับไว้แล้วก็หันมาจะตะโกนเรียก แต่ได้ยินเสียงนภาเรียกพสุเช่นกัน
อลินชะงักนภามองหน้าอลินแล้วสงสัยนิดนึง พสุหันมา
อลินมองหน้านภาด้วยความฉลาดก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นคนสำคัญในบ้านนี้แน่ ๆ
อลินยกมือไหว้อย่างสวยงาม พร้อมแนะนำตัวอย่างไม่เขิน
“ลินเป็น...” อลินกำลังจะแนะนำตัว พสุรีบแทรก “อดีตลูกศิษย์ของผมครับ..
คุณฟ้ามาหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ” อลินชะงักนิด ๆ แอบทำปากพึมพำ
นภามาบอกให้พสุไปร่วมฟังการเปิดพินัยกรรม
พสุไม่อยากไปเลยบอกว่าจะต้องเตรียมเรื่องจองวัดและอาหารตามที่นภาบอก
อลินจึงรีบขันอาสาว่าจะทำให้ พสุจะแย้ง
แต่อลินก็รีบพูดขึ้นว่าหากนภาไม่รังเกียจพร้อมจะทำอย่างเต็มที่
นภาบอกพสุว่าไม่ต้องห่วงเรื่องงานศพแล้ว ให้ไปร่วมฟังการเปิดพินัยกรรมได้
ก่อนจะหันมาทางอลิน “ขอบใจมากนะที่ช่วย ..
แล้วก็..ขอบใจสำหรับการสัมภาษณ์เรื่องน้านงกับดิน..
ขอบใจที่เธอไม่รังเกียจน้องชายของฉัน” ตึ่งงงงงง !!
นภาแอบทิ้งหางตามาที่พสุอย่างรู้ใจ..พสุอึ้งไป อลินยิ้มหน้าบานแฉ่งงงงง
!! นภาเดินไป อลินหันมาทางพสุ พสุหันหน้า หนีซ่อนความเขิน
อลินเอาไหล่มาชนไหล่พสุ “นี่..พี่คุณพูดอะไร ได้ยินบ้างป่ะ ใคร ๆ
เขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าฉันแสนดียังไง มัวแต่เล่นตัวอยู่ได้ นี่..
เลิกงอนได้แล้ว” อลินเอาไหล่มาชนอีกที พสุเอามือยันหัวอลินออกไปจากไหล่ อลินร้อง
“โอ๊ยย !!”
“พี่ฟ้าเขาไม่รู้จักคุณดีพอ..ถ้าเขารู้เท่าที่ผมรู้ เขาจะไม่พูดแบบนั้น..
แล้วที่รับปากว่าจะช่วยงาน ก็ทำให้ได้ตามที่พูดไว้ .. โดยไม่ต้องใช้คนอื่น
โดยเฉพาะไอ้คม !! ถ้าผมรู้ว่าคุณไม่ได้ทำด้วยตัวเอง
ก็อย่าหวังเลยว่าผมจะยกโทษให้คุณ !!” พสุข่มขู่ ก่อนเดินตามนภาไป
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า..คนอย่างอลิน.. พูดคำไหนคำนั้น ฉันบอกว่าจะทำ
ฉันก็ต้องทำเอง !!” อลินประกาศกร้าว ที่ร้านอาหาร
อลินมาบอกให้ปฏิคมจัดการเรื่องงานศพแม่ใหญ่ ปฏิคมถึงกับอ้าปากค้าง เห็นข้าวเต็มปาก
อลินร่ายยาวเป็นชุดให้จัดการโน่นนี่ ปฏิคมถามว่าอลินไปเกี่ยวอะไรด้วย
อลินบอกไม่ต้องถามและห้ามปฏิคมบอกพสุด้วยว่าเธอมาใช้ให้ปฏิคมทำ
ตบท้ายด้วยการขู่ว่าหากไม่ทำจะให้อนันต์ยึดบริษัทปฏิคมคืน ...แน้
“คุณลินหาเรื่องให้ผมอีกแล้ว.. เฮ่อ..
แล้วที่คุณลินมาเต้นแร้งเต้นกาจัดงานศพแบบนี้
คนที่บ้านนั้นเขาไม่งงเหรอครับว่าคุณลินเป็น ใครถึงได้เข้าไป “ยุ่ง” เอ่อ..เข้าไป
“ช่วยยยย” แบบนี้” “เขาจะงงทำไม ใคร ๆ
ก็รู้ว่าฉันมาช่วยในฐานะ
“ว่าที่แฟนครูกุ๊ก”..อีกอย่างไม่มีใครเขาว่างมาจัดการงานศพหรอก ป่านนี้คงจะ
สนใจแต่เรื่องเปิดพินัยกรรม” ปฏิคมชะงักนิด ๆ
“เปิดพินัยกรรม”เจ้าหน้าที่กำลังเก็บศพแม่ใหญ่ ส่วน
ตำรวจก็กำลังเคลียร์เรื่องสถานที่ วายุค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องอย่างช้า ๆ
แววตาสั่นระริก.. มาหยุดอยู่ข้างเตียง..มองศพที่นอนนิ่งอยู่เบื้องหน้า น้ำตาคลอ
ด้วยความสำนึกผิด.. นภาเรียก วายุถึงกับสะดุ้ง
“ทุกคนพร้อมแล้ว... จะได้เปิดพินัยกรรมกันสักที” “ครับ
....” แววตาที่สั่นระริกของวายุฉายแววความหวังจาง ๆ ขึ้นมาทันที..
นภาพยักหน้ารับ แล้วก็เดินนำออก ไปจากห้อง วายุหันมามองศพแม่ใหญ่อีกที
เหมือนจะขอโทษผ่านทางสายตาก่อนจะตัดใจ
หันหลังให้แล้วเดินตามนภาออกไป...พี่น้องทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง
นภาซึ่งนั่งเป็นประธานอยู่บอกให้ทนายประสงค์ซึ่งยืนอยู่หลังตนเอง
เปิดพินัยกรรมออกอ่านได้ประสงค์เดินขยับเข้ามาใกล้ ๆ และเริ่มเปิดพินัยกรรมอ่าน
ทุกคนดูตื่นเต้นสุด ๆ มีเพียงพสุเท่านั้นที่หน้านิ่งเรียบ ไม่ได้มีความหวังใด ๆ
“พินัยกรรมของคุณพจน์ บริบรรณ ระบุไว้ดังนี้.. นางนงพะงา
บริบรรณ ถ้าในวันที่อ่านพินัยกรรมฉบับนี้นางนงพะงายังไม่ได้สมรสใหม่
และยังอาศัยอยู่ในเขตบ้านที่แบ่งไว้ให้ นางนงพะงาจะได้สิทธิในที่ดินอีกสองแปลงคือ
ที่ดินที่รังสิตเนื้อที่สิบไร่ และที่ดินที่ระยองเนื้อที่กว่าห้าสิบเก้าไร่
และอนุญาตให้ย้ายออกจากบ้านได้
โดยมีข้อแม้ว่าต้องขายที่ดินในเขตบ้านบริบรรณคืนแก่กงสีในราคาสิบล้านบาท”
นงพะงาหน้าตาตกใจกับสิ่งที่ได้รับ พสุแปลกใจไม่น้อยไปกว่ากัน
วายุกัดฟันกรอด..เสีย ดายทั้งเงินและที่ วารินเชิดหน้านิด ๆ เคือง
“สำหรับลูกชายทั้งสามคน คือ นายเมฆา นายวายุ และนายพสุ จะได้รับเงินสดคนละ 30
ล้านบาท อี่ถึงกับตาโตวาว..เมฆายิ้มนิด ๆ พอใจ แล้ว
ในขณะที่วายุนั่งนิ่งเครียด.. ปรายตาจิกมาทางพสุด้วยความขัดใจ พสุกำลังยืนอึ้ง ๆ..
มึน ๆ เหมือนฝัน ๆ และไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นความจริง
นงพะงามองหน้าพสุยิ้มนิด ๆ ไม่น่าเกลียด แต่วารินไม่พอใจอย่างแรง ใจเต้นตึก ๆๆๆ
“นางสาวนภา บริบรรณ จะได้รับเงินสดยี่สิบล้านบาท
หุ้นที่ครอบครัวลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นของบริษัท และรายได้จากการให้เช่า
อสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ให้เป็นสิทธิขาดของนางสาวนภา
ไม่ต้องเข้ากองกลางอีกต่อไป” นภาพยักหน้ารับรู้ วารินตื่นเต้นสุด
ๆ “นางสาววาริน บริบรรณ ได้รับเงินสดสิบล้านบาท และที่ดิน 1
ไร่ที่หนองจอก นอกจากนี้ยังมีตึกแถวสี่ชั้นสามคูหาที่สีลม
ต่อจากนี้ไปให้นายพสุถือครองสิทธิแต่เพียงผู้เดียวไม่ต้องเก็บค่าเช่าเข้ากงสีอีกต่อไป
!!” หะ ? พสุอึ้ง..ตกใจ .. วารินหุบยิ้มชักสีหน้า ลุกพรวด
โพล่งขึ้นมาทันที “อะไรกัน !! ค่าเช่าตึกเดือนตั้งหลายแสนทำไมเป็นของดินคนเดียว
อ่านผิดหรือเปล่า?” พสุชะงักกึก ประสงค์ก้มดูอีกที “ไม่ผิดครับ
.. คุณท่านเขียนไว้แบบนี้จริง ๆ แต่..”
“ไม่จริง...ฉันไม่เชื่อ..” วารินแว้ดขึ้น นภาแย้งขึ้นเสียงดุ
“น้ำ..เงียบแล้วนั่งลงได้แล้ว นั่งลง !!”
วารินจำใจต้องนั่งลงอย่างกระฟัดกระเฟียด ไม่พอใจอย่างแรง
นภาหันมาทางประสงค์พยักหน้า ให้อ่านต่อ
“แต่..คุณท่านระบุไว้ว่า.. คุณพสุจะได้สิทธิ
ในตึกแถวก็ต่อเมื่อแต่งงานมีครอบครัวและย้ายออกไปพร้อมกับสละสิทธิในการรับเงินกงสีจากครอบครัวเท่านั้น
!!” พสุสะอึกนิด ๆ เมื่อได้ยินคำว่าแต่งงาน มีครอบครัว..เขิน ๆ
แปลก ๆ แต่วารินก็ยังเคืองอยู่ดี ทนายปิดพินัยกรรม และพูดปิดท้าย
“พินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวเขียนไว้มีเพียงเท่านี้
ใครมีข้อสงสัยหรือเปล่าครับ” “มี ! เงิน 30
ล้านของฉันจะได้เมื่อ ไหร่ ??” วายุโพล่งขึ้น !!
ประสงค์หันมาทางนภา หลบ ๆ ตาเหมือนไม่กล้าพูด นภากับทนายรู้กัน
นภาจึงหันมาตอบแทน
“เรื่องเงินของลม..พี่ขอคุยอีกที..เป็นการส่วนตัว !!”
วายุชะงักกึก !! นภาเรียกวายุมาพบในห้องทำงาน และยื่น
เอกสารที่มีลายเซ็นวายุเอาเงินกงสีไปทำธุรกิจในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
วายุไม่พอใจหยิบเอกสารมาดู
แต่ยิ่งเปิดเอกสารก็เถียงไม่ออกเพราะมีลายเซ็นตนเองกำกับทุกใบ
วายุโยนเอกสารไว้บนโต๊ะ และบอกว่าไม่เกี่ยวกับเงินมรดกที่จะได้
นภาบอกเกี่ยวเพราะทุกคนที่วายุยืมก็บอกว่าเปิดพินัยกรรมแล้ว จะใช้คืน
เป็นเงินทั้งหมด 25 ล้าน และนภาจะให้ทนายความโอนเงินของวายุเข้าบัญชีให้
“5 ล้าน !! ไม่นะพี่ฟ้า..แค่ 5 ล้านไม่ได้..
ผมต้องการมากกว่านั้น !!” วายุหน้าเสีย นภาเริ่มรู้สึกผิดสังเกต
“เงิน 5 ล้านไม่ใช่น้อยนะ ทำไมยังไม่พออีก ลมมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
วายุเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยรีบหลบหน้า แล้วก็ตัดบท ตามประสาวัวสันหลังหวะ
โดยบอกว่าไม่มีปัญหาเพียงแต่รู้ว่าเขาควรจะได้
มากกว่าพสุซึ่งเป็นลูกคนใช้ วายุประกาศกร้าว
อย่างไม่พอใจใส่หน้านภา...แล้วเอามือปัดเอกสารยืมเงินก่อนจะเดินออกไปด้วยความโกรธอย่างแรง
นภาได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเอือม แล้วก็คิดถึงพสุพสุหยิบเอกสารชี้แจงพินัยกรรมมาดู
นภาเดินเข้ามาหาพร้อมกับถามว่ามีปัญหากับข้อความในพินัยกรรมหรือเปล่า
พสุหันมาบอกไม่มีแต่พ่อให้เขามากเกินไป นภายิ้ม ๆ
กับท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัวของพสุที่เธอเห็นมาตั้งแต่ เด็ก
และว่าไม่มากเกินไปเพราะพสุก็เป็นลูกคนหนึ่งเหมือนกัน
“ผมขอโทษที่เคยเข้าใจคุณฟ้าผิด แล้วผมขอบคุณที่เมตตาผมกับแม่” พสุยกมือ
ไหว้พี่สาว “สำหรับพี่ น้องทุกคน
ไม่ว่าจะมาจากแม่คนไหนก็คือน้อง... แล้วเรื่องตึกแถวที่สีลม..
พี่จะให้คุณประสงค์จัดการโอนเป็นทรัพย์สินของดินทันทีที่ดินแต่งงาน !!”
“เอ่อ..คือ..ผมยังไม่คิดเรื่องนั้น” พสุหลบตาอาย ๆ
“คิดบ้างก็ดีนะ..อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว.. และตอนนี้ดินเองก็พร้อมทุกอย่าง
ไม่ว่าคนนอกจะมองดินว่าเป็นใคร..แต่ดินอย่าลืมฐานะที่แท้จริงของตัวเอง
ดินไม่ได้ต่ำต้อยอย่างที่เป็นข่าว ..
ขนาดผู้หญิงเขายังไม่ดูถูกเรา..เราก็ต้องไม่ดูถูกตัวเอง ..” นภายิ้ม แล้วเดินมาใกล้
“ผู้หญิงอย่างอลิน..หาไม่ได้ง่าย ๆ นะ” นภายิ้มนิด ๆ บอกเป็นนัย
ๆ แล้วเอื้อมมาหยิบเอกสารพินัยกรรม ก่อนจะเดินออกไป
ทิ้งให้พสุยืนอยู่กลางบ้านที่ใหญ่โตหรูหรา วูบนั้นเองที่พสุคิดถึงอลิน ..
“ผู้หญิงที่หาไม่ได้ง่าย ๆ”อลินนั่งอยู่ในศาลาวัด กำลังโบ๊ะหน้า อยู่
กรีดกรายราวกับคุณนาย
ด้านหน้าอลินเห็นปฏิคมยืนสั่งงานทีมงานจัดตกแต่งศาลาวัดอย่างขะมักเขม้น เหงื่อชุ่ม
หัวยุ่ง เสื้อผ้ามอมแมม หลุดลุ่ย หัวหน้ากรรมกรชัด ๆ
ทีมงานถามปฏิคมเรื่องข้อความที่จะเขียนป้ายหน้าศาลา ปฏิคมบอกขอถามเจ้าภาพก่อน
หันไปมองอลิน ที่กำลังนั่งเป็นนางพญาอยู่ก็เลยแขวะเข้าให้ว่า
อลินเหนื่อยไหมในฐานะแม่งาน
อลินหันมาบอกทั้งเหนื่อยและร้อน
“เมื่อไหร่นายจะเตรียมสถานที่เรียบร้อยสักที
เดี๋ยวครูกุ๊กกับแม่มาฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน รับปากว่าจะทำอย่างดิบดี
แต่นี่ไม่มีอะไรเรียบร้อยสักอย่าง
ความน่าเชื่อถือในการจะเป็นลูกสะใภ้ของฉันป่นปี้กันพอดี !!”
“โห.. ผมแค่ประชดขำ ๆ
นี่คุณลินด่าได้จริงจังมากเลย...คอยดูนะ..ถ้าไอ้ดินมาผมจะฟ้อง..บอกว่าคุณลินใช้งานผมเยี่ยงทาส
รับอาสา แต่ไม่ยอมทำงานเอง !” อลินเท้าสะเอว “เอาซี้ !
ถ้านายไม่กลัวภาพที่ฉันจับนายแต่งหญิงตอนเป็นเด็ก ๆ ถูกโพสต์ในไฮไฟ
และเฟซบุ๊ก ให้ชาวบ้านเอาไปนินทาว่านายเป็นตุ๊ด ! ก็ลองฟ้องดู !!”
“คุณลิน..” “นี่ไม่ต้องมาทำหน้าช็อก !
อย่าคิดนะว่าฉันจะไม่กล้าทำ..” อลินเชิดหน้า
“ปล่ะ..เปล่า..แต่..คุณลิน..ไอ้ดิน..มา” หะ ? ..
อลินหันขวับไป เห็นพสุ กำลังเดินมา จึงรีบดันปฏิคมไปอยู่ใต้โต๊ะ และ
เอาผ้ามาคลุมไว้ อลินยัดปฏิคมเข้าที่ซ่อน เรียบร้อยแล้วก็รีบวิ่งมาที่กระเป๋าสะพาย
หยิบสเปรย์น้ำแร่หรูมาฉีดใส่หน้า ทำเป็นเหงื่อออก
จากนั้นก็ขยี้ผมให้ยุ่งนิด ๆ และหันรีหันขวางหยิบสมุดโน้ตออกมา
พร้อมกับปากกาแล้วทำเป็นเก๊กสั่งงานอย่างทะมัดทะแมง “เอ่อ..
พวงหรีดตรงนั้นน่ะขยับขึ้นสูงหน่อย ใช่ ๆ อันนั้นแหละ ส่วนโต๊ะก็ตั้งตรงนี้
เก้าอี้ชุดนั้นมาวางตรงนี้เลย..ส่วนอันนั้นก็ยกลงไป..เร็ว ๆ ด้วย..”
เจ้าหน้าที่หันมาแล้วก็ขยับตามงง ๆ พสุเดินมาหยุดยืนหลังอลิน
อลินยังเก๊กทำงานอย่างหน้าไม่อาย พสุมองแล้วคิดถึงคำพูดของนภา แววตาพสุแอบอ่อนลง
“รีบ ๆ ทำกันหน่อยนะคะ งานจะเริ่มแล้ว
ฉันไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด..เฮ่อ...” ทำเป็นปาดเหงื่อเพื่อให้สมจริง
อลินหันมาทำเป็นแปลกใจนิด ๆ ที่เห็นพสุ
พสุรีบเก๊กสายตาไม่เผยความหวั่นไหว
“อุ๊ยย์...ครูกุ๊ก...ทำไมมาเงียบ ๆ ตกใจหมดเลย..” อลินยิ้มแอ๊บตกใจซะเนียน
ปฏิคม ถึงกับส่ายหน้า..เฮ่อ..มายาจริง ๆพสุพยายามจะเก๊กถามว่าเตรียมงาน
ถึงไหนแล้ว แต่แววตาก็แสดงถึงความห่วงใย
อลินยิ้มแฉ่งบอกเกือบเรียบร้อยแล้ว และแอบปาดเหงื่ออีกทีเรียกความสงสาร
พร้อมกับบอกว่าต้องเตรียมอะไรบ้างที่ยังไม่เสร็จ ก่อนจะจบท้ายว่าเหนื่อยจริง ๆ
อลินหวังจะให้พสุเห็นใจ แต่ “ลำบากมากนักกลับบ้านไปก็ได้นะ
เดี๋ยวผมทำต่อเอง” ป่อยยยย..อลินหน้ามึน..ไปไม่เป็นเลย..อลิน สะอึก
ปฏิคมจะหลุดขำนึกได้รีบเอามือปิดปาก...ครึครึ !! สะใจว่ะเพื่อน
อลินแอบน้อยใจลึก ๆ แต่ก็ไม่กล้าโกรธ “ไม่ได้จะบอกว่าลำบากก็แค่เล่าสู่กันฟัง
.. ทำเป็นไล่ไปได้” “ไม่ได้ไล่ ก็เห็นบอกว่าเหนื่อย”
พสุเห็นแล้วก็แอบใจอ่อน อลินหันมาหลิ่วตา “เอ๊ะ...หรือว่า..จริง ๆ
แล้วพูดเพราะเป็นห่วงล่ะซิ..” “อาไร ๆ ใครเป็นห่วง คิดไปเอง !!”
พสุเขินท่าทางปิดไม่มิด “เชอะ..ปากแข็ง !!”
“แล้วนี่..ตั้งแต่เช้าทำอยู่คนเดียว เหรอ ?”
พสุมองซ้ายมองขวาไม่ค่อยเชื่อใจ “คนเดียวววววว !!!
ก็ฉันรับปากครูกุ๊กไว้แล้วว่าจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ฉันก็ต้องทำตามที่พูดไว้
ฉันเป็นคนรักษาคำพูด..คำไหน..คำนั้น” พสุมองอลิน..ซึ้งใจ
ปฏิคมกรอกตา เอาหัวโขกพื้น..เครียดดดดดดด !!
อลินปาดเหงื่ออีกทีสมบทบาท...พสุมองหน้าอลินแล้วก็ตัดสินใจพูดขึ้น
“วันนี้ที่เปิดพินัยกรรม.” “ค่ะ.. “อลินลุ้น ๆ
“ผมได้..” พสุยังพูดไม่จบ
เจ้าหน้าที่ก็เดินเข้ามาหาอลินแล้วก็ถามขึ้นว่าผู้ชายที่คอยสั่งงานตั้งแต่เช้าหายไปไหน!!
หะ ? อลิน หน้าเสีย พสุชะงักหยุดพูด หันมาทางอลิน แววตาเต็มไปด้วยคำถาม
ปฏิคมสะอึก..หน้า เหวอ..เอาไงดี พสุมองหน้าอลิน “ก็..
มัคนายกน่ะ !! คือเค้ามาช่วย.. นิดหน่อย” อลินยิ้มเอาหน้ารอด
เจ้าหน้าที่บอกไม่ใช่มัคนายก พร้อมกับบรรยายรูปร่างหน้าตาที่ตรงกับปฏิคมเดี๊ยะ
หือ...อลินสะอึก.. อ้ายยยยนี่ ไม่พูดจะตายมั้ยหะ ?
พสุมองหน้าอลิน..อีกที..แววตาเริ่มดุ “ไอ้คม !!”

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : ไทยรัฐ

Readlakorn เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ ละครเกาหลี ละครช่อง3

อ่านต่อ

สูตรเสน่หา - เรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ - สูตรเสน่หา ตอนที่ 17-21

สูตรเสน่หา ตอนที่ 17

จนกระทั่งสุดท้ายมาถึงแบบขนมเค้ก อลินตัดสินใจให้อนุชาเลือกก่อน อนุชาก็โบ้ย
ให้อลินเลือก อลินว่าให้อนุชาเลือกและอลิน จะเป็นคนทำเอง
“คุณลินจะทำเองเหรอครับ” อนุชาเลิกคิ้ว แปลกใจ
“ค่ะ..แล้วเราก็ถ่ายเทปเก็บไว้ เอามา โปรโมตในรายการ ดีมั้ยคะ”
“ดีครับ...คุณลินเป็นคนที่ฉลาดจริง ๆ ครับ ผมยังคิดไม่ถึงเลย...”“ขอบคุณค่ะ
งั้นคุณเล็กเลือกแบบเค้กเลยค่ะ คุณเล็กเลือกแบบไหน ลินก็ชอบแบบนั้นล่ะค่ะ”
อลินยิ้มหวานขนมเค้กแบบเรียบ ๆ ค่อนข้างไปทางขรึม อยู่ในมืออลิน
มีเสียงบ่นกระปอดกระแปดออกมาจากปาก “ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ
ทำไมคุณเล็กถึงชอบเค้กอันนี้ มันเรี้ยบ...เรียบ ไม่มีอะไรโดดเด่นสักกะนิด
เวลาที่ฉันยืนตัดเค้กมันไม่ส่งเสริมบารมีเจ้าสาวแม้แต่นิดเดียว
แล้วนักข่าวก็ชอบเอารูปตอนตัดเค้กไปลง ฮึ่ย !
ฉันไม่น่าให้คุณเล็กเลือกเลย...เซ็งจริง ๆ”
อลินวางแบบขนมเค้กรวมไว้กับตัวอย่างการ์ด ตัวอย่างของชำร่วย
แบบชุดเจ้าสาวที่เลือกมา ปฏิคมปรายตามามอง แล้วก็เปรยด้วยน้ำเสียงแดกดัน
“ถึงมันจะเป็นโลกเพ้อฝันในสายตาคนอื่น แต่ฉันมีความสุข ฉันไม่สน !”
“นายตัวเปี๊ยกกกกก !! ฉันได้ยินนะ !
ประชดฉันใช่มั้ย” “ใช่ครับ !” ปฏิคมยิ้มกวน อลินมอง หน้าจะโกรธ
แล้วก็รีบหลับตาระงับสติอารมณ์ “ไม่...ฉันจะไม่โกรธ
ฉันกำลังจะได้แต่งงาน ฉันจะได้เป็นเจ้าสาว ฉันต้องอารมณ์ดี..ฉันต้องสวย”
ลืมตาแล้วก็ยิ้มได้ทันที...แฉ่ง ปฏิคมผวานิด ๆ
เฮ้ยย...เป็นเอามาก เว้ย...น่ากลัวจริง แล้วอลินก็หันมาทางปฏิคม
“นี่นายตัวเปี๊ยก...ฉันถามอะไรหน่อยสิ...เวลาที่นายกับฉันชอบอะไรไม่เหมือนกัน
แล้วนายต้องยอมให้ฉันทุกครั้ง..นายเบื่อหรือเปล่า” “เบื่อ !!”
ตอบทันควัน “แล้วที่คุณเล็กเค้ายอมฉัน ถ้ามัน บ่อย ๆ
เค้าจะเบื่อฉันหรือเปล่า” “เบื่อ !! ชัวร์ !!” ตอบทันควันเช่นกัน
หนักแน่นกว่าเดิม “อ้าว..แล้วเค้าจะยอมฉันทำไม ถ้าเค้าไม่ชอบ
ไม่เห็นด้วย เค้าก็ต้องชี้แจง ต้องอธิบายให้ฉันเข้าใจ ไม่ใช่ทำเป็นยอม จนฉันเคยตัว
พอแก่ ๆ ไปแล้วค่อยมาบอกว่าเบื่อ” “โธ่คุณลินครับ
คนที่รู้จักคุณลิน ไม่มี ใคร “ไม่ยอม” คุณลินหรอกครับ” “มี !
ครูกุ๊กไง !” ตึ่งงงง !!...อลินพูดจบก็ชะงักเอง
ปฏิคมอึ้งไป...อืมม์...อลินนิ่งไป..นี่ทำไมเราถึงคิดถึงครูกุ๊กนะ..
ปฏิคมเห็นท่าไม่ดี...ชิ่งดีกว่า “คุณลิน
ครับ...นี่เป็นรายการอาหารสำหรับวันหมั้น..ทางโรงแรมส่งมาให้เลือก..มีทั้งหมดร้อยกว่ารายการ
คุณลินต้องการเท่าไหร่ก็เลือกดูนะครับ
แล้วพรุ่งนี้ผมจะเข้ามารับ...วันนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว
ผมกลับก่อนนะครับ...” อลินยังอยู่ในห้วงคำนึงของตัวเอง
ไม่ได้สนใจคำพูดปฏิคมสักเท่าไหร่
ปฏิคมรีบเก็บของแล้วก็เดินมาที่ประตูก่อนจะหันไปมองหน้าอลินอีกที
อลินยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ปฏิคมจำต้องปิดประตู แล้วก็ปลีกตัวออกไป
ปล่อยให้อลินคิดเอาเอง อลินค่อย ๆ หย่อนตัวลงนั่งที่โซฟา ...อยู่
ๆ ก็คิดถึงพสุขึ้นมาจับใจ ถ้าเขาอยู่ข้าง ๆ เธอตอนนี้ก็คงดี
อลินเหลือบไปเห็นหนังสือเมาท์กระจายที่เป็นรูปถ่ายคู่กับพสุ
และหยิบมาดูด้วยความคิดถึง...โดยไม่รู้ตัว “คนไม่เคยผิดอย่างคุณ
อย่ามายุ่งกับผมอีกเลย...จะได้ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนดี ทั้งที่ จริง ๆ
แล้วคุณก็คิดไม่ต่างจากคนอื่น...แล้วก็เลิกตามผมได้แล้ว..ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่กลับไปสอนคุณ
!!”อลินคิดถึงพสุมาก ๆ ที่ร้านอาหารอิตาเลียนที่พสุทำงานอยู่
พนักงานในครัวเริ่มทยอยจะกลับ มีเจ้าหน้าที่บางคนกำลังเช็ดเก็บครัว และอีก 2
คนยืนมุงอ่านหนังสือพิมพ์ข่าวอลิน พสุเดินเข้ามาหลังจาก
ล้างหน้าล้างตาเตรียมจะกลับบ้าน ก็ชะงักกึก
เพราะได้ยินเสียงเด็กในครัวเมาท์กันอยู่อีกด้านของเตาอบ
เด็กเมาท์กันว่าตอนแรกคิดว่าอลิน เป็นแฟนพสุ แต่เพราะอนุชาเป็นไฮโซ หล่อ รวย
แถมเพอร์เฟกต์ทุกอย่าง อลินคงมองข้าม
พสุฟังแล้วยิ่งเศร้าพสุเดินออกมาหน้าร้านด้วยความเซ็งกึ่งเศร้า
ทันใดนั้นก็มีกระดาษปึกหนึ่งยื่นมาที่หน้า
พสุมองตามกระดาษไล่มาตามมือและก็เห็นหน้าอลิน พสุชะงัก
อลินไม่ยอมเปิดโอกาสให้พสุหนี “ไม่ต้องหนีฉันอีกแล้วนะ
เพราะวันนี้ฉันไม่ได้มาตามตื๊อให้ครูกุ๊กมาสอนฉัน แต่ฉันมาขอความช่วยเหลือ
!” พสุปรายตามอง..ใจนึงไม่อยากสนใจแต่อีกใจลึก...ลึ้กกกกกก
ก็อยากรู้และแอบเป็นห่วง
“...ช่วยอะไร” อลินเชิดนิด ๆ แต่ก็เสียงอ่อนลง
ประมาณลึก...ลึ้กกกกก ก็อยากจะง้อ แต่...ไม่รู้ตัว
!!
“เอ่อ...ครูกุ๊กรู้เรื่องที่ฉันจะแต่งงานกับคุณเล็กแล้วใช่มั้ย”
พสุเบือนหน้าหนี พร้อมกับพยักหน้าทำเป็นเฉยชา “อื้อ...แล้วไง ?”
“ก็...ทางโรงแรมเค้าส่งรายการอาหารที่จะเลี้ยงแขกในวันหมั้นมาให้ฉันเลือก
แต่มันเป็นชื่อเฉพาะ แล้วก็เป็นภาษาอังกฤษ อ่านแล้วไม่รู้เรื่อง
ฉันอยากให้ครูกุ๊กช่วยอธิบายให้ฉันฟังหน่อย ว่ามันเป็นอะไรบ้าง
แล้วก็ช่วยฉันเลือกด้วย ฉันต้องการสักห้าสิบหกสิบรายการ”
พสุมองหน้าอลิน แล้วถามตรง ๆ “ทำไม ผมต้องช่วยคุณ”
“ก็...เมื่อก่อนมีอะไรครูกุ๊กก็เป็นคนช่วยฉันมาตลอด ตอนนี้ฉันจะแต่งงานทั้งที ก็..
ช่วยอีกสักทีไม่เห็นเป็นไรเลย” “เมื่อก่อนผมช่วยคุณในฐานะครู
ที่ช่วยลูกศิษย์...แล้วตอนนี้คุณจะให้ผมช่วยคุณในฐานะอะไร”
“ก็...” อลินไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร พสุจ้องหน้ารอคำตอบ แล้วอลินก็ตอบว่า.. “เพื่อน”
...ไง...ครูกุ๊กเป็นเพื่อนฉัน เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนไม่ใช่เหรอ”
อลินพยายามจะรักษาความสัมพันธ์ทั้งที่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
พสุมองหน้าอลินแล้วตอบ “คุณลิน... งานนี้เป็นงานหมั้นของคุณ
คุณควรจะให้คู่หมั้นคุณเป็นคนช่วย ไม่ใช่ผม” อลิน อึ้ง
พสุมองหน้าอลินและตัดสินใจพูดออกไป “...และผมขอโทษ..ผมเป็นเพื่อนกับคุณไม่ได้
!” ตึ่งงงง ! อลินอึ้งไป รู้สึกเหมือนตัวชาวาบขึ้นมา
พสุหลบตามองต่ำ แล้วจะเบี่ยงตัวเปิดประตูขึ้นรถ
อลินโพล่งขึ้นแบบไม่รักษาฟอร์ม “ทำไมครูกุ๊กถึงเป็นเพื่อนกับฉันไม่ได้
!!” พสุพยายามใจแข็ง เปิดประตูรถแล้วขึ้นไปเลย แต่อลินไม่ยอมหยุด
ยังระบายออกมาด้วยความไม่เข้าใจปน ๆ กับเสียใจ
“ถ้าครูกุ๊กโกรธที่ฉันให้คะแนนครูกุ๊กน้อย ฉันขอโทษ ...ฉันขอโทษจริง
ๆ...ยกโทษให้ฉันเถอะนะ...ฉันขอโทษ...” อลินพูดจากใจจริง น้ำตาแอบปริ่ม
ๆ จะไหล พสุกัดฟันไม่ฟัง แล้วสตาร์ตรถ..ชึ่งงงงง !!
และขับรถออกไป อลินเหวอไป... “ครูกุ๊ก..ฉันบอกว่าฉันขอโทษแล้วไง..ครูกุ๊ก...ครูกุ๊ก
!!” อลินตะโกน พสุไม่ฟังเสียงยังขับรถต่อไป รถพสุค่อย ๆ
แล่นออกไปอย่างเย็นชา อลิน เดินตามสี่ห้าก้าว... “ครูกุ๊ก.. ครูกุ๊กกกกก
!” พสุไม่หยุด รถยังคงแล่นออกไปจากลานจอด
อลินหยุดเท้ารู้ว่าตามไปก็ไม่มีประโยชน์ อลินมือไม้อ่อน
ปล่อยรายการอาหารปลิวกระจายอยู่ที่พื้น...อลินยืนนิ่ง...เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดนทิ้งอย่างไม่มีเยื่อใย
คนที่ไว้ใจไม่อยากแม้แต่จะเป็นเพื่อน อลินตาแดงน้ำตาร่วงไม่รู้ตัว
ใจหายเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
ถึงแม้จะดูไม่สนใจแต่ก็อดไม่ได้ที่จะปรายตามองอลินผ่านทางกระจกหลัง
พสุเห็นอลินยืนอยู่คนเดียวกลางลานจอด กัดฟัน
เบือนหน้าหนี..ท่องในใจว่า..เขาจะแต่งงานแล้ว..เราต้องใจแข็ง !
อลินตกอยู่ในอาการเศร้าซึมโดยไม่รู้ตัว
แม้มาถ่ายรายการอลินก็นั่งนิ่งปล่อยให้ลูกเป็ดแต่งหน้าโดยไม่เปิดปากพูดอะไรเลย
ผิดกับทุกวันที่ผ่านมา
ทันใดนั้นคุณพี่เป็ดดั๊นเกิดอาการมืออ่อน..ปล่อยตลับแป้งฝุ่นหลุดจากมือหล่นใส่อลิน
!! ฝุ่นแป้งฟุ้งกระจายเปรอะเลอะเทอะเต็มหัว และหน้าอลินอย่างแรงงงงงงงง !!!
ลูกเป็ดตกใจขอโทษอลินอย่างลนลาน เพราะกลัวอลินวีน
เพรียวกำลังช่วยคอสตูมจัดเสื้อผ้า และคอสตูมทุกคนต่างหันมาทางอลิน
เป็นตาเดียวและว่า “อีเจ๊ลูกเป็ด..ตายแน่ !!
อลินหันมา..ตาแข็ง..เหมือนจะปรี๊ดแต่แล้วก็พูดด้วยเสียงสงบมากกกกก
“จะตกใจอีกนานมั้ย..ฉันแสบตา ไปเอาผ้าสะอาด ๆ มาเช็ด แล้วก็เอาน้ำมาให้ฉันล้างหน้า
แล้วค่อยแต่งหน้าใหม่” “เอ่อ..ค่ะ...ค่ะ...ได้ค่ะ...รอแป๊บนะคะ”
ลูกเป็ดรีบพุ่งพรวดออกไป พร้อมส่งเสียงตะโกน “ใครก็ได้รีบหาผ้าสะอาด
กับน้ำสะอาดมาให้ฉันหน่อยเร้ววววววว !!” ลูกเป็ดวิ่งลนลานออกไปด้วยความตื่นเต้น
ตกใจ ปนโล่งอก ที่ไม่โดนวีน อลินยังนั่งหน้าเยินอยู่ที่เดิม
มีเอามือปัดเล็กน้อย แต่ไม่มีกะจิตกะใจจะด่าใคร เพรียวมองด้วยความแปลกใจ
แล้วเมาท์กับคอสตูม “..แปลก พอหาผอสระอัวได้...กำลังจะหมั้น คุณนายขา
วีนเปลี่ยนไปเหมือนหลังฝ่าเท้าพญามารเป็นหน้ามือแม่ชีเทเรซ่า โอ้ว..คุณพระ
รู้งี้ยุให้บอสขอแต่งงานไปนานแล้ว...ต๊าย...ไม่น่าเชื่อ”
เพรียวเมาท์ด้วยความอะเมซิ่ง
ขณะอลินยังนั่งอยู่ที่เดิม..ไม่ไหวติง ไม่โวยวาย และเลื่อนลอย
อลินถ่ายทำรายการไปอย่างปกติ แต่พอผู้กำกับสั่งคัต อลินหุบยิ้มทันที
กลับสู่โหมดเลื่อนลอย อนุชาถามว่าเป็นอะไรเพราะจับสังเกตได้ถึง ความผิดปกติ

“รู้สึกเหมือนคุณลินมีเรื่องกังวล...มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“อ๋อ...เอ่อ...คงจะเหนื่อย ๆ น่ะค่ะ ต้องจัดเตรียมอะไรหลายอย่าง ทั้งงานหมั้น
ทั้งงานแต่ง ทั้งถ่ายรายการ
เล่นละครอีก...มันก็เลย..เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ”
อนุชาจับมืออลินกลางกองถ่าย..ไม่สนสายตาทีมงาน “คุณลินครับ..ถ้างานหมั้น
กับงานแต่งของเรา มันจะทำให้คุณลินต้องเหนื่อย
และไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน..ผมว่า..เราลดขนาดให้เล็กลงและทำทุกอย่างให้มันง่าย ๆ
ก็ได้นะครับ” อลินมองหน้าอนุชา มองมืออนุชาที่จับมือเธออยู่
อลินรู้สึกแปลก ๆ ทำไมมันไม่รู้สึกสปาร์ก
และรู้สึกดีกับคำพูดที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของอนุชาแม้แต่น้อย
อลินพยายามฝืนยิ้ม “ขอบคุณที่คุณเล็กเป็นห่วงนะคะ
แต่ลินไม่เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะ ทุกอย่างลินรับมือได้...เอ่อ...ลิน...ขอตัวก่อนนะคะ
พอดีมีนัดเรียนทำอาหารกับครูคนใหม่ เรียนเสร็จแล้วลินโทรฯหาคุณเล็ก
เราค่อยคุยกันต่อนะคะ” อลินค่อย ๆ
ดึงมือออกอย่างนุ่มนวลและมีมารยาท แต่อนุชาก็ยังรู้สึกได้ถึงความตะขิดตะขวงใจ
อลินเดินเลี่ยงออกมา
อนุชายืนนิ่งอยู่ที่เดิม..สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป
หมิงโยนหนังสือพิมพ์ข่าวแต่งงานของ อลินลงตรงหน้าวายุ
และพูดแดกวายุว่าเสียใจด้วยที่บ่อเงินบ่อทองอย่างอลินกำลังจะแต่งงาน
วายุอารมณ์เสียที่ถูกเยาะเย้ยเย้ยกลับว่าหมิงเคยบอกว่าจะทำให้อลินลงจากคานไม่ได้
แต่ตอนนี้อลินกลับได้แต่งงานก่อนหมิง หมิงชะงัก..เออว่ะ..ลืมไป แต่ก็ไม่ยอม
ยังเชิดได้อยู่พร้อมกับบอกว่า ดีที่ อลินไม่ได้แต่งงานกับวายุ
วายุว่าแทนที่จะช่วยตนเองปอกลอกศัตรู ถ้าหมดตัวก็เขี่ยทิ้ง แต่ดันมาสกัดแผนการตนเอง
หมิงกรี๊ดใส่ก่อนจะบอกว่าก็เพราะหึงวายุ “พอ ๆ ๆ ๆ !
ไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีกเลยนะ ปวดหัว แค่เรื่องหนี้สินก็เครียดจะตายอยู่แล้ว ดูดิ !
เงินค่าของงวดเก่า ของงวดใหม่ที่กำลังจะลง ไหนจะค่าเช่าร้าน เงินเดือนพนักงาน
หนี้บัตรเครดิต รวม ๆ แล้วตั้ง 6 ล้านกว่า !” “หะ !
ครั้งที่แล้วยังแค่ 3 ล้านนี่ทำไมมันพุ่งพรวดแบบนี้”
หมิงเหวอไป..เยอะโคตร “ไม่รู้ ถ้ารู้จะกลุ้มมั้ยเนี่ย
ถ้าไม่รีบหาเงินมาให้เค้าภายในอาทิตย์นี้ เค้าจะฟ้องยึด
ทรัพย์ผมแล้วเนี่ย” หมิงค่อย ๆ ทรุดลงนั่ง...อึ้ง ๆ
กับตัวเลขหนี้สินที่พุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว..พูดไม่ออกเลยทีเดียว
วายุเครียดก่อนตัดสินใจ “คนอย่างวายุไม่เคยล้มให้คนมาดูถูกหรอกเว้ย
ไม่ว่ายังไงฉันจะต้องหาเงินมาให้พวกมันให้ได้ !”หมิงหันมาด้วยความสงสัย...
“แล้วลมจะไปเอามาจากไหน”วายุตัดสินใจมากู้เงินนอกระบบ
เจ้าหนี้เอาเงินออกมาตั้งเรียง 7 ล้าน คิดดอกร้อยละ 20
เดือนแรกต้องจ่ายทั้งต้นและดอก ถ้าวายุโอเค ก็เอาหลักประกันมาค้ำไว้
วายุคิดแล้วก็หยิบเอากุญแจรถ ทะเบียนรถ เอกสารการโอนลอย และบัญชีเงินฝาก
รวมทั้งบัตรเอทีเอ็ม มาวางไว้ข้างหน้า เจ้าหนี้รวบของมา
แล้วเลื่อนเงินไปให้ “อีก 30 วัน
ถ้าเงินยังไม่มา..คุณรู้ใช่มั้ยว่าอะไรจะเกิดขึ้น..” เจ้าหนี้จ้องหน้าขู่กลาย ๆ
วายุมองรอบ ๆ เห็นหน้าลูกน้องโหด ๆยืนอยู่ แล้วก็พยักหน้า
พร้อมกับกลืนน้ำลาย
อย่างยากลำบาก...และหันกลับมามองเงินด้วยความเครียด...คิดผิดคิดถูกวะเนี่ย..
เหรียญทองของปูเป้ที่ให้มาแขวนอยู่ ข้าง ๆ โต๊ะทำงาน
อนุชาหยิบมาดูและคิดถึงปูเป้ อนุชาหันมามองดูหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ
ที่ลงข่าวการแต่งงานยิ่งคิดถึงจิตใจของปูเป้และโสภิตา
ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดหาที่ชื่อ “ตา” แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ
กดปิด..โสภิตามองขนมเค้กที่วางอยู่ด้วยความ
ชื่นชมอลินที่เลือกขนมเค้กได้สวยงามเหมาะเจาะ
“ลินไม่ได้เลือกหรอกค่ะ คุณเล็ก..เอ่อ.. แฟนลิน
เค้าเป็นคนเลือกน่ะค่ะ” ตึ่งงงง ! โสภิตาอึ้งไปนิด ๆ จุก ๆ เล็ก
น้อย อลินพูดต่อ “ที่จริง..ลินก็ไม่ค่อยชอบแบบนี้หรอกค่ะ
แต่คุณเล็กตามใจลินทุกอย่างแล้วลินก็เลยให้เค้าเลือกแบบเค้กเอง
ลินยังไม่คิดเลยนะคะว่าจะมีคนชอบเหมือนคุณเล็ก” โสภิตาอึ้งนิด ๆ
แล้วก็ตอบแบบไม่กล้าสบตา “คงบังเอิญน่ะค่ะ
แล้ววันนี้คุณลินจะให้ตาสอนทำขนมเค้กอันนี้เลยหรือเปล่าคะ”
“ก็ได้ค่ะ..” อลินพยักหน้าตอบแบบเนือย ๆ
ทันใดนั้นเสียงปูเป้ก็ดังขึ้น “คุณแม่ขา....” ทั้งอลินและโสภิตาหันไปตามเสียง
ปูเป้เดินออกมาในชุดเตรียมไปเรียนโยคะ
มีพี่เลี้ยงเดินถือกระเป๋าตามมา อลินตกใจที่เห็นปูเป้
ปูเป้เองก็ตกใจรีบยกมือไหว้อลิน โสภิตาแนะนำว่าปูเป้เป็นลูกสาวตนเอง
และถามกลับว่าพสุไม่ได้บอกหรือ อลิน ว่าเปล่า
“ลุงดินอยากให้พี่ลินเซอร์ไพร้ส์มั้งคะ” ปูเป้ยิ้มสดใส อลินขำนิด
ๆ..ในความช่างฉอเลาะของปูเป้ “คงงั้นมั้งคะ..แล้วนี่ปูเป้กำลังจะไปไหนเหรอคะ
แต่งตัวซะน่ารักเลย” “ปูเป้ไปเล่นโยคะค่ะ”
“ปูเป้เป็นโรคหอบน่ะค่ะ ตาก็เลยให้เค้าไปเรียนโยคะสำหรับเด็ก
จะได้ฝึกเรื่องการหายใจ แล้วก็สมาธิด้วยค่ะ” “อุ๊ยเก๋นะคะ..”
อลินหันไปทางปูเป้ “เอาไว้พี่ลินไปเรียนด้วยได้มั้ยคะ”
“ได้ค่ะ..คุณครูบอกว่าให้ผู้ใหญ่มาเรียนด้วยก็ได้ ลุงดินก็อยากเรียน
พี่ลินไปเรียนพร้อมกับลุงดินสิคะ..” อลินหน้าเจื่อน ๆ
ไป..พูดไม่ออก โสภิตารีบตัดบทบอกให้ปูเป้รีบไปเรียน ปูเป้โบกมือให้อลิน
แล้วเดินตามพี่เลี้ยงไป ปูเป้หันมามองหน้าอลินกับโสภิตาอีกทีก่อนจะออกจากร้านไป
แววตาของปูเป้เหมือนเป็นผู้ใหญ่เกินตัว โสภิตาเตรียมของสำหรับสอนอลินทำขนม
ระหว่างที่กำลังจัดของอยู่อลินก็พูดถึงปูเป้ว่าเป็นเด็กน่ารัก
และดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว โสภิตา
บอกครอบครัวเธอมีแค่สองคนแม่ลูกเลยต้องสอนให้ปูเป้ดูแลตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก
“อ้าว...แล้วพ่อของน้องปูเป้อยู่ที่ไหนล่ะคะ”
อลินโพล่งถามขึ้น โสภิตาชะงัก ก่อนจะยอมรับว่าเลิกกันแล้ว
อลินซักต่อถึงสาเหตุที่เลิกกัน โสภิตาบอกเป็นเพราะแม่สามีไม่ยอมรับ
“อุ๊ย...เหมือนกับภรรยาเก่าของคุณเล็กเลยค่ะ
คุณเล็กบอกว่าคุณหญิงแม่ก็ไม่ยอมรับเหมือนกัน ก็เลยต้องเลิกกัน
โชคดีนะคะที่ไม่ได้จดทะเบียนกัน ไม่งั้นคงวุ่นวายกว่านี้แน่”
โสภิตาก้มหน้า..ไม่มีความเห็น อลิน สงสัยหันมาถามต่อ “แต่ปูเป้น่ารักขนาดนี้
พ่อเค้าไม่คิดถึงบ้างเหรอคะ
เค้าได้แวะมาหาลูกบ้างหรือเปล่าคะเนี่ย”
โสภิตาอึกอัก...ตอบไม่ถูก
ทันใดนั้นเสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้นกรุ๋งกริ๋ง...เป็นสัญญาณบอกว่ามีแขกเดินเข้ามา
โสภิตาได้จังหวะชิ่งเพราะไม่อยากตอบคำถาม เลยขอตัวไปดูลูกค้า
โสภิตาเดินออกมาจากในครัว แต่ก็ต้องชะงัก เพราะคนที่ยืนรออยู่คืออนุชา
อนุชากำลังจะเดินเข้ามาหาโสภิตา ทันใดนั้นประตูครัวก็เปิดออกมาอีกที
พร้อมกับอลินที่เดินออกมาถามเรื่องสูตรแป้งทำเค้ก อลินเงยหน้าขึ้นเห็นอนุชา
แล้วก็ชะงัก ก่อนจะหันขวับมาที่อนุชาด้วยความตกใจ “คุณเล็ก
!!!”อนุชาก็อึ้ง..ช็อก..อนุชามองอลิน แล้วตัวชาวาบ..เอาไงดี....ตอนที่ 21
อลินแปลกใจเมื่อเห็นอนุชาอยู่ที่ร้านของโสภิตา
โสภิตารีบอธิบาย “คือ...คมโทรฯมาหาตา ถามว่าคุณลิน
มาเรียนหรือเปล่า เพราะคุณเล็ก เอ่อ..แฟนคุณลิน โทรฯมาถามคม...พอตาบอกคม
คมก็บอกคุณเค้าอีกทีน่ะค่ะ”
“แล้วคุณเล็กตามมาหาลินที่นี่มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เอ่อ...คือว่า..คือ..ผมเห็นคุณลินท่าทางไม่ค่อยสบายใจ
ผมก็เลย..อยากตามมาดูว่าคุณลิน เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ลินบอกแล้วไงคะว่าไม่เป็นไร..ลินก็แค่เหนื่อย ๆ นิดหน่อยเอง
ไม่ต้องห่วงลินหรอกค่ะ”อนุชารู้สึกอึดอัดนิด ๆ
ที่ต้องแสดงความเป็นห่วงผู้หญิงอื่นต่อหน้าโสภิตา
โสภิตาเองก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่น้อยไปกว่ากัน
“ตาขอตัวไปเตรียมของก่อนนะคะ” โสภิตาปรายตามองอนุชาอีกที
สองคนแอบสบตากันก่อนที่โสภิตาจะหันหลังและเดินเข้าครัวไป
มีเพียงอลินคนเดียวที่ยืนยิ้มไม่รู้เรื่อง
อลินกับอนุชาต่างคนต่างยืนเก้อ ๆ กันอยู่ในร้าน อลินไม่รู้จะชวนคุยอะไร
อนุชาก็อึกอักลำบากใจ แล้วก็ตัดสินใจพูดขึ้น
“ถ้าคุณลินไม่เป็นอะไรจริง ๆ ผมจะได้
สบายใจไม่ต้องเป็นห่วง...งั้น...ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
อลินพยักหน้ายิ้ม ๆ จังหวะที่อนุชาจะเดินออกไป พสุก็เดินเข้ามาในร้าน
พสุกับอนุชาสบตากัน พสุเหลือบมองอลินแล้วนึกเป็นห่วงโสภิตาขึ้นมาทันที
พสุมองหน้าอนุชา...ต่างคนต่างรู้กัน อนุชาหลบ ๆ ตาพสุ
อลินมองพสุแอบตื่นเต้นเล็กน้อยไม่คิดว่าจะเจอ โสภิตาเดินเข้ามา “ดิน !
จะมาทำไมไม่โทรฯบอกก่อน” พสุพยายามควบคุมน้ำเสียงให้เรียบ “อ๋อ
...คือ...วันก่อนเห็นตาบอกว่าปูเป้อยากไปเที่ยวทะเล ต้นเดือนหน้ามีหยุดยาวพอดี
ผมเลยจองโรงแรมที่ภูเก็ตไว้ เราจะได้ไปกันสามคน !!”
อนุชากับอลินสะอึกพร้อมกัน อลินรู้สึกใจหายเมื่อพสุทำไม่สนใจตน อลินรีบบอกโสภิตา
ว่าเดือนหน้างานแต่งของตนกับอนุชา โสภิตาหันมาทางอลิน พสุเบือนหน้าไปอีกทาง..
“คุณตาจะไม่ไปร่วมงานแต่งงานของลิน เหรอคะ”
โสภิตาอึกอัก...ไม่กล้าพูด พสุเห็นใจ เลยหันมาตอบแทน
“งานแต่งงานของคุณ...มันไม่ได้สำคัญสำหรับคนอื่นหรอกนะ !
คนอื่นเค้าก็มีชีวิตของตัวเองกันทั้งนั้น หยุดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลได้แล้ว
! คุณไม่ได้เป็นคนสำคัญขนาดนั้น !!” อลินอึ้งไป
โสภิตาตกใจ อลินมองหน้าพสุ...ต่อมน้อยใจทำงานขึ้นมาอย่างแรง
“ใช่สิ...งานแต่งงานของฉันมันไม่สำคัญ ...และฉันก็ไม่ใช่คนสำคัญของครูกุ๊กอีกต่อไป
! ครูกุ๊กก็ไม่ใช่คนสำคัญของฉันเหมือนกัน !!” พสุอึ้งไป
อนุชาชะงักหันมาทางอลิน อลิน กระชากผ้ากันเปื้อนออก ปาลงพื้น
แล้วเดินออกไปจากร้านด้วยความน้อยใจโกรธ และเสียใจ ปนกันมั่วไปหมด
พสุพยายามไม่มองตาม อนุชามอง พสุแล้วเดินตามอลินไป อลินเดินอ้าว
ๆ ออกมาจากร้าน ด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน อลินเดินมาที่รถ อนุชาวิ่งตามมา
อลินหันไปบอกอนุชาว่าอยากอยู่คนเดียวพูดจบก็ขับรถออกไป
อนุชาได้แต่มองตามรถ ของอลินที่แล่นออกไปอย่างงง ๆ
อนุชาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อมราฟัง
อมราจิกหางตาสรุปความด้วยความขัดเคืองใจ
“แม่บอกแล้วว่าอลินกับไอ้ครูกุ๊ยมันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล..เป็นไงล่ะ
เพิ่งจะตาสว่าง ดีนะที่เล็กไม่มารู้หลังจากที่แต่งงานกันไปแล้ว
ไม่งั้นสักวันจะโดนเมียสวมเขา”
“เอาเป็นว่า..ตอนนี้ผมแค่รู้สึกว่าคุณลิน
แคร์ดินมาก..และผมก็ไม่อยากให้มันมากไปกว่านี้”
“ไม่ต้องห่วง..เรื่องแค่นี้..แม่จัดการเอง”
อมรายิ้มร้าย..อย่างมั่นใจ
ปฏิคมเอาชุดแต่งงานที่อลินสั่งตัดมาให้อลินลอง อลินนั่งซึมบอกไม่อยากลอง
ปฏิคมชะงัก..ปฏิคมถามเรื่องอาหาร ดอกไม้ในงานแต่ง อลินไม่สนใจบอกให้ปฏิคมจัดการ
ปฏิคมมอง อลินที่ท่าทางซึมเศร้าอย่างแปลกใจ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
อลินเหลือบไปดู แล้วก็รับด้วยความจำใจ
อมราถามสารทุกข์สุกดิบของอลินก่อนตรงเข้าประเด็นว่าที่พสุไม่มาสอน
อลินทำอาหารเพราะกลัวแฟนเข้าใจผิดอลินจุกในอกทันที
“ใช่จ้ะ..อ้าวนี่หนูลินไม่รู้เหรอว่านายครูกุ๊กเค้ามีแฟนแล้ว
นี่ตาเล็กยังรู้เลยนะ..เล็กบอกแม่ว่าเป็นผู้หญิงที่ดีมาก ๆ ด้วยนะ ถึงจะไม่ได้รวย
ไม่ได้เพอร์เฟกต์เหมือนหนูลิน แต่ก็เป็นคนดี..แล้วก็เหมาะสมกัน
แม่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นใคร ตอน ที่แม่รู้ แม่ก็สบายใจ เพราะจริง ๆ แม่แอบระแวง
กลัวว่าเค้าจะชอบหนูลินของแม่.. แต่พอรู้ว่ามีแฟนแล้ว..แม่ก็เบาใจ
เหมือนยกภูเขาออกจากอก...นี่...แม่ได้ข่าวว่า..เค้าสองคนรักกันมากด้วย
นะ...อุ๊ยตายแล้ว...แม่ขอโทษนะจ๊ะ มัวแต่เมาท์เรื่องคนอื่นจริง ๆ
หนูลินก็คงจะไม่สนใจหรอก เนอะว่านายครูกุ๊กเค้าจะมีแฟนหรือไม่มีแฟน
เพราะอีกไม่กี่วันหนูลินก็จะแต่งงานกับเล็กแล้วหนูลินจะไปสนใจเรื่องคนอื่นทำไม
...จริงมั้ยจ๊ะ ?” อลินได้แต่ตอบรับน้ำเสียงเจื่อน ๆ
ทั้งที่ในใจร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก อนุชามาหาปูเป้ที่โรงเรียน
และนั่งรอปูเป้เล่นที่สนามเด็กเล่น โสภิตาเดินมาต่อว่า
อนุชาที่มาหาปูเป้โดยไม่บอกตน
อนุชาไม่ตอบอะไรแต่เปลี่ยนเรื่องขอบคุณโสภิตาที่ช่วยโกหกอลินให้เมื่อวันก่อน
โสภิตาชะงักกึก..รู้สึกอ่อนลง ทิฐิสลายไปในพริบตา อนุชาหันมามองหน้าโสภิตาอีกที
ความเข้มแข็งและเย็นชาของโสภิตาทำให้อนุชาต้องถามสิ่งที่ค้างคาใจ
“ตา...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้..คุณจะเลือกแต่งงานกับดินจริง ๆ
เหรอ” โสภิตาชะงัก...ในใจอยากบอกว่า “ไม่ใช่”
แต่ต้องหันมาและพูดว่า... “คุณเล็กไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ
ว่าถ้าย้อนอดีตกลับไปได้
ตาจะเลือกแต่งงานกับใคร...เพราะในวันนี้..ตอนนี้..คุณเลือกที่จะแต่งงานกับคุณอลิน...คุณควรจะสนใจปัจจุบันและอนาคตมากกว่านะคะ”
อนุชาสะอึก โสภิตาพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล...และค่อย ๆ ลุกขึ้น
ก่อนจะเดินไปหาปูเป้ ปล่อยให้อนุชานั่งอึ้งอยู่ที่เดิม
อลินคาดคั้นคำตอบจากปฏิคมว่าพสุมีแฟนหรือยัง แล้วถ้ามีแฟนพสุชื่ออะไร
ปฏิคมบอกไม่รู้ “ผม-ไม่-รู้-และ-คุณ-ลิน-ก็-ไม่-จำ-เป็น-ต้อง-รู้
!!” อลินผงะ ปฏิคมพูดต่อ
“ไอ้ดินมันจะมีแฟนหรือไม่มีแฟน เค้ารักกันมากแค่ไหน หรือเค้าจะเป็นใคร ดีล้นฟ้า
มหาสมุทร ก็ไม่เกี่ยวกับคุณลิน ! สิ่งที่คุณลิน
ต้องสนใจในตอนนี้ก็คือ...อีกไม่กี่วัน..คุณลินต้องแต่งงานกับผู้ชายในฝัน
ผู้ชายที่เพอร์เฟกต์ในสายตาของคุณลิน...คุณลินบอกเองว่า..สิ่งที่คุณต้องการคือ...ความสุข...และคุณมีมันอยู่ข้างหน้า
เลิกคิดเรื่องผู้ชายคนอื่นได้แล้ว !!” ปฏิคมค่อย ๆ
คลายมือจากไหล่อลิน อลินยืนมองชุดแต่งงานที่อยู่ข้างหน้าอย่างเนิ่นนาน
อลินขับรถไปเรื่อยจนถึงร้านอาหารอิตา เลียน
อลินนั่งอยู่ในรถ..มองเข้าไปในร้าน...แล้วก็คิด...ในใจลึก ๆ อยากจะเข้าไปหาพสุ
แต่...คำพูดปฏิคมดังก้องมาว่าอลินไม่ควรไปสนใจเรื่องของผู้ชายคนอื่นแล้ว
เพราะอีกไม่กี่วันก็จะแต่งงานแล้ว
อลินได้แต่นั่งหมดแรงและถอนใจอย่างอ่อนล้าอ่อนแรงอย่างบอกไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น
พสุเห็นการ์ดแต่งงานของอลินกับอนุชาวางอยู่บนโต๊ะที่บ้านก็รู้สึกจิตใจห่อเหี่ยว
ก่อนเดินไปหานงพะงาที่ห้องคุณนายใหญ่ พสุเดินเข้ามาในบ้านใหญ่
สวนกับวายุ “ว่าไง..ไอ้กุ๊กตกกระป๋อง !
ข่าวยัยนางเอกดอกฟ้าของแกประกาศแต่งงาน คงไม่ทำให้แกช้ำใจจนต้องฆ่าตัวตายหรอกนะ
ฉันขี้เกียจเรียกคนมาเก็บศพ”
นงพะงาเดินมาพอดี...นงพะงาชะงักเท้า..แล้วหยุดเงี่ยหูฟัง
วายุดึงการ์ดแต่งงานของอลินมาจากมือพสุ “คุณลม ! ผมขอคืน !!”
“แกไม่มีสิทธิมาสั่งฉัน การ์ดแต่งงาน ! เอามาทำไม
อ๋อ...หรือว่าจะเอามาฟ้องแม่ ! ทำไม เห็นการ์ดแล้วทำใจไม่ได้เหรอ
ถึงกับต้องฟูมฟายวิ่งมาร้องห่มร้องไห้กับแม่ถึงที่นี่...ฉันเตือนแกแล้วก็ไม่เชื่อ
น้ำหน้าอย่างแก ไม่มีวันที่คนอย่างอลินจะปรายหางตามามอง”
นงพะงาชะงักกึก.. ฟังแล้วคิด..วายุยื่นหน้าเข้ามาหาพสุ
“ถ้าแกมีสมอง แล้วหลีกทางให้ฉันตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องแห้วแบบนี้
เพราะอย่างน้อย..พอฉันถลุงยัยอลินหนำใจ ฉันจะได้ส่งต่อให้
รับกากเดนจากฉันก็ยังดีกว่าต้องทนเห็น
สุนัขไฮโซคาบไปรับประทาน” พสุมองหน้าวายุ
สุดทน..พสุเหวี่ยงหมัดเข้าที่หน้าวายุอย่างแรง วายุล้มลง ตัวชนเข้ากับโต๊ะ
กวาดของหล่นลงพื้น เครื่องแก้วที่วางอยู่แถวนั้นแตกกระจาย นงพะงาตกใจส่งเสียงเรียก
พสุไม่ฟังเสียง เดินดุ่ม ๆ ออกจากบ้านไปเลย วายุค่อย ๆ พยุงตัวขึ้น
แต่เจ็บแปลบที่ใบหน้า และตะโพก
“ไอ้ดิน..มึ..มึงกล้าชกกูเหรอ...” นงพะงาเดินตามพสุไป
วายุตะโกนไล่หลังพสุไปด้วยความแค้น “ไอ้ดิน มึงจะไปไหน
มึงแน่จริง มึงอย่าหนีสิวะ !! ไอ้กระจอก
ไอ้หมามองเครื่องบิน...ไอ้ลูกคนใช้”พสุเดินหน้านิ่งออกไป นงพะงารีบเดินตามมา
พสุขอโทษนงพะงาที่ชกวายุ นงพะงา บอกไม่เป็นไรเพราะวายุพูดแรงเกินไป
พสุมองหน้านงพะงาถามว่าได้ยินที่วายุพูดด้วยเหรอ นงพะงามองพสุ

“ทั้งหมด...มันไม่ผิดนะดิน..ที่ดินจะชอบคุณอลิน..คุณอลินเป็นคนน่ารัก...ใครอยู่ใกล้
ๆ ก็ต้องชอบ...และดินก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีหัวใจ” พสุสะอึก
พยายามปฏิเสธว่าตนไม่ได้ชอบอลิน นงพะงามองพสุแล้วว่าตนพูดจากสิ่งที่เห็นด้วยตาตนเอง
พสุอึ้ง “แม่หลงรักท่านเจ้าสัว
ทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นจริง...แต่แล้วด้วยความดีที่แม่ทำด้วยความจริงใจ
และไม่หวังสิ่งตอบแทน ปาฏิหาริย์มันก็เกิดขึ้น
ถ้าดินจริงใจกับคุณอลิน..สักวันเธอจะเห็นเอง” นงพะงาให้กำลังใจ
พสุรู้สึกดี... “ถึงมองเห็น..มันก็สายไปแล้วครับแม่...อีกไม่กี่วันเค้าก็หมั้น
แล้วก็แต่งงานกับผู้ชายในฝัน... ต่อให้ผมจริงใจแค่ไหน
มันก็ไม่มีปาฏิหาริย์” พสุเงยหน้ามองออกไปไกล ๆ
อย่างหมดหวัง..นงพะงามองพสุด้วยความเห็นใจ

จบ สูตรเสน่หา ตอนที่ 17

สูตรเสน่หา ตอนที่ 18

อลินรื้อกล่องใส่ของและอัลบั้มรูปเก่า ๆ ของพ่อกับแม่เพื่อหารูปในวันแต่งงาน
อนันต์ ถามอลินอย่างสงสัยว่าอลินหาอะไร พอรู้ว่าอลินหารูปวันแต่งงานของพ่อกับแม่
อนันต์มองอลินแล้วพูดเสียงเรียบว่าตนกับแม่ของ อลินไม่มีรูปวันแต่งงาน
อลินมองอนันต์อย่างตกใจ “พ่อแม่แต่งงานกัน
ไม่มีรูปแต่งงานสักใบ...แล้วลินเกิดมาได้ยังไงคะเนี่ย”
“พ่อว่า..ลินก็น่าจะรู้ว่าลินเกิดได้ยังไง คือ...พ่อกับแม่ทำยังไง ถึงได้มีลูกออกมา
มันไม่ได้เกี่ยวกับรูปแต่งงานแม้แต่นิดเดียวเลยนะลูก”
“ไอ้เรื่องทำยังไงน่ะ ลินรู้ แต่...พ่อ
กับแม่แต่งงานกันยังไง ทำไมถึงไม่ถ่ายรูป หรือว่า
...พ่อกับแม่...ไม่ได้จัดงานแต่งงาน”
อลินถึงกับผงะเอามือทาบอก...รับไม่ได้อย่างแรง...โอ้ว...แม่เจ้า
อนันต์เล่าเรื่องสมัยรักกับแม่ของอลิน ให้อลินฟังว่าที่ไม่ได้แต่งงานกันเพราะป้า ๆ
ของอลินไม่ยอมให้แม่ของอลินแต่งงานกับตนซึ่งเป็นเพียงครูจน ๆ
อลินมองหน้าอนันต์อย่างสงสัยว่าแม่ของตนยอมหนีตามอนันต์มาโดยไม่แต่งงานได้อย่างไร
อนันต์มองอลินแล้วพูดเสียงเรียบแต่แฝงด้วยความสุข
“แม่ลูกบอกว่าขอแค่ให้เราได้อยู่ด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องจัดงานแต่งงาน
เพราะต่อให้เราจัดงานใหญ่โตแค่ไหน
ถ้ามันไม่ได้เกิดจากความรัก...มันก็เป็นแค่งานเลี้ยงที่เจ้าบ่าว
เจ้าสาวจัดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการส่วนตัว แต่ถ้าเราสองคนรักกัน...ถึงไม่มีงาน
ไม่มีพิธี
วันแรกที่ตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน...มันจะเป็นวันสำคัญและเราจะจำมันไม่รู้ลืม
แล้ว ลินล่ะลูก...ลินจัดงานแต่งงานเพราะอะไร
เพราะตอบสนองความต้องการ...หรือเพราะความรัก”
อลินอึ้งไป...แววตาเต็มไปด้วยความลังเลสงสัย..เพรียวเอารายชื่อสื่อที่จะเชิญร่วมงานแต่งงานของอนุชาและอลินมาให้ทั้งคู่เลือก
อนุชาฟังเพรียวพูดอย่างตั้งใจต่างจากอลินที่ดูเหม่อลอย
ในที่สุดอลินก็ขอให้อนุชาจัดการทุกอย่างก่อนเดินออกจากห้องไป
อนุชารีบเดินตามมาบอกมีเรื่องจะคุยด้วย อลินมอง
อนุชาก่อนตอบเสียงเศร้าว่าตนยังไม่อยากคุยอะไรไว้ตนทำธุระเสร็จแล้วจะโทรฯหาเอง
พูดจบอลิน ก็เดินจากไป อนุชามองตามอย่างรู้สึกแปลก
ๆ อลินมาหาโสภิตาที่ร้าน แต่ไม่เจอจึงนั่งรอก่อนถามหาปูเป้
พนักงานบอกปูเป้นอนไม่สบายอยู่ในห้อง อลินยกถาดข้าวต้มและน้ำผลไม้ไปให้ปูเป้
แต่พอเปิดประตูห้องเข้ามาพบว่าปูเป้นอนหอบอย่างแรง
อลินตกใจมากเรียกพนักงานเข้ามาช่วย พนักงานรีบโทรฯหาโสภิตา แต่โสภิตาไม่รับสาย
พนักงานจึงบอกให้โทรฯหาพ่อของปูเป้ อลินกดเบอร์โทรศัพท์ตามที่พนักงานบอก
ทันใดนั้นที่หน้าจออลินก็ขึ้นชื่อ คุณเล็ก อลินชะงักกึก !!! หัวใจแทบจะหยุดเต้น
ตัวชา ไม่รู้สาเหตุ “คุณเล็ก !!!” “ใช่ค่ะ !!
พ่อน้องปูเป้ชื่อคุณเล็กค่ะ !! คุณลินรู้จักเหรอคะ”
อลินชะงัก..
ทันใดนั้นสมองซีกความจำก็เริ่มทำงานตอนอนุชาบอกว่าแม่ไม่ยอมรับภรรยาเก่า
อลินประมวลข้อมูลทุกอย่างแล้วก็เข้าใจว่าถูกหลอกอนุชาพรวดเข้ามาในร้านเป้หวานหน้าตาตื่นหลังรู้ข่าวปูเป้ป่วย
แต่แล้วหัวใจของอนุชาแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นอลินยืนหน้าตึงอยู่ในร้าน
พออลินเห็นหน้าอนุชาก็ปรี่เข้าใส่ง้างไม้นวดแป้ง
ขนมฟาดเข้าที่แขนอนุชาอย่างแรง “ไอ้คนตอแหล !! ไอ้คนโกหก
ไอ้สับปลับ ไอ้รวยแต่เปลือก ไอ้ผู้ดีตกอับ ไอ้ สตรอเบอรี่ตัวพ่อ
ไอ้กลวง !!” อลินด่าไป ฟาดไป กะเอาให้ตาย อนุชาร้องโอดโอย ทั้งเจ็บ ทั้งงง
“โอ๊ ยยยยย ๆ ๆ ๆ ๆ คุณลินครับ...
เดี๋ยวครับ...ก่อนจะด่าผม...บอกก่อนว่าตอนนี้ปูเป้เป็นยังไงบ้าง”
อลินชะงัก มองหน้าด้วยความแค้น
“ฉันให้นายตัวเปี๊ยกพาไปส่งโรงพยาบาลแล้ว
ขืนรอไอ้พ่อใจยักษ์มีหวังชักตายคาเตียง...หน็อย !!! ยังจะมีหน้าทำเป็นห่วงลูก
ไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอก พูดมาได้...ไม่ได้ติดต่อ ไม่มีลูก
ไม่มีพันธะ...ไอ้คนลวงโลก!!” อนุชาหน้าซีด...อึกอักทำอะไรไม่ถูก
อนุชาอ้าปากจะอธิบาย แต่อลินไม่ฟังสั่งให้หุบปาก อนุชาปิดปากเงียบ
“ทำผิดจนปิดไม่มิด ยังจะมีหน้ามาอธิบาย...ไหน...จะพูดอะไร...ฮะ
จะอธิบายอะไร ...คนอย่างคุณ...เงินก็ไม่มี ความจริงใจก็ติดลบ ที่มาคบกับฉัน
เพราะต้องการเงินจากฉันอย่างเดียวเลยใช่มั้ย”
“ไม่ใช่นะครับคุณลิน..ที่ผมคบกับคุณ.. เพราะผมรักคุณจริงๆ”
“รักเหรอ...รักใช่มั้ย..” อลินปาไม้นวดแป้งทิ้งโครม...อนุชาสะดุ้ง
ไม้เฉียดหน้าขาไปนิดเดียว “กล้าเนอะ ฉันยืนด่าอยู่ปาว ๆ
ยังมีหน้ามาบอกว่ารักฉันอีกเหรอ คิดเหรอว่าฉันจะเชื่อ ...ฉันเป็น “อลิน”
นะยะ...ไม่ใช่ควาย !!!” อลินพูดจบก็คว้าขนมเค้กที่วางอยู่ข้าง ๆ
โปะลงบนหน้าของอนุชาอย่างแรง
โสภิตาลงจากแท็กซี่เดินเข้ามาในร้านแล้วตกใจเมื่อเห็นสภาพของอนุชาที่ดูเลอะเทอะโดยฝีมือของอลิน
“เห็นหัวมีเขาหรือไง ถึงได้หลอกอยู่ได้ ไม่หยุดไม่หย่อน ฉันกินข้าวนะยะ
ไม่ได้กินฟาง หน็อย..พูดคำว่ารักออกมาได้ยังไง..ไอ้จอมตอ
แหล..นี่ฉันว่าฉันตอแหลเก่งที่สุดแล้วนะ ยังสู้ไม่ได้เลย
นี่ถ้าฉันเล่นละครได้รางวัลสุพรรณหงส์ คุณคงได้รางวัลเรือไททานิก !!!”
อลินด่าอนุชาเป็นชุด โสภิตารีบวิ่งเข้ามาหาอลิน
โดยมีพสุวิ่งหน้าตื่นเข้ามาอีกคน พสุเห็นอลินกำลังเดือดก็ตกใจ
“ในชีวิตฉันจะโดนรังแก โดนเมาท์ โดนเขียนข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ยังไงฉันทนได้
แต่ฉันทนไม่ได้อย่างเดียวคือการโดนหลอก ! เกิดมาไม่เคยมีใครหลอกฉันได้
แต่คุณ..คุณหลอกฉัน ทั้งเรื่องเมีย แล้วยังจะเรื่องลูก !!”
อนุชายกมือพยายามจะห้าม และให้อลิน ใจเย็น
“คุณลิน..เรื่องปูเป้..ผมพยายามจะบอกคุณ แต่..มันยังไม่ถึงเวลา”
“แล้วเมื่อไหร่จะถึงเวลาฮะ อะไร รอให้ปูเป้เข้ามหา’ลัยก่อนหรือไง
หรือรอให้ฉันตำน้ำกินแล้วค่อยบอก อ๋อ หรือจะเคาะฝาโลงบอกตอนฉันตาย
ฮึ..แต่อย่าฝันไปหน่อยเลย ว่าฉันจะตายก่อน...เพราะคุณจะต้องตายก่อนฉัน...”
อลินเงื้อมือจะปาขนมเค้กก้อนโต อนุชาร้องลั่น พสุกับโสภิตาพรวดเข้ามา
พสุจับตัวอลินไว้ อลินดิ้นบอกให้พสุปล่อย พสุบอกให้อลินใจเย็น ๆ
โสภิตารับเค้กไปวางไว้ที่เดิม พสุรวบตัวอลินไว้ แล้วแยกออกไปนอกร้าน
อนุชาหันมองหน้าโสภิตา...ไม่มีใครพูดอะไรออกมา...พสุแบกอลินออกมาข้าง ๆ ร้าน
อลินยังโวยวายไม่หยุด พสุโยนอลินลงที่เก้าอี้ แล้วบอกให้อลินใจเย็น ๆ
แต่อลินไม่ฟังยังโวยวายไม่หยุดปาก “ทั้งครูกุ๊ก ทั้งนายตัวเปี๊ยก
ทั้งคุณตา ทุกคนรวมหัวกันปิดบังฉัน
เห็นฉันเป็นอีโง่แสนซื่อไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรอยู่คนเดียว”
“เดี๋ยว ๆ ๆ ผิดแล้ว ! ผม ไอ้คม และตา ไม่ได้รวมหัวกันปิดบังคุณ
เพียงแต่คิดว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะบอก เพราะคุณไม่เชื่อ ขนาดพ่อคุณบอก
คุณยังไม่เชื่อเลย” อลินชะงัก..แต่ไม่ยอมรับความจริงค้าน ข้าง ๆ
คู ๆ ว่าไม่มีใครเตือนตน พสุมองอลิน
พลางว่าทุกอย่างเป็นเพราะอลินไม่เคยเชื่อคนอื่น
“สรุปแล้วเพราะฉันใช่มั้ย..เรื่องทุกอย่างมันถึงได้เป็นแบบนี้.. เพราะฉันคนเดียว”
อลินค่อย ๆ
ทรุดตัวลงนั่ง..ความเกรี้ยวกราดที่สาดออกไปเริ่มหมดฤทธิ์..อลินเริ่มเหม่อลอย
ครุ่นคิด และผิดหวัง พสุมองอลินด้วยความสงสาร
...และเห็นใจพสุขับรถพาอลินกลับมาที่คอนโด ระหว่างทางอลินไม่ยอมพูดจาเอาแต่นั่งซึม
พสุถามอลินว่าเป็นอย่างไรบ้าง อลินตอบ สั้น ๆ ว่าเจ็บใจ!
พสุมองอลินอย่างไม่ค่อยเข้าใจพลางว่าปกติผู้หญิงที่ตกอยู่ในสภาวะเดียวกับอลินต้องเจ็บปวดไม่ใช่เจ็บใจ
“มันก็ทั้งหมดนั่นแหละ ทั้งเจ็บใจ เจ็บปวด เสียใจ ไม่น่าเลย...ทั้ง ๆ
ที่คิดว่าคนนี้ใช่แน่ ๆ กลับกลายเป็นคนขี้โกหก หน้าไม่อาย
แม้แต่ลูกกับเมียยังปกป้องไม่ได้ ปล่อยให้ยัยคุณหญิงอมราเฉดหัวออกจากบ้าน !
ไม่ได้เรื่อง !” พสุเห็นอลินฟึดฟัด แล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้
อลินปรายตามาเหล่ ๆ ถามพสุว่ายิ้มอะไร
พสุว่าที่ยิ้มเพราะรู้ว่าคนอย่างอลินคงเจ็บไม่นาน “ทำไม !
ฉันก็มีหัวใจเหมือนกันนะ ฉันทุ่มเทให้คุณเล็ก..ไอ้นายเล็ก !! มากที่สุด !
ฉันทั้งหวัง ทั้งฝัน เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์
แบบที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จักมาบนโลกใบนี้ !”
“ความรัก...ความสมบูรณ์แบบ คุณพูดสองคำนี้บ่อยมากรู้มั้ย นี่ถามหน่อย...คุณคิดว่า
ความสัมพันธ์ของคุณกับนายอนุชาเป็นแบบไหน.. คุณรักเขาเพราะเขาสมบูรณ์แบบ
หรือว่า...เพราะคุณรักเขา...เขาถึงเป็นคนสมบูรณ์แบบ”
“ฉันว่า..มันก็น่าจะเหมือน ๆ กัน”
“ไม่...มันต่างกันสุดขั้ว...ถ้าคุณรักใครสักคนเพราะเขาสมบูรณ์แบบ พออยู่ ๆ กันไป
คุณเริ่มค้นพบความบกพร่อง นิสัยเสีย ๆ สันดานแย่ ๆ ความรักที่คุณมี
มันก็จะจืด จางไป” อลินเริ่มคิดตาม
“แต่ถ้าเป็นแบบหลัง..
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...ไม่ว่าคนคนนั้น..จะมีข้อเสียในสายตาคนอื่นมากมายแค่ไหน
แต่กับคุณ..เขาก็ยังเป็นคนที่สมบูรณ์แบบเสมอ...และความรักแบบนี้...มันยากที่จะเลิกรัก
ยากที่จะตัดใจ และมันจะไม่จืดจางไปง่าย ๆ”
อลินเริ่มเข้าใจ...พสุยังพูดต่อ...สายตา
มองอลินอย่างมีความหมาย...อลินอึ้งไป...
“กับคุณ...มีคนมากมายที่พูดว่า คุณเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเอง ปลิ้นปล้อน เล่นละคร
ไม่จริงใจ อาฆาต พยาบาท วีนเก่ง ปากจัด ติดจะเห็นแก่ตัว...แต่ในสายตาผม...
คุณก็เป็นคนอย่างนี้...มีความสมบูรณ์แบบทุกอย่าง !”
อลินจุก...คำที่คิดจะพูดแย้ง ถูกกักไว้ที่ริมฝีปาก...พูดไม่ออก...อึ้งแปลก ๆ
พสุจับข้อมืออลินมาแล้วก็ยัดกุญแจรถใส่ไว้
ก่อนจะหันมาเปิดประตูและเดินลงจากรถไป...อลินได้แต่อึ้งปฏิคมโพล่งด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่า
อลิน จะยกเลิกงานหมั้น
แต่ไม่ยกเลิกงานแต่งและคนที่อลินจะแต่งงานด้วยคือพสุไม่ใช่อนุชา ปฏิคมอึ้ง
อลินจ้องปฏิคมพลางสั่งเสียงเข้ม
“ฉันขอสั่งให้นาย...หาวิธีที่ทำให้ครูกุ๊กหายงอน และยอมแต่งงานกับฉันให้ได้ !”
“คุณลินจะแต่งงานกับไอ้ดิน !!!”
อลินหนักแน่นและมั่นใจ “ใช่ !!”
ทันใดนั้นปฏิคมก็เกิดอาการมืออ่อนเป็นลมล้มลงทันที

จบตอนที่ 18

สูตรเสน่หา ตอนที่ 19
อมราหน้าเสียเมื่ออนุชาบอกเรื่องที่อลิน ยกเลิกงานหมั้นและงานแต่งงานกับตน
อมราโวยวายใส่อนุชา อนุชาขอให้อมรายอมรับความจริง แต่อมรายอมรับความจริงไม่ได้
เพราะอลิน คือขุมทรัพย์ของตน
ปฏิคมถามอลินย้ำอีกครั้งว่าจะแต่งงานกับพสุจริง ๆ หรือ อลินว่าใช่ ปฏิคมมองอลิน
แล้วว่าก่อนที่จะคิดถึงเรื่องของพสุตอนนี้อลินต้องสะสางเรื่องของอนุชาให้จบก่อน
อลินมองปฏิคมแล้วถามอย่างจริงจังว่าตนต้องทำอย่างไรบ้างอลินมาที่ห้องประชุมบริษัท
อวตาร โดยมีพนักงานทุกคนนั่งรออยู่
“อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ก็ดีแล้ว ฉันมีเรื่องจะประกาศให้ทุกคนรับทราบ !!!
ขอให้ทุกคนฟังให้ดี ๆ คุณปฏิคมจะชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทุกคนได้ทราบโดยทั่วกัน”
ปฏิคมก้าวขึ้นมา แล้วคลี่เอกสารออก
“ก่อนหน้านี้ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า คุณอลินถือหุ้นของอวตารครึ่งหนึ่ง
แต่ที่ทุกคนยังไม่ทราบคือ หนึ่งเดือนก่อน วันที่สามสิบกันยายน
คุณอนุชาได้ขายหุ้นบริษัทอวตารอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์ให้คุณอลิน
เท่ากับว่าตอนนี้คุณอลินมีหุ้นในบริษัทอวตารเกินกึ่งหนึ่ง ถือเป็นผู้ถือหุ้นหลัก
และสามารถตัดสินใจทำการใด ๆ กับบริษัทได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต
หรือคำยินยอมจากคุณอนุชา” ทุกคนหันมาทางอนุชา...อนุชากัดกราม
แน่น..เครียด “นอกจากเรื่องของอวตาร ฉันยังมีอีกเรื่อง
ที่อยากจะประกาศให้ทราบ .. งานแต่งงานระหว่างฉันกับนายอนุชาได้ถูกยกเลิกไปแล้ว
นับจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน คือ.. เจ้านาย และลูกน้องเท่านั้น !
ส่วนเรื่องการทำงานคุณปฏิคมจะเข้ามาดูแลเรื่องกฎหมายของบริษัท
และทีมงานใหม่จะมาดูแลในส่วนของการผลิต บัญชี และการตลาด
ส่วนฉันจะดูแลทุกอย่างในฐานะ..ประธานบริษัทแต่เพียงผู้เดียว”
อลินดีดนิ้ว มีทีมงานยกเก้าอี้ท่านประธาน อย่างอลังการเข้ามาในห้อง
แล้ววางไว้ที่หัวโต๊ะอีกด้าน..อนุชากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก อลินเชิดหน้าใส่..
อมราเดินเข้ามาในบริษัท เห็นพนักงาน วิ่งวุ่น จัดบริษัทใหม่
ย้ายของของอนุชาไปไว้อีกห้อง อมรามองตามงง ๆ พอดีเพรียวเดินมา
อมราก็คว้าแขนไว้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพรียวโบ้ย
ให้อมราไปถามประธานคนใหม่เองพูดจบก็เดินเลี่ยงไป
อมราเห็นอลินก็รีบพุ่งเข้ามาหาพยายามจะอธิบายให้อลินฟัง
แต่อลินไม่สนใจ “นี่ป้า ! จะพูดจะจาอะไร ช่วยดูด้วยว่า
บนหัวฉันไม่มีเขางอกออกมา และฉันก็ไม่ได้ไถนาเลี้ยงครอบครัว”
อมราผงะ..อลินใส่ต่อ “เรื่องที่ปูดออกมา
ไม่ได้มีใครมาฟ้องทั้งนั้น แต่มันเป็นเพราะฉันมีบุญ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
ฉันเลยรู้ความจริงที่แสนจะฟอนเฟะของผู้ดีจอมปลอม !! ที่จ้องจะสนตะพาย
เห็นฉันเป็นควายโง่ ๆ !!” อมราอึ้ง..จุก
แต่ยังพยายาม..จะยิ้ม “หนูจ๊ะ..แม่ว่า..”
“พ่อฉันมีเมียคนเดียวแล้วก็ตายไปนานแล้วด้วย !!” “ป้าว่า..จริง
ๆ แล้วไม่มีใครคิดว่าหนูโง่นะจ๊ะ แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจจะหลอก คนที่จะทำแบบนั้น
ก็มีแต่..นังสองแม่ลูกนั่น..โดยเฉพาะนังโสภิตา..มันร้ายยังกะอะไรดี
อยากได้ตาเล็กจนตัวสั่น มันคงจะเป่าหูจนหนูเป็นแบบนี้แน่ ๆ
ลิน..ลินอย่าไปเชื่อมันนะลูกนะ..”
“ฉันรู้แล้วว่านายอนุชาได้เชื้อตอ
แหลมาจากไหน..นี่..ตัวแม่เลยนะเนี่ย
ฉันจะบอกให้นะ..ระหว่างคุณตากับป้า..ถ้าจะมีใครสักคนที่เชื่อไม่ได้
ฉันว่าน่าจะเป็นป้ามากกว่า.. ถ้าเอามาประชันกันแล้ว.. ท่าทางแม่ผัวจะตอแหลชนะเลิศ
!!” อมราสะอึก..หน้าเริ่มซีด..
“นี่หนูลิน..ว่าป้าเหรอจ๊ะ”
“ต๊าย..ที่เขาบอกว่าคนแก่มักหูตึง..นี่ท่าจะจริง..พูดกรอกหูขนาดนี้ยังฟังไม่ถนัดอีก”
“หนูพูดกับฉัน..ขนาดนี้เลยเหรอ”
“โถ..ป้าขา..นี่ยังถือว่าเกรงใจนะคะ เห็นว่าจะอยู่หายใจอีกไม่กี่ปีก็สิ้นสังขาร
เลยไม่อยากให้ทรมานใจมาก นี่ถ้าอายุเท่ากัน..อย่าหวังเลยว่าฉันจะพูดแค่นี้ !!
จะด่าให้กรี๊ดสลบไปต่อหน้าต่อตาเลย !!” “อะ..อลิน !!
ที่..แท้เธอเป็นคนแบบนี้เหรอเนี่ย” “ใช่ ! แล้วก็จำไว้ด้วย
ถึงแม้ฉันจะสวยแต่ฉันไม่โง่ !!! และนับจากนี้ต่อ
ไปอย่าหวังเลยว่าจะได้เงินจากฉันแม้แต่สตางค์แดงเดียว !!”
อมราถึงกับเซ...อลินปรายตาอย่างดูถูก แล้วพูดต่อ
“ถ้าหมดธุระก็เชิญออกไปได้แล้ว ! เพราะฉันมีธุระต้องจัดการ..
ฉันกำลังวางแผนแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกชายคุณหญิง !!”
อมราผงะ.. เพรียวโทรฯ เล่าเรื่องที่งานแต่งงาน
อลินกับอนุชายกเลิกให้หมิงฟัง หมิงฟังอย่างอึ้ง ๆ
เพรียวพูดจบก็กำชับให้หมิงอย่าบอกใคร หมิงรับปาก
บ่ายวันนั้นข่าวหนังสือพิมพ์ขึ้นหน้าหนึ่งเรื่องอลินล้มงานแต่งงาน
พสุหยิบมาดู...แล้วถอนใจเบา ๆ
อลินบอกปฏิคมว่าตนเคลียร์เรื่องอนุชาหมดแล้ว
ปฏิคมยิ้มบอกตนก็คิดแผนที่จะทำให้พสุยอมแต่งงานกับอลินได้แล้ว อลินยิ้มแก้มปริ
ปฏิคมยื่นหน้ามาหาอลิน “คุณ-ลิน-ต้อง-เคลียร์-เอา-เอง”
“นี่นายเอาเรื่องครูกุ๊กมาเป็นตัวล่อ หลอกใช้งานฉันเหรอฮะ”
“ใช่ครับ ! คุณลินหลอกใช้คนอื่นมามากแล้ว โดนบ้างก็ดีนะครับ”
อลินผงะ ปฏิคมยิ้มแป้น คว้าแฟ้มเอกสารเตรียมไป อลินผงะไปเล็กน้อย
ก่อนจะตั้งสติได้ “นายตัวเปี๊ยก !!
นี่..นายกล้าดียังไงมาพูดแบบนี้กับฉัน ฉันจะไปฟ้องพ่อ ฉันจะให้พ่อไล่นายออก
!!” ปฏิคมไม่สนใจ ถือเอกสารแล้วก็เดินมาที่ประตู
“เลิกขู่เถอะครับคุณลิน..ผมไม่กลัว
ผมรู้ว่าคุณลินไม่กล้าทำอะไรผมหรอก.. เพราะผม..
เป็น-เพื่อน-ไอ้-ดิน”อลินมาหาโสภิตาที่ร้าน
“คุณลินอยากแต่งงานกับดิน !!”
โสภิตาอึ้ง

จบสูตรเสน่หา ตอนที่ 19

สูตรเสน่หา ตอนที่ 20

อลินแอบสะอึกนิด ๆ “ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้ค่ะ ลินแค่อยากแต่งงาน
ไม่ได้จะไปปล้นร้านทอง !!” “ขอโทษค่ะ คือ..
ตาตกใจนิดหน่อยที่คุณลินพูด..ตรง ๆ แต่ก็ดีค่ะ.. ตรงดี”
“อายุปูนนี้แล้ว จะมาอ้อมค้อมทำไม คะ มัวแต่ปากกับใจไม่ตรงกัน
เดี๋ยวก็เข้าวัยทองกันพอดี เฮ่อ..แต่ครูกุ๊กนี่สิ..ยังโกรธอยู่ได้
ง้อไม่รู้ตั้งกี่รอบไม่ยอมยกโทษให้สักที ง้อจนหมดมุกแล้วเนี่ย ..”
“ดินเขาก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ เขาเป็นคนมีปมเรื่องลูกเมียน้อย
เป็นพลเมืองชั้นสองในบ้าน เขาเลยพยายามที่จะเป็นที่หนึ่งเสมอ” อลินตั้งใจฟัง
“พยายามเรียนให้เก่งที่สุดในห้อง ทำอาหารให้เก่งที่สุดในชั้น
เขาอยากเป็นหนึ่งในทุกเรื่อง..ไม่เว้นแม้แต่เรื่อง..ความรัก..พอเขาเห็นว่าคุณลินให้คะแนนตัวเองน้อยมาก
ก็เลยรับไม่ได้” “คุณตารู้เรื่องคะแนนด้วยเหรอคะ
นายตัวเปี๊ยกแน่ ๆ !! สาระแนจริง ๆ” “คมเป็นห่วงดินน่ะค่ะ
เขาเล่าให้ฟังเพราะอยากให้ช่วยปลอบใจดิน..”
“ตอนนั้นครูกุ๊กคงเศร้ามาก..เฮ่อ..
สมควรแล้วที่ลินจะโดนครูกุ๊กเกลียด” “ดินไม่เกลียดคุณลินหรอก
ดินรักคุณลินมากนะคะ” อลินอึ้งไป..
“ครูกุ๊กเนี่ยนะคะ..รักฉัน” “ถ้าไม่รัก..ไม่ทำให้ขนาดนี้หรอกค่ะ
ตอนที่ดินรู้ว่าคุณลินรู้ความจริงเรื่องคุณเล็ก เขารีบมาหาคุณลินด้วยความเป็นห่วง
ถ้าเขาเกลียดคุณจริง ๆ วันนั้นเขาคงไม่มา” “ถ้าเขารักลิน
แล้วทำไมต้องโกรธ งอน แล้วก็หนีแบบนี้ด้วยคะ”
“ความรักทำให้คนเราอ่อนแอนะคะ..
ที่ดินเขาหนี..เพราะเขากลัว..กลัวว่าจะเจ็บอีก”
อลินอึ้ง..คิดตามอลินขับรถกลับที่พัก
พลางคิดถึงสิ่งที่โสภิตาแนะนำแล้วก็คิดออก
อลินรีบกลับมาที่ห้องพักหยิบปากกาด้ามทองที่สักคำว่า “cook’s girl”
อลินยิ้มแล้วก็นึกถึงตอนที่ให้ปากกาพสุ “cook’s girl !
สาวน้อยของครูกุ๊ก.. เอาล่ะอลิน..ได้เวลาแก้ไขสิ่งที่มันผิดให้ถูกได้แล้ว !!”
อลินเปิดสมุดบันทึกออก
แล้วก็หยิบปากกาสารพัดสีลูกกวาดมาวางเรียงไว้ พร้อมกับปากกาอันใหม่
แล้วก็เริ่มลงมือแก้คะแนนใหม่อย่างตั้งใจ ที่บ้านบริบรรณ
วายุโดนไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง เลือดสาดกระเซ็น วายุล้มลง
“ทำไม เจ้านายมึงไม่เอารถกูไป”
“เพราะเจ้านายผมไม่อยากได้รถ..เจ้านายผมอยากได้เงิน..ถ้าพี่เอาเงินมาให้ไม่ได้
ผมก็จะมาซ้อมพี่ แล้วก็ทำลายของพี่ทุก วัน ! พรุ่งนี้ผมจะมาอีกที ถ้าพี่หนี..
มึงตาย” นักเลงเงินกู้กระชากหัววายุ จนตัวเซล้มกับพื้น
อมราโวยวายเมื่ออนุชาบอกจะขายบ้านและเอาเงินที่ได้ไปเช่าบ้านใหม่ให้อมราอยู่กับคนใช้หนึ่งคน
ส่วนตนจะไปอยู่กับโสภิตาและปูเป้ อมราโวยวายไม่พอใจ
“ทำไม..ทำไมชีวิตฉันถึงต้องมาเป็นแบบนี้..ทำไม..เพราะนังอลินคนเดียว..ถ้ามันแต่งงานกับเล็ก..ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้
!” นักเลงโทรฯ เข้ามือถือของวายุเพื่อทวงเงิน วายุกลัวรีบกดวางแล้วมาขอให้วารินช่วย
วารินอึ้งเมื่อรู้ว่าวายุเป็นหนี้ 7 ล้านบาท วารินว่าไม่มี
วายุขอให้วารินไปขอเงินนภาให้ตน วารินไม่ยอม
“ทำไมคนบ้านนี้มันถึงใจแคบกันแบบนี้วะ !!
หรือต้องให้มีคนตายก่อนแล้วค่อยสำนึก.. ถ้าผมตายไป จะมาหลอกทุกคน
ให้อยู่ไม่เป็นสุขเลย..คอยดู !!”
วายุพูดจบก็กระฟัดกระเฟียดออกไป วารินมองตามด้วยความแปลกใจ
วายุเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงผ่านมาที่ห้องแม่ใหญ่
แล้วก็มาสะดุดกับแม่ใหญ่ที่นอนอยู่ วายุเดินเข้ามาหาแม่ใหญ่ราวกับโดนสะกด
วายุนึกถึงเรื่องพินัยกรรมที่จะเปิดออกหลังแม่ใหญ่ตาย
วายุยืนมองแม่ใหญ่นิ่งสีหน้าครุ่นคิด ทันใดนั้นเอง
เสียงนงพะงาก็ดังขึ้น วายุสะดุ้งเฮือก หันมาเห็นนงพะงายืนอยู่กับพสุ
พสุถือแจกันอยู่ วายุมองหน้าพสุ
แล้วเดินมาพร้อมกับพูดเสียงเหยียด “หวังว่าแกคงจะเจียม ตัว
ไม่คิดว่ายัยนางเอกนั่นมันยกเลิกงานแต่งงานแล้วจะวิ่งซมซานมาหาแก
ไอ้หมามองเครื่องบิน !!” พูดจบวายุก็เดินไป
นงพะงามองตามส่ายหน้าด้วยความเอือมใจ
แล้วหันมามองพสุด้วยความเห็นใจอลินวางแผนเพื่อให้พสุยกโทษและหายโกรธตน
โดยให้ต้องตาโทรฯ
ไปหาพสุแล้วบอกมีรายการทำอาหารเด็กจ้างตนเป็นพิธีกรแต่พอดีแม่ไม่ว่างพาไปจึงโทรฯมาขอให้พสุไปเป็นเพื่อน
พสุฟังแล้วไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรจึงจำต้องไปเป็นเพื่อน ต้องตา
ต้องตาพับโทรศัพท์เก็บ แล้วยัดใส่กระเป๋าสะพายเหมือนผู้ใหญ่
ก่อนจะหันมาทางอลิน “เรียบร้อยค่ะ
ครูดินรับปากว่าจะพาต้องกับตามมาถ่ายรายการคุณน้า ค่าแรงสำหรับแผนขั้นที่หนึ่ง !”
ต้องตาแบมือขอเงิน “ตั๋วเครื่องบินไปกลับญี่ปุ่น 4
ที่นั่งสำหรับเธอและครอบครัว” ต้องตากระโดดลงจากเก้าอี้
แล้วก็หันมาพูดเหมือนผู้ใหญ่ “เรื่องแค่นี้..สบายมาก !
ระดับต้องตาไม่มีคำว่าผิดหวัง พรุ่งนี้เจอกันค่ะ..คุณน้า !!”
อลินแทบปรี๊ด..ต้องรีบทำสมาธิ..ไม่อยากฆ่าเด็ก คล้อยหลังต้องตา
อลินออกมาคุยกับปฏิคมเรื่องของพสุ เพรียวที่ถือแก้วกาแฟมาได้
ยินว่าอลินจะแต่งงานกับพสุก็อึ้งเกือบทำแก้ว ตกแตก ที่สวนสาธารณะ
พสุจูงมือพาต้องตากับตามพงศ์เดินมาในมุมสวย พสุมองรอบ ๆ เริ่มสงสัย
“น้องต้องจำที่ถ่ายทำผิดหรือเปล่าครับ ทำไมไม่เห็นมีใครเลย”
“ต้องจำไม่ผิดหรอกค่ะ...งั้นครูดินรออยู่ก่อนนะคะ
เดี๋ยวต้องเดินหาทีมงานก่อน”
ต้องตารีบวิ่งไปที่แผงต้นไม้ข้างหน้า พสุงง
ทันใดนั้นต้องตาก็เดินกลับออกมาคนเดียวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ พสุชะงัก ต้องตาค่อย ๆ
เอาสมุดบันทึกของอลินที่ซ่อนไว้ข้างหลังมาถือไว้ข้างหน้า
พสุปะติดปะต่อเรื่องราวต่าง ๆ แล้วรู้ทันทีว่าเป็นแผนของอลิน
อลินแอบมองพสุและต้องตาอยู่หลัง ต้นไม้
ต้องตาบอกอลินสำนึกผิดแล้ว พสุถามต้องตาว่าอลินติดสินบนอะไร
“ครูดินดูถูกต้อง ! ที่ต้องช่วย เพราะสงสาร
เขาบอกว่าครูดินโกรธจนไม่มองหน้า รังเกียจยิ่งกว่าไส้เดือน กิ้งกือ
คางคกที่โดนรถสิบล้อทับ”
พสุกอดอกฟังต้องตาเล่นละครต่อไป “คุณแม่เคยสอนว่า...
คนทำผิดแล้วสำนึกก็ควรให้อภัย
ต้องเลยรับอาสาช่วยคุณน้าเขา..มันก็เท่านั้นเองค่ะ”
พสุคลายมือจากการกอดอกแล้วก้มตัวลงยื่นหน้ามาหาต้องตาบอกโกหกบาปนะ
“ครูรู้จักลูกศิษย์ตัวเองดี ทั้งศิษย์เล็ก และศิษย์โข่ง คุณลินเขาเงินเยอะ
เลยใช้เงินซื้อทุกอย่าง ต้องยังเด็ก..หลอกล่อง่าย”
อลินสะอึก..ต้องตายังพยายามปิดบัง
แต่ในที่สุดก็ยอมบอกพสุว่าอลินติดสินบนอะไรตน พสุมองต้องตาขำ ๆ
“ตกลง..ครูดินรับสมุดเขาไว้นะคะ..” ต้องตายัดไดอารี่ใส่มือพสุ
แล้วก็วิ่งไปเลย
อลินยืนลุ้นว่าพสุจะเปิดอ่านหรือเปล่าพสุมองไดอารี่ แล้วก็ตัดสินใจเปิดอ่าน
อลินยิ้มแฉ่งใจเต้นแรง...พสุกรีดเปิดไดอารี่ ตรงหน้าที่มีปากกาคั่น ..พสุชะงักนิด ๆ
หยิบปากกามาดู “cook’s girl ...” พสุส่ายหน้า
พสุก้มหน้าดูไดอารี่หน้าที่อลินคั่นไว้
“คะแนนความรัก..จากหนึ่งคะแนนเป็น...ร้อย” “อนุชา.. คะแนนติดลบ
200 คะแนน” พสุอ่านอึ้ง ๆ พสุเงยหน้าจากสมุดบันทึก
แววตาครุ่นคิด..ทันใดนั้นเสียงอลินก็ดังขึ้น
“ครูกุ๊ก....” พสุค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นตามเสียง
“เอ่อ..คือ..ฉันขอโทษนะคะ.. ขอโทษที่ชอบทำให้ครูกุ๊กโกรธ
ขอโทษที่เอาแต่ใจตัวเอง ขอโทษที่ไม่เคยแคร์ความรู้สึกของครูกุ๊ก..ขอโทษเรื่องคะแนน
แต่ตอนนี้..ฉันรู้ใจตัวเองแล้วค่ะ”
พสุนิ่งและฟังอลินอย่างตั้งใจ “ทุกครั้งที่ฉันเสียใจ
และดีใจ คนแรกที่ฉันคิดถึง คนแรกที่ฉันอยากโทรฯ หา
และคนแรกที่ฉันอยากเจอ..ก็คือ..ครูกุ๊ก
คนเดียวที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของฉัน..ฉันไม่เคยต้องเหนื่อย ไม่เคยต้องปิดบัง
หรือพยายามสร้างภาพเวลาที่เราต้อง อยู่ด้วยกัน
ครูกุ๊กบอกเองว่า..ครูกุ๊กรักที่ฉันเป็นแบบนี้..”
พสุสะดุ้ง
“ฉันก็อยากจะบอกกับครูกุ๊กว่า...ฉันก็รัก...” “พอเถอะครับ
!มันสายเกินไปแล้ว.. ..
ถึงผมรับฟังมันก็ไม่มีประโยชน์..มันเป็นไปไม่ ได้ !!”
“มันจะเป็นไปไม่ได้ได้ยังไงในเมื่อ..ฉันรักครูกุ๊กจริง ๆ !!”
พสุอึ้ง อลินชิงพูดขึ้นก่อน “ฉันรักครูกุ๊กจริง ๆ นะคะ..ถึงจะรู้ตัวช้าเกินไป
แต่มันก็คือความจริง..ลืมเรื่องที่ผ่านมา..แล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ..”
“ที่คุณรู้สึกแบบนี้เพราะคุณสับสนที่ไม่ ได้แต่งงานกับนายอนุชา..
ผมไม่อยากเป็นแค่ใครสักคนที่เข้ามาแทนที่ใครบางคน
ผมไม่เชื่อว่าคุณจะรักผมอย่างที่คุณพูดจริง ๆ
คนอย่างผมไม่ใช่ผู้ชายในแบบที่คุณชอบ..อย่าพยายามอีกเลย
เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้..จริง ๆ !!” พสุส่งสมุดบันทึกให้ แล้วมองหน้าอลิน
ก่อนหันหน้าหนี แล้วเดินจากไป อลินอึ้งไปอนุชามาที่ร้านเป้หวาน ปูเป้ดีใจมาก
อนุชาบอกจะย้ายมาอยู่กับปูเป้และโสภิตา โสภิตาชะงัก
“เดี๋ยวก่อนนะคะ..ปูเป้ให้คุณแม่คุยกับคุณพ่อก่อน
เมื่อกี้คุณเล็กบอกว่า..จะย้ายมาอยู่ที่นี่..มันหมายความว่ายังไงคะ เอ่อ..แล้ว
คุณแม่ของคุณ...” อนุชาหน้านิ่งอมรานั่งคุยอยู่กับหมิง
เรื่องการล้มงานแต่งของอนุชากับอลิน อมราว่าที่ต้อง
ยกเลิกงานแต่งเป็นเพราะอนุชาทนไม่ได้ต้องอยู่กับอลินซึ่งเป็นคนต่ำ ๆ ไม่ใช่ผู้ดีแท้
หมิงนั่งฟังพลางเก็บข้อมูลเพื่อไปบอกนักข่าวอย่างสะใจ
หลังคุยกับอมราเสร็จ หมิงรีบโทรศัพท์ หาเพรียวเมาท์เรื่องอลิน
เพรียวใส่สีตีไข่เรื่อง
ของอลินสนุกปากบอกอลินประกาศลั่นบริษัทว่าจะเอาพสุมาทำสามีให้ได้
หมิงยิ้มเยาะ “คนไม่มีที่ยึดเหนี่ยวทางใจก็อย่างนี้แหละค่ะ
ต้องคอยวิ่งไล่จับผู้ชาย ตอนแรกก็อยากได้ไฮโซ แต่พอหมดหนทาง
ก็เลยคว้าไม่เลือก..ขนาดลูกคนใช้ก็ยังไม่เว้น !! ช่างตกต่ำจริง ๆ”

จบตอนที่ 20

สูตรเสน่หา ตอนที่ 21
อลินเล่าเรื่องที่พสุเดินหนีไม่สนใจตนทั้งที่ตนสารภาพรักให้ฟัง ปฏิคมพูดหน้าตาเฉย
ไม่ได้เห็นอกเห็นใจอลินแม้แต่น้อย
“ปล่อยไอ้ดินมันไปเถอะครับ..ในเมื่อมันไม่สนใจคุณลินจะไปตามตื๊อมันทำไม”
“ใครบอกว่าครูกุ๊กไม่สนใจฉัน เขาเป็นคนบอกฉันเอง ว่าเขารักฉันในแบบที่
ฉันเป็น คุณตาก็บอกว่าเขารักฉัน แต่ที่เขา ไม่ยอมรับ เพราะเขากลัวเจ็บปวด
และก็เจียมตัวย่ะ เขาคิดว่าฉันต้องการผู้ชายเพอร์เฟกต์ !
“อ้าว...แล้วคุณลินไม่ต้องการแล้วเหรอครับ!
คุณลินเคยบอกว่า..ชอบอยู่ในความฝันไม่ใช่เหรอครับ อย่าลืมสิครับ”
“นี่นายตัวเปี๊ยกมาชักใบให้เรือเสียอยู่ได้ ฉันกำลังหาทางเอาชนะใจครูกุ๊ก
นี่ก็มาคอยพูดสกัดอยู่ได้ .. เป็นไรมากปะเนี่ย”
“ก็..ไอ้ดินมันเป็นเพื่อนผมนะครับ เห็นแก่มิตรภาพ..ปล่อยเพื่อนผมไปเถอะครับ”
“นี่ถามหน่อย..
นายคิดว่าบนโลกนี้จะมีผู้ชายคนไหนทนฉันได้บ้างหรือเปล่า”
ปฏิคมรีบส่ายหน้า “ไม่มีครับ..ไม่ มี !” “ถูก
!! เพราะฉะนั้นฉันได้มาเจอกับครูกุ๊กทั้งที นายคิดว่าฉันจะปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ
หรือไงฮะ” ปฏิคมเหวอไป..
“พอกันทีกับชายในฝันเพ้อเจ้อ.. นับจากนี้ต่อไปฉันต้องการตัวจริงเท่านั้น !!
และฉันจะต้องหาทางทำให้ครูกุ๊กไว้ใจ และมั่นใจในความรักของฉันให้ได้ !!
ไม่ว่าจะถูกปฏิเสธกี่ครั้ง ฉันก็จะไม่ยอมแพ้ !”
อลินประกาศกร้าว..ปฏิคมถึงกับเอามือกุมขมับ
“ว่าแต่ฉันจะทำยังไงต่อไปดี” อลินปรายตามองปฏิคมด้วยความ
เซ็ง..
อนุชาพาคุณหญิงอมรามาอยู่ที่บ้านหลังกลางเก่ากลางใหม่ พร้อมเด็กรับใช้อีก 1
คน อมราหาว่าอนุชาอกตัญญู ที่จะทิ้งแม่ไปอยู่กับโสภิตา
อนุชาว่าไม่ได้ทิ้งเพราะจะกลับมาทานข้าวกับอมราทุกวัน
ยังดูแลและหาเงินมาให้ใช้เหมือนเดิม
และว่าตอนนี้พรรคการเมืองก็ไม่ได้เลือกอมราให้ลงเลือกตั้งแล้วก็ให้อมราอยู่กับบ้าน
ส่วนตนเองจะพาหลานมาเยี่ยม อมรายังทิฐิสูงบอกไม่ต้องเพราะไม่อยากเจอทั้งแม่ทั้งลูก
อนุชาส่ายหน้าเหนื่อยใจมั่ก
ๆอนุชาหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ามาหาโสภิตาและบอกว่าจะมาอยู่ด้วย จะให้นอนตรงไหนก็ได้
ยอมทุกอย่าง แต่โสภิตาเห็นแล้วอึ้งก่อนจะกัดฟันพูดว่าไม่ให้อยู่
“ทำไมล่ะตา..เพราะดินใช่มั้ย ?” อนุชาหน้าเจื่อน
“ดินไม่เกี่ยว” “ไม่เกี่ยวได้ยังไง
ในเมื่อเขากับคุณเป็นแฟนกัน”
โสภิตาชะงักกึก..มองหน้าอนุชา..แล้วก็ขำ..เพิ่งนึกขึ้นมาได้ อนุชาแปลกใจ
“ขำอะไร ? ผมพูดอะไรผิด ?”
“ตาเริ่มเห็นด้วยกับคุณลินแล้วว่าคุณเล็กหลอกง่ายจริง ๆ”
อนุชาเริ่มเข้าใจ ชี้นิ้วไปทางโสภิตา
“อ๋อ..นี่แสดงว่าตาโกหกผมเรื่องดินมาโดยตลอดเหรอเนี่ย..ร้ายเหมือนกันนะ..คิดเหรอว่าผมจะยอมให้หลอกฟรี
ๆ ..” อนุชามองหน้าโสภิตาเกิดอาการหมั่นเขี้ยวขึ้นมาซะงั้น ปรี่เข้ามาหาโสภิตา
โสภิตาหน้าตื่นถามว่าจะทำอะไร“ลงโทษคนใจร้าย หลอกให้หึงอยู่ได้ตั้งนาน”
“ตาไม่ได้ใจร้ายนะคะ..ตาก็แค่ป้องกันตัวนิดหน่อย..” โสภิตาอมยิ้มเขิน ๆ
“ไม่ต้องเลย..ไม่ต้องมาแก้ตัว มาให้ผมลงโทษซะดี ๆ..”

โสภิตาแอบยิ้มนิด ๆ แต่ก็เขิน ๆ ไม่ยอมรับ
เดินหนีไม่ยอมง่าย ๆ อนุชาเองก็ไม่ยอมพยายามจะประชิดตัวให้ได้
ทั้งสองคนเล่นกันเหมือนเด็ก ๆ
อนุชาเผยตัวตนที่ซ่อนไว้หลังสูทมานานโสภิตากับอนุชาวิ่งไล่กันเหมือนเด็ก ๆ
ทั้งสองคนดูมีความสุข ทั้งที่โสภิตาก็ยังแอบมีฟอร์มนิด ๆ แต่ในใจก็ยอมไปหมดแล้ว
อนุชาปลดปล่อยตัวเองออกมาอย่างหมดเปลือก
เสียงหัวเราะของทั้งสองคนดังอบอวลร้านรถอลินแล่นมาจอดที่หน้าร้าน อลิน หน้าเซ็ง ๆ
ยังคิดเรื่องพสุไม่ออก พอหันไปที่ร้านเป้หวานแล้วก็ชะงักกึก เพราะเห็นอนุชา
กำลังวิ่งไล่จับโสภิตาท่าทางมีความสุข สนุกสนานกันอย่างแรง อลิน ปรี๊สสสส
ขึ้นมาทันที ไม่ย๊อม....ไม่ยอมโสภิตายังวิ่งหนีอยู่น้ำเสียงเบิกบาน อนุชา
วิ่งไล่เหมือนเด็ก ๆ รอยยิ้มพราวไปทั้งหน้า สุขเหลือเกิ๊นนนน!!
โสภิตาหันตัวจะหนีไปอีกทาง แต่อนุชามาดักไว้ แล้วก็รวบตัวมากอดจนได้ มั่บ !!
“ว้ายยยยย !! คุณเล็กปล่อยนะคะ” “ไม่ !!
จนกว่าจะให้ผมลงโทษคุณก่อน” อนุชาพูดยิ้ม ๆ และยื่นหน้าเข้าไปจะหอมแก้มโสภิตา
ทันใดนั้นก็มีกระเป๋าแบรนด์เนมสุด ไฮโซ
ลอยละลิ่วปลิวมากระแทกหัวอนุชาอย่างแรง พลั่กกกกก !!!
“โอ้ยยยยยยย !!!” อนุชาร้องลั่น อนุชาหันขวับมาในวิถีแห่งกระเป๋า
ปะทะ กับอลินที่ยืนท้าวเอวหน้าจิกสุด ๆ “ไอ้จอมตอแหล มาทำอะไรที่นี่หะ
?” อนุชากับโสภิตาตกใจ อนุชาลืมตัว ปล่อยมือจากโสภิตา “คุณ
ลิน...” แล้วก็นึกได้..เฮ้ย.. ไม่ต้องปล่อยนี่หว่า แล้วก็มากอดเหมือนเดิม
“คุณลิน..ผมรู้ว่าคุณโกรธ
แต่ตอนนี้เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว..คุณไม่มีสิทธิมาหึงผมนะครับ”
จี๊ดดดดด..จี๊ดดดเลย..อลินจิกปาก..แทบอยากจะพุ่งเข้ามาแหกอก
“ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ ใครบอกฉัน “หึง” ฉัน “เกลียด” ย่ะ
หนอยยยยย..กล้าดียังไงมาหาว่าฉันหึง ไอ้..ไอ้.. คนไม่เจียมตัว
คนอย่างนายมีอะไรให้ฉันหึงหะ..” อลินหันไปคว้าหนังสือมาปา
อนุชาปล่อยมือจากโสภิตาแล้วรีบกระโดด หลบ โสภิตาตกใจไปด้วย
อลินให้อนุชาถอนคำพูด อนุชารีบทำตามเพราะไม่งั้นอลินเอาตายแน่
“ดี !” อลินเย็นลงมานิสนึงแต่เสียงยังแจ๋นอยู่ “แล้วมาทำอะไรที่นี่
โดดงานหรือไงหะ ? เดี๋ยวฉันก็ไล่ออกซะหรอก !!”
“เปล่าครับ..ผมไม่ได้โดด ผมแค่แวะเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาไว้
ที่นี่” “เอามาไว้ที่นี่ทำไม
อ๋ออออ..อย่าบอกนะว่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่” อนุชาอึกอัก
อลินหันขวับมาทางโสภิตา “อย่ายอมนะคะคุณตา ผู้ชายไม่มีความเป็นผู้นำ
ตอนมีเงินมีทองไม่ยอมลุกมาปกป้อง ตอนนี้หมดตัวจะหนีหัวซุกหัวซุนมาขออยู่ด้วย
เราต้องไม่ยอม!!” อนุชามองหน้าโสภิตาอ้อน.. โสภิตาตอนแรกก็ไม่ยอม
แต่พอเห็นอนุชาโดนด่าต่อหน้าก็ใจอ่อน “ดีค่ะ
เป็นผู้หญิงต้องหยิ่งเข้าไว้ ผู้ชายไม่จริงใจ (กระแทกเสียงใส่)
ได้มาเป็นสามีก็ทรมานใจ ไล่กลับไปเลย ... เอางี้..ลินไล่ให้ก็ได้ ไป..
แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ” อลินไล่ ราวกับว่าเขามาหาตัวเอง...อนุชามึน ๆ งง
ๆ.. โสภิตาเกิดสงสารอนุชาขึ้นมาซะงั้น หันมามองตาปรอยยยย...อนุชามองหน้าโสภิตา
สองคนมองหน้ากัน
คล้ายกับว่าอลินเป็นนางมารที่กีดขวางความรักระหว่างสองเรา..อนุชาจ๋อย ๆ
ก้มหน้าหันมาลากกระเป๋า ดูเผิน ๆ เหมือนกำลังเดินออกจากบ้าน AF
โสภิตาเห็นแล้วสงส๊าร..สงสาร อยากจะรั้งไว้แต่ก็เกรงใจ อลิน
..ทันใดนั้นเองเสียงอลินก็ดังขึ้นราวกับระฆังจากสรวงสวรรค์ “เดี๋ยว !!
ฉันเปลี่ยนใจแล้ว !” หะ..ทั้งอนุชาและโสภิตาชะงักกึก..หันมาทางอลิน อย่างมีหวัง
อลินกอดอก เหมือนนางพญา ถือวิสาสะชี้ชะตาชีวิตทั้งสองคน
“ฉันอนุญาตให้นายอยู่ที่นี่ก็ได้”
อนุชาและโสภิตาเผลอตัวยิ้มออกมาพร้อมกัน อนุชาปรายตาเห็นโสภิตายิ้มก็อมยิ้ม..
แน้..รู้นะว่าดีใจ โสภิตารู้ตัวรีบหุบยิ้มทำเก๊ก.. แต่ไม่ทันแล้ว อลินพูดต่อ
“แต่...นายต้องไปนอนในครัว !! ห้ามขึ้น ไปนอนกับคุณตาเป็นอันขาด !!
ถ้าฉันจับได้ว่าขัดคำสั่งฉันจะไล่นาย ออกจากบริษัท แล้วก็ออกจากบ้านนี้ด้วย”
อลินหัน มาทางโสภิตา “ใช่มั้ยคะคุณตา ?”
“เอ่อ.. ค่ะ ...” อลินหันขวับมาจิกตาใส่อนุชา “ชัดแล้ว
ก็ไปได้! แล้วก็อย่ามาทำสวีทต่อหน้าฉัน ฉันยังไม่มีความสุข นายก็ห้ามมีความสุข !
ไปได้แล้ว” “ครับ ! ตาจ๊ะ
งั้นผมฝากกระเป๋าไว้ก่อนนะ..เย็นนี้เลิกงานแล้วผมจะรีบกลับ”
อนุชายิ้มมีความสุข “ค่ะ” โสภิตายิ้มเขิน ๆ
สองคนยิ้มกันไปมาน่ารัก..อลินมอง ซ้ายมองขวาแล้วก็ปรี๊สสสสส
“ฉัน-บอก-แล้ว-ไง-ว่า-ห้าม-สวีท-ต่อ-หน้า-ฉัน-มัน-อิจ-ฉา”
“ครับ ไปแล้วครับ ..” อนุชายังแอบหันมาส่งยิ้มให้โสภิตา โสภิตายิ้มรับนิด ๆ
อลิน หันขวับมาจิกปลายหางตาด่าอนุชา อนุชารู้ตัวรีบหุบยิ้มและเดินออกไป
โสภิตาลืมตัวแอบมองตามพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก
อลินปรายหางตามาเห็น
ก็รู้ทันทีว่าคู่นี้คืนดีกันแล้ว..อลินยิ่งคิดยิ่งสมเพชตัวเองอลินหงุดหงิดระบายให้โสภิตาฟังว่าเธอเป็นคนผิดหวังอยู่คนเดียว
โสภิตาปลอบใจว่าอลินเพิ่งยกเลิกการแต่งงานเลยทำให้พสุยังไม่แน่ใจ
อลินไม่เข้าใจว่าทำไมพสุไม่ยอมยกโทษให้เธอสักที วันรุ่งขึ้น
หนังสือประเภทก็อซซิปต่างก็ประโคมข่าวเรื่องรักร้าวระหว่างอนุชาและอลิน
จนถึงขั้นล้มเลิกการแต่งงาน โดยข่าวจะเป็นไปในทำนองว่า อลินถูกทิ้ง
อลินอกหักต้องไปคว้าคนใกล้ตัวอย่างพสุมาดามอกประชดแฟนเก่าไฮโซอย่างอนุชา
บ้างก็ว่าพสุเป็นมือที่สาม พสุเห็นแล้วถอนหายใจ ส่ายหน้า..งานเข้าอีกแล้ว เซ็งสุด ๆ

ขณะที่อมราโทรฯหาหมิงขอบคุณที่หมิงช่วยกระจายข่าวให้ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างสะใจ
ด้านหมิงก็สะใจที่เอาคืนอลินได้ที่กองถ่าย
ฮยองกึนมาโวยวายไร้สติกับอลินที่ไม่ยอมบอกเรื่องที่พสุเป็นลูกคนใช้
“ยองกึนก็เห็นว่าเป็นเชฟ ทำอาหารอย่างเท่ หน้าตาผิวพรรณก็ดูดี
ไม่อยากจะเชื่อเลย..ว่ากำพืดจะต่ำขนาดนี้..หลงละเมอเพ้อถึงอยู่ได้ตั้งนานสองนาน
คิดแล้วก็เสียดายเซลล์สมองจริง ๆ” อลินจี๊ดเลย..จี๊ดเลย
“มีสมองกับเขาด้วยเหรอ ? ถ้ามีก็หัดเอามาใช้ซะบ้างนะ
ไม่ใช่มีไว้แค่ถมช่องว่างในกะโหลก” ฮยองกึนผงะแรงงงง !!
“พี่ลินมาด่ายองกึนทำไมคะเนี่ย ผีเจ้าที่เข้าหรือไงหะ ?”
อลินลุกพรวดขึ้น “นี่ ! ระดับฉันไม่ต้องรอให้ผีเข้า ฉันก็อาละวาดได้
ร้ายกว่าผีอีกจะบอกให้ แล้วหล่อนเป็นใครยะ มีสิทธิอะไรมาดูถูกครูกุ๊กของฉัน !
เป็นแค่ดาราหน้าใหม่เกาะกระแสเกาหลี
ถ้าคนดูเขาเลิกเห่อเมื่อไหร่หล่อนก็เป็นแค่เด็กใจแตก ระริก ๆ อยากเสียตัวไปวัน
ๆ” ฮยองกึนกรี๊ดดดดดดสนั่นนนนนน อลินก็กรี๊ดดดดดดดดดดดด
กลับไปบ้าง ช่างแต่งหน้าที่กำลังทำงานอยู่ เห็นท่าไม่ดีค่อย ๆ
ย่องออกไปด้วยอาการขนหัวลุก ไปร้องเรียกให้คนมาห้ามทัพ
“นี่ถามหน่อยเถอะค่ะ..พี่ลินเฮิร์ทมากเหรอคะที่โดน “ทิ้ง”
จนกลายเป็นม่ายขันหมาก
ถึงได้หลับหูหลับตาไปคว้าคนระดับผู้ใช้แรงงานมาดามหัวใจ”
“ปากแบบนี้ เขาไม่ได้มีไว้พูด แต่เขามีไว้ให้....”
พูดจบอลินก็ฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของฮยองกึนเต็มที่..เพียะ !!
ฮยองกึนร้องกรี๊ดดดดด สนั่นหวั่นไหว “พี่ลินตบหน้ายองกึน”
“ใช่ ! และถ้าหล่อนยังไม่หยุดดูถูก ครูกุ๊ก ฉันก็จะตบอีก !”
“กรี๊ดดดดดด ! โหดร้าย ป่าเถื่อน คิดเหรอว่ายองกึนจะยอม อ๊ากกกกกกซ์
!!!” ทันใดนั้นฮยองกึนก็เอาตัวพุ่งเข้าใส่อลิน อลินเซถลาล้มลงไปที่กองเสื้อผ้า
และทั้งสองคนก็ซัดกันนัว ฮยองกึนออกแนวข่วนแบบเด็ก ๆ นี่แน่ะ ๆๆๆๆ
อลินทั้งป้องกันตัว ทั้งตอบโต้ จิกหัว ผลักหัว บีบจมูก ขยี้หัว ดึงหู
ฮยองกึนร้องกรี๊ดกร๊าด ปากก็ด่าไปด้วย “ช่วยด้วย คนแก่รังแกเด็ก
!!” อลินจิกหัวฮยองกึนขึ้นมา ขยี้ ๆๆๆๆ ทำให้ขี้เหร่ บีบจมูก
ปิดปากให้หายใจไม่ออก ฮยองกึนทำท่าเหมือนจะขาดใจตาย
อลินทำร้ายฮยองกึนไป ด่าไป “ใคร.. แกว่าใครแก่..นี่แน่ะ นังแอ๊บแบ๊ว
ตอนฉันอายุเท่าหล่อน ฉันหน้าเด็กกว่าหล่อนอีกย่ะ”
ฮยองกึนจิกหัวอลินกลับ อลินไม่ยอมบีบคอ ฮยองกึนข่วน ๆ ๆ ใส่หน้า อลินดึงผม
สุดแสนจะชุลมุน ทันใดนั้นประตูห้องแต่งตัวก็เปิดออกมา แม่ฮยองกึน ผกก. ผู้จัด
ผช.ช่างแต่งหน้า ก็พรวดกันเข้ามาเห็นเข้า ทุกคนอยู่ในอาการเหวอ
ด้านอลินกับฮยองกึนอยู่ในท่าที่ไม่มีใครยอมใคร
!!อลินและฮยองกึนไม่เลิกราเลยต้องจบกันที่โรงพัก นักข่าวก็แห่มากันแน่นขนัด ปฏิคม
ทราบข่าวก็รีบมาประกันตัวให้อลิน
“ที่จริงไม่เห็นจะต้องหอบกันมาโรงพักเลย แม่ว่าเรายอม ๆ
ความกันที่กองถ่ายก็ได้ ดูสิ เลยเป็นข่าวใหญ่โตเลย” แม่ฮยองกึนบ่น
“ชอบให้ลูกสาวดังไม่ใช่เหรอ ! ฉันก็เลยช่วยจัดให้นี่ไง หรือถ้ายังไม่สะใจ
อีกสักรอบก็ได้นะ ทะเลาะวิวาทปรับแค่คนละ 500 เอง.. คุ้มจะตาย..เอาเลยปะ
?” ทุกคนตกใจ..ฮือ..ฮยองกึนผวารีบซุกอกแม่
ปฏิคมพรวดเข้ามาชวนอลินให้กลับ “เดี๋ยว..ฉันยังไม่กลับ..”
อลินลุกขึ้นยืนกลางห้องสอบสวน แล้วก็ประกาศก้อง
“ในเมื่อนักข่าวมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ ฉันจะจัดแถลงข่าวมันซะเลย
ทุกคนจะได้รู้ซักทีว่า..ความจริง..ของความจริงมันคืออะไร !!!”
ปฏิคมอึ้งไปนิด ๆ.. “หะ ? แถลงข่าว..บนโรงพักเนี่ยนะครับ
!!!”อลินตั้งโต๊ะแถลงข่าวเล็ก ๆ บนโรงพัก รอบ ๆ มีนักข่าวมากมายรายล้อม
ปฏิคมนั่งอยู่ใกล้ ๆ คอยดูแลความเรียบร้อย
“ลินขอจัดแถลงข่าวแบบฉุกเฉินเพื่อชี้แจงถึงข่าวมากมายที่ออกไปในช่วงนี้..ตั้งแต่เรื่องยกเลิกการแต่งงาน..ลินขอบอกเลยนะคะว่าเหตุ
ผลที่ “ลินยกเลิกงานแต่งงาน” เพราะลินรับไม่ได้ที่คุณอนุชา มีภรรยา และลูกอยู่แล้ว
!!” นักข่าวฮือฮา..หะ ? ... พร้อมกับแฟลช รัววูบวาบ และรัวถาม
“มีลูกมีเมียแล้วจริงเหรอ มีลูกกี่คน รู้ได้ยังไง มีมานานหรือยัง”
อลินเสียงแอบจิกสุดฤทธิ์ “ลินขอยืนยันว่า..
คุณอนุชามีลูกมีเมียแล้วและทางครอบครัวมีปัญหาเรื่องเงินอย่างรุนแรง ! ลินรับไม่
ได้ ลินจึงเป็นฝ่ายบอกขอยกเลิกงานแต่งงาน เพราะฉะนั้นใครที่ลงข่าวว่าลินโดนทิ้ง
ถ้าไม่อยากโดนฟ้องก็แก้ข่าวด้วย”
การแถลงข่าวของอลินถูกออนแอร์รายการบันเทิงแทบทุกช่อง
อมราดูข่าวแล้วกรี๊ด “กรี๊ดดด นังอลิน !! นังเศรษฐีภูธร
นังเศรษฐีชานเมือง แกกล้าดียังไงมาด่าฉันผ่านทางโทรทัศน์ ! นัง...นังลูกไม่มีแม่ !!
นังจิ้งจอกพันหน้า !!” “สำหรับเรื่องครูกุ๊ก
ลินไม่ปฏิเสธสำหรับข่าวที่ออกมา
ลินสารภาพว่า..ลินกับครูกุ๊กเป็นมากกว่าครูกับลูกศิษย์จริง ๆ.. เราสอง
คนกำลังคบหาดูใจกันอยู่ค่ะ !!” อลินยังพูดต่อหน้านักข่าวที่สถานีตำรวจ ปฏิคมเหวอ
หันขวับมา...หะ ?
พสุดูข่าวและยกน้ำขึ้นดื่มถึงกับสำลักพรวดออกมาในทีวี
อลินพูดอย่างจริงใจไม่ อายยยยย
“แต่ครูกุ๊กไม่ใช่มือที่สามที่ทำให้ลินยกเลิกงานแต่งงาน !!”
นงพะงากับอ้อนวิ่งพรวดเข้ามาในห้อง เพื่อบอกให้พสุดูข่าว
พสุรีบบอกแม่ว่ากำลังดูอยู่ ทั้งหมดเลยนั่งจ้องจอทีวีด้วยกัน

จบตอนที่ 21

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : ไทยรัฐ

Readlakorn เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ ละครเกาหลี ละครช่อง3

อ่านต่อ

Sunday, November 29, 2009

สูตรเสน่หา - เรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ - สูตรเสน่หา ตอนที่12(ต่อ) -16

สูตรเสน่หา ตอนที่ 12 (ต่อ)

"ผมไม่รังเกียจ ผมให้ข้อมูลคุณได้ แต่ผมคงสอนคุณไม่ได้"

อนุชารีบบอกว่า เขาไม่คิดจะแข่งกับพสุ พสุย้อนทันที เขาก็ไม่คิดว่าอนุชาจะแข่งกับเขา อนุชาจึงรีบรวบรัดทันที

" ไม่คิดก็ดีแล้ว เราสองคนไม่ควรเป็นคู่แข่งกัน ถ้าคุณไม่คิดจะแข่งผมจริงๆ ก็ขอให้หลีกทาง" อนุชาเห็นพสุไหวไหล่เฮือก จึงกราดต่อ "ผมไม่รู้ว่า คุณคิดยังไงกับคุณลิน... แต่ผมคิดจริงจังกับเธอ มากกว่าการเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือหุ้นส่วนบริษัท...หวังว่าคุณคงพอจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด"

"เอา ละ...จะบอกให้...คุณลินไม่ชอบอาหารทุกชนิดที่กินแล้วอ้วน ไม่ชอบอาหารรสจัด แต่ชอบรสกลมกล่อม ชอบทานผัก หลังทานอาหารคาวทุกครั้ง ต้องทานผลไม้เสมอ" อนุชาฟังอย่างตั้งใจ พสุจึงลงเอย "ผมเข้าใจในสิ่งที่คุณพูด...ขอให้โชคดี"

สองหนุ่มมองตากัน ไม่มีใครยอมใคร พสุลุกขึ้นเดินเข้าครัวไป อนุชาถอนใจเฮือกใหญ่

พสุกลับถึงบ้านตอนดึก ยังเก็บเอาการคาดคั้นของอนุชาให้เขาหลีกทางให้มาคิดอย่างหนัก

ooooooo

อลิ นพยายามโทร.หาเขา เช้าสายบ่ายเย็น ยิ่งหงุดหงิด เพราะพสุไม่รับสาย...อลินโทร.ไปรีดข่าวพสุจากเปี๊ยกอีก พอบอกไม่รู้ จึงถูกเรียกให้มาพบด่วนจี๋

เมื่อเปี๊ยกมาถึงคอนโดฯ ยังไม่ทันหายใจก็ถูกซักหนัก พอบอกไม่รู้ว่าพสุหายไปไหนเท่านั้น ก็ถูกด่าว่าเป็นเพื่อนกันภาษาอะไร จึงถูกเปี๊ยกย้อนให้ มันจะไปไหนมาไหนมันเรื่องส่วนตัว แล้วสรุปแสบๆ

"ผมเป็นเพื่อนมันนะครับ ไม่ใช่แฟนมัน" เปี๊ยกพูดแล้วรีบอุดปาก อลินชะงักไปสามกึก

" ฉันไม่ได้จิกใครนะ แต่ครูกุ๊กมาทำหน้าท้าทายให้ฉันอยากรู้ว่าเขานัดกับใคร ฉันเลยทนไม่ได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ครูกุ๊กไม่เคยหายไปแบบนี้ ทุกทีโทร.ไปต้องรับทุกที ไม่รับก็ต้องรีบโทร.กลับ แต่นี่เงียบหายไปเลย จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"

อลินมองไปมา แล้วหันมาใส่ต่อ "ไม่รู้ละ นายจะทำยังไงก็ได้ ต้องไปตามหาครูกุ๊กให้เจอ หรือทำยังไงก็ได้ ให้ครูกุ๊กเปิดมือถือไม่งั้นฉันจะฟ้องพ่อ" เปี๊ยกฟังแล้วโคตรเซ็ง

ใน ที่สุด ทนายเปี๊ยกไปนั่งรอพสุที่บ้านแม่นงพะงา พสุกลับมาตอนดึก จึงถูกสอบสวนหนัก ทำไมไม่รับสายคุณอลิน พสุบอกมันยุ่งๆ พอถามว่าไปคุยกับอนุชาเป็นไง พสุยังเล่นลิ้น ว่าไม่เป็นไง...เปี๊ยกตบะแตก

"เฮ้ย แกเลิกทำเป็นคำถามคำตอบได้ไหมวะ ชักรำคาญพูดไม่รู้เรื่อง...อยากรู้นายอนุชามันว่าไง"

"บอกก็ได้วะ...เขาบอกให้ฉันหลีกทาง เขาจะจริงจังกับคุณลิน"

"เฮ้ย...มารดามัน...เอ๊ย...มันเล่นตรงๆยังงี้เลยเรอะ...มันโคตร..."

" เฉยเถอะน่า...มันก็ดี ไม่ต้องมาอ้อมค้อม" เปี๊ยกฟังแล้วย้ำให้แน่ใจว่า ดีจริงเรอะ? พสุยืนยันเสียงหนัก "จริง..." แล้วถามว่า เปี๊ยกมาหาเขาทำไม?

" ก็คุณลินสิ ไม่สบายใจที่ติดต่อแกไม่ได้ ปกติจะออกแนวเกรี้ยวกราด หงุดหงิด แต่คราวนี้เหมือนเขาเป็นห่วงแกมากกว่า...ฉันว่า แกหลีกทางให้นายอนุชา แต่แกไม่จำเป็นต้องหนีคุณลิน...แกบอกเองว่า ไม่คิดอะไรกับคุณลิน แกควรทำตัวปกติ นายอนุชาจะจริงจัง หรือจะจีบ มันก็ไม่เกี่ยวกับแก แต่ที่ทำอย่างทุกวันนี้ ฉันว่า แกคิดอะไรกับเจ้านายฉันมากกว่าเพื่อน"

พสุผงะเมื่อถูกแทงตรงหัวใจ หลบตาเพื่อนเล็กน้อย... อยากจะบอกว่า ขอเวลาคิดล้วงลึกหัวใจตัวเองอีกหน่อยไม่ได้เหรอเพื่อน?

ooooooo

คืน นี้ ขณะที่อลินพะว้าพะวัง นั่งนอน ขบปัญหาการหายตัวของครูกุ๊กแทบฟันหักก็ไม่ได้เรื่อง แต่ในที่สุดก็ใจเต้นโครมๆ เมื่อมือถือดังขึ้น งึมงำต้องเป็น...ครูกุ๊ก...แต่พอเห็นชื่ออนุชาขึ้นจอ อลินจ๋อยทันที... "คุณเล็ก..." อลินรีบกระแอม ปรับสุ้มเสียงให้หวานเยิ้มเข้าไว้

"คุณเล็ก...สวัสดีค่ะ...ยังไม่นอน...ค่ะ...ค่ะ" อลินฟังแล้วตกใจ "คุณเล็กว่ายังไงนะคะ"

อลินหน้าตาเหลอหลา....เกิดอาการประหลาดขึ้นในใจ...ทั้งดีใจ ทั้งหวั่นใจปนกันยุ่งนุงนัง

ส่วน พสุ ยังนอนไม่หลับ...มองปากกาของอลินแล้วคิดถึงคำเตือนของเปี๊ยก ที่บอกให้หลีกทางให้อนุชา แต่ไม่จำเป็นต้องหนีคุณลิน...อีกประโยคหนึ่ง... "ถ้าเป็นอย่างทุกวันนี้ แกคิดอะไรกับเจ้านายฉันมากกว่าเพื่อน..."

พสุเปิดมือถือ...แล้วก็นับหนึ่งถึงสาม...จะต้องมีใครโทร.แน่นอน....แล้วมันก็ดังขึ้นจริงๆ...

"สวัสดีครับ...คุณนาย..." พสุเสียงอ่อย...หม่นหมอง...ดั่งคนที่ตะกายจากหลุมรักยังไม่พ้น...

"ครูกุ๊กหายไปไหนมา ฉันนึกว่าตกหม้อซุปตายแล้วนะเนี่ย" อลินตะลุยแหลก "ทำไมอยู่ๆ ถึงได้หายไปแบบนี้ หา..."

"ทำไม อยากรู้ว่าผมมีนัดสำคัญกับใครใช่ไหม ถึงได้ โทร.จิกแบบนี้"

" เปล่าน่า..." อลินชะงัก ลดเสียงลง "ฉันไม่ได้จะอยากรู้ขนาดนั้นสักหน่อย ที่ฉันโทร.หาเพราะเป็นห่วง อยู่ๆก็หายตัวปริศนา ติดต่อก็ไม่ได้ ใจคอไม่ดียังไงไม่รู้ ฉันยิ่งมีเพื่อนน้อยๆอยู่"

พสุฟังแล้วสะท้อนใจ คำว่า "ห่วง" ทำให้หัวใจพองล่องฟ้า แต่แล้วเทวดายันกลับลงมาด้วยคำว่า "เพื่อน" แค่นั้นเอง...แล้วอลินยังสำทับซ้ำ "ครูกุ๊ก ทีหลังอย่าหายไปแบบนี้อีกนะ"

"นี่...ไม่ต้องทำอินมากก็ได้นะ...ถ้าคุณแต่งงานกับนายอนุชาเมื่อไหร่ ผมหายไปก็คงไม่สนหรอก"

"แหม...แต่ตอนนี้ยังไม่แต่งก็อยู่เป็นเพื่อนกันไปก่อนสิ" พสุฟังแล้วหัวใจแทบล้มระเนระนาด...

" เออ..." อลินเห็นพสุใบ้กิน จึงเปลี่ยนเรื่อง "พูดถึงคุณเล็ก...ฉันเพิ่งนึกได้ คุณเล็กเขาชวนฉันไปดินเนอร์ที่บ้านเขา...วันพรุ่งนี้ เขาบอกว่ามีเซอร์ไพรส์...ไม่รู้ว่าอะไร ถ้าฉันรู้ว่า เซอร์ไพรส์ของคุณเล็กคืออะไร ฉันจะโทร.บอกครูกุ๊กเป็นคนแรกเลยนะ" พสุบอกทันทีว่า ไม่ต้องก็ได้ อลินยืนยัน "ไม่ได้ ครูกุ๊กเป็นคนทำให้อนุชาสนใจฉัน...พรุ่งนี้ดินเนอร์เสร็จ ฉันจะโทร.หาทันที...โอเค้"
พสุทนฟังไม่ไหว บอกแค่นี้นะ แล้วตัดสายปุ๊บทันที...แต่แล้วมือถือก็ดังปั๊บทันทีเช่นกัน

"มีอะไรอีกหา...คุณนาย" พสุกรอกเสียงใส่อลินจอมยุ่ง

" ครูกุ๊ก...ที่ฉันบอกว่าเป็นห่วง ก็คือ เป็นห่วงจริงๆไม่ได้อินเกินเหตุ ถ้าคราวหน้าหายไปอีก ฉันจะโกรธจริงๆด้วย... แค่นี้นะ" อลินวางสายถอนใจโล่ง...หารู้ไม่ว่า...ครูกุ๊กเป็นกุ๊กไก่ เจอไวรัสกินหัวใจเข้าแล้ว...

"ไอ้ดินเอ๊ย...ซวยแล้วไง" พสุเอามือถือโขกกบาลตัวเอง...ทำไมโลกมันถึงวังเวงขนาดนี้...

ooooooo

สูตรเสน่หา ตอนที่ 13

วันนี้ อนุชาเตรียมชุดพ่อครัวมาเต็มที่ พร้อมที่จะเรียนทำอาหารฝรั่งเศสจากเชฟที่เขาเรียกว่า "พี่พล" อย่างเต็มที่ จากนั้นเชฟใหญ่ก็ลงมือทำไปสอนไป อนุชา พยายามแม้จะเก้งก้างก็สู้ทน เพื่อจะไปแสดงฝีมืออวดอลินให้ติดใจ ให้เหนือกว่าครูกุ๊กของเธอให้ได้

เวลาผ่านไป....การสอนทำอาหารฝรั่งเศสของเชฟพล ก็ผ่านไปถึงสามอย่างครบถ้วน

จากนั้นเป็นการแสดงฝีมือของอนุชา อย่างเอาเป็น เอาตาย ถวายชีวิตให้ถ้วยซุปเป็นรายการสุดท้าย...

จาก นั้นไม่นาน...อาหารฝีมืออนุชาก็ลำเลียงมาขึ้นโต๊ะ ในมุมที่เป็นส่วนตัวที่สุดในบ้าน ที่มีแสงเทียนส่องวอมแวม... ผสานเสียงไล้ท์มิวสิกแผ่วเบา จะมีที่ไหนชวนโรแมนติกปานฉะนี้...พลันเสียงแก้วไวน์กระทบกันดังกิ๊ก...อนุชา ก็ได้กิ๊กกั๊ก หัวเราะเสียงแผ่วเบากระซิบกระซาบกับอลินที่ทำเสียงให้เซ็กซี่ที่สุดในชีวิต ...โห...ช่างกลมกลืนชื่นบานแท้...

คุณหญิงอมราทำปากจิ๊กจั๊ก แอบดูลูกชายกำลังเว้าวอน ว่าที่สะใภ้พันล้านอย่างลุ้นเต็มสตีม...ชื่นชมคนเดียวไม่สะใจ โทร.ไปบอกเพรียวที่ยังทำงานในห้องสตูดิโอ พอเพรียวรับ คุณหญิงจึงบอกว่ามีเรื่องสำคัญมากๆจะบอก รู้แล้วเหยียบให้มิดชิดเชียวนะ เพรียวปากหวานรับคำมั่นเหมาะ ว่าแล้วกวักมือเรียกผู้กำกับและทีมงานมาฟัง...กดขยายเสียงให้ฟังกันทั่ว... คุณหญิงก็เล่าไป
ใส่ความรู้สึกเต็มอัตราศึก คิดว่าเพรียวจะฟังคนเดียว...

สอง สาวหนุ่มถ้อยทีถ้อยเจรจา เริ่มด้วยอนุชาออกตัวว่า ไม่เคยทำอาหารมาก่อนในชีวิต...แต่ก็โม้ว่า คราวนี้ เขาไปเรียนมาเพื่อทำอาหารให้คุณอลินได้ลิ้มลองโดยเฉพาะ อลินก็เออออหัวเราะร่วนไปร่วนมา ว่าแหมน่าทานมากค่ะ...แล้วถามว่า เขาจะ ไปเรียนมาเป็นพิธีกรแทนอลินหรือเปล่า อนุชารีบปฏิเสธว่าเขาน่ะหรือ ทำอาหารอีกสิบชาติก็สู้คุณอลินไม่ได้...แล้วเขาแนะให้เธอลองซุปฝีมือเขา

แต่ พออลินซดซุปไปครึ่งโฮก...ก็สำลักพรวดออกมาทันที อนุชาโดดเหยง ถามว่าเป็นอะไรไปครับ รสชาติมันแย่หรือ? อลินเงยหน้าเช็ดปากป้อยๆ บอกว่าเปล่าค่ะ แค่มันร้อนไปหน่อยเท่านั้น อลินไม่กล้าบอกว่า มันเค็มจนแสบถึงกึ๋น...อนุชาถอนหายใจโล่ง บอกเธอว่า นึกว่ารสไม่ดี ถ้าอย่างนี้ก็ไม่เป็นไรอลินส่งลูกทันทีว่า อร่อยหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในโลกที่กลมเป็นลูกสนุ้กใบนี้...
อนุชาจึงเร่งให้อลินทานมากๆหน่อย อลินจำต้องกระเดือกไป ฝืนยิ้มเริงร่า...สมน้ำหน้าตัวเอง...

ooooooo

พสุเปิดมือถือไว้ใกล้ตัว...มือก็เก็บของในครัว เพราะปิดครัวไปแล้ว...นานๆชำเลืองมองมือถือ นึกไป

ก็ หงุดหงิด ทำไมอลินไม่โทร.มาบอกผลการไปดินเนอร์ กับอนุชา...แล้วผู้จัดการร้านก็เตร่เข้ามาพร้อมวางแก้วค็อกเทลลง บอกว่าเขามีค็อกเทลตัวใหม่อยากให้ลอง แล้วช่วยคอมเมนต์ให้ด้วย แต่เตือนว่า เห็นหวานๆแบบนี้ ระวังหน่อย มันแรงมาก...

เสียงมือถือของพสุดังขึ้น เขาโดดตะครุบหมับ ผู้จัดการสะดุ้ง พสุรีบเก๊กหน้าเฉย เหมือนจะบอกว่าไม่ได้รอโทรศัพท์จากใครนะจ๊ะ...แล้วเดินเลี่ยงออกมาพูดอีกทาง ...เสียงอลินดังมา เขาจึงถามว่า ดินเนอร์เป็นไงบ้าง? เสียงอลินดังมาลั่นในนาสิก "แย่มากกกก"
จากเวลานั้น ผ่านไปเหมือนอยู่ใกล้แค่คนละหัวมุมไฟแดง...อลินห้อตะบึงมาถึงร้าน พสุเชิญนั่งในมุมส่วนตัว ไปทำอะไรมาให้เธอทานแก้หิว...พสุจิบค็อกเทลแล้ววางไว้ตรงหน้าอลินอย่างไม่ ตั้งใจ แล้วฟังเสียงสวดยับของอลินต่อ
"ซุปก็เค็มโคตรเค็มยิ่งกว่าเกลือ จากสะดือทะเล ปลาคล้ายกับไม่สุก ฉันต้องทนกินอย่างทรมาน พอแยกจากคุณเล็ก ฉันต้องรีบไปล้วงคอระบายของทิ้ง แล้วรีบวิ่งตูดแป้นมาหาครูกุ๊กนี่แหละ" ว่าแล้วจิ้มกุ้งผัดก๋วยเตี๋ยวฝรั่งใส่ปาก "กินของฝีมือครูกุ๊กค่อยหายเลี่ยน อร่อยกว่าของฝรั่งเยอะแยะ" พสุยิ้มหน้าบาน
"แต่ถึงอาหารที่คุณเล็กทำมันไม่อร่อย หรือเรียกได้ว่าห่วยมาก แต่ฉันก็ดีใจนะ ที่คุณเล็กพยายามทำเพื่อฉัน" อลินยิ้มตาลอย...ไม่รู้ว่าพสุหุบยิ้มแทบไม่ทัน...แล้วค่อยปรับอาการเสียว สันหลังคืนมา
"คุณดีใจ ผมก็ดีใจด้วย" พสุฝืนยิ้มจืดๆ "ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวไปเช็กของในครัวต่อ"
"เดี๋ยว ครูกุ๊ก ฉันมีอะไรจะถามหน่อย"
"มีอะไรจะถามครับคุณนาย"
" เวลาผู้ชายชอบผู้หญิง..." อลินกระแอมก่อนจะถามต่อ "พวกผู้ชายเขาจะแสดงออกยังไง...แล้วผู้หญิงอย่างฉัน จะรู้ ได้ยังไงว่าผู้ชายคนนี้กำลังชอบฉันอยู่" พสุหลบตา งึมงำว่า จะไปรู้ได้ไงล่ะ? "ครูกุ๊กเป็นผู้ชาย จะไม่รู้ได้ไง...น่า...นะ...นะ พลีสสสส...บอกหน่อยนะ ไม่ต้องเขินหรอกน่า ฉันอยากรู้จริงๆ"
"คือ...จริงๆ แล้วผู้ชายแต่ละคนแสดงออกไม่เหมือนกันหรอก" พสุพยายามทบทวนความหลายตลบ จึงว่าต่อได้ "ส่วนมากคงจะแบบ ถ้าเราชอบใคร เราก็สนใจเขาเป็นพิเศษ สนใจทุกเรื่อง ทุกข้อมูล มันเหมือนแบบซึมเข้ามาในสมองโดยไม่ต้องพยายาม เวลาอยู่ด้วยกันสายตาเราจะมองแต่คนคนนั้น พยายามหาข้ออ้างเพื่อจะมาเจอเขา...เวลาไม่เจอก็คิดถึง เวลาหายไปก็เป็นห่วง..." พสุระบายออกมาเหมือนใจตัวเอง "ถ้าอยากรู้ว่าใครชอบคุณ...ก็แค่..."
เสียงแก้วแตกดังเพล้ง...พสุหันไป เห็นแก้วค็อกเทลที่ผู้จัดการเอามาให้ชิมว่ามันแรงแค่ไหนหล่นกระจาย ส่วนอลินฟุบแน่นิ่งสิ้นสภาพ...พสุรู้ทันทีว่าอลินแอบดื่มขณะที่เขากำลังใช้ สมองเต็มที่ พสุร้องเรียกเธอเสียงแตกตื่นเต็มที่....ถามตัวเองว่า ทำไงดีหว่า?
"คุณลินกินเหล้า" เสียงทนายเปี๊ยกดังมาตามสายที่พสุโทร.ไปหา...พสุประคองเธอขึ้นมา แล้วบอก
"มันเป็นค็อกเทล แต่แรงมาก ฉันไม่รู้ว่าเขากินไปตอนไหน หันมาอีกที สลบไปแล้ว"
"สมควร...คุณลินเป็นโรคแพ้แอลกอฮอล์ กินแล้วน็อก... แกรีบพากลับคอนโดฯก่อน ฉันจะตามไป"
พสุเก็บมือถือสะพายกระเป๋า แล้วประคองอลินออกจากร้านไปอย่างทุลักทุเล...
ooooooo
คุณ หญิงเห็นอนุชาเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาเหมือนจิตใจยังว้าวุ่น แต่คุณหญิงอมรากลับระริกร่าเริงยิ้มแก้มปริชมลูกชายว่า คืนนี้ทำดีมาก อลินยิ้มหน้าบานไม่กลัวเหี่ยว โกยความสุขไปหลายกระบุง ปลื้มลืมโลกไปเลย...ลูกชายแย้งว่า เธออาจทำไปเพื่อรักษามารยาท
"ไอ้ครูกุ๊กครูกุ๊ยอะไรนั่น ตกกระป๋องแน่ๆ เชอะ คิดจะมาทาบลูกคุณหญิงอมรา ไม่บ้าก็บ๊อง"
"คุณแม่ไม่ต้องห่วง ผมกับครูกุ๊กเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว เขาบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับคุณลิน"
"ถ้ามันคิด มันจะบอกเราเรอะ"
"ผมว่าเขาเป็นลูกผู้ชายพอ ผมคิดว่าผมดูคนไม่ผิด" อนุชายืนยัน...คุณหญิงฮึ่มฮั่มใส่ลูกชาย
ooooooo
พสุ พาอลินมาถึงหน้าคอนโดฯ...พยายามปลุกให้ตื่น แล้วประคองพาขึ้นไปยังห้องพัก อลินยังหาสติตัวเองยังไม่พบ แต่ตวาดพสุที่เรียกให้ตื่นว่า หนวกหู คนจะนอน พสุค้านทันทีว่า นอนที่นี่ไม่ได้ ขึ้นไปนอน บนห้อง อลินยังดื้อไม่ยอมท่าเดียวจึงถูกด่า นางเอกขี้เมา...
เมื่อไม่มีทางอื่น จึงสะพายกระเป๋าของเธอ แล้วปลงเมื่อเห็นท่าอลินอ่อนระทวยหมดประตูในการออกแรงช่วยตัวเอง พสุเอาอลินใส่บ่าแบกลงรถแล้วปิดประตู เขาแบกเธอไป เธอซบที่บ่า ปอยผมปลิวไสว กลิ่นสาบสาวรวยรินซ่านไปถึงหัวใจ เขาสูดลมหายใจเข้า...เตือนใจตัวเอง อย่าได้เคลิ้มไปกับสิ่งที่แม้อยู่ใกล้ แต่ยังห่างไกลกันเกินฝัน...
เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปในห้องของเธอแล้ว แทบไม่อยากจะวางลง อยากจะอยู่อย่างนี้สักร้อยปี...เขาไล้สายตาไปยังดวงหน้าหวานละมุนในระยะ ประชิด พสุยิ้มอย่างมีความสุขที่สุดในชีวิต ความสุขที่หาได้อย่างบังเอิญโดยแท้
เขาอุ้มอลินไปยังโซฟา กำลังจะวางเธอลง อลินกลับร้องโวยวายอ้อแอ้ในคอ บอกไม่นอนตรงนี้...พสุชะงัก ถามว่า แล้วจะนอนตรงไหน อลินตอกหน้าทันทีว่า ไม่รู้ ไม่ถามได้ไหม?
"ไม่รู้ก็นอนตรงนี้แหละ" ว่าแล้ววางเธอลง อลินดิ้นปัดๆ ร้องลั่นไม่เอา สั่งให้ปล่อย
"นี่อยู่เฉยๆสิ คุณลิน ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ เดี๋ยวตกลงไปนอนพื้นจนได้"
"ไม่อาว...ไม่ตก...ฉันไม่ใช่นางเอกตกกระป๋องนะ...
พูดเงี้ย...เดี๋ยวโดน...เดี๋ยวเจอมือตบ"
" แน่ะ...เมาแล้วยังวีนอีก แล้วเนี่ยจะนอนไหนแน่" เสียง อลินอ้อแอ้ก่อกวนวกวนไม่รู้เรื่อง พอดิ้นมากขึ้น พสุจึงจะวาง ยามนั้นร่างของเขาเอนไปมาแล้วเสียหลักล้มลง อลินโชคดีลงที่โซฟา พสุยั้งไม่อยู่ ล้มทับบนร่างเธออีกต่อ...อลินหลับกรนครอกๆ พสุยันตัวลุกขึ้น พลางขอโทษ...
อลินหลับต่อไม่รู้เรื่อง...พสุจ้องมอง หน้าเธอ แอลกอฮอล์ ฉีดแรงจนหน้าแดงระเรื่อ เธอหลับตาพริ้ม น่ารักกว่าทุกวันมา ยามเมาไร้สติเธอยิ่งน่ารักกว่า เหมือนมีมนต์เสน่ห์ฉุดวิญญาณของเขาให้เคลิ้มหลง...เขาค่อยโน้มหน้าลงไปอย่าง คนถูกสะกด
ก่อนที่จมูกของเขาจะสัมผัสแก้มนาง...ประตูห้องที่ปิดไว้เปิดผาง ทนายปฏิคมยืนจังงัง
"ไอ้ดิน...." เปี๊ยกตะโกนเรียกอย่างไม่พอใจในพฤติการณ์ แบบนี้ พสุผงะหันมามอง อุทานเรียกไอ้เปี๊ยกอย่างแตกตื่น
เปี๊ยก มองภาพของเพื่อนที่กระทำต่อนายสาวของเขานั้นมันน่าเกลียด พสุพยายามจะอธิบายให้เพื่อนรู้ว่า เขาไม่ตั้งใจจะกระทำอย่างนั้น พสุเลี่ยงมาที่ระเบียง เปี๊ยกตามมา
"ฉันไม่ได้ลวนลามคุณลิน ไม่ได้เป็นอย่างที่แกคิด"
"แกรู้รึว่าฉันคิดอะไร แล้วจริงๆใจแกคิดอะไร" เปี๊ยกซักหนัก
"ฉันกำลังจะพาคุณลินไปนอน แต่เขาโวยวายไม่ยอมนอนข้างนอก ฉันกำลังจะหาที่นอนให้เขา เขาดิ้นไปมา ฉันจึงล้ม แล้วมันเป็นอย่างที่แกเห็น"
" นั่นมันสิ่งที่แกทำ แต่ฉันถามสิ่งที่แกคิด...แกคิดอะไรกับคุณลิน" พสุถูกจ้องต้องหลบตา เปี๊ยกสรุป "แกไม่ต้องรีบตอบฉัน แต่แกต้องตอบตัวเองให้ได้ ไม่ว่าแกจะคิดยังไง อย่าทำแบบเมื่อกี้อีก สำหรับวันนี้ฉันจะลืมมันซะ เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น" เปี๊ยกเดินมาจับไหล่เพื่อน "แกไม่ต้องรู้สึกผิดกับฉัน แค่แกหาคำตอบให้ได้แล้วยอมรับมัน แกกับฉันยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม"
เพื่อนทั้งสองจ้องตากันนิ่ง เปี๊ยกตบไหล่พสุ เน้นคำพูดห้วนๆ
"ไปคิดดู..." แล้วปฏิคมก็เดินเข้าห้องไป
พสุ ยืนที่ระเบียงคนเดียว...ท้องฟ้าเมืองบางกอกยังพร่างพรายด้วยหมู่ดาว เหนือแสงสีจากไฟประดับของเมืองใหญ่ ในใจของพสุกลับหม่นหมอง เดียวดาย...
ooooooo
แม้จะดึกมากแล้ว แต่หัวใจที่ดิ้นรนหาทางออกไม่ได้ ทำให้พสุขับรถไปตามถนนอย่างไร้จุดหมาย...
ใน ที่สุดเขาก็หักรถมุ่งหน้าไปยังร้านเป้หวานของโสภิตา ไปหาเพื่อนที่รู้ใจ...หลังจากปลุกเธอขึ้นมากลางดึกแล้ว ยังเอาปัญหาคับแค้นมาบอกเล่า เธอชงชาร้อนๆให้ดื่ม ก่อนจะฟังเรื่องราว แล้วย้อนถามว่า เขามีปัญหาอะไร?
"มันจะผิดไหม ถ้าเราจะรักใครสักคน ที่มันเป็นไปไม่ได้"
" คุณลินใช่ไหม" พสุฟังคำถามของโสภิตา แล้วย้อนถามเหมือนจะยอมรับในตัวว่า เธอรู้ได้ไง? "ตาบอกแล้วว่าดินมีความสุขเวลาที่อยู่กับคุณลิน คนเราก็ต้องชอบคนที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุขทั้งนั้น ความสุขเวลาที่คิดถึง เวลา ที่อยู่ด้วยกัน พูดคุยกัน หัวเราะกัน หรือแม้ทะเลาะกันก็ยังมีความสุข...แล้วความชอบ พอมันมากๆเข้า สักวันมันก็จะกลายเป็นความรัก การที่เรารักใครสักคน ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นไป ไม่ได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เราต้องทำใจรับมันให้ได้...แค่นั้นเอง" พสุฟังแล้วพยักหน้ารับ เหมือนรับเอาเขาทั้งลูกมาอุ้มไว้ "แต่จริงๆแล้วเวลาที่คุณลินอยู่กับดิน เขาก็ดูมีความสุขมากนะ บางที ถ้าไม่มีคุณเล็ก คุณลินเขาจะชอบดินก็ได้"
" เป็นไปไม่ได้หรอก...เป็นไปไม่ได้" พสุบอกไป ใจยังเขิน...ในความเคอะเขินนั้น แม้ความหวังจะริบหรี่ แต่ก็บังคับหัวใจไม่ให้หวังไม่ได้...
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น อลินรู้สึกตัวเด้งดึ๋งจากที่นอน ผวาเข้าห้องน้ำไปแทบไม่ทัน อาเจียนพรวดๆลงอ่างในห้องน้ำ เหงื่อกาฬพาลแตกจนต้องรีบล้างหน้า พอเงยหน้าออกมาจากห้องน้ำ คำถามก็ประดังขึ้นว่า...ฉันกลับมาบ้านได้ยังไงเนี่ย แล้วได้ยินเสียงเครื่องปั่นดังจากในครัว
(อ่านต่อหน้า 27)

"ครู กุ๊ก" อลินเดินไปตามเสียง ทนายเปี๊ยกหยุดมือ หันมาทักทายอลิน บอกว่ากำลังจะปั่นน้ำมะระให้กินแก้แฮงก์ สูตรคุณพ่ออนันต์ของอลินด้วย แต่อลินไม่สน ถามว่าเมื่อคืนใครพาเธอมาส่ง จำได้ว่ากินน้ำสีชมพูนั่นถึงถูกน็อกเอาต์ ทันที พอรู้ว่าพสุเป็นคนพามา แล้วเขากลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืน จึงรีบขอโทร.ไปขอบคุณเขา ที่ไม่ทิ้งเธอข้างถนนให้เป็นข่าวฉาวโฉ่
"อย่าเพิ่งโทร.เลยครับ...ให้มันรู้ใจตัวมันเองก่อนดีกว่า"
"รู้อะไรนะ" อลินชักสงสัยในคำพูดนั้น เปี๊ยกกลับเลี่ยงทันที
" อ๋อ...ก็รู้สึกตัวตื่นน่ะครับ ตอนนี้มันคงยังไม่ตื่น คุณลินอย่าเพิ่งสนใจมันเลยครับ ดูแลตัวเองก่อนดีกว่า...นี่ครับ" เปี๊ยกส่งถ้วยน้ำปั่นให้แก้แฮงก์...อลินรับมา หันหลังดื่ม แต่ใจ ยังไล่ล่าพสุไม่ยอมหยุด ส่วนเปี๊ยกเองก็ยังอดห่วงเพื่อนไม่ได้ ป่านนี้มันอาจไปโดดน้ำโขงตายไปแล้วก็ได้...
ooooooo
ปฏิคมรีบเอาข่าว หนังสือพิมพ์มาให้พสุดูถึงโรงเรียนสอนทำอาหารแต่เช้า...พาดหัวตัวเบ้อเริ่ม เทิ่ม "อลินย่องเงียบเข้าบ้านหุ้นส่วนไฮโซ ยันสัมพันธ์เกินเพื่อน" ปฏิคมหรือทนายเปี๊ยกมองหน้าพสุ ถามว่าเห็นข่าวแล้วรู้สึกยังไงล่ะเพื่อน พอจะรู้ตัวหรือยัง เสียใจไหมล่ะ?
"ฉันรู้ตัวแล้ว และทำไมต้องเสียใจด้วยล่ะวะ"
"นี่แค่เริ่มต้น ต่อไปแกจะเจอยิ่งกว่านี้ แกรู้ว่าคุณลินเขาคิดยังไงกับนายอนุชา...แกคงไม่คิดว่า คุณลินจะเปลี่ยนใจมาชอบแกหรอกนะ"
" ฉันรู้ว่าเจ้านายแกรสนิยมยังไง ฉันรู้ตัวว่าฉันเป็นยังไง...อย่าห่วง เมื่อเจ้านายแกได้สิ่งที่ต้องการ ฉันก็ไร้ประโยชน์ เราคงไม่ค่อยได้เจอกันแล้ว"
"ฉันว่า ตัวแกเหมือนเดิมต่อไป...แต่ใจแกล่ะจะเหมือนเดิมได้หรือ ไอ้หอย"
"ฉันทำได้สิ ฉันต้องทำได้" พสุพูดเหมือนย้ำกับตัวเอง...
เสียง มือถือพสุดังขึ้น เปี๊ยกเดาได้ทันทีว่าคุณลินโทร. มาแน่ ตอนนี้เธอโทร.หาพสุก่อนเขา แกไม่เป็นแค่ครูกุ๊กอีกแล้ว ถึงพวกเขาแต่งงานกัน แกกับคุณลินยังต้องเจอกันอยู่ดี แกเลือกเอาว่าจะอยู่แบบ "ทำใจ" หรือจะอยู่แบบ "ตัดใจ" ปฏิคมวางหนังสือพิมพ์ เดินออกไป...พสุมองมือถือ เห็นชื่ออลิน แล้วตัดสินใจกดทิ้ง...กำลังจะเดินหนี เสียงนั้นดังเรียกมาอีก พสุถอนใจ ก่อนหยิบมากดรับ
"ว่ายังไงคุณนาย" พสุถามเสียงดัง เปี๊ยกที่หน้าประตูแง้ม ยื่นหูมาฟัง
" ครูกุ๊กเห็นข่าวแล้วใช่ไหม" พสุตอบเสียงเบาว่าเห็นแล้ว ไอ้เปี๊ยกเพิ่งเอามาให้ดู "ฉันเห็นแล้ว แทบกรี๊ดหน้าร้านหนังสือ ไม่คิดว่าจะได้ลงข่าวหน้าหนึ่งเรื่องผู้ชาย มัน... มันสุดๆ ตั้งแต่เข้าวงการมาไม่เคยถูกเม้าท์เรื่องนี้เลย มีแต่ ถูกด่าเรื่องวีนโน่นนี่...อะฮ้า...นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันโดนเม้าท์ เรื่องผู้ชาย" อลินแทบโดดโลดเต้นตื่นใจที่ได้เป็นข่าวเรื่องผู้ชาย...พสุอ้าปากค้าง พองับปั๊บก็แย้งปุ๊บ
"คุณ...นี่คุณไม่อายเหรอ...เขาลงโต้งๆว่าคุณไปบ้านผู้ชายนะ" พสุดังมาตามสาย

"โอ้ว...อาย...อายทำไม มันเรื่องจริง เขาชวนฉัน ฉัน ไม่ได้ไปเอง ไม่ได้สร้างข่าว นักข่าวต้องรู้มาจากทางโน้น มันยิ่งตอกย้ำ คุณเล็กสนใจฉันชัวร์...ไม่มั่วแห้ง" พสุฟัง ลมสว้านจากบั้นท้ายไปจุกที่ลิ้นปี่
ขณะนั้นมือถืออลินดัง เธอขอพสุให้รอเดี๋ยว พอรับได้ยินเสียง อลินสั่นไปทั้งตัว
"ครูกุ๊ก แค่นี้ก่อนนะ คุณเล็กโทร.มา แล้วค่อยคุยกันใหม่" อลินรับสายอนุชายิ้มหวานปานจะหยด
ถึง ครูกุ๊กจะไม่เห็น ก็พอจะรู้ชะตาตัวเองแล้วว่า มันก็แค่ไก่รองบ่อนที่จะถูกเจ้าของเอาลงหม้อต้มยำรอมร่อ...พสุนึกถึงคำพูด ของเจ้าเปี๊ยกให้เลือกจะทำใจหรือตัดใจ...พสุยังคร่ำครวญ ถ้าให้ทำใจพอจะทำได้ แต่ตัดใจมันช่างเป็นอภิมหาคาหัวใจอ่อนๆของเขาโดยแท้...
ooooooo
หมิ งดาราอิจฉากับแฟนหนุ่มนายลมหรือวายุ ผู้ดีถังชำรุด หมิงพากันมากองถ่าย...หมิงรู้ดีว่านายลมมาเพื่อหาทางพบกับอลิน รู้ดีด้วยว่าลมคิดจะตกถังข้าวสารกับดาราพันล้านแล้วจะทิ้งเธอ หมิงจึงพยายามกีดกันเต็มที่ ส่วนคุณหญิงอมราโทร.หาเพรียวที่บริษัท วันนี้จะมีการประชุม ให้บอกทุกคนที่บริษัทว่าคุณหญิงจะมาร่วมประชุมด้วย
ทาง ด้านอนุชาที่กำลังหันมากระชับสัมพันธ์กับอลินเต็มที่ตามคำบัญชาของแม่... เมื่ออลินมาถึงบริษัท อนุชารีบขอโทษขอโพยอลิน ที่การไปกินข้าวกับเขาที่บ้านกลายเป็นข่าวใหญ่โต แทนที่อลินจะเสียใจ เธอกลับเห็นว่าไม่สำคัญและไม่แปลก เธอเคยมีข่าวเกี่ยวกับผู้ชายมามากแล้ว ถึงอย่างไรอนุชาก็ยังต้องขอโทษเธอ เพราะไม่รู้ใครเอาข่าวไปลง เขาจึงจะขอโทษเธอด้วยการทำอาหารให้ทานอีก อลินฟังแล้วตกใจแทบตาย เอาอีกแล้วเหรอเนี่ย...จึงร้องห้ามพัลวัน ขออย่าลำบากอีกเลย ขอร้องไม่ต้องทำ ไปเลี้ยงที่ร้านอาหารที่ไหนก็จะดีกว่า อนุชาไม่รู้ว่าที่แท้อลินนึกถึงฝีมืออาหารของเขาแล้วยังคลื่นไส้ เอาด้วย อนุชาจึงยิ้มรับตกลงทันที แล้วขอเป็นคนเลือกร้านให้ แล้วกัน อลินจึงโล่งใจ...
เพรียวมาเชิญทุกคนเข้าที่ประชุม บอกให้รู้ว่าคุณหญิงมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทุกคนทราบหลังเปิดประชุมแล้ว คุณหญิงอมราจึงออกมายืนเท่เรี่ยมเร้ไฉไล จีบริมฝีปากประกาศเสียง น้ำเซาะทราย
"ที่เดี๊ยนมาวันนี้ มีข่าวดีและข่าวสำคัญจะแจ้งให้ที่ประชุมทราบ จึงขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเชฟแอนดรู เป็นเชฟมือหนึ่ง อันดับพิเศษสุดจากแพรีส ฝรั่งเศส...ผู้ช่วยคนใหม่ ของรายการ อลิน อร่อย อราวด์" คุณหญิงหยุดหายใจ คอยื่นคอยาว...อนุชารู้สึกเอะใจ อลินถึงกับอึ้งย้งงงไป
"ผู้ช่วยคนใหม่ หมายความว่ายังไงคะ" อลินตั้งหลักได้เริ่มออกเสียง
" อ๋อ...ก็คุณหญิงแม่เห็นว่าหนูลินคิดทำโน่นนี่หลายอย่าง มันเยอะไป นอกเหนือพิธีกร จึงเชิญแอนดรูมาช่วยหนูลินเป็นการแบ่งเบาภาระไงจ๊ะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ครูกุ๊กเป็นคนช่วยลินอยู่ ไม่ลำบากเลยค่ะ"
คุณ หญิงหน้าเริ่มเขียวรำไร จึงเอาเหตุผลมาอ้าง ครูกุ๊กไม่ใช่พนักงานเรา พอเรตติ้งดีคงอยากแยกตัวไปทำเอง จะขนคนทำงานเอาไอเดียเราไป คุณหญิงแม่ว่าหนูลินควรตัดเขาออกไปจากรายการของเราจะดีกว่า...อลินเฝ้า พยายามชี้ว่าอย่าห่วง ครูกุ๊กไม่เคยคิดจะดัง ไม่ทำลายใคร...แล้วเน้น
"ลิ นพอใจจะทำงานกับครูกุ๊กมากกว่าเชฟแอนดี้ เอ๊ย แอนดรูค่ะ อย่างน้อยเราพูดภาษาไทยเหมือนกัน สื่อกันง่าย อีกอย่างเชฟคนนั้นค่าตัวคงไม่น้อย แล้วต้องจ้างล่ามมาช่วยอีกคน เปลืองงบโดยใช่เหตุ"
คนอื่นในที่ประชุมพยักหน้าเห็นด้วย คุณหญิงตาเขียวใส่ พนักงานหลบตาวูบวาบ อนุชารีบแก้เกม ชมคุณหญิงแม่ ปรารถนาดี แต่ตอนนี้รายการเพียงแต่เริ่มดี เร็วไปที่จะโกอินเตอร์ ด้วยเชฟฝรั่ง ไว้พร้อมแล้วจะปรึกษาคุณหญิงแม่อีกทีหนึ่ง คุณหญิงรีบตัดพ้อเล็กๆว่าท่านหวังดี ไม่รับไว้ไม่เป็นไร ถ้าเกิด ปัญหาภายหลังอย่าว่าไม่เตือนแล้วกัน ว่าแล้วคุณหญิงดึงรูปเชฟ ฝรั่งออกไป...อนุชาสั่งประชุมต่อทันที อลินจึงเสนอเพื่อความแปลกใหม่ของรายการและกระจายกลุ่มคนดู ขอเสนอให้ไปถ่ายทำกันที่ตลาดนัด...ทุกคนฟังและเห็นด้วย อลินจึงให้ราย ละเอียดต่อไป...
ooooooo
เมื่อนายลมหาตารางเวลาและโปรแกรมการทำงานขอ งอลินไม่ได้แน่นอน นายลมจึงให้วารินพี่สาวไปคาดคั้นเอากับแม่นงพะงาของนายดิน ให้หาทางให้ นายดินเอาตารางเหล่านี้ของอลินมาให้ แต่อย่าให้นายดินรู้เป็นอันขาด นงพะงาหนักใจ แต่จำต้องรับปากพวกลูกท่านหลานท่านพวกนี้
วารินกลับไปบนตึก ใหญ่ บ่นกับนายลมว่าทำไมให้พี่ต้องลำบากไปขอร้องพวกนั้น ลมจึงสารภาพว่า เขาตั้งใจจะทั้งจีบทั้งจับนังอลินดาราพันล้านให้ได้ ส่วนหมิง ลมคบมันไปเล่นๆเท่านั้น ไปนอนกองเงินกองทองของอลินสบายๆไม่ดีกว่าหรือ พี่สาวติงว่า อลินอายุมากจะมายุ่งรุ่นน้องอย่างแกหรือ?
"เฉยเถอะ สมัยนี้ดาราเขานิยมกินเด็ก ไม่รู้หรือว่าอลินอายุตั้งสามสิบขึ้นยังไม่แต่งงาน อยู่ๆมีหนุ่มหน้าตาดี มีชาติตระกูลเจ๋งมาจีบ มีรึไม่สน...ยิ่งไอ้เล็กไฮโซหรือไอ้ดินลูกคนใช้ ลมเจ๋งกว่าจมหู"
"เออ...ให้มันเจ๋งจริงเถอะ...อย่าเอ๋งก็แล้วกัน" วาริน มองไอ้น้องไม่เอาถ่านอย่างไม่เห็นน้ำยา...


ooooooo


อลินไปหาพสุที่ร้านอิตาเลียนตอนดึก...เล่าเรื่องการประชุมต้านเชฟฝรั่งของคุณ หญิงจนล่าถอยไปอย่างไม่พอใจ อลินระบายความแค้นให้พสุฟัง กระทั่งเขาปิดร้าน เขาจึงเดินมาส่งเธอที่รถ ทั้ง เตือนว่าไม่ควรหักหน้าคุณหญิงแบบนั้น อลินบอก ทันทีว่าอยากเอาคนอื่นมาทำงานแทนครูกุ๊กของฉันได้ไง

พสุฟังคำว่า "ครูกุ๊กของฉัน" ด้วยหัวใจพองวาบๆ แอบหันหนีไปอมยิ้ม อลินถามทันทีเป็นอะไร เขาหันมาถามว่ากินข้าวรึยัง อลินจึงย้อนถามว่า ถามแบบนี้ผิดปกติ ไข้กินรึเปล่า เขาย้อนว่าปกติทุกอย่าง อลินไม่ยอม
"คิดอะไรอยู่รึเปล่าเนี่ย"
"เฮ่ย...บ้าแล้ว ผมจะคิดอะไร ผมก็ถามเรื่อยเปื่อย อย่าจับผิดกันน่า ถ้าไม่กินอะไรก็รีบกลับ ผมจะรีบกลับเหมือนกัน"
" เอ้อ ค่อยปกติ อ้อเกือบลืม ขอบคุณนะที่หอบหิ้วฉันกลับบ้าน ฉันเมา ทำอะไรทุเรศๆรึเปล่า" เมื่อพสุบอกปกติ อลินถอนใจโล่ง "ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว...เอ้อ ฉันมีของขวัญพิเศษที่จะให้ ครูกุ๊ก ตอบแทนที่พาฉันกลับบ้าน" อลินบอกแล้วขึ้นรถกลับไป...
วันต่อมา นงพะงากับอ้อนก็ตื่นเต้นวิ่งกันพล่าน ดีใจจนตั้งสติไม่ได้ เมื่อเห็นอลินเดินมาหาถึงบ้านนงพะงา ทั้งบ้านจึงต้อนรับอย่างดีใจ...อลินมาทักทาย โดยมีพสุหิ้วของมาด้วย อลินอ้างพสุว่าคุณแม่ชอบผลไม้จึงเอามาฝาก แม่รีบบอกว่าขอบคุณ มาแต่ตัวก็บุญแล้ว ติดใจดาราอย่างอลินมานาน...อลินยังเอาซีดีละครมาฝากอีก แม่นงพะงาเนื้อเต้น บอกอ้อนว่าจะเปิดดูคืนนี้เลย แม่รีบให้อ้อนไปเอากล้องมาถ่ายรูปอลินไว้ อ้อนทำหน้าที่ถ่าย ดึงพสุมาถ่ายกับอลินด้วย อลินสนุก พัวพันพสุหมดทุกท่า แล้วยังดึงตัวมาแนบชิด ซุกหน้าเห็นปลายจมูกรำไร... จนยังไม่รู้ว่าหัวใจจะหลุดออกไปนอกโลกตอนไหน?
แม้ตอนพสุนอนจนค่อนดึกแล้ว ก็ยังอดคิดไม่ได้ ภาพการถ่ายรูปไว้กับอลินทำให้พสุยิ้มคนเดียว แล้วต้องปลอบใจตัวเองว่า "ไอ้ดินเอ๋ย...แกต้องทำใจให้ได้นะ"
ooooooo
นาย ลมหรือวายุแต่งตัวงามสง่าพร้อมกล่องของขวัญ ขับรถมุ่งไปกองถ่าย พร้อมติดต่อมือถือไปยังวารินพี่สาว ที่ได้รายงานมาว่านายดินยังลับมีดอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปที่ตลาดนัดกองถ่ายของอลิน นายลม ถึงเบาใจ
วารินมองพสุอยู่ห่างๆ แต่พอหันมา นงพะงาเดินมาเห็น ทักว่าวารินไม่ได้ไปกองถ่ายตามรายการที่ให้หรือ วารินแก้ตัวว่า ให้วายุไปแทน...แล้วทั้งสองก็หันมาเห็นพสุที่กำลังถาม
"คุณลมไปไหนนะครับ " คำถามพสุทำให้นงพะงาและวารินชะงักพูดไม่ออก เพราะพสุได้ยินแล้วเริ่มรู้ และอยากจะรู้แน่ว่าพวกนี้กำลังจะเล่นตลกอะไร เขานึกถึงอลินขึ้นมาทันที...
อลิ นมากับรถตู้ จอดแถวตลาดนัด จัดการแต่งเติมเสริมสวยอยู่ในรถเตรียมเข้าฉาก...เพรียวมารายงานว่าแม่ค้าที่ จะมาเข้าฉากพร้อมแล้ว...เพรียวหันไปเห็นวายุเดินมาพร้อมกล่องของขวัญจึง มองอย่างตกใจ เพราะรู้ว่าวายุคือแฟนของหมิง แล้วมาทำไมที่นี่ หมิงก็เข้าฉากที่สตูดิโอ เพรียวจึงคิดจะให้มันสนุกยิ่งขึ้น
ส่วนพสุเมื่อ เห็นท่าไม่ดีจึงโดดซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ รับจ้างมุ่งหน้ามายังตลาดนัดแล้วติดต่อเปี๊ยก บอกว่าโทร.หาคุณลินก็ไม่รับสาย แต่นายลมน้องชายเขากำลังไปที่กองถ่าย เปี๊ยกจึงบอกเดี๋ยวจะตามพสุไป แต่เปี๊ยกยังคิดไม่ตก ทำไมน้องนายดินแฟนยายหมิงถึงจะไปหาคุณลินที่กองถ่ายตลาดนัด?
แน่นอน ยายหมิงกำลังเข้าฉาก พอรู้จากเพรียวว่านายลมมาทำอะไรที่กองถ่ายตลาดนัด ถือกล่องของขวัญมาด้วย... หมิงหน้าบูด มือไม้ค่อยๆสั่นเมื่อคิดมาก...แล้วหมิงไม่ยอมเปลี่ยนชุด เอาหัวใจนำหน้าไปโลด ตัวเองผวาตามให้ถึงตัววายุ และนังอลินให้เร็วที่สุด...
ooooooo

สูตรเสน่หา ตอนที่ 14


เมื่อ สำรวจตัวเองว่าพร้อมแล้ว อลินก็ก้าวลงจากรถตู้ พร้อมที่จะเริ่มการถ่ายรายการในตลาดนัด แล้วจู่ๆ ก็มีกล่องของขวัญยื่นมาตรงหน้า...อุทานอย่างตกใจ
"สวัสดีครับคุณอลิน" วายุหรือนายลมยิ้มหน้าระรื่น เห็นอลินติดอ่าง เขาจึงบรรจงถ้อยคำออกมาอีก "ผมชื่อวายุ หรือเรียกว่าลมเฉยๆก็ได้ ผมเป็นน้องชาย...พี่ดินครับ" วายุเกือบเรียกไอ้ดิน อลินจึงทวนคำ นึกออกว่าเป็นน้องชายครูกุ๊ก...แล้วก็นึกได้ว่าเจ้าหมอนี่เป็นแฟนยายหมิงนี่ จึงเปลี่ยนเสียงบอกไปว่า ยินดีที่ได้รู้จัก และไม่ทราบว่ามาทำอะไรแถวนี้?
" คือ...ผมมีของขวัญเล็กๆน้อยๆมาฝากคุณลินครับ เพื่อทำความรู้จักกันเบื้องต้น พี่ดินพูดให้ผมฟังบ่อยๆ บอกว่าเราสองคนมีอะไรเหมือนๆกัน อยากให้ทำความรู้จักกันเอาไว้" อลินฟัง ได้แต่เลิกคิ้วเฉย "ผมเลยเลือกสร้อยที่แพงที่สุดในร้านผมมาให้ คุณลินรับไว้เถอะครับ"
อลินมองกล่อง ยังไม่ตัดสินใจว่าจะรับ...ทันใดกล่องถูกกระชากไปทันที หมิงจับกล่องยืนจังก้า ตวาดเรียก "ลม" เสียงดัง...นายลมเองก็อุทานเสียงแตกพร่า ยาหยีหมิง...อลินเห็นหมิงแล้วยิ้มขึงตึงตัวพร้อมรับมือทันที...ตอนนี้อลิ นไม่รู้ว่าพสุกำลังสั่งมอเตอร์ไซค์ให้เลี้ยวลัดตัดทางมาตลาดนัดให้เร็วที่ สุด
"ลม...นี่มันอะไรกันหา...ลมเอามาให้มันทำไม" หมิง ตวัดสายตาไปหาอลิน "อย่าบอกนะว่าแกคิดจะแย่งแฟนฉัน"
" โฮ้ย...บ้าแล้ว ฉันอยู่ของฉันดีๆ แฟนแกก็เอาของขวัญมาให้ฉันเอง เธอยังมีหน้ามาใส่ร้ายว่าฉันแย่งแฟนเธอ" หมิง เถียง ไม่เชื่อว่าลมจะมาหาแกเอง วางแผนให้เขามาหาเพื่อเอาชนะเพื่อแก้แค้นหมิง อลินโต้ทันที "น้ำเน่า...ฉันไม่ไร้สาระอย่างนั้น ถามแฟนแกเองก็แล้วกัน...บางทีเขาอาจจะเบื่อของเก่า ถึงจะอึ๋มก็ใกล้ถุงกาแฟไปมาก คงอยากได้ของเร้าใจใหม่ๆซะบ้าง"
หมิงโต้ด้วยเสียงกรี๊ดยาว แล้วหันมากระชากไหล่ อลินมาแล้วฟาดฝ่ามือใส่หน้าอลินดังเพียะ ลมตกใจจะช่วยอลิน หมิงขวางทันที ตะคอกใส่อลิน
"ชดใช้ที่แกตบฉันคราวก่อน ถ้ายังมายุ่งกับลมอีก จะเจอยิ่งกว่านี้"
" เธอนั่นแหละจะเจอ" อลินสะบัดฝ่ามือตอบทันที หมิง ตาแทบหลุด...ยังตบอีกข้าง หน้าหันไปหันมา หมิงส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด ด่านังจิ้งจอกพันหน้าใส่คะแนนไม่ทัน แล้วสงครามขนมที่ใกล้มือต่างละเลงใส่หัวหู ขยี้กันไปตามจังหวะ ล้มลุก คลุกคลาน ลมเข้าช่วยอลิน หมิงเอาขนมยัดปากให้ เอาถาดฟาดซ้ำร้องลั่นตลาด ไทยมุงต่างส่งเสียงเชียร์ล้อมหน้าล้อม หลัง...ทีมงานตาเหลือกไม่รู้จะแก้ไขยังไง
ลูกเป็ดแนะเพรียว จึงได้ร้องบอกไทยมุงว่า ตอนนี้เรากำลังถ่ายละคร จะจบฉากแล้ว เอ้าบอกให้แยกกันที...แล้วย้ำ เรากำลังถ่ายละครฉากสำคัญ ถอยออกไป...แต่ไม่มีใครฟัง
พสุลงจากรถรับจ้าง เดินเข้ามาได้ยินเสียงการลงมือและการด่าแย่งแฟนกัน ภาพตรงหน้าทำให้เขาถลันเข้าไปจับมือหมิงก่อนจะตบอลินอีก พร้อมสั่งให้หยุด
" หยุดนะ...คุณลินไม่รู้เรื่องแฟนคุณ อยากรู้ว่าแฟนคุณมาที่นี่ได้ไง มาถามผม...ผมจะบอกความจริงทั้งหมด" ทั้งสองคนหยุดมือ ไทยมุงหันมามองพสุ หมิงถามพสุว่าความจริงอะไร พอพสุจะบอก ลมเห็นท่าไม่ดีจึงร้องสั่งหมิงว่า พอได้แล้ว กลับไปเดี๋ยวนี้...ลมฉุดแขนหมิง แต่หมิงไม่ยอมไป
"เดี๋ยว หมิงยังไม่รู้ว่าความจริงมันยังไง ลมปล่อยหมิง นะ" แต่ลมบอกไม่ต้องรู้ ไปเลย...ลมหยิบกล่องของขวัญแล้วลากหมิงหนีอย่างรวดเร็ว
เพรียว จึงรีบประกาศว่าการถ่ายทำฉากนี้จบลงแล้ว ขอบคุณ พี่น้องทุกท่านที่มาเข้าฉากด้วย ขอบคุณอีกครั้ง แล้วแยกย้ายกันไปทำมาหากินต่อได้แล้ว...ไทยมุงทั้งหลายเริ่มทยอยกันไปซื้อหา ข้าวของต่อ...พสุประคองอลินที่เนื้อตัวมอมแมมฟกช้ำ ดำเขียวไปทั้งตัว
สิ่ง ที่อลินได้พบครั้งนี้คือได้พบแววตาอ่อนละมุน อบอุ่นและห่วงใยที่พสุมีต่อเธออย่างไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน...แม้หลังเขาหา ยามาทาให้ ทั้งขอโทษแทนแม่ของเขาที่ทำให้อลินเป็นเหยื่อ แบบนี้ อลินรู้ว่าแม่ของพสุไม่รู้เรื่องแน่ ท่านจึงไม่ผิด แล้วอย่าไปเล่าให้ท่านฟัง ท่านจะเสียใจ พสุชมว่าแม้ตัวจะเจ็บแต่อลินยังคิดถึงคนอื่น
"แม่ครูกุ๊กเป็นคนอื่นซะที่ ไหน" การเปิดใจครั้งนี้ทำให้ พสุอดยิ้มอย่างภูมิใจไม่ได้ อลินถามต่อ "ครูกุ๊กรู้ไหม น้องชายครูกุ๊กทำแบบนี้ทำไม" พสุได้แต่สั่นหัว แต่รับจะไปสอบถามให้
ขณะที่ทั้งสองกำลังช่วยพยาบาลกันใกล้ที่จอดรถตู้ กำลังจ้องตากันด้วยความอบอุ่น เสียงอนุชาเรียกชื่อคุณอลินดังมา พสุชะงัก อลินร้องทักคุณเล็กอย่างดีใจ อนุชารีบถามเจ็บมากไหม ไปหาหมอดีกว่า อลินบอกนิดหน่อยเท่านั้น อนุชาขอโทษที่มาช้า ไม่ทันได้ช่วยคุณลิน
"ไม่ เป็นไรค่ะ พอดีครูกุ๊กอยู่ด้วย เลยไม่โดนชุดใหญ่ โชคดีมากเลยที่ครูกุ๊กมาทันเวลา ไม่งั้นลินคงแย่กว่านี้" อนุชาฟังแล้วมองพสุที่ยิ้มนิดๆ จึงขอบคุณพสุที่ช่วยอลิน แล้วบอกว่า จากนี้เขาจะดูแลอลินเอง จะทำแผลให้คุณอลินเอง ไม่ต้องลำบากครูกุ๊ก...ว่าแล้วหันไปสำรวจซักถามอลินว่า เจ็บตรงไหนบ้าง
อลิ นมองคนโน้นทีคนนี้ที แล้วในที่สุดชี้บอกอนุชาว่าเจ็บตรงนี้ตรงนั้น...อนุชารีบทารีบถูให้ พสุทนไม่ไหวเดินหนีไปดื้อๆ อลินมองตามพสุ เริ่มรู้สึกว่าผิดไปเสียแล้ว...
อีก ด้านหนึ่ง ปฏิคมหรือทนายเปี๊ยกเดินเร่อร่ามา พอเห็นภาพอนุชาถูทายาให้อลินถึงกับชะงัก...มองไปอีกทางเห็นพสุเดินก้มหน้า งุดๆหนีไป เปี๊ยกอุทานเบาๆ "โธ่...ไอ้ดินเอ๊ย... เจ็บอีกละซี"
ooooooo
ทาง ด้านนายลมลากหมิงกลับไปบ้านของเธอ แล้วยังด่าว่าหมิงที่ไปวุ่นวายการทำงานของอลินที่ตลาดนัด ไม่อายใครเขาเลย หมิงด่ากลับลมว่า เมื่อก่อนด่าอลินหาว่าเป็นวัตถุโบราณ
"แล้วตอนนี้เกิดบ้าอะไร ถึงได้ตามจีบมัน"
" ไม่ได้บ้า ผมตั้งใจ เมื่อคุณให้สิ่งที่ผมต้องการไม่ได้ ผมก็ต้องหาคนที่เขาให้ผมได้ แล้วทีหลังอย่ามาทำเป็นเจ้าของ ผมไม่ชอบ" ลมโยนกระเป๋าหมิงทิ้งเพราะเกะกะลูกตา หมิง มองตาม ความแค้นกลับไปใส่อลิน "นังลิน แกกับฉันได้เห็นดีกัน...คอยดูเถอะ" หมิงสะบัดตัว ต้องร้องโอยเพราะชอกช้ำจากการพันตูกับอลินมาหยกๆ
ทนายเปี๊ยกไปแสดงความ ห่วงใยพสุกับโสภิตาที่ร้านของเธอ โสภิตาบอกว่า เธอพบนายดินแล้ว เขาบอกว่าเขาทำใจได้ แต่เปี๊ยกกลับเห็นว่านายดินคงทำใจไม่ได้ ใครบ้างจะทนเห็นคนที่เรารักกุ๊กกิ๊กกับผู้ชายอื่น ยิ่งนายอนุชาจริงจังกับอลินมากเท่าใด ดินหรือจะทำใจได้...แล้วเปี๊ยกรู้ตัว ขอโทษโสภิตาที่อาจสะเทือนใจเมื่อพาดพิงถึงอนุชา โสภิตาบอกเธอทำใจได้แล้ว... เปี๊ยกได้แต่ถอนใจงึมงำว่า ถ้าอนุชาจริงจังกับอลินมากกว่านี้ นายดินเพื่อนเขาจะตายอย่างเขียดหรือหาไม่?
"ขอถามหน่อย...คุณลินคิดยังไงกับดิน...จริงๆแล้วคุณลินเขาชอบใคร" โสภิตาเจาะข่าวลึกขึ้น
"อันนี้ผมไม่ทราบ คงมีแต่คุณลินคนเดียวเท่านั้นที่รู้" ทั้งสองต่างไม่รู้ อลินคิดยังไงกับนายดิน?
แม้ นายดินเองก็เฝ้าแต่คิดทั้งวัน ปรุงอาหารไปคิดไป ถึงภาพที่อลินให้อนุชาช่วยประคบประหงมดูแลริ้วรอยบาดเจ็บให้...คิดตั้งแต่ เช้าจนเย็นย่ำ เด็กเอาโน้ตสั้นๆของลูกค้ามาให้ เขารีบดู
"สวัสดีค่ะคุณ เชฟ ดิฉันลูกค้าประจำของร้าน วันนี้เพิ่งโดนตบมา กินอะไรอร่อยไม่ได้ คุณเชฟกรุณาทำอาหารที่กินง่าย เคี้ยวคล่องสำหรับผู้บาดเจ็บให้หน่อยนะคะ...จาก...ลูกค้าสุดสวย"
นายดิน เอาโน้ตมาแปะตรงหน้าอ่านซ้ำอ่านซากอีก ยิ้มฟันแห้งแล้วยังอ่านต่อ โดยเฉพาะอลินเขียนรูปหัวใจมาให้ดูด้วย มันทำให้หัวใจเป็นๆของนายดินดิ้นด๊าวด่าวอีกจนได้...
นายดินหารู้ไม่ว่า เรื่องที่เกิดตบตีกันในตลาดนัด เพรียวเล่าละเอียดยิบให้คุณหญิงอมราฟัง แล้วลงท้ายด้วยการใส่ไฟพสุว่า มีแต๊ะอั๋งคุณอลินด้วย คุณหญิงอมรานิ่งงัน แต่หัวใจที่แค้น จนคลั่งเต้นเหย็งๆในอก...เรียกอนุชาลูกชายผู้เป็นเสมือนตัวเงินตัวทองมา สัมมนา...ย้อนถามไหนว่าครูกุ๊กไม่คิดอะไรกับอลิน... แล้วยืนยันว่าจะจัดการเอง เมื่อลูกจัดการไม่ได้ อนุชาจึงเตือนแม่ว่า จะไปลงมือให้เขาถ่ายวีดิโอไว้มัดตัวเองหรือ ถ้าคุณแม่จะจัดการแบบนั้น เขาขอจัดการเอง...คุณหญิงคำรามคาดโทษ
"ก็ได้...แม่ให้โอกาสเราอีกครั้ง ถ้ากำจัดครูกุ๊กจากชีวิตอลินไม่ได้ แม่ไม่เอามันไว้แน่"
ooooooo
เมื่อ อลินมาถึงร้านอิตาเลียนในตอนค่ำ เธอจึงได้ลิ้มรสอาหารตามที่เธอสั่ง โดยมีครูกุ๊กทำหน้าที่เสิร์ฟแล้วดูแลอย่างใกล้ชิด...เมื่อพูดถึงเรื่องการตบ ตี พสุบ่นว่า ไม่รู้ตอนนี้ข่าวออกมายังไง อลินยักไหล่ การตบกันในกองถ่ายเกิดบ่อยไป ใครถามก็บอกว่าเราซ้อมบทกันเท่านั้น ไม่ได้ตบกันแต่อย่างใด
พสุเร่งให้กิน อลินชมว่าอร่อยมากและอร่อยสุดยอด พสุบอกเขาทำเผื่อให้เอากลับไปกินที่บ้าน ใส่ใบบัวบกแก้ ฟกช้ำ...แล้วขอตัวไปทำงานต่อ อลินเรียกไว้ ขอบคุณที่ช่วยเธอตอนตบตีกัน ขอบคุณที่หายามาทำแผลให้ เขาบอกนิดหน่อย จะเอาอะไรให้บอก ยิ้มให้เธอแล้วเดินเข้าครัวไป...
อลินมองตาม เอ่ยขึ้นลอยๆ "ทำไมครูกุ๊กยิ้มแปลกๆ" แล้วเลิกคิดกินซุปต่อ เสียงมือถือดัง พอกดรับรีบยิ้มและตอบทันที "สวัสดีค่ะ...คุณเล็ก"
"วันพรุ่งนี้คุณลิ นว่างไหมครับ" เสียงนั้นทำให้อลินลืมโลก ยินยอมตกลงให้เขานัด เพื่อจะได้พบกันทานอาหารกันตามความพอใจของอนุชาหรือคุณเล็กของเธอทุกประการ

พสุเอาอาหารที่จะให้เธอเอากลับไปทานที่บ้านออกมาวางให้ อลินกลับพูดถึงนายลมน้องชายเขาบอกเธอว่า...ครูกุ๊กบอกว่าเขากับเธอมีอะไร หลายอย่างเหมือนกัน แล้วคิดว่าเราน่าจะได้รู้จักกัน แต่เธอคิดว่าเขาโกหก เพราะรู้ว่าครูกุ๊กไม่มีทางยุ่งเรื่องคนอื่น เที่ยวจับคู่ให้คนโน้นคนนี้ แล้วชมตัวเองว่าคนอย่างอลินไม่มีวันที่ใคร

จะมาหลอก...พสุติงว่า ก็ไม่แน่...แล้วถามต่อไป เขาว่ายังไงอีก?

" เขาเอาของขวัญมาให้ ฉันว่าเขาต้องคิดจีบฉันแน่ๆ" พสุถาม ถ้าเขาจีบจะทำยังไง? "ไม่ทำยังไง ไม่สนอยู่แล้ว เพราะหัวใจฉันมีแต่คุณอนุชาคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีทางเทียบได้" พสุฟังแล้ว หัวใจหักไปหลายโป๊ก...อลินยังกระหน่ำซ้ำอีก "พรุ่งนี้คุณเล็กเขาชวนฉันไปทานข้าวด้วยนะ เขาติดฉันหนึ่งมื้อเมื่อคราวที่แล้ว บวกกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เขาจะพาไปเลี้ยงปลอบใจ" พสุพึมพำว่ายินดีด้วย "คุณเล็กน่ารักที่สุด เขาห่วงฉันมาก ตอนทำแผล มือเขาเบ๊าเบา ค่อยๆทำ ถ้าไม่บอกนึกว่าเป็นมือผู้หญิง แล้วตอนเขา..."

"ขอโทษนะ ผมไม่อยากฟัง...เอ้อ คือผมไม่มีเวลา ต้องขอโทษ ต้องไปทำงาน"

อลิ นมองตาม ยังคิดว่าเกิดอะไรขึ้นมาละเนี่ย...เธอหารู้ไม่ว่า พสุเข้าไปสูดลมหายใจเข้าปอดอยู่คนเดียวในห้องครัว ว่าจะทำยังไงกับโลกสั่วๆใบนี้ดี?

ooooooo

วันนี้ปูเป้ต้องลง สนามแข่งฟุตบอล ขณะที่กีฬาอื่นๆที่แข่งกันมาก่อนใกล้จะจบลง ปูเป้เห็นพ่อแม่ ผู้ปกครองคนอื่นมากันพร้อม เพื่อเชียร์ลูกหลานตัวเอง ปูเป้เห็นแล้วสีหน้าจ๋อยลงไปถนัด ในที่สุดปูเป้คิดถึงคุณพ่ออนุชา จึงรีบโทร.ไปหา

อนุชาแต่งตัวเท่กำลังจะออกไปทานข้าวตามที่นัดกับอลิ นไว้แล้ว เมื่อมือถือดังขึ้น จึงเห็นเบอร์แปลกๆ พอกดรับจึงดีใจได้ยินเสียงลูกสาว จึงรีบถาม มีอะไรหรือครับลูก... ปูเป้จึงบอก

"ที่โรงเรียนมีแข่งกีฬา ปูเป้เตะบอลกับเพื่อนๆตอนเย็น คุณพ่อมาดูปูเป้เตะบอลได้ไหมคะ"

อนุชา ชะงัก...คิดไปถามไป รู้ว่าจะแข่งเตะกันเย็นนี้สี่โมง เขาดูนาฬิกาสามโมงกว่า ถามลูกอีกทีว่า ไม่มีใครไปดูลูกเลยหรือครับ...คำตอบคือเสียงสะอื้นอย่างน้อยใจของลูก แล้วรำพันว่า ไม่มีใครมาเลย...อ้อนวอนพ่อให้มาให้ได้นะคะ... เสียงอ้อนย้ำอย่างน่าสงสาร

"โอเคครับ...เดี๋ยวคุณพ่อรีบไปนะครับ ปูเป้รอพ่อแป๊บนึงนะครับ"

จาก นั้นอนุชาจึงจำต้องโทร.ไปหาอลินที่กำลังบรรจงแต่งองค์ทรงเครื่องหน้ากระจก อย่างมั่นใจว่าอนุชาได้เห็นแล้ว ต้องชอบจนจี๊ดถึงสมองเชียวละ แต่เมื่อรับสายจากเขา หน้าจึงจ๋อยลงพลัน

"วันนี้คุณเล็กไม่ว่างเหรอคะ"

" ครับ...พอดีผมมีธุระด่วน ผมต้องขอโทษคุณลินด้วยนะครับ เอาไว้ผมโทร.ไปนัดคุณลินอีกครั้งนะครับ...ขอโทษจริงๆครับ" อลินจะพูดอะไรได้ นอกจากบอกว่าไม่เป็นไร แล้วค่อยคุยกัน ตัดสายไปแล้ว มองตัวเองในกระจก คำรามครืดคราดในคอ "แล้วจะสวยมันไปถึงไหนกันล่ะเนี่ย?"

ส่วน โสภิตานั้นเล่า ตัวเองติดธุระ จึงโทร.ไปขอร้องพสุให้ไปดูปูเป้แข่งกีฬาให้ด้วย แล้วค่ำๆเจอกัน พสุรับปากมั่นเหมาะเพราะรักปูเป้เหมือนลูกของเขา...

ooooooo

ปู เป้ในชุดนักเตะเดินลงสนามไปซ้อมอย่างลังเล พยายามมองมาริมสนามเพื่อจะดูว่าพ่ออนุชามาหรือยัง มองไม่เห็นได้แต่ซึมลงสนามหลังเพื่อน เสียงอนุชาดังมา

"ปูเป้...สู้ๆ สู้นะลูก" ปูเป้หันมาเห็นอนุชาโบกมือ แล้วชูนิ้วโป้งให้ ปูเป้ยิ้มหัวใจพองขึ้นมาทันที โบกมือให้พ่อ ยิ้มร่าเริงสุดๆ พวกสาวแก่แม่ม่ายหันมามองอนุชา หลายรายชมว่า หล่ออะไรปานนี้...อนุชายิ้มให้เล็กๆ แล้วมองจดจ่อลูกสาวที่กำลังเริ่มเล่นอย่างสนุกสนาน

พสุมาถึงข้างสนาม ...ห่างจากที่อนุชายืนเชียร์ลูกสาวถัดไปแค่ 7-8 คนเท่านั้น...พสุโบกมือให้ปูเป้ เมื่อมาทางขอบสนาม ปูเป้หันมาเห็น โบกมือให้ลุงดินของเธอ...อนุชาแปลกใจว่าลูกโบกมือให้ใคร...เห็นคุณแม่ร่าง ยักษ์โบกมือให้นักกีฬา อนุชาไม่เห็นพสุ จึงคิดว่าโบกมือให้แม่เพื่อนที่บังพสุจนมิด... แล้วทั้งสนามได้เฮ เมื่อปูเป้เลี้ยงลูกหลบไปยิงเข้าประตู อนุชายกนิ้วร้องเชียร์เต็มที่ ร้องเรียกปูเป้พร้อมกับพสุ ทั้งสองพุ่งตัวออกไป...แล้วทั้งสองคนก็มองกันแปลกใจ

"คุณพ่อ" ปูเป้ร้องเรียกอนุชาอย่างดีใจ พ่อลูกกอดกัน ลูกถามว่าปูเป้เก่งอ๊ะเปล่า? พ่อตอบว่าเก่ง ปูเป้หันไปทางพสุ ร้องถาม "ลุงดิน ปูเป้เก่งอ๊ะเปล่าคะ" ลุงดินร้องตอบทันทีว่า "เก่งครับ"

อนุชามองพสุ พึมพำ "นี่รึ...ลุงดิน"

อนุ ชากับพสุจึงเลี่ยงมาคุยกัน เมื่อลูกสาวเล่นบอลต่อไป อนุชาซักถามเรื่องลูกเมียของเขา พสุบอกรู้มาตั้งแต่โสภิตาท้อง เพราะเป็นเพื่อนกับเธอมาตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย

"ถ้าอย่างนั้น คุณก็รู้เรื่องระหว่างผมกับตาแล้ว"

" ผมไม่ได้บอกคุณลิน และไม่มีความคิดว่าจะบอก... คุณลินไม่รู้เรื่องระหว่างคุณกับตา แต่ถ้าวันหนึ่งเธอรู้ คุณมั่นใจได้ว่ามันไม่ได้มาจากผม" อนุชาฟังแล้วพูดไม่ออก....

ooooooo

วัน นี้หมิงไปง้อลมถึงบ้าน ง้อขอเริ่มต้นคืนดีกันใหม่ แต่ลมกลับไม่สนใจ ทั้งขับไล่ให้กลับไป หมิง พยายามแต่ไร้ผล จึงได้แต่ให้ลมจำที่ไล่เธอวันนี้ไว้ ให้ดี สักวันเขาจะต้องเสียใจ...

หมิ งเดินออกจากบ้านบริบรรณ ผ่านไปทางหน้าบ้านนงพะงา เห็นอ้อนกับติ๋มสองสาวใช้กำลังดูรูปที่อ้อนถ่ายนงพะงากับอลินกับพสุหลายรูป หมิงจึงแอบฟัง พอนงพะงาเรียกอ้อนให้มาช่วยงานในครัว สาวใช้ทั้งสองจึงวางรูปไว้ เดี๋ยวเสร็จงานจะมาดูต่อ

หมิงรีบไปคว้าอัลบั้มมาดู อลินถ่ายกับนงพะงา มีอ้อนด้วย และที่หมิงสนใจ มีรูปพสุกับอลินถ่ายกันอย่างคลอเคลียแนบสนิทชิดใกล้หลายรูป

"นังอลิน...เตรียมเป็นข่าวหน้าหนึ่งได้เลย" แล้วหมิงก็ทำตัวละลายหายไปจากที่นั่น พร้อมกับอัลบั้ม

ส่วน อลิน หลังจากอนุชาขอเลื่อนนัด จึงต้องลุกต้องนั่งไปตามเรื่อง หาหนังสือมาอ่าน แล้วก็พบเรื่องราวในหนังสือดารา ทั้งซุบซิบ หมั้น แต่งงานเยอะแยะไป ยิ่งทำให้อลินเบื่อ ไม่ได้อิจฉาใคร แต่เซ็ง บางทีคิดว่าถ้าได้แต่งเมื่อไหร่ จะยึด หน้าสีสิบหน้ารายวันยักษ์ใหญ่ไปเลย...แล้วชะงัก เพราะมันจะเกิดขึ้นได้ยังไง นัดทีไรก็เลื่อน แล้วก็ยกเลิก แบบนี้ได้ไง?

"ไม่ได้แล้ว อยู่บ้านจิตตกฟุ้งซ่าน ออกไปหาความสุขใส่ตัวตามประสาคนโสดโค้งสุดท้ายดีกว่า"

อลินลุกพรวด แล้วสะดุดกึก ถามตัวเองว่า แล้วจะไปไหนดีละหวา?

ใน ที่สุด อลินแต่งตัวไปสปา บอกเจ้าหน้าที่ต้อนรับว่า มีอะไรดีใส่มาในรายการเลย ไม่ว่าวิตามิน คอลลาเจน สาหร่าย โคลนตม ยกเว้นปลักควาย...เอามาเลย วันนี้เธอมีเวลาเหลือเฟือ

หลังเปลี่ยนชุด มองกระจกสำรวจหน้าตัวเอง แล้วประกาศอิสรภาพ

"ทิ้งเรื่องผู้ชาย เรื่องแต่งงาน ทิ้งให้หมด ตอนนี้มีแต่ตัวเธอ หาความสุขใส่ตัวได้แล้วอลิน"

ooooooo

อนุชา อ้าแขนรับปูเป้หลังการแข่งบอลเรียบร้อยแล้ว ลูกสาวบอกพ่อว่า เธอได้เหรียญทอง อนุชาอุ้มลูกหอมอย่างสุดรัก ถามว่าจะเอารางวัลอะไรดี ปูเป้บอกอยากได้เห็นหน้าพ่อทุกวันก็พอแล้ว อนุชารีบบอกว่า จะพยายามมาหาลูกทุกวัน แล้วชวนกลับ เอาเหรียญไปอวดคุณแม่

ขณะอนุชาจูง มือปูเป้ไปขึ้นรถ เขามองหาพสุ แต่ไม่เห็น โดยไม่รู้ว่าพสุแอบมองพ่อลูกด้วยความรู้สึกที่เตลิดไปไกล นึกถึงอลิน...ที่บอกเขาว่า เธอมีความสุขที่คุณเล็กของเธอนัดไปทานข้าว แล้วคุณเล็กของเธอกลับมาหาลูก นึกแล้วอดสงสารไม่ได้ แต่อีกใจหนึ่งไม่อยากยุ่งไม่อยากล้ำเส้น แต่ก็หนีหัวใจตัวเองไม่พ้น หยิบมือถือมากด...อลินไม่ยอมรับสาย พสุยิ่งร้าวราน ห่วงใยใบ้บ้าอยู่คนเดียว...

พสุไม่รู้ว่า ยามนี้อลินประกาศไม่สนเรื่องผู้ชายพายเรือ จะแสวงหาความสุขใส่ตัวท่าเดียว ตอนนี้กำลังอยู่ในสปา ถูกช่างช่วยสารพัดจะเสริมทั้งกายใจ หน้าอลินจึงถูกพอกถูกแต้ม พอๆกับหลายส่วนในร่างกาย

อลินแว่วเสียงคุย มาจากห้องข้างๆว่า ที่น้องอ้นได้แต่งงานไปแล้ว เธอไม่ได้เล่นของ แต่พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปขอพรจาก "พระตรีมูรติ" ที่พวกดาราชอบไปขอแฟนรวยๆกัน

"ท่านศักดิ์สิทธิ์มากเลยค่ะ แค่ 3 เดือนเห็นผล เดินโย่งๆ ตัวเป็นๆมาเลยค่ะ ตรงตามที่ขอพรไว้เป๊ะเลย" อลินพลอยหูผึ่งตึงตังไปตามเสียงคนอื่นๆซักน้องอ้นระงม สาวอ้นเพิ่งข้าวใหม่ ปลามัน ใส่ต่อเป็นชุดออโตเมติก "จริงที่สุดค่ะ เพื่อนอ้นบางคน คบกับแฟนมาหลายปี ไม่ยอมขอแต่งซักกะที พอไปขอพรปุ๊บ ไม่กี่วันขันหมากโห่ฮิ้วมาทันที" อลินยื่นหูใกล้ข้างฝาเข้าไปอีก "เพื่อนอีกคนเล็งผู้ชายอยู่คน ทำท่าไหนก็ไม่คืบหน้า นัดกันกี่ทีก็มีอุปสรรคให้แคล้วคลาดกันไปทุกตา...โฮ้ย...พอไปขอพรจากท่าน ปุ๊บ แค่สามวันต่อมา ผู้ชายผวามาทรุดแต้ ขอแต่งงานเหมือนสายฟ้าแลบ"

ประสา ทอลินกำลังตึงเปรี๊ยะ ใจแทบหยุดเต้น เมื่อเจ้าหน้าที่คนหนึ่งมาเรียก...อลินตกใจ หันมาอย่างแรง หล่นโครมจากเตียง...เสียงดัง ทั้งในห้องและข้างห้องต่างตกใจไปด้วย เพราะกำลังนึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระตรีมูรติ

ooooooo

โสภิ ตารอลูกสาวที่วานพสุไปดูแล ทั้งให้รับกลับบ้าน รอจนค่ำจึงเห็นรถมาจอดหน้าร้าน แต่พอลงมากลับเห็นอนุชาไปรับปูเป้ โสภิตาไม่พอใจ กลัวเขาจะมาแย่งลูกไปอีก ปูเป้อวดเหรียญทองที่ชนะแข่งบอล จึงไม่ทำให้แม่ยินดี กลับตำหนิว่า แม่ให้ลูกเล่นกีฬาเบาๆ ลูกไม่ค่อยสบาย เกิดหายใจไม่ทันจะทำยังไง ทีหลัง
ห้ามเล่น อนุชาแย้งว่า เธอไม่น่าห้ามลูก

"ฉันคุยกับลูกฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ" ปูเป้ขอร้องแม่อย่าดุพ่อเลย ปูเป้ผิดเอง ทีหลังไม่ทำอีก แม่สั่งให้ลูกรีบเข้าไปอาบน้ำ แม่จะคุยกับพ่อแป๊บเดียว...ปูเป้ถอดเหรียญทองจากคอให้พ่ออนุชา ขอบคุณที่มาเชียร์ แล้วบ๊ายบายก่อนเข้าบ้านไป...
จากนั้นโสภิตากับอนุชา หรือคุณเล็กเกิดซักถามกัน จึงรู้ว่าตอนที่อนุชาไปหาลูกนั้น พสุยังไม่มา...อนุชาถามทันทีว่า ทำไมโสภิตาไม่บอกเขาว่ารู้จักกับครูสอนทำอาหารของคุณอลิน แล้วรู้จักกันมานานหรือยัง สนิทกันแค่ไหน?
"ตาจะรู้จักดินนานแค่ไหน สนิทมากหรือไม่ มันไม่ เกี่ยวกับคุณ คุณรู้ไว้แค่ว่าดินเป็นคนดี จริงใจ และดูแลตามาตลอด ก่อนที่ตาจะรู้จักคุณด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่ตาต้องการใครสักคน ดินคือคนที่อยู่ข้างๆตามาตลอด เขาไม่เคยทอดทิ้งหรือทำให้ตาต้องโดดเดี่ยว"
"ถ้าดีขนาดนั้น ทำไมถึงไม่เลือกแต่งงานกับเขา มาแต่งกับผมทำไม" ถามแบบนี้ โสภิตาถึงสะอึก
" เพราะตาเลือกผิดไง" ทั้งๆที่ใจอยากบอกว่า เพราะฉันรักคุณไง? "ถ้าวันนี้ตาเลือกใหม่ได้ ตาคงเลือกสิ่งที่ถูกต้อง จะได้ไม่ผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา"


"ถ้าคุณรู้ตัวผมก็ดีใจด้วย และขอให้โชคดี"
" ตอนนี้เราสองคนได้เจอคนที่เหมาะสมกันแล้ว ตากับดิน คุณเล็กกับคุณอลิน...ตาขออวยพรให้คุณโชคดีเช่นกัน" โสภิตาหันหลังกลับเข้าร้าน...อนุชาระบายลมหึงออกไป แล้วนิ่งทำใจอดทนเข้าไว้
โส ภิตากลับเข้าร้าน ปูเป้รออยู่แล้ว บอกแม่อย่างผู้ใหญ่ จนแม่แปลกใจว่า แม่ไม่ต้องห่วง ปูเป้เข้าใจ รู้ว่าพ่อแม่เข้ากันไม่ได้ ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แล้วเลิกกัน แม่ถามว่าไปเอาคำพูดนี้ มาจากไหน ลูกสาวบอกฉอดๆว่า ที่โรงเรียนมีพ่อแม่เพื่อนหลายคนเขาเลิกกัน จะมีปูเป้อีกคนก็ไม่เป็นไร...โสภิตาน้ำตาพรู กอดลูกไว้ด้วยความเวทนาสัตว์ผู้ยากตัวน้อยๆที่ไร้ความผิด... ปูเป้กลับปลอบแม่อย่าร้องไห้ เดี๋ยวน้ำท่วมโลก ไม่มีบ้านอยู่ ปูเป้จำที่แม่เคยเล่าให้ฟัง...
"แล้วคุณแม่ยังรักคุณพ่ออยู่หรือเปล่าคะ" โสภิตาหรือจะตอบลูกได้ จึงใช้อ้อมกอดแทนคำตอบ ปูเป้กลับถามอีก "แล้วพี่ลิน...รักคุณพ่อหรือเปล่าคะ" คำถามนี้หนักอึ้งกว่า จึงไม่มีคำตอบจากปากแม่


ooooooo


พสุหิ้วถุงใส่อาหารมา ยืนหน้าห้องอลิน กำลังจะกดออด ประตูห้องก็เปิดออก พสุต้องผงะ อลินเองก็สะอึก เขามองเธอตั้งแต่หัวจดเท้า ใส่หมวกหลุบๆ แต่งตัวเชยๆ ใส่แว่นตาดำกรอบบานใหญ่น้องๆกระด้ง
"ทำไมคุณลินแต่งตัวแบบนี้"
"ฉัน เอ้อ..." อลินสมองหมุนติ้ว จะตอบท่าไหน เพราะเธอกำลังจะแอบไปไหว้พระตรีมูรติ "คือฉันกำลังจะไปถ่ายละครน่ะ แล้วนี่ครูกุ๊กมาทำไม...เฮ้ย!" อลินร้องตกใจ เพราะพสุไม่เชื่อเห็นกระดาษในมือ จึงดึงมาอ่าน
"ทางไปไหว้พระตรีมูรติ...นี่คุณลิน..."
"ไม่ต้องพูด...ฉันจะไป ครูกุ๊กก็ไม่ต้องมาห้าม เอามานี่" อลินตามแย่ง เขาหลบ
" ผมไม่ได้ห้าม แต่มาคุยให้รู้เรื่องก่อน" พสุเดินเข้าห้องไป อลินบ่นอู้ อะไรกันจ๊ะนายคนนี้ ยุ่งเป็นลุงถิงแก้แห พสุสั่งให้หยุดบ่น แล้วมานั่งคุยกันด่วน เดี๋ยวนี้เลย...อลินสุดแสนจะเซ็ง เดินมาหลังเหวี่ยงประตูปิดโครมเบ้อเร่อ จ้องตาหลบตากันพักใหญ่ พสุจึงแย็บใส่ก่อน
"แค่โดนผู้ชายเลิกนัดกินข้าว ถึงจิตตกต้องวิ่งไปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเลยเหรอเนี่ย"
"ครูกุ๊กรู้ได้ไงว่าคุณเล็กเบี้ยวนัดฉัน ฉันยังไม่ได้บอกสักหน่อย"
"ก็เดาเอา...ปกติเดตมาปุ๊บ ก็ต้องรีบโทร.มารายงานปั๊บ วันนี้เห็นเงียบหายไป ก็เดาว่าคงแห้ว"
"ชะ...อย่าพูดแห้วได้ไหม มันเป็นลางไม่ดี ถ้าไม่นึกว่ามีบุญคุณ จะแช่งให้ครูกุ๊กแห้ว...แห้วๆๆๆๆ"
" นี่คุณนาย อย่าเพิ่งของขึ้น โทร.มาไม่รับ นึกว่าแอบของขึ้นผีเข้ากัดลิ้นตัวเองตาย เลยรีบทำของอร่อยๆมาให้กิน แต่สงสัยจะไม่มีกะจิตกะใจจะกิน"
"ใช่...ในสภาพแบบนี้ใครจะกินลง นี่ครูกุ๊ก จะคุยก็รีบคุย ฉันจะรีบไป"
"เฮอะ นี่คิดจะไปจริงๆเหรอ"
"จริง...ท่านศักดิ์สิทธิ์มากเลยนะ ใครไปไหว้ได้หมดเลย ที่มีอุปสรรคก็จะหมด ได้แต่งงานในสามวัน ศักดิ์สิทธิ์มั่กๆเลย"
" ตั้งใจขนาดนั้น...รู้ไหมเขาเอาอะไรไปไหว้มั่ง" อลินส่ายหัวดิกๆ "เขาต้องมีของเซ่นไหว้ มีฤกษ์มียาม พวงมาลัยกุหลาบ ดาวเรืองสีแดง เอ๊ยไม่ใช่ กุหลาบสีแดงทั้งธูปเทียน...
มีหรือยัง"
"ไม่มี แล้วครูกุ๊กรู้ได้ไง" อลินพยายามจับผิด...พสุจึงบอกว่า แม่เคยให้ไปไหว้ แต่เขาไม่ไป แต่จำได้ว่ามีของอะไรบ้าง อลินรีบมาเกาะแขนเอาใจยกใหญ่ จะให้ช่วยไปหาของไปเซ่นไหว้
"ไม่ต้องเลย...ผมไม่พาคุณไปซื้อของเด็ดขาด...ไม่มีทาง"
อลิ นเหล่ แล้วก็ทำเง้างอดเอะอะมะเทิ่งพอเป็นพิธี ยอมหุบปากคอยที ในที่สุดพสุก็ยอมตามลงไปที่รถ ขับให้ อลินนั่งยิ้มพิมพ์ใจที่ใช้พสุได้เหมือนเดิม
จุดแรกที่พสุต้องลงไปช่วย ขนดอกไม้คือที่ปากคลองตลาด อลินสั่งซื้อดอกไม้ไปเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วยังต้องซื้อกลับบ้านด้วย พสุจึงต้องหอบไปใส่รถจนแน่นเบาะหลัง อลินแอบเห็นพสุไม่ขัดคอ จึงดูอ่อนโยนน่ารักขึ้นเป็นกองสองกอง...บางครั้งอลินถึงตะลึง เพราะเพิ่งเห็นมุมใหม่ของพสุที่ไม่เคยสนใจมาก่อน...ส่วนพสุ หลังจากได้ดอกไม้แล้วขับรถเดินทางต่อ แต่เห็นดอกไม้กองเป็นภูเขาแล้วอดยิ้มขำไม่ได้....


เมื่อไปถึงศาล พระตรีมูรติ มีคนทั้งไทยและต่างชาติ มากราบไหว้บูชาไม่มากนัก พสุบอกเธอว่า เขาไม่ไหว้ขออะไรเลย เขาต้องการตามธรรมชาติ อลินจึงขอตัวไป แต่อดหันมาถามไม่ได้
"ครูกุ๊ก...ถ้าฉันขอแล้วจะได้แต่งงานกับคุณเล็กเลย รึเปล่า" พสุบอกดุ่ยไปว่า ก็ลองดูแล้วกัน อลินยิ้ม เดินไปเริ่มทำตามพิธีที่เขาแนะนำมา ขณะกำลังจะจุดธูปเทียนไหว้ ป้าคนหนึ่งเดินมาบอก
"ถ้ามาขอคู่...วันนี้ไม่ได้หรอกนะ...วันนี้วันจันทร์ จะมาขอเรื่องความรักต้องมาวันพฤหัส"
อลินชะงักมองป้า ทวนวันพฤหัส...มองพสุที่ยืนยิ้มแห้งๆให้ อลินบ่นเสียใจและผิดหวังที่จะทำอะไรนัดใครมันล้วนผิดหวัง
"หรือว่า...ฉันกับคุณเล็กจะไม่ใช่คู่กันจริงๆ" อลินบ่นงึมงำ พสุติงว่าฟุ้งซ่านใหญ่แล้ว กลับไปอาบน้ำนอน ตื่นมาเดี๋ยวก็ลืม
" กะอีแค่ผู้ชายนัดกินข้าวแล้วเบี้ยว...ไม่ถึงตายหรอกน่า" อลินเหมือนไม่ได้ยิน ยืนซื่อบื้อท้อแท้ "ไม่ต้องมายืนโอดกาเหว่า ทำเศร้าดราม่า...ไปกลับบ้าน" พสุดึงตัวเดิน อลินตามเหมือนซากความเซ็ง
อลิ นนั่งซึมในรถ พสุขับไป...พาเดินห้างยามดึก อาการ อลินไม่ดีขึ้น จึงขับรถไปเปิดเพลงไป ไม่ดีขึ้นอีก จึงหมุนไปหาเพลงที่ถูกใจ แล้วอลินก็ปัดมือเขา บอกให้หยุดตรงเพลงที่เธอชอบ...เสียงเพลงทำให้อลินหน้าตื่นชื่นบานขึ้นมา ทันที
"ฉันจำได้...เพลงนี้ฉันเต้นเป็น เคยซ้อมออกรายการทีวีเมื่อหลายปีก่อน" พสุล้อคำว่าหลายปีเสียงยาว อลินเหล่ สะบัด เสียงใส่ว่า มันไม่นานหลายปีขนาดนั้น "เดี๋ยวฉันเต้นให้ดู รับรองวันเดอร์เกิร์ลอาย"
อลินขยับ พอถึงท่อนมันๆ "พูดอีกที... พูดอีกที...พูดอีกที...ได้รึเปล่า" พสุร้องบอกว่าได้เลย เอ้า...อลินขยับเนื้อตัวเข้าจังหวะ สะบัดบนที่นั่งเต็มเหนี่ยว ปากก็ร้องไปด้วย พอรถติดไฟแดง อลินยังไม่หยุด พสุเตือนว่ารถไม่ได้ติดฟิล์มทึบ คนเขาจะหาว่าเพี้ยน ทั้งกระเซ้าเข้าให้
"แหม โยกได้เป๊ะทุกสเต็ป...บ่งบอกถึงอาการบั้นเอวไฟในวัยที่ผ่านๆมา"
"ครูกุ๊กก็วัยเดียวกับฉันนั่นแหละ ทำมาแกว่งเม้าท์... ห้ามเอ่ยคำว่าคานทองเด็ดขาด"
พสุหัวเราะเอิ๊กอ๊าก อลินก็ร้องเพลงคลอตาม สนุกต่อ...
มอเตอร์ไซค์มาจอดเทียบ ไอ้หนุ่มมองอลินแล้วยิ้มร่า ยังตบมือให้ด้วย พสุส่ายหัวไปมา อะไรจะมีความสุขปานฉะนี้... ว่าแล้วออกรถไปทันที
อลินเองก็รู้สึกว่าเวลาผ่านมาถึงตอนนี้ มันช่างเป็นคืนที่น่าสนุกอย่างไม่คาดฝันโดยแท้


ooooooo

สูตรเสน่หาตอนที่ 15


เมื่อ กลับถึงที่พัก พสุขนดอกไม้ขึ้นไปให้บนห้องหลายเที่ยว อลินเข้าห้องน้ำฮัมเพลงหงิงๆ แต่เมื่อออกมามองเห็นดอกไม้ที่เพิ่งซื้อมามากมายถูกจัดใส่แจกัน กระถาง ใส่ถ้วย ใส่ถาด แต่จัดวางตบแต่งไว้อย่างสวยงาม อลินร้องเรียก
"ครูกุ๊ก..." ตามเรียกอยู่หลายคำ กลับไม่มีเสียแล้ว...
อลินเดินไปที่ตู้เย็น เห็นกระดาษติดไว้ จึงหยิบมาอ่าน
" ผมไม่อยากทิ้งดอกไม้ไว้ข้ามคืน เลยจัดใส่ไว้ให้ ถ้าการวางไม่ถูกหลักวิชาก็เชิญจัดใหม่เอาเอง...ถ้าหิว ผมทำซุปกับสลัดไว้ให้แล้ว" อลินมองไปที่โต๊ะ เห็นถ้วยซุปและจานสลัดวางไว้ "แต่ถ้าคืนนี้ไม่กิน อย่าลืมเอาเข้าตู้เย็น"
"เจ้าค่ะ" อลินยิ้ม...ถ้ายังอยู่จะต่อว่าที่เจ้ากี้เจ้าการสั่งดีนัก...แล้วอ่านต่อ "สุดท้ายนี้...ขอให้คุณได้เจอผู้ชายที่ดี ที่จริงใจ และเข้าใจคุณอย่างแท้จริง...จาก ครูกุ๊ก"
อลินยิ้มกว้าง สีหน้าสดใส ไม่รู้สึกทุกข์ระทมเหมือนตอนจะให้พสุไปไหว้วอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์
"ครูกุ๊กนี่ก็แอบกุ๊กกิ๊กกับเขาเป็นเหมือนกันนะเนี่ย" อลินติดกระดาษไว้ที่เดิม ยิ้มอย่างมีความสุข

เช้านี้พสุเดินมาที่รถ วายุหรือนายลมจอมซ่าแห่งบ้านบริบรรณก็โผล่มาขวาง เบ่งใส่ว่ามีเรื่องจะพูดกับนายดิน พสุหรือนายดินก็ตอกกลับว่า เขาก็มี เรื่องจะพูดกับลมเช่นกัน ลมจังก้าใส่ดินเหมือนเจ้านาย
"ฉันขอสั่งห้ามไม่ให้แกเข้าใกล้อลิน ยิ่งห่างเท่าไหร่ ยิ่งดี ถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็หลบไปซะ...เพราะฉันจะจีบอลิน"
" ผมก็ไม่อยากเดือดร้อน แต่ไม่ยอมให้ใครมาหาประโยชน์จากลูกศิษย์ผม ถ้าคุณลมแน่จริง หาทางตีสนิทเธอด้วยตัวเอง อย่าเอาชื่อลูกคนใช้อย่างผมไปอ้างให้เสียรังวัด...คุณลมพูดอะไรกับคุณลินที่ กองถ่าย อย่าคิดว่าผู้หญิงเขาไม่รู้ทัน คิดจีบผู้หญิงควรหามุกที่ฉลาดๆกว่านี้หน่อย"
"ไอ้ดิน...มึงตาย..." ลมถลาเข้ามาเงื้อง่าราคาแพง ดินรีบสวน
" ถ้าคุณใช้กำลัง พี่ฟ้าก็ต้องมาห้าม พี่ฟ้าต้องรู้ว่าคุณหลอกใช้แม่ผมทำอะไรลงไปบ้าง...อย่าใช้กำลัง ถ้าไม่อยากเดือดร้อน...ที่ผ่านมาผมยอมเพราะมันเรื่องคุณกับผม แต่ตอนนี้ คุณกำลังดึงคุณลินมาเกี่ยว...ผมยอมไม่ได้"
"โธ่...ทำมาพูดดี ที่แท้หมาหวงก้าง จำไว้ จะเดือดร้อนแค่ไหน แกมันแค่ไอ้หมาเห็นเครื่องบิน ผู้หญิงอย่างยายนังเอกเชิดหยิ่งนั่น ไม่มีวันสนใจไอ้ลูกคนใช้อย่างแก" นายดินถึงกับอึ้งตะลึงจ้อง นายลมกระหน่ำเสียงดัง "มันต้องคนอย่างฉัน ถึงจะคู่สร้างคู่สมเว้ย" นายลมเดินหนีเฉิบๆ ดินมองแล้วจี๊ด หงุดหงิดในท่าทียั่วยวนกวนบาทาแท้...
ooooooo
เมื่อภาพพสุกับอลินถูก นำไปตีพิมพ์ในหนังสือประเภทซุบซิบลับสุดยอดดาราชื่อ "เม้าท์กระจาย" วางหราไปตามแผงหนังสือแล้ว คนแรกที่เดือดร้อนแทนเพื่อนคือปฏิคม หรือนายเปี๊ยก พอเห็นแล้วก็รู้ว่าภาพที่แนบเนื้อแอบอิงสนิทชิดใกล้แบบนี้ นายดินเดือดร้อนแน่...
ส่วนอลินพอเดินเข้าไปในกองถ่าย คนที่เห็นแล้วหมั่นไส้คือฮยองกึน ดาราเกาหลีที่ติดใจพสุหรือครูกุ๊กเอามากๆ แค้นอลินที่กีดกันหลอกว่าพสุเป็นเกย์...ส่วนพวกนักข่าวมาเห็นอลินก็พากันฮือ รุมล้อมสัมภาษณ์ ทิ่มไมค์ใส่แทบปากพัง ป้อนคำถามร้อยแปดจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก...
ขณะเดียวกันที่บ้านนงพะงา ปฏิคมเผ่นไปหานายดินถึงบ้าน แม่นงพะงาตามอ้อนมาสอบถาม เพราะเป็นคนเอารูป พวกนั้นมาดูกับเพื่อน อ้อนร้องไห้กลัว เมื่อเปี๊ยกขู่จะฟ้องอ้อนเรียกค่าเสียหายเป็นล้าน อ้อนสารภาพว่าเอารูปมาดู แต่ไม่รู้มันไปอยู่หน้าปกหนังสือได้อย่างไร พสุซักหนัก...
"อ้อ...นึก ออกแล้ว วันที่อ้อนเอารูปมาดูกับนังติ๋ม วันนั้น คุณหมิงดารารัตน์มาหาคุณลมที่บ้านด้วยนะคะ" ทุกคนฟังเริ่มไหวตัวเยือกๆ ทนายเปี๊ยกสะอึก ร้องขึ้น "ยัยกุ๊กกู๋...หมิงปลาเค็ม"
ส่วนยายหมิงนั่ง ตะไบเล็บครืดๆอยู่ในบ้าน มีนายลมมาจังก้าซักถามเรื่องใครเอารูปไปลงหนังสือพิมพ์ โดยชี้ว่าหมิงเป็นตัวการ หมิงยิ้มยั่วว่าเดาเก่ง ฉลาดไม่น้อย ลมปาหนังสือใส่ ถามว่าทำแบบนี้ทำไม หมิงยืนเชิดใส่ไม่ยี่หระ
"ที่หมิงทำ ก็อยากให้ลมรู้ว่าหมิงไม่ใช่คนบ้องแบ๊ว จะมาเขี่ยทิ้งไม่ง่ายนัก ถ้าคิดทิ้งหมิงไปซบนังอลิน หมิงจะดันข่าวให้มันได้กับไอ้ดินลูกคนใช้ ปล่อยทั้งข่าวทั้งรูปให้ลมดิ้นเสียหน้าเสียใจจนตาย"
ลมเข้ามาคว้ามือหมิง หมิงสะบัดหนี ทิ่มตะไบแหลมเปี๊ยบมาใส่ตรงหน้าเตรียมเสือกใส่กระเดือก ลมหยุดกึก หมิงสำทับ ยิ้มเครียดใส่จนปากเบี้ยว
"อย่านะ ถึงตาย...หมิงเตือนแล้ว ถ้าทิ้งหมิงไปมี คนอื่น โดยเฉพาะนังลิน หมิงเอาตาย" ลมปากสั่น ขอให้หมิงใจเย็นๆ หมิงสำทับ "ไม่เย็นแล้วเว้ย ถ้าลมคิดจะไปจากหมิง เอาเงินที่ยืมไปมาคืนทุกบาททุกสตางค์ ไม่งั้นหมิงจะแฉให้หมด แล้วดูสินังอลินมันอยากได้ผู้ชายถังแตกไปเป็นผัวอีกรึเปล่า?"
หมิงของขึ้นเต็มที่ นายลมก้มหน้าท่าจ๋องกร๋อย ซีดถึงระดับไก่ต้มข่า...
ooooooo
หลัง จากอลินจำต้องชี้แจงกับกองทัพย่อยๆของนักข่าวแล้ว พอกลับมาบริษัทก็ต้องมาชี้แจงกับคุณหญิงอมรากับอนุชา ถึงเรื่องราวที่กำลังจะร้ายแรง ถึงขั้นสัมพันธ์แตกดังโพละ กำลังคุยกันไปมา ทีวีก็ออกข่าวอลินให้สัมภาษณ์ทีวี
"ลินไม่ถือสาหรอกค่ะ แค่ภาพหลุด แล้วภาพนั้นไม่เสียหายอะไร ลินไม่อยากเอาเรื่อง ลินกับครูกุ๊กก็เป็นเพื่อนกัน ถ่ายรูปด้วยกันไม่แปลก ไม่มีอะไรหรอกค่ะ"
คุณหญิงอมราฟังแล้วหาได้สบอารมณ์ไม่ กดปิดทีวี หันไปมองลูกชายที่นั่งบื้อเฉย
"แม่ว่าหนูลินต้องทำอะไรสักอย่าง...ฟ้องมันเลยดีไหม"
"คุณแม่ครับ" อนุชาค้านขึ้น "มันเรื่องส่วนตัว ให้คุณลินตัดสินใจดีกว่าครับ"
" ไม่ส่วนตัว มันเสียภาพพจน์บริษัทและรายการของเรา ถ้ามีข่าวกับผู้ชายที่คู่ควรก็ไปอย่าง แต่นายนี่มันแค่ลูกคนใช้" อนุชาปรามแม่เบาๆ อลินงึมงำในคอด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ขอบคุณคุณหญิงไว้
" ลินคิดว่าฐานะครูกุ๊กไม่เกี่ยวกับภาพพจน์ของลิน และการที่ได้เป็นข่าว มีคนสนใจถือว่าเป็นการเรียกเรตติ้งรายการ... บางทีครูกุ๊กอาจทำให้รายการของเราเรตติ้งดีขึ้นก็ได้นะคะ"
"ไอ้ครูกุ๊กเนี่ยนะ มันจะเป็นไปได้ยังไง?" คุณหญิงทำหน้าเหม็นเบื่อไอ้ลูกคนใช้ อลินแอบยิ้ม
สิ่ง ที่อลินคิดไว้...เธอนำไปบอกพสุที่ร้านอิตาเลียนในคืนนั้น เพื่อที่จะทำให้ครูกุ๊กกับเธอหลุดพ้นข้อครหา คือการเชิญครูกุ๊กไปออกรายการทำอาหารกับอลิน ก่อนจบรายการก็ถ่ายรูปคู่กัน ใส่ชุดเหมือนกับในรูปถ่ายที่เป็นข่าว คนดูจะได้คิดว่ามันเป็นภาพโปรโมตรายการ ไม่ใช่ภาพลับที่แอบถ่าย แค่นี้ง่ายจะตาย แก้ปัญหาได้จากร้ายกลายเป็นดี
"ไม่...ยังไงผมก็ไม่ออก ทีวี แค่แถลงข่าววันนั้นผมก็เขินแย่แล้ว ยิ่งทำอาหารออกรายการ ผมยิ่งไม่เอาด้วย" อลินตกลง เธอจะหาแขกรับเชิญมาออกเป็นเพื่อนอีกคน พสุหันขวับมาถามทันทีว่าใคร...อลินหรือจะยอมบอกง่ายๆ
ooooooo
เช้าวัน จะออกรายการ...ปฏิคมมาที่บ้านนงพะงา คุณแม่แต่งตัวพร้อมจะออกรายการอย่างพิถีพิถัน ทนายเปี๊ยกชมว่าคุณแม่สวยเช้ง จะทำให้อลินหมองไปเลย
พสุเร่เข้ามาหาแม่ หลังจากที่พยายามห้ามแม่มาแล้ว... คราวนี้ขอร้องให้แม่คิดดูให้ดีๆ ตอนนี้พวกกองถ่ายยังไม่มีตั้งกองถ่ายในบ้านนี้ ยังมีเวลาเปลี่ยนใจทัน แต่แม่นงพะงายืนกรานไม่เปลี่ยนใจ อ้างอลินโทร.มาอ้อนวอนแทบตาย ทั้งๆที่เรื่องนี้พสุมีส่วนทำให้เธอเสียหาย เปี๊ยกสมน้ำหน้าพสุ เพราะแม่เชื่ออลินจนลืมลูกชายไปแล้ว...
ขณะที่รถกองถ่ายวิ่งเข้ามาใน บริเวณบ้าน นายลมเห็น แล้วเดือดร้อน เมื่อวารินผู้พี่สาวถามว่าเกิดอะไรขึ้น พอติ๋มรายงานว่าคุณอลินมาถ่ายทำรายการที่บ้านคุณนงพะงา วารินจะไปไล่ตะเพิดออกจากบ้านไปให้หมด
"ไม่ต้อง...พี่เป็นคนอนุญาตเอง" เสียงคุณนภาหรือพี่ฟ้าดังขัดขึ้น วารินหัวหด "พี่ว่ามันไม่เสียหายอะไร อีกอย่างเขาถ่ายทำที่บ้านโน้น คุณพ่อยกให้เป็นสมบัติน้านงเขาแล้ว ไม่เกี่ยวกับเรา...ถ้าไม่มีอะไรทำ ไปดูแลแม่ใหญ่แทนน้านงให้พี่ด้วย พี่จะออกไปข้างนอก ทำอะไรซะบ้างจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน"
พี่ฟ้าเดินกลับเข้าบ้าน วารินแอบกระทืบเท้า แล้วจำต้องเดินเข้าบ้านไปด้วย...นายลมแอบวางแผนร้ายไว้ในใจอีกตาหนึ่งแล้ว...
ส่วน อลินหลังจากลงรถ วายุหรือนายลมเริ่มแผนเร่มาทักทายอลิน เธอสวัสดีตอบ เรียกลมว่า "น้องชายครูกุ๊ก" ทั้งๆที่ อยากให้เรียกลม...เขาตัดพ้อ คิดว่าอลินยังโกรธเรื่องที่ตลาดนัด ว่าหมิงเจ้าอารมณ์ เขาเตือนแต่หมิงไม่ฟัง อลินจึงโบกมือห้าม ขอตัวไปทำงาน ถ้าไม่มีอะไรอีก ลมรีบบอกว่ามี เขาอยากบอกเธอเรื่องเขากับหมิง อลินจึงหันมาสนใจ แล้วก็ยอมที่จะฟังนิทาน เมื่อนายลมพาไปนั่งมุมหนึ่ง พอลมเริ่มเรื่อง อลินกด มือถือไปหาหมิงที่กำลังจะถ่ายละคร หมิงรับอย่างเสียไม่ได้ ว่านังจิ้งจอกพันหน้าโทร.มาอ้อนเรื่องอะไร...แล้วหมิงก็ได้ยินชัดเจน เมื่อนายลมพูดกับอลินเสียงดังฟังชัด
"...ผมกับหมิงตอนนี้เราไม่ได้เป็น แฟนกันแล้วนะครับ เราสองคนเลิกกันอย่างเด็ดขาดแล้ว" หมิงฟังถึงจุกแน่นลิ้นปี่ อลินเอ่ยเสียงเหรอ นายลมว่าต่อ "เราสองคนเข้ากันไม่ได้จริงๆ ผมว่าน่าจะมีคนอื่นที่เข้ากันได้...อย่างคุณลิน" หมิงดิ้นพราด เมื่ออาการเสียดจี๊ดจ๊าดขึ้นสมอง...อลินถามต่อ
"แล้วลินต่างจากหมิงยังไงคะ คุณถึงคิดว่าเราสองคนจะเข้ากันได้"
"คุณลินฉลาด หมิงโง่ เขาคงโง่เพราะรับบทร้ายๆมามากเลยติด คุณอลินรับบทนางเอกจึงฉลาด"
"แหม...พูดแบบนี้หมิงได้ยินคงเสียใจแย่" อลินยิ้มสะใจ
" ไม่เสียใจหรอกครับ เขารู้ตัวว่าไม่ค่อยฉลาดมาแต่ปี มะโว้แล้ว" ลมเข้าประชิดอลิน "คุณลินครับ เย็นนี้ผมจะชวนคุณลินไปทานอาหารสักมื้อ จะโอเคไหมครับ"
"ลินน่ะโอเคอยู่แล้วค่ะ แต่ไม่รู้ว่าหมิงจะโอเครึเปล่า" อลินเอามือถือไปจ่อที่หน้าลม พอเขาเห็นชื่อ ตาถลน ร้องลั่น "หมิงงงงง..." เสียงหมิงร้องกรี๊ดดังลั่นออกมา...ลมถึงอุดหู
"ลม...นี่มันอะไรกันหา...อยากตายรึไง...ไอ้...หา..."
" จะสวดวัดไหนบอกด้วยนะ ฉันจะส่งพวงหรีดไปร่วมแสดงความยินดี" อลินสะบัดหน้าเดินหนีไปทางบ้านนงพะงา... นายลมร้องเรียกอลิน แต่พอจะตามไป มือถือของเขาดังลั่นขึ้น มองดูหน้าจอแล้วครางชื่อหมิงออกมาแทบหมดแรง
" หมิง...ฮัลโหลลลล...ที่รัก ฟังผมก่อนนะจ๊ะ" นายลมรีบวิ่งกลับเข้าบ้าน หาทางแก้ไขเหตุการณ์ที่เจ็บปวดนี้ให้ได้ ไม่งั้นบรรลัยแน่...อลินมองตามอย่างเวทนาระคนสมน้ำหน้า

พอเดินเข้าไปเจอพสุ เขาถามทันทีว่าคุยอะไรกับลม อลินบอกว่า เขาบอกว่าเลิกกับหมิง เขาว่าหมิงโง่ ชมว่าอลินฉลาด แล้วชวนไปกินข้าว อลินบอกเธอก็ตอบตกลง พสุฟังถึงกับอกหักดังโพละอลินคงเดาว่าไม่ดีแล้วจึงสารภาพว่าล้อเขาเล่น จะไปกินข้าวกับคนที่ดูถูกครูกุ๊กได้ไง ไม่ต้องห่วง กินไม่ลง แค่เห็นหน้าก็พาลอารมณ์เสียแล้ว...พสุค่อยหน้าดีขึ้น อลินจับไหล่เขา ปลอบว่าอย่าคิดมาก รีบไปเตรียมถ่ายรายการกันดีกว่า... พสุไม่เล่นด้วย เขาไม่ถ่ายแน่ อลินบอกว่า แววตาเขาบอกว่าจะถ่าย แต่ขอเก๊ก พสุอดขำไม่ได้ อลินจึงบอกว่าไม่ถ่ายจะหัวเราะหรือ จึงสั่งให้เขาไปเตรียมตัวได้แล้ว... อลินตบมือสั่งทีมงานมาคุมตัวพสุไปผัดหน้าทาแป้งแต่งตัวเข้ารายการทันที...
การ พยศของพสุเรื่องการแต่งตัวที่เขาไม่คุ้นทำให้เสียเวลาจนทีมงานกองถ่ายสวดยับ ไปไม่น้อย แต่อลินยืนยันว่าจะต้องแต่งให้ครูกุ๊กดูดีที่สุด...หลังจากแต่งเสร็จแล้ว พสุเดินออกมา อลินเพิ่งได้ซึ้งถึงความหล่อมีเสน่ห์ของพสุตอนนี้เอง... แล้วทีมงานสาวๆหรือจะไม่มองอย่างตะลึงลาน...
ทางบริษัทอวตาน คุณหญิงอมราฟังลูกน้องโทร.ไปรายงานถึงบริษัท หันไปเล่นงานอนุชาว่าทำไมไม่ไปดูเขาถ่ายรายการที่บ้านนงพะงา อลินโอ๋ครูกุ๊กยังกับอะไรดี ทุ่มเทให้พามาออกรายการ แล้วยังไปถ่ายทำที่บ้านมันอีก อนุชาย้อนว่า ที่อลินต้องทำอย่างนี้เพราะคุณแม่ไปโวยวายเรื่องรูป
"ผมมั่นใจว่าดินไม่ ได้ชอบคุณลิน ผมรู้ว่าเขาชอบใคร" แม่ซักทันทีว่าใคร รู้ได้ยังไง อนุชายืนยัน "ผมรู้ แต่เป็นใครคุณแม่อย่ารู้เลย ให้รู้แค่เขาเป็นผู้หญิงที่ดีมากๆ ถึงจะไม่รวยเท่า แต่ก็ดีไม่น้อยไปกว่าคุณลิน" แน่นอน...เขาหมายถึงโสภิตา แต่คุณหญิงอมราเริ่มคิดหนักว่านังคนนั้นมันใครกัน?


ooooooo


วันนี้ เป็นวันที่รายการอาหาร "อลิน อร่อย อราวด์" ออกรายการทีวี ซึ่งได้รับการต้อนรับจากผู้ชมอย่างอบอุ่นเช่นเคย มีการทำอาหารหลายอย่าง คุณนงพะงาทำน้ำยาขนมจีนอย่างชำนาญ อลินทำสปาเกตตี ครูกุ๊กคอยช่วยเหลือ และทำหน้าที่อธิบายอย่างน่าฟัง
ทนายเปี๊ยกคอยจับสังเกตสายตาของอลินที่ มองครูกุ๊ก จับอาการได้ว่าเธอมองด้วยสายตาแปลกๆ ทั้งคู่ทำอาหารอย่างเข้าขา ทุกท่วงท่าดูน่ารักไปหมด...
ตอนท้ายรายการ จนถึงอลินกล่าวปิดรายการ นงพะงา จึงถามขึ้น
" คุณลินคะ ก่อนคุณลินจะกลับ ป้ากับดินขอถ่ายรูปไว้ เป็นที่ระลึกสักหน่อยได้ไหมคะ" อลินตอบตกลงด้วยความยินดี "งั้นป้ากับดินขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ จะได้สวยๆ" แม่ลูกพากันเดินไป อลินในจอทีวีพูดต่อ
"นี่คือความพิเศษสุดที่ลินนำมาให้ผู้ชม หวังว่าคงถูกอกถูกใจใครๆหลายคนนะคะ พบกับความพิเศษนี้ในช่วงต่อไป แต่จะเป็นอะไรขออุบไว้ก่อน"
จาก นั้นเป็นการปิดท้ายรายการ...เป็นภาพนิ่งอลินถ่ายคู่กับนงพะงา และภาพอลินถ่ายคู่กับพสุหรือครูกุ๊กของเธอ เป็นภาพที่เหมือนกับที่หมิงเอาไปขึ้นปกหนังสือ ครูกุ๊กเปลี่ยนชุดนี้มา อลินชมอยู่คนเดียวหน้าจอทีวี
"ครูกุ๊กนี่ขึ้นกล้องเหมือนกันนะเนี่ย... ดูๆไปก็น่ารักดีแฮะ" อลินดูไปยิ้มไปอย่างมีความสุข...อลินไม่รู้ตัวหรอกว่าเธอกำลังเริ่มดำดิ่งลง ไปสู่ช่วงที่ลึกที่สุดในหัวใจตัวเองแล้ว...


ขณะเดียวกัน พสุก็ไปดูรายการทีวีที่ร้านโสภิตา โดยเฉพาะช็อตก่อนจะจบรายการ พสุบ่นว่า มันรู้สึกเขินๆ น่าอายหน่อยๆ ซึ่งโสภิตาค้านว่าน่ารักดีออก แล้วแอบแซวว่า เธอไม่คิดว่าพสุจะยอมออกรายการ แต่นี่เพราะคุณลินแท้ๆเทียว
"ใจอ่อนขนาดนี้ อยู่ใกล้เขามากๆจะทำใจเป็นเพื่อนเขาได้เหรอ"
" ต้องได้สิ ก็มันไม่มีอะไรนี่ แค่เราคิดว่าเป็นเพื่อน เดี๋ยวมันก็เป็นเพื่อนเอง" พสุแอบยิ้มนิดๆ พยายามข่มใจให้อยู่แค่เพื่อน แต่พระเจ้าองค์ไหนก็ไม่อาจทำนายได้ว่าจะเป็นเพื่อนกันได้นานแค่ไหน


ooooooo


อนุชา หน้าบานเมื่อสุวัจน์มือฝ่ายขายชั้นหนึ่งมาบอกว่ารายการอลินดีมาก โดยเฉพาะที่ออกรายการกับครูกุ๊ก ให้เพิ่มรายการอาหารเป็นรายการสั้น 5 นาที ขอดูเทปตัวอย่าง 3 เทปต้นเดือนหน้า อนุชาบอกตกลงทันที หันไปสั่งคุณสุภาฝ่ายบัญชี จะขอเบิกล่วงหน้าเตรียมสำรองทำเทปตัวอย่าง สุภารีบบอกว่า คงไม่สะดวก เพราะเงินไม่เหลือแล้ว...
ตัวการนี้คือคุณหญิงเอง เมื่อกลับถึงบ้าน อนุชาจึงพูดเรื่องนี้กับแม่ คุณหญิงรับทันที
"แม่เบิกเงินบริษัทมาใช้เอง...แค่ 8 ล้านเท่านั้น"
"8 ล้าน..." อนุชาร้องคราง "มันเงินหมุนเวียนทั้งบริษัท เลยนะครับ จะเอาที่ไหนจ่ายเงินเดือนลูกน้อง รายจ่ายรายการใหม่อีก ทำไมไม่บอกผมสักคำ"
"แม่เห็นมีเงินอยู่ ก็ขอมาหมุนก่อน ไม่ได้เอามาหมด เหลือตั้งแสนกว่าบาท"
อนุชาโวยของขึ้น แม่ให้หามาหมุนสิ อนุชาถาม จะไปหาเงินเป็นล้านๆมาจากไหนง่ายๆ
" เล็กไม่มี หุ้นส่วนของเล็กมี มีมากด้วย ถ้าเล็กมั่นใจว่าคุมอลินได้ตามที่พูดไว้ ขอเงินเพิ่มอีกสัก 7-8 ล้าน คนอย่างอลิน ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก เชื่อแม่สิ" คุณหญิงมองลูกชาย เห็นก้มหน้านิ่งแล้วยิ่งขัดใจ ทำไมลูกคนนี้ถึงโง่นัก น้ำขึ้นไม่รีบตัก...


ooooooo


แล้วอนุชา ก็ไม่มีทางเลือก จำต้องพูดเรื่องนี้กับอลินทางโทรศัพท์ โดยเริ่มด้วยความสำเร็จในรายการอาหารของอลิน ที่ได้เวลามาเพิ่มอีก พร้อมกับขอให้อลินลงเงินมาอีก 10 ล้าน อลินตกลงทันที ดีใจที่รายการดัง ยังได้เพิ่มเวลามาอีก อนุชาขอบคุณอลินไม่ขาดปาก
"ลินเข้าใจคุณเล็กอยู่ แล้วค่ะ ลินจะสั่งให้ทนายของลินทำเอกสาร แล้วก็โอนเงินไปให้เร็วที่สุดค่ะ" อลินตัดสินใจอย่างหนักแน่น มองเห็นอนาคตที่กำลังจะดังทะลุฟ้ารำไรแล้ว
ทนาย ปฏิคมหรือเปี๊ยก ฟังคำสั่งเรื่องเงิน 10 ล้านจากปากอลินแล้วไม่ยอมขึ้นมาทันที เพิ่งจ่ายไปหยกๆ 10 ล้าน ยังจะเอาอีก 10 ล้าน เหมือนจะเอาเงินไปถมที่ ไม่ได้ไปทำรายการทีวี อลินโต้ทนายว่า 10 ล้าน ไม่รู้จะพอไหม ต้องทำรายการใหม่ จ้างคนเพิ่ม ซื้อกล้อง ขยายห้องตัดต่อ
"รายการแค่ 5 นาที ทุ่ม 10 ล้าน ทำอีกกี่สิบปีถึงจะคุ้ม"
" นี่...จะมาคาดคั้นเอาอะไรกับฉัน เป็นทนายก็ทำตามคำสั่งฉัน ให้จ่าย 10 ล้าน ก็จ่ายไปสิ พูดมากไม่อยากฟัง ฉันรีบไปกองถ่าย แค่นี้นะ" อลินปิดเครื่อง ไม่สนเงิน 10 ล้าน... คว้ากระเป๋าไปทันที
ทนายเปี๊ยกนั่งทำซื่อบื้ออยู่ครู่ใหญ่ แล้วเกิดชักกระตุกเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ เอามือถือขึ้นมากดฉับๆ แล้วกรอกเสียงลงไป
" คุณประวิทย์ ผมปฏิคมนะครับ...ผมมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือหน่อยครับ...คือว่าผมอยากได้ ข้อมูลจากบริษัทตรวจสอบบัญชี ที่ดูแลการเงินของบริษัทอวตานน่ะครับ ผมขอข้อมูลเชิงลึกที่สุด รวมทั้งสถานะการเงินของนายอนุชา โสพัฒน์" ทนายเปี๊ยกเอาจริง...เหมือนตำรวจเล็งปืนยิงผู้ร้ายยังไงยังงั้น


ooooooo


อลิ นเข้ามาในกองถ่าย เจอฮยองกึนเข้าก่อน เด็กคนนี้คิดจะชิงแชมป์ โดยมีครูกุ๊กเป็นเดิมพัน เริ่มหาว่าอลินเป็นจอมกั๊ก ด้วยการกั๊กพี่ครูกุ๊กไว้กินคนเดียว อลินจึงด่าว่านังเด็กวานซืน อย่าคิดว่าคนอื่นมีสันดานเหมือนเธอ ฮยองกึนโต้แสบ อย่าพูดดีนัก ตัวเองไม่เคยมีแฟน อยากมีแต่ไม่มีใครเอา อลินแทบจะกรี๊ด แต่อั้นไว้ ยังคิดไม่ออกว่าจะจัดการนังเด็กคนนี้แบบไหน?
"ยองกึนไม่สนหรอกว่าพี่ลิ นกับพี่ครูกุ๊กจะเป็นอะไรกัน แต่ยองกึนได้เบอร์มือถือพี่เขามาแล้ว จะจ้างครูกุ๊กสอนทำกิมจิสองต่อสองที่บ้านตอนพ่อแม่ไม่อยู่ จะเลือกสอนห้องครัวหรือห้องนอนดี" อลินอยากกรี๊ด แต่อั้นไว้...ฮยองกึนยื่นหน้ามาหยัน "เสียใจด้วยนะที่กั๊กไว้ไม่สำเร็จ" ฮยองกึนพูดเสร็จเดินลอยชาย ฮัมเพลงเกาหลีสุดฮิต โนบอดี้...ไม่เหลียวหลัง...อลินจ้องตามตาหวิดลุกเป็นไฟ นังเด็กเกาหลีนี่น่าจะชื่อฝรั่งอีวอนจะเหมาะกว่า...
อลินหน้าตูมเข้าไป เจอผู้กำกับแมน จึงเร่ไปหาทำท่าจะเด๊ดสะมอเร่อยากปรึกษา คือว่า ฉากที่อลินจับได้ว่าน้องยอง กึน ลูกสาวหนีเที่ยว ต้องตีเขา แต่ตอนนี้มืออลินเจ็บ ขอใช้ อย่างอื่นตีได้ไหม ผู้กำกับเห็นใจพยักหน้าตกลง...อลินเริ่มเข้าเกียร์คอย คราวนี้นังยองกึ๋นเสร็จฉันแน่...


การถ่ายทำละครผ่านไปหลายฉาก มาถึงฉากสำคัญ อลินกำไม้น้องๆหน้าสามไว้มั่น แล้วแผดเสียงใส่อย่างโกรธแค้น
" แม่บอกแล้วไงอย่าหนีเที่ยว ทำแบบนี้ได้ไง มาให้ตีซะดีๆ" ว่าแล้วฟาดไม้ใส่ฮยองกึน ป้าบๆๆๆไม่นับ ฮยองกึนร้องลั่นโลก...ร้องบอก "คุณแม่...รุ้งเจ็บนะ โอย รุ้งเจ็บ...อย่า รุ้งผิดไปแล้ว" ฮยองกึนรู้ทันทีว่าเจอของจริง ร้องไปแค้นไป อลินฟาดเท่าไหร่ไม่สะใจ นังเด็กดิ้นพราดๆ
"ไม่ต้องมาร้อง แม่สอนไม่จำ แม่ตีเพราะรัก รักวัวให้ผูกรักลูกให้ฆ่า...เอ๊ย ให้ตี...จำไว้"
อลินตีไปหอบไป ในใจยังแอบสะใจไปด้วย แต่ไม่พอ... จนผู้กำกับสั่งคัต
อลิ นเดินปึงปังเข้าไปในห้องพักหลังเลิกกองถ่ายตอนตีสี่ กระแทกกระเป๋าลงทรุดนั่ง แต่ยังไม่หายแค้น เมื่อนึกถึง ถ้อยคำของเด็กเกาหลีเกาหลังคนนี้...หน็อย คิดจะชวนพสุไปสอนกิมจิกิมจิ้มในห้องนอน...ชะชะ...มีใครในโลกที่จะยอม... อย่างนี้มันต้องหนามยอกเอาหนามทิ่มกบาลมันซะเลย...
เมื่ออลินกลับถึงที่ พักก็โทร.ไปหาพสุ ปลุกจากที่นอนขึ้นมารับสาย พสุตกใจคิดว่าเกิดเรื่องอะไร แล้วก็ได้ฟังว่า... อลินอยากคุยกับเขาเรื่องรายการอาหารที่จะถ่ายเทปหน้า...เขาต่อว่าที่โทร.มา หารือตอนตีสี่ อลินไม่สน เร่งให้มาพบด่วน...
เช้าวันรุ่งขึ้น พสุจึงไปหาเธอถึงคอนโดฯ ไปถึงก็เร่งให้พูดมาว่ามีเรื่องคอขาดบาดตายอะไร เขามีสอนตอนบ่าย พอพูดเรื่องสอน อลินแทบหูชันขึ้นมาทันที
"สอนใคร?" อลินตะคอกใส่ คิดไปว่าถ้าสอนนังเด็กเกาหลังเกาหลีละน่าดู
"ก็สอนลูกศิษย์ผมสิ จะให้ไปสอนใคร"
"แล้วลูกศิษย์ที่จะสอนชื่ออะไร ไปสอนกันที่ไหน"
" บ๊ะ...เป็นอะไรน่ะ...สอนที่โรงเรียนสิ ลูกศิษย์มีตั้งเป็นสิบๆ แล้วเกิดอยากรู้ไปทำไม" พสุไม่รู้ว่าอลินโล่งโจ้งในหัวใจแล้ว เธอตอบอย่างไม่สน "เปล๊า...ก็ถามไปงั้นเอง ใครจะทำไมอ๊ะ?"
ยังไม่จบง่ายๆ อลินพามานั่งที่รับแขก มีอ่างดอกบัวลอย อยู่...อลินเล็งมาที่อ่างเหมือนวางแผนไว้แล้ว อลินบอกถึงเทปหน้า เพื่อให้ครูกุ๊กจัดเมนู "คนรัก" ให้สาวๆทำเมนูเพื่อคนรัก แบบทำเองง่ายๆ ให้มาสอนมะรืนนี้...จากนั้นอลินขอยืมมือถือพสุจะโทร.ไปหานายตัวเปี๊ยก มือถือของเธอเสีย พสุจึงส่งให้ พอยื่นมือรับ อลินแกล้งปล่อยหล่นลงอ่าง พร้อมกับร้องว้ายตกใจแทบตาย...แล้วตีหน้า พร้อมขอโทษครูกุ๊ก เธอไม่ตั้งใจ พสุบอกไม่เป็นไร พอจะงมขึ้นมา อลินรีบงมตัดหน้า
"โทรศัพท์ตกน้ำต้องเป่า ให้แห้ง ครูกุ๊กรอแป๊บเดียว ฉัน จัดการให้เอง" อลินรีบเอาไปเข้าห้องน้ำ มีเครื่องเป่าอยู่แล้ว พสุมองตามยังตามเกมไม่ทัน...
อลินถอดแยกชิ้นส่วน แกะซิมออกมา ยิ้มอย่างพอใจ งึมงำว่า...แกเสร็จฉัน นังอึมกึ๋น อลินหย่อนซิมลง แล้วชักโครกให้สิ้นเรื่อง...พอดีพสุเดินมาถามว่าทำอะไร อลินรีบทำหน้าจ๋อย ขอโทษอีกครั้งว่าซิมหล่นลงชักโครกเสียแล้ว พสุมองอลิน ยิ่งงงในการกระทำของเธอหนักขึ้น...
แล้วพสุก็ตื่นเต้นยิ่งขึ้น เมื่ออลินเอากล่องมือถือรุ่นใหม่ เอี่ยมมาวางตรงหน้า ยิ้มร่าส่งให้ บอกว่าใหม่เอี่ยม ชาร์จไฟให้แล้วพร้อมซิมเบอร์ใหม่ใช้ได้เลย แล้วเบอร์เนี้ยอย่าบอกใคร ต่อไปนี้จะติดต่องานให้ติดต่อนายเปี๊ยก เธอแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้จัดการส่วนตัวครูกุ๊กแล้ว
"นี่...คิดอะไรอยู่ วางแผนทำอะไรที่ผมไม่รู้อีกล่ะ"
"เปล๊า...ฉันไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย ครูกุ๊กพูดอะไรเนี่ย ไม่เข้าใจ..."
"น้องฮยองกึนโทร.มาหาผม เมื่อเช้าเรียบร้อยแล้ว"
" อ๊ะ...จริงเฮอะ" อลินหันมาตาพองตกใจ...พอพสุบอกจริง อลินด่าอย่างลืมตัว "อีเด็กเวร...ไวไฟจริงๆ นี่ฉันรีบเปลี่ยนเบอร์ครูกุ๊กหนี ยังไม่ทันมันเลยเรอะเนี่ย" พอรู้ตัวร้องอุ๊บบบบ...หันมามองพสุแล้วก็หน้าจืดลง เมื่อรู้ตัวว่าได้ เปลือยหัวใจออกมาเต้นสามช่าให้เขาเห็นแล้ว จึงได้แต่ยิ้ม แห้งแล้ง
"ไหนว่าไม่ได้วางแผนไว้ไง...แต่แล้วก็หลุดออกมาหลายยวงเชียว" พสุยิ้มยวนกวนหัวใจ
"แหะๆๆๆ แหมครูกุ๊กนี่....ฉลาดน่าดูเหมือนกันนะ"
"ถ้าผมโง่ จะสอนคุณได้เรอะ"
อลิ นหัวเราะแก้เก้อ แล้วก็ตั้งหลักซักกลับอย่าง ไม่ยอมหยุด ถามว่านังเด็กคนนั้นโทร.มาว่าไง ให้ไปสอนใช่ไหม ครูกุ๊กตอบว่าไง...ครูกุ๊กจึงย้อนถาม

"อยากรู้ก็ต้องบอกมาก่อนว่าทำไมคุณไม่อยากให้ผมไปสอนเขา"
"ฉันไม่ชอบใช้ครูร่วมกับคนอื่น"
" แค่นั้นใช่ไหม...ถ้าแค่นั้น ถือว่าไม่มีเหตุผลที่ผมจะไม่สอนเขา...ถ้าคุณบอกเหตุผลที่น่าฟังกว่านี้ ผมอาจจะไม่สอนเขาก็ได้" ครูกุ๊กยื่นหน้ามาหาคำตอบ อลินจึงโพล่งออกมา
" เออ...ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมายุ่ง หรือมาใกล้ชิดสนิทสนมครูกุ๊ก มันขัดตาขัดใจ ขัดอารมณ์ โดยเฉพาะนังเด็กฮยองกึน แก่แดดแก่ลม อย่าหวังเลยว่าจะได้เข้าใกล้ ฉันไม่ชอบ...ฉันหวงครูอ๊ะ มีอะไรอ๊ะเปล่า" อลินหน้าตาเอาเรื่อง พสุเห็นแล้ว
ยิ้มวาบเข้าไปในอกที่กำลังเต้นระทึก ท่ามกลางดอกไม้หอมหวานบานไสว...บอกอลินไปทันที
"ไม่มีอะไรเลย...แล้วผมก็ปฏิเสธน้องเขาไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว"
"อ้าว...เฮ้อ...ปฏิเสธเด็กนั่นไปแล้ว...มาหลอกให้ฉันพูดทำไมเนี่ย" อลินนิ่งเป็นหุ่นเมื่อรู้ตัวว่าเสียท่า
" ก็อยากได้ยินไง" พสุยิ้มให้อลินอย่างอบอุ่น "ผมว่า เดี๋ยวผมกลับก่อนดีกว่า" เดินมาที่ประตู หันมาบอก "ส่วนโทรศัพท์นั่นคุณเก็บไว้เถอะ แค่ได้ยินคุณพูดเมื่อกี้ผมก็พอใจแล้ว...แล้วเจอกัน"
พสุขับรถไป ใจลอยละล่องไปแสนไกล...ไปสู่ความหอมหวานอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
อลิ นทรุดลงนั่งโซฟา รู้สึกเหมือนว่าหัวใจมันรู้สึกแปลกๆ มันหวางเวิ้ดโหวงเหวง แต่ชุ่มฉ่ำเหมือนดื่มน้ำทิพย์...ยามนี้ อลินนึกถึงความเป็นมาที่ได้สัมผัสครูกุ๊ก ตั้งแต่ผิวเผินจนกระทั่งมาได้มองเขาอย่างลึกซึ้ง นับวันแต่จะผูกพันครูกุ๊กมากขึ้น...อลินยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว
หลัง จากฝันกลางวันเคลิ้มไปหลายตลบแล้ว อลินนึกสนุก จึงเอาสมุดบันทึกสีชมพูมาเปิดหน้าที่ว่าง ลองใส่คะแนนให้นายพสุ บริบรรณ...ใส่ไปใส่มารวมคะแนนแล้ว พสุได้คะแนนน้อยมาก
"เฮ้อ...น่าสงสารจริงๆ ครูกุ๊กได้คะแนนน้อยนัก จะมีผู้หญิงคนไหนยอมเป็นแฟนด้วยรึเปล่าเนี่ย"
อลินทอดถอนใจสงสารพสุ แต่ลึกๆในใจเสียดายที่พสุไม่ผ่านมาตรฐานที่เธอวางไว้
ooooooo
เมื่อ นายตัวเปี๊ยกปฏิคมรู้เบื้องหลังธุรกิจการเงินของบริษัทอวตานแล้ว จึงเอาเรื่องนี้มาบอกคุณอนันต์ ผู้มีพระคุณ ทั้งเรื่องเงินที่พวกคุณหญิงอมราหมดตัวเพราะลงทุนเล่นการเมือง หาเสียงซื้อเสียงเท่าไหร่ก็หมด เมื่อหมดก็เอาเงินลูกชายไปถลุง เมื่อลูกชายหมดก็มาหาจากอลิน
ในที่สุดคุณอนันต์จึงเห็นว่า ควรจะบอกลูกสาวให้รู้ตัวไว้ จึงให้ทนายเปี๊ยกไปบอกให้มาพบพ่อ...อลินมาพบพ่อ พอบอกเรื่องเงินลงทุนอีก 10 ล้านให้ชะลอไว้ แต่อลินบอกรับปากคุณเล็กไว้แล้ว และไม่เชื่อว่าคุณหญิงอมราจะหมดตัว คุณเล็กก็ไม่มีอะไรปิดบังกับอลินเลย อลินรู้เรื่องเขาหมดทุกเรื่อง
"ถ้าลินรู้ทุกเรื่อง...แล้วลินรู้รึเปล่า ว่านายอนุชามีเมียมีลูกแล้ว" นายอนันต์ทนไม่ได้ต้องเปิดออกมา อลินขอให้พ่อย้ำอีกที พ่อย้ำอีกชัดเจน อลินร้องค้านว่าไม่จริง พ่อจึงตอกย้ำ "เรื่องจริง ถ้าลินไม่เชื่อพ่อ ลินลองถามเขาดู ถ้าเขาจริงใจกับลิน เขาจะต้องบอกความจริงว่าเขามีครอบครัวแล้ว"
อลินฟัง แล้วนั่งนิ่งเป็นหุ่นไล่กา ในใจค้านพ่อหัวชนฝา... อลินโต้ตอบกับพ่ออย่างไม่ยอมลดละ มั่นใจว่าอนุชาหรือคุณเล็กที่แสนดีอาจมีแฟนมาบ้าง แต่มีเมียเป็นตัวตนยิ่งไม่มีทาง ต้องมีคนแกล้งใส่ร้ายเขาเป็นการแกล้งอลิน อลินไปที่บ้านเขา ไม่เคยเห็นใครสักคน แล้วอลินประกาศกับพ่ออย่างมั่นใจ
"ลินจะสืบเรื่องคุณเล็กอีกครั้ง ทั้งเคลียร์ทุกคำถามให้ได้ พ่อจะได้สบายใจว่าลินเลือกคนไม่ผิด"
อลินขับรถจากไร่พ่อกลับกรุงเทพฯ มาได้ครึ่งทาง จอดรถแล้วโทร.หาคุณเล็กทันที
"คุณเล็กคะ...พรุ่งนี้ว่างไหมคะ ลินมีเรื่องสำคัญอยากคุยกับคุณค่ะ" อลินฟัง แล้วกดปิดมั่นใจมาก
ooooooo
อนุชา ปิดเครื่องหลังจากอลินโทร.มานัดแล้ว เขากำลังจะกลับขึ้นบนห้อง คุณหญิงอมราเดินมาหา พร้อมกับถามเรื่องเงินขึ้นมาทันทีว่า อลินยอมจ่ายเงินมาให้อีกหรือยัง?
"ยังครับ อลินบอกว่าจะไปปรึกษาพ่อกับทนายก่อน เมื่อกี้โทร.มาบอกว่าพรุ่งนี้อยากคุยกับผมเป็นส่วนตัว" คุณหญิงฟังแล้วทำจมูกฟุดฟิด
" แม่บอกแล้วว่า เราใจเย็นเกินไปคิดว่าตัวเองเอาอยู่ อลินถึงบ้าผู้ชาย แต่ไม่ใช่คนโง่ และที่สำคัญเล็กอย่าลืมว่าเราเป็นวัวสันหลังหวะ เกิดมีคนปากโป้งไปบอกอลินเรื่องเรากับนังโสภิตา เล็กคิดว่าคนอย่างอลินจะรับได้เหรอ" อนุชาฟังแล้วอึ้ง คุณหญิงอมรายื่นหน้ามาถาม "เราเคยคิดหรือเปล่า ถ้าอลินถามเรื่องนังสองแม่ลูกขึ้นมา เราจะตอบเขาว่ายังไง" อนุชามองหน้าแม่ เขาเริ่มคิดและกำลังเตรียมคำตอบไว้
ส่วนทนายเปี๊ยก เมื่อพบกับพสุที่ร้านกาแฟ เล่าให้ฟังว่าเขาเล่าเรื่องอลินทุ่มเงินสิบยี่สิบล้านให้อนุชา ป่านนี้พ่อลูกคงคุยกันแล้ว พสุไม่แน่ใจว่าอลินจะสนใจ ทนายเปี๊ยกได้แต่เดา
" ต้องลองเสี่ยงดู ถ้าคุณลินรู้ว่าชายในฝันของเธอรวยแต่เปลือก และมีเมียมีลูกแล้ว บางทีเธออาจตาสว่าง เลิกคิดแต่งงานกับอนุชาก็ได้" พสุฟังแล้วยืดตัวถามว่า อย่างนั้นเหรอ เปี๊ยกจึงหันมาถาม "แกคิดอะไรอยู่ อย่าบอกนะว่าแกแอบมีความหวังว่า ถ้าเลิกกับนายอนุชาแล้วเธอจะมาชอบแก"
" บ้า...คุณลินเขาจะคิดยังไงกับชายในฝันของเขา ฉันไม่เกี่ยว เขาจะชอบหรือจะเกลียดกัน มันไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันไม่หวังอยู่แล้ว" พสุหันหน้าหนี แต่แอบมีความหวังรำไรๆแล้ว
กลับไปบ้านแล้ว พสุยังแอบเก็บเอาความหวังอันน้อยนิดไปคิดอยู่ไม่รู้วาย ยิ่งตอนทำช็อกโกแลตในแบบพิมพ์ต่างๆ เช่น รูปหัวใจ ผีเสื้อ ดอกไม้...แล้วยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อตรงกลางได้ใส่อักษร "อลิน" ไว้ตรงหัวใจและผีเสื้อ ทั้งน่ารักและน่ากิน...
ooooooo
เช้าวันรุ่ง ขึ้น พสุมาพบอลินที่คอนโดฯของเธอแต่เช้า ขณะที่อลินกำลังคิดหาวิธีถามอนุชาเรื่องลูกเมียเขาให้ไม่น่าเกลียดยังไง... ทีแรกคิดว่าใครมา พอเปิดประตูกลับเป็นพสุ
"ครูกุ๊กมาทำไม"
"ก็คุณให้ผมมาสอนวันนี้...อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้"
"ฉันไม่ลืม...ฉันแค่มีธุระด่วนต้องไปจัดการ ธุระเสร็จจะรีบมาเรียนทันที"
"ธุระอะไรของคุณ"
"คือ...ฉันมีเรื่องต้องเคลียร์กับคุณเล็ก เรื่องสำคัญมากๆ"
"โอเค...เชิญตามสบาย เคลียร์เสร็จแล้วรีบกลับมาแล้วกัน ผมจะรอ" พสุรู้แล้วจึงไม่ติดใจ
"ครูกุ๊กไม่ถามเหรอว่า ฉันจะไปคุยกับคุณเล็กเรื่องอะไร"
"ไม่ถาม ถ้าคุณอยากบอก คุณจะบอกเอง"
อลิ นบอกโอเค ลากเก้าอี้มานั่ง แล้วเริ่มสัมมนาทันทีว่า เมื่อวานคุณพ่อเธอเรียกไปคุย แล้วบอกข่าวลือไม่น่าเชื่อถือที่สุดให้เธอฟัง ข่าวเม้าท์เรื่องคุณเล็ก เขาเม้าท์กันว่า...
"ครอบครัวคุณเล็กหมดตัว แล้วคุณเล็กก็มีเมียแล้ว ครูกุ๊กไม่แปลกใจเหรอที่เขาลือว่าคุณเล็กมีเมียแล้ว หรือว่าครูกุ๊กรู้แล้ว"
"ไม่...ไม่นี่ ผมไม่รู้ เพิ่งจะรู้นี่แหละ แล้วคุณเชื่อหรือเปล่า"
"ไม่เชื่อ...แต่เพื่อความสบายใจ ฉันจะถามคุณเล็กตรงๆ ให้เขายืนยันจากปาก ฉันจะได้ไปยืนยันกับพ่อ จะได้ไม่คาใจ"
"ถ้าเขายอมรับว่าเขามีจริงๆ คุณจะว่ายังไง"
" เลิก" อลินตะโกนดัง "ต้องเลิกคำเดียวเท่านั้น ฉันจะไม่ยอมไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายที่มีเมียมีลูกแล้วเด็ดขาด ผู้หญิงอย่างอลินไม่เคยใช้ผู้ชายรวมกับคนอื่น...เหมือนแปรงสีฟัน ใช้ร่วมกันไม่ได้"
อลินประกาศก้องอย่างมั่นใจ พสุเห็นท่าแล้วอะโห...
ช่างเด็ดเดี่ยวดีแท้
ooooooo

สูตรเสน่หา ตอนที่ 16

หลัง จากอลินกับอนุชามาตามนัด พบกันในร้านแห่งหนึ่ง อลินได้ฟังคำพูดของอนุชาแล้ว ถึงกับแตกตื่น คาดไม่ถึงจนตั้งตัวไม่ติด ทั้งย้ำให้เขาพูดใหม่ อีกครั้ง อนุชาเน้นชัด
"ผมบอกว่า...ก่อนที่คุณลิ นจะถามอะไร ผมมีเรื่องสำคัญที่ผมจะสารภาพกับคุณ" อนุชามองอลิน ลำดับคำพูด ก้มหน้าระบายความอึดอัดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา "ก่อนที่ผมจะมาเจอคุณลิน...ผมเคยมีภรรยามาแล้วครับ"
"เคย..." เสียงแหบโหยออกมาจากปากอลิน "หมายความว่า..." อนุชารีบย้ำหนักแน่น
" ใช่ครับ...เคย...แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วครับ" อนุชาจับตาอลินนิ่ง อลินยังช็อก แม้จะโล่งใจขึ้นมาบ้าง "เราคบกันตอนอยู่ต่างประเทศ แต่พอกลับมาเราเริ่มมีปัญหากัน คุณแม่ ท่านไม่ยอมรับ แล้วเราสองคนก็ไปด้วยกันไม่ได้" อนุชาพูดไปหลบหน้าไปในบางครั้ง "โชคดีจริงๆที่เราสองคนไม่ได้ จดทะเบียนสมรสกัน พอแยกทาง ก็เลยไม่มีพันธะต่อกัน"
"แล้วยังติดต่อกันอยู่หรือเปล่าคะ" อลินเริ่มจะทำใจได้มากขึ้น
" ไม่ครับ" อนุชาอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มหลบเลี่ยง "เราไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว เขาอยู่ส่วนเขา ผมอยู่ส่วนผม และตอนนี้เขาก็มีผู้ชายคนใหม่ คนที่เขารักและทำให้เขามีความสุข"
อลินนิ่งไป...อนุชาอึดอัดที่โกหกอลินไปหลายคำโตๆ อนุชานึกถึงพสุที่ถ้าได้รู้คงเคืองน่าดู
"คุณลินโกรธผมหรือครับ ที่ผมไม่ได้บอกความจริงของคุณลินแต่แรก"
" ลินไม่โกรธหรอกค่ะ" อลินเหมือนได้ผุดได้เกิดขึ้นมาใหม่ใสแจ๋วด้วยรอยยิ้มเริงร่า "ลินแค่ตกใจน่ะค่ะ แต่ลินก็ดีใจที่คุณเล็กบอกลินเอง ถึงจะบอกช้าไปหน่อยก็ไม่ต้องรอให้ถาม มันทำให้ลินเห็นว่าคุณจริงใจที่จะคบหาสมาคมกับลิน" อลินสบายใจเฉิบ แต่อนุชากลับสุขยิ่งกว่าที่อลินไม่ได้ถือโกรธเขาเลย
ooooooo
ที่คอน โดฯอลิน พสุนั่งๆเดินๆรออลิน เปิดทีวีเปิดละครเก่าๆของเธอดู พอเบื่อหยิบแมกกาซีนมาเปิดดูรูป แล้วก็หยิบไดอารี่ของอลินมาพลิกอ่าน เขาจำได้แล้ว จึงพลิกหาความในใจของเธอด้วยความหวัง...แล้วก็มาถึงหน้าสุดท้าย บันทึกถึงพสุ บริบรรณ...พสุแอบดีใจที่เขาถูกจัดอยู่ในผู้ชายในฝัน ไล่ดูคะแนนที่อลินให้ กระทั่งมาถึงครอบครัว ได้คะแนน 20 พสุมองตาละห้อยที่คะแนนติดลบ
พสุปิดสมุดทันที หันรีหันขวางคิดทบทวนไปมา... ไม่ได้การ มันต้องทำอะไรติดหัวคิวหน่อยแล้ว...พสุสะดุ้ง เมื่ออลินเปิดประตูผางพรวดเข้ามาผวามาหาครูกุ๊ก ปากก็ร้องเรียกลั่น
"ครู กุ๊ก...คุณเล็กเขาขอคบกับฉันอย่างเป็นทางการ และตอนนี้ฉันกับเขา เราเป็นแฟนกัน...เยส เยสๆๆๆๆ" อลิน กระโดดโลดเต้น ไม่สนใจว่าพสุกำลังจิตตกแตกกระจายเต็มห้อง "นี่...ฟังสิ ส่วนเรื่องเมียเขาน่ะ เขาเป็นคนสารภาพกับฉันเองโดยฉันไม่ได้ถามเลยนะ เขายังบอกอีกด้วยว่า ตอนนี้เขาไม่ได้ติดต่อกันตั้งนานแล้ว ต่างคนต่างไป ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลย แม่เขาก็ไม่ชอบผู้หญิงคนนั้น ส่วนเรื่องลูกก็ไม่มี้ไม่มี... ข่าวเล่าเอนจอยเม้าท์โดยแท้"
พสุมองอลินตาละห้อยโหยโหลยโท่ยไปเสียแล้ว
" ฉันต้องรีบรายงานพ่อ พ่อจะได้ตาสว่าง หยุดหูเบาซะที แล้วก็โทร.บอกนายตัวเปี๊ยกให้ไปสืบแหล่งข่าวมั่วมาให้ได้ จะได้จับมาลงโทษให้หมด อ้อ...แล้วโทร.นัดนักข่าวมาแถลงข่าวไปเลย คนเม้าท์จะได้หยุดเห่า ไม่งั้นฉันจะฟ้องให้หูรูดพังไปเลย...ฮ่าๆๆ" อลินหัวร่อร่า พอหันมาเห็นพสุยืนกอดอกตาค้างเติ่ง จึงเอามือปัดตรงหน้า ถามอย่างแปลกใจ "ครูกุ๊ก เป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมมองตาขวางๆ รึว่าโกรธที่ฉันมาช้า"
"เปล๊า...ไม่ได้โกรธที่คุณมาช้า แล้วก็ไม่ได้เป็นอะไร" พสุยังหน้าตูม
"ไม่โกรธ แล้วทำไมทำหน้าเหมือนคนจะลาโลก...
ถ้าไม่เป็นอะไร เรามาเริ่มเรียนกันเลย วันนี้จะสอนฉันทำอะไรคะ"
" คุณบอกว่า อยากได้เมนูสำหรับคนรัก ผมเลยเตรียมเมนูช็อกโกแลตแฟนซีไว้ให้...นี่เป็นวิธีการทำ" ส่งกระดาษให้ "แล้วนี่เป็นอุปกรณ์และส่วนผสมทั้งหมด คุณลองทำเองก็แล้วกัน"
"หา...ว่าไงนะ" อลินตาเหลือก
" ผมขอลาออก" อลินผงะถอยหลัง "ผมจะไม่มาสอนคุณอีกแล้ว ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน" พสุเดินออกจากห้องไปทันที...อลินอ้าปากค้าง ช็อกและชาจนร้องเรียกไม่ออก...
หลัง จากอลินตั้งหลักได้ จึงโทร.ตามทนายเปี๊ยกมาพบ แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง และอยากจะไปตามครูกุ๊กมา เปี๊ยกจึงพูดอย่างไม่เกรงใจว่า ไม่ต้องไปตามเขาหรอก ไอ้ดินไม่มีทางกลับมาสอนเธออีกแล้ว อลินโกรธจัด คิดว่าพสุโกรธที่เธอให้คะแนนครอบครัวติดลบ จึงลำเลิก
"กะอีแค่ได้คะแนนต่ำกว่ามาตรฐานนิดหน่อย ครูกุ๊กจะโกรธขนาดนั้นเลยเหรอ"
" ไม่เกี่ยวกับคะแนน แต่มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย พูดไปคุณลินก็ไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าคุณลินไปหาครูใหม่เถอะครับ ไอ้ดินเซย์โนครั้งนี้ แปลว่าจบจริงๆ ต่อให้คิดจนหัวแตกตายก็ง้อมันไม่สำเร็จ ผมก็ช่วยไม่ได้ มันขู่ว่าถ้าผมช่วย มันจะตัดเพื่อนด้วย ผมไม่อยากเสียเพื่อน...ฉะนั้น ถึงคุณลินมาชักกระแด่วๆตรงหน้า ผมก็ไม่ช่วย คุณลินต้องไปจัดการแก้ ปัญหาเอง ผมไม่ใช่คุณป้าทั้งสามของคุณที่จะคอยตามใจคุณทุกเรื่อง...คุณลินควรไปหาครู คนใหม่ จะดีกว่านะครับ"
ทนายเปี๊ยกว่าแล้วก็ยักเยื้องเปิดประตูออกจากห้องไป... อลินตะโกนไล่หลัง
" นายตัวเปี๊ยก...นายกล้าพูดยังงี้กับฉันเรอะ นายคิดว่าฉันจะง้อหรือไง ทั้งนายทั้งครูกุ๊กนั่นแหละ ไปให้หมดเลย ฉันไม่เห็นจะแคร์เลย...เชอะ...ไม่สอนก็ไม่ต้องสอน คิดว่าฉันจะง้อเรอะไง ครูกุ๊กไม่สอน ฉันทำเองก็ได้ไม่เห็นจะยาก"
ความทะนงองอาจทำให้อลินเริ่ม ลงมือทำช็อกโกแลตตามที่พสุเขียนมาให้ แต่แล้วก็ได้ผล ด้วยการทำจนเหม็นไหม้ ต้องร้องลั่นเสียใจ แล้วบ่นว่าครูกุ๊กที่เขียนให้ทำไม่รู้เรื่องเลย ไม่รู้จะงอนอะไรนักหนา...คิดจะโทร.ไปหา...แล้วยอมลดทิฐิกดมือถือไป อย่างกระฟัดกระเฟียด กดเท่าไหร่ก็ไม่ติด พอนึกได้ร้องลั่นว่า ก็ทำมือถือครูกุ๊กพังไปแล้ว จะเอามือถือที่ไหนมารับ?...แล้วคิดคืบต่อไปว่า แล้วจะติดต่อครูกุ๊กได้ยังไงล่ะเนี่ย... ในที่สุดก็ตบมือฉาด เมื่อคิดมุกอะไรใหม่ออกมาได้
ooooooo

อลินคิดว่าคราวนี้ครูกุ๊กหนีไม่พ้นมือเธอแน่ ด้วยการแอบไปถึงห้องเรียน ครูกุ๊กสอนไป บางครั้งเห็นอลินโผล่ให้เห็นแวบๆ อลินรีบหลบจนพสุไม่แน่ใจ... แต่พอเลิกเรียน อลินปล่อยให้นักเรียนทยอยออกมาจากห้องจนหมดแล้ว จึงรีบเข้าไปร้องทักครูกุ๊กอย่างชนิดตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องโกหก...แต่แล้ว ทั้งห้องเรียนว่างเปล่า อลินวิ่งไปทางประตูหลัง เห็นครูกุ๊กเดินอ้าวๆหนี จึงวิ่งตาม ร้องเรียกลั่นๆ
"ครูกุ๊กรอเดี๋ยว...นี่ครูกุ๊ก...จะหนีฉัน จริงๆเหรอ...หยุดเดี๋ยวนี้นะ" อลินวิ่งไล่ไปทางหน้าโรงเรียน "ครูกุ๊ก ชะชะ... คิดว่าจะหนีพ้นเรอะ" แต่แล้วพสุก็หนีออกประตูหน้าโรงเรียนหายไปเลย...อลินได้แต่มองตามด้วยความ แค้น แต่คนอย่าง
อลินจะยอมแพ้ใครง่ายๆ อย่าหวัง...
ภายในร้านอาหาร อิตาเลียนยามบ่ายแก่ๆ พสุเปิดประตูเข้ามาเพื่อเตรียมทำงานตามปกติ แล้วพสุก็สะดุ้งแปดกลับ เมื่อเสียงเรียก "ครูกุ๊ก" ดังขึ้นอีกจากปากของอลิน
พสุชะงักกึก มองเห็นอลินยิ้มเผล่เร่เข้ามา...ยังไม่ทันถึงตัว พสุหันหลังได้เปิดอ้าวหนี
"ฮะ...ครูกุ๊ก...ครูกุ๊ก...เฮ้ย...อะรายกานเนี่ย" อลินคว้ากระเป๋า เผ่นตามติดไม่รีรอ
อลินหันรีหันขวาง แต่พอเห็นครูกุ๊กของเธอขับรถออกไป ไม่ได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวาย...วิ่งตามได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดอย่างท้อแท้
"นี่ครูกุ๊กรังเกียจฉันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย...มันจะมากเกินไปแล้วนะ...โกรธขึ้นมาตุ่นๆแล้วนะเฮ้ย"
ลงมาเล่นกันแบบนี้ มีมนุษย์หน้าไหนจะยอมกันง่ายๆบ้าง?
อลิ นไปดักรอพสุแถวหน้าบ้านจนค่ำ...พสุขับรถกลับมาจอดหน้าประตูบ้าน ลงไปเปิดประตู...รถของอลินก็พุ่งปร๊าดเข้ามาจอดเฉียดบั้นเอวไปจนโดดเหยง... อลินลงรถมา ออกคำสั่งเฉียบ
"ครูกุ๊ก...เลิกหนีฉันได้แล้ว" อลินย่างสามขุมมาหา พสุหันหลังเดินมาที่รถของเขา อลินขยับสองทีขวางประตูรถ แล้วสำทับ "ฉันบอกว่าให้เลิกหนี...แล้วมาคุยกันดีๆไม่ได้หรือไง"
"ผมไม่มีอะไรต้องคุยกับคุณ" เสียงเย็นชาชืด
"มีสิ...ต้องมี...ก็เรื่องที่ครูกุ๊กแอบดูสมุดไดอารี่ของฉัน"
"งั้นผมขอโทษที่แอบดูไดอารี่ของคุณ พอใจรึยัง"
" ยัง...ฉันยังไม่พอใจ อยากรู้ครูกุ๊กเป็นอะไร ทำไมต้องโกรธกันขนาดนี้" พสุยืนกรานไม่ได้โกรธ "ไม่โกรธแล้วหนีฉันทำไม ฉันไม่ได้ทำผิด แค่ให้คะแนน น้อยไปหน่อย เท่านั้น จะคิดมากอะไรกันนักหนา"
"ใช่...ผมคิดมากไปเอง ผมผิดเองที่ไปเปิดสมุดบันทึกของคุณ ผมทนไม่ได้ที่คุณประเมินครอบครัวผมด้วยคะแนนลบยี่สิบ และเหตุผลที่ผมมีแม่เป็นคนใช้ ผมผิดที่หนีหน้าคุณโดยไม่มีเหตุผล ขณะที่คุณไม่ผิด คุณมีสิทธิ์ตัดสินทุกคน และให้คะแนนตามความคิดของคุณ" อลินอึ้ง "ฉะนั้นคนไม่เคยผิดอย่างคุณอย่ามายุ่งกับผมอีกเลย จะได้ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งเป็นคนดี ทั้งที่จริงๆแล้วคุณก็คิดไม่ต่างจากคนอื่น แล้วก็เลิกตามผมได้แล้ว ไม่ว่ายังไง ผมก็ไม่กลับไปสอนคุณ"
พสุหันหลังเดินหนี ทิ้งรถไว้...อลินยืนเซ่อ เอ่ยชื่อครูกุ๊กแทบไม่เป็นภาษา มองไปมองมาเหมือนเธอกำลังยืนอยู่ในโลกว่างเปล่า...แปลกเปลี่ยนไปจากทุกคืนมา
แม้ กลับไปถึงบ้านแล้ว...อลินเอาช็อกโกแลตที่พสุทำมา มีชื่ออลินแต่งไว้ตรงกลางมาใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ ก็ยังไม่วายคิดวกไปวนมาว่าเธอทำผิดอะไร ทำไมครูกุ๊กถึงมาด่าให้แสบสันอย่างนั้น...
"ฮึ...คอยดูนะ หาว่าฉันเสแสร้ง ฉันจะหาครูคนใหม่ หาคนที่เก่งกว่าครูกุ๊กให้ได้" อลินคำราม
ส่วน พสุไม่กลับบ้าน เขาไประบายความร้อนในใจให้โสภิตาฟัง โสภิตาฟังแล้วติงว่า ไปพูดตัดญาติขาดมิตรกับอลินแบบนั้น มันแรงไปแล้ว พสุอยากให้มันจบๆไป จึงถูกโสภิตาย้อนถามว่า เขาอยากจบแบบนี้จริงๆหรือ
"ในเมื่อมันไปไกลกว่า นี้ไม่ได้ มันก็ต้องจบแบบนี้แหละ...ดีที่สุดแล้ว" พสุระบายลมออกมา แล้วก็ไม่ได้โล่งใจ อย่างที่คิด โสภิตารู้ดีว่าพสุปากกับใจหาได้ตรงกันไม่...
ooooooo
วันนี้อลินไปหา โสภิตาที่ร้าน แล้วก็ทาบทามให้ เธอมาเป็นครูสอนทำอาหารแทนพสุ โสภิตาออกตัวว่า ถ้าคุณอลินไว้ใจ เธอก็พร้อมจะสอนให้ เธอมีครัว
มีอุปกรณ์พร้อม จะเริ่มเมื่อไหร่ได้ทันที อลินขอบคุณโสภิตาเป็นการใหญ่
"เอ้อ...คุณตาคะ คุณตามารับสอนให้ลินแบบนี้ เพื่อนคุณตาเขาจะไม่ว่าเหรอคะ"
"ดินน่ะเหรอคะ...เขาไม่ว่าหรอกค่ะ เพราะลึกๆเขาเป็นห่วงคุณลินอยู่เหมือนกัน"
"จริงเหรอคะ" อลินโพล่งอย่างตื่นเต้นจนลืมตัว
"จริงค่ะ...ถึงไม่บอก ตาก็เดาไม่ผิด คุณลินไม่ลองไปง้อดินเขาดูอิีกทีเหรอคะ เผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ"
" คนอย่างลิน..." อลินเชิดหน้า "จะง้อก็ต่อเมื่อลินทำผิดเท่านั้น แต่เรื่องนี้ลินไม่ผิด ฉะนั้นลินจะไม่ง้อครูกุ๊ก... พอกันที" อลินยืดไม่ยอมง้อใคร โสภิตามองแล้วหนักใจ...เห็นว่าทั้งสองคนนี้พอกัน
ขณะ ที่โสภิตากับอลินยังนั่งเม้าท์กันต่อไป...หารู้ไม่ว่าด้านหน้าร้าน อนุชาถือตุ๊กตาลงรถมา จะเอาเข้าไปให้ปูเป้ แต่พอเห็นอลินกับโสภิตานั่งอยู่ด้วยกันต้องสะดุดหยุดนิ่งไปทันที...ยืนครู่ เดียว อนุชาถอดใจหันหลังกลับ โยนตุ๊กตาใส่เบาะ แล้วขึ้นรถขับออกไปทันที...ขับไปด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจ...
ทาง ด้านทนายเปี๊ยก เมื่ออลินสั่งเฉียบเรื่องโอนเงินให้อนุชา นอกจากจะยังไม่ยอมโอนแล้ว ยังเดินทางไปหาคุณอนันต์ที่บ้านไร่...ฟังเรื่องราวแล้ว อนันต์ย้อนถามเปี๊ยกทันที
"แสดงว่าที่ครูบอกเรื่องปัญหาการเงินกับเรื่องเมียเขาแล้ว...มันไร้ประโยชน์ไปเสียแล้ว"
" ผมไม่ทราบ...แต่คุณลินปลื้มนายอนุชามาก เพราะเขาดันสารภาพเรื่องเมียเขาออกมาเอง เขาย้ำว่าเคยมี แต่เลิกกันไปแล้ว ส่วนเรื่องเงินก็บอกว่าเอาไปช่วยแม่ ลินคิดว่าเขา กตัญญู เป็นคนดีกว่าเดิม อีกไม่นานคุณลินจะมาชี้แจงให้ ครูทราบด้วยตัวเอง"
ครูอนันต์ฟังแล้วถอนใจ คิดว่าที่พ่อพูดไปลูกสาวไม่เชื่อแล้ว อนันต์ถามเปี๊ยกเรื่องเงิน
"เรื่องเงินผมยังไม่ได้โอนให้เขา อยากคุยกับคุณลิน อีกที เมื่อหน้ามืดตามัวไม่ฟังคำครู แต่อย่างน้อย 10 ล้าน
ที่ต้องเสียไป...คุณลินต้องไม่เสียเปรียบ" ทนายเปี๊ยกยังไม่ยอมให้เงินสูญเปล่า...
ทันที ที่กลับมายังคอนโดฯของอลิน...เปี๊ยกปรึกษาอลินเรื่องเงิน 10 ล้าน ที่จะให้นายอนุชาเขาจะทำเป็นสัญญากู้ยืม โดยให้เอาหุ้นมาค้ำประกัน ถ้าเกิดเบี้ยวไม่จ่ายคืน อลินจะได้หุ้นเพิ่ม 30% กลายเป็นหุ้นใหญ่ของบริษัทอวตานไป
"ความคิดนายก็ดีเหมือนกันนะ แต่งงานกันไปแล้ว สามีกับแม่สามีจะได้เกรงใจ ไม่กล้ารังแก"
"ถึงไม่มีสัญญาเงินกู้ ก็ไม่มีใครมารังแกหรอกคร้าบ"
"ที่เขาไม่รังแกเพราะฉันเป็นคนดี ความดีเป็นเกราะป้องกันตัว...แต่เอ๊ะ...ทำแบบนี้ฉันจะดูไม่ดีในสายตาคุณเล็กรึเปล่า"
" แค่แฟนยังให้ตั้ง 20 ล้าน...ถ้าว่าไม่ดีก็ปล่อยเขาลงรูไปเถอะครับ จะไปแคร์อะไรนักหนา...ทีคนดีๆควรจะแคร์กลับไม่แคร์...ไม่เข้าใจเลยว่ะ" ท้ายประโยคเปี๊ยกเสียงเบาที่สุด อลินปรายตามาทันที
"ฉันรู้นะ ว่านายหมายถึงใคร"
"รู้ก็ดีแล้วนี่...ที่ผมพูด ก็ทนไม่ไหว อยากให้รู้" เปี๊ยกปากกล้า อลินยืดตัวเชิดหน้า ส่งตาขย่มซ้ำ
" นี่...ไหนๆก็พูดถึงเพื่อนนายแล้ว...ฉันฝากบอกครูกุ๊กด้วยว่า ฉันได้ครูสอนทำอาหารคนใหม่แล้ว ฉันไม่แคร์ แล้วก็...เชอะ...ไม่สนใจครูกุ๊กอีกต่อไป"
"ได้ครับ...ผมจะบอกไอ้ดินให้นะครับ ว่าคุณลินฝากความคิดถึงมาให้" เปี๊ยกยิ้มอย่างรู้ทัน
" เฮ้ย เอ๊ย...พูดให้ถูกนะ คำเยาะเย้ยย่ะ ไม่ใช่ความคิดถึง คนอย่างอลินไม่มีวันจะคิดถึงผู้ชายใจร้ายอย่างครูกุ๊กเด็ดขาด" อลินทิฐิมองเพดานเฉย...เปี๊ยกหันหนีอย่างแสนจะสุดเซ็ง...
ส่วนพสุ วันต่อมาก็รับรู้จากปากของโสภิตาว่าเธอรับสอนทำอาหารให้อลินแล้ว พสุบอกเขาไม่ได้ว่าอะไร แต่เขาเป็นห่วงว่านายอนุชาก็ต้องรู้ คุณหญิงอมราก็ต้องรู้อีกคน เรื่องวุ่นวายจะตามมา แล้วโสภิตาจะรับไหวหรือ?
" ตาเตรียมใจไว้แล้ว ไม่ว่าจะเจออะไร ตาจะรับไว้ให้ได้ แต่คุณลินนี่สิ ถ้าเขารู้ว่าคุณเล็กโกหก เรื่องตากับเขา แล้วไม่ได้บอกความจริงเรื่องลูก คุณลินจะรับได้หรือเปล่า"
พสุฟังแล้วเริ่มกังวลตามไปด้วย...โสภิตารู้ว่าพสุเริ่มวิตกแน่นอน ถ้ายังไม่รู้ว่าจะช่วยอลินได้อย่างไร?
ooooooo
อนุชา ไปนั่งรออลินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง คิดทบทวนความเป็นมาและเป็นไปตั้งแต่โสภิตากับปูเป้ กระทั่งมาถึงเรื่องที่โสภิตาบอกเขาว่า "ตอนนี้เราสองคนได้เจอคนที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเราแล้ว...ตากับดิน และคุณเล็กกับคุณอลิน"
อนุชาคิดแล้วตัดสินใจแน่วแน่...นาทีนั้นเสียงอลิ นร้องทักดังมา อลินมายืนเต็มตัวในชุดสวยงาม เธอมานั่งตรงหน้าแล้ว เขายังเคลิ้มต่อ แทบไม่ได้ยินเสียงทักทายอย่างดีมีสุข แล้วก็ทักถามเรื่องจะสั่งอาหารอย่างไหนมาทานดี...อนุชาเหมือนไม่ได้ยิน กลับถามขึ้นอย่างไอ้หนุ่มใจร้อน

"แต่งงานกับผมนะครับ"
"คุณเล็กว่าอะไรนะคะ" ถามขึ้นหลังสะอึกไปอย่างคาดไม่ถึง
"ผมพูดว่า...คุณลินครับ แต่งงานกับผมนะครับ" อนุชาเน้นหนักทีละคำชัดเจ๋ง...อลินฟังชัดอัดเต็มบ้องหู...เสียงดัง
วิ้งงงงงง ปล่อยมือจากเมนูปิดพับทันที...
อลิ นแทบจำวันเวลาไม่ได้อีกต่อไป แต่รีบพาทนายเปี๊ยกไปพบครูอนันต์ผู้บิดาที่ไร่ ทั้งเปี๊ยกที่เพิ่งรู้เรื่องพร้อมๆกับครูอนันต์ ต่างอุทานพร้อมกัน "อลินจะแต่งงาน..."
"ใช่ค่ะ" อลินยิ้มปลื้ม มองพ่อกับเปี๊ยกอย่างสำราญบานเบิกหัวใจ "คุณเล็กเพิ่งขอลินแต่งงานมาหยกๆนี่เอง พอแยกกัน ลินก็พานายตัวเปี๊ยกมาบอกให้รู้พร้อมกับพ่อนี่เอง จะได้มีเวลา และเตรียมตัวแล้วเตรียมงานได้ทัน" พ่อติงว่าเร็วไปไหม อลินตัดบทว่า เธอดูมาทุกเหลี่ยมทุกมุมเคลียร์หมดแล้ว...
"พ่อไม่ต้องห่วงนะคะ คุณเล็กเป็นคนดี เป็นคนที่ไว้ใจได้"
"พ่อไม่ได้ห่วงเขา แต่พ่อห่วงลิน ห่วงการตัดสินใจของลิน"
" ใช่ครับ" เปี๊ยกเสริมทันที "ผมว่าคุณลินตัดสินใจเร็วเกินไป คุณรับปากแต่งงานทั้งๆยังไม่รู้เลยว่าอยากแต่งจริงไหม...ที่สำคัญ คุณลินแน่ใจนะครับ คนที่อยากแต่งด้วยคือนายอนุชา"
อลินชะงักกึก แต่เชิดหน้าอย่างดื้อรั้น
" ฉันอยากแต่งจริง และเจ้าบ่าวแสนเพอร์เฟกต์ของฉันต้องคุณเล็กเท่านั้น...ชัวร์" ยื่นหน้าทำตาใส่นายเปี๊ยก งึมงำเป็นการปรามว่า...หมูกำลังจะถูกหาม อย่าเอาคานมาสอดให้มันวุ่นวาย
ปฏิคมเอาเรื่องอลินจะแต่งงานกับอนุชาแน่ นอนแล้ว กำหนดเดือนหน้ามาบอกเล่าให้พสุฟัง พสุทีแรกทำท่าช็อก แต่แล้วก็ดึงดันอย่างอลิน บอกหน้าตายว่า...ก็ดีแล้ว ทั้งๆในใจค้านว่าทำไมต้องแต่งเร็วขนาดนั้น...เพื่อนถามว่าจะไปงานเขาไหม พสุสั่นหัวดิกๆ แต่บอกว่ายังไม่คิด...แล้วเตือนให้เพื่อนกลับไป เขาจะทำงานต่อ เปี๊ยกพยักหน้าด้วยความเห็นใจเพื่อน...
พสุได้แต่ถอนใจหลายเฮือกหลังจากเพื่อนกลับไปแล้ว...สิ่งที่พอจะหามาปลอบใจได้ยามนี้มีแต่ความเศร้า...
ooooooo
คน ที่มีแต่ความสุขคือคุณหญิงอมรา พอเห็นหน้าอลินที่เดินเข้าบ้านมาพร้อมอนุชาก็เก็บอาการไม่อยู่ ลิงโลดโดดกอดอลิน หอมแก้มซ้ายขวาหน้าหลังหมุบหมับๆ ปากก็หวานฉ่ำร่ำร้องว่า แหม แก้มว่าที่สะใภ้ของแม่ช่างหอมหวนทวนลมกระไรปานนี้ อนุชาหันหน้าหนี เห็นแม่ตัวเองเว่อร์มากเกินไป
จากนั้นแม่ลูกก็ตกลงจะส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอ ในสัปดาห์หน้า คุณหญิงดี๊ด๊าราคาแพง จะตัดงานทุกอย่างหมด ไปที่ไร่ของคุณพ่ออลินทันที จะเอานักข่าวไปอีกโขยงหนึ่ง อนุชากับอลินติงว่ายังไม่ควร คุณหญิงก็เออออห่อหมกเห็นด้วยอีก ยืนยันว่าขอให้ได้หนูลินมาเป็นสะใภ้ แม่ก็ชื่นใจที่สุดแล้ว
"ปิดข่าว แม่เห็นด้วย...รับรองว่าแม่จะไม่บอกใครแม้แต่ครึ่งคน...ไม่บอกเด็ดขาด"
แต่ ไม่ถึงอึดใจต่อมา...ที่บริษัทอวตาน เพรียวจอมสอพลอก็ประกาศไปทั้งบริษัทว่าคุณหญิงโทร.มาบอกเดือนหน้าบอสอนุชา ของเราจะแต่งงานกับคุณนายอลิน ด้วยสินสอดเบ็ดเสร็จไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน...ทั้งนั่งยันนอนยันชัวร์ คอนเฟิร์ม...จากนั้นพนักงานทั้งหลายก็แลกเปลี่ยนความตื่นเต้น เม้าท์กันแหลก ส่วนใหญ่เห็นว่าอนุชารวยจริง ช่วยอลินให้ไต่ลงจากคานทองสำเร็จ น่าจะเสียน้ำมันพรายไปหลายบาร์เรล...
"พวกแกรู้แล้วเหยียบไว้ คุณหญิงแม่กำชับห้ามบอกใคร แม้แต่นักข่าว...ท่านจะเก็บเป็นความลับ"
วัน รุ่งขึ้น โสภิตาเดินผ่านแผงหนังสือพิมพ์หลังจ่ายตลาด เหลือบไปเขม้นมองข่าว...ถุงปลาร้าทรงเครื่องหลุดมือลงพื้นทันที ไต่ตามตัวหนังสือเห็นข่าวอลินกับอนุชาจะแต่งงาน...
พสุกำลังจะเดินออกจาก บ้านไปสอนนักเรียน อ้อนวิ่งหน้าตั้งมาบอกข่าวอลินจะแต่งงานกับหนุ่มไฮโซ...โห เขาว่าเพิ่งรู้จักกันตอนทำรายการใช่ไหม มันเรื่องจริงหรืออิงเรื่องมั่ว
" คนเขารักกัน เจอกันไม่นานเขาก็รักกันได้ จริงไหมดิน" เสียงแม่นงพะงาดังมา พสุยังจุกแอ่นแน่นอกจึงตอบไม่ได้ แต่อ้อนกลับตื่นเต้นเนื้อตัวสั่น เมื่อพูดถึงสินสอดร้อยล้าน...พอถูกถามว่าจะไปงานเขารึเปล่า พสุตอบห้วนๆว่าไม่รู้ ว่าแล้วขอตัวลาแม่ไปทำงานทันที...อ้อนแปลกใจ ทำไมคุณดินของเธอจึงลมเสียขึ้นมาไม่บอกกล่าว...
ooooooo
ที่ห้องพักขอ งอลินในคอนโดฯ หนังสือพิมพ์ในมือนายเปี๊ยกถูกอลินดึงกลับไปทันที สั่งเฉียบให้เลิกอ่าน มาจดหน้าที่ที่เปี๊ยกต้องทำเดี๋ยวนี้...ว่าแล้วอลินก็สั่งตั้งแต่จองโรงแรม ติดต่อวงดนตรี บอกโรงแรมว่าเธอต้องการกล้วยไม้สีขาวเท่านั้น พันธุ์ดีๆ จัดรายทางมาตั้งแต่ซุ้มประตู กระทั่งถึงในห้องงานและจุดที่จัดพิธี รายการอาหารจัดเมนูเด็ดท็อปพิเศษ 50 รายการขึ้น น้อยกว่านั้นถือว่าไร้ฝีมือ...อลินทุบเปรี้ยง สั่งเปลี่ยนโรงแรมทันที
"ครับ...แล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดใครออกครับ" คำถามนี้เหมือนแหย่เสือหลับ
"ฉันสิ...ความฝันของฉัน ความต้องการของฉัน...ฉันจ่ายเอง" อลินเชิดหน้า
" ผมว่า...คุณลินมัวทำตามความฝันตัวเองมากไป ลืมดูความจริงรึเปล่าว่ามันเป็นยังไง...ถ้าคุณลินลืมตาตื่นจากความฝันมาอยู่ กับโลกความจริงบ้าง คุณลินอาจได้เจอกับความสุขที่มันจับต้องได้ ไม่ต้องเหนื่อยไล่ตามความฝันแบบทุกวันนี้"
"ไม่...นายจะอยู่กับความจริง ก็เรื่องของนาย แต่ฉันอยู่ของฉันแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว ถึงมันเป็นโลกเพ้อฝันในสายตาคนอื่น แต่ฉันมีความสุข ฉันไม่สน...เชอะ"
วัน ต่อมา....อนุชากับอลินไปยังบริษัทรับจัดงานแต่งงานที่บรรดาไฮโซใช้กัน... เริ่มตั้งแต่ช่วยกันเลือกการ์ดแต่งงาน ของชำร่วย แบบซุ้มดอกไม้ใช้ถ่ายรูป แบบเวที น้ำแข็ง กระทั่งชุดแต่งงานช่วยกันเลือกช่วยกันชี้...แต่ละอย่าง ทั้งสองคนชอบ ไม่เหมือนกันแม้แต่ชิ้นเดียว โดยเฉพาะชุดแต่งงานที่อนุชาเลือก อลินรับไม่ได้เลย แต่อนุชาก็มักจะโยนให้อลินเลือก

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : ไทยรัฐ

Readlakorn เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ ละครเกาหลี ละครช่อง3
อ่านต่อ
 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal