Sunday, November 29, 2009

สูตรเสน่หา - เรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ - สูตรเสน่หา ตอนที่12(ต่อ) -16

สูตรเสน่หา ตอนที่ 12 (ต่อ)

"ผมไม่รังเกียจ ผมให้ข้อมูลคุณได้ แต่ผมคงสอนคุณไม่ได้"

อนุชารีบบอกว่า เขาไม่คิดจะแข่งกับพสุ พสุย้อนทันที เขาก็ไม่คิดว่าอนุชาจะแข่งกับเขา อนุชาจึงรีบรวบรัดทันที

" ไม่คิดก็ดีแล้ว เราสองคนไม่ควรเป็นคู่แข่งกัน ถ้าคุณไม่คิดจะแข่งผมจริงๆ ก็ขอให้หลีกทาง" อนุชาเห็นพสุไหวไหล่เฮือก จึงกราดต่อ "ผมไม่รู้ว่า คุณคิดยังไงกับคุณลิน... แต่ผมคิดจริงจังกับเธอ มากกว่าการเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือหุ้นส่วนบริษัท...หวังว่าคุณคงพอจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด"

"เอา ละ...จะบอกให้...คุณลินไม่ชอบอาหารทุกชนิดที่กินแล้วอ้วน ไม่ชอบอาหารรสจัด แต่ชอบรสกลมกล่อม ชอบทานผัก หลังทานอาหารคาวทุกครั้ง ต้องทานผลไม้เสมอ" อนุชาฟังอย่างตั้งใจ พสุจึงลงเอย "ผมเข้าใจในสิ่งที่คุณพูด...ขอให้โชคดี"

สองหนุ่มมองตากัน ไม่มีใครยอมใคร พสุลุกขึ้นเดินเข้าครัวไป อนุชาถอนใจเฮือกใหญ่

พสุกลับถึงบ้านตอนดึก ยังเก็บเอาการคาดคั้นของอนุชาให้เขาหลีกทางให้มาคิดอย่างหนัก

ooooooo

อลิ นพยายามโทร.หาเขา เช้าสายบ่ายเย็น ยิ่งหงุดหงิด เพราะพสุไม่รับสาย...อลินโทร.ไปรีดข่าวพสุจากเปี๊ยกอีก พอบอกไม่รู้ จึงถูกเรียกให้มาพบด่วนจี๋

เมื่อเปี๊ยกมาถึงคอนโดฯ ยังไม่ทันหายใจก็ถูกซักหนัก พอบอกไม่รู้ว่าพสุหายไปไหนเท่านั้น ก็ถูกด่าว่าเป็นเพื่อนกันภาษาอะไร จึงถูกเปี๊ยกย้อนให้ มันจะไปไหนมาไหนมันเรื่องส่วนตัว แล้วสรุปแสบๆ

"ผมเป็นเพื่อนมันนะครับ ไม่ใช่แฟนมัน" เปี๊ยกพูดแล้วรีบอุดปาก อลินชะงักไปสามกึก

" ฉันไม่ได้จิกใครนะ แต่ครูกุ๊กมาทำหน้าท้าทายให้ฉันอยากรู้ว่าเขานัดกับใคร ฉันเลยทนไม่ได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ครูกุ๊กไม่เคยหายไปแบบนี้ ทุกทีโทร.ไปต้องรับทุกที ไม่รับก็ต้องรีบโทร.กลับ แต่นี่เงียบหายไปเลย จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"

อลินมองไปมา แล้วหันมาใส่ต่อ "ไม่รู้ละ นายจะทำยังไงก็ได้ ต้องไปตามหาครูกุ๊กให้เจอ หรือทำยังไงก็ได้ ให้ครูกุ๊กเปิดมือถือไม่งั้นฉันจะฟ้องพ่อ" เปี๊ยกฟังแล้วโคตรเซ็ง

ใน ที่สุด ทนายเปี๊ยกไปนั่งรอพสุที่บ้านแม่นงพะงา พสุกลับมาตอนดึก จึงถูกสอบสวนหนัก ทำไมไม่รับสายคุณอลิน พสุบอกมันยุ่งๆ พอถามว่าไปคุยกับอนุชาเป็นไง พสุยังเล่นลิ้น ว่าไม่เป็นไง...เปี๊ยกตบะแตก

"เฮ้ย แกเลิกทำเป็นคำถามคำตอบได้ไหมวะ ชักรำคาญพูดไม่รู้เรื่อง...อยากรู้นายอนุชามันว่าไง"

"บอกก็ได้วะ...เขาบอกให้ฉันหลีกทาง เขาจะจริงจังกับคุณลิน"

"เฮ้ย...มารดามัน...เอ๊ย...มันเล่นตรงๆยังงี้เลยเรอะ...มันโคตร..."

" เฉยเถอะน่า...มันก็ดี ไม่ต้องมาอ้อมค้อม" เปี๊ยกฟังแล้วย้ำให้แน่ใจว่า ดีจริงเรอะ? พสุยืนยันเสียงหนัก "จริง..." แล้วถามว่า เปี๊ยกมาหาเขาทำไม?

" ก็คุณลินสิ ไม่สบายใจที่ติดต่อแกไม่ได้ ปกติจะออกแนวเกรี้ยวกราด หงุดหงิด แต่คราวนี้เหมือนเขาเป็นห่วงแกมากกว่า...ฉันว่า แกหลีกทางให้นายอนุชา แต่แกไม่จำเป็นต้องหนีคุณลิน...แกบอกเองว่า ไม่คิดอะไรกับคุณลิน แกควรทำตัวปกติ นายอนุชาจะจริงจัง หรือจะจีบ มันก็ไม่เกี่ยวกับแก แต่ที่ทำอย่างทุกวันนี้ ฉันว่า แกคิดอะไรกับเจ้านายฉันมากกว่าเพื่อน"

พสุผงะเมื่อถูกแทงตรงหัวใจ หลบตาเพื่อนเล็กน้อย... อยากจะบอกว่า ขอเวลาคิดล้วงลึกหัวใจตัวเองอีกหน่อยไม่ได้เหรอเพื่อน?

ooooooo

คืน นี้ ขณะที่อลินพะว้าพะวัง นั่งนอน ขบปัญหาการหายตัวของครูกุ๊กแทบฟันหักก็ไม่ได้เรื่อง แต่ในที่สุดก็ใจเต้นโครมๆ เมื่อมือถือดังขึ้น งึมงำต้องเป็น...ครูกุ๊ก...แต่พอเห็นชื่ออนุชาขึ้นจอ อลินจ๋อยทันที... "คุณเล็ก..." อลินรีบกระแอม ปรับสุ้มเสียงให้หวานเยิ้มเข้าไว้

"คุณเล็ก...สวัสดีค่ะ...ยังไม่นอน...ค่ะ...ค่ะ" อลินฟังแล้วตกใจ "คุณเล็กว่ายังไงนะคะ"

อลินหน้าตาเหลอหลา....เกิดอาการประหลาดขึ้นในใจ...ทั้งดีใจ ทั้งหวั่นใจปนกันยุ่งนุงนัง

ส่วน พสุ ยังนอนไม่หลับ...มองปากกาของอลินแล้วคิดถึงคำเตือนของเปี๊ยก ที่บอกให้หลีกทางให้อนุชา แต่ไม่จำเป็นต้องหนีคุณลิน...อีกประโยคหนึ่ง... "ถ้าเป็นอย่างทุกวันนี้ แกคิดอะไรกับเจ้านายฉันมากกว่าเพื่อน..."

พสุเปิดมือถือ...แล้วก็นับหนึ่งถึงสาม...จะต้องมีใครโทร.แน่นอน....แล้วมันก็ดังขึ้นจริงๆ...

"สวัสดีครับ...คุณนาย..." พสุเสียงอ่อย...หม่นหมอง...ดั่งคนที่ตะกายจากหลุมรักยังไม่พ้น...

"ครูกุ๊กหายไปไหนมา ฉันนึกว่าตกหม้อซุปตายแล้วนะเนี่ย" อลินตะลุยแหลก "ทำไมอยู่ๆ ถึงได้หายไปแบบนี้ หา..."

"ทำไม อยากรู้ว่าผมมีนัดสำคัญกับใครใช่ไหม ถึงได้ โทร.จิกแบบนี้"

" เปล่าน่า..." อลินชะงัก ลดเสียงลง "ฉันไม่ได้จะอยากรู้ขนาดนั้นสักหน่อย ที่ฉันโทร.หาเพราะเป็นห่วง อยู่ๆก็หายตัวปริศนา ติดต่อก็ไม่ได้ ใจคอไม่ดียังไงไม่รู้ ฉันยิ่งมีเพื่อนน้อยๆอยู่"

พสุฟังแล้วสะท้อนใจ คำว่า "ห่วง" ทำให้หัวใจพองล่องฟ้า แต่แล้วเทวดายันกลับลงมาด้วยคำว่า "เพื่อน" แค่นั้นเอง...แล้วอลินยังสำทับซ้ำ "ครูกุ๊ก ทีหลังอย่าหายไปแบบนี้อีกนะ"

"นี่...ไม่ต้องทำอินมากก็ได้นะ...ถ้าคุณแต่งงานกับนายอนุชาเมื่อไหร่ ผมหายไปก็คงไม่สนหรอก"

"แหม...แต่ตอนนี้ยังไม่แต่งก็อยู่เป็นเพื่อนกันไปก่อนสิ" พสุฟังแล้วหัวใจแทบล้มระเนระนาด...

" เออ..." อลินเห็นพสุใบ้กิน จึงเปลี่ยนเรื่อง "พูดถึงคุณเล็ก...ฉันเพิ่งนึกได้ คุณเล็กเขาชวนฉันไปดินเนอร์ที่บ้านเขา...วันพรุ่งนี้ เขาบอกว่ามีเซอร์ไพรส์...ไม่รู้ว่าอะไร ถ้าฉันรู้ว่า เซอร์ไพรส์ของคุณเล็กคืออะไร ฉันจะโทร.บอกครูกุ๊กเป็นคนแรกเลยนะ" พสุบอกทันทีว่า ไม่ต้องก็ได้ อลินยืนยัน "ไม่ได้ ครูกุ๊กเป็นคนทำให้อนุชาสนใจฉัน...พรุ่งนี้ดินเนอร์เสร็จ ฉันจะโทร.หาทันที...โอเค้"
พสุทนฟังไม่ไหว บอกแค่นี้นะ แล้วตัดสายปุ๊บทันที...แต่แล้วมือถือก็ดังปั๊บทันทีเช่นกัน

"มีอะไรอีกหา...คุณนาย" พสุกรอกเสียงใส่อลินจอมยุ่ง

" ครูกุ๊ก...ที่ฉันบอกว่าเป็นห่วง ก็คือ เป็นห่วงจริงๆไม่ได้อินเกินเหตุ ถ้าคราวหน้าหายไปอีก ฉันจะโกรธจริงๆด้วย... แค่นี้นะ" อลินวางสายถอนใจโล่ง...หารู้ไม่ว่า...ครูกุ๊กเป็นกุ๊กไก่ เจอไวรัสกินหัวใจเข้าแล้ว...

"ไอ้ดินเอ๊ย...ซวยแล้วไง" พสุเอามือถือโขกกบาลตัวเอง...ทำไมโลกมันถึงวังเวงขนาดนี้...

ooooooo

สูตรเสน่หา ตอนที่ 13

วันนี้ อนุชาเตรียมชุดพ่อครัวมาเต็มที่ พร้อมที่จะเรียนทำอาหารฝรั่งเศสจากเชฟที่เขาเรียกว่า "พี่พล" อย่างเต็มที่ จากนั้นเชฟใหญ่ก็ลงมือทำไปสอนไป อนุชา พยายามแม้จะเก้งก้างก็สู้ทน เพื่อจะไปแสดงฝีมืออวดอลินให้ติดใจ ให้เหนือกว่าครูกุ๊กของเธอให้ได้

เวลาผ่านไป....การสอนทำอาหารฝรั่งเศสของเชฟพล ก็ผ่านไปถึงสามอย่างครบถ้วน

จากนั้นเป็นการแสดงฝีมือของอนุชา อย่างเอาเป็น เอาตาย ถวายชีวิตให้ถ้วยซุปเป็นรายการสุดท้าย...

จาก นั้นไม่นาน...อาหารฝีมืออนุชาก็ลำเลียงมาขึ้นโต๊ะ ในมุมที่เป็นส่วนตัวที่สุดในบ้าน ที่มีแสงเทียนส่องวอมแวม... ผสานเสียงไล้ท์มิวสิกแผ่วเบา จะมีที่ไหนชวนโรแมนติกปานฉะนี้...พลันเสียงแก้วไวน์กระทบกันดังกิ๊ก...อนุชา ก็ได้กิ๊กกั๊ก หัวเราะเสียงแผ่วเบากระซิบกระซาบกับอลินที่ทำเสียงให้เซ็กซี่ที่สุดในชีวิต ...โห...ช่างกลมกลืนชื่นบานแท้...

คุณหญิงอมราทำปากจิ๊กจั๊ก แอบดูลูกชายกำลังเว้าวอน ว่าที่สะใภ้พันล้านอย่างลุ้นเต็มสตีม...ชื่นชมคนเดียวไม่สะใจ โทร.ไปบอกเพรียวที่ยังทำงานในห้องสตูดิโอ พอเพรียวรับ คุณหญิงจึงบอกว่ามีเรื่องสำคัญมากๆจะบอก รู้แล้วเหยียบให้มิดชิดเชียวนะ เพรียวปากหวานรับคำมั่นเหมาะ ว่าแล้วกวักมือเรียกผู้กำกับและทีมงานมาฟัง...กดขยายเสียงให้ฟังกันทั่ว... คุณหญิงก็เล่าไป
ใส่ความรู้สึกเต็มอัตราศึก คิดว่าเพรียวจะฟังคนเดียว...

สอง สาวหนุ่มถ้อยทีถ้อยเจรจา เริ่มด้วยอนุชาออกตัวว่า ไม่เคยทำอาหารมาก่อนในชีวิต...แต่ก็โม้ว่า คราวนี้ เขาไปเรียนมาเพื่อทำอาหารให้คุณอลินได้ลิ้มลองโดยเฉพาะ อลินก็เออออหัวเราะร่วนไปร่วนมา ว่าแหมน่าทานมากค่ะ...แล้วถามว่า เขาจะ ไปเรียนมาเป็นพิธีกรแทนอลินหรือเปล่า อนุชารีบปฏิเสธว่าเขาน่ะหรือ ทำอาหารอีกสิบชาติก็สู้คุณอลินไม่ได้...แล้วเขาแนะให้เธอลองซุปฝีมือเขา

แต่ พออลินซดซุปไปครึ่งโฮก...ก็สำลักพรวดออกมาทันที อนุชาโดดเหยง ถามว่าเป็นอะไรไปครับ รสชาติมันแย่หรือ? อลินเงยหน้าเช็ดปากป้อยๆ บอกว่าเปล่าค่ะ แค่มันร้อนไปหน่อยเท่านั้น อลินไม่กล้าบอกว่า มันเค็มจนแสบถึงกึ๋น...อนุชาถอนหายใจโล่ง บอกเธอว่า นึกว่ารสไม่ดี ถ้าอย่างนี้ก็ไม่เป็นไรอลินส่งลูกทันทีว่า อร่อยหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในโลกที่กลมเป็นลูกสนุ้กใบนี้...
อนุชาจึงเร่งให้อลินทานมากๆหน่อย อลินจำต้องกระเดือกไป ฝืนยิ้มเริงร่า...สมน้ำหน้าตัวเอง...

ooooooo

พสุเปิดมือถือไว้ใกล้ตัว...มือก็เก็บของในครัว เพราะปิดครัวไปแล้ว...นานๆชำเลืองมองมือถือ นึกไป

ก็ หงุดหงิด ทำไมอลินไม่โทร.มาบอกผลการไปดินเนอร์ กับอนุชา...แล้วผู้จัดการร้านก็เตร่เข้ามาพร้อมวางแก้วค็อกเทลลง บอกว่าเขามีค็อกเทลตัวใหม่อยากให้ลอง แล้วช่วยคอมเมนต์ให้ด้วย แต่เตือนว่า เห็นหวานๆแบบนี้ ระวังหน่อย มันแรงมาก...

เสียงมือถือของพสุดังขึ้น เขาโดดตะครุบหมับ ผู้จัดการสะดุ้ง พสุรีบเก๊กหน้าเฉย เหมือนจะบอกว่าไม่ได้รอโทรศัพท์จากใครนะจ๊ะ...แล้วเดินเลี่ยงออกมาพูดอีกทาง ...เสียงอลินดังมา เขาจึงถามว่า ดินเนอร์เป็นไงบ้าง? เสียงอลินดังมาลั่นในนาสิก "แย่มากกกก"
จากเวลานั้น ผ่านไปเหมือนอยู่ใกล้แค่คนละหัวมุมไฟแดง...อลินห้อตะบึงมาถึงร้าน พสุเชิญนั่งในมุมส่วนตัว ไปทำอะไรมาให้เธอทานแก้หิว...พสุจิบค็อกเทลแล้ววางไว้ตรงหน้าอลินอย่างไม่ ตั้งใจ แล้วฟังเสียงสวดยับของอลินต่อ
"ซุปก็เค็มโคตรเค็มยิ่งกว่าเกลือ จากสะดือทะเล ปลาคล้ายกับไม่สุก ฉันต้องทนกินอย่างทรมาน พอแยกจากคุณเล็ก ฉันต้องรีบไปล้วงคอระบายของทิ้ง แล้วรีบวิ่งตูดแป้นมาหาครูกุ๊กนี่แหละ" ว่าแล้วจิ้มกุ้งผัดก๋วยเตี๋ยวฝรั่งใส่ปาก "กินของฝีมือครูกุ๊กค่อยหายเลี่ยน อร่อยกว่าของฝรั่งเยอะแยะ" พสุยิ้มหน้าบาน
"แต่ถึงอาหารที่คุณเล็กทำมันไม่อร่อย หรือเรียกได้ว่าห่วยมาก แต่ฉันก็ดีใจนะ ที่คุณเล็กพยายามทำเพื่อฉัน" อลินยิ้มตาลอย...ไม่รู้ว่าพสุหุบยิ้มแทบไม่ทัน...แล้วค่อยปรับอาการเสียว สันหลังคืนมา
"คุณดีใจ ผมก็ดีใจด้วย" พสุฝืนยิ้มจืดๆ "ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวไปเช็กของในครัวต่อ"
"เดี๋ยว ครูกุ๊ก ฉันมีอะไรจะถามหน่อย"
"มีอะไรจะถามครับคุณนาย"
" เวลาผู้ชายชอบผู้หญิง..." อลินกระแอมก่อนจะถามต่อ "พวกผู้ชายเขาจะแสดงออกยังไง...แล้วผู้หญิงอย่างฉัน จะรู้ ได้ยังไงว่าผู้ชายคนนี้กำลังชอบฉันอยู่" พสุหลบตา งึมงำว่า จะไปรู้ได้ไงล่ะ? "ครูกุ๊กเป็นผู้ชาย จะไม่รู้ได้ไง...น่า...นะ...นะ พลีสสสส...บอกหน่อยนะ ไม่ต้องเขินหรอกน่า ฉันอยากรู้จริงๆ"
"คือ...จริงๆ แล้วผู้ชายแต่ละคนแสดงออกไม่เหมือนกันหรอก" พสุพยายามทบทวนความหลายตลบ จึงว่าต่อได้ "ส่วนมากคงจะแบบ ถ้าเราชอบใคร เราก็สนใจเขาเป็นพิเศษ สนใจทุกเรื่อง ทุกข้อมูล มันเหมือนแบบซึมเข้ามาในสมองโดยไม่ต้องพยายาม เวลาอยู่ด้วยกันสายตาเราจะมองแต่คนคนนั้น พยายามหาข้ออ้างเพื่อจะมาเจอเขา...เวลาไม่เจอก็คิดถึง เวลาหายไปก็เป็นห่วง..." พสุระบายออกมาเหมือนใจตัวเอง "ถ้าอยากรู้ว่าใครชอบคุณ...ก็แค่..."
เสียงแก้วแตกดังเพล้ง...พสุหันไป เห็นแก้วค็อกเทลที่ผู้จัดการเอามาให้ชิมว่ามันแรงแค่ไหนหล่นกระจาย ส่วนอลินฟุบแน่นิ่งสิ้นสภาพ...พสุรู้ทันทีว่าอลินแอบดื่มขณะที่เขากำลังใช้ สมองเต็มที่ พสุร้องเรียกเธอเสียงแตกตื่นเต็มที่....ถามตัวเองว่า ทำไงดีหว่า?
"คุณลินกินเหล้า" เสียงทนายเปี๊ยกดังมาตามสายที่พสุโทร.ไปหา...พสุประคองเธอขึ้นมา แล้วบอก
"มันเป็นค็อกเทล แต่แรงมาก ฉันไม่รู้ว่าเขากินไปตอนไหน หันมาอีกที สลบไปแล้ว"
"สมควร...คุณลินเป็นโรคแพ้แอลกอฮอล์ กินแล้วน็อก... แกรีบพากลับคอนโดฯก่อน ฉันจะตามไป"
พสุเก็บมือถือสะพายกระเป๋า แล้วประคองอลินออกจากร้านไปอย่างทุลักทุเล...
ooooooo
คุณ หญิงเห็นอนุชาเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาเหมือนจิตใจยังว้าวุ่น แต่คุณหญิงอมรากลับระริกร่าเริงยิ้มแก้มปริชมลูกชายว่า คืนนี้ทำดีมาก อลินยิ้มหน้าบานไม่กลัวเหี่ยว โกยความสุขไปหลายกระบุง ปลื้มลืมโลกไปเลย...ลูกชายแย้งว่า เธออาจทำไปเพื่อรักษามารยาท
"ไอ้ครูกุ๊กครูกุ๊ยอะไรนั่น ตกกระป๋องแน่ๆ เชอะ คิดจะมาทาบลูกคุณหญิงอมรา ไม่บ้าก็บ๊อง"
"คุณแม่ไม่ต้องห่วง ผมกับครูกุ๊กเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว เขาบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับคุณลิน"
"ถ้ามันคิด มันจะบอกเราเรอะ"
"ผมว่าเขาเป็นลูกผู้ชายพอ ผมคิดว่าผมดูคนไม่ผิด" อนุชายืนยัน...คุณหญิงฮึ่มฮั่มใส่ลูกชาย
ooooooo
พสุ พาอลินมาถึงหน้าคอนโดฯ...พยายามปลุกให้ตื่น แล้วประคองพาขึ้นไปยังห้องพัก อลินยังหาสติตัวเองยังไม่พบ แต่ตวาดพสุที่เรียกให้ตื่นว่า หนวกหู คนจะนอน พสุค้านทันทีว่า นอนที่นี่ไม่ได้ ขึ้นไปนอน บนห้อง อลินยังดื้อไม่ยอมท่าเดียวจึงถูกด่า นางเอกขี้เมา...
เมื่อไม่มีทางอื่น จึงสะพายกระเป๋าของเธอ แล้วปลงเมื่อเห็นท่าอลินอ่อนระทวยหมดประตูในการออกแรงช่วยตัวเอง พสุเอาอลินใส่บ่าแบกลงรถแล้วปิดประตู เขาแบกเธอไป เธอซบที่บ่า ปอยผมปลิวไสว กลิ่นสาบสาวรวยรินซ่านไปถึงหัวใจ เขาสูดลมหายใจเข้า...เตือนใจตัวเอง อย่าได้เคลิ้มไปกับสิ่งที่แม้อยู่ใกล้ แต่ยังห่างไกลกันเกินฝัน...
เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปในห้องของเธอแล้ว แทบไม่อยากจะวางลง อยากจะอยู่อย่างนี้สักร้อยปี...เขาไล้สายตาไปยังดวงหน้าหวานละมุนในระยะ ประชิด พสุยิ้มอย่างมีความสุขที่สุดในชีวิต ความสุขที่หาได้อย่างบังเอิญโดยแท้
เขาอุ้มอลินไปยังโซฟา กำลังจะวางเธอลง อลินกลับร้องโวยวายอ้อแอ้ในคอ บอกไม่นอนตรงนี้...พสุชะงัก ถามว่า แล้วจะนอนตรงไหน อลินตอกหน้าทันทีว่า ไม่รู้ ไม่ถามได้ไหม?
"ไม่รู้ก็นอนตรงนี้แหละ" ว่าแล้ววางเธอลง อลินดิ้นปัดๆ ร้องลั่นไม่เอา สั่งให้ปล่อย
"นี่อยู่เฉยๆสิ คุณลิน ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ เดี๋ยวตกลงไปนอนพื้นจนได้"
"ไม่อาว...ไม่ตก...ฉันไม่ใช่นางเอกตกกระป๋องนะ...
พูดเงี้ย...เดี๋ยวโดน...เดี๋ยวเจอมือตบ"
" แน่ะ...เมาแล้วยังวีนอีก แล้วเนี่ยจะนอนไหนแน่" เสียง อลินอ้อแอ้ก่อกวนวกวนไม่รู้เรื่อง พอดิ้นมากขึ้น พสุจึงจะวาง ยามนั้นร่างของเขาเอนไปมาแล้วเสียหลักล้มลง อลินโชคดีลงที่โซฟา พสุยั้งไม่อยู่ ล้มทับบนร่างเธออีกต่อ...อลินหลับกรนครอกๆ พสุยันตัวลุกขึ้น พลางขอโทษ...
อลินหลับต่อไม่รู้เรื่อง...พสุจ้องมอง หน้าเธอ แอลกอฮอล์ ฉีดแรงจนหน้าแดงระเรื่อ เธอหลับตาพริ้ม น่ารักกว่าทุกวันมา ยามเมาไร้สติเธอยิ่งน่ารักกว่า เหมือนมีมนต์เสน่ห์ฉุดวิญญาณของเขาให้เคลิ้มหลง...เขาค่อยโน้มหน้าลงไปอย่าง คนถูกสะกด
ก่อนที่จมูกของเขาจะสัมผัสแก้มนาง...ประตูห้องที่ปิดไว้เปิดผาง ทนายปฏิคมยืนจังงัง
"ไอ้ดิน...." เปี๊ยกตะโกนเรียกอย่างไม่พอใจในพฤติการณ์ แบบนี้ พสุผงะหันมามอง อุทานเรียกไอ้เปี๊ยกอย่างแตกตื่น
เปี๊ยก มองภาพของเพื่อนที่กระทำต่อนายสาวของเขานั้นมันน่าเกลียด พสุพยายามจะอธิบายให้เพื่อนรู้ว่า เขาไม่ตั้งใจจะกระทำอย่างนั้น พสุเลี่ยงมาที่ระเบียง เปี๊ยกตามมา
"ฉันไม่ได้ลวนลามคุณลิน ไม่ได้เป็นอย่างที่แกคิด"
"แกรู้รึว่าฉันคิดอะไร แล้วจริงๆใจแกคิดอะไร" เปี๊ยกซักหนัก
"ฉันกำลังจะพาคุณลินไปนอน แต่เขาโวยวายไม่ยอมนอนข้างนอก ฉันกำลังจะหาที่นอนให้เขา เขาดิ้นไปมา ฉันจึงล้ม แล้วมันเป็นอย่างที่แกเห็น"
" นั่นมันสิ่งที่แกทำ แต่ฉันถามสิ่งที่แกคิด...แกคิดอะไรกับคุณลิน" พสุถูกจ้องต้องหลบตา เปี๊ยกสรุป "แกไม่ต้องรีบตอบฉัน แต่แกต้องตอบตัวเองให้ได้ ไม่ว่าแกจะคิดยังไง อย่าทำแบบเมื่อกี้อีก สำหรับวันนี้ฉันจะลืมมันซะ เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น" เปี๊ยกเดินมาจับไหล่เพื่อน "แกไม่ต้องรู้สึกผิดกับฉัน แค่แกหาคำตอบให้ได้แล้วยอมรับมัน แกกับฉันยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม"
เพื่อนทั้งสองจ้องตากันนิ่ง เปี๊ยกตบไหล่พสุ เน้นคำพูดห้วนๆ
"ไปคิดดู..." แล้วปฏิคมก็เดินเข้าห้องไป
พสุ ยืนที่ระเบียงคนเดียว...ท้องฟ้าเมืองบางกอกยังพร่างพรายด้วยหมู่ดาว เหนือแสงสีจากไฟประดับของเมืองใหญ่ ในใจของพสุกลับหม่นหมอง เดียวดาย...
ooooooo
แม้จะดึกมากแล้ว แต่หัวใจที่ดิ้นรนหาทางออกไม่ได้ ทำให้พสุขับรถไปตามถนนอย่างไร้จุดหมาย...
ใน ที่สุดเขาก็หักรถมุ่งหน้าไปยังร้านเป้หวานของโสภิตา ไปหาเพื่อนที่รู้ใจ...หลังจากปลุกเธอขึ้นมากลางดึกแล้ว ยังเอาปัญหาคับแค้นมาบอกเล่า เธอชงชาร้อนๆให้ดื่ม ก่อนจะฟังเรื่องราว แล้วย้อนถามว่า เขามีปัญหาอะไร?
"มันจะผิดไหม ถ้าเราจะรักใครสักคน ที่มันเป็นไปไม่ได้"
" คุณลินใช่ไหม" พสุฟังคำถามของโสภิตา แล้วย้อนถามเหมือนจะยอมรับในตัวว่า เธอรู้ได้ไง? "ตาบอกแล้วว่าดินมีความสุขเวลาที่อยู่กับคุณลิน คนเราก็ต้องชอบคนที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุขทั้งนั้น ความสุขเวลาที่คิดถึง เวลา ที่อยู่ด้วยกัน พูดคุยกัน หัวเราะกัน หรือแม้ทะเลาะกันก็ยังมีความสุข...แล้วความชอบ พอมันมากๆเข้า สักวันมันก็จะกลายเป็นความรัก การที่เรารักใครสักคน ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นไป ไม่ได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เราต้องทำใจรับมันให้ได้...แค่นั้นเอง" พสุฟังแล้วพยักหน้ารับ เหมือนรับเอาเขาทั้งลูกมาอุ้มไว้ "แต่จริงๆแล้วเวลาที่คุณลินอยู่กับดิน เขาก็ดูมีความสุขมากนะ บางที ถ้าไม่มีคุณเล็ก คุณลินเขาจะชอบดินก็ได้"
" เป็นไปไม่ได้หรอก...เป็นไปไม่ได้" พสุบอกไป ใจยังเขิน...ในความเคอะเขินนั้น แม้ความหวังจะริบหรี่ แต่ก็บังคับหัวใจไม่ให้หวังไม่ได้...
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น อลินรู้สึกตัวเด้งดึ๋งจากที่นอน ผวาเข้าห้องน้ำไปแทบไม่ทัน อาเจียนพรวดๆลงอ่างในห้องน้ำ เหงื่อกาฬพาลแตกจนต้องรีบล้างหน้า พอเงยหน้าออกมาจากห้องน้ำ คำถามก็ประดังขึ้นว่า...ฉันกลับมาบ้านได้ยังไงเนี่ย แล้วได้ยินเสียงเครื่องปั่นดังจากในครัว
(อ่านต่อหน้า 27)

"ครู กุ๊ก" อลินเดินไปตามเสียง ทนายเปี๊ยกหยุดมือ หันมาทักทายอลิน บอกว่ากำลังจะปั่นน้ำมะระให้กินแก้แฮงก์ สูตรคุณพ่ออนันต์ของอลินด้วย แต่อลินไม่สน ถามว่าเมื่อคืนใครพาเธอมาส่ง จำได้ว่ากินน้ำสีชมพูนั่นถึงถูกน็อกเอาต์ ทันที พอรู้ว่าพสุเป็นคนพามา แล้วเขากลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืน จึงรีบขอโทร.ไปขอบคุณเขา ที่ไม่ทิ้งเธอข้างถนนให้เป็นข่าวฉาวโฉ่
"อย่าเพิ่งโทร.เลยครับ...ให้มันรู้ใจตัวมันเองก่อนดีกว่า"
"รู้อะไรนะ" อลินชักสงสัยในคำพูดนั้น เปี๊ยกกลับเลี่ยงทันที
" อ๋อ...ก็รู้สึกตัวตื่นน่ะครับ ตอนนี้มันคงยังไม่ตื่น คุณลินอย่าเพิ่งสนใจมันเลยครับ ดูแลตัวเองก่อนดีกว่า...นี่ครับ" เปี๊ยกส่งถ้วยน้ำปั่นให้แก้แฮงก์...อลินรับมา หันหลังดื่ม แต่ใจ ยังไล่ล่าพสุไม่ยอมหยุด ส่วนเปี๊ยกเองก็ยังอดห่วงเพื่อนไม่ได้ ป่านนี้มันอาจไปโดดน้ำโขงตายไปแล้วก็ได้...
ooooooo
ปฏิคมรีบเอาข่าว หนังสือพิมพ์มาให้พสุดูถึงโรงเรียนสอนทำอาหารแต่เช้า...พาดหัวตัวเบ้อเริ่ม เทิ่ม "อลินย่องเงียบเข้าบ้านหุ้นส่วนไฮโซ ยันสัมพันธ์เกินเพื่อน" ปฏิคมหรือทนายเปี๊ยกมองหน้าพสุ ถามว่าเห็นข่าวแล้วรู้สึกยังไงล่ะเพื่อน พอจะรู้ตัวหรือยัง เสียใจไหมล่ะ?
"ฉันรู้ตัวแล้ว และทำไมต้องเสียใจด้วยล่ะวะ"
"นี่แค่เริ่มต้น ต่อไปแกจะเจอยิ่งกว่านี้ แกรู้ว่าคุณลินเขาคิดยังไงกับนายอนุชา...แกคงไม่คิดว่า คุณลินจะเปลี่ยนใจมาชอบแกหรอกนะ"
" ฉันรู้ว่าเจ้านายแกรสนิยมยังไง ฉันรู้ตัวว่าฉันเป็นยังไง...อย่าห่วง เมื่อเจ้านายแกได้สิ่งที่ต้องการ ฉันก็ไร้ประโยชน์ เราคงไม่ค่อยได้เจอกันแล้ว"
"ฉันว่า ตัวแกเหมือนเดิมต่อไป...แต่ใจแกล่ะจะเหมือนเดิมได้หรือ ไอ้หอย"
"ฉันทำได้สิ ฉันต้องทำได้" พสุพูดเหมือนย้ำกับตัวเอง...
เสียง มือถือพสุดังขึ้น เปี๊ยกเดาได้ทันทีว่าคุณลินโทร. มาแน่ ตอนนี้เธอโทร.หาพสุก่อนเขา แกไม่เป็นแค่ครูกุ๊กอีกแล้ว ถึงพวกเขาแต่งงานกัน แกกับคุณลินยังต้องเจอกันอยู่ดี แกเลือกเอาว่าจะอยู่แบบ "ทำใจ" หรือจะอยู่แบบ "ตัดใจ" ปฏิคมวางหนังสือพิมพ์ เดินออกไป...พสุมองมือถือ เห็นชื่ออลิน แล้วตัดสินใจกดทิ้ง...กำลังจะเดินหนี เสียงนั้นดังเรียกมาอีก พสุถอนใจ ก่อนหยิบมากดรับ
"ว่ายังไงคุณนาย" พสุถามเสียงดัง เปี๊ยกที่หน้าประตูแง้ม ยื่นหูมาฟัง
" ครูกุ๊กเห็นข่าวแล้วใช่ไหม" พสุตอบเสียงเบาว่าเห็นแล้ว ไอ้เปี๊ยกเพิ่งเอามาให้ดู "ฉันเห็นแล้ว แทบกรี๊ดหน้าร้านหนังสือ ไม่คิดว่าจะได้ลงข่าวหน้าหนึ่งเรื่องผู้ชาย มัน... มันสุดๆ ตั้งแต่เข้าวงการมาไม่เคยถูกเม้าท์เรื่องนี้เลย มีแต่ ถูกด่าเรื่องวีนโน่นนี่...อะฮ้า...นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันโดนเม้าท์ เรื่องผู้ชาย" อลินแทบโดดโลดเต้นตื่นใจที่ได้เป็นข่าวเรื่องผู้ชาย...พสุอ้าปากค้าง พองับปั๊บก็แย้งปุ๊บ
"คุณ...นี่คุณไม่อายเหรอ...เขาลงโต้งๆว่าคุณไปบ้านผู้ชายนะ" พสุดังมาตามสาย

"โอ้ว...อาย...อายทำไม มันเรื่องจริง เขาชวนฉัน ฉัน ไม่ได้ไปเอง ไม่ได้สร้างข่าว นักข่าวต้องรู้มาจากทางโน้น มันยิ่งตอกย้ำ คุณเล็กสนใจฉันชัวร์...ไม่มั่วแห้ง" พสุฟัง ลมสว้านจากบั้นท้ายไปจุกที่ลิ้นปี่
ขณะนั้นมือถืออลินดัง เธอขอพสุให้รอเดี๋ยว พอรับได้ยินเสียง อลินสั่นไปทั้งตัว
"ครูกุ๊ก แค่นี้ก่อนนะ คุณเล็กโทร.มา แล้วค่อยคุยกันใหม่" อลินรับสายอนุชายิ้มหวานปานจะหยด
ถึง ครูกุ๊กจะไม่เห็น ก็พอจะรู้ชะตาตัวเองแล้วว่า มันก็แค่ไก่รองบ่อนที่จะถูกเจ้าของเอาลงหม้อต้มยำรอมร่อ...พสุนึกถึงคำพูด ของเจ้าเปี๊ยกให้เลือกจะทำใจหรือตัดใจ...พสุยังคร่ำครวญ ถ้าให้ทำใจพอจะทำได้ แต่ตัดใจมันช่างเป็นอภิมหาคาหัวใจอ่อนๆของเขาโดยแท้...
ooooooo
หมิ งดาราอิจฉากับแฟนหนุ่มนายลมหรือวายุ ผู้ดีถังชำรุด หมิงพากันมากองถ่าย...หมิงรู้ดีว่านายลมมาเพื่อหาทางพบกับอลิน รู้ดีด้วยว่าลมคิดจะตกถังข้าวสารกับดาราพันล้านแล้วจะทิ้งเธอ หมิงจึงพยายามกีดกันเต็มที่ ส่วนคุณหญิงอมราโทร.หาเพรียวที่บริษัท วันนี้จะมีการประชุม ให้บอกทุกคนที่บริษัทว่าคุณหญิงจะมาร่วมประชุมด้วย
ทาง ด้านอนุชาที่กำลังหันมากระชับสัมพันธ์กับอลินเต็มที่ตามคำบัญชาของแม่... เมื่ออลินมาถึงบริษัท อนุชารีบขอโทษขอโพยอลิน ที่การไปกินข้าวกับเขาที่บ้านกลายเป็นข่าวใหญ่โต แทนที่อลินจะเสียใจ เธอกลับเห็นว่าไม่สำคัญและไม่แปลก เธอเคยมีข่าวเกี่ยวกับผู้ชายมามากแล้ว ถึงอย่างไรอนุชาก็ยังต้องขอโทษเธอ เพราะไม่รู้ใครเอาข่าวไปลง เขาจึงจะขอโทษเธอด้วยการทำอาหารให้ทานอีก อลินฟังแล้วตกใจแทบตาย เอาอีกแล้วเหรอเนี่ย...จึงร้องห้ามพัลวัน ขออย่าลำบากอีกเลย ขอร้องไม่ต้องทำ ไปเลี้ยงที่ร้านอาหารที่ไหนก็จะดีกว่า อนุชาไม่รู้ว่าที่แท้อลินนึกถึงฝีมืออาหารของเขาแล้วยังคลื่นไส้ เอาด้วย อนุชาจึงยิ้มรับตกลงทันที แล้วขอเป็นคนเลือกร้านให้ แล้วกัน อลินจึงโล่งใจ...
เพรียวมาเชิญทุกคนเข้าที่ประชุม บอกให้รู้ว่าคุณหญิงมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทุกคนทราบหลังเปิดประชุมแล้ว คุณหญิงอมราจึงออกมายืนเท่เรี่ยมเร้ไฉไล จีบริมฝีปากประกาศเสียง น้ำเซาะทราย
"ที่เดี๊ยนมาวันนี้ มีข่าวดีและข่าวสำคัญจะแจ้งให้ที่ประชุมทราบ จึงขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเชฟแอนดรู เป็นเชฟมือหนึ่ง อันดับพิเศษสุดจากแพรีส ฝรั่งเศส...ผู้ช่วยคนใหม่ ของรายการ อลิน อร่อย อราวด์" คุณหญิงหยุดหายใจ คอยื่นคอยาว...อนุชารู้สึกเอะใจ อลินถึงกับอึ้งย้งงงไป
"ผู้ช่วยคนใหม่ หมายความว่ายังไงคะ" อลินตั้งหลักได้เริ่มออกเสียง
" อ๋อ...ก็คุณหญิงแม่เห็นว่าหนูลินคิดทำโน่นนี่หลายอย่าง มันเยอะไป นอกเหนือพิธีกร จึงเชิญแอนดรูมาช่วยหนูลินเป็นการแบ่งเบาภาระไงจ๊ะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ครูกุ๊กเป็นคนช่วยลินอยู่ ไม่ลำบากเลยค่ะ"
คุณ หญิงหน้าเริ่มเขียวรำไร จึงเอาเหตุผลมาอ้าง ครูกุ๊กไม่ใช่พนักงานเรา พอเรตติ้งดีคงอยากแยกตัวไปทำเอง จะขนคนทำงานเอาไอเดียเราไป คุณหญิงแม่ว่าหนูลินควรตัดเขาออกไปจากรายการของเราจะดีกว่า...อลินเฝ้า พยายามชี้ว่าอย่าห่วง ครูกุ๊กไม่เคยคิดจะดัง ไม่ทำลายใคร...แล้วเน้น
"ลิ นพอใจจะทำงานกับครูกุ๊กมากกว่าเชฟแอนดี้ เอ๊ย แอนดรูค่ะ อย่างน้อยเราพูดภาษาไทยเหมือนกัน สื่อกันง่าย อีกอย่างเชฟคนนั้นค่าตัวคงไม่น้อย แล้วต้องจ้างล่ามมาช่วยอีกคน เปลืองงบโดยใช่เหตุ"
คนอื่นในที่ประชุมพยักหน้าเห็นด้วย คุณหญิงตาเขียวใส่ พนักงานหลบตาวูบวาบ อนุชารีบแก้เกม ชมคุณหญิงแม่ ปรารถนาดี แต่ตอนนี้รายการเพียงแต่เริ่มดี เร็วไปที่จะโกอินเตอร์ ด้วยเชฟฝรั่ง ไว้พร้อมแล้วจะปรึกษาคุณหญิงแม่อีกทีหนึ่ง คุณหญิงรีบตัดพ้อเล็กๆว่าท่านหวังดี ไม่รับไว้ไม่เป็นไร ถ้าเกิด ปัญหาภายหลังอย่าว่าไม่เตือนแล้วกัน ว่าแล้วคุณหญิงดึงรูปเชฟ ฝรั่งออกไป...อนุชาสั่งประชุมต่อทันที อลินจึงเสนอเพื่อความแปลกใหม่ของรายการและกระจายกลุ่มคนดู ขอเสนอให้ไปถ่ายทำกันที่ตลาดนัด...ทุกคนฟังและเห็นด้วย อลินจึงให้ราย ละเอียดต่อไป...
ooooooo
เมื่อนายลมหาตารางเวลาและโปรแกรมการทำงานขอ งอลินไม่ได้แน่นอน นายลมจึงให้วารินพี่สาวไปคาดคั้นเอากับแม่นงพะงาของนายดิน ให้หาทางให้ นายดินเอาตารางเหล่านี้ของอลินมาให้ แต่อย่าให้นายดินรู้เป็นอันขาด นงพะงาหนักใจ แต่จำต้องรับปากพวกลูกท่านหลานท่านพวกนี้
วารินกลับไปบนตึก ใหญ่ บ่นกับนายลมว่าทำไมให้พี่ต้องลำบากไปขอร้องพวกนั้น ลมจึงสารภาพว่า เขาตั้งใจจะทั้งจีบทั้งจับนังอลินดาราพันล้านให้ได้ ส่วนหมิง ลมคบมันไปเล่นๆเท่านั้น ไปนอนกองเงินกองทองของอลินสบายๆไม่ดีกว่าหรือ พี่สาวติงว่า อลินอายุมากจะมายุ่งรุ่นน้องอย่างแกหรือ?
"เฉยเถอะ สมัยนี้ดาราเขานิยมกินเด็ก ไม่รู้หรือว่าอลินอายุตั้งสามสิบขึ้นยังไม่แต่งงาน อยู่ๆมีหนุ่มหน้าตาดี มีชาติตระกูลเจ๋งมาจีบ มีรึไม่สน...ยิ่งไอ้เล็กไฮโซหรือไอ้ดินลูกคนใช้ ลมเจ๋งกว่าจมหู"
"เออ...ให้มันเจ๋งจริงเถอะ...อย่าเอ๋งก็แล้วกัน" วาริน มองไอ้น้องไม่เอาถ่านอย่างไม่เห็นน้ำยา...


ooooooo


อลินไปหาพสุที่ร้านอิตาเลียนตอนดึก...เล่าเรื่องการประชุมต้านเชฟฝรั่งของคุณ หญิงจนล่าถอยไปอย่างไม่พอใจ อลินระบายความแค้นให้พสุฟัง กระทั่งเขาปิดร้าน เขาจึงเดินมาส่งเธอที่รถ ทั้ง เตือนว่าไม่ควรหักหน้าคุณหญิงแบบนั้น อลินบอก ทันทีว่าอยากเอาคนอื่นมาทำงานแทนครูกุ๊กของฉันได้ไง

พสุฟังคำว่า "ครูกุ๊กของฉัน" ด้วยหัวใจพองวาบๆ แอบหันหนีไปอมยิ้ม อลินถามทันทีเป็นอะไร เขาหันมาถามว่ากินข้าวรึยัง อลินจึงย้อนถามว่า ถามแบบนี้ผิดปกติ ไข้กินรึเปล่า เขาย้อนว่าปกติทุกอย่าง อลินไม่ยอม
"คิดอะไรอยู่รึเปล่าเนี่ย"
"เฮ่ย...บ้าแล้ว ผมจะคิดอะไร ผมก็ถามเรื่อยเปื่อย อย่าจับผิดกันน่า ถ้าไม่กินอะไรก็รีบกลับ ผมจะรีบกลับเหมือนกัน"
" เอ้อ ค่อยปกติ อ้อเกือบลืม ขอบคุณนะที่หอบหิ้วฉันกลับบ้าน ฉันเมา ทำอะไรทุเรศๆรึเปล่า" เมื่อพสุบอกปกติ อลินถอนใจโล่ง "ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว...เอ้อ ฉันมีของขวัญพิเศษที่จะให้ ครูกุ๊ก ตอบแทนที่พาฉันกลับบ้าน" อลินบอกแล้วขึ้นรถกลับไป...
วันต่อมา นงพะงากับอ้อนก็ตื่นเต้นวิ่งกันพล่าน ดีใจจนตั้งสติไม่ได้ เมื่อเห็นอลินเดินมาหาถึงบ้านนงพะงา ทั้งบ้านจึงต้อนรับอย่างดีใจ...อลินมาทักทาย โดยมีพสุหิ้วของมาด้วย อลินอ้างพสุว่าคุณแม่ชอบผลไม้จึงเอามาฝาก แม่รีบบอกว่าขอบคุณ มาแต่ตัวก็บุญแล้ว ติดใจดาราอย่างอลินมานาน...อลินยังเอาซีดีละครมาฝากอีก แม่นงพะงาเนื้อเต้น บอกอ้อนว่าจะเปิดดูคืนนี้เลย แม่รีบให้อ้อนไปเอากล้องมาถ่ายรูปอลินไว้ อ้อนทำหน้าที่ถ่าย ดึงพสุมาถ่ายกับอลินด้วย อลินสนุก พัวพันพสุหมดทุกท่า แล้วยังดึงตัวมาแนบชิด ซุกหน้าเห็นปลายจมูกรำไร... จนยังไม่รู้ว่าหัวใจจะหลุดออกไปนอกโลกตอนไหน?
แม้ตอนพสุนอนจนค่อนดึกแล้ว ก็ยังอดคิดไม่ได้ ภาพการถ่ายรูปไว้กับอลินทำให้พสุยิ้มคนเดียว แล้วต้องปลอบใจตัวเองว่า "ไอ้ดินเอ๋ย...แกต้องทำใจให้ได้นะ"
ooooooo
นาย ลมหรือวายุแต่งตัวงามสง่าพร้อมกล่องของขวัญ ขับรถมุ่งไปกองถ่าย พร้อมติดต่อมือถือไปยังวารินพี่สาว ที่ได้รายงานมาว่านายดินยังลับมีดอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปที่ตลาดนัดกองถ่ายของอลิน นายลม ถึงเบาใจ
วารินมองพสุอยู่ห่างๆ แต่พอหันมา นงพะงาเดินมาเห็น ทักว่าวารินไม่ได้ไปกองถ่ายตามรายการที่ให้หรือ วารินแก้ตัวว่า ให้วายุไปแทน...แล้วทั้งสองก็หันมาเห็นพสุที่กำลังถาม
"คุณลมไปไหนนะครับ " คำถามพสุทำให้นงพะงาและวารินชะงักพูดไม่ออก เพราะพสุได้ยินแล้วเริ่มรู้ และอยากจะรู้แน่ว่าพวกนี้กำลังจะเล่นตลกอะไร เขานึกถึงอลินขึ้นมาทันที...
อลิ นมากับรถตู้ จอดแถวตลาดนัด จัดการแต่งเติมเสริมสวยอยู่ในรถเตรียมเข้าฉาก...เพรียวมารายงานว่าแม่ค้าที่ จะมาเข้าฉากพร้อมแล้ว...เพรียวหันไปเห็นวายุเดินมาพร้อมกล่องของขวัญจึง มองอย่างตกใจ เพราะรู้ว่าวายุคือแฟนของหมิง แล้วมาทำไมที่นี่ หมิงก็เข้าฉากที่สตูดิโอ เพรียวจึงคิดจะให้มันสนุกยิ่งขึ้น
ส่วนพสุเมื่อ เห็นท่าไม่ดีจึงโดดซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ รับจ้างมุ่งหน้ามายังตลาดนัดแล้วติดต่อเปี๊ยก บอกว่าโทร.หาคุณลินก็ไม่รับสาย แต่นายลมน้องชายเขากำลังไปที่กองถ่าย เปี๊ยกจึงบอกเดี๋ยวจะตามพสุไป แต่เปี๊ยกยังคิดไม่ตก ทำไมน้องนายดินแฟนยายหมิงถึงจะไปหาคุณลินที่กองถ่ายตลาดนัด?
แน่นอน ยายหมิงกำลังเข้าฉาก พอรู้จากเพรียวว่านายลมมาทำอะไรที่กองถ่ายตลาดนัด ถือกล่องของขวัญมาด้วย... หมิงหน้าบูด มือไม้ค่อยๆสั่นเมื่อคิดมาก...แล้วหมิงไม่ยอมเปลี่ยนชุด เอาหัวใจนำหน้าไปโลด ตัวเองผวาตามให้ถึงตัววายุ และนังอลินให้เร็วที่สุด...
ooooooo

สูตรเสน่หา ตอนที่ 14


เมื่อ สำรวจตัวเองว่าพร้อมแล้ว อลินก็ก้าวลงจากรถตู้ พร้อมที่จะเริ่มการถ่ายรายการในตลาดนัด แล้วจู่ๆ ก็มีกล่องของขวัญยื่นมาตรงหน้า...อุทานอย่างตกใจ
"สวัสดีครับคุณอลิน" วายุหรือนายลมยิ้มหน้าระรื่น เห็นอลินติดอ่าง เขาจึงบรรจงถ้อยคำออกมาอีก "ผมชื่อวายุ หรือเรียกว่าลมเฉยๆก็ได้ ผมเป็นน้องชาย...พี่ดินครับ" วายุเกือบเรียกไอ้ดิน อลินจึงทวนคำ นึกออกว่าเป็นน้องชายครูกุ๊ก...แล้วก็นึกได้ว่าเจ้าหมอนี่เป็นแฟนยายหมิงนี่ จึงเปลี่ยนเสียงบอกไปว่า ยินดีที่ได้รู้จัก และไม่ทราบว่ามาทำอะไรแถวนี้?
" คือ...ผมมีของขวัญเล็กๆน้อยๆมาฝากคุณลินครับ เพื่อทำความรู้จักกันเบื้องต้น พี่ดินพูดให้ผมฟังบ่อยๆ บอกว่าเราสองคนมีอะไรเหมือนๆกัน อยากให้ทำความรู้จักกันเอาไว้" อลินฟัง ได้แต่เลิกคิ้วเฉย "ผมเลยเลือกสร้อยที่แพงที่สุดในร้านผมมาให้ คุณลินรับไว้เถอะครับ"
อลินมองกล่อง ยังไม่ตัดสินใจว่าจะรับ...ทันใดกล่องถูกกระชากไปทันที หมิงจับกล่องยืนจังก้า ตวาดเรียก "ลม" เสียงดัง...นายลมเองก็อุทานเสียงแตกพร่า ยาหยีหมิง...อลินเห็นหมิงแล้วยิ้มขึงตึงตัวพร้อมรับมือทันที...ตอนนี้อลิ นไม่รู้ว่าพสุกำลังสั่งมอเตอร์ไซค์ให้เลี้ยวลัดตัดทางมาตลาดนัดให้เร็วที่ สุด
"ลม...นี่มันอะไรกันหา...ลมเอามาให้มันทำไม" หมิง ตวัดสายตาไปหาอลิน "อย่าบอกนะว่าแกคิดจะแย่งแฟนฉัน"
" โฮ้ย...บ้าแล้ว ฉันอยู่ของฉันดีๆ แฟนแกก็เอาของขวัญมาให้ฉันเอง เธอยังมีหน้ามาใส่ร้ายว่าฉันแย่งแฟนเธอ" หมิง เถียง ไม่เชื่อว่าลมจะมาหาแกเอง วางแผนให้เขามาหาเพื่อเอาชนะเพื่อแก้แค้นหมิง อลินโต้ทันที "น้ำเน่า...ฉันไม่ไร้สาระอย่างนั้น ถามแฟนแกเองก็แล้วกัน...บางทีเขาอาจจะเบื่อของเก่า ถึงจะอึ๋มก็ใกล้ถุงกาแฟไปมาก คงอยากได้ของเร้าใจใหม่ๆซะบ้าง"
หมิงโต้ด้วยเสียงกรี๊ดยาว แล้วหันมากระชากไหล่ อลินมาแล้วฟาดฝ่ามือใส่หน้าอลินดังเพียะ ลมตกใจจะช่วยอลิน หมิงขวางทันที ตะคอกใส่อลิน
"ชดใช้ที่แกตบฉันคราวก่อน ถ้ายังมายุ่งกับลมอีก จะเจอยิ่งกว่านี้"
" เธอนั่นแหละจะเจอ" อลินสะบัดฝ่ามือตอบทันที หมิง ตาแทบหลุด...ยังตบอีกข้าง หน้าหันไปหันมา หมิงส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด ด่านังจิ้งจอกพันหน้าใส่คะแนนไม่ทัน แล้วสงครามขนมที่ใกล้มือต่างละเลงใส่หัวหู ขยี้กันไปตามจังหวะ ล้มลุก คลุกคลาน ลมเข้าช่วยอลิน หมิงเอาขนมยัดปากให้ เอาถาดฟาดซ้ำร้องลั่นตลาด ไทยมุงต่างส่งเสียงเชียร์ล้อมหน้าล้อม หลัง...ทีมงานตาเหลือกไม่รู้จะแก้ไขยังไง
ลูกเป็ดแนะเพรียว จึงได้ร้องบอกไทยมุงว่า ตอนนี้เรากำลังถ่ายละคร จะจบฉากแล้ว เอ้าบอกให้แยกกันที...แล้วย้ำ เรากำลังถ่ายละครฉากสำคัญ ถอยออกไป...แต่ไม่มีใครฟัง
พสุลงจากรถรับจ้าง เดินเข้ามาได้ยินเสียงการลงมือและการด่าแย่งแฟนกัน ภาพตรงหน้าทำให้เขาถลันเข้าไปจับมือหมิงก่อนจะตบอลินอีก พร้อมสั่งให้หยุด
" หยุดนะ...คุณลินไม่รู้เรื่องแฟนคุณ อยากรู้ว่าแฟนคุณมาที่นี่ได้ไง มาถามผม...ผมจะบอกความจริงทั้งหมด" ทั้งสองคนหยุดมือ ไทยมุงหันมามองพสุ หมิงถามพสุว่าความจริงอะไร พอพสุจะบอก ลมเห็นท่าไม่ดีจึงร้องสั่งหมิงว่า พอได้แล้ว กลับไปเดี๋ยวนี้...ลมฉุดแขนหมิง แต่หมิงไม่ยอมไป
"เดี๋ยว หมิงยังไม่รู้ว่าความจริงมันยังไง ลมปล่อยหมิง นะ" แต่ลมบอกไม่ต้องรู้ ไปเลย...ลมหยิบกล่องของขวัญแล้วลากหมิงหนีอย่างรวดเร็ว
เพรียว จึงรีบประกาศว่าการถ่ายทำฉากนี้จบลงแล้ว ขอบคุณ พี่น้องทุกท่านที่มาเข้าฉากด้วย ขอบคุณอีกครั้ง แล้วแยกย้ายกันไปทำมาหากินต่อได้แล้ว...ไทยมุงทั้งหลายเริ่มทยอยกันไปซื้อหา ข้าวของต่อ...พสุประคองอลินที่เนื้อตัวมอมแมมฟกช้ำ ดำเขียวไปทั้งตัว
สิ่ง ที่อลินได้พบครั้งนี้คือได้พบแววตาอ่อนละมุน อบอุ่นและห่วงใยที่พสุมีต่อเธออย่างไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน...แม้หลังเขาหา ยามาทาให้ ทั้งขอโทษแทนแม่ของเขาที่ทำให้อลินเป็นเหยื่อ แบบนี้ อลินรู้ว่าแม่ของพสุไม่รู้เรื่องแน่ ท่านจึงไม่ผิด แล้วอย่าไปเล่าให้ท่านฟัง ท่านจะเสียใจ พสุชมว่าแม้ตัวจะเจ็บแต่อลินยังคิดถึงคนอื่น
"แม่ครูกุ๊กเป็นคนอื่นซะที่ ไหน" การเปิดใจครั้งนี้ทำให้ พสุอดยิ้มอย่างภูมิใจไม่ได้ อลินถามต่อ "ครูกุ๊กรู้ไหม น้องชายครูกุ๊กทำแบบนี้ทำไม" พสุได้แต่สั่นหัว แต่รับจะไปสอบถามให้
ขณะที่ทั้งสองกำลังช่วยพยาบาลกันใกล้ที่จอดรถตู้ กำลังจ้องตากันด้วยความอบอุ่น เสียงอนุชาเรียกชื่อคุณอลินดังมา พสุชะงัก อลินร้องทักคุณเล็กอย่างดีใจ อนุชารีบถามเจ็บมากไหม ไปหาหมอดีกว่า อลินบอกนิดหน่อยเท่านั้น อนุชาขอโทษที่มาช้า ไม่ทันได้ช่วยคุณลิน
"ไม่ เป็นไรค่ะ พอดีครูกุ๊กอยู่ด้วย เลยไม่โดนชุดใหญ่ โชคดีมากเลยที่ครูกุ๊กมาทันเวลา ไม่งั้นลินคงแย่กว่านี้" อนุชาฟังแล้วมองพสุที่ยิ้มนิดๆ จึงขอบคุณพสุที่ช่วยอลิน แล้วบอกว่า จากนี้เขาจะดูแลอลินเอง จะทำแผลให้คุณอลินเอง ไม่ต้องลำบากครูกุ๊ก...ว่าแล้วหันไปสำรวจซักถามอลินว่า เจ็บตรงไหนบ้าง
อลิ นมองคนโน้นทีคนนี้ที แล้วในที่สุดชี้บอกอนุชาว่าเจ็บตรงนี้ตรงนั้น...อนุชารีบทารีบถูให้ พสุทนไม่ไหวเดินหนีไปดื้อๆ อลินมองตามพสุ เริ่มรู้สึกว่าผิดไปเสียแล้ว...
อีก ด้านหนึ่ง ปฏิคมหรือทนายเปี๊ยกเดินเร่อร่ามา พอเห็นภาพอนุชาถูทายาให้อลินถึงกับชะงัก...มองไปอีกทางเห็นพสุเดินก้มหน้า งุดๆหนีไป เปี๊ยกอุทานเบาๆ "โธ่...ไอ้ดินเอ๊ย... เจ็บอีกละซี"
ooooooo
ทาง ด้านนายลมลากหมิงกลับไปบ้านของเธอ แล้วยังด่าว่าหมิงที่ไปวุ่นวายการทำงานของอลินที่ตลาดนัด ไม่อายใครเขาเลย หมิงด่ากลับลมว่า เมื่อก่อนด่าอลินหาว่าเป็นวัตถุโบราณ
"แล้วตอนนี้เกิดบ้าอะไร ถึงได้ตามจีบมัน"
" ไม่ได้บ้า ผมตั้งใจ เมื่อคุณให้สิ่งที่ผมต้องการไม่ได้ ผมก็ต้องหาคนที่เขาให้ผมได้ แล้วทีหลังอย่ามาทำเป็นเจ้าของ ผมไม่ชอบ" ลมโยนกระเป๋าหมิงทิ้งเพราะเกะกะลูกตา หมิง มองตาม ความแค้นกลับไปใส่อลิน "นังลิน แกกับฉันได้เห็นดีกัน...คอยดูเถอะ" หมิงสะบัดตัว ต้องร้องโอยเพราะชอกช้ำจากการพันตูกับอลินมาหยกๆ
ทนายเปี๊ยกไปแสดงความ ห่วงใยพสุกับโสภิตาที่ร้านของเธอ โสภิตาบอกว่า เธอพบนายดินแล้ว เขาบอกว่าเขาทำใจได้ แต่เปี๊ยกกลับเห็นว่านายดินคงทำใจไม่ได้ ใครบ้างจะทนเห็นคนที่เรารักกุ๊กกิ๊กกับผู้ชายอื่น ยิ่งนายอนุชาจริงจังกับอลินมากเท่าใด ดินหรือจะทำใจได้...แล้วเปี๊ยกรู้ตัว ขอโทษโสภิตาที่อาจสะเทือนใจเมื่อพาดพิงถึงอนุชา โสภิตาบอกเธอทำใจได้แล้ว... เปี๊ยกได้แต่ถอนใจงึมงำว่า ถ้าอนุชาจริงจังกับอลินมากกว่านี้ นายดินเพื่อนเขาจะตายอย่างเขียดหรือหาไม่?
"ขอถามหน่อย...คุณลินคิดยังไงกับดิน...จริงๆแล้วคุณลินเขาชอบใคร" โสภิตาเจาะข่าวลึกขึ้น
"อันนี้ผมไม่ทราบ คงมีแต่คุณลินคนเดียวเท่านั้นที่รู้" ทั้งสองต่างไม่รู้ อลินคิดยังไงกับนายดิน?
แม้ นายดินเองก็เฝ้าแต่คิดทั้งวัน ปรุงอาหารไปคิดไป ถึงภาพที่อลินให้อนุชาช่วยประคบประหงมดูแลริ้วรอยบาดเจ็บให้...คิดตั้งแต่ เช้าจนเย็นย่ำ เด็กเอาโน้ตสั้นๆของลูกค้ามาให้ เขารีบดู
"สวัสดีค่ะคุณ เชฟ ดิฉันลูกค้าประจำของร้าน วันนี้เพิ่งโดนตบมา กินอะไรอร่อยไม่ได้ คุณเชฟกรุณาทำอาหารที่กินง่าย เคี้ยวคล่องสำหรับผู้บาดเจ็บให้หน่อยนะคะ...จาก...ลูกค้าสุดสวย"
นายดิน เอาโน้ตมาแปะตรงหน้าอ่านซ้ำอ่านซากอีก ยิ้มฟันแห้งแล้วยังอ่านต่อ โดยเฉพาะอลินเขียนรูปหัวใจมาให้ดูด้วย มันทำให้หัวใจเป็นๆของนายดินดิ้นด๊าวด่าวอีกจนได้...
นายดินหารู้ไม่ว่า เรื่องที่เกิดตบตีกันในตลาดนัด เพรียวเล่าละเอียดยิบให้คุณหญิงอมราฟัง แล้วลงท้ายด้วยการใส่ไฟพสุว่า มีแต๊ะอั๋งคุณอลินด้วย คุณหญิงอมรานิ่งงัน แต่หัวใจที่แค้น จนคลั่งเต้นเหย็งๆในอก...เรียกอนุชาลูกชายผู้เป็นเสมือนตัวเงินตัวทองมา สัมมนา...ย้อนถามไหนว่าครูกุ๊กไม่คิดอะไรกับอลิน... แล้วยืนยันว่าจะจัดการเอง เมื่อลูกจัดการไม่ได้ อนุชาจึงเตือนแม่ว่า จะไปลงมือให้เขาถ่ายวีดิโอไว้มัดตัวเองหรือ ถ้าคุณแม่จะจัดการแบบนั้น เขาขอจัดการเอง...คุณหญิงคำรามคาดโทษ
"ก็ได้...แม่ให้โอกาสเราอีกครั้ง ถ้ากำจัดครูกุ๊กจากชีวิตอลินไม่ได้ แม่ไม่เอามันไว้แน่"
ooooooo
เมื่อ อลินมาถึงร้านอิตาเลียนในตอนค่ำ เธอจึงได้ลิ้มรสอาหารตามที่เธอสั่ง โดยมีครูกุ๊กทำหน้าที่เสิร์ฟแล้วดูแลอย่างใกล้ชิด...เมื่อพูดถึงเรื่องการตบ ตี พสุบ่นว่า ไม่รู้ตอนนี้ข่าวออกมายังไง อลินยักไหล่ การตบกันในกองถ่ายเกิดบ่อยไป ใครถามก็บอกว่าเราซ้อมบทกันเท่านั้น ไม่ได้ตบกันแต่อย่างใด
พสุเร่งให้กิน อลินชมว่าอร่อยมากและอร่อยสุดยอด พสุบอกเขาทำเผื่อให้เอากลับไปกินที่บ้าน ใส่ใบบัวบกแก้ ฟกช้ำ...แล้วขอตัวไปทำงานต่อ อลินเรียกไว้ ขอบคุณที่ช่วยเธอตอนตบตีกัน ขอบคุณที่หายามาทำแผลให้ เขาบอกนิดหน่อย จะเอาอะไรให้บอก ยิ้มให้เธอแล้วเดินเข้าครัวไป...
อลินมองตาม เอ่ยขึ้นลอยๆ "ทำไมครูกุ๊กยิ้มแปลกๆ" แล้วเลิกคิดกินซุปต่อ เสียงมือถือดัง พอกดรับรีบยิ้มและตอบทันที "สวัสดีค่ะ...คุณเล็ก"
"วันพรุ่งนี้คุณลิ นว่างไหมครับ" เสียงนั้นทำให้อลินลืมโลก ยินยอมตกลงให้เขานัด เพื่อจะได้พบกันทานอาหารกันตามความพอใจของอนุชาหรือคุณเล็กของเธอทุกประการ

พสุเอาอาหารที่จะให้เธอเอากลับไปทานที่บ้านออกมาวางให้ อลินกลับพูดถึงนายลมน้องชายเขาบอกเธอว่า...ครูกุ๊กบอกว่าเขากับเธอมีอะไร หลายอย่างเหมือนกัน แล้วคิดว่าเราน่าจะได้รู้จักกัน แต่เธอคิดว่าเขาโกหก เพราะรู้ว่าครูกุ๊กไม่มีทางยุ่งเรื่องคนอื่น เที่ยวจับคู่ให้คนโน้นคนนี้ แล้วชมตัวเองว่าคนอย่างอลินไม่มีวันที่ใคร

จะมาหลอก...พสุติงว่า ก็ไม่แน่...แล้วถามต่อไป เขาว่ายังไงอีก?

" เขาเอาของขวัญมาให้ ฉันว่าเขาต้องคิดจีบฉันแน่ๆ" พสุถาม ถ้าเขาจีบจะทำยังไง? "ไม่ทำยังไง ไม่สนอยู่แล้ว เพราะหัวใจฉันมีแต่คุณอนุชาคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีทางเทียบได้" พสุฟังแล้ว หัวใจหักไปหลายโป๊ก...อลินยังกระหน่ำซ้ำอีก "พรุ่งนี้คุณเล็กเขาชวนฉันไปทานข้าวด้วยนะ เขาติดฉันหนึ่งมื้อเมื่อคราวที่แล้ว บวกกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เขาจะพาไปเลี้ยงปลอบใจ" พสุพึมพำว่ายินดีด้วย "คุณเล็กน่ารักที่สุด เขาห่วงฉันมาก ตอนทำแผล มือเขาเบ๊าเบา ค่อยๆทำ ถ้าไม่บอกนึกว่าเป็นมือผู้หญิง แล้วตอนเขา..."

"ขอโทษนะ ผมไม่อยากฟัง...เอ้อ คือผมไม่มีเวลา ต้องขอโทษ ต้องไปทำงาน"

อลิ นมองตาม ยังคิดว่าเกิดอะไรขึ้นมาละเนี่ย...เธอหารู้ไม่ว่า พสุเข้าไปสูดลมหายใจเข้าปอดอยู่คนเดียวในห้องครัว ว่าจะทำยังไงกับโลกสั่วๆใบนี้ดี?

ooooooo

วันนี้ปูเป้ต้องลง สนามแข่งฟุตบอล ขณะที่กีฬาอื่นๆที่แข่งกันมาก่อนใกล้จะจบลง ปูเป้เห็นพ่อแม่ ผู้ปกครองคนอื่นมากันพร้อม เพื่อเชียร์ลูกหลานตัวเอง ปูเป้เห็นแล้วสีหน้าจ๋อยลงไปถนัด ในที่สุดปูเป้คิดถึงคุณพ่ออนุชา จึงรีบโทร.ไปหา

อนุชาแต่งตัวเท่กำลังจะออกไปทานข้าวตามที่นัดกับอลิ นไว้แล้ว เมื่อมือถือดังขึ้น จึงเห็นเบอร์แปลกๆ พอกดรับจึงดีใจได้ยินเสียงลูกสาว จึงรีบถาม มีอะไรหรือครับลูก... ปูเป้จึงบอก

"ที่โรงเรียนมีแข่งกีฬา ปูเป้เตะบอลกับเพื่อนๆตอนเย็น คุณพ่อมาดูปูเป้เตะบอลได้ไหมคะ"

อนุชา ชะงัก...คิดไปถามไป รู้ว่าจะแข่งเตะกันเย็นนี้สี่โมง เขาดูนาฬิกาสามโมงกว่า ถามลูกอีกทีว่า ไม่มีใครไปดูลูกเลยหรือครับ...คำตอบคือเสียงสะอื้นอย่างน้อยใจของลูก แล้วรำพันว่า ไม่มีใครมาเลย...อ้อนวอนพ่อให้มาให้ได้นะคะ... เสียงอ้อนย้ำอย่างน่าสงสาร

"โอเคครับ...เดี๋ยวคุณพ่อรีบไปนะครับ ปูเป้รอพ่อแป๊บนึงนะครับ"

จาก นั้นอนุชาจึงจำต้องโทร.ไปหาอลินที่กำลังบรรจงแต่งองค์ทรงเครื่องหน้ากระจก อย่างมั่นใจว่าอนุชาได้เห็นแล้ว ต้องชอบจนจี๊ดถึงสมองเชียวละ แต่เมื่อรับสายจากเขา หน้าจึงจ๋อยลงพลัน

"วันนี้คุณเล็กไม่ว่างเหรอคะ"

" ครับ...พอดีผมมีธุระด่วน ผมต้องขอโทษคุณลินด้วยนะครับ เอาไว้ผมโทร.ไปนัดคุณลินอีกครั้งนะครับ...ขอโทษจริงๆครับ" อลินจะพูดอะไรได้ นอกจากบอกว่าไม่เป็นไร แล้วค่อยคุยกัน ตัดสายไปแล้ว มองตัวเองในกระจก คำรามครืดคราดในคอ "แล้วจะสวยมันไปถึงไหนกันล่ะเนี่ย?"

ส่วน โสภิตานั้นเล่า ตัวเองติดธุระ จึงโทร.ไปขอร้องพสุให้ไปดูปูเป้แข่งกีฬาให้ด้วย แล้วค่ำๆเจอกัน พสุรับปากมั่นเหมาะเพราะรักปูเป้เหมือนลูกของเขา...

ooooooo

ปู เป้ในชุดนักเตะเดินลงสนามไปซ้อมอย่างลังเล พยายามมองมาริมสนามเพื่อจะดูว่าพ่ออนุชามาหรือยัง มองไม่เห็นได้แต่ซึมลงสนามหลังเพื่อน เสียงอนุชาดังมา

"ปูเป้...สู้ๆ สู้นะลูก" ปูเป้หันมาเห็นอนุชาโบกมือ แล้วชูนิ้วโป้งให้ ปูเป้ยิ้มหัวใจพองขึ้นมาทันที โบกมือให้พ่อ ยิ้มร่าเริงสุดๆ พวกสาวแก่แม่ม่ายหันมามองอนุชา หลายรายชมว่า หล่ออะไรปานนี้...อนุชายิ้มให้เล็กๆ แล้วมองจดจ่อลูกสาวที่กำลังเริ่มเล่นอย่างสนุกสนาน

พสุมาถึงข้างสนาม ...ห่างจากที่อนุชายืนเชียร์ลูกสาวถัดไปแค่ 7-8 คนเท่านั้น...พสุโบกมือให้ปูเป้ เมื่อมาทางขอบสนาม ปูเป้หันมาเห็น โบกมือให้ลุงดินของเธอ...อนุชาแปลกใจว่าลูกโบกมือให้ใคร...เห็นคุณแม่ร่าง ยักษ์โบกมือให้นักกีฬา อนุชาไม่เห็นพสุ จึงคิดว่าโบกมือให้แม่เพื่อนที่บังพสุจนมิด... แล้วทั้งสนามได้เฮ เมื่อปูเป้เลี้ยงลูกหลบไปยิงเข้าประตู อนุชายกนิ้วร้องเชียร์เต็มที่ ร้องเรียกปูเป้พร้อมกับพสุ ทั้งสองพุ่งตัวออกไป...แล้วทั้งสองคนก็มองกันแปลกใจ

"คุณพ่อ" ปูเป้ร้องเรียกอนุชาอย่างดีใจ พ่อลูกกอดกัน ลูกถามว่าปูเป้เก่งอ๊ะเปล่า? พ่อตอบว่าเก่ง ปูเป้หันไปทางพสุ ร้องถาม "ลุงดิน ปูเป้เก่งอ๊ะเปล่าคะ" ลุงดินร้องตอบทันทีว่า "เก่งครับ"

อนุชามองพสุ พึมพำ "นี่รึ...ลุงดิน"

อนุ ชากับพสุจึงเลี่ยงมาคุยกัน เมื่อลูกสาวเล่นบอลต่อไป อนุชาซักถามเรื่องลูกเมียของเขา พสุบอกรู้มาตั้งแต่โสภิตาท้อง เพราะเป็นเพื่อนกับเธอมาตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย

"ถ้าอย่างนั้น คุณก็รู้เรื่องระหว่างผมกับตาแล้ว"

" ผมไม่ได้บอกคุณลิน และไม่มีความคิดว่าจะบอก... คุณลินไม่รู้เรื่องระหว่างคุณกับตา แต่ถ้าวันหนึ่งเธอรู้ คุณมั่นใจได้ว่ามันไม่ได้มาจากผม" อนุชาฟังแล้วพูดไม่ออก....

ooooooo

วัน นี้หมิงไปง้อลมถึงบ้าน ง้อขอเริ่มต้นคืนดีกันใหม่ แต่ลมกลับไม่สนใจ ทั้งขับไล่ให้กลับไป หมิง พยายามแต่ไร้ผล จึงได้แต่ให้ลมจำที่ไล่เธอวันนี้ไว้ ให้ดี สักวันเขาจะต้องเสียใจ...

หมิ งเดินออกจากบ้านบริบรรณ ผ่านไปทางหน้าบ้านนงพะงา เห็นอ้อนกับติ๋มสองสาวใช้กำลังดูรูปที่อ้อนถ่ายนงพะงากับอลินกับพสุหลายรูป หมิงจึงแอบฟัง พอนงพะงาเรียกอ้อนให้มาช่วยงานในครัว สาวใช้ทั้งสองจึงวางรูปไว้ เดี๋ยวเสร็จงานจะมาดูต่อ

หมิงรีบไปคว้าอัลบั้มมาดู อลินถ่ายกับนงพะงา มีอ้อนด้วย และที่หมิงสนใจ มีรูปพสุกับอลินถ่ายกันอย่างคลอเคลียแนบสนิทชิดใกล้หลายรูป

"นังอลิน...เตรียมเป็นข่าวหน้าหนึ่งได้เลย" แล้วหมิงก็ทำตัวละลายหายไปจากที่นั่น พร้อมกับอัลบั้ม

ส่วน อลิน หลังจากอนุชาขอเลื่อนนัด จึงต้องลุกต้องนั่งไปตามเรื่อง หาหนังสือมาอ่าน แล้วก็พบเรื่องราวในหนังสือดารา ทั้งซุบซิบ หมั้น แต่งงานเยอะแยะไป ยิ่งทำให้อลินเบื่อ ไม่ได้อิจฉาใคร แต่เซ็ง บางทีคิดว่าถ้าได้แต่งเมื่อไหร่ จะยึด หน้าสีสิบหน้ารายวันยักษ์ใหญ่ไปเลย...แล้วชะงัก เพราะมันจะเกิดขึ้นได้ยังไง นัดทีไรก็เลื่อน แล้วก็ยกเลิก แบบนี้ได้ไง?

"ไม่ได้แล้ว อยู่บ้านจิตตกฟุ้งซ่าน ออกไปหาความสุขใส่ตัวตามประสาคนโสดโค้งสุดท้ายดีกว่า"

อลินลุกพรวด แล้วสะดุดกึก ถามตัวเองว่า แล้วจะไปไหนดีละหวา?

ใน ที่สุด อลินแต่งตัวไปสปา บอกเจ้าหน้าที่ต้อนรับว่า มีอะไรดีใส่มาในรายการเลย ไม่ว่าวิตามิน คอลลาเจน สาหร่าย โคลนตม ยกเว้นปลักควาย...เอามาเลย วันนี้เธอมีเวลาเหลือเฟือ

หลังเปลี่ยนชุด มองกระจกสำรวจหน้าตัวเอง แล้วประกาศอิสรภาพ

"ทิ้งเรื่องผู้ชาย เรื่องแต่งงาน ทิ้งให้หมด ตอนนี้มีแต่ตัวเธอ หาความสุขใส่ตัวได้แล้วอลิน"

ooooooo

อนุชา อ้าแขนรับปูเป้หลังการแข่งบอลเรียบร้อยแล้ว ลูกสาวบอกพ่อว่า เธอได้เหรียญทอง อนุชาอุ้มลูกหอมอย่างสุดรัก ถามว่าจะเอารางวัลอะไรดี ปูเป้บอกอยากได้เห็นหน้าพ่อทุกวันก็พอแล้ว อนุชารีบบอกว่า จะพยายามมาหาลูกทุกวัน แล้วชวนกลับ เอาเหรียญไปอวดคุณแม่

ขณะอนุชาจูง มือปูเป้ไปขึ้นรถ เขามองหาพสุ แต่ไม่เห็น โดยไม่รู้ว่าพสุแอบมองพ่อลูกด้วยความรู้สึกที่เตลิดไปไกล นึกถึงอลิน...ที่บอกเขาว่า เธอมีความสุขที่คุณเล็กของเธอนัดไปทานข้าว แล้วคุณเล็กของเธอกลับมาหาลูก นึกแล้วอดสงสารไม่ได้ แต่อีกใจหนึ่งไม่อยากยุ่งไม่อยากล้ำเส้น แต่ก็หนีหัวใจตัวเองไม่พ้น หยิบมือถือมากด...อลินไม่ยอมรับสาย พสุยิ่งร้าวราน ห่วงใยใบ้บ้าอยู่คนเดียว...

พสุไม่รู้ว่า ยามนี้อลินประกาศไม่สนเรื่องผู้ชายพายเรือ จะแสวงหาความสุขใส่ตัวท่าเดียว ตอนนี้กำลังอยู่ในสปา ถูกช่างช่วยสารพัดจะเสริมทั้งกายใจ หน้าอลินจึงถูกพอกถูกแต้ม พอๆกับหลายส่วนในร่างกาย

อลินแว่วเสียงคุย มาจากห้องข้างๆว่า ที่น้องอ้นได้แต่งงานไปแล้ว เธอไม่ได้เล่นของ แต่พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปขอพรจาก "พระตรีมูรติ" ที่พวกดาราชอบไปขอแฟนรวยๆกัน

"ท่านศักดิ์สิทธิ์มากเลยค่ะ แค่ 3 เดือนเห็นผล เดินโย่งๆ ตัวเป็นๆมาเลยค่ะ ตรงตามที่ขอพรไว้เป๊ะเลย" อลินพลอยหูผึ่งตึงตังไปตามเสียงคนอื่นๆซักน้องอ้นระงม สาวอ้นเพิ่งข้าวใหม่ ปลามัน ใส่ต่อเป็นชุดออโตเมติก "จริงที่สุดค่ะ เพื่อนอ้นบางคน คบกับแฟนมาหลายปี ไม่ยอมขอแต่งซักกะที พอไปขอพรปุ๊บ ไม่กี่วันขันหมากโห่ฮิ้วมาทันที" อลินยื่นหูใกล้ข้างฝาเข้าไปอีก "เพื่อนอีกคนเล็งผู้ชายอยู่คน ทำท่าไหนก็ไม่คืบหน้า นัดกันกี่ทีก็มีอุปสรรคให้แคล้วคลาดกันไปทุกตา...โฮ้ย...พอไปขอพรจากท่าน ปุ๊บ แค่สามวันต่อมา ผู้ชายผวามาทรุดแต้ ขอแต่งงานเหมือนสายฟ้าแลบ"

ประสา ทอลินกำลังตึงเปรี๊ยะ ใจแทบหยุดเต้น เมื่อเจ้าหน้าที่คนหนึ่งมาเรียก...อลินตกใจ หันมาอย่างแรง หล่นโครมจากเตียง...เสียงดัง ทั้งในห้องและข้างห้องต่างตกใจไปด้วย เพราะกำลังนึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระตรีมูรติ

ooooooo

โสภิ ตารอลูกสาวที่วานพสุไปดูแล ทั้งให้รับกลับบ้าน รอจนค่ำจึงเห็นรถมาจอดหน้าร้าน แต่พอลงมากลับเห็นอนุชาไปรับปูเป้ โสภิตาไม่พอใจ กลัวเขาจะมาแย่งลูกไปอีก ปูเป้อวดเหรียญทองที่ชนะแข่งบอล จึงไม่ทำให้แม่ยินดี กลับตำหนิว่า แม่ให้ลูกเล่นกีฬาเบาๆ ลูกไม่ค่อยสบาย เกิดหายใจไม่ทันจะทำยังไง ทีหลัง
ห้ามเล่น อนุชาแย้งว่า เธอไม่น่าห้ามลูก

"ฉันคุยกับลูกฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ" ปูเป้ขอร้องแม่อย่าดุพ่อเลย ปูเป้ผิดเอง ทีหลังไม่ทำอีก แม่สั่งให้ลูกรีบเข้าไปอาบน้ำ แม่จะคุยกับพ่อแป๊บเดียว...ปูเป้ถอดเหรียญทองจากคอให้พ่ออนุชา ขอบคุณที่มาเชียร์ แล้วบ๊ายบายก่อนเข้าบ้านไป...
จากนั้นโสภิตากับอนุชา หรือคุณเล็กเกิดซักถามกัน จึงรู้ว่าตอนที่อนุชาไปหาลูกนั้น พสุยังไม่มา...อนุชาถามทันทีว่า ทำไมโสภิตาไม่บอกเขาว่ารู้จักกับครูสอนทำอาหารของคุณอลิน แล้วรู้จักกันมานานหรือยัง สนิทกันแค่ไหน?
"ตาจะรู้จักดินนานแค่ไหน สนิทมากหรือไม่ มันไม่ เกี่ยวกับคุณ คุณรู้ไว้แค่ว่าดินเป็นคนดี จริงใจ และดูแลตามาตลอด ก่อนที่ตาจะรู้จักคุณด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่ตาต้องการใครสักคน ดินคือคนที่อยู่ข้างๆตามาตลอด เขาไม่เคยทอดทิ้งหรือทำให้ตาต้องโดดเดี่ยว"
"ถ้าดีขนาดนั้น ทำไมถึงไม่เลือกแต่งงานกับเขา มาแต่งกับผมทำไม" ถามแบบนี้ โสภิตาถึงสะอึก
" เพราะตาเลือกผิดไง" ทั้งๆที่ใจอยากบอกว่า เพราะฉันรักคุณไง? "ถ้าวันนี้ตาเลือกใหม่ได้ ตาคงเลือกสิ่งที่ถูกต้อง จะได้ไม่ผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา"


"ถ้าคุณรู้ตัวผมก็ดีใจด้วย และขอให้โชคดี"
" ตอนนี้เราสองคนได้เจอคนที่เหมาะสมกันแล้ว ตากับดิน คุณเล็กกับคุณอลิน...ตาขออวยพรให้คุณโชคดีเช่นกัน" โสภิตาหันหลังกลับเข้าร้าน...อนุชาระบายลมหึงออกไป แล้วนิ่งทำใจอดทนเข้าไว้
โส ภิตากลับเข้าร้าน ปูเป้รออยู่แล้ว บอกแม่อย่างผู้ใหญ่ จนแม่แปลกใจว่า แม่ไม่ต้องห่วง ปูเป้เข้าใจ รู้ว่าพ่อแม่เข้ากันไม่ได้ ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แล้วเลิกกัน แม่ถามว่าไปเอาคำพูดนี้ มาจากไหน ลูกสาวบอกฉอดๆว่า ที่โรงเรียนมีพ่อแม่เพื่อนหลายคนเขาเลิกกัน จะมีปูเป้อีกคนก็ไม่เป็นไร...โสภิตาน้ำตาพรู กอดลูกไว้ด้วยความเวทนาสัตว์ผู้ยากตัวน้อยๆที่ไร้ความผิด... ปูเป้กลับปลอบแม่อย่าร้องไห้ เดี๋ยวน้ำท่วมโลก ไม่มีบ้านอยู่ ปูเป้จำที่แม่เคยเล่าให้ฟัง...
"แล้วคุณแม่ยังรักคุณพ่ออยู่หรือเปล่าคะ" โสภิตาหรือจะตอบลูกได้ จึงใช้อ้อมกอดแทนคำตอบ ปูเป้กลับถามอีก "แล้วพี่ลิน...รักคุณพ่อหรือเปล่าคะ" คำถามนี้หนักอึ้งกว่า จึงไม่มีคำตอบจากปากแม่


ooooooo


พสุหิ้วถุงใส่อาหารมา ยืนหน้าห้องอลิน กำลังจะกดออด ประตูห้องก็เปิดออก พสุต้องผงะ อลินเองก็สะอึก เขามองเธอตั้งแต่หัวจดเท้า ใส่หมวกหลุบๆ แต่งตัวเชยๆ ใส่แว่นตาดำกรอบบานใหญ่น้องๆกระด้ง
"ทำไมคุณลินแต่งตัวแบบนี้"
"ฉัน เอ้อ..." อลินสมองหมุนติ้ว จะตอบท่าไหน เพราะเธอกำลังจะแอบไปไหว้พระตรีมูรติ "คือฉันกำลังจะไปถ่ายละครน่ะ แล้วนี่ครูกุ๊กมาทำไม...เฮ้ย!" อลินร้องตกใจ เพราะพสุไม่เชื่อเห็นกระดาษในมือ จึงดึงมาอ่าน
"ทางไปไหว้พระตรีมูรติ...นี่คุณลิน..."
"ไม่ต้องพูด...ฉันจะไป ครูกุ๊กก็ไม่ต้องมาห้าม เอามานี่" อลินตามแย่ง เขาหลบ
" ผมไม่ได้ห้าม แต่มาคุยให้รู้เรื่องก่อน" พสุเดินเข้าห้องไป อลินบ่นอู้ อะไรกันจ๊ะนายคนนี้ ยุ่งเป็นลุงถิงแก้แห พสุสั่งให้หยุดบ่น แล้วมานั่งคุยกันด่วน เดี๋ยวนี้เลย...อลินสุดแสนจะเซ็ง เดินมาหลังเหวี่ยงประตูปิดโครมเบ้อเร่อ จ้องตาหลบตากันพักใหญ่ พสุจึงแย็บใส่ก่อน
"แค่โดนผู้ชายเลิกนัดกินข้าว ถึงจิตตกต้องวิ่งไปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเลยเหรอเนี่ย"
"ครูกุ๊กรู้ได้ไงว่าคุณเล็กเบี้ยวนัดฉัน ฉันยังไม่ได้บอกสักหน่อย"
"ก็เดาเอา...ปกติเดตมาปุ๊บ ก็ต้องรีบโทร.มารายงานปั๊บ วันนี้เห็นเงียบหายไป ก็เดาว่าคงแห้ว"
"ชะ...อย่าพูดแห้วได้ไหม มันเป็นลางไม่ดี ถ้าไม่นึกว่ามีบุญคุณ จะแช่งให้ครูกุ๊กแห้ว...แห้วๆๆๆๆ"
" นี่คุณนาย อย่าเพิ่งของขึ้น โทร.มาไม่รับ นึกว่าแอบของขึ้นผีเข้ากัดลิ้นตัวเองตาย เลยรีบทำของอร่อยๆมาให้กิน แต่สงสัยจะไม่มีกะจิตกะใจจะกิน"
"ใช่...ในสภาพแบบนี้ใครจะกินลง นี่ครูกุ๊ก จะคุยก็รีบคุย ฉันจะรีบไป"
"เฮอะ นี่คิดจะไปจริงๆเหรอ"
"จริง...ท่านศักดิ์สิทธิ์มากเลยนะ ใครไปไหว้ได้หมดเลย ที่มีอุปสรรคก็จะหมด ได้แต่งงานในสามวัน ศักดิ์สิทธิ์มั่กๆเลย"
" ตั้งใจขนาดนั้น...รู้ไหมเขาเอาอะไรไปไหว้มั่ง" อลินส่ายหัวดิกๆ "เขาต้องมีของเซ่นไหว้ มีฤกษ์มียาม พวงมาลัยกุหลาบ ดาวเรืองสีแดง เอ๊ยไม่ใช่ กุหลาบสีแดงทั้งธูปเทียน...
มีหรือยัง"
"ไม่มี แล้วครูกุ๊กรู้ได้ไง" อลินพยายามจับผิด...พสุจึงบอกว่า แม่เคยให้ไปไหว้ แต่เขาไม่ไป แต่จำได้ว่ามีของอะไรบ้าง อลินรีบมาเกาะแขนเอาใจยกใหญ่ จะให้ช่วยไปหาของไปเซ่นไหว้
"ไม่ต้องเลย...ผมไม่พาคุณไปซื้อของเด็ดขาด...ไม่มีทาง"
อลิ นเหล่ แล้วก็ทำเง้างอดเอะอะมะเทิ่งพอเป็นพิธี ยอมหุบปากคอยที ในที่สุดพสุก็ยอมตามลงไปที่รถ ขับให้ อลินนั่งยิ้มพิมพ์ใจที่ใช้พสุได้เหมือนเดิม
จุดแรกที่พสุต้องลงไปช่วย ขนดอกไม้คือที่ปากคลองตลาด อลินสั่งซื้อดอกไม้ไปเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วยังต้องซื้อกลับบ้านด้วย พสุจึงต้องหอบไปใส่รถจนแน่นเบาะหลัง อลินแอบเห็นพสุไม่ขัดคอ จึงดูอ่อนโยนน่ารักขึ้นเป็นกองสองกอง...บางครั้งอลินถึงตะลึง เพราะเพิ่งเห็นมุมใหม่ของพสุที่ไม่เคยสนใจมาก่อน...ส่วนพสุ หลังจากได้ดอกไม้แล้วขับรถเดินทางต่อ แต่เห็นดอกไม้กองเป็นภูเขาแล้วอดยิ้มขำไม่ได้....


เมื่อไปถึงศาล พระตรีมูรติ มีคนทั้งไทยและต่างชาติ มากราบไหว้บูชาไม่มากนัก พสุบอกเธอว่า เขาไม่ไหว้ขออะไรเลย เขาต้องการตามธรรมชาติ อลินจึงขอตัวไป แต่อดหันมาถามไม่ได้
"ครูกุ๊ก...ถ้าฉันขอแล้วจะได้แต่งงานกับคุณเล็กเลย รึเปล่า" พสุบอกดุ่ยไปว่า ก็ลองดูแล้วกัน อลินยิ้ม เดินไปเริ่มทำตามพิธีที่เขาแนะนำมา ขณะกำลังจะจุดธูปเทียนไหว้ ป้าคนหนึ่งเดินมาบอก
"ถ้ามาขอคู่...วันนี้ไม่ได้หรอกนะ...วันนี้วันจันทร์ จะมาขอเรื่องความรักต้องมาวันพฤหัส"
อลินชะงักมองป้า ทวนวันพฤหัส...มองพสุที่ยืนยิ้มแห้งๆให้ อลินบ่นเสียใจและผิดหวังที่จะทำอะไรนัดใครมันล้วนผิดหวัง
"หรือว่า...ฉันกับคุณเล็กจะไม่ใช่คู่กันจริงๆ" อลินบ่นงึมงำ พสุติงว่าฟุ้งซ่านใหญ่แล้ว กลับไปอาบน้ำนอน ตื่นมาเดี๋ยวก็ลืม
" กะอีแค่ผู้ชายนัดกินข้าวแล้วเบี้ยว...ไม่ถึงตายหรอกน่า" อลินเหมือนไม่ได้ยิน ยืนซื่อบื้อท้อแท้ "ไม่ต้องมายืนโอดกาเหว่า ทำเศร้าดราม่า...ไปกลับบ้าน" พสุดึงตัวเดิน อลินตามเหมือนซากความเซ็ง
อลิ นนั่งซึมในรถ พสุขับไป...พาเดินห้างยามดึก อาการ อลินไม่ดีขึ้น จึงขับรถไปเปิดเพลงไป ไม่ดีขึ้นอีก จึงหมุนไปหาเพลงที่ถูกใจ แล้วอลินก็ปัดมือเขา บอกให้หยุดตรงเพลงที่เธอชอบ...เสียงเพลงทำให้อลินหน้าตื่นชื่นบานขึ้นมา ทันที
"ฉันจำได้...เพลงนี้ฉันเต้นเป็น เคยซ้อมออกรายการทีวีเมื่อหลายปีก่อน" พสุล้อคำว่าหลายปีเสียงยาว อลินเหล่ สะบัด เสียงใส่ว่า มันไม่นานหลายปีขนาดนั้น "เดี๋ยวฉันเต้นให้ดู รับรองวันเดอร์เกิร์ลอาย"
อลินขยับ พอถึงท่อนมันๆ "พูดอีกที... พูดอีกที...พูดอีกที...ได้รึเปล่า" พสุร้องบอกว่าได้เลย เอ้า...อลินขยับเนื้อตัวเข้าจังหวะ สะบัดบนที่นั่งเต็มเหนี่ยว ปากก็ร้องไปด้วย พอรถติดไฟแดง อลินยังไม่หยุด พสุเตือนว่ารถไม่ได้ติดฟิล์มทึบ คนเขาจะหาว่าเพี้ยน ทั้งกระเซ้าเข้าให้
"แหม โยกได้เป๊ะทุกสเต็ป...บ่งบอกถึงอาการบั้นเอวไฟในวัยที่ผ่านๆมา"
"ครูกุ๊กก็วัยเดียวกับฉันนั่นแหละ ทำมาแกว่งเม้าท์... ห้ามเอ่ยคำว่าคานทองเด็ดขาด"
พสุหัวเราะเอิ๊กอ๊าก อลินก็ร้องเพลงคลอตาม สนุกต่อ...
มอเตอร์ไซค์มาจอดเทียบ ไอ้หนุ่มมองอลินแล้วยิ้มร่า ยังตบมือให้ด้วย พสุส่ายหัวไปมา อะไรจะมีความสุขปานฉะนี้... ว่าแล้วออกรถไปทันที
อลินเองก็รู้สึกว่าเวลาผ่านมาถึงตอนนี้ มันช่างเป็นคืนที่น่าสนุกอย่างไม่คาดฝันโดยแท้


ooooooo

สูตรเสน่หาตอนที่ 15


เมื่อ กลับถึงที่พัก พสุขนดอกไม้ขึ้นไปให้บนห้องหลายเที่ยว อลินเข้าห้องน้ำฮัมเพลงหงิงๆ แต่เมื่อออกมามองเห็นดอกไม้ที่เพิ่งซื้อมามากมายถูกจัดใส่แจกัน กระถาง ใส่ถ้วย ใส่ถาด แต่จัดวางตบแต่งไว้อย่างสวยงาม อลินร้องเรียก
"ครูกุ๊ก..." ตามเรียกอยู่หลายคำ กลับไม่มีเสียแล้ว...
อลินเดินไปที่ตู้เย็น เห็นกระดาษติดไว้ จึงหยิบมาอ่าน
" ผมไม่อยากทิ้งดอกไม้ไว้ข้ามคืน เลยจัดใส่ไว้ให้ ถ้าการวางไม่ถูกหลักวิชาก็เชิญจัดใหม่เอาเอง...ถ้าหิว ผมทำซุปกับสลัดไว้ให้แล้ว" อลินมองไปที่โต๊ะ เห็นถ้วยซุปและจานสลัดวางไว้ "แต่ถ้าคืนนี้ไม่กิน อย่าลืมเอาเข้าตู้เย็น"
"เจ้าค่ะ" อลินยิ้ม...ถ้ายังอยู่จะต่อว่าที่เจ้ากี้เจ้าการสั่งดีนัก...แล้วอ่านต่อ "สุดท้ายนี้...ขอให้คุณได้เจอผู้ชายที่ดี ที่จริงใจ และเข้าใจคุณอย่างแท้จริง...จาก ครูกุ๊ก"
อลินยิ้มกว้าง สีหน้าสดใส ไม่รู้สึกทุกข์ระทมเหมือนตอนจะให้พสุไปไหว้วอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์
"ครูกุ๊กนี่ก็แอบกุ๊กกิ๊กกับเขาเป็นเหมือนกันนะเนี่ย" อลินติดกระดาษไว้ที่เดิม ยิ้มอย่างมีความสุข

เช้านี้พสุเดินมาที่รถ วายุหรือนายลมจอมซ่าแห่งบ้านบริบรรณก็โผล่มาขวาง เบ่งใส่ว่ามีเรื่องจะพูดกับนายดิน พสุหรือนายดินก็ตอกกลับว่า เขาก็มี เรื่องจะพูดกับลมเช่นกัน ลมจังก้าใส่ดินเหมือนเจ้านาย
"ฉันขอสั่งห้ามไม่ให้แกเข้าใกล้อลิน ยิ่งห่างเท่าไหร่ ยิ่งดี ถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็หลบไปซะ...เพราะฉันจะจีบอลิน"
" ผมก็ไม่อยากเดือดร้อน แต่ไม่ยอมให้ใครมาหาประโยชน์จากลูกศิษย์ผม ถ้าคุณลมแน่จริง หาทางตีสนิทเธอด้วยตัวเอง อย่าเอาชื่อลูกคนใช้อย่างผมไปอ้างให้เสียรังวัด...คุณลมพูดอะไรกับคุณลินที่ กองถ่าย อย่าคิดว่าผู้หญิงเขาไม่รู้ทัน คิดจีบผู้หญิงควรหามุกที่ฉลาดๆกว่านี้หน่อย"
"ไอ้ดิน...มึงตาย..." ลมถลาเข้ามาเงื้อง่าราคาแพง ดินรีบสวน
" ถ้าคุณใช้กำลัง พี่ฟ้าก็ต้องมาห้าม พี่ฟ้าต้องรู้ว่าคุณหลอกใช้แม่ผมทำอะไรลงไปบ้าง...อย่าใช้กำลัง ถ้าไม่อยากเดือดร้อน...ที่ผ่านมาผมยอมเพราะมันเรื่องคุณกับผม แต่ตอนนี้ คุณกำลังดึงคุณลินมาเกี่ยว...ผมยอมไม่ได้"
"โธ่...ทำมาพูดดี ที่แท้หมาหวงก้าง จำไว้ จะเดือดร้อนแค่ไหน แกมันแค่ไอ้หมาเห็นเครื่องบิน ผู้หญิงอย่างยายนังเอกเชิดหยิ่งนั่น ไม่มีวันสนใจไอ้ลูกคนใช้อย่างแก" นายดินถึงกับอึ้งตะลึงจ้อง นายลมกระหน่ำเสียงดัง "มันต้องคนอย่างฉัน ถึงจะคู่สร้างคู่สมเว้ย" นายลมเดินหนีเฉิบๆ ดินมองแล้วจี๊ด หงุดหงิดในท่าทียั่วยวนกวนบาทาแท้...
ooooooo
เมื่อภาพพสุกับอลินถูก นำไปตีพิมพ์ในหนังสือประเภทซุบซิบลับสุดยอดดาราชื่อ "เม้าท์กระจาย" วางหราไปตามแผงหนังสือแล้ว คนแรกที่เดือดร้อนแทนเพื่อนคือปฏิคม หรือนายเปี๊ยก พอเห็นแล้วก็รู้ว่าภาพที่แนบเนื้อแอบอิงสนิทชิดใกล้แบบนี้ นายดินเดือดร้อนแน่...
ส่วนอลินพอเดินเข้าไปในกองถ่าย คนที่เห็นแล้วหมั่นไส้คือฮยองกึน ดาราเกาหลีที่ติดใจพสุหรือครูกุ๊กเอามากๆ แค้นอลินที่กีดกันหลอกว่าพสุเป็นเกย์...ส่วนพวกนักข่าวมาเห็นอลินก็พากันฮือ รุมล้อมสัมภาษณ์ ทิ่มไมค์ใส่แทบปากพัง ป้อนคำถามร้อยแปดจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก...
ขณะเดียวกันที่บ้านนงพะงา ปฏิคมเผ่นไปหานายดินถึงบ้าน แม่นงพะงาตามอ้อนมาสอบถาม เพราะเป็นคนเอารูป พวกนั้นมาดูกับเพื่อน อ้อนร้องไห้กลัว เมื่อเปี๊ยกขู่จะฟ้องอ้อนเรียกค่าเสียหายเป็นล้าน อ้อนสารภาพว่าเอารูปมาดู แต่ไม่รู้มันไปอยู่หน้าปกหนังสือได้อย่างไร พสุซักหนัก...
"อ้อ...นึก ออกแล้ว วันที่อ้อนเอารูปมาดูกับนังติ๋ม วันนั้น คุณหมิงดารารัตน์มาหาคุณลมที่บ้านด้วยนะคะ" ทุกคนฟังเริ่มไหวตัวเยือกๆ ทนายเปี๊ยกสะอึก ร้องขึ้น "ยัยกุ๊กกู๋...หมิงปลาเค็ม"
ส่วนยายหมิงนั่ง ตะไบเล็บครืดๆอยู่ในบ้าน มีนายลมมาจังก้าซักถามเรื่องใครเอารูปไปลงหนังสือพิมพ์ โดยชี้ว่าหมิงเป็นตัวการ หมิงยิ้มยั่วว่าเดาเก่ง ฉลาดไม่น้อย ลมปาหนังสือใส่ ถามว่าทำแบบนี้ทำไม หมิงยืนเชิดใส่ไม่ยี่หระ
"ที่หมิงทำ ก็อยากให้ลมรู้ว่าหมิงไม่ใช่คนบ้องแบ๊ว จะมาเขี่ยทิ้งไม่ง่ายนัก ถ้าคิดทิ้งหมิงไปซบนังอลิน หมิงจะดันข่าวให้มันได้กับไอ้ดินลูกคนใช้ ปล่อยทั้งข่าวทั้งรูปให้ลมดิ้นเสียหน้าเสียใจจนตาย"
ลมเข้ามาคว้ามือหมิง หมิงสะบัดหนี ทิ่มตะไบแหลมเปี๊ยบมาใส่ตรงหน้าเตรียมเสือกใส่กระเดือก ลมหยุดกึก หมิงสำทับ ยิ้มเครียดใส่จนปากเบี้ยว
"อย่านะ ถึงตาย...หมิงเตือนแล้ว ถ้าทิ้งหมิงไปมี คนอื่น โดยเฉพาะนังลิน หมิงเอาตาย" ลมปากสั่น ขอให้หมิงใจเย็นๆ หมิงสำทับ "ไม่เย็นแล้วเว้ย ถ้าลมคิดจะไปจากหมิง เอาเงินที่ยืมไปมาคืนทุกบาททุกสตางค์ ไม่งั้นหมิงจะแฉให้หมด แล้วดูสินังอลินมันอยากได้ผู้ชายถังแตกไปเป็นผัวอีกรึเปล่า?"
หมิงของขึ้นเต็มที่ นายลมก้มหน้าท่าจ๋องกร๋อย ซีดถึงระดับไก่ต้มข่า...
ooooooo
หลัง จากอลินจำต้องชี้แจงกับกองทัพย่อยๆของนักข่าวแล้ว พอกลับมาบริษัทก็ต้องมาชี้แจงกับคุณหญิงอมรากับอนุชา ถึงเรื่องราวที่กำลังจะร้ายแรง ถึงขั้นสัมพันธ์แตกดังโพละ กำลังคุยกันไปมา ทีวีก็ออกข่าวอลินให้สัมภาษณ์ทีวี
"ลินไม่ถือสาหรอกค่ะ แค่ภาพหลุด แล้วภาพนั้นไม่เสียหายอะไร ลินไม่อยากเอาเรื่อง ลินกับครูกุ๊กก็เป็นเพื่อนกัน ถ่ายรูปด้วยกันไม่แปลก ไม่มีอะไรหรอกค่ะ"
คุณหญิงอมราฟังแล้วหาได้สบอารมณ์ไม่ กดปิดทีวี หันไปมองลูกชายที่นั่งบื้อเฉย
"แม่ว่าหนูลินต้องทำอะไรสักอย่าง...ฟ้องมันเลยดีไหม"
"คุณแม่ครับ" อนุชาค้านขึ้น "มันเรื่องส่วนตัว ให้คุณลินตัดสินใจดีกว่าครับ"
" ไม่ส่วนตัว มันเสียภาพพจน์บริษัทและรายการของเรา ถ้ามีข่าวกับผู้ชายที่คู่ควรก็ไปอย่าง แต่นายนี่มันแค่ลูกคนใช้" อนุชาปรามแม่เบาๆ อลินงึมงำในคอด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ขอบคุณคุณหญิงไว้
" ลินคิดว่าฐานะครูกุ๊กไม่เกี่ยวกับภาพพจน์ของลิน และการที่ได้เป็นข่าว มีคนสนใจถือว่าเป็นการเรียกเรตติ้งรายการ... บางทีครูกุ๊กอาจทำให้รายการของเราเรตติ้งดีขึ้นก็ได้นะคะ"
"ไอ้ครูกุ๊กเนี่ยนะ มันจะเป็นไปได้ยังไง?" คุณหญิงทำหน้าเหม็นเบื่อไอ้ลูกคนใช้ อลินแอบยิ้ม
สิ่ง ที่อลินคิดไว้...เธอนำไปบอกพสุที่ร้านอิตาเลียนในคืนนั้น เพื่อที่จะทำให้ครูกุ๊กกับเธอหลุดพ้นข้อครหา คือการเชิญครูกุ๊กไปออกรายการทำอาหารกับอลิน ก่อนจบรายการก็ถ่ายรูปคู่กัน ใส่ชุดเหมือนกับในรูปถ่ายที่เป็นข่าว คนดูจะได้คิดว่ามันเป็นภาพโปรโมตรายการ ไม่ใช่ภาพลับที่แอบถ่าย แค่นี้ง่ายจะตาย แก้ปัญหาได้จากร้ายกลายเป็นดี
"ไม่...ยังไงผมก็ไม่ออก ทีวี แค่แถลงข่าววันนั้นผมก็เขินแย่แล้ว ยิ่งทำอาหารออกรายการ ผมยิ่งไม่เอาด้วย" อลินตกลง เธอจะหาแขกรับเชิญมาออกเป็นเพื่อนอีกคน พสุหันขวับมาถามทันทีว่าใคร...อลินหรือจะยอมบอกง่ายๆ
ooooooo
เช้าวัน จะออกรายการ...ปฏิคมมาที่บ้านนงพะงา คุณแม่แต่งตัวพร้อมจะออกรายการอย่างพิถีพิถัน ทนายเปี๊ยกชมว่าคุณแม่สวยเช้ง จะทำให้อลินหมองไปเลย
พสุเร่เข้ามาหาแม่ หลังจากที่พยายามห้ามแม่มาแล้ว... คราวนี้ขอร้องให้แม่คิดดูให้ดีๆ ตอนนี้พวกกองถ่ายยังไม่มีตั้งกองถ่ายในบ้านนี้ ยังมีเวลาเปลี่ยนใจทัน แต่แม่นงพะงายืนกรานไม่เปลี่ยนใจ อ้างอลินโทร.มาอ้อนวอนแทบตาย ทั้งๆที่เรื่องนี้พสุมีส่วนทำให้เธอเสียหาย เปี๊ยกสมน้ำหน้าพสุ เพราะแม่เชื่ออลินจนลืมลูกชายไปแล้ว...
ขณะที่รถกองถ่ายวิ่งเข้ามาใน บริเวณบ้าน นายลมเห็น แล้วเดือดร้อน เมื่อวารินผู้พี่สาวถามว่าเกิดอะไรขึ้น พอติ๋มรายงานว่าคุณอลินมาถ่ายทำรายการที่บ้านคุณนงพะงา วารินจะไปไล่ตะเพิดออกจากบ้านไปให้หมด
"ไม่ต้อง...พี่เป็นคนอนุญาตเอง" เสียงคุณนภาหรือพี่ฟ้าดังขัดขึ้น วารินหัวหด "พี่ว่ามันไม่เสียหายอะไร อีกอย่างเขาถ่ายทำที่บ้านโน้น คุณพ่อยกให้เป็นสมบัติน้านงเขาแล้ว ไม่เกี่ยวกับเรา...ถ้าไม่มีอะไรทำ ไปดูแลแม่ใหญ่แทนน้านงให้พี่ด้วย พี่จะออกไปข้างนอก ทำอะไรซะบ้างจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน"
พี่ฟ้าเดินกลับเข้าบ้าน วารินแอบกระทืบเท้า แล้วจำต้องเดินเข้าบ้านไปด้วย...นายลมแอบวางแผนร้ายไว้ในใจอีกตาหนึ่งแล้ว...
ส่วน อลินหลังจากลงรถ วายุหรือนายลมเริ่มแผนเร่มาทักทายอลิน เธอสวัสดีตอบ เรียกลมว่า "น้องชายครูกุ๊ก" ทั้งๆที่ อยากให้เรียกลม...เขาตัดพ้อ คิดว่าอลินยังโกรธเรื่องที่ตลาดนัด ว่าหมิงเจ้าอารมณ์ เขาเตือนแต่หมิงไม่ฟัง อลินจึงโบกมือห้าม ขอตัวไปทำงาน ถ้าไม่มีอะไรอีก ลมรีบบอกว่ามี เขาอยากบอกเธอเรื่องเขากับหมิง อลินจึงหันมาสนใจ แล้วก็ยอมที่จะฟังนิทาน เมื่อนายลมพาไปนั่งมุมหนึ่ง พอลมเริ่มเรื่อง อลินกด มือถือไปหาหมิงที่กำลังจะถ่ายละคร หมิงรับอย่างเสียไม่ได้ ว่านังจิ้งจอกพันหน้าโทร.มาอ้อนเรื่องอะไร...แล้วหมิงก็ได้ยินชัดเจน เมื่อนายลมพูดกับอลินเสียงดังฟังชัด
"...ผมกับหมิงตอนนี้เราไม่ได้เป็น แฟนกันแล้วนะครับ เราสองคนเลิกกันอย่างเด็ดขาดแล้ว" หมิงฟังถึงจุกแน่นลิ้นปี่ อลินเอ่ยเสียงเหรอ นายลมว่าต่อ "เราสองคนเข้ากันไม่ได้จริงๆ ผมว่าน่าจะมีคนอื่นที่เข้ากันได้...อย่างคุณลิน" หมิงดิ้นพราด เมื่ออาการเสียดจี๊ดจ๊าดขึ้นสมอง...อลินถามต่อ
"แล้วลินต่างจากหมิงยังไงคะ คุณถึงคิดว่าเราสองคนจะเข้ากันได้"
"คุณลินฉลาด หมิงโง่ เขาคงโง่เพราะรับบทร้ายๆมามากเลยติด คุณอลินรับบทนางเอกจึงฉลาด"
"แหม...พูดแบบนี้หมิงได้ยินคงเสียใจแย่" อลินยิ้มสะใจ
" ไม่เสียใจหรอกครับ เขารู้ตัวว่าไม่ค่อยฉลาดมาแต่ปี มะโว้แล้ว" ลมเข้าประชิดอลิน "คุณลินครับ เย็นนี้ผมจะชวนคุณลินไปทานอาหารสักมื้อ จะโอเคไหมครับ"
"ลินน่ะโอเคอยู่แล้วค่ะ แต่ไม่รู้ว่าหมิงจะโอเครึเปล่า" อลินเอามือถือไปจ่อที่หน้าลม พอเขาเห็นชื่อ ตาถลน ร้องลั่น "หมิงงงงง..." เสียงหมิงร้องกรี๊ดดังลั่นออกมา...ลมถึงอุดหู
"ลม...นี่มันอะไรกันหา...อยากตายรึไง...ไอ้...หา..."
" จะสวดวัดไหนบอกด้วยนะ ฉันจะส่งพวงหรีดไปร่วมแสดงความยินดี" อลินสะบัดหน้าเดินหนีไปทางบ้านนงพะงา... นายลมร้องเรียกอลิน แต่พอจะตามไป มือถือของเขาดังลั่นขึ้น มองดูหน้าจอแล้วครางชื่อหมิงออกมาแทบหมดแรง
" หมิง...ฮัลโหลลลล...ที่รัก ฟังผมก่อนนะจ๊ะ" นายลมรีบวิ่งกลับเข้าบ้าน หาทางแก้ไขเหตุการณ์ที่เจ็บปวดนี้ให้ได้ ไม่งั้นบรรลัยแน่...อลินมองตามอย่างเวทนาระคนสมน้ำหน้า

พอเดินเข้าไปเจอพสุ เขาถามทันทีว่าคุยอะไรกับลม อลินบอกว่า เขาบอกว่าเลิกกับหมิง เขาว่าหมิงโง่ ชมว่าอลินฉลาด แล้วชวนไปกินข้าว อลินบอกเธอก็ตอบตกลง พสุฟังถึงกับอกหักดังโพละอลินคงเดาว่าไม่ดีแล้วจึงสารภาพว่าล้อเขาเล่น จะไปกินข้าวกับคนที่ดูถูกครูกุ๊กได้ไง ไม่ต้องห่วง กินไม่ลง แค่เห็นหน้าก็พาลอารมณ์เสียแล้ว...พสุค่อยหน้าดีขึ้น อลินจับไหล่เขา ปลอบว่าอย่าคิดมาก รีบไปเตรียมถ่ายรายการกันดีกว่า... พสุไม่เล่นด้วย เขาไม่ถ่ายแน่ อลินบอกว่า แววตาเขาบอกว่าจะถ่าย แต่ขอเก๊ก พสุอดขำไม่ได้ อลินจึงบอกว่าไม่ถ่ายจะหัวเราะหรือ จึงสั่งให้เขาไปเตรียมตัวได้แล้ว... อลินตบมือสั่งทีมงานมาคุมตัวพสุไปผัดหน้าทาแป้งแต่งตัวเข้ารายการทันที...
การ พยศของพสุเรื่องการแต่งตัวที่เขาไม่คุ้นทำให้เสียเวลาจนทีมงานกองถ่ายสวดยับ ไปไม่น้อย แต่อลินยืนยันว่าจะต้องแต่งให้ครูกุ๊กดูดีที่สุด...หลังจากแต่งเสร็จแล้ว พสุเดินออกมา อลินเพิ่งได้ซึ้งถึงความหล่อมีเสน่ห์ของพสุตอนนี้เอง... แล้วทีมงานสาวๆหรือจะไม่มองอย่างตะลึงลาน...
ทางบริษัทอวตาน คุณหญิงอมราฟังลูกน้องโทร.ไปรายงานถึงบริษัท หันไปเล่นงานอนุชาว่าทำไมไม่ไปดูเขาถ่ายรายการที่บ้านนงพะงา อลินโอ๋ครูกุ๊กยังกับอะไรดี ทุ่มเทให้พามาออกรายการ แล้วยังไปถ่ายทำที่บ้านมันอีก อนุชาย้อนว่า ที่อลินต้องทำอย่างนี้เพราะคุณแม่ไปโวยวายเรื่องรูป
"ผมมั่นใจว่าดินไม่ ได้ชอบคุณลิน ผมรู้ว่าเขาชอบใคร" แม่ซักทันทีว่าใคร รู้ได้ยังไง อนุชายืนยัน "ผมรู้ แต่เป็นใครคุณแม่อย่ารู้เลย ให้รู้แค่เขาเป็นผู้หญิงที่ดีมากๆ ถึงจะไม่รวยเท่า แต่ก็ดีไม่น้อยไปกว่าคุณลิน" แน่นอน...เขาหมายถึงโสภิตา แต่คุณหญิงอมราเริ่มคิดหนักว่านังคนนั้นมันใครกัน?


ooooooo


วันนี้ เป็นวันที่รายการอาหาร "อลิน อร่อย อราวด์" ออกรายการทีวี ซึ่งได้รับการต้อนรับจากผู้ชมอย่างอบอุ่นเช่นเคย มีการทำอาหารหลายอย่าง คุณนงพะงาทำน้ำยาขนมจีนอย่างชำนาญ อลินทำสปาเกตตี ครูกุ๊กคอยช่วยเหลือ และทำหน้าที่อธิบายอย่างน่าฟัง
ทนายเปี๊ยกคอยจับสังเกตสายตาของอลินที่ มองครูกุ๊ก จับอาการได้ว่าเธอมองด้วยสายตาแปลกๆ ทั้งคู่ทำอาหารอย่างเข้าขา ทุกท่วงท่าดูน่ารักไปหมด...
ตอนท้ายรายการ จนถึงอลินกล่าวปิดรายการ นงพะงา จึงถามขึ้น
" คุณลินคะ ก่อนคุณลินจะกลับ ป้ากับดินขอถ่ายรูปไว้ เป็นที่ระลึกสักหน่อยได้ไหมคะ" อลินตอบตกลงด้วยความยินดี "งั้นป้ากับดินขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ จะได้สวยๆ" แม่ลูกพากันเดินไป อลินในจอทีวีพูดต่อ
"นี่คือความพิเศษสุดที่ลินนำมาให้ผู้ชม หวังว่าคงถูกอกถูกใจใครๆหลายคนนะคะ พบกับความพิเศษนี้ในช่วงต่อไป แต่จะเป็นอะไรขออุบไว้ก่อน"
จาก นั้นเป็นการปิดท้ายรายการ...เป็นภาพนิ่งอลินถ่ายคู่กับนงพะงา และภาพอลินถ่ายคู่กับพสุหรือครูกุ๊กของเธอ เป็นภาพที่เหมือนกับที่หมิงเอาไปขึ้นปกหนังสือ ครูกุ๊กเปลี่ยนชุดนี้มา อลินชมอยู่คนเดียวหน้าจอทีวี
"ครูกุ๊กนี่ขึ้นกล้องเหมือนกันนะเนี่ย... ดูๆไปก็น่ารักดีแฮะ" อลินดูไปยิ้มไปอย่างมีความสุข...อลินไม่รู้ตัวหรอกว่าเธอกำลังเริ่มดำดิ่งลง ไปสู่ช่วงที่ลึกที่สุดในหัวใจตัวเองแล้ว...


ขณะเดียวกัน พสุก็ไปดูรายการทีวีที่ร้านโสภิตา โดยเฉพาะช็อตก่อนจะจบรายการ พสุบ่นว่า มันรู้สึกเขินๆ น่าอายหน่อยๆ ซึ่งโสภิตาค้านว่าน่ารักดีออก แล้วแอบแซวว่า เธอไม่คิดว่าพสุจะยอมออกรายการ แต่นี่เพราะคุณลินแท้ๆเทียว
"ใจอ่อนขนาดนี้ อยู่ใกล้เขามากๆจะทำใจเป็นเพื่อนเขาได้เหรอ"
" ต้องได้สิ ก็มันไม่มีอะไรนี่ แค่เราคิดว่าเป็นเพื่อน เดี๋ยวมันก็เป็นเพื่อนเอง" พสุแอบยิ้มนิดๆ พยายามข่มใจให้อยู่แค่เพื่อน แต่พระเจ้าองค์ไหนก็ไม่อาจทำนายได้ว่าจะเป็นเพื่อนกันได้นานแค่ไหน


ooooooo


อนุชา หน้าบานเมื่อสุวัจน์มือฝ่ายขายชั้นหนึ่งมาบอกว่ารายการอลินดีมาก โดยเฉพาะที่ออกรายการกับครูกุ๊ก ให้เพิ่มรายการอาหารเป็นรายการสั้น 5 นาที ขอดูเทปตัวอย่าง 3 เทปต้นเดือนหน้า อนุชาบอกตกลงทันที หันไปสั่งคุณสุภาฝ่ายบัญชี จะขอเบิกล่วงหน้าเตรียมสำรองทำเทปตัวอย่าง สุภารีบบอกว่า คงไม่สะดวก เพราะเงินไม่เหลือแล้ว...
ตัวการนี้คือคุณหญิงเอง เมื่อกลับถึงบ้าน อนุชาจึงพูดเรื่องนี้กับแม่ คุณหญิงรับทันที
"แม่เบิกเงินบริษัทมาใช้เอง...แค่ 8 ล้านเท่านั้น"
"8 ล้าน..." อนุชาร้องคราง "มันเงินหมุนเวียนทั้งบริษัท เลยนะครับ จะเอาที่ไหนจ่ายเงินเดือนลูกน้อง รายจ่ายรายการใหม่อีก ทำไมไม่บอกผมสักคำ"
"แม่เห็นมีเงินอยู่ ก็ขอมาหมุนก่อน ไม่ได้เอามาหมด เหลือตั้งแสนกว่าบาท"
อนุชาโวยของขึ้น แม่ให้หามาหมุนสิ อนุชาถาม จะไปหาเงินเป็นล้านๆมาจากไหนง่ายๆ
" เล็กไม่มี หุ้นส่วนของเล็กมี มีมากด้วย ถ้าเล็กมั่นใจว่าคุมอลินได้ตามที่พูดไว้ ขอเงินเพิ่มอีกสัก 7-8 ล้าน คนอย่างอลิน ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก เชื่อแม่สิ" คุณหญิงมองลูกชาย เห็นก้มหน้านิ่งแล้วยิ่งขัดใจ ทำไมลูกคนนี้ถึงโง่นัก น้ำขึ้นไม่รีบตัก...


ooooooo


แล้วอนุชา ก็ไม่มีทางเลือก จำต้องพูดเรื่องนี้กับอลินทางโทรศัพท์ โดยเริ่มด้วยความสำเร็จในรายการอาหารของอลิน ที่ได้เวลามาเพิ่มอีก พร้อมกับขอให้อลินลงเงินมาอีก 10 ล้าน อลินตกลงทันที ดีใจที่รายการดัง ยังได้เพิ่มเวลามาอีก อนุชาขอบคุณอลินไม่ขาดปาก
"ลินเข้าใจคุณเล็กอยู่ แล้วค่ะ ลินจะสั่งให้ทนายของลินทำเอกสาร แล้วก็โอนเงินไปให้เร็วที่สุดค่ะ" อลินตัดสินใจอย่างหนักแน่น มองเห็นอนาคตที่กำลังจะดังทะลุฟ้ารำไรแล้ว
ทนาย ปฏิคมหรือเปี๊ยก ฟังคำสั่งเรื่องเงิน 10 ล้านจากปากอลินแล้วไม่ยอมขึ้นมาทันที เพิ่งจ่ายไปหยกๆ 10 ล้าน ยังจะเอาอีก 10 ล้าน เหมือนจะเอาเงินไปถมที่ ไม่ได้ไปทำรายการทีวี อลินโต้ทนายว่า 10 ล้าน ไม่รู้จะพอไหม ต้องทำรายการใหม่ จ้างคนเพิ่ม ซื้อกล้อง ขยายห้องตัดต่อ
"รายการแค่ 5 นาที ทุ่ม 10 ล้าน ทำอีกกี่สิบปีถึงจะคุ้ม"
" นี่...จะมาคาดคั้นเอาอะไรกับฉัน เป็นทนายก็ทำตามคำสั่งฉัน ให้จ่าย 10 ล้าน ก็จ่ายไปสิ พูดมากไม่อยากฟัง ฉันรีบไปกองถ่าย แค่นี้นะ" อลินปิดเครื่อง ไม่สนเงิน 10 ล้าน... คว้ากระเป๋าไปทันที
ทนายเปี๊ยกนั่งทำซื่อบื้ออยู่ครู่ใหญ่ แล้วเกิดชักกระตุกเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ เอามือถือขึ้นมากดฉับๆ แล้วกรอกเสียงลงไป
" คุณประวิทย์ ผมปฏิคมนะครับ...ผมมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือหน่อยครับ...คือว่าผมอยากได้ ข้อมูลจากบริษัทตรวจสอบบัญชี ที่ดูแลการเงินของบริษัทอวตานน่ะครับ ผมขอข้อมูลเชิงลึกที่สุด รวมทั้งสถานะการเงินของนายอนุชา โสพัฒน์" ทนายเปี๊ยกเอาจริง...เหมือนตำรวจเล็งปืนยิงผู้ร้ายยังไงยังงั้น


ooooooo


อลิ นเข้ามาในกองถ่าย เจอฮยองกึนเข้าก่อน เด็กคนนี้คิดจะชิงแชมป์ โดยมีครูกุ๊กเป็นเดิมพัน เริ่มหาว่าอลินเป็นจอมกั๊ก ด้วยการกั๊กพี่ครูกุ๊กไว้กินคนเดียว อลินจึงด่าว่านังเด็กวานซืน อย่าคิดว่าคนอื่นมีสันดานเหมือนเธอ ฮยองกึนโต้แสบ อย่าพูดดีนัก ตัวเองไม่เคยมีแฟน อยากมีแต่ไม่มีใครเอา อลินแทบจะกรี๊ด แต่อั้นไว้ ยังคิดไม่ออกว่าจะจัดการนังเด็กคนนี้แบบไหน?
"ยองกึนไม่สนหรอกว่าพี่ลิ นกับพี่ครูกุ๊กจะเป็นอะไรกัน แต่ยองกึนได้เบอร์มือถือพี่เขามาแล้ว จะจ้างครูกุ๊กสอนทำกิมจิสองต่อสองที่บ้านตอนพ่อแม่ไม่อยู่ จะเลือกสอนห้องครัวหรือห้องนอนดี" อลินอยากกรี๊ด แต่อั้นไว้...ฮยองกึนยื่นหน้ามาหยัน "เสียใจด้วยนะที่กั๊กไว้ไม่สำเร็จ" ฮยองกึนพูดเสร็จเดินลอยชาย ฮัมเพลงเกาหลีสุดฮิต โนบอดี้...ไม่เหลียวหลัง...อลินจ้องตามตาหวิดลุกเป็นไฟ นังเด็กเกาหลีนี่น่าจะชื่อฝรั่งอีวอนจะเหมาะกว่า...
อลินหน้าตูมเข้าไป เจอผู้กำกับแมน จึงเร่ไปหาทำท่าจะเด๊ดสะมอเร่อยากปรึกษา คือว่า ฉากที่อลินจับได้ว่าน้องยอง กึน ลูกสาวหนีเที่ยว ต้องตีเขา แต่ตอนนี้มืออลินเจ็บ ขอใช้ อย่างอื่นตีได้ไหม ผู้กำกับเห็นใจพยักหน้าตกลง...อลินเริ่มเข้าเกียร์คอย คราวนี้นังยองกึ๋นเสร็จฉันแน่...


การถ่ายทำละครผ่านไปหลายฉาก มาถึงฉากสำคัญ อลินกำไม้น้องๆหน้าสามไว้มั่น แล้วแผดเสียงใส่อย่างโกรธแค้น
" แม่บอกแล้วไงอย่าหนีเที่ยว ทำแบบนี้ได้ไง มาให้ตีซะดีๆ" ว่าแล้วฟาดไม้ใส่ฮยองกึน ป้าบๆๆๆไม่นับ ฮยองกึนร้องลั่นโลก...ร้องบอก "คุณแม่...รุ้งเจ็บนะ โอย รุ้งเจ็บ...อย่า รุ้งผิดไปแล้ว" ฮยองกึนรู้ทันทีว่าเจอของจริง ร้องไปแค้นไป อลินฟาดเท่าไหร่ไม่สะใจ นังเด็กดิ้นพราดๆ
"ไม่ต้องมาร้อง แม่สอนไม่จำ แม่ตีเพราะรัก รักวัวให้ผูกรักลูกให้ฆ่า...เอ๊ย ให้ตี...จำไว้"
อลินตีไปหอบไป ในใจยังแอบสะใจไปด้วย แต่ไม่พอ... จนผู้กำกับสั่งคัต
อลิ นเดินปึงปังเข้าไปในห้องพักหลังเลิกกองถ่ายตอนตีสี่ กระแทกกระเป๋าลงทรุดนั่ง แต่ยังไม่หายแค้น เมื่อนึกถึง ถ้อยคำของเด็กเกาหลีเกาหลังคนนี้...หน็อย คิดจะชวนพสุไปสอนกิมจิกิมจิ้มในห้องนอน...ชะชะ...มีใครในโลกที่จะยอม... อย่างนี้มันต้องหนามยอกเอาหนามทิ่มกบาลมันซะเลย...
เมื่ออลินกลับถึงที่ พักก็โทร.ไปหาพสุ ปลุกจากที่นอนขึ้นมารับสาย พสุตกใจคิดว่าเกิดเรื่องอะไร แล้วก็ได้ฟังว่า... อลินอยากคุยกับเขาเรื่องรายการอาหารที่จะถ่ายเทปหน้า...เขาต่อว่าที่โทร.มา หารือตอนตีสี่ อลินไม่สน เร่งให้มาพบด่วน...
เช้าวันรุ่งขึ้น พสุจึงไปหาเธอถึงคอนโดฯ ไปถึงก็เร่งให้พูดมาว่ามีเรื่องคอขาดบาดตายอะไร เขามีสอนตอนบ่าย พอพูดเรื่องสอน อลินแทบหูชันขึ้นมาทันที
"สอนใคร?" อลินตะคอกใส่ คิดไปว่าถ้าสอนนังเด็กเกาหลังเกาหลีละน่าดู
"ก็สอนลูกศิษย์ผมสิ จะให้ไปสอนใคร"
"แล้วลูกศิษย์ที่จะสอนชื่ออะไร ไปสอนกันที่ไหน"
" บ๊ะ...เป็นอะไรน่ะ...สอนที่โรงเรียนสิ ลูกศิษย์มีตั้งเป็นสิบๆ แล้วเกิดอยากรู้ไปทำไม" พสุไม่รู้ว่าอลินโล่งโจ้งในหัวใจแล้ว เธอตอบอย่างไม่สน "เปล๊า...ก็ถามไปงั้นเอง ใครจะทำไมอ๊ะ?"
ยังไม่จบง่ายๆ อลินพามานั่งที่รับแขก มีอ่างดอกบัวลอย อยู่...อลินเล็งมาที่อ่างเหมือนวางแผนไว้แล้ว อลินบอกถึงเทปหน้า เพื่อให้ครูกุ๊กจัดเมนู "คนรัก" ให้สาวๆทำเมนูเพื่อคนรัก แบบทำเองง่ายๆ ให้มาสอนมะรืนนี้...จากนั้นอลินขอยืมมือถือพสุจะโทร.ไปหานายตัวเปี๊ยก มือถือของเธอเสีย พสุจึงส่งให้ พอยื่นมือรับ อลินแกล้งปล่อยหล่นลงอ่าง พร้อมกับร้องว้ายตกใจแทบตาย...แล้วตีหน้า พร้อมขอโทษครูกุ๊ก เธอไม่ตั้งใจ พสุบอกไม่เป็นไร พอจะงมขึ้นมา อลินรีบงมตัดหน้า
"โทรศัพท์ตกน้ำต้องเป่า ให้แห้ง ครูกุ๊กรอแป๊บเดียว ฉัน จัดการให้เอง" อลินรีบเอาไปเข้าห้องน้ำ มีเครื่องเป่าอยู่แล้ว พสุมองตามยังตามเกมไม่ทัน...
อลินถอดแยกชิ้นส่วน แกะซิมออกมา ยิ้มอย่างพอใจ งึมงำว่า...แกเสร็จฉัน นังอึมกึ๋น อลินหย่อนซิมลง แล้วชักโครกให้สิ้นเรื่อง...พอดีพสุเดินมาถามว่าทำอะไร อลินรีบทำหน้าจ๋อย ขอโทษอีกครั้งว่าซิมหล่นลงชักโครกเสียแล้ว พสุมองอลิน ยิ่งงงในการกระทำของเธอหนักขึ้น...
แล้วพสุก็ตื่นเต้นยิ่งขึ้น เมื่ออลินเอากล่องมือถือรุ่นใหม่ เอี่ยมมาวางตรงหน้า ยิ้มร่าส่งให้ บอกว่าใหม่เอี่ยม ชาร์จไฟให้แล้วพร้อมซิมเบอร์ใหม่ใช้ได้เลย แล้วเบอร์เนี้ยอย่าบอกใคร ต่อไปนี้จะติดต่องานให้ติดต่อนายเปี๊ยก เธอแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้จัดการส่วนตัวครูกุ๊กแล้ว
"นี่...คิดอะไรอยู่ วางแผนทำอะไรที่ผมไม่รู้อีกล่ะ"
"เปล๊า...ฉันไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย ครูกุ๊กพูดอะไรเนี่ย ไม่เข้าใจ..."
"น้องฮยองกึนโทร.มาหาผม เมื่อเช้าเรียบร้อยแล้ว"
" อ๊ะ...จริงเฮอะ" อลินหันมาตาพองตกใจ...พอพสุบอกจริง อลินด่าอย่างลืมตัว "อีเด็กเวร...ไวไฟจริงๆ นี่ฉันรีบเปลี่ยนเบอร์ครูกุ๊กหนี ยังไม่ทันมันเลยเรอะเนี่ย" พอรู้ตัวร้องอุ๊บบบบ...หันมามองพสุแล้วก็หน้าจืดลง เมื่อรู้ตัวว่าได้ เปลือยหัวใจออกมาเต้นสามช่าให้เขาเห็นแล้ว จึงได้แต่ยิ้ม แห้งแล้ง
"ไหนว่าไม่ได้วางแผนไว้ไง...แต่แล้วก็หลุดออกมาหลายยวงเชียว" พสุยิ้มยวนกวนหัวใจ
"แหะๆๆๆ แหมครูกุ๊กนี่....ฉลาดน่าดูเหมือนกันนะ"
"ถ้าผมโง่ จะสอนคุณได้เรอะ"
อลิ นหัวเราะแก้เก้อ แล้วก็ตั้งหลักซักกลับอย่าง ไม่ยอมหยุด ถามว่านังเด็กคนนั้นโทร.มาว่าไง ให้ไปสอนใช่ไหม ครูกุ๊กตอบว่าไง...ครูกุ๊กจึงย้อนถาม

"อยากรู้ก็ต้องบอกมาก่อนว่าทำไมคุณไม่อยากให้ผมไปสอนเขา"
"ฉันไม่ชอบใช้ครูร่วมกับคนอื่น"
" แค่นั้นใช่ไหม...ถ้าแค่นั้น ถือว่าไม่มีเหตุผลที่ผมจะไม่สอนเขา...ถ้าคุณบอกเหตุผลที่น่าฟังกว่านี้ ผมอาจจะไม่สอนเขาก็ได้" ครูกุ๊กยื่นหน้ามาหาคำตอบ อลินจึงโพล่งออกมา
" เออ...ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมายุ่ง หรือมาใกล้ชิดสนิทสนมครูกุ๊ก มันขัดตาขัดใจ ขัดอารมณ์ โดยเฉพาะนังเด็กฮยองกึน แก่แดดแก่ลม อย่าหวังเลยว่าจะได้เข้าใกล้ ฉันไม่ชอบ...ฉันหวงครูอ๊ะ มีอะไรอ๊ะเปล่า" อลินหน้าตาเอาเรื่อง พสุเห็นแล้ว
ยิ้มวาบเข้าไปในอกที่กำลังเต้นระทึก ท่ามกลางดอกไม้หอมหวานบานไสว...บอกอลินไปทันที
"ไม่มีอะไรเลย...แล้วผมก็ปฏิเสธน้องเขาไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว"
"อ้าว...เฮ้อ...ปฏิเสธเด็กนั่นไปแล้ว...มาหลอกให้ฉันพูดทำไมเนี่ย" อลินนิ่งเป็นหุ่นเมื่อรู้ตัวว่าเสียท่า
" ก็อยากได้ยินไง" พสุยิ้มให้อลินอย่างอบอุ่น "ผมว่า เดี๋ยวผมกลับก่อนดีกว่า" เดินมาที่ประตู หันมาบอก "ส่วนโทรศัพท์นั่นคุณเก็บไว้เถอะ แค่ได้ยินคุณพูดเมื่อกี้ผมก็พอใจแล้ว...แล้วเจอกัน"
พสุขับรถไป ใจลอยละล่องไปแสนไกล...ไปสู่ความหอมหวานอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
อลิ นทรุดลงนั่งโซฟา รู้สึกเหมือนว่าหัวใจมันรู้สึกแปลกๆ มันหวางเวิ้ดโหวงเหวง แต่ชุ่มฉ่ำเหมือนดื่มน้ำทิพย์...ยามนี้ อลินนึกถึงความเป็นมาที่ได้สัมผัสครูกุ๊ก ตั้งแต่ผิวเผินจนกระทั่งมาได้มองเขาอย่างลึกซึ้ง นับวันแต่จะผูกพันครูกุ๊กมากขึ้น...อลินยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว
หลัง จากฝันกลางวันเคลิ้มไปหลายตลบแล้ว อลินนึกสนุก จึงเอาสมุดบันทึกสีชมพูมาเปิดหน้าที่ว่าง ลองใส่คะแนนให้นายพสุ บริบรรณ...ใส่ไปใส่มารวมคะแนนแล้ว พสุได้คะแนนน้อยมาก
"เฮ้อ...น่าสงสารจริงๆ ครูกุ๊กได้คะแนนน้อยนัก จะมีผู้หญิงคนไหนยอมเป็นแฟนด้วยรึเปล่าเนี่ย"
อลินทอดถอนใจสงสารพสุ แต่ลึกๆในใจเสียดายที่พสุไม่ผ่านมาตรฐานที่เธอวางไว้
ooooooo
เมื่อ นายตัวเปี๊ยกปฏิคมรู้เบื้องหลังธุรกิจการเงินของบริษัทอวตานแล้ว จึงเอาเรื่องนี้มาบอกคุณอนันต์ ผู้มีพระคุณ ทั้งเรื่องเงินที่พวกคุณหญิงอมราหมดตัวเพราะลงทุนเล่นการเมือง หาเสียงซื้อเสียงเท่าไหร่ก็หมด เมื่อหมดก็เอาเงินลูกชายไปถลุง เมื่อลูกชายหมดก็มาหาจากอลิน
ในที่สุดคุณอนันต์จึงเห็นว่า ควรจะบอกลูกสาวให้รู้ตัวไว้ จึงให้ทนายเปี๊ยกไปบอกให้มาพบพ่อ...อลินมาพบพ่อ พอบอกเรื่องเงินลงทุนอีก 10 ล้านให้ชะลอไว้ แต่อลินบอกรับปากคุณเล็กไว้แล้ว และไม่เชื่อว่าคุณหญิงอมราจะหมดตัว คุณเล็กก็ไม่มีอะไรปิดบังกับอลินเลย อลินรู้เรื่องเขาหมดทุกเรื่อง
"ถ้าลินรู้ทุกเรื่อง...แล้วลินรู้รึเปล่า ว่านายอนุชามีเมียมีลูกแล้ว" นายอนันต์ทนไม่ได้ต้องเปิดออกมา อลินขอให้พ่อย้ำอีกที พ่อย้ำอีกชัดเจน อลินร้องค้านว่าไม่จริง พ่อจึงตอกย้ำ "เรื่องจริง ถ้าลินไม่เชื่อพ่อ ลินลองถามเขาดู ถ้าเขาจริงใจกับลิน เขาจะต้องบอกความจริงว่าเขามีครอบครัวแล้ว"
อลินฟัง แล้วนั่งนิ่งเป็นหุ่นไล่กา ในใจค้านพ่อหัวชนฝา... อลินโต้ตอบกับพ่ออย่างไม่ยอมลดละ มั่นใจว่าอนุชาหรือคุณเล็กที่แสนดีอาจมีแฟนมาบ้าง แต่มีเมียเป็นตัวตนยิ่งไม่มีทาง ต้องมีคนแกล้งใส่ร้ายเขาเป็นการแกล้งอลิน อลินไปที่บ้านเขา ไม่เคยเห็นใครสักคน แล้วอลินประกาศกับพ่ออย่างมั่นใจ
"ลินจะสืบเรื่องคุณเล็กอีกครั้ง ทั้งเคลียร์ทุกคำถามให้ได้ พ่อจะได้สบายใจว่าลินเลือกคนไม่ผิด"
อลินขับรถจากไร่พ่อกลับกรุงเทพฯ มาได้ครึ่งทาง จอดรถแล้วโทร.หาคุณเล็กทันที
"คุณเล็กคะ...พรุ่งนี้ว่างไหมคะ ลินมีเรื่องสำคัญอยากคุยกับคุณค่ะ" อลินฟัง แล้วกดปิดมั่นใจมาก
ooooooo
อนุชา ปิดเครื่องหลังจากอลินโทร.มานัดแล้ว เขากำลังจะกลับขึ้นบนห้อง คุณหญิงอมราเดินมาหา พร้อมกับถามเรื่องเงินขึ้นมาทันทีว่า อลินยอมจ่ายเงินมาให้อีกหรือยัง?
"ยังครับ อลินบอกว่าจะไปปรึกษาพ่อกับทนายก่อน เมื่อกี้โทร.มาบอกว่าพรุ่งนี้อยากคุยกับผมเป็นส่วนตัว" คุณหญิงฟังแล้วทำจมูกฟุดฟิด
" แม่บอกแล้วว่า เราใจเย็นเกินไปคิดว่าตัวเองเอาอยู่ อลินถึงบ้าผู้ชาย แต่ไม่ใช่คนโง่ และที่สำคัญเล็กอย่าลืมว่าเราเป็นวัวสันหลังหวะ เกิดมีคนปากโป้งไปบอกอลินเรื่องเรากับนังโสภิตา เล็กคิดว่าคนอย่างอลินจะรับได้เหรอ" อนุชาฟังแล้วอึ้ง คุณหญิงอมรายื่นหน้ามาถาม "เราเคยคิดหรือเปล่า ถ้าอลินถามเรื่องนังสองแม่ลูกขึ้นมา เราจะตอบเขาว่ายังไง" อนุชามองหน้าแม่ เขาเริ่มคิดและกำลังเตรียมคำตอบไว้
ส่วนทนายเปี๊ยก เมื่อพบกับพสุที่ร้านกาแฟ เล่าให้ฟังว่าเขาเล่าเรื่องอลินทุ่มเงินสิบยี่สิบล้านให้อนุชา ป่านนี้พ่อลูกคงคุยกันแล้ว พสุไม่แน่ใจว่าอลินจะสนใจ ทนายเปี๊ยกได้แต่เดา
" ต้องลองเสี่ยงดู ถ้าคุณลินรู้ว่าชายในฝันของเธอรวยแต่เปลือก และมีเมียมีลูกแล้ว บางทีเธออาจตาสว่าง เลิกคิดแต่งงานกับอนุชาก็ได้" พสุฟังแล้วยืดตัวถามว่า อย่างนั้นเหรอ เปี๊ยกจึงหันมาถาม "แกคิดอะไรอยู่ อย่าบอกนะว่าแกแอบมีความหวังว่า ถ้าเลิกกับนายอนุชาแล้วเธอจะมาชอบแก"
" บ้า...คุณลินเขาจะคิดยังไงกับชายในฝันของเขา ฉันไม่เกี่ยว เขาจะชอบหรือจะเกลียดกัน มันไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันไม่หวังอยู่แล้ว" พสุหันหน้าหนี แต่แอบมีความหวังรำไรๆแล้ว
กลับไปบ้านแล้ว พสุยังแอบเก็บเอาความหวังอันน้อยนิดไปคิดอยู่ไม่รู้วาย ยิ่งตอนทำช็อกโกแลตในแบบพิมพ์ต่างๆ เช่น รูปหัวใจ ผีเสื้อ ดอกไม้...แล้วยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อตรงกลางได้ใส่อักษร "อลิน" ไว้ตรงหัวใจและผีเสื้อ ทั้งน่ารักและน่ากิน...
ooooooo
เช้าวันรุ่ง ขึ้น พสุมาพบอลินที่คอนโดฯของเธอแต่เช้า ขณะที่อลินกำลังคิดหาวิธีถามอนุชาเรื่องลูกเมียเขาให้ไม่น่าเกลียดยังไง... ทีแรกคิดว่าใครมา พอเปิดประตูกลับเป็นพสุ
"ครูกุ๊กมาทำไม"
"ก็คุณให้ผมมาสอนวันนี้...อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้"
"ฉันไม่ลืม...ฉันแค่มีธุระด่วนต้องไปจัดการ ธุระเสร็จจะรีบมาเรียนทันที"
"ธุระอะไรของคุณ"
"คือ...ฉันมีเรื่องต้องเคลียร์กับคุณเล็ก เรื่องสำคัญมากๆ"
"โอเค...เชิญตามสบาย เคลียร์เสร็จแล้วรีบกลับมาแล้วกัน ผมจะรอ" พสุรู้แล้วจึงไม่ติดใจ
"ครูกุ๊กไม่ถามเหรอว่า ฉันจะไปคุยกับคุณเล็กเรื่องอะไร"
"ไม่ถาม ถ้าคุณอยากบอก คุณจะบอกเอง"
อลิ นบอกโอเค ลากเก้าอี้มานั่ง แล้วเริ่มสัมมนาทันทีว่า เมื่อวานคุณพ่อเธอเรียกไปคุย แล้วบอกข่าวลือไม่น่าเชื่อถือที่สุดให้เธอฟัง ข่าวเม้าท์เรื่องคุณเล็ก เขาเม้าท์กันว่า...
"ครอบครัวคุณเล็กหมดตัว แล้วคุณเล็กก็มีเมียแล้ว ครูกุ๊กไม่แปลกใจเหรอที่เขาลือว่าคุณเล็กมีเมียแล้ว หรือว่าครูกุ๊กรู้แล้ว"
"ไม่...ไม่นี่ ผมไม่รู้ เพิ่งจะรู้นี่แหละ แล้วคุณเชื่อหรือเปล่า"
"ไม่เชื่อ...แต่เพื่อความสบายใจ ฉันจะถามคุณเล็กตรงๆ ให้เขายืนยันจากปาก ฉันจะได้ไปยืนยันกับพ่อ จะได้ไม่คาใจ"
"ถ้าเขายอมรับว่าเขามีจริงๆ คุณจะว่ายังไง"
" เลิก" อลินตะโกนดัง "ต้องเลิกคำเดียวเท่านั้น ฉันจะไม่ยอมไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายที่มีเมียมีลูกแล้วเด็ดขาด ผู้หญิงอย่างอลินไม่เคยใช้ผู้ชายรวมกับคนอื่น...เหมือนแปรงสีฟัน ใช้ร่วมกันไม่ได้"
อลินประกาศก้องอย่างมั่นใจ พสุเห็นท่าแล้วอะโห...
ช่างเด็ดเดี่ยวดีแท้
ooooooo

สูตรเสน่หา ตอนที่ 16

หลัง จากอลินกับอนุชามาตามนัด พบกันในร้านแห่งหนึ่ง อลินได้ฟังคำพูดของอนุชาแล้ว ถึงกับแตกตื่น คาดไม่ถึงจนตั้งตัวไม่ติด ทั้งย้ำให้เขาพูดใหม่ อีกครั้ง อนุชาเน้นชัด
"ผมบอกว่า...ก่อนที่คุณลิ นจะถามอะไร ผมมีเรื่องสำคัญที่ผมจะสารภาพกับคุณ" อนุชามองอลิน ลำดับคำพูด ก้มหน้าระบายความอึดอัดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา "ก่อนที่ผมจะมาเจอคุณลิน...ผมเคยมีภรรยามาแล้วครับ"
"เคย..." เสียงแหบโหยออกมาจากปากอลิน "หมายความว่า..." อนุชารีบย้ำหนักแน่น
" ใช่ครับ...เคย...แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วครับ" อนุชาจับตาอลินนิ่ง อลินยังช็อก แม้จะโล่งใจขึ้นมาบ้าง "เราคบกันตอนอยู่ต่างประเทศ แต่พอกลับมาเราเริ่มมีปัญหากัน คุณแม่ ท่านไม่ยอมรับ แล้วเราสองคนก็ไปด้วยกันไม่ได้" อนุชาพูดไปหลบหน้าไปในบางครั้ง "โชคดีจริงๆที่เราสองคนไม่ได้ จดทะเบียนสมรสกัน พอแยกทาง ก็เลยไม่มีพันธะต่อกัน"
"แล้วยังติดต่อกันอยู่หรือเปล่าคะ" อลินเริ่มจะทำใจได้มากขึ้น
" ไม่ครับ" อนุชาอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มหลบเลี่ยง "เราไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว เขาอยู่ส่วนเขา ผมอยู่ส่วนผม และตอนนี้เขาก็มีผู้ชายคนใหม่ คนที่เขารักและทำให้เขามีความสุข"
อลินนิ่งไป...อนุชาอึดอัดที่โกหกอลินไปหลายคำโตๆ อนุชานึกถึงพสุที่ถ้าได้รู้คงเคืองน่าดู
"คุณลินโกรธผมหรือครับ ที่ผมไม่ได้บอกความจริงของคุณลินแต่แรก"
" ลินไม่โกรธหรอกค่ะ" อลินเหมือนได้ผุดได้เกิดขึ้นมาใหม่ใสแจ๋วด้วยรอยยิ้มเริงร่า "ลินแค่ตกใจน่ะค่ะ แต่ลินก็ดีใจที่คุณเล็กบอกลินเอง ถึงจะบอกช้าไปหน่อยก็ไม่ต้องรอให้ถาม มันทำให้ลินเห็นว่าคุณจริงใจที่จะคบหาสมาคมกับลิน" อลินสบายใจเฉิบ แต่อนุชากลับสุขยิ่งกว่าที่อลินไม่ได้ถือโกรธเขาเลย
ooooooo
ที่คอน โดฯอลิน พสุนั่งๆเดินๆรออลิน เปิดทีวีเปิดละครเก่าๆของเธอดู พอเบื่อหยิบแมกกาซีนมาเปิดดูรูป แล้วก็หยิบไดอารี่ของอลินมาพลิกอ่าน เขาจำได้แล้ว จึงพลิกหาความในใจของเธอด้วยความหวัง...แล้วก็มาถึงหน้าสุดท้าย บันทึกถึงพสุ บริบรรณ...พสุแอบดีใจที่เขาถูกจัดอยู่ในผู้ชายในฝัน ไล่ดูคะแนนที่อลินให้ กระทั่งมาถึงครอบครัว ได้คะแนน 20 พสุมองตาละห้อยที่คะแนนติดลบ
พสุปิดสมุดทันที หันรีหันขวางคิดทบทวนไปมา... ไม่ได้การ มันต้องทำอะไรติดหัวคิวหน่อยแล้ว...พสุสะดุ้ง เมื่ออลินเปิดประตูผางพรวดเข้ามาผวามาหาครูกุ๊ก ปากก็ร้องเรียกลั่น
"ครู กุ๊ก...คุณเล็กเขาขอคบกับฉันอย่างเป็นทางการ และตอนนี้ฉันกับเขา เราเป็นแฟนกัน...เยส เยสๆๆๆๆ" อลิน กระโดดโลดเต้น ไม่สนใจว่าพสุกำลังจิตตกแตกกระจายเต็มห้อง "นี่...ฟังสิ ส่วนเรื่องเมียเขาน่ะ เขาเป็นคนสารภาพกับฉันเองโดยฉันไม่ได้ถามเลยนะ เขายังบอกอีกด้วยว่า ตอนนี้เขาไม่ได้ติดต่อกันตั้งนานแล้ว ต่างคนต่างไป ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลย แม่เขาก็ไม่ชอบผู้หญิงคนนั้น ส่วนเรื่องลูกก็ไม่มี้ไม่มี... ข่าวเล่าเอนจอยเม้าท์โดยแท้"
พสุมองอลินตาละห้อยโหยโหลยโท่ยไปเสียแล้ว
" ฉันต้องรีบรายงานพ่อ พ่อจะได้ตาสว่าง หยุดหูเบาซะที แล้วก็โทร.บอกนายตัวเปี๊ยกให้ไปสืบแหล่งข่าวมั่วมาให้ได้ จะได้จับมาลงโทษให้หมด อ้อ...แล้วโทร.นัดนักข่าวมาแถลงข่าวไปเลย คนเม้าท์จะได้หยุดเห่า ไม่งั้นฉันจะฟ้องให้หูรูดพังไปเลย...ฮ่าๆๆ" อลินหัวร่อร่า พอหันมาเห็นพสุยืนกอดอกตาค้างเติ่ง จึงเอามือปัดตรงหน้า ถามอย่างแปลกใจ "ครูกุ๊ก เป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมมองตาขวางๆ รึว่าโกรธที่ฉันมาช้า"
"เปล๊า...ไม่ได้โกรธที่คุณมาช้า แล้วก็ไม่ได้เป็นอะไร" พสุยังหน้าตูม
"ไม่โกรธ แล้วทำไมทำหน้าเหมือนคนจะลาโลก...
ถ้าไม่เป็นอะไร เรามาเริ่มเรียนกันเลย วันนี้จะสอนฉันทำอะไรคะ"
" คุณบอกว่า อยากได้เมนูสำหรับคนรัก ผมเลยเตรียมเมนูช็อกโกแลตแฟนซีไว้ให้...นี่เป็นวิธีการทำ" ส่งกระดาษให้ "แล้วนี่เป็นอุปกรณ์และส่วนผสมทั้งหมด คุณลองทำเองก็แล้วกัน"
"หา...ว่าไงนะ" อลินตาเหลือก
" ผมขอลาออก" อลินผงะถอยหลัง "ผมจะไม่มาสอนคุณอีกแล้ว ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน" พสุเดินออกจากห้องไปทันที...อลินอ้าปากค้าง ช็อกและชาจนร้องเรียกไม่ออก...
หลัง จากอลินตั้งหลักได้ จึงโทร.ตามทนายเปี๊ยกมาพบ แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง และอยากจะไปตามครูกุ๊กมา เปี๊ยกจึงพูดอย่างไม่เกรงใจว่า ไม่ต้องไปตามเขาหรอก ไอ้ดินไม่มีทางกลับมาสอนเธออีกแล้ว อลินโกรธจัด คิดว่าพสุโกรธที่เธอให้คะแนนครอบครัวติดลบ จึงลำเลิก
"กะอีแค่ได้คะแนนต่ำกว่ามาตรฐานนิดหน่อย ครูกุ๊กจะโกรธขนาดนั้นเลยเหรอ"
" ไม่เกี่ยวกับคะแนน แต่มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย พูดไปคุณลินก็ไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าคุณลินไปหาครูใหม่เถอะครับ ไอ้ดินเซย์โนครั้งนี้ แปลว่าจบจริงๆ ต่อให้คิดจนหัวแตกตายก็ง้อมันไม่สำเร็จ ผมก็ช่วยไม่ได้ มันขู่ว่าถ้าผมช่วย มันจะตัดเพื่อนด้วย ผมไม่อยากเสียเพื่อน...ฉะนั้น ถึงคุณลินมาชักกระแด่วๆตรงหน้า ผมก็ไม่ช่วย คุณลินต้องไปจัดการแก้ ปัญหาเอง ผมไม่ใช่คุณป้าทั้งสามของคุณที่จะคอยตามใจคุณทุกเรื่อง...คุณลินควรไปหาครู คนใหม่ จะดีกว่านะครับ"
ทนายเปี๊ยกว่าแล้วก็ยักเยื้องเปิดประตูออกจากห้องไป... อลินตะโกนไล่หลัง
" นายตัวเปี๊ยก...นายกล้าพูดยังงี้กับฉันเรอะ นายคิดว่าฉันจะง้อหรือไง ทั้งนายทั้งครูกุ๊กนั่นแหละ ไปให้หมดเลย ฉันไม่เห็นจะแคร์เลย...เชอะ...ไม่สอนก็ไม่ต้องสอน คิดว่าฉันจะง้อเรอะไง ครูกุ๊กไม่สอน ฉันทำเองก็ได้ไม่เห็นจะยาก"
ความทะนงองอาจทำให้อลินเริ่ม ลงมือทำช็อกโกแลตตามที่พสุเขียนมาให้ แต่แล้วก็ได้ผล ด้วยการทำจนเหม็นไหม้ ต้องร้องลั่นเสียใจ แล้วบ่นว่าครูกุ๊กที่เขียนให้ทำไม่รู้เรื่องเลย ไม่รู้จะงอนอะไรนักหนา...คิดจะโทร.ไปหา...แล้วยอมลดทิฐิกดมือถือไป อย่างกระฟัดกระเฟียด กดเท่าไหร่ก็ไม่ติด พอนึกได้ร้องลั่นว่า ก็ทำมือถือครูกุ๊กพังไปแล้ว จะเอามือถือที่ไหนมารับ?...แล้วคิดคืบต่อไปว่า แล้วจะติดต่อครูกุ๊กได้ยังไงล่ะเนี่ย... ในที่สุดก็ตบมือฉาด เมื่อคิดมุกอะไรใหม่ออกมาได้
ooooooo

อลินคิดว่าคราวนี้ครูกุ๊กหนีไม่พ้นมือเธอแน่ ด้วยการแอบไปถึงห้องเรียน ครูกุ๊กสอนไป บางครั้งเห็นอลินโผล่ให้เห็นแวบๆ อลินรีบหลบจนพสุไม่แน่ใจ... แต่พอเลิกเรียน อลินปล่อยให้นักเรียนทยอยออกมาจากห้องจนหมดแล้ว จึงรีบเข้าไปร้องทักครูกุ๊กอย่างชนิดตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องโกหก...แต่แล้ว ทั้งห้องเรียนว่างเปล่า อลินวิ่งไปทางประตูหลัง เห็นครูกุ๊กเดินอ้าวๆหนี จึงวิ่งตาม ร้องเรียกลั่นๆ
"ครูกุ๊กรอเดี๋ยว...นี่ครูกุ๊ก...จะหนีฉัน จริงๆเหรอ...หยุดเดี๋ยวนี้นะ" อลินวิ่งไล่ไปทางหน้าโรงเรียน "ครูกุ๊ก ชะชะ... คิดว่าจะหนีพ้นเรอะ" แต่แล้วพสุก็หนีออกประตูหน้าโรงเรียนหายไปเลย...อลินได้แต่มองตามด้วยความ แค้น แต่คนอย่าง
อลินจะยอมแพ้ใครง่ายๆ อย่าหวัง...
ภายในร้านอาหาร อิตาเลียนยามบ่ายแก่ๆ พสุเปิดประตูเข้ามาเพื่อเตรียมทำงานตามปกติ แล้วพสุก็สะดุ้งแปดกลับ เมื่อเสียงเรียก "ครูกุ๊ก" ดังขึ้นอีกจากปากของอลิน
พสุชะงักกึก มองเห็นอลินยิ้มเผล่เร่เข้ามา...ยังไม่ทันถึงตัว พสุหันหลังได้เปิดอ้าวหนี
"ฮะ...ครูกุ๊ก...ครูกุ๊ก...เฮ้ย...อะรายกานเนี่ย" อลินคว้ากระเป๋า เผ่นตามติดไม่รีรอ
อลินหันรีหันขวาง แต่พอเห็นครูกุ๊กของเธอขับรถออกไป ไม่ได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวาย...วิ่งตามได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดอย่างท้อแท้
"นี่ครูกุ๊กรังเกียจฉันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย...มันจะมากเกินไปแล้วนะ...โกรธขึ้นมาตุ่นๆแล้วนะเฮ้ย"
ลงมาเล่นกันแบบนี้ มีมนุษย์หน้าไหนจะยอมกันง่ายๆบ้าง?
อลิ นไปดักรอพสุแถวหน้าบ้านจนค่ำ...พสุขับรถกลับมาจอดหน้าประตูบ้าน ลงไปเปิดประตู...รถของอลินก็พุ่งปร๊าดเข้ามาจอดเฉียดบั้นเอวไปจนโดดเหยง... อลินลงรถมา ออกคำสั่งเฉียบ
"ครูกุ๊ก...เลิกหนีฉันได้แล้ว" อลินย่างสามขุมมาหา พสุหันหลังเดินมาที่รถของเขา อลินขยับสองทีขวางประตูรถ แล้วสำทับ "ฉันบอกว่าให้เลิกหนี...แล้วมาคุยกันดีๆไม่ได้หรือไง"
"ผมไม่มีอะไรต้องคุยกับคุณ" เสียงเย็นชาชืด
"มีสิ...ต้องมี...ก็เรื่องที่ครูกุ๊กแอบดูสมุดไดอารี่ของฉัน"
"งั้นผมขอโทษที่แอบดูไดอารี่ของคุณ พอใจรึยัง"
" ยัง...ฉันยังไม่พอใจ อยากรู้ครูกุ๊กเป็นอะไร ทำไมต้องโกรธกันขนาดนี้" พสุยืนกรานไม่ได้โกรธ "ไม่โกรธแล้วหนีฉันทำไม ฉันไม่ได้ทำผิด แค่ให้คะแนน น้อยไปหน่อย เท่านั้น จะคิดมากอะไรกันนักหนา"
"ใช่...ผมคิดมากไปเอง ผมผิดเองที่ไปเปิดสมุดบันทึกของคุณ ผมทนไม่ได้ที่คุณประเมินครอบครัวผมด้วยคะแนนลบยี่สิบ และเหตุผลที่ผมมีแม่เป็นคนใช้ ผมผิดที่หนีหน้าคุณโดยไม่มีเหตุผล ขณะที่คุณไม่ผิด คุณมีสิทธิ์ตัดสินทุกคน และให้คะแนนตามความคิดของคุณ" อลินอึ้ง "ฉะนั้นคนไม่เคยผิดอย่างคุณอย่ามายุ่งกับผมอีกเลย จะได้ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งเป็นคนดี ทั้งที่จริงๆแล้วคุณก็คิดไม่ต่างจากคนอื่น แล้วก็เลิกตามผมได้แล้ว ไม่ว่ายังไง ผมก็ไม่กลับไปสอนคุณ"
พสุหันหลังเดินหนี ทิ้งรถไว้...อลินยืนเซ่อ เอ่ยชื่อครูกุ๊กแทบไม่เป็นภาษา มองไปมองมาเหมือนเธอกำลังยืนอยู่ในโลกว่างเปล่า...แปลกเปลี่ยนไปจากทุกคืนมา
แม้ กลับไปถึงบ้านแล้ว...อลินเอาช็อกโกแลตที่พสุทำมา มีชื่ออลินแต่งไว้ตรงกลางมาใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ ก็ยังไม่วายคิดวกไปวนมาว่าเธอทำผิดอะไร ทำไมครูกุ๊กถึงมาด่าให้แสบสันอย่างนั้น...
"ฮึ...คอยดูนะ หาว่าฉันเสแสร้ง ฉันจะหาครูคนใหม่ หาคนที่เก่งกว่าครูกุ๊กให้ได้" อลินคำราม
ส่วน พสุไม่กลับบ้าน เขาไประบายความร้อนในใจให้โสภิตาฟัง โสภิตาฟังแล้วติงว่า ไปพูดตัดญาติขาดมิตรกับอลินแบบนั้น มันแรงไปแล้ว พสุอยากให้มันจบๆไป จึงถูกโสภิตาย้อนถามว่า เขาอยากจบแบบนี้จริงๆหรือ
"ในเมื่อมันไปไกลกว่า นี้ไม่ได้ มันก็ต้องจบแบบนี้แหละ...ดีที่สุดแล้ว" พสุระบายลมออกมา แล้วก็ไม่ได้โล่งใจ อย่างที่คิด โสภิตารู้ดีว่าพสุปากกับใจหาได้ตรงกันไม่...
ooooooo
วันนี้อลินไปหา โสภิตาที่ร้าน แล้วก็ทาบทามให้ เธอมาเป็นครูสอนทำอาหารแทนพสุ โสภิตาออกตัวว่า ถ้าคุณอลินไว้ใจ เธอก็พร้อมจะสอนให้ เธอมีครัว
มีอุปกรณ์พร้อม จะเริ่มเมื่อไหร่ได้ทันที อลินขอบคุณโสภิตาเป็นการใหญ่
"เอ้อ...คุณตาคะ คุณตามารับสอนให้ลินแบบนี้ เพื่อนคุณตาเขาจะไม่ว่าเหรอคะ"
"ดินน่ะเหรอคะ...เขาไม่ว่าหรอกค่ะ เพราะลึกๆเขาเป็นห่วงคุณลินอยู่เหมือนกัน"
"จริงเหรอคะ" อลินโพล่งอย่างตื่นเต้นจนลืมตัว
"จริงค่ะ...ถึงไม่บอก ตาก็เดาไม่ผิด คุณลินไม่ลองไปง้อดินเขาดูอิีกทีเหรอคะ เผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ"
" คนอย่างลิน..." อลินเชิดหน้า "จะง้อก็ต่อเมื่อลินทำผิดเท่านั้น แต่เรื่องนี้ลินไม่ผิด ฉะนั้นลินจะไม่ง้อครูกุ๊ก... พอกันที" อลินยืดไม่ยอมง้อใคร โสภิตามองแล้วหนักใจ...เห็นว่าทั้งสองคนนี้พอกัน
ขณะ ที่โสภิตากับอลินยังนั่งเม้าท์กันต่อไป...หารู้ไม่ว่าด้านหน้าร้าน อนุชาถือตุ๊กตาลงรถมา จะเอาเข้าไปให้ปูเป้ แต่พอเห็นอลินกับโสภิตานั่งอยู่ด้วยกันต้องสะดุดหยุดนิ่งไปทันที...ยืนครู่ เดียว อนุชาถอดใจหันหลังกลับ โยนตุ๊กตาใส่เบาะ แล้วขึ้นรถขับออกไปทันที...ขับไปด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจ...
ทาง ด้านทนายเปี๊ยก เมื่ออลินสั่งเฉียบเรื่องโอนเงินให้อนุชา นอกจากจะยังไม่ยอมโอนแล้ว ยังเดินทางไปหาคุณอนันต์ที่บ้านไร่...ฟังเรื่องราวแล้ว อนันต์ย้อนถามเปี๊ยกทันที
"แสดงว่าที่ครูบอกเรื่องปัญหาการเงินกับเรื่องเมียเขาแล้ว...มันไร้ประโยชน์ไปเสียแล้ว"
" ผมไม่ทราบ...แต่คุณลินปลื้มนายอนุชามาก เพราะเขาดันสารภาพเรื่องเมียเขาออกมาเอง เขาย้ำว่าเคยมี แต่เลิกกันไปแล้ว ส่วนเรื่องเงินก็บอกว่าเอาไปช่วยแม่ ลินคิดว่าเขา กตัญญู เป็นคนดีกว่าเดิม อีกไม่นานคุณลินจะมาชี้แจงให้ ครูทราบด้วยตัวเอง"
ครูอนันต์ฟังแล้วถอนใจ คิดว่าที่พ่อพูดไปลูกสาวไม่เชื่อแล้ว อนันต์ถามเปี๊ยกเรื่องเงิน
"เรื่องเงินผมยังไม่ได้โอนให้เขา อยากคุยกับคุณลิน อีกที เมื่อหน้ามืดตามัวไม่ฟังคำครู แต่อย่างน้อย 10 ล้าน
ที่ต้องเสียไป...คุณลินต้องไม่เสียเปรียบ" ทนายเปี๊ยกยังไม่ยอมให้เงินสูญเปล่า...
ทันที ที่กลับมายังคอนโดฯของอลิน...เปี๊ยกปรึกษาอลินเรื่องเงิน 10 ล้าน ที่จะให้นายอนุชาเขาจะทำเป็นสัญญากู้ยืม โดยให้เอาหุ้นมาค้ำประกัน ถ้าเกิดเบี้ยวไม่จ่ายคืน อลินจะได้หุ้นเพิ่ม 30% กลายเป็นหุ้นใหญ่ของบริษัทอวตานไป
"ความคิดนายก็ดีเหมือนกันนะ แต่งงานกันไปแล้ว สามีกับแม่สามีจะได้เกรงใจ ไม่กล้ารังแก"
"ถึงไม่มีสัญญาเงินกู้ ก็ไม่มีใครมารังแกหรอกคร้าบ"
"ที่เขาไม่รังแกเพราะฉันเป็นคนดี ความดีเป็นเกราะป้องกันตัว...แต่เอ๊ะ...ทำแบบนี้ฉันจะดูไม่ดีในสายตาคุณเล็กรึเปล่า"
" แค่แฟนยังให้ตั้ง 20 ล้าน...ถ้าว่าไม่ดีก็ปล่อยเขาลงรูไปเถอะครับ จะไปแคร์อะไรนักหนา...ทีคนดีๆควรจะแคร์กลับไม่แคร์...ไม่เข้าใจเลยว่ะ" ท้ายประโยคเปี๊ยกเสียงเบาที่สุด อลินปรายตามาทันที
"ฉันรู้นะ ว่านายหมายถึงใคร"
"รู้ก็ดีแล้วนี่...ที่ผมพูด ก็ทนไม่ไหว อยากให้รู้" เปี๊ยกปากกล้า อลินยืดตัวเชิดหน้า ส่งตาขย่มซ้ำ
" นี่...ไหนๆก็พูดถึงเพื่อนนายแล้ว...ฉันฝากบอกครูกุ๊กด้วยว่า ฉันได้ครูสอนทำอาหารคนใหม่แล้ว ฉันไม่แคร์ แล้วก็...เชอะ...ไม่สนใจครูกุ๊กอีกต่อไป"
"ได้ครับ...ผมจะบอกไอ้ดินให้นะครับ ว่าคุณลินฝากความคิดถึงมาให้" เปี๊ยกยิ้มอย่างรู้ทัน
" เฮ้ย เอ๊ย...พูดให้ถูกนะ คำเยาะเย้ยย่ะ ไม่ใช่ความคิดถึง คนอย่างอลินไม่มีวันจะคิดถึงผู้ชายใจร้ายอย่างครูกุ๊กเด็ดขาด" อลินทิฐิมองเพดานเฉย...เปี๊ยกหันหนีอย่างแสนจะสุดเซ็ง...
ส่วนพสุ วันต่อมาก็รับรู้จากปากของโสภิตาว่าเธอรับสอนทำอาหารให้อลินแล้ว พสุบอกเขาไม่ได้ว่าอะไร แต่เขาเป็นห่วงว่านายอนุชาก็ต้องรู้ คุณหญิงอมราก็ต้องรู้อีกคน เรื่องวุ่นวายจะตามมา แล้วโสภิตาจะรับไหวหรือ?
" ตาเตรียมใจไว้แล้ว ไม่ว่าจะเจออะไร ตาจะรับไว้ให้ได้ แต่คุณลินนี่สิ ถ้าเขารู้ว่าคุณเล็กโกหก เรื่องตากับเขา แล้วไม่ได้บอกความจริงเรื่องลูก คุณลินจะรับได้หรือเปล่า"
พสุฟังแล้วเริ่มกังวลตามไปด้วย...โสภิตารู้ว่าพสุเริ่มวิตกแน่นอน ถ้ายังไม่รู้ว่าจะช่วยอลินได้อย่างไร?
ooooooo
อนุชา ไปนั่งรออลินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง คิดทบทวนความเป็นมาและเป็นไปตั้งแต่โสภิตากับปูเป้ กระทั่งมาถึงเรื่องที่โสภิตาบอกเขาว่า "ตอนนี้เราสองคนได้เจอคนที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเราแล้ว...ตากับดิน และคุณเล็กกับคุณอลิน"
อนุชาคิดแล้วตัดสินใจแน่วแน่...นาทีนั้นเสียงอลิ นร้องทักดังมา อลินมายืนเต็มตัวในชุดสวยงาม เธอมานั่งตรงหน้าแล้ว เขายังเคลิ้มต่อ แทบไม่ได้ยินเสียงทักทายอย่างดีมีสุข แล้วก็ทักถามเรื่องจะสั่งอาหารอย่างไหนมาทานดี...อนุชาเหมือนไม่ได้ยิน กลับถามขึ้นอย่างไอ้หนุ่มใจร้อน

"แต่งงานกับผมนะครับ"
"คุณเล็กว่าอะไรนะคะ" ถามขึ้นหลังสะอึกไปอย่างคาดไม่ถึง
"ผมพูดว่า...คุณลินครับ แต่งงานกับผมนะครับ" อนุชาเน้นหนักทีละคำชัดเจ๋ง...อลินฟังชัดอัดเต็มบ้องหู...เสียงดัง
วิ้งงงงงง ปล่อยมือจากเมนูปิดพับทันที...
อลิ นแทบจำวันเวลาไม่ได้อีกต่อไป แต่รีบพาทนายเปี๊ยกไปพบครูอนันต์ผู้บิดาที่ไร่ ทั้งเปี๊ยกที่เพิ่งรู้เรื่องพร้อมๆกับครูอนันต์ ต่างอุทานพร้อมกัน "อลินจะแต่งงาน..."
"ใช่ค่ะ" อลินยิ้มปลื้ม มองพ่อกับเปี๊ยกอย่างสำราญบานเบิกหัวใจ "คุณเล็กเพิ่งขอลินแต่งงานมาหยกๆนี่เอง พอแยกกัน ลินก็พานายตัวเปี๊ยกมาบอกให้รู้พร้อมกับพ่อนี่เอง จะได้มีเวลา และเตรียมตัวแล้วเตรียมงานได้ทัน" พ่อติงว่าเร็วไปไหม อลินตัดบทว่า เธอดูมาทุกเหลี่ยมทุกมุมเคลียร์หมดแล้ว...
"พ่อไม่ต้องห่วงนะคะ คุณเล็กเป็นคนดี เป็นคนที่ไว้ใจได้"
"พ่อไม่ได้ห่วงเขา แต่พ่อห่วงลิน ห่วงการตัดสินใจของลิน"
" ใช่ครับ" เปี๊ยกเสริมทันที "ผมว่าคุณลินตัดสินใจเร็วเกินไป คุณรับปากแต่งงานทั้งๆยังไม่รู้เลยว่าอยากแต่งจริงไหม...ที่สำคัญ คุณลินแน่ใจนะครับ คนที่อยากแต่งด้วยคือนายอนุชา"
อลินชะงักกึก แต่เชิดหน้าอย่างดื้อรั้น
" ฉันอยากแต่งจริง และเจ้าบ่าวแสนเพอร์เฟกต์ของฉันต้องคุณเล็กเท่านั้น...ชัวร์" ยื่นหน้าทำตาใส่นายเปี๊ยก งึมงำเป็นการปรามว่า...หมูกำลังจะถูกหาม อย่าเอาคานมาสอดให้มันวุ่นวาย
ปฏิคมเอาเรื่องอลินจะแต่งงานกับอนุชาแน่ นอนแล้ว กำหนดเดือนหน้ามาบอกเล่าให้พสุฟัง พสุทีแรกทำท่าช็อก แต่แล้วก็ดึงดันอย่างอลิน บอกหน้าตายว่า...ก็ดีแล้ว ทั้งๆในใจค้านว่าทำไมต้องแต่งเร็วขนาดนั้น...เพื่อนถามว่าจะไปงานเขาไหม พสุสั่นหัวดิกๆ แต่บอกว่ายังไม่คิด...แล้วเตือนให้เพื่อนกลับไป เขาจะทำงานต่อ เปี๊ยกพยักหน้าด้วยความเห็นใจเพื่อน...
พสุได้แต่ถอนใจหลายเฮือกหลังจากเพื่อนกลับไปแล้ว...สิ่งที่พอจะหามาปลอบใจได้ยามนี้มีแต่ความเศร้า...
ooooooo
คน ที่มีแต่ความสุขคือคุณหญิงอมรา พอเห็นหน้าอลินที่เดินเข้าบ้านมาพร้อมอนุชาก็เก็บอาการไม่อยู่ ลิงโลดโดดกอดอลิน หอมแก้มซ้ายขวาหน้าหลังหมุบหมับๆ ปากก็หวานฉ่ำร่ำร้องว่า แหม แก้มว่าที่สะใภ้ของแม่ช่างหอมหวนทวนลมกระไรปานนี้ อนุชาหันหน้าหนี เห็นแม่ตัวเองเว่อร์มากเกินไป
จากนั้นแม่ลูกก็ตกลงจะส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอ ในสัปดาห์หน้า คุณหญิงดี๊ด๊าราคาแพง จะตัดงานทุกอย่างหมด ไปที่ไร่ของคุณพ่ออลินทันที จะเอานักข่าวไปอีกโขยงหนึ่ง อนุชากับอลินติงว่ายังไม่ควร คุณหญิงก็เออออห่อหมกเห็นด้วยอีก ยืนยันว่าขอให้ได้หนูลินมาเป็นสะใภ้ แม่ก็ชื่นใจที่สุดแล้ว
"ปิดข่าว แม่เห็นด้วย...รับรองว่าแม่จะไม่บอกใครแม้แต่ครึ่งคน...ไม่บอกเด็ดขาด"
แต่ ไม่ถึงอึดใจต่อมา...ที่บริษัทอวตาน เพรียวจอมสอพลอก็ประกาศไปทั้งบริษัทว่าคุณหญิงโทร.มาบอกเดือนหน้าบอสอนุชา ของเราจะแต่งงานกับคุณนายอลิน ด้วยสินสอดเบ็ดเสร็จไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน...ทั้งนั่งยันนอนยันชัวร์ คอนเฟิร์ม...จากนั้นพนักงานทั้งหลายก็แลกเปลี่ยนความตื่นเต้น เม้าท์กันแหลก ส่วนใหญ่เห็นว่าอนุชารวยจริง ช่วยอลินให้ไต่ลงจากคานทองสำเร็จ น่าจะเสียน้ำมันพรายไปหลายบาร์เรล...
"พวกแกรู้แล้วเหยียบไว้ คุณหญิงแม่กำชับห้ามบอกใคร แม้แต่นักข่าว...ท่านจะเก็บเป็นความลับ"
วัน รุ่งขึ้น โสภิตาเดินผ่านแผงหนังสือพิมพ์หลังจ่ายตลาด เหลือบไปเขม้นมองข่าว...ถุงปลาร้าทรงเครื่องหลุดมือลงพื้นทันที ไต่ตามตัวหนังสือเห็นข่าวอลินกับอนุชาจะแต่งงาน...
พสุกำลังจะเดินออกจาก บ้านไปสอนนักเรียน อ้อนวิ่งหน้าตั้งมาบอกข่าวอลินจะแต่งงานกับหนุ่มไฮโซ...โห เขาว่าเพิ่งรู้จักกันตอนทำรายการใช่ไหม มันเรื่องจริงหรืออิงเรื่องมั่ว
" คนเขารักกัน เจอกันไม่นานเขาก็รักกันได้ จริงไหมดิน" เสียงแม่นงพะงาดังมา พสุยังจุกแอ่นแน่นอกจึงตอบไม่ได้ แต่อ้อนกลับตื่นเต้นเนื้อตัวสั่น เมื่อพูดถึงสินสอดร้อยล้าน...พอถูกถามว่าจะไปงานเขารึเปล่า พสุตอบห้วนๆว่าไม่รู้ ว่าแล้วขอตัวลาแม่ไปทำงานทันที...อ้อนแปลกใจ ทำไมคุณดินของเธอจึงลมเสียขึ้นมาไม่บอกกล่าว...
ooooooo
ที่ห้องพักขอ งอลินในคอนโดฯ หนังสือพิมพ์ในมือนายเปี๊ยกถูกอลินดึงกลับไปทันที สั่งเฉียบให้เลิกอ่าน มาจดหน้าที่ที่เปี๊ยกต้องทำเดี๋ยวนี้...ว่าแล้วอลินก็สั่งตั้งแต่จองโรงแรม ติดต่อวงดนตรี บอกโรงแรมว่าเธอต้องการกล้วยไม้สีขาวเท่านั้น พันธุ์ดีๆ จัดรายทางมาตั้งแต่ซุ้มประตู กระทั่งถึงในห้องงานและจุดที่จัดพิธี รายการอาหารจัดเมนูเด็ดท็อปพิเศษ 50 รายการขึ้น น้อยกว่านั้นถือว่าไร้ฝีมือ...อลินทุบเปรี้ยง สั่งเปลี่ยนโรงแรมทันที
"ครับ...แล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดใครออกครับ" คำถามนี้เหมือนแหย่เสือหลับ
"ฉันสิ...ความฝันของฉัน ความต้องการของฉัน...ฉันจ่ายเอง" อลินเชิดหน้า
" ผมว่า...คุณลินมัวทำตามความฝันตัวเองมากไป ลืมดูความจริงรึเปล่าว่ามันเป็นยังไง...ถ้าคุณลินลืมตาตื่นจากความฝันมาอยู่ กับโลกความจริงบ้าง คุณลินอาจได้เจอกับความสุขที่มันจับต้องได้ ไม่ต้องเหนื่อยไล่ตามความฝันแบบทุกวันนี้"
"ไม่...นายจะอยู่กับความจริง ก็เรื่องของนาย แต่ฉันอยู่ของฉันแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว ถึงมันเป็นโลกเพ้อฝันในสายตาคนอื่น แต่ฉันมีความสุข ฉันไม่สน...เชอะ"
วัน ต่อมา....อนุชากับอลินไปยังบริษัทรับจัดงานแต่งงานที่บรรดาไฮโซใช้กัน... เริ่มตั้งแต่ช่วยกันเลือกการ์ดแต่งงาน ของชำร่วย แบบซุ้มดอกไม้ใช้ถ่ายรูป แบบเวที น้ำแข็ง กระทั่งชุดแต่งงานช่วยกันเลือกช่วยกันชี้...แต่ละอย่าง ทั้งสองคนชอบ ไม่เหมือนกันแม้แต่ชิ้นเดียว โดยเฉพาะชุดแต่งงานที่อนุชาเลือก อลินรับไม่ได้เลย แต่อนุชาก็มักจะโยนให้อลินเลือก

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : ไทยรัฐ

Readlakorn เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ ละครเกาหลี ละครช่อง3

Related Posts



1 comments:

Anonymous said...

ขอบคุณจร้า
อยากอ่านตอนต่อไปต่อจัง ถ้าลิลี่ว่างๆ กะเอามาลงอีกน้า
สู้ๆนะคะ

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal