Friday, December 04, 2009

สูตรเสน่หา - เรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ - สูตรเสน่หา ตอนที่ 22-23

สูตรเสน่หา ตอนที่ 22

“ลินไม่ปฏิเสธเรื่องที่ข่าวลงเกี่ยวกับฐานะของครูกุ๊ก..เอ่อ..ของ “ดิน”
คุณแม่ของดินเป็นแม่ครัวจริง..แต่ท่านเป็นคนดี เป็นคนน่ารัก”
พสุเดินเข้ามาใกล้โทรทัศน์
และตั้งใจฟังคำพูดของอลินที่พูดต่อหน้านักข่าวอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจที่สุด
นงพะงาเห็นท่าทางของลูกก็ยิ้ม
“ลินไม่เคยคิดรังเกียจดินแม้แต่นิดเดียว
ลินไม่ได้วัดค่าของคนที่ชาติตระกูล
ลินเลือกผู้ชายที่หัวใจไม่ใช่ที่ฐานะหรือหน้าตา
ความดีของดิน..ชนะใจลินได้อย่างขาวสะอาด
และที่ลินมีเหตุทะเลาะวิวาท
ในวันนี้..ก็เพราะทนไม่ได้ที่ฮยองกึนมาดู
ถูกดิน” พสุเหวอ..นงพะงาอมยิ้ม อ้อนยิ้มแฉ่ง
“ลินกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า..ที่
ลินได้กลับมามีงานทำ มีงานละคร มีพี่นักข่าวให้ความสนใจ มีแฟน ๆ ที่ให้การสนับสนุน
อีกครั้ง.. ลินกลับมาได้เพราะดิน ถ้าไม่มีดินอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่มีอลินในวันนี้
!!” นักข่าวถึงกับตบมือกันกราวววววววว..
พสุอดอมยิ้มอยู่หน้าทีวีไม่ได้.. นงพะงากับอ้อนยิ้มตาม... พสุยิ้ม ๆ เขิน ๆ
แต่พยายามเก๊ก ๆ เก็บ ๆ ไว้ที่คอนโดฯ อลินอาบน้ำเสร็จอยู่ในสภาพเสื้อคลุม
มีผ้าคลุมอยู่บนหัว และหยิบยามาทาแผลที่ฟกช้ำจากการตะลุมบอนกับฮยองกึน
ระหว่างนั้นเสียงออดดังขึ้น อลินแปลกใจและเดินไปเปิดประตู ทันทีที่ประตูเปิด
อลินตาโตตกใจที่เห็นพสุตัวเป็น ๆ ยืนอยู่ด้วยท่าทางเขิน ๆ แต่พยายามทำเก๊ก
พสุอ้าปากจะพูด แต่อลินรีบบอกเดี๋ยวมาและปิดประตูใส่หน้าพสุโครมใหญ่ ปัง !!!
พสุตกใจสะดุ้งนิด ๆ..เอ่อ.. งงอลินยืนตั้งสติหนึ่งอึดใจ
“ครูกุ๊กมา..ทำไงดี..แย่แล้ว !” อลินจับผม จับเสื้อคลุม
แล้วก็วิ่งพรวดเข้าไปในห้องแต่งตัว ด้วยอาการตื่นเต้นและลนลานราวกับเด็กอายุ 15
ปีมีผู้ชายมาหาที่บ้าน อลินวิ่งตึก ๆๆๆๆ
เข้าไปในห้องแล้วก็รื้อเสื้อผ้ากระจุยกระจาย
หยิบเอาชุดทาบ..ทาบ..แล้วก็เลือกชุดที่น่ารักที่สุดมาใส่
หน้าห้องพสุยืนรออยู่..ในมือถือถุง ผ้าใส่ขวดน้ำอยู่ 2-3 ขวด
พสุทนไม่ไหว กดออดอีกที อลินกำลังแต่งหน้าอยู่ บ่น พึมพำ ๆ ว่าให้รอแป๊บนึง
อลินแต่งหน้า ทำผม ใส่ตุ้มหูเต็มที่ มือเป็นระวิง พสุยืนรออยู่
พสุเอามือล้วงกระเป๋า... “คุณนาย..ทำอาราย
อยู่เนี่ย” ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออกมาผัวะ !!!
อลินยืนอยู่ในชุดสวย เสื้อผ้า หน้า ผม กริบ...เนี้ยบ
พสุยืนมองอึ้ง..อลินยิ้ม.. คิดในใจ “สวยล่ะสิ”
แล้วพสุก็พูดว่า... “จะไปไหน ?” ตึ่งงงงง !! อลินเหวอ ๆ
นิด ๆ “เปล่า..ฉันก็แต่งตัวมารับครูกุ๊กไง” “เสียเวลา
คราวหน้าไม่ต้องนะ ผมมาแป๊บเดียว..เดี๋ยวก็ไปแล้ว” อลินหน้าจ๋อย
ๆ พูดน้ำเสียงตัดพ้อ “เฮ่อ...อุตส่าห์แต่งตัวซะสวย
มาแป๊บเดียะ” พสุเห็นแล้วก็แอบใจอ่อน ทำเป็นเสียงดุแต่เห็นใจ
“บ่น ๆ..บ่นอาไร..แล้วจะให้ผมยืนตรงนี้อีกนานมั้ย ? ตกลงจะเชิญเข้าข้างในหรือเปล่า
?” อลินรีบยิ้มรับ พร้อมกับเปิดประตูให้ “เชิญค่ะ..”
พสุเดินเข้าไปในห้อง ยังพยายามทำหน้านิ่ง ๆ พอพสุเดินเข้าห้องปุ๊บ
อลินก็แอบยิ้มเจ้าเล่ห์..คริคริ..แล้วก็ปิดประตูพสุวางถุงของไว้บนโต๊ะ
แล้วก็หันมา ทางอลินที่ยืนโพสสวยอยู่ “เมื่อกลางวันไปให้สัมภาษณ์อะไรไว้หะ ?
เป็นผู้หญิงยิงเรือ เที่ยวประกาศให้คนอื่นเขารู้ว่าคบกับผู้ชายทั้ง ๆ
ที่ผู้ชายเขายังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ไม่อายหรือไง
?” อลินชะงัก..เซ็งเลย..หยุดโพส แล้วก็เดินหน้าเหวี่ยงมาหาพสุ
“อ้าว..ก็ฉันพูดความจริงนี่ !” “ความจริงอะไร ? คบหาดูใจกับ
ผมเนี่ยนะ ผมยังไม่เห็นรู้เรื่องเลย” “ครูกุ๊กไม่รู้
แต่ฉันรู้ก็แล้วกัน” พสุสะอึก ส่ายหน้า ทั้งขำ
ทั้งขมขื่น “นี่..คุณ
การคบหาดูใจกันมันต้องรับรู้ทั้งสองฝ่ายไม่ใช่โมเมเอาเอง”
ทำเป็นต่อว่าแต่ก็ยิ้มแฉ่ง
“โอเค..งั้นตอนนี้ครูกุ๊กก็รับรู้แล้วนะ.. ถือว่าฉันไม่ได้โมเม”
“นี่คุณลินอย่ามาเจ้าเล่ห์มัดมือชก ผมนะ”
“แหม..ถ้าฉันไม่รู้ว่าครูกุ๊กมีใจ ฉันไม่กล้าทำแบบนี้หรอก”
พสุสะอึก อลินยิ้ม ..คริคริ..พสุส่ายหน้า ยัง..ยังไม่ยอม “คิดไปเอง !!”
อลิน
ชะงักหุบยิ้ม..เซ็งงง พสุอมยิ้มก่อนบอก
“ผมยังยืนยันคำพูดเดิมว่าผมไม่ไว้ใจคุณ
และไม่ได้คิดจะคบกับคุณ..เลิกให้ข่าวว่าคบกับผม ก่อนจะหน้าแตกมากไปกว่านี้..
แล้วก็นี่..” พสุส่งถุงผ้าให้ “น้ำใบบัวบก ดื่มแก้ฟกช้ำ แม่ผม..ฝากมาให้”
พสุบอกแต่ไม่กล้าสบตาอลิน
อลินมองหน้าพสุ.. จริงอ่ะ “ถ้าไม่เชื่อก็โทรฯไปถามเอาเอง” อลิน
หลิ่วตา..ม่ายเชื่อออออนงพะงาคุยโทรศัพท์บ้านกับอลิน มีรอยยิ้มพรายบนใบหน้า
“ดินเขาต้ม แล้วก็กรอง แล้วก็กรอกใส่ขวดไปให้คุณลินเองค่ะ ป้าแค่ยืนดูเฉย ๆ
เขาบอกว่าป้าทำเหรอคะ” อลินยิ้มกริ่ม..ต๊ายยยย.. มีความสุข
“ค่ะ..”
“สงสัยจะเขินน่ะค่ะก็เลยเอาชื่อป้ามาอ้าง..ดินเขาเป็นห่วงคุณลินนะคะ
ตอนดูข่าวคุณ ลินให้สัมภาษณ์เมื่อกลางวันก็ดูไปยิ้มไป”
นงพะงาแอบยุเล็กน้อย อลินยิ้ม แววตาเป็นประกาย “ครูกุ๊กชอบทำ
“ปากแข็ง” เหมือนพระเอกละคร ลินชินแล้วล่ะค่ะ งั้น..ลิน ไม่กวนคุณป้าแล้วนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ..สวัสดีค่ะ”
อลินวางสายไปแล้วก็
กำหมัดดึงเข้าหาตัวอย่างสะใจ “เยส !!
ในที่สุดครูกุ๊กก็แอบใจอ่อนจนได้.. สู้เขาอลิน..
อีกไม่นาน..ครูกุ๊กจะต้องยอมเป็นเจ้าบ่าวของฉัน !!”
อลินประกาศด้วยแววตาวาวเป็นประกาย..เย้ ๆๆนงพะงาวางสายพร้อมรอยยิ้มนิด ๆ ที่มุมปาก
แต่พอหันหลังมาแล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเพราะอ้อนยืนอยู่
อ้อนว่านงพะงาโกหกเพราะเป็นนงพะงาทั้งต้ม ทั้งกรอง ทั้งกรอกใส่ขวดเองกับมือ
แล้วบังคับให้พสุเอาไปให้อลิน นงพะงาทำจุ๊ปากบอกห้ามบอกพสุ อ้อนยิ้ม
“อุ๊ยยย..อ้อนไม่บอกหรอกค่ะถ้าเป็นอ้อน..อ้อนก็ทำแบบคุณนงล่ะค่ะ
เพราะถ้าเราไม่ทำแบบนี้ พระเอกนางเอกคงไม่ได้คืนดีกันแน่ ๆ”
ทั้งนงพะงาและอ้อนขำกันคิกคักพสุขับรถกลับบ้าน แววตาเริ่มสับสนนิด ๆ
จะทำไงดี.. จะทนได้มั้ยเนี่ย ? อลินนั่งอยู่ในบ้าน มองน้ำใบบัวบกอยู่ในมือ
ยิ้มสดใส พสุนึกถึงตอนอลินให้สัมภาษณ์ตอน กลางวัน
“ลินไม่เคยคิดรังเกียจดินแม้แต่นิดเดียว ลินไม่ได้วัดค่าของคนที่ชาติตระกูล
ลินเลือกผู้ชายที่หัวใจไม่ใช่ที่ฐานะหรือหน้าตา
ความดีของดิน..ชนะใจลินได้อย่างขาวสะอาด” พสุเครียด..จะเชื่อดีมั้ย ?
อลินนึกถึงตอนพสุแวะมาหาเมื่อกี้..
และนึกถึงคำพูดของนงพะงาที่พสุลงมือทำน้ำใบบัวบกให้ ด้วยความเป็นห่วงอลินสุด ๆ อลิน
ยิ้มปักใจเต็มเปา ขณะที่พสุถอนใจเบา
ๆ..เฮ่อ..จะทำยังไงดี อลินดื่มน้ำใบบัวบกจนหมด แล้วก็จุ๊บเบา ๆ
ที่แก้ว .. อูยยยย... มีความหวัง !!พสุมาปรึกษาโสภิตาเรื่องอลิน
โสภิตาว่าอลินคงรู้ใจตัวเองแล้วและพยายามทำทุกอย่าง ออกมาอย่างจริงใจ
พสุหน้าตาเป็นกังวลบอกว่าเขาและอลินต่างกันเกินไป
“ตกลง..ตอนนี้ดินไม่ไว้ใจคุณลิน
กลัวว่าเขาจะรับดินไม่ได้หรือดินไม่ไว้ใจตัวเอง
และดูถูกตัวเองกันแน่..มันไม่ใช่เรื่องง่าย..ที่จะได้เจอใครสักคนที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา
และรับมันได้
เมื่อโชคชะตาทำให้ดินได้เจอคนนั้น..
ดินก็ถามตัวเองดี ๆ ว่าจะรับโอกาสนี้ไว้หรือเปล่า ? และถ้าดินคิดจะปฏิเสธ
ก็อย่ากลับมาเสียใจภายหลัง”
พสุนิ่งคิด..ทันใดนั้นประตูร้านก็เปิด พร้อมกับเสียงของอนุชา “ตา..
เซอร์ไพร้ส์” โสภิตากับพสุหันไปตามเสียง เห็นอนุชา
ถือช่อดอกไม้ใหญ่มากเข้ามา กะว่าโสภิตาอยู่คนเดียว
แต่พอเห็นพสุนั่งอยู่ด้วยก็มีอาการเขินเล็กน้อย “เอ่อ..ผม”
“เอ่อ..ผมกำลังจะกลับพอดี ขอบคุณสำหรับกาแฟ..ไปก่อนนะ”
พสุหันไปบอกโสภิตาพยักหน้ารับ..พสุลุกขึ้นหันมาทางอนุชา ก้มหัวให้นิด ๆ เป็นการลา
อนุชาก็ก้มหัวนิด ๆ รับ พสุเดินออกมาจากร้าน
อนุชานิ่งคิดหนึ่งอึดใจก็หันมายัดดอกไม้ใส่มือโสภิตา โสภิตารับไว้งง ๆ
ในจังหวะโสภิตาเผลอนั้นเอง อนุชาก็แอบหอมแก้มโสภิตาหนึ่งที..จุ๊บ !
“ว้ายยยย..คุณเล็ก !!” โสภิตาตกใจ อนุชาไม่ต่อปากต่อคำ รีบเดินตามพสุไป
โสภิตาได้แต่มองตาม..เฮ่อ..คนบ้า..เซี้ยวจริง ๆอนุชารีบวิ่งตามพสุออกมาหน้าร้าน
พสุชะงักเท้าหันมา ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน
อนุชาขอบคุณที่พสุช่วยดูแลโสภิตาและปูเป้เป็นอย่างดี
และขอโทษที่เคยเข้าใจผิดเรื่องพสุกับโสภิตา
พสุยิ้มให้และแสดงความดีใจที่อนุชาและโสภิตาปรับความเข้าใจกันได้
อนุชายิ้มนิด ๆ..รับ แล้วก็ตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ในใจ
“ผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่อยากจะบอกคุณ...เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้”
พสุขมวดคิ้วนิด ๆ รอฟัง อนุชายิ้มและพูดออกมาจากใจจริง
“ที่ผ่านมา..คุณลินไม่เคยรักผมเลย..ไม่ว่าคุณลินจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม..คนที่คุณลินรัก..และไว้วางใจมาตลอด..มีเพียงคนเดียว....”
อนุชายิ้มนิด ๆ ไม่พูดต่อ ทิ้งไว้ให้ดินคิดเอาเอง..
พสุคิดพอมองไปข้างหน้าก็ต้องอึ้ง
เพราะเขายืนอยู่หน้าร้านซึ่งเป็นกระจกบานใหญ่ ภาพตัวเขาเองยืนเด่นอยู่ในกระจกนั้น
เป็นคำตอบที่อนุชาต้องการจะบอก..พสุค่อย ๆ คลาย
ปมคิ้วออก..มองตัวเองในกระจก..อืมม์...
เอาไงต่อดี..อนุชาเดินเข้ามาในร้าน โสภิตาลาก กระเป๋ามาวางไว้ให้
อนุชายิ้มแฉ่งถามถึงปูเป้ โสภิตาว่าหลับไปแล้ว
“งั้นตอนนี้ก็เหลือแค่เราสองคน แล้วสิ..” โสภิตายิ้มนิด ๆ
รู้ทัน ก่อนจะบอกให้แยกย้ายกันไปนอน อนุชาชะงัก
โสภิตายิ้มเจ้าเล่ห์บอกจะขึ้นไปนอนกับลูก และอนุชาต้องไปนอนในครัว
“ไม่นะ !! ผมไม่นอนในครัวเด็ดขาด !! ตอนนี้คุณลินเขาก็ไม่อยู่แล้ว
ตาไม่ต้องทำตามที่เขาบอกก็ได้ ถึงผมไม่ได้นอนในครัวเขาก็ไม่รู้หรอก ..”
“ตาไม่ได้ทำเพราะเชื่อคุณลิน แต่ทำเพราะอยากทำ !
ถ้าคุณเล็กทนนอนในห้องครัวไม่ได้ ก็คงต้องเชิญไปนอนโรงแรม”
โสภิตาพูดจบก็หันหน้าหนีจะเดินขึ้นบ้านไป
อนุชารีบคว้าข้อมือไว้แล้วออดอ้อน
“โธ่ตา..อย่าใจร้ายแบบนี้สิครับ..
ผมอุตส่าห์ขัดใจแม่หอบผ้าหอบผ่อนมานอนกับคุณ คุณจะผลักไสผมไปนอนที่อื่นได้ลงคอจริง
ๆ เหรอ ?” โสภิตาหันมาเอามือออก แล้วตอบ นิ่ง ๆ “จริง !!”
โสภิตาหันหลังให้อนุชา แล้วก็เดินขึ้นบ้านไป..
“ตาฟังผมก่อน..ตา..ตาอย่าเพิ่งไป..ตา” อนุชามองตาเดินไปแล้วก็ถอนใจเบา
ๆ..เฮ่อ..วายุดูข่าวบันเทิงเกี่ยวกับอลินและ พสุ
ต่อมอิจฉาและอยากเอาชนะปรี๊ดขึ้นทันที “ซูเปอร์สตาร์กับพ่อครัว ถุย!!
ไอ้หมามองเครื่องบิน แกไม่มีทางจะได้สมหวังหรอกเว้ย ฉันคนนึง..ไม่มีวันยอม!”
วายุประกาศกร้าวววว.. ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
วายุหยิบมาดูเป็นเบอร์ไม่คุ้น วายุคิดแล้วก็กดรับ “ถ้าวางมึงตาย
!” เสียงนักเลงดังขึ้น วายุชะงักกึก..ตาล่อกแล่ก..ความกลัวคุกคาม
วายุบอกให้รอก่อนเพราะยังไม่พร้อมเรื่องเงิน นักเลงบอกเจ้านายไม่ชอบรอ
“ถ้าพรุ่งนี้มึงไม่รีบเอาเงินมาคืน.. ผู้หญิงที่อยู่ในรูป.. โดนแน่
!!” “ใคร ? ผู้หญิงคนไหน ? โดนอะไร...” วายุพยายามถาม
แต่สายก็ตัดไปก่อน ทันใดนั้นก็มีเสียงข้อความเข้ามาดังขึ้น ตื๊ด ๆ วายุชะงัก
รีบหยิบมาเปิดดู แล้วก็อึ้ง !!
เป็นรูปหมิงกำลังเต้นรำอยู่ในผับโชว์ขึ้นมา...วายุมาตามหมิงในผับบอกให้กลับบ้าน
หมิงโกรธที่วายุมาขัดความสุขกับเพื่อน ๆ วายุว่าอยากอยู่ให้พวกมันฆ่าก็ตามใจ
หมิง สงสัยว่าวายุพูดถึงอะไร แต่ยังไม่ทันถามต่อ
ก็มีมือหนาหยาบกร้านมาปิดลงที่ปากหมิง หมับ !! หมิงตกใจเฮือกกกกกก วายุตกใจ
ตาเหลือก พุ่งเข้าไปช่วย
แต่ทันใดนั้นเองก็มีปืนมาจ่อที่หัววายุ..พร้อมกับขึ้นไก..กริ๊กกกกก
วายุชะงักกึก หน้าซีด เหงื่อแตกพลั่ก....ค่อย ๆ
ปรายตาไปเห็นปืนที่กำลังจ่ออยู่ที่ขมับ..วายุหัวใจแทบจะหยุดเต้น หมิง
ยืนตัวแข็งทื่อ ตาเหลือก เลิ่กลั่ก กับภาพที่อยู่ข้างหน้า
และใครก็ไม่รู้ที่ปิดปากอยู่ข้างหลัง..หมิงอยากจะกรี๊ดดดดดด เหมือนในละคร
แต่ก็ทำไม่ด้ายยยยยยย
นักเลงที่เอาปืนมาจ่อหัววายุพร้อมขู่ให้วายุหาเงินมาคืน ถ้าไม่เอามาคืนทั้งรถ
ทั้งบ้านเละแน่ แต่ถ้าหนีหมิงและญาติพี่น้องวายุจะต้องเดือดร้อนแน่
ก่อนจะไปนักเลงอัดวายุซะสองสามทีจนทรุดลงไปกอง และผลักหมิงลงไปทับวายุ
หมิงยันตัวขึ้นได้รีบหันขวับมาโวยกับวายุทันที “ลม !!
บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น !!!”วายุและหมิงกลับมาบ้านที่บริบรรณ
ในขณะที่เดินผ่านห้องแม่ใหญ่หมิงบังเอิญได้ยินนงพะงาและแม่ใหญ่คุยกัน
เรื่องเมฆากับอี่บ่นว่าเงินไม่พอจ่ายค่าเทอมลูกเพราะเอาไปให้วายุยืม
เลยอยากให้รีบเปิดพินัยกรรม แต่ก็ยังเปิดไม่ได้เพราะต้องให้แม่ใหญ่สิ้นลมเสียก่อน
อ้อนว่าถ้าเปิดพินัยกรรมก็ดี พสุจะได้มีสมบัติและไม่ถูกกล่าวหาว่าไม่คู่ควรกับอลิน
หมิงมาปรึกษาวายุให้รีบขอให้นภาเปิดพินัยกรรม
วายุว่าทำไม่ได้เพราะแม่ใหญ่ยังไม่ตาย หมิงร้อนใจบอกรอให้แม่ใหญ่สิ้นลมพอดีตายก่อน
เพราะนักเลงก็ทวงทุกวัน แถมลูกคนใช้อย่างพสุยังจะได้แต่งงานกับอลิน
หากวายุไม่อยากให้คนอื่นรู้ข่าวความตกต่ำของตัวเองก็ให้รีบหาเงินมาเคลียร์ด่วน
วายุเครียดเพราะถูกกดดันอย่างหนักวายุคิดหนัก
และคืนนั้นก็ตัดสินใจย่องเข้ามาในห้องแม่ใหญ่ที่นอนหายใจรวยริน ไม่ไหวติง
วายุยืนอยู่ริมเตียง แววตาสั่นระริกไม่มีทางออก และในวูบต่อมานั้นเอง
วายุก็หยิบหมอนที่วางอยู่ข้าง ๆ ค่อยยกขึ้น แล้วปิดทับใบหน้าของแม่ใหญ่
วายุเบือนหน้าหนี
แล้วกดย้ำลงไปอีกครั้ง..จนแน่ใจว่าร่างที่อยู่ใต้หมอนสิ้นลมหายใจแล้วจึงค่อย ๆ
เอาหมอนออก วายุหน้าซีด มือสั่น ใจเต้นรัว วายุรีบวางหมอนกลับเข้าที่เดิม
แล้ววิ่งออกจากห้องหายไปในความมืดทิ้งร่างไร้ลมหายใจของแม่ใหญ่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
วายุวิ่งพรวดพราดออกมาจากบ้าน ใจยังสั่น หน้าซีด เหงื่อซึม ชะงักเท้านิด ๆ
ด้วยความรู้สึกผิด..ลังเลว่าจะบอกคนอื่นดีมั้ย..แต่แล้วก็ตัดสินใจหันหลังแล้วรีบเดินมาที่รถ
และขับออกไปอย่างเร็วเช้าวันรุ่งขึ้น นงพะงาเข้าไปเห็นแม่ใหญ่
สิ้นลมก็จะรีบไปบอกนภา พอดีเจอเข้ากับวาริน
วารินเห็นสภาพแม่ใหญ่ที่ใบหน้าบูดเบี้ยวนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง..วารินช็อกอลินเชิดหน้าพร้อมรอยยิ้มของผู้ชนะ
“ฉันมีข่าวดีจะบอกนาย !! เมื่อวานครูกุ๊กแวะมาหาฉันด้วยความเป็นห่วง
พร้อมกับน้ำใบบัวบกที่ทำเองกับมือ” ปฏิคมหน้านิ่ง..แอบกลุ้มเล็ก
ๆ ไม่ได้ตื่นเต้นไปด้วยแม้นิดเดียว !! แต่อลินไม่ทันสังเกตยังโม้ต่อ
“แสดงว่าครูกุ๊กเริ่มใจอ่อนแล้ว อีกไม่นานฉันกับครูกุ๊กก็คงจะได้ลงเอยกัน..
ที่ฉันเรียกนายมาวันนี้ก็เพื่อจะสั่งให้นายไปเตรียมงานแต่งงานให้ฉันกับครูกุ๊กล่วงหน้าได้เลย
จะได้ไม่ต้องเสียเวลา” หะ !!
ปฏิคมหันขวับมาทางอลิน “เตรียมงานแต่งงานคุณลินกับไอ้ดิน
!!” “ใช่ !
แหม..ไม่ต้องทำเป็นช็อกหรอกน่า...ฉันรู้..ตื่นเต้นกับข่าวดีของฉันล่ะสิ....”
โหนเสียงสูง พร้อมกับยิ้มเข้าข้างตัวเอง
“เอ่อ..คุณลินจบข่าวดีแล้วใช่มั้ยครับ..
งั้นฟังข่าวร้ายของผมต่อนะครับ” “ข่าวร้ายอะไร ?”
อลินชักสีหน้า
“เมื่อเช้าคุณแม่ใหญ่..ภรรยาคนแรกของคุณพ่อไอ้ดินเพิ่งจะเสียชีวิต
หลังจากที่นอนเป็นอัมพาตมา 2 ปีกว่า..ผมคิดว่ามันคง
ไม่มีเวลาว่างงงงงง...มาจัด “งานแต่งงาน” กับ คุณลินแน่ ๆ
ครับ..เพราะมันจะต้องเอาเวลาที่ มีไปเตรียม “งานศพ”
อลินผงะ..โห..แร้งงงงงง !!

จบตอนที่ 22

สูตรเสน่หาตอนที่ 23

นภายืนน้ำตาคลอ ๆ มองดูร่างไร้วิญญาณของแม่ วารินยืนอยู่ข้าง ๆ อีกด้านเป็นอี่
นงพะงาและพสุยืนห่างออกไป นภามองไม่เห็นวายุ จึงถามถึง วารินบอกไม่ทราบ มือถือก็ปิด
นภาว่าให้รีบติดต่อวายุเพราะบ่ายนี้จะให้ทนายมาเปิดพินัยกรรม วาริน และอี่หูผึ่ง
เมฆาก็ตื่นเต้นนิด ๆ พสุไม่ได้สนใจมากนัก ทั้งวารินกับอี่สามัคคีกันขึ้นมากะทันหัน
กุลีกุจอรีบออกไปติดต่อหาลม นภาบอกให้เมฆาติดต่อโรงพยาบาลเรื่องรับศพแม่ใหญ่
ก่อนจะหันมาบอกพสุให้จองวัดและจัดอาหารเลี้ยงแขกที่จะมาในงาน และขอ
ให้นงพะงาอยู่ก่อนเพราะตำรวจกำลังมา
พสุแปลกใจว่าทำไมถึงมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง
“คุณแม่เสียในบ้านตำรวจต้องมาชันสูตร ศพ
ถึงจะออกใบมรณบัตรให้ได้” “แล้วทำไมแม่ต้องอยู่”
“แม่เป็นคนแรกที่พบศพคุณนายใหญ่จ้ะ...” นงพะงาตอบซื่อ แต่พสุรู้สึกแปลก
ๆ ชอบกล วารินโทรฯมาหาหมิงและบอกให้แจ้งวายุด้วยเรื่องแม่ใหญ่ตายแล้ว
วายุนิ่ง..อึ้ง.. สภาวะใจสั่น..กลับคืนมาอีกครั้ง..ยังทำใจไม่ค่อยได้
หมิงเห็นวายุหน้าซีด ๆ ก็ถาม วายุรีบบอกไม่เป็นอะไรแค่ตกใจ
หมิงว่าบังเอิญมากที่เพิ่งจะพูดเรื่องแม่ใหญ่เมื่อวาน แต่วันนี้ตายเสียแล้ว
วายุไม่มีอารมณ์จะคุยเดินหนีไปเลย หมิงงง ๆ
ว่าวายุเป็นอะไรพสุเดินมาที่บ้านแต่ก็ต้องชะงักเท้ากึก
เพราะอลินยืนรออยู่ในชุดดำอย่างเท่ ! อลินยิ้มให้พสุ
พสุไม่ยิ้มด้วย “วันนี้ผมไม่มีเวลามาดูคุณเล่นละคร หรือวางแผนหลอกใช้คนอื่น
ถ้าจะมาทำอะไรไร้สาระก็กลับไปได้เลย” พสุจะเดินเข้าบ้าน
อลินรีบเดินมาดัก “เดี๋ยวสิ..
ฉันไม่ได้จะมาทำอย่างที่คุณบอกสักหน่อย แต่ที่มาเพราะฉันเป็นห่วง !!
แล้วก็อยากจะมาช่วย ไม่เห็นเหรอว่าฉันแต่งชุดดำมาอย่างเรียบร้อย
ตั้งใจจะมาแบ่งเบาภาระไม่ได้จะมาสร้างภาระสักหน่อย ไม่ยอมถามก็ไล่ซะแล้ว”
น้ำเสียงแอบตัดพ้อ พสุแอบรู้สึกผิดนิด ๆ แต่ก็ยังเก๊ก
“ก็ผมไม่ได้ขอร้องให้มาช่วย อยากมาเอง..โดนไล่ก็ช่วยไม่ได้” แน้..พสุไม่สน
แล้วก็เดินเข้าบ้านไป..อลิน ชักสีหน้านิดนึง เกือบจะถอดใจวีน
แต่ก็ระงับไว้แล้วก็หันมาจะตะโกนเรียก แต่ได้ยินเสียงนภาเรียกพสุเช่นกัน
อลินชะงักนภามองหน้าอลินแล้วสงสัยนิดนึง พสุหันมา
อลินมองหน้านภาด้วยความฉลาดก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นคนสำคัญในบ้านนี้แน่ ๆ
อลินยกมือไหว้อย่างสวยงาม พร้อมแนะนำตัวอย่างไม่เขิน
“ลินเป็น...” อลินกำลังจะแนะนำตัว พสุรีบแทรก “อดีตลูกศิษย์ของผมครับ..
คุณฟ้ามาหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ” อลินชะงักนิด ๆ แอบทำปากพึมพำ
นภามาบอกให้พสุไปร่วมฟังการเปิดพินัยกรรม
พสุไม่อยากไปเลยบอกว่าจะต้องเตรียมเรื่องจองวัดและอาหารตามที่นภาบอก
อลินจึงรีบขันอาสาว่าจะทำให้ พสุจะแย้ง
แต่อลินก็รีบพูดขึ้นว่าหากนภาไม่รังเกียจพร้อมจะทำอย่างเต็มที่
นภาบอกพสุว่าไม่ต้องห่วงเรื่องงานศพแล้ว ให้ไปร่วมฟังการเปิดพินัยกรรมได้
ก่อนจะหันมาทางอลิน “ขอบใจมากนะที่ช่วย ..
แล้วก็..ขอบใจสำหรับการสัมภาษณ์เรื่องน้านงกับดิน..
ขอบใจที่เธอไม่รังเกียจน้องชายของฉัน” ตึ่งงงงงง !!
นภาแอบทิ้งหางตามาที่พสุอย่างรู้ใจ..พสุอึ้งไป อลินยิ้มหน้าบานแฉ่งงงงง
!! นภาเดินไป อลินหันมาทางพสุ พสุหันหน้า หนีซ่อนความเขิน
อลินเอาไหล่มาชนไหล่พสุ “นี่..พี่คุณพูดอะไร ได้ยินบ้างป่ะ ใคร ๆ
เขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าฉันแสนดียังไง มัวแต่เล่นตัวอยู่ได้ นี่..
เลิกงอนได้แล้ว” อลินเอาไหล่มาชนอีกที พสุเอามือยันหัวอลินออกไปจากไหล่ อลินร้อง
“โอ๊ยย !!”
“พี่ฟ้าเขาไม่รู้จักคุณดีพอ..ถ้าเขารู้เท่าที่ผมรู้ เขาจะไม่พูดแบบนั้น..
แล้วที่รับปากว่าจะช่วยงาน ก็ทำให้ได้ตามที่พูดไว้ .. โดยไม่ต้องใช้คนอื่น
โดยเฉพาะไอ้คม !! ถ้าผมรู้ว่าคุณไม่ได้ทำด้วยตัวเอง
ก็อย่าหวังเลยว่าผมจะยกโทษให้คุณ !!” พสุข่มขู่ ก่อนเดินตามนภาไป
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า..คนอย่างอลิน.. พูดคำไหนคำนั้น ฉันบอกว่าจะทำ
ฉันก็ต้องทำเอง !!” อลินประกาศกร้าว ที่ร้านอาหาร
อลินมาบอกให้ปฏิคมจัดการเรื่องงานศพแม่ใหญ่ ปฏิคมถึงกับอ้าปากค้าง เห็นข้าวเต็มปาก
อลินร่ายยาวเป็นชุดให้จัดการโน่นนี่ ปฏิคมถามว่าอลินไปเกี่ยวอะไรด้วย
อลินบอกไม่ต้องถามและห้ามปฏิคมบอกพสุด้วยว่าเธอมาใช้ให้ปฏิคมทำ
ตบท้ายด้วยการขู่ว่าหากไม่ทำจะให้อนันต์ยึดบริษัทปฏิคมคืน ...แน้
“คุณลินหาเรื่องให้ผมอีกแล้ว.. เฮ่อ..
แล้วที่คุณลินมาเต้นแร้งเต้นกาจัดงานศพแบบนี้
คนที่บ้านนั้นเขาไม่งงเหรอครับว่าคุณลินเป็น ใครถึงได้เข้าไป “ยุ่ง” เอ่อ..เข้าไป
“ช่วยยยย” แบบนี้” “เขาจะงงทำไม ใคร ๆ
ก็รู้ว่าฉันมาช่วยในฐานะ
“ว่าที่แฟนครูกุ๊ก”..อีกอย่างไม่มีใครเขาว่างมาจัดการงานศพหรอก ป่านนี้คงจะ
สนใจแต่เรื่องเปิดพินัยกรรม” ปฏิคมชะงักนิด ๆ
“เปิดพินัยกรรม”เจ้าหน้าที่กำลังเก็บศพแม่ใหญ่ ส่วน
ตำรวจก็กำลังเคลียร์เรื่องสถานที่ วายุค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องอย่างช้า ๆ
แววตาสั่นระริก.. มาหยุดอยู่ข้างเตียง..มองศพที่นอนนิ่งอยู่เบื้องหน้า น้ำตาคลอ
ด้วยความสำนึกผิด.. นภาเรียก วายุถึงกับสะดุ้ง
“ทุกคนพร้อมแล้ว... จะได้เปิดพินัยกรรมกันสักที” “ครับ
....” แววตาที่สั่นระริกของวายุฉายแววความหวังจาง ๆ ขึ้นมาทันที..
นภาพยักหน้ารับ แล้วก็เดินนำออก ไปจากห้อง วายุหันมามองศพแม่ใหญ่อีกที
เหมือนจะขอโทษผ่านทางสายตาก่อนจะตัดใจ
หันหลังให้แล้วเดินตามนภาออกไป...พี่น้องทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง
นภาซึ่งนั่งเป็นประธานอยู่บอกให้ทนายประสงค์ซึ่งยืนอยู่หลังตนเอง
เปิดพินัยกรรมออกอ่านได้ประสงค์เดินขยับเข้ามาใกล้ ๆ และเริ่มเปิดพินัยกรรมอ่าน
ทุกคนดูตื่นเต้นสุด ๆ มีเพียงพสุเท่านั้นที่หน้านิ่งเรียบ ไม่ได้มีความหวังใด ๆ
“พินัยกรรมของคุณพจน์ บริบรรณ ระบุไว้ดังนี้.. นางนงพะงา
บริบรรณ ถ้าในวันที่อ่านพินัยกรรมฉบับนี้นางนงพะงายังไม่ได้สมรสใหม่
และยังอาศัยอยู่ในเขตบ้านที่แบ่งไว้ให้ นางนงพะงาจะได้สิทธิในที่ดินอีกสองแปลงคือ
ที่ดินที่รังสิตเนื้อที่สิบไร่ และที่ดินที่ระยองเนื้อที่กว่าห้าสิบเก้าไร่
และอนุญาตให้ย้ายออกจากบ้านได้
โดยมีข้อแม้ว่าต้องขายที่ดินในเขตบ้านบริบรรณคืนแก่กงสีในราคาสิบล้านบาท”
นงพะงาหน้าตาตกใจกับสิ่งที่ได้รับ พสุแปลกใจไม่น้อยไปกว่ากัน
วายุกัดฟันกรอด..เสีย ดายทั้งเงินและที่ วารินเชิดหน้านิด ๆ เคือง
“สำหรับลูกชายทั้งสามคน คือ นายเมฆา นายวายุ และนายพสุ จะได้รับเงินสดคนละ 30
ล้านบาท อี่ถึงกับตาโตวาว..เมฆายิ้มนิด ๆ พอใจ แล้ว
ในขณะที่วายุนั่งนิ่งเครียด.. ปรายตาจิกมาทางพสุด้วยความขัดใจ พสุกำลังยืนอึ้ง ๆ..
มึน ๆ เหมือนฝัน ๆ และไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นความจริง
นงพะงามองหน้าพสุยิ้มนิด ๆ ไม่น่าเกลียด แต่วารินไม่พอใจอย่างแรง ใจเต้นตึก ๆๆๆ
“นางสาวนภา บริบรรณ จะได้รับเงินสดยี่สิบล้านบาท
หุ้นที่ครอบครัวลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นของบริษัท และรายได้จากการให้เช่า
อสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ให้เป็นสิทธิขาดของนางสาวนภา
ไม่ต้องเข้ากองกลางอีกต่อไป” นภาพยักหน้ารับรู้ วารินตื่นเต้นสุด
ๆ “นางสาววาริน บริบรรณ ได้รับเงินสดสิบล้านบาท และที่ดิน 1
ไร่ที่หนองจอก นอกจากนี้ยังมีตึกแถวสี่ชั้นสามคูหาที่สีลม
ต่อจากนี้ไปให้นายพสุถือครองสิทธิแต่เพียงผู้เดียวไม่ต้องเก็บค่าเช่าเข้ากงสีอีกต่อไป
!!” หะ ? พสุอึ้ง..ตกใจ .. วารินหุบยิ้มชักสีหน้า ลุกพรวด
โพล่งขึ้นมาทันที “อะไรกัน !! ค่าเช่าตึกเดือนตั้งหลายแสนทำไมเป็นของดินคนเดียว
อ่านผิดหรือเปล่า?” พสุชะงักกึก ประสงค์ก้มดูอีกที “ไม่ผิดครับ
.. คุณท่านเขียนไว้แบบนี้จริง ๆ แต่..”
“ไม่จริง...ฉันไม่เชื่อ..” วารินแว้ดขึ้น นภาแย้งขึ้นเสียงดุ
“น้ำ..เงียบแล้วนั่งลงได้แล้ว นั่งลง !!”
วารินจำใจต้องนั่งลงอย่างกระฟัดกระเฟียด ไม่พอใจอย่างแรง
นภาหันมาทางประสงค์พยักหน้า ให้อ่านต่อ
“แต่..คุณท่านระบุไว้ว่า.. คุณพสุจะได้สิทธิ
ในตึกแถวก็ต่อเมื่อแต่งงานมีครอบครัวและย้ายออกไปพร้อมกับสละสิทธิในการรับเงินกงสีจากครอบครัวเท่านั้น
!!” พสุสะอึกนิด ๆ เมื่อได้ยินคำว่าแต่งงาน มีครอบครัว..เขิน ๆ
แปลก ๆ แต่วารินก็ยังเคืองอยู่ดี ทนายปิดพินัยกรรม และพูดปิดท้าย
“พินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวเขียนไว้มีเพียงเท่านี้
ใครมีข้อสงสัยหรือเปล่าครับ” “มี ! เงิน 30
ล้านของฉันจะได้เมื่อ ไหร่ ??” วายุโพล่งขึ้น !!
ประสงค์หันมาทางนภา หลบ ๆ ตาเหมือนไม่กล้าพูด นภากับทนายรู้กัน
นภาจึงหันมาตอบแทน
“เรื่องเงินของลม..พี่ขอคุยอีกที..เป็นการส่วนตัว !!”
วายุชะงักกึก !! นภาเรียกวายุมาพบในห้องทำงาน และยื่น
เอกสารที่มีลายเซ็นวายุเอาเงินกงสีไปทำธุรกิจในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
วายุไม่พอใจหยิบเอกสารมาดู
แต่ยิ่งเปิดเอกสารก็เถียงไม่ออกเพราะมีลายเซ็นตนเองกำกับทุกใบ
วายุโยนเอกสารไว้บนโต๊ะ และบอกว่าไม่เกี่ยวกับเงินมรดกที่จะได้
นภาบอกเกี่ยวเพราะทุกคนที่วายุยืมก็บอกว่าเปิดพินัยกรรมแล้ว จะใช้คืน
เป็นเงินทั้งหมด 25 ล้าน และนภาจะให้ทนายความโอนเงินของวายุเข้าบัญชีให้
“5 ล้าน !! ไม่นะพี่ฟ้า..แค่ 5 ล้านไม่ได้..
ผมต้องการมากกว่านั้น !!” วายุหน้าเสีย นภาเริ่มรู้สึกผิดสังเกต
“เงิน 5 ล้านไม่ใช่น้อยนะ ทำไมยังไม่พออีก ลมมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
วายุเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยรีบหลบหน้า แล้วก็ตัดบท ตามประสาวัวสันหลังหวะ
โดยบอกว่าไม่มีปัญหาเพียงแต่รู้ว่าเขาควรจะได้
มากกว่าพสุซึ่งเป็นลูกคนใช้ วายุประกาศกร้าว
อย่างไม่พอใจใส่หน้านภา...แล้วเอามือปัดเอกสารยืมเงินก่อนจะเดินออกไปด้วยความโกรธอย่างแรง
นภาได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเอือม แล้วก็คิดถึงพสุพสุหยิบเอกสารชี้แจงพินัยกรรมมาดู
นภาเดินเข้ามาหาพร้อมกับถามว่ามีปัญหากับข้อความในพินัยกรรมหรือเปล่า
พสุหันมาบอกไม่มีแต่พ่อให้เขามากเกินไป นภายิ้ม ๆ
กับท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัวของพสุที่เธอเห็นมาตั้งแต่ เด็ก
และว่าไม่มากเกินไปเพราะพสุก็เป็นลูกคนหนึ่งเหมือนกัน
“ผมขอโทษที่เคยเข้าใจคุณฟ้าผิด แล้วผมขอบคุณที่เมตตาผมกับแม่” พสุยกมือ
ไหว้พี่สาว “สำหรับพี่ น้องทุกคน
ไม่ว่าจะมาจากแม่คนไหนก็คือน้อง... แล้วเรื่องตึกแถวที่สีลม..
พี่จะให้คุณประสงค์จัดการโอนเป็นทรัพย์สินของดินทันทีที่ดินแต่งงาน !!”
“เอ่อ..คือ..ผมยังไม่คิดเรื่องนั้น” พสุหลบตาอาย ๆ
“คิดบ้างก็ดีนะ..อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว.. และตอนนี้ดินเองก็พร้อมทุกอย่าง
ไม่ว่าคนนอกจะมองดินว่าเป็นใคร..แต่ดินอย่าลืมฐานะที่แท้จริงของตัวเอง
ดินไม่ได้ต่ำต้อยอย่างที่เป็นข่าว ..
ขนาดผู้หญิงเขายังไม่ดูถูกเรา..เราก็ต้องไม่ดูถูกตัวเอง ..” นภายิ้ม แล้วเดินมาใกล้
“ผู้หญิงอย่างอลิน..หาไม่ได้ง่าย ๆ นะ” นภายิ้มนิด ๆ บอกเป็นนัย
ๆ แล้วเอื้อมมาหยิบเอกสารพินัยกรรม ก่อนจะเดินออกไป
ทิ้งให้พสุยืนอยู่กลางบ้านที่ใหญ่โตหรูหรา วูบนั้นเองที่พสุคิดถึงอลิน ..
“ผู้หญิงที่หาไม่ได้ง่าย ๆ”อลินนั่งอยู่ในศาลาวัด กำลังโบ๊ะหน้า อยู่
กรีดกรายราวกับคุณนาย
ด้านหน้าอลินเห็นปฏิคมยืนสั่งงานทีมงานจัดตกแต่งศาลาวัดอย่างขะมักเขม้น เหงื่อชุ่ม
หัวยุ่ง เสื้อผ้ามอมแมม หลุดลุ่ย หัวหน้ากรรมกรชัด ๆ
ทีมงานถามปฏิคมเรื่องข้อความที่จะเขียนป้ายหน้าศาลา ปฏิคมบอกขอถามเจ้าภาพก่อน
หันไปมองอลิน ที่กำลังนั่งเป็นนางพญาอยู่ก็เลยแขวะเข้าให้ว่า
อลินเหนื่อยไหมในฐานะแม่งาน
อลินหันมาบอกทั้งเหนื่อยและร้อน
“เมื่อไหร่นายจะเตรียมสถานที่เรียบร้อยสักที
เดี๋ยวครูกุ๊กกับแม่มาฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน รับปากว่าจะทำอย่างดิบดี
แต่นี่ไม่มีอะไรเรียบร้อยสักอย่าง
ความน่าเชื่อถือในการจะเป็นลูกสะใภ้ของฉันป่นปี้กันพอดี !!”
“โห.. ผมแค่ประชดขำ ๆ
นี่คุณลินด่าได้จริงจังมากเลย...คอยดูนะ..ถ้าไอ้ดินมาผมจะฟ้อง..บอกว่าคุณลินใช้งานผมเยี่ยงทาส
รับอาสา แต่ไม่ยอมทำงานเอง !” อลินเท้าสะเอว “เอาซี้ !
ถ้านายไม่กลัวภาพที่ฉันจับนายแต่งหญิงตอนเป็นเด็ก ๆ ถูกโพสต์ในไฮไฟ
และเฟซบุ๊ก ให้ชาวบ้านเอาไปนินทาว่านายเป็นตุ๊ด ! ก็ลองฟ้องดู !!”
“คุณลิน..” “นี่ไม่ต้องมาทำหน้าช็อก !
อย่าคิดนะว่าฉันจะไม่กล้าทำ..” อลินเชิดหน้า
“ปล่ะ..เปล่า..แต่..คุณลิน..ไอ้ดิน..มา” หะ ? ..
อลินหันขวับไป เห็นพสุ กำลังเดินมา จึงรีบดันปฏิคมไปอยู่ใต้โต๊ะ และ
เอาผ้ามาคลุมไว้ อลินยัดปฏิคมเข้าที่ซ่อน เรียบร้อยแล้วก็รีบวิ่งมาที่กระเป๋าสะพาย
หยิบสเปรย์น้ำแร่หรูมาฉีดใส่หน้า ทำเป็นเหงื่อออก
จากนั้นก็ขยี้ผมให้ยุ่งนิด ๆ และหันรีหันขวางหยิบสมุดโน้ตออกมา
พร้อมกับปากกาแล้วทำเป็นเก๊กสั่งงานอย่างทะมัดทะแมง “เอ่อ..
พวงหรีดตรงนั้นน่ะขยับขึ้นสูงหน่อย ใช่ ๆ อันนั้นแหละ ส่วนโต๊ะก็ตั้งตรงนี้
เก้าอี้ชุดนั้นมาวางตรงนี้เลย..ส่วนอันนั้นก็ยกลงไป..เร็ว ๆ ด้วย..”
เจ้าหน้าที่หันมาแล้วก็ขยับตามงง ๆ พสุเดินมาหยุดยืนหลังอลิน
อลินยังเก๊กทำงานอย่างหน้าไม่อาย พสุมองแล้วคิดถึงคำพูดของนภา แววตาพสุแอบอ่อนลง
“รีบ ๆ ทำกันหน่อยนะคะ งานจะเริ่มแล้ว
ฉันไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด..เฮ่อ...” ทำเป็นปาดเหงื่อเพื่อให้สมจริง
อลินหันมาทำเป็นแปลกใจนิด ๆ ที่เห็นพสุ
พสุรีบเก๊กสายตาไม่เผยความหวั่นไหว
“อุ๊ยย์...ครูกุ๊ก...ทำไมมาเงียบ ๆ ตกใจหมดเลย..” อลินยิ้มแอ๊บตกใจซะเนียน
ปฏิคม ถึงกับส่ายหน้า..เฮ่อ..มายาจริง ๆพสุพยายามจะเก๊กถามว่าเตรียมงาน
ถึงไหนแล้ว แต่แววตาก็แสดงถึงความห่วงใย
อลินยิ้มแฉ่งบอกเกือบเรียบร้อยแล้ว และแอบปาดเหงื่ออีกทีเรียกความสงสาร
พร้อมกับบอกว่าต้องเตรียมอะไรบ้างที่ยังไม่เสร็จ ก่อนจะจบท้ายว่าเหนื่อยจริง ๆ
อลินหวังจะให้พสุเห็นใจ แต่ “ลำบากมากนักกลับบ้านไปก็ได้นะ
เดี๋ยวผมทำต่อเอง” ป่อยยยย..อลินหน้ามึน..ไปไม่เป็นเลย..อลิน สะอึก
ปฏิคมจะหลุดขำนึกได้รีบเอามือปิดปาก...ครึครึ !! สะใจว่ะเพื่อน
อลินแอบน้อยใจลึก ๆ แต่ก็ไม่กล้าโกรธ “ไม่ได้จะบอกว่าลำบากก็แค่เล่าสู่กันฟัง
.. ทำเป็นไล่ไปได้” “ไม่ได้ไล่ ก็เห็นบอกว่าเหนื่อย”
พสุเห็นแล้วก็แอบใจอ่อน อลินหันมาหลิ่วตา “เอ๊ะ...หรือว่า..จริง ๆ
แล้วพูดเพราะเป็นห่วงล่ะซิ..” “อาไร ๆ ใครเป็นห่วง คิดไปเอง !!”
พสุเขินท่าทางปิดไม่มิด “เชอะ..ปากแข็ง !!”
“แล้วนี่..ตั้งแต่เช้าทำอยู่คนเดียว เหรอ ?”
พสุมองซ้ายมองขวาไม่ค่อยเชื่อใจ “คนเดียวววววว !!!
ก็ฉันรับปากครูกุ๊กไว้แล้วว่าจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ฉันก็ต้องทำตามที่พูดไว้
ฉันเป็นคนรักษาคำพูด..คำไหน..คำนั้น” พสุมองอลิน..ซึ้งใจ
ปฏิคมกรอกตา เอาหัวโขกพื้น..เครียดดดดดดด !!
อลินปาดเหงื่ออีกทีสมบทบาท...พสุมองหน้าอลินแล้วก็ตัดสินใจพูดขึ้น
“วันนี้ที่เปิดพินัยกรรม.” “ค่ะ.. “อลินลุ้น ๆ
“ผมได้..” พสุยังพูดไม่จบ
เจ้าหน้าที่ก็เดินเข้ามาหาอลินแล้วก็ถามขึ้นว่าผู้ชายที่คอยสั่งงานตั้งแต่เช้าหายไปไหน!!
หะ ? อลิน หน้าเสีย พสุชะงักหยุดพูด หันมาทางอลิน แววตาเต็มไปด้วยคำถาม
ปฏิคมสะอึก..หน้า เหวอ..เอาไงดี พสุมองหน้าอลิน “ก็..
มัคนายกน่ะ !! คือเค้ามาช่วย.. นิดหน่อย” อลินยิ้มเอาหน้ารอด
เจ้าหน้าที่บอกไม่ใช่มัคนายก พร้อมกับบรรยายรูปร่างหน้าตาที่ตรงกับปฏิคมเดี๊ยะ
หือ...อลินสะอึก.. อ้ายยยยนี่ ไม่พูดจะตายมั้ยหะ ?
พสุมองหน้าอลิน..อีกที..แววตาเริ่มดุ “ไอ้คม !!”

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : ไทยรัฐ

Readlakorn เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ ละครเกาหลี ละครช่อง3

Related Posts



4 comments:

Anonymous said...

ขอบคุณค่ะสำหรับบทละครสูตรสเน่หา อ่านเพลินเลย ชอบ แอนกับเคนมากเลยค่ะ หวังว่าตอนต่อไปจะเอามาลงเร็วๆนะคะ จะตั้งตารอเลยหล่ะ

แอนนา

Anonymous said...

ขอบคุณนะคะที่เอามาให้อ่านกัน
ติดเรื่องนี้มากมาย
กำลังรอตอนต่อไป อยากให้เอามาลงเร็วๆจัง
เราเปิดมารอดูอันใหม่ทุกวัน เช้าเย็นเลย หลายวันแล้ว

Anonymous said...

เข้ามาเม้นให้คนแรกเลยเหรอเนี่ย หุหุหุ
ขอบคุณที่อุตส่าโพสมาให้อ่านนะคะ
สนุกมากค่ะ อยากอ่านต่อจัง มีทั้งหมดกี่ตอนคะ

ทัวร์เกาหลี on 12/18/2009 said...

มีแต่คนบอกว่าเรื่องนี้ตลก ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลย

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal