Wednesday, November 11, 2009

สูตรเสน่หา - เรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ - สูตรเสน่หา ตอนที่ 6(ต่อ)-10

สูตรเสน่หาตอนที่ 6 (ต่อจากวานนี้)

จากนั้น ทั้งนงพะงากับอ้อนก็บอกพสุว่า ปฏิคมให้คนส่งของมาให้ พสุจึงช่วยแกะกล่องออกดู เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวอย่างดีวางเป็นตั้งถึง 6 ตัว เอามาชูดู มันเป็นเสื้อที่ตัดเย็บหรูหราราคาแพง ขาวสะอาดกว่าชุดเชฟที่พสุมีแขวนๆไว้...พสุเปิดอีกกล่อง เป็นชุดทำครัว ยี่ห้อเวอร์ซาเช่ ราคาแพงหูฉี่...ราคาหลักแสนบาท แม่ถามว่า นายเปี๊ยกส่งมาให้เขาทำไม จึงได้รู้ว่า ส่งมาตามที่นายที่เป็นศิษย์ดินสั่ง...
แล้วยังมีจดหมายมาด้วย...อลิ นเขียนมาว่า ชุดเชฟมันน่าเบื่อ เธอจึงให้ดีไซเนอร์ส่วนตัวออกแบบให้ครูกุ๊ก รับรองไม่เหมือนใคร เท่ระเบิดแน่ แล้วห้ามลืมปากกาที่เธอให้ไว้ก่อน ถึงจะไม่ได้เขียน แต่ใส่เป็นเครื่องรางของขลังจากเธอ แล้วลงท้ายด้วยการอวยพรให้โชคดีอีกด้วย...
จากนั้นพสุก็หอบของออกจากบ้านจะไปขึ้นรถไปทำงาน นายลมมาขวางหาเรื่อง พสุบอกเขาจะรีบไปทำงาน ลมกลับสั่ง
" ฉันยังไม่ให้ไป แกกับฉันมีเรื่องต้องคุยกัน" พสุขอร้อง เอาไว้คุยทีหลัง "ฉันสั่ง...แกไม่มีสิทธิ์แย้ง ต้องทำตามเท่านั้น" พสุเดินหนีถูกตวาดใส่ ถามย้ำแกจะไปไหน พสุกะจะเดินหนีให้พ้นๆ ลมตามกระชากไว้ ฐานหยิ่งไม่ฟังเสียงเขา พสุหมุนไปตามแรง ลมเห็นปากกาทองที่เสื้อจะหยิบมาดู ถามว่า ไปรวยมาจากไหน พสุไม่ให้ ลมตวาดจะดึงมาจึงเกิดแย่งกัน ถุงของจึงหลุดกระเด็นของหล่นกระจาย
ลมเห็นของถึงตะลึง หาว่าไปไถเงินพี่ฟ้ามาซื้อของแพงๆราคาเป็นแสน แล้วยังปากกาอีก พสุบอกตามตรงว่าลูกศิษย์เขาให้มา ลมจึงย้อนทันทีว่าไปสอนอะไรแน่ถึงได้ของแพงๆมาขนาดนี้ พสุเตือนอย่าพูดถึงลูกศิษย์เขาแบบนี้ เธอจะเสียหาย ลมจึงรู้ว่าเป็นผู้หญิง
" นึกแล้วว่าต้องเป็นผู้หญิง แกคงจัดคอร์สพิเศษ สอนกันถึงอกถึงใจ ลูกศิษย์ถึงประเคนของให้แบบนี้ ฉันว่าแกเลิกสอนทำครัวดีกว่า แล้วไปเป็นไอ้ตัวท่าทางจะรุ่งกว่า" พสุกัดฟันกรอด กำมือแน่น
"ลม...พูดแรงเกินไปแล้วนะ" เสียงพี่ฟ้าดัง ทำเอาลมหยุดหน้าจ๋อยไป...พสุได้แต่ก้มหน้าเซ็ง
คุณ นภา พี่ฟ้าของทุกคนพาไปชำระความในบ้าน บอกทุกคนว่าเธอเบื่อ ไม่รู้ว่ามาชำระความเรื่องไม่เป็นเรื่องกี่หนแล้ว "เมื่อไหร่ลมจะเลิกหาเรื่องดินสักที"
ลมรู้ว่าถูกตำหนิจึงตัดพ้อว่า พี่ฟ้ายังไม่ถามเขา แล้วลำเอียงตัดสิน วารินวิ่งมาเตือนน้องชายให้ใจเย็นๆ แล้วให้ลมเล่าความจริงให้พี่ฟ้าฟัง ลมจึงบอกว่าเขาสงสัยว่าดินสอนแม่บุญทุ่มทำอาหารแบบไหน ถึงได้พิศวาสให้ของราคาแสน ปากกาทองอีก เมฆามาถึงก็ถามว่าเป็นกิ๊กกันรึเปล่า?
"เอาละ ลูกศิษย์ดิน จะให้เป็นแสนเป็นล้าน มันเรื่องของดิน ลมไม่เกี่ยว ไม่ควรไปวิพากษ์คนอื่น เอาเวลาไปดูแลกิจการของเราดีกว่า" แล้วพี่ฟ้ายังหันไปสั่งพสุไปทำงานได้แล้ว...จากนั้นจึงสั่งลม
"พี่จะคอย ห้ามเธอกับดินเป็นครั้งสุดท้าย คราวหน้าพี่จะใช้วิธีหักเงินลมจนหมดแล้ว แต่ยังก่อเรื่องอีก พี่ก็จะหักในส่วนของพี่ๆคนอื่นแทน" นภาหยุดครู่หนึ่ง เสียงสมาชิกทั้งสี่คนร้องอู้ไม่เห็นด้วย นภาสำทับต่อ "ฉะนั้น ช่วยกันคุมความประพฤติน้องชายให้ดี ก่อนจะหมดตัว"
หลังจากนั้นทั้งสี่คน ก็ไปสุมหัว ต่างก็ไม่ยอมตามที่พี่ฟ้าวางกฎเหล็ก นายลมกร้าวประกาศไม่กลัว...แต่หลายคนขอให้กลัวไว้ เพราะพี่ฟ้าเอาจริง จากนั้นทั้งสี่คนจึงสรุปว่า ขอให้อ่อนเข้าให้พี่ฟ้าไว้ เมฆาอาวุโสกว่าจึงสรุป
"อย่าไปหาเรื่องดิน เราหันมาเอาใจพี่ฟ้าจะดีกว่า พี่ฟ้าใจอ่อนจะตาย ประจบนิดหน่อย อยากได้อะไร พี่ฟ้าก็ให้หมดแหละ"
"เอาใจพี่ฟ้า..." วายุหรือนายลมเริ่มคิด...
จาก นาทีนั้น นายลมวายุกิ๊กติดหนึบของหมิงดาราเจ้าบทบาท จึงไปเสนอให้หมิงช่วยเพราะพี่ฟ้าเป็นคนคุมมรดก แต่กลับเอาใจลูกคนใช้ทั้งๆ ที่เป็นแค่กุ๊กฝรั่ง เขาจะดึงพี่ฟ้ากลับมา หมิง เป็นสิ่งที่เขาภูมิใจที่สุด เลยจะพาไปโชว์ตัว เรียกเรตติ้งคืน...แล้วหมิงจะได้เจอไอ้กุ๊กลูกคนใช้แน่นอน
ooooooo
วัน นี้อลินไปบริษัทอวตาน ในที่ประชุมชมเชยผลงานของอลินจนเรตติ้งพุ่งพรวดๆ ลูกค้าชอบมาก เรื่องที่มีนักข่าวมาแจม จนควรขอบคุณหมิงที่พานักข่าวไป อนุชาเสนอ ต่อไปให้เปลี่ยนแขกรับเชิญไปเรื่อยๆ
"ลูกค้าระบุเทปหน้า แขกรับเชิญให้เป็นรายการเด็ก อายุราว 5-6 ขวบ" อลินร้องอย่างลืมตัว อนุชาถามว่ามีปัญหาอะไรไหม อลินตั้งหลักได้บอกทันที
"ไม่มีค่ะ ลินดีใจนะคะ ได้ทำงานกับเด็ก มันร่าเริงสดใส ลินช้อบชอบ คือว่า...ลินรัก..เด็กน่ะค่ะ" ว่าแล้วรีบเสกหน้าตัวเองให้ยิ้มแป้นแล้นให้เห็นจะจะ...
พอออกจากห้อง ประชุม อลินก็ดิ้นพราดโทร.ไปหาพสุ ให้ไปดูใจเธอที่คอนโดฯทันที แล้วพสุก็ได้ฟังเรื่องลับคับอกของอลิน ที่ดันไปบอกที่ประชุมว่าเธอรักเด็ก อลินสั่นหัวไปมา บอกว่าเธอไม่ชอบเด็ก เอาแต่ใจตัวเอง พูดไม่ฟัง อยากได้อะไรก็ร้องกรี๊ดๆ พสุฟังแล้วอดขำไม่ได้ เขาบอกเธอว่า น่าจะจับไปอยู่กับเด็กให้เข็ด แล้วพสุตั้งคำถามขึ้น
"ถ้าคุณเกิดแต่งงาน นายอนุชาสามีคุณเขาอยากมีลูก คุณจะทำยังไง"
"จะมีทำไม คุณเล็กมีฉันคนเดียวก็มีความสุขพอแล้ว"
"แล้วถ้าบังเอิญเขามีลูกติดมาด้วยล่ะ" อลินอ้าปากจะแย้ง พสุรีบต่อ "คุณคงคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ผมแค่สมมติน่ะ คุณจะทำยังไง"
"ไม่ทำ ส่งไปอยู่เมืองนอกไกลๆ จากฉันกับคุณเล็กด้วย เด็กๆไม่ว่าเป็นลูกใคร ฉันก็ไม่ชอบทั้งนั้น"
" ผมเข้าใจ...เทปต่อไปจะมีเด็กมา ผมจะไปเตรียมอาหารเด็ก แต่สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้คือ เด็กไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเสมอไป ผมจะเปลี่ยนทัศนคติที่คุณมีต่อเด็ก ฉะนั้น การสอนครั้งหน้า ผมต้องมีผู้ช่วยเพิ่มหนึ่งคน"
"ผู้ช่วย...ใคร" อลินหันมามองพสุ...เหมือนจะถามว่า จะเอาไงอีกล่ะครูจอมกวนคนนี้?
ooooooo
เช้า วันนี้โสภิตาเดินมาหน้าร้าน แล้วหันไปดูข้าวของที่จะทำขนมแล้วเริ่มสะท้อนใจ เพราะของหลายอย่างร่อยหรอ จะต้องซื้ออีกมากมาย หยิบเงินมาดูเหลือแค่สองพันบาท
หันไปทางปฏิทิน เขียนไว้เตือน จ่ายเงินเดือนเรียม...จ่ายค่าเช่าบ้าน จากเงินสองพัน เธอเหลือบเห็นเช็คที่อนุชาให้ไว้ เธอตัดใจฉีกมันทิ้งลงตะกร้า...จะเปิดกระเป๋าเห็นกล่องแหวนแต่งงาน นึกถึงคำพูดของอลิน ให้เอาขายซื้อเครื่องสำอางโปะหน้าให้สวย หาผู้ชายคนใหม่สะใจกว่า...
โสภิตาจึงรีบเอาไปขาย เอาเงินมาให้เรียม แล้วให้เอาไปจ่ายค่าเช่าร้านเดือนนี้ และจ่ายล่วงหน้าอีกเดือนด้วย...พอโสภิตาจะเข้าครัว พสุก็เข้าร้านมา ขอทำขนมช่วยอีกแรง แล้วบอกตามตรงว่าเขามีเรื่องด่วน ต้องการความช่วยเหลือ" โสภิตาหันมามองพสุ...ด้วยความอยากรู้ว่าเรื่องอะไร?
ooooooo

สูตรเสน่หาตอนที่ 7
โส ภิตาหันมามองพสุอย่างสนใจ เมื่อเขามาบอกว่า เขามีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ พอพสุบอกสาระ สำคัญให้ฟังแล้ว ปูเป้มายืนฟังอยู่นาน จึงถามขึ้นเสียงแจ๋ว จะให้ปูเป้ไปช่วยสอนทำอาหารเหรอคะ พสุหันมายิ้ม บอกทันทีว่าใช่แล้ว ทั้งสองพากันไปนั่งคุย โสภิตามองตาม ได้แต่เลิกคิ้ว ชักสนุกกันใหญ่
หลังจากพสุให้ปูเป้เป็นคนชิมอาหารแล้ว ปูเป้ถามทันที
" ลูกศิษย์ลุงดินน่ากลัวรึเปล่าคะ" พสุหัวเราะก่อนบอกว่า เขามีนิสัยเหมือนเด็กมากๆ นึกว่าเขาเป็นน้องสาว ปูเป้ก็จะไม่กลัวเขาเอง ปูเป้รีบบอกว่า อยากมีน้องสาวมาก...
โสภิตาทนฟังต่อไม่ไหว จึงถามว่าศิษย์ครูดินเป็นใคร ทำไมตั้งใจสอนเสียจริง มีอะไรหรือเปล่า ใช่คนที่ดินบอกว่าเป็นดารา แล้วคุณหญิงอมราชอบหรือเปล่า พสุรีบปัดว่า ใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่เกี่ยว เพราะตากับคุณหญิงอมราไม่เกี่ยวกันแล้ว ปูเป้ฟังอยากเห็นคุณหญิงอมรา แม่จึงบอกว่า แม่เคยรู้จักนานมาแล้ว...บอกลูกแล้วโสภิตารีบหันไปจัดขนมต่อทันที ไม่อยากได้ยินชื่อคุณหญิงอมราอีกต่อไป...
แต่โชคร้ายเป็นของโสภิตาอีกตาม เคย เมื่อคุณหญิงอมราผู้มีความเป็นนักการเมืองเข้ากระดูกดำ การเมืองแค่กระพี้ แต่แก่นแท้ก็คือการหาเงินจากถุงเงินงบประมาณที่จะเอาลงมาคืนราษฎร...วันนี้ คุณหญิงอมราเรียกลูกชายมาปรึกษา และทำเอาอนุชาแทบโดดหัวทะลุเพดานตาย
" แม่อยากได้เงินสัก 10 ล้านน่ะลูก" ตั้งสติได้ อนุชาบอกแม่ เขาไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น "แม่ไม่ได้หมายถึงเงินเล็ก แต่แม่หมายถึงเงินของอลิน" อนุชารำพันว่าหนักใจที่จะไปยืมเงินอลิน
คุณ หญิงอมราจึงขยายแผนทันทีว่า วิธีของแม่แยบยลยิ่งนัก ชวนอลินมาลงทุนบริษัทอวตาน เธอจะเลื่อนจากพิธีกรมาเป็นเจ้าของบริษัททันที ขี้คร้านอลินจะดิ้นตาย หอบเงินมากองให้ลูกแทบไม่ทัน...แต่ข้อเสนอนี้อนุชาสั่นหัวดิก
"คุณแม่ ครับ ผมรู้ว่าการเลือกตั้งสำคัญกับคุณแม่มาก แต่ไม่เกี่ยวกับเงินของคุณลิน ถึงวิธีที่คุณแม่เสนอมามันจะดูดีแค่ไหน ผมก็ไม่ทำ" คุณแม่อยากเต้นผางๆ แต่ทำได้แค่มือสั่น ที่ลูกชายดื้อ "ผมโตแล้วนะครับ ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่ทำตามที่คุณแม่บอก ถ้าเห็นว่าไม่สมควร"
อนุชาเดินหนีไปต่อหน้า ไม่สนเสียงแม่สั่งให้หยุด คุณหญิงคำรามแฮ่ๆอยู่คนเดียว
" ไม่ยอมทำตามดีๆ อย่าหาว่าแม่ใจร้ายก็แล้วกัน" อนุชาไม่รู้ว่าคุณแม่มหาภัยของเขากำลังจะวกไปหาโสภิตา เพื่อกระทบถึงลูกชายให้เชื่องในมือแม่...
รูปโสภิตาสมัยก่อนที่ถ่ายกับอนุชาหน้าตาสดใสถูกส่งถึงมือนักสืบ คุณหญิงให้หาที่อยู่ของแม่คนนี้ว่าตอนนี้มันอยู่ไหน?...
ooooooo
เช้าวันนี้ อลินเจอหน้าปฏิคมแต่เช้า เขาหอบบทปึกใหญ่จนอลินแทบผงะว่ามันอะไร?
"บทละครเรื่องใหม่เอี่ยมอ่องของผู้จัดชั้นนำในประเทศไทย" อลินยังอ้าปากค้าง เขาจึงอธิบายต่อไปว่า... หลังข่าวอลินทำอาหารประทับใจนักข่าวแพร่ออกไป เป็นการกระตุกต่อมผู้จัดอย่างแรง จึงอยากลองของ มีผู้จัดโทร.มาหาปฏิคมมากมาย และที่ส่งบทมาให้อย่างร้อนใจถึงสามเรื่อง จากบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับยักษ์ขมูขีมาให้อลินอ่าน และขอคำตอบด่วนพรุ่งนี้...
"หลังจากถูกลืมไปสองปี คุณลินมีงานทำแล้วครับ" ปฏิคมสอพลอส่งเสริม
อลิ นคว้าโทรศัพท์มาจะกดโทร. ปฏิคมดึงไว้ จะโทร. ไปไหน อลินบอกจะขอบคุณหมิง แล้วจะเยาะเย้ยให้สะใจ ปฏิคมปรามทันทีว่า รีบอ่านบทดีกว่า เขาไม่มีเวลามาช่วยอ่าน จะรีบไปช่วยนายดินชิมอาหารเมนูใหม่ในรายการคุณลิน...ว่าแล้วเผ่นออกประตู แล้วยังโผล่มาเย้ยว่า เขาปิดมือถือ จะพูดกับเขาต้องโทร.ไปหานายดินก่อน...อลินพูดไม่ออก กลอกลูกตาไปมา ชนิดฝากไว้ก่อนไอ้ลูกลิง...หันไปหยิบบททั้งสามเรื่องมาดู กอดไว้แนบอก เหมือนบทคือเพื่อนเก่าที่ห่างเหินกันไปนาน แล้วได้กลับมาพบกันด้วยความคิดถึง
อีกคนหนึ่งที่อลินคิดถึงคือหมิง ที่อยากโทร.ไปขอบคุณให้สะใจ แต่ตอนนี้หมิงต้องรีบไปกับนายลมเพื่อเอาดาราหมิง ไปทำคะแนนกับคุณพี่นภาหรือพี่ฟ้า ผู้เป็นเจ้าชีวิตในบ้าน บริบรรณ หมิงเองที่ไปบ้านบริบรรณวันนี้ก็อยากเจอหน้านายดินลูกคนใช้คู่อริของลม ซึ่งลมคิดว่าวันนี้นายดินอยู่บ้าน
คงได้ฉะกันสมใจแน่...
ขณะที่พสุจัดอาหารเตรียมไว้ตามสไตล์ ทั้งแบบญี่ปุ่น และทั้งใส่ปิ่นโตแบบไทย...
เมื่อ รถของปฏิคมเลี้ยวเข้าบ้านมานั้น รถของนายลมวายุก็พุ่งปร๊าดมาจากไหนก็ไม่รู้ ปาดหน้าเอี๊ยดมาเลย พุ่งใส่ ที่จอด ทั้งสองคันจึงเบรกดังผสมเสียงร้อง แต่เสียงนายลมมีเสียงด่าสิงสาราสัตว์ผสมมาด้วย...รถทั้งสองคันหวิดชนกันเส้น ยาแดงผ่าแปด วายุพรวดลงรถยืนจังก้าท้าตีท้าต่อย
"แกเป็นใครวะ เข้ามาทำอะไรที่บ้านฉัน แล้วยังสะเหล่อมาจอดรถตัดหน้าฉันด้วย...ลงมาเคลียร์กันหน่อยดิ" ลมพรวดมาหา ปฏิคมเปิดประตูลงมาเคลียร์ ขายังไม่ถึงพื้นต้องชะงัก ลมตั้งท่าราวี หมิงลงมาห้าม ปฏิคมเห็นหมิงร้องอ้าว ยายคนนี้มานี่ได้ไง...ปฏิคมรีบหดเท้ากลับ ลมร้องท้าให้ลงมา ไม่ได้ยินรึไงวะ?
หมิงหันไปเพ่งมองปฏิคมแล้วร้องจำได้ ปฏิคมรู้ทันทีว่ายายหมิง "ปลาเค็มเน่า" จึงตัดสินใจออกรถพุ่งหนีออกไปอย่างว่องไว ลมเรียกไว้จะให้ลงมารับหมัดเท้าเข่าศอก หมิง ตะโกนให้ปฏิคมหยุดรถลงมาพูดกันก่อน เมื่อไม่หยุดจึงด่าลั่น
"ไอ้ทนายปลา เน่า" หมิงด่าไล่หลังไป ลมหันมาถามว่า ทนายปลาเน่ามันยังไง หมิงจึงบอกว่า มันเป็นลิ่วล้อนังอลิน พอเห็นหมิงมันก็รีบออกรถเผ่นหนี ลมส่ายหัวคิดไม่ออกได้แต่บ่น
"ทนายยายอลินวัตถุโบราณมันจะมาที่นี่ได้ยัง ไง ตัดเรื่องยายอลงอลินไปจากสมอง ป่านนี้มันคงไปช่วยกันทำกับข้าวถ่ายรายการอยู่ที่ไหนสักแห่ง ช่วยผมเอาใจพี่ฟ้าสองสามชั่วโมงได้ไหม"
"ทำอาหาร..." หมิงหันมาสนใจทันที "ลม หรือว่าไอ้ทนายปลาเน่ามันรู้จักพี่ชายคุณ...ใช่แล้ว คุณบอกว่ามันเป็นพ่อครัวไม่ใช่เหรอ บางทีมันอาจเป็นคนช่วยนังลินทำอาหารก็ได้...พี่ชายลูกคนใช้คุณอยู่ไหน หมิงจะไปดูหน้ามันสักหน่อย"
ลมไม่สบอารมณ์จึงดุหมิงว่า ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องไร้สาระ หมิงยังโต้ทันทีว่า มันเรื่องสำคัญของหมิงทีเดียว...ขณะเถียงกัน อี่รี่มาหา พอเห็นหมิงเท่านั้นก็กรี๊ดใส่ ร้องเรียก "หมิง... ดารารัตน์ อัศนี"
ทั้ง สองจึงหยุดฟัดกัน มองพี่อี่กรี๊ดดารา บอกว่าดีใจที่สุดเลย หมิงตัวจริงๆด้วย สวยกว่าในจอมาก...เธอเป็นแฟนละครหมิงทุกเรื่อง เมื่อคืนเพิ่งดูเลย ตอนหมิงโดนนางเอกตบ พี่สะใจที่สุดเลย อี่รีบอุดปาก เมื่อหมิงหน้าซีดเป็นไก่ตอน หมิงหัวเราะแหะๆ ขอบคุณอย่างสุดจะฝืน ลมรีบแนะนำ พี่อี่เป็นพี่สะใภ้ของเขา...แล้วเร่งให้ไปพบพี่ฟ้าดีกว่า ลมรีบพาหมิงไป อี่ต้องวิ่งตาม...
ขณะเดียวกัน ปฏิคมรีบไปบอกพสุที่บ้านพักนงพะงา เล่าว่าเขาเห็นหมิงมาจริงๆ มากับน้องชายพสุ แต่ไม่แน่ใจว่าหมิงจะเห็นเขาหรือเปล่า พสุจึงให้ปฏิคมอยู่นิ่งๆในบ้านเขาก่อน เขาจะส่งหน่วยข่าวกรองไปสืบว่าใช่ยายหมิงปลาเค็มเน่าหรือหาไม่?
จาก นั้นไม่นาน อ้อนก็กลับมารายงานพสุกับปฏิคมว่า หมิงดาราหน้าเด็กแต่นมใหญ่ๆ ชอบเล่นเป็นตัวอิจฉาตาร้อน ตอนนี้อยู่บนบ้านใหญ่จริงๆด้วย พสุนิ่งคิด ยิ่งแม่นงพะงาได้ยินที่อ้อนรายงานเรื่องหมิง ยิ่งมาซักถามพสุอีกคน ทำให้นายดินหรือพสุก้มหน้าดูดิน ไม่รู้จะเริ่มต้นและหาปลายเหตุที่ตรงไหนดี มันชักยุ่งวุ่นวายหนักขึ้นทุกที....
ooooooo
พี่นภาหรือพี่ฟ้านั่งที่ห้องรับแขก มีพี่ๆน้องๆนั่งพร้อมหน้า ขณะที่นายลมพาดาราสาวตัวอิจฉามาแนะนำทุกคนให้รู้จัก
" นี่...หมิง แฟนผมเองครับ" นายลมเห็นทุกคนมองหมิงแปลกๆ เพราะตอนนี้หมิงมองออกไปข้างนอกตลอดเวลา ไม่สนใจพี่ๆนายลมเลย จนลมเรียกหมิงให้หันมา หมิงจึงยิ้ม ยกมือไหว้ ก้มลงไปจนอึ๋มของเธอหล่นตุ๊บออกนอกเสื้อเกินพิกัด เมฆาลืมอี่เพราะตื่นเต้นเล็กน้อย แต่มากไปสำหรับอี่
"เห็นลมบอกว่าหนู เป็นดาราเหรอ" พี่ฟ้าถาม หมิง รับแล้วยิ้มพิมพ์ใจให้ทันที อี่รีบสาธยายสรรพคุณ หมิงดังระเบิดเป็นพลุแตกกลางฟ้า...แล้วย้ำ
"น้องหมิ งเขาตีบทแตกกระจุย ทั้งบทเมียน้อยเมียมาก บทนักร้องรูดม่านรูดเสา คาเฟ่โสเภณี ผู้ดีถังแตกที่จ้องจับพระเอก เล่นเหมื้อนเหมือน" หมิงยิ่งฟังหน้ายิ่งม้าน ไม่แน่ใจว่าชมจริงหรือไม่ ได้แต่ขอบคุณเสียงอ่อย วารินเสนอว่าใกล้เที่ยงจัดโต๊ะเลยดีไหม พี่ฟ้าจึงสั่งจัดทันที
"ขอโทษ นะคะ" หมิงยังติดใจเรื่องพสุ "แล้วพี่ชายลมที่เป็นพ่อครัวไม่มาทานด้วยกันเหรอคะ" ลมไม่พอใจติงหมิง แต่หมิงไม่รามือ "หมิงว่าเราควรพามาทานด้วยกันนะคะ งั้นเชิญพี่ๆไปทานก่อน หมิงจะไปตามเอง" ว่าแล้วหมิงก็ลุกเดินไปทันที ลมต้องรีบวิ่งตาม ขณะที่คนอื่นได้แต่แปลกใจ พี่ฟ้า ก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น...
ลมวิ่งตามหมิง ถามว่าบ้ารึเปล่า จะไปหาไอ้ดินมันทำไม หมิงบอกแต่เพียงว่า อยากรู้ว่ามันรู้จักไอ้ทนายปลาเน่ารึเปล่า แล้วยังไล่ให้ลมกลับเข้าบ้านไปก่อน...ขณะนั้นอ้อนผ่านมาเห็นหมิง จึงร้องว่านังหมิงอึ๋มจริงๆ นึกได้วิ่งไปหาดิน...หมิง มุ่งหน้ามายังบ้านนงพะงา นายลมตามมาไม่ห่างนัก
เมื่ออ้อนมาบอกพสุกับ ปฏิคมว่า นังหมิงกับนายลมกำลังมาที่บ้านนี้ ปฏิคมกับพสุจึงคิดว่า ให้หมิงมาเห็นที่นี่ไม่ได้ ไม่งั้นอลินซวยแน่ จึงต้องรีบเผ่นก่อน...แต่ไม่ทันแล้ว ปฏิคมเห็นหมิง ร้องเฮ้ย...แล้วรีบหลบ สั่งแม่นงพะงากับอ้อนว่า ใครถามให้บอกว่าไม่รู้จักเขา และดินก็ไม่อยู่บ้าน หมิงได้ยินเสียงร้องเมื่อครู่ รีบตรงไปยังบ้านนงพะงาทันที มาถึงร้องถาม มีใครอยู่บ้านบ้าง? พสุกับเพื่อนตัดสินใจโดดหน้าต่างตุ๊บลงไป แม่นงพะงาได้ยินเสียงถึงหลับตาปี๋เจ็บแทนลูก
ลมเดินเข้ามา หมิงมองดูรอบๆ มีแต่นงพะงากับอ้อน จึงถามว่าไหนล่ะ ไอ้ทนายปลาเน่าของคุณ? หมิงซักถาม
แม่นงพะงาอย่างละเอียดยิบ โดยเฉพาะทนายชื่อคมๆของอลินมารึเปล่า แม่กับอ้อนบอกไม่รู้ ไม่เห็นมีใคร
"โกหก..." หมิงซัดหนัก "ปิดบังความจริงฉันอยู่ใช่ไหม บอกมานะ ทนายปลาเค็มมันอยู่ไหน"
"กรุณาพูดจาให้สุภาพด้วย ที่นี่ไม่ใช่กองถ่ายละคร อย่ามาแสดงบทร้ายแถวนี้"
เสียง พี่ฟ้าดังมาอย่างสม่ำเสมอและมีอำนาจ หมิงหันไปมอง เห็นพี่ฟ้ายืนจังก้า มีพวกพี่ๆยืนอยู่ วารินลมแทบจับ เมฆามองหมิงผิดกับอี่ผู้ภรรยา เพราะเขาเห็นแต่อกอึ๋มของหมิง ลูกเดียว...หมิงตกอยู่ในมุมอับ ส่ายตาไปมาใบ้รับประทาน
"เธอจะเป็นดาราดังมาจากไหนฉันไม่รู้ ถ้าจะมาเพื่อสร้างความวุ่นวายก็เชิญกลับไปได้แล้ว บ้านนี้ไม่ต้อนรับ" สิ้นเสียงพี่ฟ้า พสุธาแทบจะม้วน...ส่วนนายลมมองหน้าหมิง เหมือนคนกำลังจะม้วย
นายลมมายืนเซ่ออยู่หน้าหมิง ภายในบริเวณบ้าน...ปารองเท้าลงพื้นอย่างหัวเสีย
"พัง...พังหมดแล้ว แผนการเอาใจพี่ฟ้า คุณทำมันพังป่นปี้หมดแล้ว" ลมฉุดหมิงมาในห้อง หมิงตามมาตอบโต้ไม่ยอมลงให้
"หมิงไม่ได้ทำ ลินต่างหากที่ทำทุกอย่างเป็นแบบนี้ไม่เพราะหมิงเห็นไอ้ทนายนังลินนั่น หมิงก็ไม่เข้าไป ฉะนั้น คนผิดคือนังลิน"
" โฮ้ย...หยุดพูดถึงนังดาราดึกดำบรรพ์ซะที...คุณจำไว้นะ ถ้าคุณยังไม่เลิกขุดคุ้ยเรื่องยายนั่นทำกับข้าว หรือเรื่องโกงการคัดตัวรายการกระจอกๆนั่น ผมจะเลิกกับคุณ" เสียงลมแผดลั่น หมิงเอ๋อแล้วช็อก
ooooooo
เมื่อพสุกับปฏิคมออกจากบ้านก็รีบแจ้นไปหา อลินที่คอนโดฯ เล่าเรื่องที่ลมน้องชายพสุเป็นแฟนหมิง พาไปอาละวาดถึงบ้าน ต้องเผ่นหนีมันมานี่ อลินอ่านบทละครอยู่ พอฟังจึงเงยหน้าถาม
"แล้วไง... น้องครูกุ๊กเป็นแฟนยายหมิง แล้วมาบอกฉันทำไม ต้องไปบอกให้น้องชายเลิกกับยายหมิงซะ ฉันจะได้ ไม่เดือดร้อน" พสุร้องอ้าว... "ไม่ต้องอ้าว เรื่องยายหมิง เรื่องนกกระจิบ...จิ๊บๆ ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ห่วงเรื่องงานฉันดีกว่า เรื่องเมนูอาหารเด็กเรียบร้อยหรือยัง แล้วผู้ช่วยที่จะเอามาช่วยเป็นใคร ยังไม่บอกฉัน ประวัติเป็นไง ไม่ใช่พาคนซี้ซั้วต่ามาต๊ะอ้วย ฉันไม่ชอบคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า"
อลินใส่จนหมดแม็กแล้วบ่นว่าพวกนี้มาขัดจังหวะ แล้วอ่านบทต่อ พสุได้แต่บ่นเอือมระอา
ooooooo

เย็น นี้ ปูเป้กลับจากโรงเรียน วิ่งมาหาแม่ที่จัดโต๊ะที่หน้าร้าน สองแม่ลูกโผกอดกัน หอมแก้มกันไปมาด้วยความรัก...พอหันมาทางถนน โสภิตาถึงกับชะงัก เมื่อเห็นรถเก๋งติดฟิล์มดำ แต่ที่เบาะหลังเห็นลดกระจกลงเล็กน้อย เห็นคนเล็งกล้องมาถ่ายเธอกับลูก
โส ภิตาไหวตัวเยือก ด้วยสัญชาตญาณป้องกันลูก แม่ลุกขึ้นยืน สั่งปูเป้เสียงเข้มให้เข้าไปในบ้าน แล้วอย่าออกมา แม่เร่งจนปูเป้ต้องวิ่งเข้าในร้าน โสภิตาคว้าไม้กวาดใกล้มือตรงรี่ไปหารถคันนั้น...มันรีบลดกล้อง ปิดกระจก แล้วรถคันนั้นก็รีบออกไป โสภิตาวิ่งตามขวาง จนมันต้องเบรก
"คุณเป็นใคร ถ่ายรูปฉันกับลูกทำไม" รถรีบเบี่ยงหนีไป โสภิตาตีด้วยไม้กวาด วิ่งตามกระหน่ำ แต่ไม่ทันแล้ว มันเร่งเครื่องหนีไป แม่ตาของปูเป้ยืนหอบ รถคันอื่นตามมาบีบแตรไล่ เธอไม่สน เดินกลับไปหาลูก...
จากนั้นไม่ถึง ชั่วโมง อนุชาก็ได้เห็นรูปโสภิตากับลูกกำลังกอดหอมแก้มกันที่หน้าร้านเป้หวาน อนุชามองหน้าคุณหญิงแม่อย่างไม่พอใจ ถามทันทีว่า คุณแม่ทำแบบนี้ทำไม?
" ตอนนี้แม่มีทั้งที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลทุกอย่างของมันหมดแล้ว ถ้าไม่อยากให้มันสองคนแม่ลูกเดือดร้อน เล็กต้องเอาเงิน 10 ล้านของอลินมาให้แม่โดยเร็วที่สุด"
"คุณแม่ใช้ตากับลูกมาขู่ผมเหรอครับ"
" เล็กบังคับแม่เองนะ แม่ขอร้องเราดีๆ แต่เราไม่ยอมทำ แม่ต้องใช้วิธีนี้" แม่ทำตาแดงๆ "เล็กลืมแล้วหรือ ก่อนคุณพ่อเสีย สั่งให้ดูแลแม่ให้ดีๆ แต่ตอนนี้เล็กไม่สนใจคำขอร้องของแม่ แม่เดือดร้อน เล็กไม่ช่วย แม่ต้องทำวิธีนี้"
อนุชามองรูปตากับลูกแล้วก้มหน้า กัดฟันด้วยสัญชาตญาณความเป็นพ่อ แล้วมองแม่ด้วยสายตากร้าว
" ได้ครับ...ผมจะเอาเงินคุณลินมาให้ตามที่แม่ต้องการ แต่คุณแม่จะได้แค่ 5 ล้านเท่านั้น ถ้าคุณแม่ต้องการ 5 ล้าน ต้องยอมให้ผมพาปูเป้เข้ามาอยู่ในบ้านนี้"
"เราจะเอานังเด็กนั่นมาอยู่ที่นี่ไม่ได้"
" ถ้ายังงั้น แม่จะได้แค่ 5 ล้านจากคุณลิน...เหตุผลหรือครับ เพราะปูเป้เป็นลูกผม ที่ผ่านมาผมทำหน้าที่เป็นลูกที่ดีเพื่อคุณแม่มาตลอด ยอมเป็นสามีที่เลวเพื่อคุณแม่ แต่...วันนี้ผมไม่ยอมเป็นพ่อที่อ่อนแอในสายตาลูกผมเป็นอันขาด...และผมมั่นใจ ว่า ถ้าคุณพ่อยังอยู่คุณพ่อก็ทำแบบนี้เพื่อคุณแม่ และเพื่อผมเหมือนกัน" แม่อมราหน้าเครียด แล้วก็เปิดปาก
"เออ...ก็ได้ๆ เราจะเอานังเด็กนั่นมาอยู่ที่นี่ก็ได้ แต่อย่าให้แม่มันมาเหยียบบ้านนี้เป็นอันขาด...ที่สำคัญ ถ้านังเด็กนั่นทำให้ความสัมพันธ์ของเล็กกับอลินมีปัญหา แม่จะเฉดหัวมันออกไปทันที"
คุณหญิงอมราประกาศก้องไปทั้งบ้าน อาการสะอึกด้วยกังวลสะท้านไปทั้งอกของคนเป็นพ่อ
ooooooo
ครู กุ๊กมาถึงคอนโดฯอลินแต่เช้าตามที่นัดไว้ แต่เห็นอลินตาแดง มีรอยคราบน้ำตาให้เห็น จึงถามอย่างเอาเรื่องว่าเธอร้องไห้เรื่องอะไร อลินบอกไม่ได้ร้อง พสุจึงคาดคั้น ถ้าไม่บอกจะไม่ยอมให้ไปเรียนทำอาหารกับเขาเด็ดขาด
"ฉันถามจริงๆ ครูกุ๊กคิดว่า...ฉันแก่หรือเปล่า"
พสุ เจอคำถามแบบนี้ ถึงกับหัวเราะไปทันทีสามก๊าก แต่พอเห็นตาขวางๆของเธอ จึงรีบขอโทษ "ขอโทษ...คือ...อย่าบอกนะว่าที่คุณร้องไห้ตาบวมเป็นอึ่งอ่างเพราะเรื่อง เนี้ย"
"มันไม่ใช่เรื่องเล็กนะ...ดูบทละครที่ส่งมาซิ เรื่องแรกผัว 3 ลูก 6 เรื่องที่สอง ม่ายลูกติด 4 เรื่องที่สี่ สาวใจแตกมีลูกอายุ 16 ต้องเล่นประกบลูกสาวอายุ 18 มันล้วนแต่บทแม่ทั้งเพ...ทำไมมันเป็นแบบนี้สามเรื่อง สามีครึ่งโหล ลูกอีกหนึ่งทีมฟุตบอล มันน่าสนนักรึ"
"น่าสนเพราะคุณยังไม่เคยเล่น...ในสายตาผม คุณไม่ใช่ เด็กแล้ว แต่คุณมืออาชีพเล่นได้ทุกบท"
"แต่ฉันอยากเป็นดาวค้างฟ้า ฉันอยากเป็น...นางเอกตลอดไป"
" เป็นไปไม่ได้ คุณต้องรับความจริง...ดาวค้างฟ้าไม่เป็นได้เฉพาะนางเอก บทอะไรก็ได้ให้สมบทและเข้าถึงคนดู เขาจะตามดูคุณ คุณจะเป็นดาวค้างฟ้าตามที่ต้องการ" อลินเริ่มคิด เหมือนจะถามว่า จะจริงหรือ? "คุณลองเลือกบทที่คุณชอบที่สุด แล้วแสดงมันจนสุดความสามารถ คุณจะรู้เองว่ามันจริงหรือเปล่า" อลินนิ่งคิด เขาจึงเตือน "ยังไม่ต้องคิดเดี๋ยวนี้ ไปเรียนทำอาหารกับผม" ส่งแผนที่ให้ แล้วให้อลินขับรถไปเอง เขาจะไปรับผู้ช่วย พบกันในหนึ่งชั่วโมง
"ผมไป แล้วไม่พบคุณ ผมจะกลับทันที" อลินยอมรับ แต่ปากยังแข็งโป๊ก...เออ ไปก็ได้...แล้วคว้ากระเป๋า สะบัดไปมางอนๆ แต่เพ่งดูแผนที่ทางไปโรงเรียน....
ooooooo
เมื่อไปถึงโรงเรียนอนุบาล อลินแปลกใจที่ครูกุ๊กสอนนักเรียนเด็กๆด้วย เขาจึงบอกว่า สอนเด็กเพราะรักเด็ก ไม่ใช่รักเพื่อจะถ่ายรูปไปเอาหน้า อลินแว้ดใส่ เธอแค่ไม่ค่อยชอบเด็ก แต่ไม่ได้ขายชาติ อย่ามาประชด...พสุถอนใจก่อนเรียกปูเป้มาพบ
อลินไม่ได้มองปูเป้ แต่มองขนมเบนโตะญี่ปุ่นอย่างชื่นชม เขาเรียกชื่อเป็นการเตือนให้มองปูเป้ อลินเห็นรีบถามว่า หนูมาทำไมที่นี่ หลงพ่อแม่มาหรือ พสุจึงบอกว่า นี่คือปูเป้ผู้ช่วยเขา อลินตกใจ ทำไมเขาเอาเด็กมาเป็นผู้ช่วยสอนทำอาหารให้เธอ พสุจึงเร่งให้ทำความคุ้นเคยกับปูเป้ เพราะเด็กจะทำหน้าที่ชิมฝีมือเธอเท่านั้น...ย้อนให้ว่า ไหนอลินเที่ยวไปคุยว่ารักเด็ก...อลินตาขวาง
พอพสุจัดเบนโตะมาวางเรียง เขาสั่งให้ปูเป้ชิมแล้วให้ บอกตรงๆว่า ป้าเขาทำอาหารเป็นยังไง ปูเป้แย้งถูกใจอลินครั้งแรกว่า ลูกศิษย์ลุงดินไม่เห็นจะเป็นป้า ปูเป้ขอเรียกว่าพี่จะได้ไหม พี่เขายังเด็กอยู่...อลินร้องโอยเหมือนเจ็บ แต่ดีใจเนื้อเต้นผับๆ เร่งให้ปูเป้เรียกพี่ได้เลย อย่าไปแคร์ใคร ชิมแล้วชมเต็มที่เลย ถ้าชมว่าอร่อยมากๆ พี่ลินจะซื้อตุ๊กตาให้ เอาแบบไหนได้เลย... พสุค้าน หาว่าติดสินบนเด็ก สั่งปูเป้อย่าฟังป้าเขามากนัก แล้วสั่งเริ่มเรียนได้แล้ว...ปูเป้เห็นท่างอดแงดของอลิน อดขำเสียงคิกคักไม่ได้
การเริ่มสอนเริ่มทำและให้ปูเป้ชิมสร้างความสนิท สนมถูกใจกันระหว่างอลินกับปูเป้มาก อลินถูกหนุนจนถึงขนาดปูเป้ชมว่าอลินยังเด็ก ทั้งสวยทั้งมีฝีมือในการทำอาหาร ปูเป้ ชิมแต่ละอย่างชมว่าอร่อยที่สุด ปูเป้เข้าข้างอลินแทบทุกเรื่องจนอลินรักมาก ป้อนอาหารให้อย่างเอาใจ เมื่อพสุเห็นว่าสมควรแก่เวลา จึงให้เตรียมตัวกลับได้...พสุบอกอลินว่า เก็บของไปรอเขาที่รถ เขามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย...
หัวอกอลินแทบแตกดัง โพละ เมื่อเรื่องสำคัญที่เขาจะพูดกับเธอคือ...เขาจะไม่ไปถ่ายรายการกับเธอ อลินค้านสุดตัวว่าไม่ได้ เธอไปคนเดียวไม่มั่นใจ พสุจึงบอกเหตุผลว่า เขาบอกให้ ลม น้องชายเลิกกับศัตรูของอลินไม่ได้ เขาจะทำให้อลินเดือดร้อน จึงไม่ไปกองถ่ายดีกว่า...พสุส่งสมุดสูตรและรูปภาพเบนโตะชนิดต่างๆให้อลินไป ฝึกทำเอาเอง...อลินพยายามวิงวอน แต่พสุกลับขึ้นรถขับกลับไปทันที...อลินไม่ยอม แต่ยังพูดไม่ออก...
ooooooo
อนุชา ขับรถมาจอดหน้าร้านเป้หวาน พกรูปที่นักสืบแอบถ่ายแม่ตากับลูกปูเป้มาด้วย มองรูปแล้วตัดสินใจลงรถเข้าร้านไปโดยที่โสภิตาไม่ทันรู้ตัว โสภิ-ตากำลังยิ้มนึกว่าลูกค้าเข้าร้าน ต้องหุบทันใด พร้อมกับถามเสียงเขียว "คุณมาทำไมคะ" คำตอบของอนุชายาวยืดแต่ตื่นเต้น
"ผมมาเรื่องลูก...ผมจะขอเป็นคนเลี้ยงปูเป้ ผมจะพาลูกไปอยู่ที่บ้าน"
"ไม่มีทาง" โสภิตากร้าวดุจแม่งูจงอางหวงไข่ "ตาไม่มีวันให้คุณพาลูกเข้าไปในบ้านหลังนั้นเด็ดขาด คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับปูเป้"
อนุชาอ้างความเป็นพ่อ ที่แล้วมาเขาไม่เคยเลี้ยงลูก เขาถึงพยายามทำ
"ผมรู้คุณไม่อยากให้ปูเป้เข้าบ้านนั้นเพราะกลัวคุณแม่ คุณไม่ต้องห่วง ผมจะปกป้องลูกเอง"
" เจ็ดปีก่อน...ตอนคุณพาตาเข้าบ้านนั้น คุณก็พูดแบบนี้ แล้วคุณก็ทำไม่ได้ แล้ววันนี้คิดว่าตาจะเชื่อคุณเหรอคะ...ตาไม่เอาลูกไปเสี่ยงในขุมนรกบ้านคุณ เด็ดขาด แล้วฝากบอกคนที่ส่งคนมาถ่ายรูปเราด้วยว่าเลิกยุ่งกับเราสองคนได้แล้ว" โสภิตาแข็งกร้าว จนอนุชาคาดไม่ถึง เธอย้ำหัวตะปูอีก "เขาอยากทำอะไรตาก็ได้ แต่อย่ามายุ่งกับปูเป้เด็ดขาด...ถ้าเขายังไม่หยุด ตาเอาตายแน่ ไม่เชื่อก็ลองดู...เชิญคุณกลับไปได้แล้ว...ที่คุณอยากคุย...จบแล้ว" ดวงตาของเธอแข็งแกร่งกร้าว จนอนุชาคอหอยตีบทันที
ooooooo
นายปฏิคมมา พบอลินในฐานะที่ปรึกษาเวลาอับจน แต่ในฐานะลูกไล่...เธอบอกเรื่องที่ครูกุ๊กจะไม่ไปกองถ่ายกับเธออีกแล้ว... ปฏิคมเห็นด้วย เพราะพสุรู้ว่าถ้าหมิงรู้ความฝันของอลินพังหมด โดยเฉพาะอนุชาคงไม่อยากแต่งงานกับดาราลวงโลกอย่างอลิน
"นายรู้ได้ไงว่า ฉันอยากแต่งงานกับคุณเล็ก" อลิน กระชากเสียงใส่ นายเปี๊ยกใบ้กินทันที "ครูกุ๊กเล่าให้นายฟังใช่ไหม...ครูกุ๊กนะครูกุ๊ก บอกแล้วว่าห้ามเล่าให้คนอื่นฟัง" อลินว้าก แบบนี้ต้องด่า จะกดมือถือ ปฏิคมรีบห้าม ถ้าดินมันฉุน ไม่แค่ไม่ไปกองถ่าย มันจะเลิกสอนอลินเลยนะ...อลินจึงลดดีกรีความแค้นลง พอปฏิคมถามถึงอนุชาว่า คนนี้ดีจริงไหม? อลินบอก เธอมั่นใจว่าเป็นคนดี เธอมองคนไม่ผิด
"ฉันคิดว่าคุณเล็กเป็นเนื้อคู่ฉัน ฉันอยากแต่งงานกับเขา และฉันต้องทำให้ได้"
"จะเอางั้นเลยนะ...มันงานแต่งงานนะครับ ไม่ใช่งานวันเกิด ต้องเห็นด้วยทั้งสองคน จึงจะสำเร็จ"
" ฉันก็พยายาม ทีแรกคิดว่าเป็นพิธีกรแล้วจะใกล้ชิดคุณเล็ก แต่ถ่ายรายการแรกคุณเล็กไม่มา ครั้งหน้าบอกว่าจะมา ครูกุ๊กเกิดไม่ยอมช่วยฉันที่กองถ่ายอีก ถ้าพลาดฉันมิพังเรอะ" อลินเปลี่ยนความแค้นเป็นความฮึด "ไม่เป็นไร ครูกุ๊กไม่ช่วย ฉันจะมัดใจคุณเล็กด้วยเสน่ห์อันเร่าร้อนของฉันเอง" จ้องนายเปี๊ยกเขม็ง "ฉันได้เป็นแฟนคุณเล็กเมื่อไหร่ ฉันจะเลิกเป็นพิธีกรทันที ไม่ต้องง้อครูกุ๊กอีกต่อไป"
"แล้วคุณลินจะเป็นแฟนกับนายอนุชาได้สำเร็จหรือขอรับ" ปฏิคมยื่นหน้าทะเล้นถาม
"คอยดูฝีมือแม่...เอ๊ยฉันก็แล้วกัน" อลินทำปากจิ๊จ๊ะ เหล่ใส่นายเปี๊ยกอย่างไม่ยี่หระต่อโลกมนุษย์
จาก นาทีนั้นมา...ที่พักของอลินก็กลายเป็นห้องสมุดย่อยๆ หนังสือบรรดามีในตลาดทั้งสดทั้งแห้งเกี่ยวกับการไล่ล่าผู้ชายให้มารุมรัก นั้น มีไว้สอนหลายร้อยเล่มเกวียน อลินเอามาศึกษาหาอ่านท่องจำจนตาเปียกตาแฉะ แทบไม่ยอมหลับนอน...เอากฎเหล็กการทำสงครามของ "ซุนหวู่" มาตั้งเป็นหลักในการจีบผู้ชาย...ให้ "รู้เขารู้เรา" รู้ข้อมูลทุกอย่างในตัวเขา ทั้งชอบและไม่ชอบ...
"เฮ้ย...ต้องรู้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นดาวนพเคราะห์ดวงโปรด จนกระทั่งกางเกงในตัวเก่งของเขา"
อลินงึมงำเป็นหมีกินผึ้ง ลับสมองให้หมุนติ้วๆอยู่คนเดียว...
ooooooo
จาก ตำราจับผู้ชายเป็นตั้งของอลิน แล้วมาสู่การ "รู้เขา" อย่างแท้จริง อลินจึงเริ่มทำงานด้วยการดัดเสียงโทร.จากนิตยสารรายการฮิตๆ และกิจกรรมทางด้านสื่อร้อยแปดพันเก้า โทร.ดัดเสียงไปหาเพรียว หลอกล่อเอารางวัลต่างๆมาเสนอ แล้วล้วงความลับการรักชอบและไม่ชอบของอนุชาจากเพรียว ซึ่งรีบเสนอเพื่อเชิดชูเจ้านายอย่างไม่อั้นประตู...
หลังจากได้รู้ข้อมูลทุกอย่างของอนุชาแล้ว อลินก็เริ่มหาสิ่งที่จะมาเสริมความประทับใจให้ตัวเอง เพื่อพิชิตใจนายอนุชาให้ได้ต่อไป...
ครั้นกำหนดพรุ่งนี้จะมีการประชุม...อลินจึงวางแผนการเตรียมพร้อมทุกสิ่งในตัวอลินเพื่อจะไปพบอนุชาที่บริษัท
จะรวบรัดมัดหัวใจอนุชาให้ดิ้นพราดๆให้ได้...
อลิ นตื่นตีสี่แต่งองค์ทรงเครื่องอร่ามเรือง ประทินกลิ่น กำหนดสี เสริมเครื่องประดับ เตรียมอุปกรณ์ประกอบเรียบร้อยแล้ว...เมื่อได้เวลาไปประตูเปิด อลินถึงผงะ เห็นพสุมายืนอ้าปากค้าง
"อะโห...จะเหลืองอภิมหาเหลืองอะไรปานนั้น" พสุปากเริ่มทำงาน อลินบ่นว่ามาทำไม เธอจะรีบไป "อ้าว...คุณเป็นคนนัดให้มารับเช็คค่าสอนวันนี้ แล้วยังจะมาโยกโย้"
"เออ...ลืมไปแฮะ มาเอาพรุ่งนี้ได้ป๊ะ วันนี้รีบไปประชุมที่บริษัท"
" ไม่ได้...พรุ่งนี้ผมไม่ว่าง แล้วมีธุระต้องใช้เงิน เซ็นเช็คแป๊บเดียวไม่เสียเวลาหรอกน่า แต่ถ้ายืนพิรี้พิไรอยู่นี่ มันเสียเวลา...ไม่รู้เรอะ"
"ก็ได้ย่ะ" อลินหยิบสมุดเช็คออกมาเซ็น...ขณะที่พสุมองกวาดตาไปรอบๆตัวเธอ เห็นการแต่งองค์ทรงเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ทั้งตุ้มหู มันไม่เข้าแก๊ปสักอย่าง...พสุขยี้ตาเพราะแสบด้วยสีเหลืองอร่ามไปทั้ง ตัวอย่างนี้...พสุถึงคันปากยิบๆ แต่สะกดใจไว้
ooooooo
สูตรเสน่หาตอนที่ 8
พสุกวาด สายตาลามเลียไปทั่วตัวอลิน แล้วต้องยิ้มกริ่ม เหมือนจะตำหนิการแต่งตัวในมาดใหม่ของเธอ อลินหันมาเชิดใส่ พสุเลาะสายตาไปยังหนังสือและของอื่นๆทั้งห้องและข้างตัวเธอ แล้วความอดทนของเขาก็หมดลง
"คุณลินรู้ตัวหรือเปล่า ชุดนี้ของคุณมันเหลืองมะลัง มะเลืองจนแสบลูกตา ตุ้มหูลูกกอล์ฟนั่นด้วย"
"รู้สิ แต่ฉันตั้งใจ มันไม่เข้ากันก็ดีจะได้มองเห็นชัดๆ" อลินชักจะคันยิบๆที่ปาก
" หนังสือนั่น ตั้งใจจะให้เขารู้ว่าซื้อมาแต่ไม่ได้อ่านรึเปล่า มันใหม่มาก แล้วขนมกับดอกไม้นั่น จะเอาไปให้ใคร" อลินไม่ตอบทำท่าจะไปด้วยรำคาญ เขาท้วงอีก "แล้วนี่หนังสืออะไร...กลเม็ดมัดใจผู้ชายใน 5 นาที...จีบผู้ชายได้ในสามวัน...โอ้โฮ" อลินกระชากหนังสือมา ปากก็สั่งให้เอามา อย่ายุ่ง พสุอ่านอีกเล่ม "ลงจากคานได้อย่างไร" ว่าแล้วหัวร่อร่าฮ่าๆๆๆ อลินด่าเปิง หาว่าไม่รู้จักคำว่าส่วนตัว พสุหันมาซัก ทำท่าเอาเรื่องอย่างลืมตัวว่าเขาไม่มีสิทธิ์
"อย่าบอกนะว่า...คุณจะเริ่มปฏิบัติการจับนายอนุชาอย่างจริงจัง"
"ฉันไม่ได้จับ...แต่ฉันสร้างความประทับใจให้คุณเล็กย่ะ" อลินยืดใส่
" ถึงว่า...เล่นซะชุดอภิมหานิรันดร์กาลบานเบิก นี่จะบอกให้เอาบุญนะ ต่อให้คุณแต่งตัวแต่งหน้า ทำผมประเคนเครื่องประดับเพื่อเอาใจผู้ชายมากแค่ไหน แต่ถ้ารวมกันออกมาแล้วมันดูไม่ดีเขาก็ไม่ชอบ"
"เฮอะ...ฉันแต่งแบบนี้มันดูไม่ดีเหรอ" อลินชักลังเล แต่เบ้ปากหาว่าแกล้งตำหนิ
"นี่น้องต้อง นี่น้องตาม..." ส่งอาหารให้ชิม แล้วให้บอกผู้ชมทางบ้านด้วย...ต้องตารับมาชิมแล้วสั่นหัว บอกว่าจืด...ไข่หวานไร้รส น้าลืมใส่น้ำตาลรึเปล่า?
"พี่ไม่ได้ลืมนะคะ ตั้งใจทำไม่หวานมาก ทานหวานไม่ดีนะ เดี๋ยวอ้วน" อลินยิ้มเอาใจ แล้วต้องสะอึกทันทีเมื่อต้องตาร้องขึ้น
"โกหก...น้าลืมใส่น้ำตาลก็บอกมา ต้องเป็นเด็กแต่ไม่โง่ น้าก็ไม่ได้เป็นพี่ แต่เป็นน้าๆๆ หน้าก็ไม่เด็ก ยังอยากเป็นพี่อยู่ได้"
อลิ นเลือดพุ่งปรี๊ดขึ้นหน้า...เสียงคิกคักดังมาจากด้านหลังกล้อง เพรียวกุมปากระงับเสียงขำ...อนุชามองเขม็ง อยากรู้ว่าอลินจะแก้ปัญหานี้อย่างไร...ส่วนพสุแทบไม่อยากมอง ได้แต่กุมขมับสงสารอลินที่เจอเด็กแสบถึงกึ๋นอย่างนี้...กำลังจะไปหาทางช่วย อลิน แต่มีเด็กมาถามว่ารถใครจอดขวาง พสุฟังเบอร์แล้วเป็นรถของเขา เด็กขอให้ไปเลื่อนรถด้วย...พสุจำต้องรีบไปถอยรถ จึงไม่มีทางช่วยอลินได้
ส่วนอลินลืมท่องนะโม แต่เปิดยิ้มเอาเชิงก่อนเปิดปาก
" ฮะฮ้า...น้องต้องนี่ช่างเก่งชะมัด ยิงมาแต่ละมุกพี่รับแทบไม่ทัน ขำแทบไม่ถูก...เรามาถามน้องตามดีกว่า...ทานหรือยังเอ่ย..." อลินหุบยิ้มทันที เมื่อตามพงศ์แผดเสียงใส่ลั่นโลก
"ตามไม่กิน...ตามจะกิน พิซซ่า" อลินชะงักชนิดโลกหยุดหมุน แทบจะอุดหูเมื่อเด็กย้ำไม่กิน แล้วเรียกหาพิซซ่าจนใส่คะแนนไม่ทัน...ทีมงานเริ่มเลิ่กลั่ก อนุชาหันไปสั่งผู้กำกับห้ามสั่งคัตเด็ดขาด
อลินเห็นอนุชาจ้องนิ่งแต่ไม่ ช่วยทำอะไร มองหาพสุก็ไม่อยู่ ต้องตาเข้ามาโวยวายช่วยอีกว่า ไส้กรอกทอดก็ไหม้ ขนมเละ ไม่อร่อยสักอย่าง ตามพงศ์ร้องแต่จะกินพิซซ่า...
สองพี่น้องช่วยกันด่าว่าไม่อร่อย ทั้งร้องจะกินพิซซ่า ถึงลงไปดิ้นพราดๆ
อลินมองไปกล้องยังถ่ายอยู่ จึงเรียกกล้องเข้าไปหา... พร้อมบอกผู้ชม
" ไม่ต้องตกใจค่ะ...ลินกำลังจำลองเหตุการณ์ว่าถ้าเด็กไม่ยอมกินข้าวกล่องที่ทำ ให้ คุณแม่จะรับมือกับน้องๆยังไง วิธีง่ายมากค่ะ เราต้องใจเย็นๆ ค่อยๆพูดกับเขาค่ะ" อลินหันไปเรียกน้องต้องตา เด็กตวาดแว้ดว่า อะไร?...ในใจอลินอยากจับนังเด็กคนนี้มาฉีกเนื้อกินสดๆ แต่จำต้องยิ้ม ปิดไมค์ของเธอและของเด็ก กระซิบที่หูเด็ก
"นังปอบผีฟ้า...ถ้าเธอหยุดบ่น แล้วกินอาหารที่ฉันทำ พร้อมชมให้เต็มที่ ฉันจ่ายค่าตัวเธอ 2 เท่า ถ้าเธอให้น้องหยุดร้องได้ ฉันจะซื้อชุดแต่งตัวตุ๊กตาบลายธ์รุ่นใหม่ล่าสุดจากอเมริกาให้ถึง 2 ชุด พิซซ่าชุดใหญ่ให้น้องเธอ 10 ถาดใหญ่" เด็กปอบต้องตาฟังแล้วซ่าไปทั้งตัว อลินใส่ปุ๋ยเต็มที่ "แต่ถ้าเธอไม่ยอมหยุดบ่น ฉันจะเอาอาหารทั้งหมดบนโต๊ะนี้ยัดปากแล้วให้กลืนลงไปทีเดียวหมดโต๊ะ แล้วจับน้องชายเธอมาตีให้ตาย ถ่ายภาพให้คนดูทั้งประเทศ บอกชื่อนามสกุลให้รู้ไปทั้งโรงเรียน..."
อนุชาและทุกคนต่างจับตา แทบไม่หายใจว่าอลินจะแก้เกมนี้ท่าไหน...ต้องตาหายจากอาการผีปอบอาละวาด แล้วมีท่าหวาดเล็กๆเมื่ออลินกระหน่ำอีกที
"เธอน่าจะรู้...ฉันเป็นคนพูด จริงทำจริง ให้ตายไปข้าง จะเลือกอะไร?" อลินจิกต้องตาตาแดงก่ำเป็นสีเลือด แล้วก็ส่งเสียงหวานเสริมอีก ต้องตาลืมบทโหด ตัดสินใจไปคว้าเบนโตะมากิน คีบไข่หวานมากิน เคี้ยวตุ้ยๆ พออลินถามต้องตาว่าอร่อยไหม ทุกคนต่างฮือฮาเมื่อเด็กตอบอย่างดี
"อร่อยมากเลยค่ะ อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ" ต้องตาหันไปทางตามพงศ์แล้วสั่ง "น้องตามกินข้าวกล่องเดี๋ยวนี้นะ" ตามพงศ์ยังงอแงไม่ยอมกิน จึงถูกคาดโทษ "น้องตามต้องกินเดี๋ยวนี้ ไม่กินพี่ต้องฟ้องคุณแม่" น้องร้องห้ามอย่าฟ้องแม่ ต้องตาสั่งไม่ให้ฟ้องแม่ ต้องกินเดี๋ยวนี้...
"กินก็ได้..." ตามพงศ์หยิบมากินทันที แต่ยังมีท่า "ผู้ใหญ่ชอบบังคับ"
ทุกคนในกองถ่ายต่างยิ้มด้วยความขำขัน อลินยิ้มกว้างกว่าเพื่อน
"โถ...น้องต้อง อย่าดุน้องสิคะ พูดกันดีๆก็ได้" หันไปหาตามพงศ์ "น้องตามคะ ข้าวกล่องพี่ลินเป็นยังไงบ้างคะ... ชอบไหมคะ"
"ชอบครับ...แต่ตามอยากกินพิซซ่ามากกว่า"
" ได้เลยค่ะ" อลินสวมรอยทันที "เอาไว้คราวหน้าพี่ลินทำพิซซ่าให้ทานดีไหมครับ แล้วจะสอนน้องตามทำด้วยนะ ดีเปล่าครับ" ตามพงศ์บอกดีทันที อลินสอยตามทันที "ถ้าดี วันนี้กินข้าวกล่องก่อนนะครับ คราวหน้าหม่ำพิซซ่าแน่นอน" อลินยิ้มปลื้มมองเด็กทั้งสองหม่ำสิ่งที่เธอทำอย่างอร่อย...
อนุชามอง ทุกอย่างด้วยความพอใจ พสุรีบวิ่งมา ต้องหยุดยิ้มเมื่อเห็นทุกอย่างเดินไปด้วยดี...แล้วอลินก็กล่าวสรุป ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีด้วยความอร่อย พบกันสัปดาห์หน้า สวัสดีค่ะ...อลินมองกล้อง ยิ้มให้หวานไปข้างหน้าไกลๆเข้าไว้
ตอนจะกลับ เจอหน้าพสุจึงต่อว่า เธอเกือบตายเพราะเด็กปอบ เลือดกระฉูดขึ้นสมองแทบระเบิด เขาหายหัวไปไหน เขาบอกไปเลื่อนรถ และเห็นอนุชายิ้มน้อยๆให้ ไม่พอใจรึ อลินตอบทันทีว่าไม่ แล้วเสียงอนุชาเรียกคุณลินดังมา...อลินรีบผลักพสุให้หลบไป แล้วหันไปเผชิญหน้ายิ้มร่า ส่งเสียงหวานเยิ้มทักอนุชา...เขาขอโทษเธอที่สั่งผู้กำกับไม่ให้คัตเมื่อครู่ แล้วให้เหตุผลว่า เขาต้องการภาพธรรมชาติ อยากรู้คุณลินจะแก้สถานการณ์ยังไง
"แล้วคุณก็ทำได้น่าประทับใจจริงๆ ผมเชื่อแล้วครับว่าคุณรักและเข้าใจเด็กจริงๆ"
อลิ นรีบออกตัวว่าเธอทำและพูดในสิ่งต้องทำและพูดแค่นั้น แต่ถ้าทำให้คุณเล็กรู้จักลินดีขึ้น ลินก็ดีใจ...อลินยิ้มหวานจนลูกตาเยิ้ม อนุชาก็แทบหยดพอกัน...พสุที่ถูกผลักไปบังกำแพง ต้องทรุดลงเค้เก้หลบจนเมื่อย ทำท่าจะขยับ อลินไขว้หลังโบกปัดมือให้หลบก่อน พสุถึงกับบ่นพึมว่า เวรมาตกที่ตูอีกจนได้
"คุณลินครับ...ไม่ทราบว่าวันพรุ่งนี้คุณลินว่างไหมครับ"
"อ๋อ...เอ้อ..." อลินติดอ่างเพราะใจเต้นระบำรำเท้า "ว่างค่ะ คุณเล็กจะให้ลินรับใช้อะไรคะ"
" คือ...ไม่กล้าให้รับใช้ครับ ผมอยากชวนคุณลินไปทานกลางวันด้วยกัน ผมมีเรื่องสำคัญอยากคุยกับคุณลินสองต่อสอง..." อลินฟังแล้วเสียงหัวใจเต้นโครมครามในอก อยากจะรู้นักว่ามันเรื่องอันใดหนอ...ความอยากรู้มันลามไปถึงพสุที่แอบก้ม ถ่างหูฟังอีกคนด้วย
เพรียวอยากรู้นักว่าอลินพูดอะไรกับเด็กทั้งสองคน ถึงได้เปลี่ยนนิสัยไวขนาดนั้น หรือว่าอลินมีเวทมนตร์ดำ หรือเล่ห์กลคาถาระดับเสกหนังควายเข้าท้องหรือไงถึงเก่งนัก ต้องไปถามเด็กสองคนให้ได้
แต่ตามเด็กยังไงก็ไม่พบ พอผ่านไปทางห้องแต่งตัว มือไปปัดเอากระเป๋าถือของอลินที่วางเปิดไว้หล่นลงพื้นของกระจาย ตกใจรีบเก็บ แล้วก็เห็นสมุดโน้ตแผ่หรา เพรียวรู้ว่าเป็นของอลินจึงเก็บขึ้นมาอ่าน...แล้วอ้าปากตกใจสุดๆ เพราะมันเป็นข้อมูลลับเกี่ยวกับอนุชาทั้งนั้น
เพรียวหรือจะเก็บความลับ นี้ไว้ รีบบอกหมิงทันทีว่า เธอถูกอลินเจ้าเล่ห์แอบอ้างคนอื่น โทร.มาเก็บข้อมูลคุณเล็กจากเธอไปจนหมด หมิงคิดว่าที่แท้อลินต้องการจับคุณเล็ก แต่ถ้าอลินใช้เล่ห์เหลี่ยมแบบนี้คุณเล็กมีหวังเสร็จ แต่เพรียวคิดว่า ถ้ารู้ความจริงว่าอลินกะล่อน คุณเล็กหรือคุณหญิงไม่ชอบคนกะล่อน อลินถูกเฉดหัวไปทันที หมิงผสมแผนกับเพรียวแล้ว จึงคิดว่าได้เวลาต้องเริ่มเดินแผนทันที
ooooooo
ส่วนอลิน...หลังจาก ปลื้มจนแทบหลุดโลกเพราะคุณอนุชามานัดพบกันสองต่อสองแล้ว จึงโทร.นัดปฏิคม ทนายที่รับใช้ซื่อสัตย์ของเธอไปพบที่คอนโดฯ แล้วสั่งการอย่างมั่นเหมาะ ให้เขาไปแอบถ่ายรูปตอนเธอไปกินข้าวกับอนุชา ให้เป็นแบบแอบถ่ายปาปาราซซี่ แล้วสั่งไม่ต้องถามว่าถ่ายมาทำไม จึงถูกดักคอว่าอลินจะเอาไปลงรูปแบบแอบถ่ายดาราเอาไปลงให้เป็นข่าวดัง
ในที่สุดอลินก็ยอมรับว่าคิดจะทำแบบนั้น ปฏิคมจึงเตือนว่าอลินจะเสียหาย อนุชาเป็นผู้ชายไม่เสียอะไร
" นายไม่รู้อะไร...พวกลิงค่างบ่างชะนีที่เล็งคุณเล็กอยู่ จะได้รู้ว่าเขาสนใจฉัน เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของทางอ้อม...ฉันจะใช้ชื่อยายมาตาสีตาสาส่งไปไม่ มีใครรู้ ตอนนี้ใครๆ เขาก็ทำกันทั้งนั้น"
ปฏิคมกำลังจะอ้าปากเถียง ถูกสกัดจุดให้รับคำสั่ง แล้วให้ไปจัดการตามเวลานัด
"ถ้าภาพแอบถ่ายกระจายออกไป...คุณเล็กก็ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการคบกับฉัน"
อลิ นสั่งแล้วร้องโอ้ยเมื่อฝันหวานอย่างมั่นใจ นึกถึงความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ในสายตาเธอ...อลินหารู้ไม่ว่าทนายนายเปี๊ยกได้ แต่ส่ายหัวไปมาเอือมระอาแท้แม่คุณเอ๋ย...
ooooooo
วันนี้วันเกิดปูเป้ ซึ่งอนุชาก็จำได้ โสภิตาจึงเอาตุ๊กตาที่แม่ตาทำกับมือมาอวยพรปูเป้ถึงเตียงนอนแต่เช้า ปูเป้ขอบคุณแม่ที่เอาตุ๊กตาที่ทำมากับมือมาให้ แม่ลูกกอดหอมและอวยพรกันด้วยความรัก...จากนั้นแม่เร่ง ให้ปูเป้ไปอาบน้ำ วันนี้ลุงดินจะพาไปทานข้าวในร้านพิเศษ อร่อยที่สุดในโลกเลย
เวลาผ่านไป...หลังจากปูเป้แต่งตัวเสร็จ เสียงออด
หน้า ร้านดังขึ้น ปูเป้ไปเปิดรับ เห็นอนุชาถือกล่องใหญ่มาด้วย ลูกสาวร้องเรียกพ่ออย่างดีใจ วิ่งมาสู่อ้อมกอดอนุชาทันที อนุชาอวยพรสุขสันต์วันเกิดพร้อมส่งกล่องของขวัญให้ ปูเป้รีบขอบคุณแล้วแกะกล่อง เป็นตุ๊กตาน่ารัก...
ปูเป้ชื่นชมตุ๊กตาจาก พ่อ อนุชาหันไปมองโสภิตาที่ยืนมองอยู่ห่างๆอย่างระแวงว่าวันนี้เขาจะมาไม้ไหนกับ ลูกและเธออีก...ลูกสาวกอดตุ๊กตาส่งเสียงดีใจ เต้นหยอยๆไปมา แล้วโผกอดพ่ออีกครั้ง
"แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ขอให้ลูกสาวคนสวยของพ่อไม่ดื้อไม่ซน เป็นคนดีของพ่อตลอดไปนะลูก"
ปู เป้บอกตามประสาเด็กว่า คุณพ่ออวยพรเหมือนคุณแม่ ทั้งให้ตุ๊กตาเหมือนกัน เธอจึงได้ตุ๊กตาสองตัว พ่อแม่ใจตรงกันเป๊ะ...แล้วทำให้พ่อแม่ถึงสะอึกไปพร้อมกัน เมื่อปูเป้ชวนพ่อไปทานข้าวด้วยกัน แล้วบอกว่าลุงดินจะพาปูเป้ไปทานข้าวร้านอร่อยที่สุดในโลก...
อนุชาถามลุง ดินเป็นใคร โสภิตาจึงบอกว่าเป็นเพื่อนตาเอง แล้วไล่ลูกไปเตรียมตัวให้พร้อม เดี๋ยวลุงดินมารับ...เมื่ออยู่กันสองคน อนุชาซักถึงลุงดินว่าเป็นคนที่เขาได้ยินเสียงเมื่อวันก่อนหรือ? โสภิตาไม่ตอบ บอกแต่ว่าเขาเป็นคนดี ไม่คิดร้ายกับลูกเธอ อนุชาถามว่าเขาคิดยังไงกับเธอ โสภิตาไม่ยอมบอก แล้วเตือนว่าเขาไม่มีอะไรกับเธอ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องส่วนตัว...อนุชารีบบอก เขาเพียงแต่ห่วง อยากให้เจอคนดีๆ จะได้ไม่เสียใจอีก
"ผู้ชายคนนี้รักและจริงใจกับตามาตลอด เขาไม่มีวันทำให้ตาผิดหวังหรือเสียใจ"
" ถ้าคุณมั่นใจผมก็ไม่ห่วง บอกปูเป้ด้วย ผมคงไปทานข้าวด้วยไม่ได้ เชิญคุณกับเพื่อนที่แสนดีไปกันตามสบาย" อนุชาเดินออกไป โสภิตากอดอกนิ่ง ฝืนใจให้เข้มแข็งเต็มที่... ปูเป้มายืนนิ่งฟังพ่อกับแม่ทะเลาะกัน ทั้งๆที่กำลังจะเอาตุ๊กตาของพ่อแม่มาให้ดู...ปูเป้น้ำตาไหลออกมาอย่างน่า สงสาร...
อนุชามาที่รถ ยิ่งเดินแต่ละก้าวยิ่งเครียด แต่พอเสียงมือถือปลุก มีนัด 12 นาฬิกา อนุชาจึงขึ้นรถ เลือกที่จะไปหาอลินในนาทีนี้เป็นดีที่สุด...
ooooooo
ในร้านเนื้อย่าง เกาหลี ที่มุมหนึ่งจัดไว้ให้ปฏิคมหรือเปี๊ยกแอบถ่าย แล้วให้ลองถ่ายอลินดู ก่อนที่อนุชาจะมา เสร็จแล้วอลินไปขอดูรูปจากเปี๊ยก แล้วต่อว่า ควรถ่ายให้ตรงที่อนุชาจะนั่งไว้ด้วย ทั้งสองจึงเถียงกันอีกยก พอมือถือดัง อลินรับ แล้วยิ้มเริงร่าเสียงหวานฉ่ำ
"สวัสดีค่า...คุณ เล็ก" เปี๊ยกร้องโห เสียงหวานจนขนหัวล้านลุกพรึบเลย...อลินชี้หน้าเปี๊ยก แล้วหันไปปากหวานต่อ "มาได้สักพักแล้วค่ะ คุณเล็กมาถึงแล้วเหรอคะ ค่ะๆแล้วเจอกันค่ะ สวัสดีค่า" อลินหันมาแยกเขี้ยวใส่เปี๊ยก "คุณเล็กมาแล้ว... รีบประจำที่ ห้ามพลาดเด็ดขาด ไม่งั้นแกตายอย่างเขียด..."
เมื่อ อนุชาเดินเข้ามาในร้านอย่างเท่ระเบิด...อลินยิ้มรับความหล่ออย่างสุดหัวใจ ใหลหลงตลอดเวลาที่อนุชามาทักทายจนกระทั่งนั่งลง เปี๊ยกถ่ายตลอดไม่หยุดสักแชะ...แต่ เจ้ากรรมมือถือดังขึ้น จึงรีบรับฮัลโหลทันที...
"แกแอบถ่ายรูปใคร" เสียงพสุดังมา เปี๊ยกรีบตอบเพื่อนทันใด
"ก็รูปคุณลิน...อ่ะดิ๊" บอกไปแล้วเอะใจ ถามทันที "เฮ้ย... แล้วแกรู้ได้ไงวะเนี่ย"
"ก็ฉันยืนอยู่ข้างหลังแกเนี่ย" เปี๊ยกฟังแล้วร้องไอ้หยาอาตือ...รีบหันกลับไปมองคอแทบหัก
เปี๊ยก ถามพสุว่าคุณลินเรียกเขามาหรือไง พสุบอกเปล่า เขาพาปูเป้มากินวันเกิดกับตา เปี๊ยกร้องลั่นแล้วอุดปากว่าปูเป้ กับตามาที่นี่ด้วยหรือ? พสุหาว่าเพี้ยน แค่นี้ก็ตกใจจะเป็นจะตาย
"ก็คุณลิน...กำลังกินข้าวอยู่กับนายอนุชา..." พอเปี๊ยกบอกชัดเท่านั้น พสุร้องคราง
" ถามจริง...ซวยแล้ว ทำไงดี...ฉันไม่อยากให้ปูเป้เห็นพ่อกินข้าวกับผู้หญิงอื่นในวันเกิดตัวเอง แค่นี้ก็น้อยใจมาตลอดทางแล้ว กว่าฉันกับตาจะปลอบใจได้แทบตาย...เอาละ ฉันจะพาสองคนนั้นไปกินร้านอื่นก็แล้วกัน"
เปี๊ยกถามว่าสองคนแม่ลูกอยู่ไหนตอนนี้ พสุบอกว่า ไปเข้าห้องน้ำ...
"ใครอยู่ห้องน้ำ" เสียงอลินดังใส่เปี๊ยก เขาหันมาเห็นอลินแทบล้มตึง อลินหันไปเห็นพสุ ถามต่อทันที "ครูกุ๊ก
มา ทำอะไร" พสุเสียงอ่อย บอกมากินข้าว "แหมบังเอิญจริง" หันไปทางเปี๊ยก "นายเปี๊ยก รูปเป็นยังไงบ้าง" เปี๊ยกสารภาพว่ายังไม่ได้ถ่าย อลินแหวใส่ทันที "ทำไมไม่ยอมถ่าย ฉันอุตส่าห์โพสท่าสนิทสนมตั้งนาน มัวทำบ๊องอะไรอยู่ ไม่ต้องทำอื้ออ้า มัวเม้าท์กันอยู่ละสิ ครูกุ๊กก็เหมือนกัน จะมากินข้าวก็รีบไปกิน ฉันกับนายเปี๊ยกมีธุระสำคัญจะทำ...เอาละ ฉันจะกลับไปที่โต๊ะ ถ้าคุณเล็กกลับมาจากห้องน้ำ นายต้องรีบถ่ายรูปฉันกับเขาทันที"
พสุกับเปี๊ยก พอฟังอนุชาไปห้องน้ำถึงอ้าปากหวอ เปี๊ยกทวนคำอนุชาไปห้องน้ำ อลินตะคอกถามทันที
"กะเรื่องคนเข้าห้องน้ำ จะตกใจไปทำไมมิทราบ...หา"
ขณะที่อนุชาเดินเข้าห้องน้ำ คลาดกับโสภิตากับปูเป้ที่ออกมาจากห้องน้ำหวุดหวิด แต่โสภิตานึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมกระเป๋าจึงรีบกลับไป...
ทาง พสุต้องปรึกษากับปฏิคมหรือนายเปี๊ยกอย่างเคร่งเครียดว่าจะทำไงดี พสุจะไปตามหาปูเป้กับแม่ตา เจอทั้งสองแล้วจะรีบพาออกจากร้านไปทันที เปี๊ยกให้พสุรอที่นี่ เกรงถ้าแม่ลูกเข้ามาเจออนุชากับอลินจะยุ่ง เปี๊ยกไปตามสองแม่ลูก เจอแล้วจะพาไปทางด้านหน้า ให้รอพสุอยู่ที่โน่น ไม่ต้องให้เข้ามาในร้าน
อลินเดินมาหาทั้งสอง ถามว่าคุยอะไรกัน เปี๊ยกรีบนิ่วหน้าแกล้งร้องปวดท้อง ขอไปห้องน้ำก่อน ยื่นกล้องให้อลินไว้ เดี๋ยวเขากลับมา เปี๊ยกรีบเผ่นไปทันที...อลินถามว่าแล้วใครจะถ่ายรูปให้...เธอยื่นกล้องให้ พสุช่วยถ่าย พสุรีบถอยฉาก ไม่ยอมถ่ายเด็ดขาด...
ในที่สุด...เมื่ออนุชา เดินออกมาจากห้องน้ำ ปูเป้เห็นเข้า ร้องเรียกพ่อเสียงลั่นดีใจสุดขีด อนุชาหันมาเห็นลูก หวิดเป็นโรควูบ ซ้ำยังเห็นโสภิตายืนสะพายกระเป๋าจ้องมา
" คุณพ่อมาทานข้าวกับปูเป้ใช่ไหม ปูเป้ดีใจที่สุดเลย" โสภิตารีบมาบอกลูกว่าคุณพ่อไม่ได้มาทานกับเรา บังเอิญเจอกัน อย่ากวนคุณพ่อเลย...ปูเป้ร้องค้านว่าคุณพ่อมาหาปูเป้ ปูเป้จะอยู่กับคุณพ่อ อย่าทิ้งปูเป้ไป...ว่าแล้วร้องไห้ ไม่ยอมให้พ่อไปท่าเดียว แม่ปลอบไม่ยอมฟัง
" โอ๋...ไม่ร้องนะครับ...คุณพ่อไปกับปู้เป้ก็ได้ครับ แต่เราไปทานที่ร้านอื่นกันนะครับ ไปกันสามคน พ่อแม่ลูก... ตกลงไหมครับ" ปูเป้พยักหน้า ปาดน้ำตาทันที
อนุชามองโสภิตาด้วยสายตาวิงวอนแกมบังคับ...โสภิตา ว้าวุ่นใจที่สุดในชีวิต

สูตรเสน่หาตอนที่ 9
ขณะ ที่อลินอ้อนวอนให้พสุช่วยถ่ายรูปเธอกับอนุชาให้ เดี๋ยวเปี๊ยกมาก็หมดหน้าที่แล้ว พสุกลับอบรมว่าจะถ่ายไปทำไม เป็นผู้หญิงยิงเรือ มาถ่ายรูปคู่ กับผู้ชายไม่อายรึไง อลินเจ็บจี๊ด แต่ต้องรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นพร้อมกับของพสุ ทั้งสองจึงต่างพูด อลินพูดกับอนุชา ส่วนพสุพูดกับโสภิตา ต่างถามว่าจะกลับแล้วหรือ?
ปูเป้ นั่งรออยู่ในรถ โสภิตาโทร.อยู่อีกด้านหนึ่ง ส่วนอนุชายืนโทร.อีกมุมหนึ่ง ต่างไม่ได้ยินเสียงกันและกัน...อนุชาบอกอลินว่าคุณหญิงแม่ไม่สบายมากต้องรีบ พาท่านไปโรงพยาบาล ต้องขอโทษด้วย คุณหญิงแม่ค่อยยังชั่วแล้วจะโทร.หาอลินทันที...
ส่วนโสภิตาโทร.ขอโทษพสุ บอกว่าปูเป้อาการกำเริบกำลังจะพาไปโรงพยาบาล ไว้ปูเป้สบายดีแล้วจะโทร.หาดินทันที
อนุ ชากับโสภิตาโทร.เสร็จมองมาที่รถ ปู้เป้ร้องเรียกให้รีบไปกันเถอะ ปูเป้หิวแล้ว สองคนพ่อแม่ต่างรับคำกับลูกสาวพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย...
ส่วนพสุกับอลินต่างก็ตัดสายพร้อมๆกัน อลินนั้นหัวเสีย อยากจะทำอะไรให้โลกมันแตกสักสิบเสี่ยง จึงได้แต่ระบายลมดังๆ
" บ้า บ้าจริงๆ รูปก็ยังไม่ได้ถ่าย คุณเล็กก็กลับไปแล้ว... เสียแผนหมด ฮึ่ยยย...ทั้งหมดเป็นความผิดของครูกุ๊กคนเดียว" ว่าแล้วหันขวับมาอย่างแรง หมายจะด่าครูกุ๊ก...แต่แล้วก็ชนเป้งเข้ากับเด็กเสิร์ฟที่ยกถาดอาหาร มีทั้งน้ำซุป เนื้อหมู ผัก และเครื่องปรุงนานา เสียงร้องของอลินกับเด็กดังพร้อมกัน...พสุหันมาตกใจ ร่างของอลินถูกราดด้วยน้ำซุปและเครื่องปรุงเลอะไปทั้งตัว เด็กขอโทษปากคอสั่นจะเข้าไปเช็ดให้ อลินด่าเปิง ไล่หนีไปไกลๆ ไม่ต้องมาเช็ดให้เธอ แล้วด่าครูกุ๊กให้ทำอะไรสักอย่างเร็วเข้า พสุให้อยู่เฉยๆแล้ววิ่งไปหาผ้ามาช่วยเช็ดให้...
ขณะที่ครูกุ๊กกำลังเช็ด เนื้อตัวเสื้อผ้าทั้งแขนขา...ขณะที่ อลินร้องยี้ไปมา ขาแข้งสั่นอย่างรังเกียจ มีคนคนหนึ่งรู้จักอลินมาก่อน เห็นสภาพนั้นจึงเอามือถือออกมาถ่ายภาพฉับๆ ยิ่งตอนที่เช็ดตรงขายิ่งถ่ายถี่ยิบไปเลย...
เมื่ออลินเห็นคนมามองกันมาก เข้าจึงดึงผ้าจากพสุมาเช็ดเอง แล้วสั่งให้พาไปห้องน้ำ พสุรีบทำตาม...ภาพการจูงพาอลินไปห้องน้ำยิ่งถ่ายไว้ถี่ยิบ...เปี๊ยกเดินกลับ มาเห็นพสุจูงมืออลินไป จึงสงสัยถามว่าเกิดอะไรขึ้น ร้องเรียกทั้งสองไว้... แต่ไม่สนใจ เปี๊ยกได้ยินเสียงถ่ายภาพดังแชะๆๆ เห็นว่าถ่ายพสุกับอลิน จึง ร้องถามว่าถ่ายอะไร หมอนั่นเห็นเปี๊ยกเดินไปถาม รีบเก็บมือถือแล้ววิ่งหนีไป...เปี๊ยกวิ่งตามแต่ไม่ทันเสียแล้ว "คุณลินจะซวยไหมวะเนี่ย" ประสาทเปี๊ยกเครียดขึ้นมาทันทีด้วยความเป็นห่วง
ooooooo
เมื่อ พสุกับเปี๊ยกพาอลินกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดฯ อลินยังเกรี้ยวกราดฟาดงวงฟาดงาใส่ทั้งสอง เพราะไม่รู้จะโทษใคร เหวี่ยงเสื้อผ้าเหม็นๆทิ้ง หันมาแว้ดใส่ครูกุ๊กว่าเป็นตัวก่อเรื่อง ไม่มาชวนนายเปี๊ยกเม้าท์ก็ไม่เกิดเรื่อง
"ดูซิ...รูปก็ไม่ได้ เรื่องที่คุณเล็กจะบอกก็ไม่รู้ แถมอับอายไปทั้งร้าน แล้วยังถูกแอบถ่ายรูปอีก ถ้ามีคนส่งรูปไปลงข่าว ฉันจะเล่นงานครูกุ๊กคนเดียว"
พสุร้องอ้าว มาลงที่ตูอีกแล้ว จึงย้อนว่าอลินไม่ทำอะไรแผลงๆ ก็ได้คุยกับนายอนุชาดีๆแล้ว ไม่ต้องเซ่อซ่าไปชนเด็กจนน้ำแกงรดหัวแบบนี้ อลินว้ากใส่ เธอไม่ผิดและไม่เคยทำผิด พสุโต้ทันที ถึงทำผิดอลินก็ไม่รับ อลินว้ากเพ้ยลั่น เปี๊ยกรีบห้ามทัพ ขอยอมรับผิดคนเดียว
"เอาเป็นว่านายสองคนผิด...คอยดู ถ้าฉันไม่รู้ว่าเรื่องสำคัญที่คุณเล็กจะพูดกับฉันเป็นเรื่องอะไร ฉันจะหั่นแกนสมองของนายทั้งสองคน" อลินเต้นเหย็งๆด้วยความแค้น นายเปี๊ยกสยอง แต่พสุยักไหล่ไม่สน
ผู้ที่อิ่มเอิบหัวใจที่สุดเห็นจะเป็น ปูเป้ เมื่ออนุชาขับรถพาโสภิตากับลูกสาวกลับมาถึงหน้าร้านเป้หวานก็มืดค่ำแล้ว ปูเป้หลับปุ๋ย แม่ตารีบลงรถมาจะอุ้มปูเป้เข้าบ้าน ลูกสาวกลับไม่ยอม จะให้พ่อเป็นคนอุ้มเข้าบ้านให้ได้ อนุชาจึงยิ้มอย่างผู้ชนะ อุ้มลูกสาวเดินเข้าบ้าน โสภิตาปิดประตูรถเขาอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้ทั้งพ่อทั้งลูก
หลังจากเอา ลูกสาวนอนหลับไปแล้ว อนุชาหันมาบอกโสภิตาขอคุยเรื่องปูเป้อีกครั้ง แม่ตาจังก้าแผ่แม่เบี้ยใส่ ไม่มีอะไรจะคุย เขาต่อรองให้ลูกไปอยู่กับเขาจันทร์ถึงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์มาอยู่กับตา...โสภิตาหรือจะยอม เธอบอกว่าเธอเลี้ยงลูกได้ดี เป็นแม่ที่ดี จึงต้องได้เลี้ยงดูลูก ไม่ใช่เขา ถ้าอยากได้ลูกไปต้องไปฟ้องร้องเอาเอง...ทั้งสองจ้องตากันเขม็ง อนุชาได้แต่มองฟ้าดูดิน ดิ้นไม่ออก...
ooooooo
ด้วยความแค้นที่ฝังลึก มานานตั้งแต่เริ่มเข้า วงการ หมิงถูกเบียดถอยร่นจากบทดีๆไปหมด หมิงจึงไม่ยอมหยุดชำระหน้าแค้นให้อลินแม้แต่วันเดียว
คราวก่อนหมิงไปทำ เรื่องวุ่นวายในบ้านบริบรรณ จนถูกคุณฟ้าเล่นงานหนักถึงขนาดนายลมวายุจะตัดขาดจากหมิงไปทีเดียว...คราวนี้ หมิงกลับเข้าไปในบ้านนั้น ยอมก้มหัวให้ทุกคนโดยเฉพาะคุณพี่ฟ้า ผู้เป็นใหญ่ในบ้าน จนได้รับการอภัย หลังจากถูกสั่งสอนอบรมความเป็นผู้ดีอย่างหนัก แต่แล้วหมิงก็ถือโอกาสหาช่องย่องเข้าไปในบ้านแม่นงพะงาของพสุ ขโมยอัลบั้มรูป มือปัดป่ายกรอบรูปหล่นเสียงดัง นงพะงาอยู่ในครัว ให้อ้อนออกมาดู อ้อนพบแต่กรอบรูปหล่นเกะกะผิดปกติ แต่มองหาใครไม่พบ
หมิ งกลับเข้าห้องนายลมที่บ้านใหญ่ พลิกดูรูปที่พสุที่ถ่ายกับนงพะงาตอนเรียนจบ นายลมเข้าห้องมาต่อว่าที่หมิง หายไป พอเห็นรูป จึงซักว่าไปเอามาจากไหน หมิงไม่บอก แต่ชูรูปพสุให้ดู ลมบอกหมิงว่า คนนี้แหละคือพี่ชายลูกคนใช้ ของเขา หมิงจึงเปิดเผย
"ไอ้ลูกคนใช้ของลม คือคนเดียวกับคนขับรถของอลิน แล้วมันก็เป็นเพื่อนกับทนายปลาเน่าจริงๆ" ลมกำลังจะอ้าปากพูด หมิงโบกมือห้าม "อย่าเพิ่งด่าว่า คราวนี้หมิงไม่ได้จับผิดอลินเรื่องมันทำอาหารไม่เป็น แต่หมิงจะทำให้มันต้องพบกับความผิดหวังอย่างรุนแรง นังอลินมันจะไม่มีวันลงเอยกับคุณอนุชา"
พูดมาถึงตรงนี้ นายลมชะงักเล็กน้อยด้วยความสงสัย หมิงว่าต่อ
"ความเสแสร้ง ปลิ้นปล้อนหลอกลวงของมันจะทำให้ นังอลินต้องขึ้นคานทองกระดองหักไปตลอดชีวิต" หมิงย้ำลำหักลำโค่นของเธออย่างมั่นใจ
ส่วน อลินฝันถึงอนุชายิ่งกว่าต้องมนต์เสน่ห์...วันนี้หอบโสมพันปีจากเมืองกิมจิ เกาหลี บำรุงสุขภาพ เสริมใบหน้าหายฝ้ามีเลือดฝาดยิ่งกว่าเด็กละอ่อนเอ๊าะๆมาฝากคุณหญิงอมรา คุณหญิงได้ของถูกใจจะหายริ้วรอย ขอบใจอลินเป็นวักเป็นเวน แล้วถามว่า ลูกเล็กได้คุยเรื่องสำคัญกับหนูบ้างหรือเปล่า?
อลินบอกเมื่อวานนัดจะคุย เรื่องสำคัญกัน แต่พอจะคุยคุณเล็กขอเข้าห้องน้ำ จากนั้นก็โทร.มาบอกว่าจะรีบกลับบ้าน เพราะคุณหญิงป่วยหนัก...คุณหญิงตบอกหนึี่งผาง กำลังจะด่าลูกชาย แล้วนึกได้ จึงยิ้มเรี่ยราด...แล้วบอกว่า เมื่อวานแม่มีอาการลมสว้านวิงเวียนจะลมใส่ ให้เด็กโทร.บอกตาเล็ก เขาจึงรีบมา แม่ไม่รู้ว่ากำลังคุยกันเรื่องสำคัญ...บอกไปนึกด่าลูกชายในใจไป
"คุณหญิงแม่คะ" อลินทนไม่ไหว "พอจะทราบไหมคะว่าธุระสำคัญของคุณเล็กคืออะไรคะ"
คุณหญิงแม่เกาปากตัวเองยิกๆ เพราะคันเต็มที แต่ไม่ กล้าบอก กลัวจะเสียเรื่อง จึงได้แต่โอ้เอ้ไปมาอย่างขัดใจตัวเองเต็มที...
หลัง จากปัดไปเรื่องอื่น ตามด้วยเรื่องดินฟ้าอากาศจนอลินกลับไปแล้ว คุณหญิงจะเต้นเหย็ง ขึ้นรถตรงไปหาอนุชาที่บริษัท พอดีลูกชายให้นิตยสารผู้ชายเล่มหนึ่งมาถ่ายรูปหล่อของเขาไปขึ้นปกเสร็จพอดี จึงได้เจอกับคุณแม่จอมงกที่ตามเข้ามาในห้องทำงาน ถ้าเป็นปืนก็ยิงจนหมดแม็ก
" เล็ก...ทำไมไม่คุยกับอลินเรื่องหุ้นส่วน...ทำไมโกหกว่าแม่ไม่สบาย...แล้ว เมื่อวานที่เล็กชิ่งไปจากอลิน เล็กหายหัวไปไหน" จากนั้นบอกว่าอลินไปหาแม่ที่บ้าน แล้วทำไมต้องแช่งให้แม่ตายอยู่หลายหนแล้ว...ทั้งตีกันว่า อย่าบอกนะว่าหายไปกับนังโส
ภิตา...พอเห็นลูกก้มหน้า คุณหญิงเดือดปุด ตะคอกถามว่า
เมื่อไหร่เล็กกับนังคนนี้จะจบเสียที
"แม่อย่าเอาเรื่องตาไปเกี่ยวกับคุณลินดีกว่าครับ เอา เป็นว่า ผมจะรีบจัดการเรื่องเงินของคุณแม่ให้เร็วที่สุด"
" ไม่แค่เรื่องเงิน เล็กต้องเลิกยุ่งกับมัน แค่เอาลูกมาเลี้ยง แม่ก็ยอมกล้ำกลืนฝืนใจมากแล้ว แม่ไม่ยอมให้มันทำลายชีวิตเล็กอีก แม่ใจดีกับมันมากพอแล้ว...พอกันที"
ooooooo
คืนนี้ พสุเอาข้าวผัดร้านอร่อยที่สุดในโลกไปให้ปูเป้ชิมเป็นของขวัญวันเกิดปูเป้ ย้อนหลัง แล้วถามว่า ที่รีบกลับเมื่อวันวานหายดีหรือยัง เมื่อวานแม่ตาบอกปูเป้ไม่สบายรีบพากลับ ปูเป้พาซื่อว่าไม่ได้เป็นอะไรเลย
"เมื่อวานปูเป้ไปทานข้าวกับคุณพ่ออีกร้านหนึ่ง...คุณพ่อว่า อยากไปทานกันสามคนพ่อแม่ลูกค่ะ"
พสุ แทบสะอึก...โสภิตาถือแก้วน้ำมาได้ยินชะงักไปเช่นกัน จากนั้นโสภิตารีบหลบเข้าครัว พสุหาจังหวะตามเข้าไปเลาะเล็มสองสามคำ จึงเอาคำพูดของปูเป้มาถามขึ้นอย่างล้อๆ
"แล้วไปยังไงมายังไง ถึงได้ไปกินข้าวกันสามคนพ่อแม่ลูก"
" มันบังเอิญน่ะ ตาเจอคุณเล็กหน้าห้องน้ำ ปูเป้คิดว่าพ่อมาทานวันเกิดด้วย พอตาบอกว่าไม่ใช่ ลูกร้องไห้ใหญ่ คุณเล็กเลยโทร.ไปเลิกนัดลูกค้าที่นัดมาคุยเรื่องงาน แต่เรื่องไม่สำคัญเลยไปทานกับปูเป้"
"หลังจากกินข้าวแล้ว ปูเป้เป็นยังไงบ้าง โอเครึเปล่า"
" โอเค้..." ทำเสียงสูง พสุบอกว่าน้ำเสียงไม่ค่อยจะโอเค โสภิตาจึงสรุป "บางทีตาก็ไม่อยากเจอคุณเล็กอีกเลย แยกจากกันตอนนี้ยังพอมีความทรงจำดีๆให้เก็บไว้คิดถึง แต่ถ้าเรายังเจอกันต่อไป สักวันเราอาจเกลียดกันไปตลอดชีวิต..." ก้มหน้าหนี ซ่อนน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาจนได้ พสุเข้าใจ จึงสงบคำไว้...
ขณะเดินกลับมา ขึ้นรถที่หน้าร้าน...พสุคิดถึงคำพูดของโสภิตาที่อนุชาบอกที่นัดลูกค้าไม่ สำคัญ จึงบอกเลิกลูกค้า... ที่แท้ลูกค้าคืออลินนั่นเอง แล้วอลินก็คาดโทษพสุกับเปี๊ยกว่า ถ้าเธอไม่รู้ว่าที่อนุชาจะพูดเรื่องสำคัญกับเธอนั้นมันเรื่องอะไร จะเล่นงานเขาทั้งสองคน...พสุได้แต่สงสารอลินลึกๆ ช่างไม่รู้เลยว่าอนุชาไม่สนใจเลย...จึงตัดสินใจโทร.หาอลิน
อลินกำลังมาสก์หน้าทำเสริมสวยอยู่ ไม่ควรมาพูดเรื่องไร้สาระตอนนี้ พสุจึงเข้าเรื่อง
"นายอนุชาบอกคุณหรือยังว่าธุระสำคัญที่จะบอกคุณมันเรื่องอะไร"
อลินด่ากลับว่าโทร.มาถามเรื่องคนอื่น เกิดอะไรขึ้น ต่อมอยากรู้ระเบิดรึไง พสุเร่งให้บอก
"ฉันยังไม่รู้มันสำคัญแค่ไหน แอบถามคุณหญิงยังไม่รู้เลย ให้ถามคุณเล็กเอง แล้วนี่ถามหาอะไร"
พสุ ยังไม่ทันได้ยินคำตอบ...อลินก็ดิ้นพราดขึ้นมาทันที ปากร้องเรียกให้คุณเล็กรอแป๊บนึง ขอสลับสาย กดมือถือให้วุ่นวาย กว่าจะเสร็จด้วยความตื่นเต้นที่คุณเล็กโทร.มา...พสุเห็นแล้วอดปลง อนิจจาวัตตสังขาราไม่ได้...แล้วเห็นอลินตาเหลือก เมื่อเสียงเจอน้ำมนต์ของอนุชาดังมาชัด
"พรุ่งนี้...คุณลินว่างไหมครับ ผมจะเชิญคุณลินมาที่บริษัท คือผมมีเรื่องสำคัญที่ยังไม่ได้คุยกับคุณลินน่ะครับ" อลินดีใจเนื้อเต้นตุ๊บตั๊บ ยิ้มหวานเยิ้ม แล้วรีบหุบ
"พรุ่งนี้...คือลินไม่ว่างค่ะ ลินต้องไปงานบวงสรวงละครใหม่ที่รับไว้ ไม่รู้จะเสร็จกี่โมง...คุณเล็กคุยทางโทรศัพท์ ไม่ได้เหรอคะ"
อนุชา บอกมันสำคัญมาก ไม่อยากคุยทางมือถือ แล้วนัดโทร.ไปหาเธอหลังบวงสรวงเสร็จ อลินตกลงทันที ทั้งสวัสดี ทั้งอวยพรย้อนหลังไปหน้าให้ฝันดีสมใจนึก...
ooooooo
เช้า วันนี้ อลินแต่งตัวสวยเช้งเบ่งบานเต็มที่ เพราะต้องเจอกองทัพนักข่าวช่างภาพมาเป็นขบวนยาว แล้วในพิธีถูกนักข่าวซักถามถึงบทที่เธอเล่นในเรื่องฟ้า-ทอรุ้ง ว่าเล่นบทแม่ไม่แก่ไปหรือ อลินรีบบอกว่า เราเป็นนักแสดงต้องเล่นได้ทุกบท สมัยนี้คุณแม่ยังสาวมีมากมาย จะได้รับการต้อนรับหรือไม่ ต้องแล้วแต่ผู้ชม...
เมื่อเสียงนักข่าวบอกกันว่า "หมิงมา" เท่านั้น ทัพนักข่าวก็เฮไปรุมหมิงที่ใส่ชุดเกาะอกอล่างฉ่างมาแอ่นระแน้ให้ถ่ายภาพวาบ หวิว...หมิงชำเลืองมองอลินอย่างผู้ชนะ อลินแอบมองจิกตีในใจไม่นับเช่นกัน...พออลินเห็นพี่หนุ่ยผู้จัดผ่านมา จึงตอบคำถามอลินว่า คราวนี้บวงสรวงพร้อมกันสองเรื่อง หมิง เล่นคนละเรื่อง เพราะเศรษฐกิจไม่ดี จึงบวงสรวงพร้อมกัน อลินตอกผู้จัดว่า ทีหลังให้อลินจ่ายให้ก็ได้ ทำแบบนี้ลินไม่ชอบ อลินเดินหนี พี่หนุ่ยด่าไล่หลังว่า...ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกัน...
อลินอารมณ์เสียเดินมา แล้วเสียงร้องเรียก "คุณแม่ขา" ดังขึ้น...ดารารุ่นใหม่วิ่งมาทางอลิน จึงหันไปมอง...เรียกใครแม่ ที่แท้เธอเรียกอลิน โผเข้ามากอดด้วยความรัก อลินบอก จำคนผิดแล้ว
"ไม่ผิดหรอกค่ะ ฮยองกึน เป็นลูกพี่ลินจริงๆค่ะ เป็นในละครไงคะ"
อลินมองฮยองกึน แล้วชี้ที่ตัวเอง สายสติแทบขาดผึง แค้นที่ให้เป็นแม่...เสียงหมิงดังมา
"เป็นแม่ลูกที่เหมาะสมกันมากกกก...มองตาเดียวก็รู้ว่าใครแม่ใครลูก" หมิงว่าแล้วก็หัวร่อร่าเริง
"ใช่ เหมือนเธอกับฉัน ดูแล้วก็รู้ ใครแสดงเป็นนางเอก ใครเป็นตัวอิจฉาตาร้อน"
หมิ งเต้นเหย็งๆ อลินจังก้าใส่ ไม่มีใครยอมใคร...แล้วนักข่าวก็กรูกันมาดูทั้งสองดาราต่อปากกัน ช่างภาพรุมถ่ายยังกับฟ้าแลบ หมิงด่าอลิน หาว่าเป็นดาราจิ้งจอกพันหน้า ทำเรื่องโกหกไปทั่ววงการ "ขนาดจะจับผู้ชายสักคนยังต้องตอแหลสารพัด จะจริงหรือจะมั่วก็เชิญดูกันเอาเอง"
หมิงหยิบมือถือขึ้นมากดๆๆ มือถือของอลินดังขึ้นจึงรับ ขณะที่หมิงยิ้มเยาะ จึงต้องเปิดดูเป็นรูปนงพะงากับพสุถ่ายร่วมกับปฏิคมวันรับปริญญา...อลินหน้า เสีย หมิงเย้ยหยันทันที

"ถ้าคุณอนุชารู้ว่าคนขับรถของเธอจบคหกรรม เป็นเชฟอยู่ร้านอาหารอิตาเลียน...เป็นครูสอนทำอาหาร และเป็นเพื่อนสนิทกับทนายของเธอ เขาจะรู้สึกยังไง" อลินบอกไม่แปลก เธอมีเงินจ้าง "เธอจ้างเขามาช่วยสอนทำอาหาร เธอตบตาว่าเขาเป็นคนรถ...ฉันจะเอารูปนี้ให้คุณอนุชาดู" หมิงกดส่งอีกรูป... เป็นไดอารี่ของอลินเอง มีเขียนข้อมูลของอนุชาไว้มากมาย อลินด่าหมิงหาว่ายุ่งเรื่องส่วนตัว หมิงย้ำดัง
"ถ้าคุณอนุชามาเห็นเข้า เขาต้องรู้สึก ถ้าไม่กลัวโรคจิตของเธอ คงรังเกียจความหน้าด้าน อยากจะได้ผู้ชายจนตัวสั่น" อลินถามตรงๆว่า ที่ทำทั้งหมดต้องการอะไร "ตั้งแต่ฉันเข้า วงการมา เธอแย่งงานฉันตลอด ยังกลั่นแกล้งสารพัด วันนี้ฉันต้องเอาคืน" หมิงย่างสามขุมมาใกล้ ยื่นคำขาด "เธอต้องถอนตัวจากละครเรื่องนี้ ออกไปจากวงการนี้เลยยิ่งดี ถ้ายังซ่า ฉันจะส่งรูปพวกนี้ให้คุณเล็กกับนักข่าวหน้าหนึ่งแน่...เลือกเอาว่า จะถอนตัวไปเงียบๆ หรือจะอยู่อย่างอับอายไปตลอดชีวิต"
นักข่าวทุกสารทิศไป ล้อมวงการประคารมของอลินกับหมิง อลินลืมตัว จึงตบหมิงไปหนึ่งฉาดใหญ่อย่างที่ช่างภาพนึกไม่ถึง หมิงตอบโต้แทบไม่เป็นภาษา ง้างมือจะตบ
อลินคืน นักข่าวช่างภาพที่รุมล้อมระดมการกดชัตเตอร์เสียงดังระงม...หมิงตกใจไม่กล้า ตบ แต่ง้างมือตกใจ จึงมีการถ่ายรูปกันทั่วหน้า...หมิงเห็นเสียท่า รีบขอร้องไม่ให้ถ่าย...มีเสียงถามหมิงตบอลินทำไม หมิงรีบแก้ไม่ได้ตบ
อลิ นรีบเดินจ้ำอ้าวๆไปยังรถที่จอด แม้จะมีช่างภาพตามถ่ายก็ไม่สนมากนัก ส่วนใหญ่ยังซักหมิงไม่เลิกรา...พี่หนุ่ยคนจัด ร้องเรียกอลินให้กลับมา ยังไม่ได้ทำพิธีเลย แต่อลินไม่สนใจแล้ว


ooooooo


อลินไป หาพสุที่โรงเรียนสอนทำอาหาร พสุรีบพาไปนั่งที่ลับตาคน เพราะอลินเอาแต่ร้องไห้เป็นวักเป็นเวน หมดทิชชู่ไปสองกล่องใหญ่ ยังไม่ยอมหยุด รำพันว่าเธออุตส่าห์ทำทุกอย่างเพื่อเข้าใกล้คุณอนุชา เรื่องกำลังไปด้วยดี จู่ๆไอ้รูปบ้าๆ กับยายหมิงจะมาทำทุกอย่างให้พัง
"ถามจริงๆเหอะ อยากแต่งงานกับอนุชาจริงๆเหรอ... ทำไม มันโดนใจมากๆ หรือนิมิตอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ถึงฝังนานสว้านในขนาดนี้"
" ไอ้ฝังใจไม่เท่าไหร่ แต่ฉันอายเขา ตอนนี้เพื่อนในวงการแต่งงานไปหมดแล้ว ทั้งแต่งใหม่ ทั้งแม่สามีกีดกันยังแต่งได้ แต่ฉัน นางเอกอันดับหนึ่ง ยังไม่เคยแม้แต่จะมีแฟน" พสุมองอลินแล้วรู้สึกจะเป็นเอามาก "ใครๆก็หมิ่นว่าฉันต้องขึ้นคานทองตลอดชาติ ฉันรับไม่ได้ ฉันเพอร์เฟกต์ขนาดนี้ ทำไมถึงมีแฟนไม่ได้สักที ฉันไม่เข้าใจ" พสุขอบอก อลินปัดทันที "ไม่ต้อง...ฉันไม่อยากรู้ตอนนี้ ถ้าครูกุ๊กจะช่วยกรุณาฉันสักอย่าง ขอแค่อย่างเดียว...กรุณาไปพูดกับน้องครูกุ๊กให้ขอร้องหมิง ขออย่าทำเรื่องบานปลาย ถ้าฉันได้แต่งงานกับคุณอนุชาเมื่อไหร่ ฉันจะออกไปจากวงการตามที่หมิงต้องการทันที"


อลินยังร่ำร้องขอความ เห็นใจไม่ขาดปาก ครูกุ๊กได้แต่ งึมงำ พูดไม่ออกบอกไม่เป็น...พสุคิดไม่ตกว่าจะช่วยอลินยังไงดี พอเอาเรื่องนี้ปรึกษาปฏิคมหรือทนายเปี๊ยก ถึงกับร้องห้ามลั่น ไม่ควรไปเดือดร้อนกับเธอด้วย แต่พสุกลับอ้างว่า เพราะอลินมีบุญคุณกับเพื่อน พสุจึงต้องช่วย เผื่ออลินจะโชคดี
เมื่อพสุไป พบนายวายุหรือลมที่ร้านเครื่องประดับพร้อมเปี๊ยก...เป็นเวลาที่ลมกำลังหัว เสียที่ร้านขาดทุนยับ มีหนี้สินท่วมหัว ระบายอารมณ์ใส่ลูกน้องหาว่าโกงจนกระเจิง...พอหันมาเห็นพสุกับเพื่อนจึงตวาด ใส่ ว่าเข้ามาให้เป็นเสนียด ในร้านเขาทำไม?
"ผมมีเรื่องจะขอร้องคุณลม...ผมอยากให้คุณลมช่วยไปคุยกับคุณหมิง เรื่องคุณลิน..."
"หน้าอย่างแกมีสิทธิ์อะไร...อ๋อ ยอมรับแล้วสิ ลูกศิษย์ ของแกคือนางเอกตกยุค ท่าจะรักกันมากนะ"
พสุฟังแล้วเดือดแต่ระงับไว้ บอกว่าเขาไม่ได้รักกับอลิน ที่บากหน้ามาขอ เห็นว่าแค่เรื่องผู้หญิงทะเลาะกัน ลมหัวเราะเยาะ


" ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าคนอื่นฉันช่วยได้ แต่แก...ไอ้ลูกคนใช้ไม่เจียมตัว สะเออะอยากตีตัวมาเสมอฉัน ฉันเกลียดแก ถึงแกจะคุกเข่าหัวโขกพื้นวิงวอน ฉันก็ไม่ช่วย"
เปี๊ยกทนฟังไม่ไหว ดึงเพื่อนให้รีบกลับดีกว่า...พสุได้แต่กำมือแน่น พูดไม่ออก ถูกลมด่ากราดซ้ำ ไอ้คนชั้นต่ำ อย่ามาเป็นเสนียดร้านเขา กำพืดของดินสมควรอยู่ก้นครัว เปี๊ยกดึงพสุออกไป ลมด่าไล่หลัง
"แกไปบอก ยายลูกศิษย์สุดสวาทของแกให้มาขอร้องฉันด้วยตัวเอง อยากให้เรื่องจบ อย่าลืมเอาเงินมาปิดปากฉันด้วย แต่ต้องปิดเยอะๆหน่อยนะ ถึงจะอยู่" ลมยิ้มหยันอย่างสะใจ...
ปฏิคมหรือทนายเปี๊ยกเอาความย่อยยับของพสุที่ไปขอ ร้องนายวายุ นายลมผู้กำลังจะทำร้านเจ๊งให้ช่วยพูดกับหมิง จนถูกด่าอย่างเจ็บแสบ อลินกลับตอกกลับว่า ทำไมครูกุ๊กไม่ด่าตอบ เปี๊ยกให้คุณอลินจัดการเรื่องหมิงเอง แล้วจะต้องไปขอบคุณนายดินด้วย อลินบอกว่า ช่วยเธอไม่สำเร็จ ยังจะให้ขอบคุณ
"ถ้าคุณลินรู้ว่าไอ้ดิน มันอยู่ในครอบครัวนั้นในฐานะอะไร คุณลินจะรู้เองว่าทำไมต้องขอบคุณมัน ที่มันยอมทำเพื่อคุณลินขนาดนี้" อลินฟังแล้วชะงัก อยากรู้นักว่าเขาอยู่ในฐานะอะไร?
ปฏิคมจึงต้องพูด...พูดความจริงที่เพื่อนของเขาถูกทับถมแทบจมดิน ถูกย่ำยีในฐานะลูกคนใช้ในบ้านของท่านเจ้าสัว... อลินยิ่งฟังก็ยิ่งสะท้อนสะท้านใจ น้ำตาเอ่อท้นจนไหลออกมาด้วยอาการสงสารเห็นใจ ไม่นึกว่าชีวิตครูกุ๊กจะรันทดขนาดนี้... เปี๊ยกจึงสรุปอีกครั้ง ให้อลินไปขอโทษนายดิน และขอบคุณเขาอย่างจริงใจ...
"แน่นอน...คนอย่างฉัน จริงใจเสมอ ไม่เคยทำอะไรมุ่งแต่ผลประโยชน์ แค่ขอโทษและขอบคุณครูกุ๊กด้วยความจริงใจ ทำไมจะทำไม่ได้...สบายมาก" อลินยืด แต่แล้วค่อยๆหลบนายเปี๊ยก เพราะเริ่มเครียดเมื่อคิดหาภาพ..."ความจริงใจ...เขาทำอีท่าไหนหว่า?"
คำ ตอบแรก อลินไปซื้อเค้กที่ร้าน ทักทายกับโสภิตา ที่บอกอลินว่า เธอชื่อตุ๊กตาและขอบคุณ อลินที่เคยแนะนำให้ขายแหวนแต่งงานมาแล้ว อลินบอกว่าจะซื้อเค้กไปง้อเพื่อน เพราะเธอทำคดีไว้ เลยต้องขอโทษเขา...โสภิตาจึงบอกอลินว่า เธอมีเพื่อนคนหนึ่งขี้น้อยใจ ขี้งอนเช่นกัน จึงถามอลินว่า เพื่อนอลินนิสัยยังไงเธอจะได้ง้อถูก อลินรีบสาธยาย
"เป็นคนตรง ปากร้าย ขี้บ่น จู้จี้จุกจิก ดุไร้เหตุผล แต่จริงๆไม่มีอะไร ใจดี แล้วชอบทำอาหาร"
" ตามีเพื่อนคนหนึ่ง" ว่าแล้วหัวเราะ "นิสัยแบบนี้เลย วิธีง้อง่ายมาก แค่จริงใจ พูดตรงๆง่ายๆ เขาใจดีและไม่โกรธ" โสภิตาส่งเค้กให้อลิน บอกว่าไม่คิดเงิน ตอบแทนที่แนะนำเรื่องแหวน แล้วยังอวยพรให้ง้อเพื่อนสำเร็จ...อลินขอบคุณโสภิตา มิตรภาพเล็กๆเริ่มก่อตัวระหว่างผู้หญิงสองคนโดยไม่รู้ตัว...
ooooooo
เมื่อ อลินถือกล่องเค้กขึ้นรถขับออกไปจากหน้าร้านแล้ว...รถตู้คันหนึ่งก็พุ่งเข้า มาจอด คนขับลงมาเปิดประตู คุณหญิงอมราก้าวลงมาดั่งนางพญาเหยี่ยวกำลังคิดขย้ำลูกไก่เนื้อหวาน...โสภิตา กำลังจัดขนมในตู้ เสียงคนเข้าร้านมา พร้อมสุ้มเสียงวางอำนาจ
"ไม่คิดเลย ว่าฉันกับเธอต้องมาเจอกันอีก" โสภิตาเห็นคุณหญิงถึงกับอึ้ง ถามว่าคุณหญิงมีธุระอะไรไม่ทราบ คุณหญิงถามว่า ร้านนี้ตาเล็กหมดไปเท่าไหร่มิทราบ แล้วก็ประกาศ "ที่ฉันต้องลดตัวลงมาเสวนากับผู้หญิงอย่างเธอคือ...เลิกยุ่งกับตาเล็กเสียที ต่อให้หล่อนมีลูกเป็นร้อยก็จับเขาไม่ได้...เพราะฉันไม่ยอมรับหล่อนเป็น สะใภ้"
"ดิฉันไม่เคยคิดมีลูกไว้จับผู้ชายอย่างคนอื่น ดิฉันเลิกยุ่งกับคุณเล็กมานานแล้ว มีแต่ลูกชายคุณหญิงที่ชอบมาหาดิฉัน...ช่วยกลับไปบอกคุณเล็กด้วยนะคะ อย่ามาที่นี่อีก ดิฉันไม่ยินดีต้อนรับ"
"มากไปแล้วนะ" คุณหญิงเต้นผาง "หล่อนเป็นใคร กล้ามาพูดอย่างนี้กับฉัน ห่างมือเท้าไปนานใช่ไหมถึงกล้าดี... ต้องเตือนความจำสักหน่อย จะได้ไม่เหลิง"
ว่าแล้วคุณหญิงดีดมือเปาะ สมุนคุณหญิงข้างนอก ชายสกปรกกรูกันเข้ามาสามสี่คน
" พังร้านมันเดี๋ยวนี้" สิ้นคำสั่ง ชายโฉดพวกนั้นจึงกระโจนเข้าถล่มร้านอย่างไม่เกรงใคร โสภิตาร้องลั่นห้ามไว้ แต่ไม่มีใครฟัง เสียงทุบตีถล่มตู้โต๊ะพังพินาศ ขนมนมเนยแตกกระจายเลอะเทอะไปทั่วทั้งร้าน โสภิตาร้องโฮ ถึงกับวิ่งมาขอร้องคุณหญิงพร้อมขอโทษ จับแขนคุณหญิงแทบกราบกรานที่เท้า คุณหญิงสะบัดมือตบหน้าโสภิตา จนร้องลั่นลงไปเค้เก้กับพื้น ยังต้องลุกมาวิงวอนอีก
"ถ้าหล่อนไม่ยอมไปจากชีวิตลูกชายฉัน อย่าหวังเลยว่าจะอยู่อย่างเป็นสุข" พูดจบเดินย่ำขนมที่พื้นอย่างไม่สนใจออกจากร้านไป สมุนพากันตามออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
ปูเป้วิ่งออกมาดู ถามแม่ว่าทำไมบ้านเราเป็นแบบนี้ แล้วยังอยากรู้ ทำไมคุณแม่ร้องไห้ โสภิตามองข้าวของพังพินาศ ได้แต่ร้องไห้ ไม่อาจบอกลูกได้...
ooooooo
หลัง ร้านอาหารอิตาเลียนปิดแล้ว อลินมาหาพสุพร้อมกับยื่นกล่องเค้กให้ แล้วเอ่ยคำขอโทษเขา...เขาจึงถามว่าเรื่องอะไร อลินบอกว่าเพิ่งรู้เรื่องครอบครัวเขา จึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีเลย จึงมาขอโทษ แล้วปลอบอย่าน้อยใจในโชคชะตาตัวเองเลย ลูกแม่ครัว ลูกคนใช้ เป็นพระเอกมีมากมาย
พสุบอกไม่น้อยใจเลย...อลินขอโทษเขาจนได้ที่เธอทำให้ เขาเดือดร้อน และเธอเอาแต่ใจตัวเอง หาเรื่องซวยๆมาให้เขาอยู่เรื่อย พสุรับว่าเขาไม่พอใจ แต่ทำไงได้ เธอเป็นลูกศิษย์เขา แล้วพูดเล่นๆว่า เวลาเขาโกรธ เธอซื้อเค้กมาให้ แล้วเขาก็ชอบเค้กและของฟรีมากด้วย...
"เอาละ ตอนนี้ผมช่วยคุณไม่ได้แล้ว จะทำยังไงต่อไป"
" ฉันจะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ฉันจะบอกความจริงทุกอย่าง...เรื่องทำอาหารไม่เป็น เรื่องจ้างครูกุ๊กมาสอน เรื่องล้วงข้อมูลคุณเล็ก...จะให้เขาได้ยินจากเธอดีกว่าให้ยายหมิง มาแฉ...พรุ่งนี้เที่ยง นัดพบกินข้าวกัน เขาจะบอกเรื่องสำคัญกับฉัน ฉันก็จะบอกเรื่องสำคัญกับเขา...เขาฟังแล้วคงไม่เกลียดฉัน คนน่ารักอย่างฉันมีคนเกลียดด้วยเหรอ" พสุบอกทันทีว่า มีคนเกลียดแน่ "แต่ต้องไม่ใช่คุณเล็ก ฉันจะสารภาพโดยที่ไม่ให้คุณเล็กเกลียดฉัน"
พสุถามวิธีที่ไม่ให้คุณเล็กเกลียดเธอคืออะไร อลิน บอกเธอมีวิธี แต่ไม่บอกเขา...
แล้ว วิธีของอลินก็เริ่มขึ้น เมื่อเธอกลับมายังที่พัก...อลินวางพวงมาลัยสี่พวงไว้ที่รูปคุณป้าทั้งสาม คือป้าใหญ่ ป้ากลาง ป้าเล็ก และรูปคุณแม่น้อยของเธอ...อลินนั่งนิ่งรำลึกถึงพระคุณท่าน กราบงามๆบนบานศาลกล่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ
"ขอท่านได้โปรดช่วยลินด้วย พรุ่งนี้ลินต้องสารภาพความผิดกับคุณอนุชา ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ขอคุณเล็กอย่าโกรธอย่าเกลียดลินด้วยเถิด...ถ้าคนนี้หลุดมือไป ลินแย่แน่ๆ จะหาคนเพอร์เฟกต์อย่างคุณอนุชา ไม่รู้ว่าต้องรออีกกี่ชาติ ไม่ว่ายังไง ลินต้องแต่งงานในปีสองปีนี้ให้ได้ ป้าๆทั้งสามและแม่น้อยช่วยลินด้วยนะคะ...สาธุ" อลินพนมมือแต้ แล้วยังกราบกรานเอาพรจากท่านป้าทั้งสามและแม่น้อย มาตบกบาลตัวเองอีกสามที...แล้วนั่งนิ่งคิด หวั่นใจว่าพรุ่งนี้ผลจะเป็นยังไงก็ไม่รู้...
ooooooo
สูตรเสน่หาตอนที่ 10
อลิ นมาที่ร้านกาแฟตามที่นัดหมายก่อนอนุชา เธอเตรียมใจไว้อย่างหนักที่จะพูดกับเขาอย่างไร เขาถึงจะเห็นใจเธอ แต่พอซ้อมบทพูด ตั้งแต่เริ่ม...เรียกคุณเล็กคะขา อ่อนหวาน จนกระทั่งเน้น "ลินมีเรื่องสำคัญมากจะบอกคุณ...ซ้อมหลายครั้ง จนมีเสียงตอบมาจากข้างหลัง
"เรื่องอะไรครับ" เสียงอนุชา ทำเอาอลินสะดุ้งแปดกลับ ลุกพรวดขึ้น
" คุณเล็กมานานแล้วเหรอคะ" อลินยิ้มแป้นแล้นให้ เขายิ้มตอบ มานานจนได้ยินอลินจะบอกเรื่องสำคัญ...จึงย้ำถามว่า เรื่องสำคัญนั้นอะไร? อลินอายจึงเลี่ยงไปว่า เธอกำลังซ้อมละคร บังเอิญชื่อตัวละครเหมือนกันเลย...อนุชาจึงบอกว่า ถ้าเธอไม่มี เขาจะบอกเรื่องสำคัญของเขาเอง
"คุณลินครับ ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่นาน แต่ผมรู้จักคุณลินมากขึ้น ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะพัฒนาความสัมพันธ์ ระหว่างเราสองคนให้เป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงาน" อลินฟังแทบสำลักน้ำลายที่กำลังจะกลืน จึงลุ้นไปไกลว่าเขาจะพัฒนาเป็นความรัก แต่เขากลับเปิดไต๋ "คือ...เป็นหุ้นส่วนในบริษัทครับ... ผมเห็นความตั้งใจและศักยภาพในตัวคุณ ถ้าเราได้ทำงานร่วมกัน คุณลินไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวันมาประชุมนัดสำคัญ เซ็นหนังสือเป็นครั้งคราว ที่สำคัญคุณเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทอวตาน เราสองคนจะเดินหน้าไปพร้อมกัน ถ้าไม่ไว้ใจผม ส่งคนมาตรวจสอบได้ทุกเวลา ถ้าใครผิดก็ว่าตามผิด...ไม่ทราบว่าคุณลินจะสนใจหรือเปล่าครับ"
"โอเคค่ะ ลินสนใจเป็นหุ้นส่วนกับคุณเล็กค่ะ"
อลินดีใจจนเนื้อเต้น แม้เขาจะยังไม่พูดถึงความรักก็ตาม...
เมื่อ อลินไปคุยกับปฏิคมที่สำนักทนายของเขา เล่าเรื่องที่จะเป็นหุ้นส่วนกับอนุชาให้ฟัง แล้วยืนยันว่าเธอคิดดีแล้วที่จะเป็นหุ้นส่วนบริษัทอวตานกับเขา
"แล้ว...คุณลินได้สารภาพความจริงกับนายอนุชาไปหรือยัง"
"ยัง...ถ้าฉันบอก เดี๋ยวคุณเล็กก็เปลี่ยนใจไม่ชวนฉันเข้าหุ้นน่ะสิ"
"อ้าว ถ้าเขารู้ทีหลังจากปากหมิงล่ะ"
" ตอนนั้นเขาคงทำอะไรฉันไม่ได้ เพราะเป็นหุ้นส่วนบริษัทเขาแล้ว...แหม นายนี่คิดช้าจัง ฉันคิดเรื่องนี้แค่วินาทีเดียว หลังจากคุณเล็กชวนเข้าหุ้น ก็รู้ว่านี่คือทางออกที่คุณป้าทั้งสามและคุณแม่ส่งมาจากสวรรค์...จะเป็น บันไดขั้นสำคัญที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคุณเล็ก...วันนี้เป็น หุ้นส่วนบริษัท อีกไม่นานจะได้เป็นหุ้นส่วนชีวิต"
"ขอโทษ...แล้วคุณลินต้องจ่ายค่าพัฒนาหุ้นส่วนโซ่ทองคล้องชีวิตครั้งนี้เท่าไหร่ครับ"
"ไม่มากมายอะไร...แค่สิบล้านเท่านั้น"
นายเปี๊ยกร้องลั่น "สิบล้าน" กลายเป็นทนายหัวไม่มีเห็ดไปทันที...
ส่วน คุณหญิงแม่อมราดีใจจนตัวสั่น เมื่อจะได้เงินสิบล้านไปซื้อเสียงเลือกตั้ง แล้วยังชมความคิดตัวเองที่รู้ว่าแม่นั่นคอยจ้องจับลูกเล็กอยู่แล้ว ทั้งกำชับให้ขอเช็คเงินสด ได้แล้วรีบเอามาให้แม่ทันที
"คุณแม่ได้เช็คเมื่อไหร่ ผมจะพาลูกเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ทันที" อนุชาวางเงื่อนไขหมับ คุณแม่หุบยิ้มไม่สบอารมณ์กี๋ทันที เปรยขึ้น
"ว่าแต่นังโสภิตามันจะยอมให้ลูกมาอยู่ที่นี่เหรอ บางทีมันอาจไม่ให้ลูกมาอยู่กับเล็กก็ได้นะ"
ooooooo
(อ่านต่อพรุ่งนี้)

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : ไทยรัฐ

Readlakorn เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ ละครเกาหลี ละครช่อง3

Related Posts



0 comments:

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal