มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 11
คริสต์ศักราชปีที่ 4 โอรสองค์ที่สามของพระราชายูรินามว่า "มูยุล" ได้ถือกำเนิดขึ้น แต่ความปลาบปลื้มมีเพียงไม่นาน เมื่อพระราชายูริทรงทราบว่าโอรสองค์นี้จะมีชะตาทำให้บิดามารดาและพี่ชายถึง แก่ชีวิต สุดท้ายอาจทำให้โกคูรยอถึงคราวหายนะ จึงให้กังวลพระทัยนัก
โหร หลวงทำนายว่า "องค์ชายน้อย มีดวงชะตาจะทำให้โกคูรยอถึงกาลวิบัติ เข่นฆ่าพี่ชาย สังหารพ่อและแม่ ท้ายที่สุด ยังจะสังหารลูกในไส้ของตัวเองด้วย"
โหรหลวงเตือนให้พระราชายูริ สังหารโอรสองค์นี้เพื่อเห็นแก่บ้านเมือง แต่ว่า แม้จะเป็นพระราชา แต่อีกฐานะหนึ่งก็ทรงเป็นบิดา เป็นใครก็ไม่อาจสังหารเลือดเนื้อเชื้อไขได้ลงคอ
ด้วยความหมายว่าไม่มีตัวตนและชีวิตจิตใจ คือที่มาของชื่อ "มูยุล" อีกทั้งส่งเขาไปอยู่ในที่ๆ ไกลแสนไกล
มู ยุลถูกส่งให้ช่างเขียนภาพชื่อเฮยาเป็นคนเลี้ยงดู และอยู่ในสุสานพระราชาจูมง คอยเขียนภาพฝาผนัง เติบโตในสภาพที่ไม่เคยรู้ฐานะแท้จริงของตัวเอง แต่ว่ามูยุลกลับมีความสนใจต่อโลกภายนอก คิดจะออกไปเผชิญโชคอยู่ตลอดเวลา
และแล้วในคืนที่มูยุลหนีออกจากถ้ำ นักรบทมิฬแห่งแคว้นพูยอมาบุกรุกสุสานหลวง สิ่งที่อ๋องเทโซต้องการ ก็คือกระบี่ของพระราชาจูมง
ใน ที่สุดมูยุลก็ได้ออกจากถ้ำ ไปเข้ารับการฝึกเป็นทหาร เพื่อให้รู้จักการต่อสู้อย่างแท้จริง ขณะที่เป็นทหารอยู่โกคูรยอ ครั้งหนึ่งเขาเผลอข้ามพรมแดนไปยังแคว้นพูยอ ถูกจับได้และนึกว่าเป็นสายลับ ทำให้ถูกทรมานอย่างหนัก ขณะนั้นเอง มูยุลได้รู้จักหญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีความสำคัญต่อชีวิตเขาในเวลาต่อมา คุณหนูยอน ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสของมูยุล ทำให้ทั้งคู่เกิดความประทับใจในกันและกัน
เมื่อองค์ชายแฮเมียงรู้ว่า น้องชายมีอันตราย จึงไม่คำนึงว่าขณะนั้นพระราชา ยูริก็อยู่ในแคว้นพูยอ กลับพาทหารไปชายแดนเพื่อช่วยชีวิตมูยุลไว้ ทำให้พระราชายูริถูกอ๋องเทโซตำหนิอย่างหนัก พร้อมทั้งดูหมิ่นเหยียดหยาม และเมื่อกลับไปเมืองโชบุน จึงสั่งปลดองค์ชายแฮเมียงออกจากตำแหน่งรัชทายาท แม้ว่าเพราะมูยุล ทำให้องค์ชายแฮเมียงตกที่นั่งลำบาก แต่เขาก็ไม่เคยตำหนิมูยุล ซ้ำยังสอนให้รู้เป้าหมายในการดำเนินชีวิต ทำให้มูยุลเกิดความซาบซึ้งอย่างมาก หลังจากนั้นมูยุลจึงกลายเป็นคนสนิทขององค์ชาย และได้แอบเข้าแคว้นพูยอจนได้พบคุณหนูยอนอีกครั้ง แต่ด้วยความเข้าใจผิด จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น
เหมือนถูกชะตาเล่นตลก ทำให้มูยุลถูกทหารไล่ล่า สาเหตุเพราะไปช่วยคุณหนูยอนไว้ และขณะอยู่ในคุก ได้รับรู้กำหนดการที่อ๋องเทโซจะเดินทางไปเมืองฮวางยงจากนักโทษคนหนึ่ง
มูยุล ช่วยองค์ชายแฮเมียงลอบสังหารอ๋องเทโซระหว่างเดินทาง เป็นเหตุให้องค์ชายแฮเมียงต้องสิ้นพระชนม์เสียเอง
การสิ้นพระชนม์ขององค์ชายแฮเมียง ทำให้มูยุลเกิดความเข้าใจผิดอย่างมากว่า
" คนเป็นพ่อแท้ๆ ทำไมยอมให้ลูกตัวเองไปตาย คนที่ฆ่าองค์ชาย ไม่ใช่แคว้นพูยอ แต่เป็นโกคูรยอ และคนที่ฆ่าองค์ชาย ไม่ใช่อ๋องเทโซ แต่เป็นพระราชายูริ"
มู ยุลเดินทางกลับแคว้นโกคูรยอด้วยหมายลอบปลงพระชนม์พระเจ้ายูริ ระหว่างทางมูยุลผ่านสถานที่ที่ องค์รัชทายาทแฮเมียงสิ้นพระชนม์ ทำให้มูยุลหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีตขึ้นมา
"ที่ๆ มีเลือดขององค์ชายไหลรินอยู่ หม่อมฉันได้กลับมาแล้ว แม้จะผ่านไปนานมาก แต่ความภักดีของหม่อมฉัน ก็ไม่มีวันเปลี่ยน หม่อมฉัน จะสังหารพระราชายูริให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้องค์ชาย"
ตกดึกมูยุลฝันเห็นพระเจ้ายูริและองค์รัชทายาทแฮเมียงด้วยความที่มูยุลรู้สึกประหลาดใจ มูยุลจึงตัดสินใจไปหาเฮยา
ดึกแล้ว พระราชายูริยังเสด็จมาหาเฮยา
"หึ ฝ่าบาท เสด็จมายามวิกาล มีอะไรหรือเพคะ"
"เหตุการณ์ทางพูยอเป็นไงบ้าง สายของเราส่งข่าวมาหรือยัง"
"เอ่อ เพคะ หม่อมฉันกำลังอ่านอยู่ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้เช้า จะไปทูลให้ฝ่าบาททรงทราบ ถ้าไง เสด็จไปบรรทมก่อนเถอะเพคะ"
"ไม่เป็นไร ข้าจะวิเคราะห์ด้วยตัวเอง หึ"
"ฝ่าบาท"
"หึ เมื่อกี้ข้าฝันเห็นแฮเมียง เขามองข้าด้วยน้ำตานองหน้า ถามว่าทำไมไม่ไปตีพูยอ ทำไมจนป่านนี้ยังไม่ยอมแก้แค้นให้เขาซะที หึ"
"ฝ่าบาท หม่อมฉันเชื่อว่าองค์ชาย เข้าพระทัยฝ่าบาท ว่าทรงทำดีที่สุดแล้ว ได้โปรด อย่าทรงตำหนิองค์เองเลยเพคะ"
องค์ ชายยอจินซึ่งเสด็จออกวังหลวงนั้น ขณะที่ชูพักโซไม่ได้อยู่ถวายการรับใช้องค์ชายนั่นเองเป็นเหตุให้องค์ชายยอจิ นและมูยุลได้พบกันเข้าโดยบังเอิญ องค์ชายยอจินทรงรู้สึกคุ้นหน้า แต่มูยุลตอบว่าไม่เคยเจอกัน แล้วรีบเดินหนีไป
พักโซกลับมาก็ถูกเคยูกับเฮยาต่อว่าที่พาองค์ชายยอจินออกไปนอกวัง
"ถ้าองค์ชายเกิดเรื่องแล้วใครจะรับผิดชอบ"
"ขอโทษด้วยครับ"
"หึ ต่อไป ห้ามพาองค์ชายออกไปข้างนอกอีกเข้าใจมั้ย"
"องค์ชายจะไปให้ได้ จะให้ข้าทำไงล่ะครับ"
"ยังจะเถียงอีก"
"ข้าห้ามไม่ฟังนี่นา ทุกวันนี้องค์ชายโปรดที่จะออกไปข้างนอกทุกวันเลย"
"ถึงองค์ชายจะบังคับยังไงก็ช่าง เจ้าก็ไม่ควรทำตาม เข้าใจมั้ย"
พักโซรับคำ ลูกน้องเข้ามารายงานเคยูกับเฮยาว่า
"หัวหน้าครับ ที่บ้านของสายลับพูยอ มีนักรบทมิฬไปหา"
"แค่สองคนยังไม่มีปัญญารับมือ ปล่อยให้ตายขนาดนี้เชียวหรือ"
"ขอโทษด้วยครับ ฝีมือพวกเขาร้ายกาจจริงๆ"
"รีบไปส่งข่าวให้ท่านแม่ทัพคูชูได้รู้ ให้เพิ่มกำลังตรวจตรามากขึ้น" เฮยาสั่งการ
ด้านมาโนก็บอกกับมูยุลว่า
" คนที่อยู่ในบ้านนั้น เป็นทหารโกคูรยอ คนของเราโดนเก็บไปนานแล้ว มูยุล เรากลับพูยอเถอะนะ ถ้าผู้ใหญ่รู้ว่าเหตุการณ์เปลี่ยนไป คงไม่ตำหนิเราหรอก เพราะไม่ใช่ความผิดของเรา ไม่งั้นเราจะทำอะไรได้ คนที่จะช่วยก็ตายหมดแล้ว"
ยอนไร้ที่พึ่งพิงจึงตัดสินใจไปหาแบงัมสหายของทังโน นึกไม่ถึงว่ากลับพบอันตรายอยู่เบื้องหน้า ยอนหลบหนีหัวซุกหัวซุนเพื่อเอาชีวิตรอด
องค์ ชายยอจินชวนพักโซออกไปนอกวังอีก แต่ครั้งนี้พักโซไม่ยอมไป องค์ชายยอจินจึงชวนนางในยุนวาออกไป ยุนวาไม่กล้าขัดองค์ชายยอจินจึงตามเสด็จไปด้วย ทั้งสองมีความสุขมากในการที่ได้ไปไหนมาไหนกันตามลำพัง
แพกึยเห็นเช่นนั้นก็มาปรึกษากับซังกาว่า เขาคิดจะกำจัดองค์ชาย บ่าวตกใจ
"หา กำจัดองค์ชายหรือ ก็ไหนว่า จะให้คนของเผ่าพีรูมาเป็นพระชายาไง"
" ต่อให้องค์ชายยอจินเป็นเด็กอ่อนแอ แต่ภาษิตว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ไม่รู้เมื่อไหร่จะหันมาเล่นงานเราอีก เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม เรารีบกำจัดเสี้ยนหนามซะดีกว่า ยิ่งตอนนี้ใครๆ ก็กลัวเรื่องนักรบทมิฬมาบุกรุก เราก็บอกว่าเป็น ฝีมือคนของแคว้นพูยอ แค่นี้ก็สิ้นเรื่องแล้ว"
ซังกาเห็นด้วย "เป็นความคิดที่ไม่เลว"
ขณะ ที่ทหารแคว้นพีรูจับกุมตัวองค์ชายยอจินนั่นเอง ทันใดนั้น นักฆ่าของกลุ่มนักรบทมิฬซึ่งปกปิดฐานะที่แท้จริงไว้ก็ลักพาตัวองค์ชายยอจิ นไป
ขณะที่ในวัง พระมเหสีมียูทรงทราบว่าองค์ชายยอจินหายตัวไปก็โวยวาย พระราชายูริทรงคาดคั้นจนทราบว่าองค์ชายยอจินชอบออกไปเที่ยวข้างนอก ทรงให้คูชูตามเฮยามาพบ
"องค์ชายยอจินออกจากวังแล้วหายสาบสูญไป ป่านนี้ยังไม่กลับมา กลัวว่าจะเกิดเรื่อง ท่านคูชูสั่งทหารเฝ้ายามให้ดี ส่วนเฮยาพาคนไปค้นทั่วเมือง"
"เพคะฝ่าบาท"
เคยูพบเครื่องประดับขององค์ชายยอจิน ส่วนเฮยาพบลูกดอก สั่งให้เคยูไปสืบที่มาของลูกดอก
มาวังมาพบแพกึย สร้างความไม่พอใจให้แพกึยถามว่ามาทำไม
"หึ ถ้าข้าทำงานสำเร็จ จะได้สัมปทานผ้าไหมทั้งหมดในเมืองนี้ไม่ใช่หรือครับ"
"ผ้าไหมหรือ"
" ใช่ครับ หึ แค่จับตัวองค์ชายไปขังซัก 2-3 วัน แล้วจู่ๆ ก็ทำเป็นว่าหาเจอแล้ว พวกท่านมิกลายเป็นวีรบุรุษหรอกหรือ จริงมั้ยครับท่านซังกา ฮ่าๆๆ"
"ฮึ่ม มีหน้ามาพูดอีก"
"ทำไมทำแบบนี้"
"ไม่รู้จริงหรือแกล้งโง่กันแน่ จู่ๆ มีคนร้ายสองคน มาสังหารคนของเราแล้วช่วยองค์ชายไปต่างหาก"
มาวังตกใจ "หา ล้อ ล้อเล่น ไม่จริงมั้ง"
"ไม่ต้องพูดมากกับมัน บอกมาว่าองค์ชายอยู่ไหน"
"ข้า ข้าจะไปรู้ได้ไง"
"เจ้าไม่ได้ชิงตัวองค์ชายไปหรือ"
ซัง กาตัดบท "พอที หึๆ เฮ่อๆๆ เจ้าก็ไม่ต้องโมโหนักหรอก ตราบใดที่องค์ชายยังไม่กลับวังและไม่อยู่กับพวกเรา ใครจะเป็นผู้ต้องสงสัยที่สุด"
"ข้าไม่รู้อะไรจริงๆ"
"เฮ่อๆๆ รู้แล้วน่า เฮ่อๆๆ สิ่งที่รับปาก ข้าไม่เบี้ยวแน่ แต่ว่า ถ้าให้พระราชยูริรู้ว่าเรื่องนี้เรามีส่วนเกี่ยวข้องละก้อ ไม่แน่ว่า เจ้าจะได้ไปพบยมบาลในเร็ววันนี้"
"ข้าเข้าใจครับ"
"หมดเรื่องแล้วออกไปได้"
"คนๆ นี้ปล่อยไว้ไม่ได้" แพกึยว่า
"อึม หมอนี่ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง หึๆๆ" ซังกาว่า
พระมเหสีมียูทรงเฝ้ารอข่าวขององค์ชายยอจินจนจะไม่ไหว องค์หญิงเซยูทรงนำยามาถวาย
"พักผ่อนเถอะเพคะ หม่อมฉันเอายามา เสวยก่อนจะได้หายเร็วๆ"
"ไม่รู้ว่าลูกจะเป็นตายร้ายดี ใครจะกินยาลงได้ หึ ช่วยตามหาเขาทีเถอะ ฮือ ถ้าเขาเป็นไรไป ข้าคงอยู่ไม่ได้แน่ ฮือ เฮ่อ"
องค์หญิงเซยูทรงตรัสถามเฮยาว่า มีอะไรคืบหน้าบ้างมั้ย
"เจอเครื่องประดับขององค์ชายตกอยู่กลางถนนก็จริง แต่ว่า ยังสืบไม่ได้ว่า เป็นฝีมือพวกไหนเพคะ" เฮยาทูล
"หึ ถ้ายอจินเป็นไรไป ราชสำนักต้องวุ่นวายแน่ ยังไงก็ต้องหาให้เจอล่ะ"
"เพคะองค์หญิง"
เคยูเข้ามา "หัวหน้าครับ หึ"
"มีธุระอะไร"
"รู้ที่มาของลูกดอกแล้วครับ จากเผ่าพีรู"
องค์หญิงเซยูตกใจมาก เฮยานำทหารเข้าไปตรวจค้นสร้างความไม่พอใจให้แก่แพกึยอย่างมาก
ขณะที่องค์ชายยอจินรู้สึกตัวก็เรียกยุนวาให้ตื่นด้วย
"หา เอ่อ องค์ชาย"
"เป็นไรหรือเปล่า"
"ไม่เป็นไรเพคะ ฮือ ฮือๆๆ ฮือ องค์ชาย ฮือๆๆ"
"ไม่ต้องห่วงไปหรอก บอกแล้วไง ข้าจะคุ้มครองเจ้า จนป่านนี้ยังไม่เห็นทำอะไร แสดงว่าพวกเขาคงไม่คิดฆ่าเรา รีบหาทางไปจากที่นี่ดีกว่า"
มูยุลกับมาโนเข้ามาจับองค์ชายยอจิน ยุนวาร้องโวยวาย องค์ชายยอจินตรัสว่า
"กล้าล่วงเกินข้าหรือ โอ๊ะ โอย หึ เจ้า เคยเป็นลูกน้องเจ้าพี่แฮเมียง เอ่อ หึ"
" เจ้าฟังให้ดี เราจะปล่อยเจ้า กลับไปเมืองหลวงเดี๋ยวนี้ ไปทูลพระราชายูริ ว่าถ้าไม่อยากให้องค์ชายตาย ก็มาพบข้าที่นี่ ให้มาคนเดียวด้วย ถ้ามีทหารติดตามละก้อ องค์ชายยอจินจะตายทันที"
"ฮือ องค์ชาย"
"พานางไปซะ" มูยุลสั่ง
เฮยาเข้าเฝ้าพระราชายูริและทูลว่า
"ยังไม่พบร่องรอยองค์ชาย ไม่มีเบาะแสเพคะ"
แพ กึยทูลฟ้อง "ฝ่าบาท หม่อมฉันมีเรื่องบางอย่างจะทูล หม่อมฉันรู้ว่าหน่วยข่าวกรองเป็นงานที่สำคัญ แต่การทำงานของนาง,หม่อมฉันเห็นจะทนไม่ได้อีกแล้ว เผ่าพีรูเป็นสถานที่อะไร ถิ่นกำเนิดของอดีตพระราชา ซ้ำยังเคยช่วยพระราชาจูมงสมัยกอบกู้แผ่นดิน แต่แล้ว พวกเขากลับมาลบหลู่เราถึงที่ ถือเป็นการหยามเกียรติอย่างแรง หม่อมฉันอยากให้ยุบหน่วยงานนี้ซะ แล้วให้การหาข่าวเป็นหน้าที่ของชนเผ่าทั้งหลายดีกว่าพะย่ะค่ะ หากไม่อย่างงั้น เราจะสั่งถอนกำลังทหารของเผ่าต่างๆ ที่เฝ้าอยู่ตามชายแดนทั้งหมด"
คูชูว่า "ท่าน พูดแบบนี้คือจะข่มขู่ใช่ไหม"
ซัง กาว่า "เฮ้ แพกึยพูดถูกแล้วพะยะค่ะ หน่วยข่าวกรองพูยอซึ่งมีหน้าที่สำคัญ กลับมาจับผิดชนเผ่าทั้งหลาย เพราะความไม่ไว้วางใจ แล้วต่อไปใครจะภักดีต่อฝ่าบาทอีก"
"ไว้หาองค์ชายพบก่อนแล้วข้าจะลงโทษนางเอง แต่ว่า ตอนนี้ข้าขอสั่งให้พวกท่านช่วยตามหาองค์ชายด้วย"
"เรื่องนี้"
พระราชายูริตรัสว่า "จะไม่ยอมช่วยใช่ไหม ไหนว่าห่วงความปลอดภัยขององค์ชายไม่น้อยกว่าข้าไงล่ะ"
ซังกาอึ้ง "แต่ว่า"
"ถ้าเผ่าพีรูไม่สามารถหาองค์ชายให้พบ ก็ต้องรับผิดชอบพอๆ กับนางเหมือนกัน"
มาวังจำยอนซึ่งถูกจับเป็นทาสแคว้นโกคูรยอได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังจำได้ว่ายอนเป็นหมอที่เคยช่วยชีวิตบรรดาทาสหญิงเอาไว้
"เฮ่อๆๆ ฮ่า แม้ว่าชีวิตจะถึงยามขวานบิ่น สวรรค์ก็ยังบันดาลไม้งามมาให้ ฮ่าๆๆ" มาวังหัวเราะ
องค์ชายยอจินทรงมีรับสั่งกับมูยุลว่า
"พวกเจ้าเคยอยู่กับเจ้าพี่แฮเมียง แล้วทำไมทำกับข้าแบบนี้"
"รีบกินซะ ก่อนพระราชายูริจะมา เจ้าจะตายไม่ได้"
"ตอบคำถามข้ามาก่อน"
"หึ ข้าไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร และไม่เคยมีพี่น้อง มีแต่องค์ชายแฮเมียงที่รักข้า ทรงทำตัวเหมือนพ่อ เหมือนพี่ชายข้าก็ไม่ปาน"
"แต่ฝ่าบาทเป็นเสด็จพ่อของเจ้าพี่ แล้วทำไม"
" พ่อที่ยอมทิ้งลูกตัวเอง ยังถือเป็นพ่อได้หรือ ขนาดสัตว์เดรัจฉานยังรู้จักรักลูก แล้วเขาเป็นคนแท้ๆ ทำไมถึงไม่รัก ยอมให้ลูกชายที่ทำเพื่อบ้านเมืองไปตายต่อหน้าต่อตา คนแบบนี้ ยังคู่ควรเป็นพ่ออีกหรือ"
"มันเป็นการตัดสินพระทัยของเจ้าพี่เอง"
" โปรดอย่าเรียกเขาว่าพี่อีก การเป็นพี่น้อง ต้องมีความห่วงใย และแบ่งปันทุกข์สุขตามสมควร แบบนั้นถึงจะคู่ควร เป็นพี่น้องที่แท้จริง แล้วองค์ชายเคยทำอะไรบ้าง ขณะที่องค์ชายแฮเมียง ไปทำงานเพื่อบ้านเมือง องค์ชายกลับอยู่สบายในวัง น่าเจ็บใจแทนองค์ชายแฮเมียง บ้านเมืองนี้ ขนาดคนเป็นพระราชายังไม่ยอมเสียสละ และไม่รู้สึกเสียพระทัยต่อการจากไปของลูกในใส้ตัวเอง คิดว่าเสด็จพ่อขององค์ชาย จะยอมมาช่วยหรือเปล่า เรามาดูกันมั้ยล่ะ"
"ทำแบบนี้ เท่ากับลองใจฝ่าบาทเชียวนะ"
" ใช่ พูดถูกแล้ว ขนาดรัชทายาทยังทิ้งได้ แล้วกับองค์ชายจะเป็นยังไง หม่อมฉันก็อยากรู้เหมือนกัน คราวนี้ฝ่าบาทจะห่วงแต่เอาตัวรอด จนทิ้งองค์ชายหรือเปล่า หรือถ้าฝ่าบาทยอมเสด็จมาจริง ถึงตอนนั้น หม่อมฉันจะแก้แค้นให้องค์ชายแฮเมียง"
มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน จบ 11มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 12
พักโซพบกับยุนวาก็ถามว่าองค์ชายยอจินอยู่ที่ไหน ยุนวาบอกว่าจะขอเข้าเฝ้าพระราชายูริก่อน
พระราชายูริตรัสถาม "เจ้าเป็นใคร"
"ฮือ ฝ่าบาท เฮ่อ"
"เป็นนางในของยอจินใช่ไหม หึ ตอนนี้องค์ชายอยู่ไหน"
ยุนวาร้องไห้ "ฮือ ฝ่าบาท ถ้าให้ใครรู้เรื่องนี้ องค์ชายจะมีอันตรายทันที"
"ถ้าข้าไป เขาจะปล่อยยอจินหรือ"
"ฮือ เพคะฝ่าบาท ฮือ แถมยังว่าฝ่าบาทต้องเสด็จโดยลำพัง"
"ที่แท้ต้องการชีวิตข้าต่างหาก องค์ชายถูกจับอยู่ที่ "พยองชองวอน" ใช่ไหม"
"ใช่เพคะ"
มูยุลบอกให้มาโนไปดูความเคลื่อนไหวด้านนอก องค์ชายยอจินมองตามและถามมูยุลว่า
"เขาก็เคย ทำงานให้เจ้าพี่ด้วยหรือ"
"ใช่"
"น่าอิจฉาเจ้าพี่จัง ขนาดตายไปนานแล้ว ยังมีหลายคนที่ภักดี ทำงานเพื่อเขาอีก ข้ายังอยู่แท้ๆ กลับไม่มีลูกน้องเลยซักคน"
"ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ยังหาไม่พบต่างหาก"
"นั่นท่านทำอะไรอยู่ ดูลักษณะเหมือนเป็นผู้หญิง เป็นคนที่ท่านชอบหรือ"
มูยุลดูดเลือดแล้วบ้วนทิ้ง องค์ชายยอจินตรัสต่อว่า
" ถ้าแกะในส่วนที่เป็นทรงกลม มันจะพลาดทำให้โดนนิ้วได้ง่าย ข้าเห็นแววตาท่าน จากที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่เวลาแกะสลักรูปปั้น มันจะกลายเป็นความอ่อนโยน บางทีก็แฝงความพอใจ"
พระราชายูริทรงตัดสินพระทัยเสด็จไปตามที่นัดหมายตามลำพัง พักโซมาบอกเฮยากับเคยู เฮยาสั่งว่า
"ถ้าเราส่งทหารไป ทั้งฝ่าบาทและองค์ชายจะมีอันตรายทั้งสองพระองค์ ที่สำคัญเรื่องนี้ จะให้คนของเผ่าพีรูรู้ไม่ได้"
องค์ชายยอจินมองแล้วตรัสกับมูยุลอีกว่า
" เป็นผู้หญิงที่สวยมาก นางชื่ออะไรบอกได้ไหม ก่อนที่ท่านจะจับข้ามา บอกตามตรงว่า ข้าก็เคยคิดจะพานางในคนหนึ่งหนีไปให้ไกล ต่อไปไม่ต้องอยู่ในวังอีก ไปอยู่ในที่ๆ ไม่มีใครรู้จัก มีแต่ข้ากับนางสองคน อยู่กินอย่างเงียบๆ ท่านเคยคิดเหมือนข้าหรือเปล่า"
"ถ้าอีกหน่อยแก้แค้นได้ ก็เคยคิดอย่างงั้นเหมือนกัน"
"หึ ขอโทษด้วยนะ วันที่เจ้าพี่สิ้นพระชนม์ ข้าแทบไม่ได้ทำอะไรเลย ต้องขอโทษจริงๆ"
"องค์ชายไม่ได้ผิดต่อหม่อมฉัน และไม่มีความจำเป็นอะไร ต้องมาขอโทษหม่อมฉันด้วย"
"ความรู้สึกของเสด็จพ่อ ก็ไม่ต่างกับข้า จนทุกวันนี้ ยังทรงเสียพระทัยต่อการสิ้นพระชนม์ของเจ้าพี่อยู่"
" คนอย่างเขา สามารถยืนดูลูกตายต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้น ก็ส่งคนไปไล่ล่าสังหาร คนสนิทขององค์ชายจนหมด หม่อมฉันกำลังรอดูว่า เขาจะเหมือนที่องค์ชายรับสั่ง เป็นพ่อที่รักลูก หรือว่า เป็นคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว"
มาโนเข้ามาบอกว่ามีคนมาที่นี่
พระราชายูริกำลังทรงม้า พลางตะโกนเรียกองค์ชายยอจิน แล้วก็พบกับมูยุล
"หยุด ยอจิน หึ เจ้าอยู่ไหนน่ะลูก ยอจิน เจ้าคือ ลูกน้องของแฮเมียงใช่ไหม ถ้าเป็นคนของเขาจริง ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย"
" คนที่ทำให้หม่อมฉันเปลี่ยนไป ก็คือฝ่าบาท ขณะที่ฝ่าบาทสังหารองค์ชาย ได้ฆ่าหม่อมฉันไปด้วย ทำให้หม่อมฉัน ถูกจับไปเป็นทาสรับใช้ที่พูยอ ก็คือฝ่าบาท แล้วยังมาที่นี่ทำไม เมื่อก่อนยอมทิ้งองค์ชายแฮเมียง วันนี้ยังจะมาทำไมอีก หึ หม่อมฉันเชื่อฝ่าบาทมาตลอด เชื่อที่ฝ่าบาททรงให้คำมั่นว่า จะไม่ให้องค์ชายต้องเหนื่อยเปล่า รับสั่งสิพะยะค่ะ ทำไมต้องให้องค์ชายตาย จำเป็นต้องฆ่าองค์ชาย เพื่อรักษาบัลลังก์ของฝ่าบาทใช่ไหม แค่สังหารองค์ชายยังไม่พอ ยังคิดกวาดล้างคนสนิท ที่ทำงานให้องค์ชายทั้งหมด หึ หม่อมฉัน ถูกจับไปแคว้นพูยอฝึกเป็นนักรบ เป็นเหยื่อทดลองยาพิษครั้งแล้วครั้งเล่า บางครั้งแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่เพื่อเป้าหมายในการแก้แค้นให้องค์ชาย หม่อมฉันจึงไม่ยอมตาย ตอนนี้ หม่อมฉันจะเอาชีวิตฝ่าบาท เพื่อแก้แค้นให้องค์ชายให้ได้ ฮึ่ม"
"งั้นก็เชิญ ในฐานะที่เป็นพระราชา ไม่อาจทำให้ผู้คนเกิดความศรัทธา แถมยังทำให้เจ้าเคียดแค้นชิงชัง ข้าคงไม่มีสิทธิ์เป็นพระราชาอีก ถ้าเลือดของข้า ช่วยให้เจ้าสบายใจขึ้นได้ ก็จงฆ่าข้าเถอะ รีบยิงมาซี่ ยิงมาเดี๋ยวนี้"
มูยุลเล็งลูกธนูไปที่ดวง พระทัยของพระราชายูริ ขณะที่พระราชายูริทรงยอมจำนนสุดแล้วแต่มูยุลจะจัดการอย่างไรกับชีวิตของ พระองค์นั่นเอง ทันใดนั้นลูกธนูของเฮยาก็พุ่งตรงไปยังมูยุล หลังจากที่เฮยาพบว่าคนร้ายเป็นมูยุล เฮยาก็ตะโกนเรียกชื่อมูยุลออกมาด้วยความตกใจ
เฮยาหอบ "ฮือ มู มู มูยุล ฮือ มูยุลๆ ฮือ มูยุล ฮือ มูยุล"
พระเจ้ายูริทรงปิติยินดียิ่งนักเมื่อทรงสดับถึงชื่อ "มูยุล"
"เจ้าเรียกเขาว่าไงนะ หนุ่มคนนี้ เจ้าบอกว่าชื่อมูยุลหรือ"
เฮยาร้องไห้ "ฮือ ฮือ ฝ่าบาท"
พระ ราชายูริเสด็จกลับมาและรับสั่งให้คนพาองค์ชายยอจินไปพักก่อน องค์หญิงเซยูรีบเสด็จมารับพระราชายูริ ส่วนเฮยากับเคยูก็พาร่างที่บาดเจ็บของมูยุลใส่รถม้าเข้ามาในวัง และตามหมอมาดูอาการ หมอมาตรวจและบอกว่าต้องดูอาการอีกสักระยะ
มาโนถามเคยู "หมอมาตรวจหรือยังครับ"
"มาแล้ว กำลังรักษาอยู่ อย่าห่วงเลย นี่มันอะไรกัน เจ้ากับมูยุลทำไมเป็นนักรบทมิฬได้"
พักโซว่า "นึกว่าพวกเจ้าตายแล้วซะอีก ทำไมยังรอดได้"
เคยูถามต่อ "ที่พวกเจ้ามานี่ เพื่อลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาทหรือ พูดมาซี่"
" ฮือ พวกท่านรู้มั้ยว่า ข้ากับมูยุลไปเจอเรื่องเลวร้ายขนาดไหน ฮือ ถูกนักรบทมิฬจับไป เป็นเหยื่อทดลองยาพิษและพอฝึกสำเร็จ ก็ถูกส่งมาลอบปลงพระชนม์ สิ่งที่เราได้รับ ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร บางครั้งทรมานยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็นซะอีก ฮือ แต่ว่า เพื่อแก้แค้นให้องค์ชาย เป็นกำลังใจสำคัญให้เรากัดฟันทน อยู่มาถึงทุกวันนี้ ฮือ แล้วนี่มันหมายความว่าไง ฮือ เราสองคน อุตส่าห์ทนลำบากเพื่อจะกลับมาแก้แค้น ฮือ แต่พวกท่าน กลับไปรับใช้พระราชายูริอีก ฮือๆๆ ฮือๆๆ ฮือๆๆ"
เฮยาเข้าเฝ้าพระราชายูริ ทรงตรัสถามทันทีว่ามูยุลเป็นยังไงบ้าง
"หมอหลวงกำลังรักษาอยู่ ทรงวางพระทัยได้"
"เจ้าเป็นคนเลี้ยงดูเขามาหรือ"
" เพคะ สมัยก่อน ตอนองค์ชายแฮเมียง อุ้มเด็กแบเบาะคนหนึ่งมาให้หม่อมฉัน หม่อมฉัน ยังไม่รู้ว่า นั่นคือโอรสของฝ่าบาท จากนั้น แม้จะสอนงานศิลปะให้เขาก็จริง แต่พอมูยุลโตขึ้น ก็มีความสนใจ ต่อเรื่องราวต่างๆ ของโลกภายนอก ฝ่าบาท ยังจำเหตุการณ์ที่มีคนบุกรุกสุสานหลวงได้ไหมเพคะ ตอนนั้นองค์ชายมูยุล ได้ผ่านค่ายกลทั้งหมดในสุสาน เอากระบี่วิเศษออกมาได้ หม่อมฉัน เห็นเขามีความสามารถเหนือคน จึงเป็นห่วงว่า ความวุ่นวายของโลกภายนอก จะทำให้เขาเปลี่ยนไป หม่อมฉันจึงคืนเขา ให้องค์ชายแฮเมียงดูแลต่อ และองค์ชายแฮเมียง ก็ให้องค์ชายมูยุล ไปเป็นทหารที่เมืองโชบุน ฉะนั้นสำหรับมูยุลแล้ว องค์ชายแฮเมียงคือผู้มีพระคุณ"
"เด็กคนนี้ ไม่ใช่องค์ชาย"
"ฝ่าบาท"
"เรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวกับเด็กคนนี้ แฮเมียงเคยบอกเจ้าหรือเปล่า"
"แต่ว่าฝ่าบาทเพคะ ทุกวันนี้ มูยุลมีความสามารถรอบด้าน น่าจะชดเชยชะตาที่เลวร้ายได้บ้าง นับแต่นี้ ขอให้ฝ่าบาท ทรงเมตตาเขาเถอะเพคะ"
พระราชายูริทรงรู้สึกสับสนพระทัยยิ่งนัก
ด้านองค์หญิงเซยูทรงเรียกเคยูมาพบ
"รับสั่งให้หาหรือพะยะค่ะ"
" เชิญนั่ง เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น บอกข้าหน่อยได้ไหม ได้ยินว่าฝ่าบาท เสด็จไปช่วยยอจินพระองค์เดียว และคนที่จับยอจิน คือนักรบทมิฬของแคว้นพูยอใช่ไหม"
"ขอทรงอภัยด้วย หม่อมฉันยังทูลอะไรไม่ได้พะยะค่ะ นี่เป็นพระบัญชาของฝ่าบาท หม่อมฉันต้องทำตาม"
ขณะที่โทจินก็ไปพบแพกึย และแนะนำตัวว่า
"ข้าน้อย เป็นนักรบทมิฬแห่งพูยอ มีชื่อว่าโทจิน"
"นักรบทมิฬหรือ"
"ถ้าท่านยอมให้ที่พักแก่ข้า ข้ายินดีเป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์ต่อท่าน ขอท่านรับข้าไว้ด้วย"
"ถ้าจะแก้แค้นให้คนที่เจ้ารู้จัก ก็ไปหาพระราชายูริโดยตรงก็ได้ แล้วทำไม กลับมาหาข้าแทนล่ะ"
"เพราะข้ารู้ว่าท่านเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองโกคูรยอ"
"แล้วจะให้ข้าเชื่อเจ้าได้ยังไง"
"เมื่อข้าเข้ามาก็เท่ากับมอบชีวิตให้ท่านแล้ว จะเชื่อหรือไม่ ก็แล้วแต่จะคิด"
"ก่อนจะรู้ว่าเจ้าพูดจริงหรือไม่ ข้า จะจับเจ้าไปขังก่อน"
มูยุลรู้สึกตัวและเจ็บปวดอย่างมาก เฮยาเรียก
"มูยุล"
"หัวหน้า"
"ฮือๆๆ มู มูยุล"
"ข้าอยู่ไหนครับนี่"
"เฮ่อ ที่นี่ เป็นวังหลวงของโกคูรยอ"
"ท่านบอกว่าไงนะครับ แล้วทำไมเราสองคน มาอยู่ในวังโกคูรยอได้"
"ฮือ เฮ่อ เป็นเพราะข้า แม่ทัพเคยู และชูพักโซ มาทำงานให้ฝ่าบาท อยู่ในหน่วยข่าวกรอง"
" แล้วทำไมท่านต้องทำแบบนี้ ท่านกับแม่ทัพเคยู ทำไมต้องรับใช้พระราชายูริ หึ รู้อยู่ว่าสมัยก่อน องค์ชายแฮเมียงไปพร้อมกับทหารโกคูรยอ"
"นั่นไม่ใช่ พระประสงค์ของฝ่าบาท"
"หมายความว่า สิ่งที่ข้ารู้มา ความแค้นที่สั่งสมมาหลายปี เป็นการเข้าใจผิดงั้นหรือ"
"นั่นเป็น ความประสงค์ขององค์ชายเอง"
"ข้าไม่เข้าใจที่พูด"
" แม้ว่าเรา จะเทิดทูนองค์ชายก็จริง แต่เรา มักจะลืมสิ่งที่องค์ชายทรงรัก มากที่สุดในชีวิต สิ่งที่ทรงรัก คือบ้านเมือง และชาวโกคูรยอทั้งหลาย เพราะฉะนั้น องค์ชายจึงขัดรับสั่งของฝ่าบาท เสด็จไปรับความตายด้วยตัวเอง สิ่งที่ทรงกระทำ เพื่อปกป้องบ้านเมืองไว้ ไม่ให้ถูกแคว้นพูยอมารุกราน"
" แล้วฝ่าบาท ทำไมไม่ทรงห้ามองค์ชายไว้ ทั้งที่เพื่อจะช่วยองค์ชายยอจิน ฝ่าบาทกล้าที่จะมาพบข้าพระองค์เดียว ในเมื่อทรงรักลูกขนาดนี้ แล้วทำไมไม่ทรงช่วยองค์ชายแฮเมียงล่ะครับ หัวหน้าครับ ช่วยบอกว่าสิ่งที่ข้าเห็น สิ่งที่ข้าคิดล้วนเป็นความจริง ฝ่าบาททำให้องค์ชายและแม่ทัพออมเสียชีวิต แถมยังคิดจะฆ่าเราสองคนจริงหรือเปล่า"
"มูยุล"
"หัวหน้าครับ ได้โปรดเถอะ โปรดบอกความจริงให้ข้ารู้ บอกให้รู้ว่า สิ่งที่ข้าทำเพื่อองค์ชายมันถูกแล้ว หัวหน้าครับ" เฮยาเอาแต่ร้องไห้
0000000000000
มาวังเชื่อว่ายอนจะต้องมีเป้าหมายอื่นแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงตัดสินใจพานางไปที่บ้านแพกึย
"รีบคำนับเร็วเข้า นี่คือหัวหน้าเผ่าที่ทรงอิทธิพลยิ่งกว่าพระราชา ใต้เท้าซังกาแห่งเผ่าพีรู หึ เร็วซี่"
"ข้าน้อยชื่อยอนค่ะ"
"ราคาเท่าไหร่" ซังกาถาม
"หึๆ คนนี้ ข้าน้อยไม่ได้เอามาเสนอขายน่ะครับ แหะๆๆ"
"เงินสด พันตำลึง"
"ฮ่าๆๆ บอกแล้วว่าไม่ได้มาเสนอขาย เท่าไหร่ก็ไม่สน หึๆๆ"
"แล้วพามาพบข้าทำไม"
"หึ กงชอน"
"นั่นคืออะไร"
"หึ ที่นางมานี่ เพื่อจะฝังเข็มให้ท่าน จะได้มีสุขภาพแข็งแรงไงครับ"
"บางครั้งรู้สึกชาตามแขนและขาใช่ไหมคะ"
"อึ้ม ใช่"
" หึ สาเหตุเพราะเส้นเลือดหัวใจเต้นไม่เป็นปกตินัก แม้ว่าร่างกายโดยรวมจะถือว่าแข็งแรงเกินอายุ แต่ถ้าล้มป่วยเล็กน้อย ก็อาจทำให้ลุกลามได้"
"อึม เจ้าช่างมีความรู้ที่แม้แต่เงินพันชั่งยังหาซื้อไม่ได้จริงๆ" ซังกาชื่นชม
เฮยาเฝ้าพระราชายูริ ทรงตรัสถามว่ามูยุลเป็นยังไงบ้าง
"ร่างกาย ค่อยๆ ฟื้นฟูตามลำดับเพคะ ฝ่าบาทจะทรงพบ องค์ชายหน่อยมั้ยเพคะ"
"รอให้ดีจนเดินเหินได้แล้ว ให้เขาไปจากที่นี่ซะ"
เฮยาตกใจ "หา ฝ่าบาท"
"โดยเฉพาะประวัติเขา ห้ามเปิดเผยให้ใครรู้เด็ดขาด จำไว้และออกไปเดี๋ยวนี้"
"เอ่อ ฝ่าบาท จะให้เขา ไปแบบนี้จริงหรือเพคะ หึ หม่อมฉันอยากให้ทรงไตร่ตรองก่อน"
"จนวันนี้ข้ายิ่งไม่ควรขัดต่อคำทำนายของโหรหลวง เด็กคนนี้ ข้าถือว่าได้ตายไปนานแล้ว"
เฮยากลับไป เคยูก็บอกว่ามูยุลกับมาโนได้หายตัวไปแล้ว เฮยารีบออกตามหา
"ทำไมเป็นแบบนี้ ข้าบอกให้คอยดูพวกเขา อย่าให้ไปไหนไง"
"ข้าก็ไม่รู้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แค่ไปเชิญหมอหลวง กลับมาก็ไม่เห็นพวกเขาแล้ว"
"หึ แผลของเขายังไม่หายดี ไม่ว่ายังไงก็ต้องหาให้พบล่ะ"
มูยุลให้มาโนพาหนีทั้งที่ยังเจ็บหนัก เพราะไม่ต้องการให้เฮยาเดือดร้อนไปด้วย ทั้งสองพากันหนีไป มูยุลยังไม่ค่อยดีทำให้ตกเขาซ้ำอีก
"มูยุล ทำใจดีๆ ไว้ เป็นไงบ้าง หา มูยุล"
มาโนพามูยุลไปพักและออกหาอะไรมาให้มูยุลกิน
" มูยุล กินอะไรหน่อยนะ เจ้าจะเอาไงกันแน่ หึ มูยุล ไหนๆ ก็ไหนๆ เราไปอยู่กับหัวหน้าดีมั้ย เพราะกลับไปพูยอไม่ได้อีก แล้วเราจะไปอยู่ไหนได้ หึ ข้ารู้สึกปวดหัวเต็มที เราลำบากมามากแล้วนะ ข้าไม่อยากหนีหัวซุกหัวซุนต่อไปอีก หึ เฮ่ย"
แชบูสั่งให้ลูกน้องตามเก็บโทจิน แต่ก็ยังหาตัวโทจินไม่พบ แชบูเข้าเฝ้าพระราชาเทโซและทูลรายงานว่า
"ฝ่าบาท สายลับที่ไปอยู่โกคูรยอ ถูกฆ่าตายแล้วพะยะค่ะ"
"อะไรนะ"
"แม้แต่นักรบทมิฬที่ไปสังหารพระราชายูริ จนป่านนี้ยังไม่มีข่าวมา ไม่แน่อาจถูกจับก็ได้ ถ้าไง ให้ส่งคนไปอีกดีมั้ยพะยะค่ะ"
"ไม่ต้อง หน้าที่ของนักรบทมิฬ ไม่ใช่ส่งไปเยอะๆ แล้วจะดี ให้รอดูสถานการณ์ก่อน"
"พะยะค่ะ"
มูยุลนึกถึงคำพูดของพระราชายูริ กับเฮยา แล้วทำให้รู้สึกสับสนยิ่งนัก
" องค์ชาย หม่อมฉันไม่รู้ว่าได้ทำอะไรไปบ้าง ทุกวันนี้ เป้าหมายในชีวิตของหม่อมฉันก็คือแก้แค้นให้องค์ชาย ฮือ แต่หม่อมฉัน กลับไปเล่นงานสิ่งที่องค์ชายรัก นั่นก็คือบ้านเมืองและเสด็จพ่อขององค์ชาย แล้วต่อไปหม่อมฉันจะทำไงดี ทำยังไงถึงจะถูก"
มาโนเข้ามาเรียก "มูยุล ไม่สบายมากหรือ"
มูยุลได้แต่ส่งเสียงในลำคอไม่พูดไม่จา ยังคงหลับตานิ่ง
"มูยุลๆ เป็นไงบ้าง นี่ ตื่นหน่อยสิ มูยุล หา เอ่อ มูยุลๆ"
มาโนไม่รู้จะทำยังไง ตัดสินใจไปหามาวัง เพื่อให้ช่วยหาหมอให้สักคน
"นี่เจ้า ทำไมมาอยู่นี่"
"ข้ามีเรื่องขอร้องน่ะครับ ช่วยหาหมอซักคนได้ไหม"
"หา จู่ๆ โผล่เข้ามาให้ข้าหาหมอให้ ใครเป็นอะไร"
"คิดว่าท่านน่าจะจำได้ คนชื่อมูยุลน่ะครับ ตอนนี้มูยุล ได้รับบาดเจ็บ"
" เดี๋ยว พวกเจ้าเป็นคนสนิทขององค์ชายแฮเมียงนี่นา งั้นอย่ามาหาข้า ไปขอให้เฮยาช่วยดีกว่า เจ้าคงไม่รู้ว่า ทุกวันนี้นางได้เป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของโกคูรยอ"
"ข้าไปหานางไม่ได้"
"เพราะอะไร"
"ข้ามีเหตุผลบางอย่าง ขอร้องอย่าถามอีกเลย ได้โปรด ช่วยเราซักครั้งเถอะครับ"
"เฮ่อ หึ ออกไปก่อน"
มาโนออกไป มาวังถอนใจ กงชอนถามว่าจะช่วยมั้ย
" ตั้งแต่ทรยศองค์ชาย ข้าก็รู้สึกไม่สบายใจ กลัวว่าซักวันวิญญาณจะมาหลอกหลอนข้า หึ แต่ถ้าคราวนี้ช่วยพวกเขา องค์ชายก็คงจะให้อภัยข้า ไปตามยอนมาซิ"
มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน จบ 12มูยุล มหาบุรุพิชิตแผ่นดิน 13
มาวังพายอนมารักษามูยุล มาวังเห็นอาการของมูยุลก็ตกใจว่าทำไมเจ็บขนาดนี้ มาโนตอบว่า
"เราออกมาล่าสัตว์ แล้วถูกสัตว์ป่าทำร้ายเข้า"
"เฮ้ย ดูยังไงก็ไม่เหมือนแผลจากสัตว์ซักนิด"
"สมุนไพรไม่พอค่ะ หึ แต่ข้าต้องคอยดูเขา ทิ้งไปไม่ได้ ท่านช่วยไปหาหน่อยได้ไหมคะ"
มาวังอึ้ง และยอมไปก่อนจะกำชับยอนว่าห้ามหนีไปตอนเขาไม่อยู่ ยอนจึงให้คำสัญญาว่า
"ไม่มีหมอคนไหน ทิ้งคนไข้ได้ลงหรอก"
มาวังยอมออกไป ยอนถามมาโนทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
"เรื่องทั้งหมดข้าก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี ว่าแต่คุณหนู ทำไมมาอยู่นี่ได้ครับ แถมยังอยู่กับท่านมาวังด้วย"
"ระหว่างหลบหนี ข้าถูกพ่อค้าทาสคนหนึ่งจับไว้ และขายต่อให้ท่านมาวัง"
"หึ ก็ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน คนที่เกี่ยวข้องกับเรา ล้วนมีเคราะห์กรรมเลวร้าย แม้แต่โทจิน"
"พี่โทจินทำไมหรือ เกิดอะไรขึ้นกับเขาอีก"
"ใต้เท้าแชบูส่งเขาไปเมืองชิลลา แต่ระหว่างทาง เขาสังหารนักรบทมิฬแล้วหนีไป"
แพกึยถามโทจินว่า อยู่ที่นี่พอจะสบายมั้ย และยังถามอีกว่า
"คิดถึงชีวิตในอดีตหรือเปล่า ข้าหมายถึงการเป็นนักรบทมิฬ"
"มีบ้างนิดหน่อย"
"นับแต่นี้ไป เจ้าจะเป็นองครักษ์ของข้า เมื่อเป็นลูกน้องข้าแล้ว ข้าก็มีสิทธิ์ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ได้"
"เชิญท่านสั่งมาได้"
"ข้าจะให้เจ้าหลุดจากภาพของนักรบทมิฬ แสดงผลงานด้วยตัวของเจ้าเอง หลังจากนั้น เจ้าอาจได้ล้างมลทินให้ครอบครัวด้วย"
ด้านมาโนก็ถามยอนว่ามีอะไรให้เขาช่วยมั้ย
"ขนาดไม่มียารักษา เจ้ายังล้างแผลได้ดี"
"ข้าก็ทำตามวิธีที่คุณหนูสอน ตอนอยู่ที่ค่ายฝึกน่ะครับ"
"ถ้าอย่างงั้น ช่วยหาหญ้าห้ามเลือดให้หน่อยได้ไหม"
"ได้ครับ หึ"
พระราชายูริทรงถามเฮยาว่าพบมูยุลหรือยัง เฮยาจะขอให้ส่งทหารตามหา แต่พระราชายูริกลับบอกว่าบางทีการหาไม่พบก็ยิ่งดี
มูยุลฟื้นขึ้นมาเห็นมาโนและยอนก็ดีใจมาก
"มาโน หึ หึ คุณหนู"
"เราสองคน มักเจอด้วยความบังเอิญ" ยอนกล่าว
"แล้ว ทำไมมาอยู่นี่ได้ ทำไมคุณหนูถึงได้"
"ข้าไปเจอนางเข้า ตอนไปบ้านท่านมาวัง คุณหนูก็เลยมาช่วยเจ้าอีก" มาโนบอก
"ไม่ต้องห่วงหรอก ท่านมาวังเป็นคนดี ไม่เห็นข้าเป็นบ่าว กลับยกย่องในฐานะเป็นหมอ"
มูยุลขยับและเจ็บปวดมาก "หึ โอ๊ะ โอ๊ย"
"ตอนนี้อย่าเพิ่งขยับเลยนะ"
แพ กึยได้ภาพมูยุลกับมาโน ก็นำมาให้โทจินดู โทจินจึงบอกว่าเป็นนักรบทมิฬเหมือนเขา แพกึยได้ยินเช่นนั้นก็สั่งให้โทจินไปตามจับทั้งสองมาเร็ว
ยอนเห็นมูยุลออกมาเดินทั้งที่ยังเจ็บอยู่จึงเตือน
"ทำไมอยู่คนเดียวล่ะ ตอนนี้ยังไม่ควรเดินมากนะ"
"อยากออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์น่ะครับ"
"ได้ยินว่าสมัยก่อน เจ้าเป็นลูกน้ององค์ชายแฮเมียงหรือ" มูยุลมองยอน
"ท่านมาวังเป็นคนบอกข้าเอง ในเมื่อเคยติดตามองค์ชายแฮเมียง แล้วทำไมโกรธแค้นพระราชายูริซึ่งเป็นเสด็จพ่อขององค์ชายล่ะ"
" เดิมที ข้าเป็นช่างเขียนรูปที่นึกว่าชาตินี้ คงต้องอยู่ในถ้ำตลอดไป ความมืดมิดของถ้ำ ทำให้ข้าเบื่อหน่ายก็จริง แต่มีบางอย่างที่ยิ่งน้อยใจกว่านั้น คือทำไมข้าต้องถูกทอดทิ้ง ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อแม่ ไม่รู้ประวัติตัวเอง มีแต่องค์ชาย ที่เห็นใจข้า ช่วยให้ข้าได้ออกจากถ้ำนั้น สร้างแรงบันดาลใจขึ้นใหม่ ข้าเชื่อมาตลอดว่า พระราชายูริคือคนที่ทำให้องค์ชายตาย เพื่อรักษาบัลลังก์ของตัวเอง เขายอมให้ลูกชายไปตายซะ"
"ตอนที่องค์ชายแฮเมียงปลิดชีพตัวเอง ข้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และยังจำภาพนั้นได้ติดตาไม่ว่านานแค่ไหน ขณะที่องค์ชายใกล้ลงมือ พระราชายูริก็มาถึง เขาเจ็บปวดมากเมื่อรู้ว่าองค์ชายจะทำอะไร"
"ฮือ ที่ข้าอยู่ต่อ มีเป้าหมายก็คือแก้แค้นให้องค์ชาย แต่กลับพบว่า ตั้งแต่ต้นจนจบ หึ เป็นความเข้าใจผิดของข้า ที่หลงโง่เอง หึ ข้าจะทำลายบ้านเมืองที่องค์ชายทรงปกป้อง ข้าเหมือนเป็นคนบาป ฮือ เป็นคนบาปของโกคูรยอ"
มาวังกลับมารับยอน แต่ยอนอ้างว่าต้องดูอาการอีกหน่อย
"แค่นี้พอแล้วน่า เกือบหายเป็นปกติแล้วนี่นา ไปเร็วเข้า" มาวังว่า
มูยุลกล่าวว่า "ไม่เป็นไร กลับไปเถอะ ขอบคุณท่านมาก ที่มาช่วยข้า"
"ที่ข้าช่วยก็เพราะเห็นแก่องค์ชายแฮเมียง หึ แต่หวังว่า คงไม่มีคราวหน้าอีก หึ หึ ไปเร็ว
"อย่าลืมล้างแผลและใส่ยาทุกเช้าเย็นล่ะ อีกอย่าง ถ้าแผลอักเสบละก้อ ให้กินยาที่ข้าเตรียมไว้ให้นะ" ยอนสั่ง
มาโนรับคำ "อึม ครับ"
แพกึยถามโทจินว่าหาวิธีจับพวกมูยุลได้แล้วใช่ไหม
"ต่อให้เป็นนักรบฝีมือดีขนาดไหน ก็ต้องขอข้อมูลจากสายลับที่อยู่ในเมืองนั้นก่อน รวมถึงเงินสนับสนุนในการทำงาน"
"แต่ได้ยินว่าหน่วยข่าวกรอง สังหารสายลับพูยอที่มาอยู่ในโกคูรยอจนหมดแล้ว"
" ยังไม่หมดหรอกครับ นับแต่วันนี้ จะมีแผนอื่นตามมาอีก ถ้าเดาไม่ผิดละก้อ พวกเขาน่าจะมีการดำเนินการขั้นต่อไป แต่ต้องพบกับสายลับก่อน"
"ข้าจะมอบทหารให้เจ้า แล้วแต่เจ้าจะสั่งการ"
"ข้าขออนุญาต ถามซักเรื่องได้ไหมครับ"
"ถามมาได้"
"หน่วยข่าวกรองก็หาพวกเขาอยู่แล้ว ทำไมเราต้องไปยุ่งเกี่ยวอีกล่ะครับ"
"เพราะคนๆ นี้ .มีเรื่องบาดหมางกับข้า ข้าจะปล่อยเขาไว้ไม่ได้"
มู ยุลกับมาโนลอบมาพบเฮยาอีกครั้ง และบอกเฮยาว่าต้องการขอเฝ้าพระราชายูริสักครั้ง เฮยาจึงไปทูลพระราชายูริทันที พระราชายูริและมูยุลพบกัน ณ สถานที่ลับแห่งหนึ่งในวังหลวง
"อยากพบข้าเรื่องอะไร" พระราชายูริตรัสถาม
มูยุลคุกเข่า "หม่อมฉัน ไม่เข้าใจเจตนาของฝ่าบาท จนเกือบพลาดพลั้งทำความผิดใหญ่หลวง จึงอยากขอโอกาส ทำคุณไถ่โทษพะยะค่ะ"
"ข้าก็มีความผิดที่ไม่ได้ขัดขวางแฮเมียงไว้ รู้ว่าได้ทำผิดต่อเขาอย่างมาก แต่ข้าได้ยกโทษให้เจ้าแล้ว ต่อไปอย่าตำหนิตัวเองอีก"
"ฝ่าบาท หม่อมฉัน เป็นนักรบทมิฬ อีกทั้งเคยคิดลอบปลงพระชนม์ หม่อมฉันจะขอไถ่บาป ในสิ่งที่ก่อไว้ ด้วยตัวของตัวเอง"
"พูดแบบนี้หมายความว่าไง"
"หม่อมฉัน จะกลับไปพูยอ ในฐานะคนของฝ่าบาท ไปเป็นสายลับในนั้น"
เฮยาเฝ้าพระราชายูริและช่วยทูลให้พระราชายูริทรงเข้าพระทัย
"ฝ่าบาท ในเมื่อองค์ชายทรงขอ ก็ให้เขาไปเถอะเพคะ"
"ข้าต้องการตัดขาดกับเขาก็จริง แต่ไม่ใช่ให้เขาไปตายนะ"
" องค์ชายเป็นคนฉลาด น่าจะสามารถดูแลตัวเองได้ดี อย่าทรงห่วงเลยเพคะ ตอนนี้สิ่งสำคัญสำหรับองค์ชายก็คือ อยากจะหลุดพ้นจากความรู้สึกผิดต่อฝ่าบาทและองค์ชายแฮเมียงโดยเร็ว ถ้าทรงให้โอกาสเขา ก็จะเกิดความภาคภูมิใจ กล้ามาสู้หน้าฝ่าบาทอีก"
พระราชายูริทรงคล้อยตาม และอนุญาต เฮยาออกมาบอกมูยุล
"นับแต่นี้ไป มูยุลกับมาโน จะเป็นสายให้หน่วยข่าวกรองของเรา" เฮยากล่าว
เคยูประหลาดใจ "ก็แปลว่า จะให้พวกเขากลับไปพูยอหรือ"
"เป็นคำขอของข้าเอง ข้ากับมาโน จะกลับไปเป็นนักรบทมิฬเหมือนเดิม"
พักโซดุ "จะบ้าหรือ นั่นเท่ากับไปตายเชียวนะ"
มาโนดุกลับ "นี่ อย่าแช่งเราสิ"
"เจ้าก็น่าจะเกลี้ยกล่อมเขาบ้าง"
"คอยดูเถอะ เราจะตัดหัวอ๋องเทโซมาให้"
คูชูรู้สึกแปลกๆ กับมูยุล จึงสั่งให้แทชองไปคอยจับตาดู
0000000000000
แพกึยมาเฝ้าพระมเหสีมียูและองค์ชายยอจิน โดยนำโทจินเข้ามาแนะนำ
"คำนับเร็วเข้า นี่คือพระมเหสี และองค์ชายยอจิน"
"หม่อมฉันชื่อโทจิน"
" ต่อไป จะให้เขามาถวายอารักขาองค์ชายพะยะค่ะ จริงอยู่ เหตุการณ์เลวร้ายคงไม่เกิดอีก แต่ถ้าองค์ชายจะเสด็จไปไหน ก็ให้เขาเป็นผู้คุ้มครองจะดีที่สุด เพราะเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในเผ่าพีรูของเรา ต่อไปจะช่วยองค์ชายได้มากพะยะค่ะ"
"ขอบคุณท่านมาก"
"และตอนนี้โทจิน กำลังสืบหานักรบทมิฬ ที่เคยลักพาตัวองค์ชายไป ถ้าได้ตัวมาเมื่อไหร่ ความดีความชอบทั้งหมด จะยกให้เป็นขององค์ชาย เพราะอีกหน่อยองค์ชาย จะเป็นรัชทายาทของโกคูรยอจริงมั้ยพะยะค่ะ"
"หึ ท่านอำมาตย์ ข้าจะไม่ลืมผลงานท่านเลย หึ นั่งเฉยทำไม ใต้เท้าเป็นห่วงเจ้าขนาดนี้ ยังไม่ขอบคุณอีก
องค์ชายยอจินตรัส "ขอบคุณมาก"
"ไม่เป็นไรมิได้"
เมื่อออกมาแล้วโทจินก็อดถามแพกึยไม่ได้ว่า
"ทำไมเอาผลงานของท่าน ไปมอบให้องค์ชายยอจินล่ะครับ"
" รู้จักนก "คงเมียง" มั้ย ในอดีต บนเขาทางภาคเหนือมีนกชนิดหนึ่งซึ่งมี 2 หัวในหนึ่งร่าง แม้จะมีร่างเดียวก็จริง แต่สองหัวก็เกลียดชังกันและกัน จนมีหัวหนึ่ง คิดฆ่าอีกหัวโดยการวางยาให้มันกิน โดยหารู้ไม่ว่า ถ้าหัวหนึ่งตาย อีกหัวก็จะตายด้วยเพราะอยู่ในร่างเดียว หึ ทุกวันนี้พูยอกับโกคูรยอก็มีสภาพไม่แตกต่าง ถ้าข้า ใส่ไฟสองแคว้นแค่เล็กน้อยเท่านั้น ไม่นานหรอก จะเกิดการประหัตประหารเข่นฆ่าทันที ถึงตอนนั้น ก็จะเป็นโอกาสของเผ่าพีรูเราบ้าง ซึ่งองค์ชายยอจิน คือสะพานที่จะเชื่อมให้ความฝันของเราเป็นจริง"
ระหว่างทางเห็นองค์หญิงเซยูฝึกซ้อมอยู่ตามลำพัง เขาแนะนำโทจิน
"นี้คือองค์หญิงเซยู เคยแต่งงานกับหัวหน้าเผ่าคีซาน แล้วกลับมาเมื่อสามีเสียชีวิต ตามข้ามา"
แนะนำโทจินเสร็จ แพกึยก็ตบมือ องค์หญิงเซยูหยุดและตรัสถาม
"มีธุระอะไร"
"ผ่านมาเห็นองค์หญิงฝึกซ้อมอยู่ลำพัง พอดีว่า หม่อมฉันมีลูกน้องฝีมือดีมาด้วยคนหนึ่ง นี่คือองค์หญิงเซยู"
"หม่อมฉันชื่อโทจิน"
แพกึยแนะนำต่อ "เขาเป็นนักสู้ที่ฝีมือล้ำเลิศในเผ่าของเรา ถ้าให้ประลองกับองค์หญิง เชื่อว่าน่าจะก้ำกึ่ง"
"งั้นก็อย่ารอช้า"
องค์หญิงเซยูกับโทจินต่อสู้กัน พักโซกับเคยูเห็น พักโซก็ถามเคยูว่า
"หมอนี่ไม่เคยเห็นหน้า เขาเป็นใครน่ะ"
"ข้าก็เพิ่งเจอครั้งแรก"
"ฝีมือไม่ธรรมดาด้วยนะนี่ มีแต่เป็นฝ่ายตั้งรับจากองค์หญิง ไม่เห็นเป็นฝ่ายรุกบ้างเลย ท่านแม่ทัพ ตาเป็นไรไป"
"ทำไม?"
"ข้าเห็นรังสีอำมหิตพุ่งออกจากสายตา อ๋อ รู้สึกหึงล่ะซี้ ใช่ไหม ฮ่าๆๆ" พักโซแซว
"ฮะฮ่า เก็บเสียงหัวเราะอุบาทว์ของเจ้าซะ"
แพกึยชื่นชมองค์หญิงเซยู
"เฮ่อๆๆ ฝีมือองค์หญิงร้ายกาจจริงๆ เฮ่อๆๆ"
"หึ สร้อยเส้นนี้ เจ้าได้มาจากไหน ข้าถามว่าเอาสร้อยนี่มาจากไหน"
โทจินตอบว่า "มีเพื่อนคนหนึ่งให้หม่อมฉันมา"
"แล้วเพื่อนที่ว่า ตอนนี้อยู่ไหน"
"หม่อมฉัน ขาดการติดต่อกับเขาไป"
"มีอะไรหรือพะยะค่ะ"
"เปล่า ข้าขอคุยกับเขาตามลำพังได้ไหม"
แพกึยกล่าวว่า "ได้ เชิญตามสบาย"
องค์หญิงเซยูพาโทจินออกไป แพกึยถอนใจ
"ช่วยเล่าเรื่องของคนที่มอบสร้อยเส้นนี้ให้เจ้า ให้ข้าฟังหน่อยได้ไหม" องค์หญิงเซยูตรัสถาม
โท จินเล่าว่า "เมื่อก่อน เราอยู่แคว้นพูยอเป็นทหารเหมือนกัน หลังจากนั้นพอเกิดสงครามเขาก็หายสาบสูญไป แล้วทำไม องค์หญิงถึงสนพระทัยนัก"
"เพราะสร้อยเส้นนี้ เป็นของขวัญที่ข้าเคยมอบให้น้องชาย"
"อนุชาขององค์หญิง คือองค์ชายยอจินใช่ไหม"
"ไม่ใช่ สมัยก่อน ข้ามีน้องอีกคนที่เกิดมาไม่นานก็ตาย ข้าเลยไม่เข้าใจว่า ทำไมสร้อยเส้นนี้ไปอยู่กับเจ้าได้"
องค์ชายยอจินทรงสับสนและคิดเรื่องมูยุลกับองค์ชายแฮเมียง จึงตรัสบอกเฮยา
เฮยาแปลกใจ "รับสั่งว่าอำมาตย์แพกึยก็จะหาพวกเขาหรือเพคะ"
"ข้าได้ยินกับหู ตอนเขาทูลเสด็จแม่ ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเผ่าพีรูต้องมายุ่งกับเรื่องนี้"
"ตอนนี้องค์ชาย ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร และอย่ายุ่งเกี่ยวด้วย ที่เหลือเราจะจัดการเอง"
"ถ้าหาพวกเขาเจอ อย่าลืมให้ข้าพบหน่อยนะ ข้ามีเรื่องบางอย่าง จะคุยกับพวกเขา"
"ทราบแล้วเพคะ"
องค์ชายยอจินเสด็จกลับไป เคยูเองก็สงสัย
"หรือว่าแพกึย จะพบเห็นอะไรบางอย่าง"
เฮยาสั่ง "ไปตามมูยุลกับมาโนมาพบข้า"
ยอนจะออกไปดูมูยุลตอนกลางคืน แต่มาวังสั่งห้ามไม่ให้ออกไป
ยอนถาม "เกิดอะไรขึ้นหรือคะ"
" เฮ่อ หึ เดิมทีข้าก็ไม่อยากบอกเจ้า พวกเขาอาจเป็นทหารของแคว้นพูยอ ข้ากลับไม่รู้อะไร นึกว่าเป็นลูกน้ององค์ชายแฮเมียง ดันไปช่วยไว้อีก มันเลยมีปัญหา หึ หึ ตอนนี้คนของเผ่าพีรู กำลังตามหาคนที่ไปซื้อยาสมุนไพร ถ้าโชคร้าย เกิดให้รู้ว่าที่ไปช่วยคือพวกเราละก้อ เราสองคนอาจต้องอายุสั้นก็ได้รู้มั้ย โอ๊ย ทำไมมีแต่ปัญหาวุ่นวายนะนี่ เฮ่ย เฮ่อ"
เมื่อมูยุลกับมาโนมาพบเฮยา นางก็กล่าวกับทั้งสองว่า
"เผ่าพีรูกำลังหาเจ้าอยู่ เราคงรอช้าไม่ได้อีกแล้ว รีบออกเดินทาง กลับไปแคว้นพูยอเดี๋ยวนี้"
ทั้งมูยุลและมาโนรับคำ "ครับ"
"อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ข้ากับพักโซจะไปแคว้นพูยอ ถึงตอนนั้นค่อยนัดเจอ ในที่ๆ สมัยก่อนเคยไปกับองค์ชายแฮเมียง" เคยูว่า
"ครับ"
"เราจะรอพวกเจ้าที่นั่น"
"ข้าเข้าใจ"
"ไม่ไหวก็อย่าฝืนนัก ดูแลตัวเองด้วย" เฮยาเป็นห่วง
มูยุลหาโอกาสมาลายอน
"คณหนู"
"ได้ยินว่าพวกเจ้าถูกตามล่า เป็นไรหรือเปล่า"
"ก่อนจะกลับไป ข้าอยากมาพบคุณหนูซักครั้ง"
"กลับไปไหน"
"กลับไป แคว้นพูยอน่ะครับ แต่ไม่ใช่นักรบทมิฬ ไปในฐานะชาวโกคูรยอ ถ้ามีโอกาส ข้าจะหาช่องทาง แก้แค้นแทนคุณหนูเอง"
" แม้ว่าข้าจะรู้สึกไม่พอใจต่อสิ่งที่เกิด แต่ท่านพ่อสั่งไว้ว่า อย่าให้ข้าพยาบาทต่อแคว้นพูยอ รวมถึงฝ่าบาทด้วย หึ ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปเสี่ยงเลย"
"นี่คือ สิ่งที่ข้าแกะสลักไว้ ในยามที่ลำบาก คุณหนู มักจะปรากฎตัวทุกครั้ง ในยามที่ข้าบาดเจ็บเจียนตาย รอให้ข้าทำหน้าที่เสร็จสิ้น กลับมาอยู่ที่นี่ใหม่ ถึงตอนนั้น ข้าจะ อยู่กับคุณหนู ดูแลตลอดไป"
มูยุลกับมาโนเดินทางกลับมาและได้เฝ้าพระราชาเทโซ
"กลับมาแล้วหรือ ทำงานเป็นไงบ้าง"
มูยุลยอมรับ "ล้มเหลวพะยะค่ะ"
"เมื่อรู้ว่าล้มเหลว ยังมีหน้ากลับมาพูยออีกหรือ"
แชบูช่วยทูลว่า "แต่ว่าฝ่าบาท แม้มูยุลกับมาโนจะสังหารพระราชายูริไม่สำเร็จ แต่ก็มีผลงานไม่น้อยนะพะยะค่ะ"
"ผลงานอะไรกัน"
"จับองค์ชายยอจินไว้ ให้ทุกคนรู้ว่าทหารโกคูรยอไม่เอาไหน ทำให้พวกเขาไม่กล้ามาเหิมเกริมกับเราอีก"
" องค์ชายยอจิน เป็นเพียงเหยื่อล่อที่จะเล่นงานพระราชายูริ แม้ว่า หม่อมฉันจะได้ประมือกับพระราชายูริ แต่สุดท้ายก็ฆ่าเขาไม่สำเร็จ ทรงอภัยด้วยพะยะค่ะ"
"วันหลังข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าอีกครั้ง ถึงตอนนั้นต้องตัดหัวยูริมาให้ข้าให้ได้ เข้าใจมั้ย"
มูยุลกับมาโนน้อมรับ "พะยะค่ะฝ่าบาท"
ทั้งสองออกมา มาโนอดแปลกใจแชบูไม่ได้ว่า
"ทำไมใต้เท้าแชบูต้องปกป้องเราด้วย"
" มันเป็นหน้าที่ของเขา ในฐานะผู้บังคับบัญชาหน่วยนักรบทมิฬอยู่แล้ว เขาทำแบบนี้ เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียหน้าเกินไป ไม่งั้นคงไม่ช่วยเราหรอก เพราะถ้าบอกว่าทำงานล้มเหลว ก็คือยอมรับว่าตัวเองด้อยประสิทธิภาพ"
"แล้วเราจะทำไงต่อดี"
"ตอนนี้กลับไปค่ายฝึกก่อน แล้วค่อยคิดอีกที"
มาวังพายอนมารักษาซังกา แต่แพกึยเข้ามาบอกมีเรื่องสำคัญให้มาวังกับยอนออกไปก่อน
"จะโยกย้ายทหารที่เฝ้าชายแดน ฝ่าบาทมีพระบัญชาแบบนี้จริงหรือ" ซังกาถามย้ำ
"ครับ"
แพ กึยกล่าวต่อว่า "ทหารที่เฝ้าอยู่ทุกวันนี้ ล้วนมาจากชนเผ่าต่างๆ และเป็นกำลังสำคัญของพวกเรา ฉะนั้น ส่วนใหญ่จะมีตำแหน่งสูง เป็นถึงแม่ทัพนายกองทั้งสิ้น หนำซ้ำ ยังเป็นขุมกำลังที่ช่วยให้เราอยู่อย่างมั่นคง"
"ส่วนที่มาแทน คือทหารของเผ่าคีซาน อดีตสวามีองค์หญิงเซยูใช่ไหม"
"ข่าวนี้ ท่านรู้ได้ไงครับ" บ่าวถาม
"ใครๆ ก็รู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง พวกเจ้าสองคน เป็นผู้มีอิทธิพลของเผ่าเรา แล้วทำไมเรื่องที่ใครๆ ก็รู้ กลับเพิ่งมาบอกตอนนี้"
"ขอโทษด้วยครับ"
"เรื่องของเรื่อง เพราะพระราชายูริจะบั่นทอนกำลังของชนเผ่าต่างๆ ถึงได้ทำแบบนี้ แล้วพวกเจ้าจะทำไง"
"ข้าจะให้ทหารที่อยู่ชายแดน มารวมตัวที่เมืองหลวง"
"ทำแบบนี้มิเท่ากับ"
"ไม่งั้นจะอยู่เฉย ไม่ทำอะไรเลยหรือไง" แพกึยว่า
ระหว่างที่รอ ยอนเห็นโทจินแต่เข้าไปพบไม่ได้ จึงอ้างกับมาวังว่าจะออกไปซื้อยาให้ซังกาด้วยตัวเอง พอออกมาได้ก็รีบเข้าไปพบโทจิน
"พี่โทจิน"
"ใช่เจ้าจริงๆ เมื่อกี้เห็นเจ้ายังนึกว่าฝันไปซะอีก หึ แทบไม่อยากเชื่อตาตัวเองจริงๆ ว่าจะได้พบเจ้าที่นี่"
"หึ แล้วทำไมท่าน ไปอยู่กับท่านซังกาแห่งเผ่าพีรูได้คะ"
"เพื่อให้มีที่ปักหลัก ข้าเลยไปหาท่านอำมาตย์แพกึย แต่เจ้าไม่ต้องห่วง อดทนอีกนิดเถอะนะ ไม่ว่าจะทำไงก็ช่าง ข้าจะช่วยเจ้าให้ได้"
"ไม่ต้องห่วงข้าหรอก แต่หลายวันก่อนข้าได้เจออีกคนที่นี่เหมือนกัน ถ้ารู้ว่าท่านปลอดภัย เขาคงดีใจมาก"
"เจ้าหมายถึงใคร หรือว่า มูยุลน่ะหรือ เจ้าพบเขาที่นี่หรือ"
"ใช่"
"แล้วเขาอยู่ไหน"
"ป่านนี้ คงกลับไปพูยอแล้ว เขาบอกว่าไปเที่ยวนี้ จะไปในฐานะชาวโกคูรยออย่างแท้จริง แถมยังบอกว่าจะแก้แค้นให้พ่อข้าด้วย"
มู ยุลกับมาโนแอบเข้าไปในห้องเก็บเอกสาร มาโนชี้ให้มูยุลดูอักษรคำว่า "กวาง" มูยุลรู้ทันทีว่า แคว้นพูยอ ก็หมายถึงกวาง และคิดว่าต้องเป็นเอกสารสำคัญแน่
มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน จบ 13มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 14
มูยุลกล่าวกับมาโนขณะที่เห็นนักรบโดนลงโทษว่า
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ
"กระบี่เล่มนี้ น่าจะคืนให้เจ้าของเดิม"
"หมายความว่าไง"
"ไปเมืองหลวงพูยอ สังหารอ๋องเทโซ"
"อ้อ หือ อะไรนะ"
"ไหนว่าจะตัดหัวเขาไง"
"ใช่ แต่ว่า นั่น ข้าก็พูดเล่นไปอย่างงั้น นี่ องครักษ์ของอ๋องเทโซ มีเป็นร้อยคน เราจะลงมือยังไง"
"ยังไงคงมีช่องทางบ้าง"
"หึ โธ่เอ๊ย"
พระ ราชายูริทรงเปลี่ยนหน่วยป้องกันชายแดนเป็นเผ่าคีซาน การตัดสินพระทัยของพระเจ้ายูริในครั้งนี้นั้นจึงเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้ง กับชนเผ่าทั้งหลายขึ้นมา
คูชูเข้ามาทูลรายงานพระราชายูริว่า
"ท่านซังกาเรียกประชุมหัวหน้าเผ่าพะยะค่ะ"
"ป่านนี้พวกเขาคงได้ข่าวแล้วว่า จะมีการโยกย้ายทหารที่ชายแดน เลยมีการเคลื่อนไหวแบบนี้"
"แต่ว่า หม่อมฉันกลัวพวกเขาจะไม่พอใจ อาจแข็งข้อได้"
" นั่นเป็นสิ่งที่ข้าหวังอยู่แล้ว ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดจริง ข้าจะถือโอกาสนี้กำจัดพวกเขาให้หมด หลังจากแฮเมียงตายไป ข้าได้ทำให้โกคูรยอเข้มแข็งขึ้น ถึงเวลาที่จะแก้แค้นให้ลูกข้าแล้ว แต่ก่อนหน้านั้น เราต้องรู้ว่าพวกเขาประชุมอะไรบ้าง"
ที่แท้การที่พระ ราชายูริทรงตัดสินพระทัยเช่นนี้ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะล้างแค้นให้องค์ รัชทายาทแฮเมียงนั่นเอง ที่สำคัญการตัดสินพระทัยของพระราชายูริในครั้งนี้นั้นได้ส่งผลกระทบต่อแพกึย อีกด้วย ทำให้แพกึยต้องการเอาคืน โทจินกล่าวกับแพกึยว่า
"ข้าน้อย มีเรื่องจะพูดน่ะครับ แม้เราจะพลิกสถานการณ์ไม่ได้ แต่ข้าสามารถหยุดยั้งความโอหังของพระราชายูริ"
"จะทำยังไง"
"สังหารหัวหน้าเผ่าคนใหม่ของเผ่าคีซาน แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง"
"เจ้าสามารถทำได้หรือ"
"ข้าเป็นนักฆ่าของท่าน ขอเพียงท่านสั่งมาคำเดียว ข้าจะไปปลิดชีพหัวหน้าเผ่าคีซานเดี๋ยวนี้"
แพ กึยสั่งให้ลูกน้องไปกับโทจินด้วย แม้ว่าโทจินจะค้านว่าทำคนเดียวได้ แพกึยไม่สนสั่งให้ไปด้วย ระหว่างทางโทจินจึงฆ่าลูกน้องของแพกึยตายหมด
ทางด้านมูยุลก็มาพบแชบู บอกว่ามีเรื่องอยากจะถาม แชบูให้ถามได้
"จะให้เราทำอะไรบ้าง ถึงจะคุ้มครองฝ่าบาทได้"
"เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องรู้"
"การจะถวายอารักขา ก่อนอื่นต้องรู้เส้นทางเสด็จ ถึงจะวางกำลังได้ถูกไม่ใช่หรือครับ"
"กำหนดการของฝ่าบาทถือเป็นความลับ ถึงให้พวกเจ้าคุ้มครอง กว่าจะรู้ก็คือวันสุดท้ายเข้าใจไว้ด้วย"
มูยุลยังคงมุ่งมั่นที่จะรู้ให้ได้ มาโนเตือนว่าถ้าเกิดพลาดพลั้ง ได้ตายทั้งคู่แน่
มูยุลนำเอกสารสำคัญที่ได้มาจากค่ายฝึกมอบให้เฮยา
"หึ ขอบใจมาก ได้มาแค่นี้ ก็ถือเป็นผลงานใหญ่แล้ว กลับไปกับข้าเถอะนะ" เฮยาว่า
"ยังครับ เรามีงานต้องทำอีก"
"ฐานะของพวกเจ้าอาจถูกเปิดเผยได้ทุกเมื่อนะ"
"เรามีโอกาสดี ที่จะสังหารอ๋องเทโซ"
พักโซดุ "เจ้าพูดอะไร บ้าแล้วหรือ"
เคยูเตือน "ได้ข่าวว่าเขามีองครักษ์เป็นพัน แล้วจะสังหารได้ไง อย่าทำอวดเก่งหน่อยเลย"
"หึ ข้าไม่ได้อวดเก่ง มีช่องทางทำได้จริงๆ"
"ทำยังไง"
มา โนบอกว่า "ที่เรามาอยู่ในเมืองหลวง ก็เพื่อจะคุ้มครองอ๋องเทโซ ถึงไม่รู้ว่าเขาจะไปไหนเมื่อไหร่ แต่ถ้าตราบใดเรายังอยู่นี่ ก็อาจมีความหวัง"
"พวกเจ้า บอกว่าจะสังหารอ๋องเทโซ คงไม่ได้ล้อเล่นนะ"
มาโนย้อนว่า "ข้าก็อยากให้ล้อเล่น แต่มูยุล"
"แต่ตอนนี้ ไม่รู้ทั้งเวลาและสถานที่ แล้วจะลงมือยังไง กลับไปกับข้าดีกว่า" เฮยาชวน
"สวรรค์เปิดโอกาสให้เรา ข้าอยากลองดูซักครั้ง" มูยุลยังคงมุ่งมั่น
เฮ ยามองและคิด "ทำไมมูยุล ถึงได้คล้ายองค์ชายแฮเมียงขนาดนี้ นิสัยมูยุล เหมือนองค์ชายตรงที่เมื่อตัดสินใจอะไรแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่ว่า นี่คือสิ่งที่หม่อมฉันกลัว ว่าเขาจะเป็นเหมือนองค์ชาย ขอให้องค์ชาย ทรงคุ้มครองเขาด้วย"
มูยุลขอตัวกลับ เฮยาเตือนว่าทำอะไรก็ต้องคิดให้รอบคอบ
"ถ้างานนี้สำเร็จ ข้าต้องไปพบคนๆ หนึ่ง ยังไงก็ไม่บุ่มบ่ามแน่ อย่าห่วงเลยครับ"
พวก เฮยาแยกกับมูยุลและมาโนไม่เท่าไหร่ เฮยาก็รู้สึกเป็นห่วงทั้งสองมาก จึงบอกให้ทุกคนย้อนกลับไปกล่อมมูยุลให้กลับด้วยกันดีกว่าแต่ก็ไม่ทันแล้ว
แช บูบอกว่าพระราชาเทโซจะเสด็จไปเยี่ยมชาวบ้านในคืนนี้ แต่ให้มูยุลกับมาโนอยู่ในวัง มูยุลถามว่าทำไมไม่ให้ไปด้วย แชบูบอกว่เขาไม่จำเป็นต้องตอบคำถาม
มาโนเตือนมูยุล "เราเลิกล้มแผนการดีกว่า"
"ข้าไม่ยอมหรอก"
"เอ่อ มูยุล"
"ไปกันเถอะ"
"ป่านนี้คงมีทหารเฝ้าเราอยู่"
"ถ้าไม่ลงมือวันนี้ จะไม่มีโอกาสอีก หึ"
พระ ราชาเทโซไปนั่งที่โรงเตี๊ยมและพูดคุยกับชาวบ้าน ทำให้ทราบว่าชาวบ้านต่างไม่พอใจพระองค์ เพราะมีความเป็นอยู่ที่ขัดสน ถึงขนาดขายเมีย ขายลูก บ้างคนก็ขายตัวเองเป็นทาส ไม่เหมือนพระราชายูริที่ไม่ให้ประชาชนอดอยากถึงเพียงนี้
พระราชาเทโซเสด็จออกมาก็ถูกลอบทำร้าย แชบูสั่งให้นักรบช่วยกันอารักขาทันที แต่พระราชาเทโซก็บาดเจ็บไม่น้อย
ด้านนักรบก็ตามคนที่ลอบทำร้ายพระราชาเทโซไป มูยุลกับมาโนสู้สุดชีวิตแต่ก็เกือบพลาดพลั้ง ดีที่พวกเฮยาย้อนกลับมาและช่วยไว้ได้
โทจินย้อนกลับมาหาพระราชาเทโซ ทรงตรัสไว้ก่อนที่เขาจะไปเมื่อครั้งที่แล้วว่า
" ให้เจ้าไปโกคูรยอและเป็นคนของที่นั่น ไม่ใช่แค่เป็นสายลับเพียงอย่างเดียว หากแต่ให้สวมบทบาท เป็นชาวโกคูรยออย่างแท้จริง เรื่องนี้แม้แต่ใต้เท้าแชบูก็อย่าบอกให้รู้ มีแต่เราสองคน ที่รู้เรื่องนี้เท่านั้น และเจ้าคงรู้ว่า ชั่วชีวิตข้าไม่มีทายาทซักคน ถ้าเจ้าทำงานนี้สำเร็จเมื่อไหร่ ทันทีที่กลับจากโกคูรยอ เมื่อนั้นแหละ ข้าอาจให้เจ้าสืบบัลลังก์ต่อก็ได้"
โทจินเฝ้าพระราชาเทโซ "ฝ่าบาท หม่อมฉันคือโทจิน ทรงได้ยินมั้ยพะยะค่ะ ฝ่าบาทต้องฟื้นให้ได้ เพราะมีแต่ฝ่าบาทองค์เดียว ที่จะช่วยล้างมลทินที่หม่อมฉันเป็นลูกกบฎออกได้ ลบล้างความทรงจำที่เลวร้าย ให้หม่อมฉันได้กลับเป็นคนใหม่ จอกเหล้าของหม่อมฉัน ยังคงรอที่จะให้ฝ่าบาททรงรินเหล้าให้ ตอนนี้ หม่อมฉันจะกลับไปโกคูรยอ เพื่อจัดการกับคนที่บังอาจทำให้ฝ่าบาท ทรงรำคาญพระทัย"
โทจินออกมา แชบูถามเขาว่า "เจ้าทำอะไรจะไม่บอกให้ข้ารู้หน่อยหรือ"
"ฝ่าบาทรับสั่งว่า ถ้าจะหลอกคนอื่น เราต้องหลอกตัวเองให้ได้ก่อน"
เฮยาดูและมูยุลและมาโนอย่างดี
"มูยุล"
"หัวหน้า"
"เจ้ายังเรียกข้าเหมือนแต่ก่อน ที่อยู่ในถ้ำนะ"
"ขอโทษด้วยครับ ข้าลืมไป"
" ไม่เป็นไร เมื่อก่อนเราเป็นช่างเขียนรูป ความคิดของเจ้ายังไร้เดียงสามาก และองค์ชายแฮเมียงก็ยังอยู่ ผลงานที่เจ้ามีต่อพูยอ ฝ่าบาทต้องมีรางวัลให้แน่"
"สิ่งที่ข้าทำ ไม่ได้หวังรางวัลจากใครหรอกครับ เผาห้องเก็บเอกสารในค่ายฝึก ใช้ธนูยิงเข้าใส่ กลางหัวใจของอ๋องเทโซ รู้สึกว่าทำเรื่องพวกนี้ ข้าถึงจะลืมความผิดในอดีตได้ แต่ว่า ไม่รู้ทำไมก็ยังกลุ้มใจอยู่ เฮ่อ"
เฮยาไปเข้าเฝ้าพระราชายูริ ทรงตรัสถามทันทีที่เห็นหน้าเฮยา
"รู้สถานการณ์ในพูยอหรือยัง"
" ไม่เพียงแต่รู้สถานการณ์ เรายังลอบทำร้าย อ๋องเทโซที่ปลอมตัวออกมาข้างนอกด้วย แม้ยังไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย แต่อย่างน้อย เชื่อว่าต้องบาดเจ็บสาหัสแน่ ฝ่าบาท ทั้งหมดนี้ เป็นผลงานขององค์ชายมูยุลนะเพคะ และองค์ชาย ยังได้หนังสือเกี่ยวกับยาพิษ และการฝึกปรือทหารของแคว้นพูยอ กลับมาถวายฝ่าบาทด้วยเพคะ สิ่งเหล่านี้ แม้เราจะส่งทหารไปกี่คนก็ไม่สามารถทำได้ ฝ่าบาท ทรงให้องค์ชายเข้าเฝ้า และตรัสชมเขาหน่อยเถอะ"
"ขอบใจมาก เจ้าไปพักผ่อนได้"
"ฝ่าบาท"
เฮยาออกมาก็พบกับขุนนางที่เป็นน้องชายของพระมเหสีมียู
" นั่นใครน่ะ เฮยาใช่ไหม เฮ่อๆๆ ไม่เจอกันนานนะนี่ หึๆๆ คนต่ำต้อยอย่างเจ้ายังได้เป็นถึงหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง เห็นทีว่าโกคูรยอคงไม่ได้เป็นใหญ่แน่ อ้อ ไม่ใช่ๆ ได้ยินว่าคนไหนใกล้ชิดเจ้าจะอายุสั้น แสดงว่าเจ้าเป็นคนดวงแข็งน่าดู จริงหรือเปล่า"
องค์หญิงเซยูทรงดุ "ท่านมาเพ้อเจ้ออะไรอยู่ได้ เป็นถึงน้าขององค์ชายยอจิน ทำไมใช้คำพูดไม่น่าฟังแบบนี้"
"ใครๆ ก็รู้ว่า หม่อมฉันเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี หึ" พูดจบก็เดินจากไป
" เขาเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว อย่าถือสาเลยนะ" องค์หญิงเซยูตรัสกับเฮยา "ได้ยินว่าท่านไปพูยอ ทำให้ข้าเป็นห่วงนัก เห็นท่านกลับมา คนอื่นก็ปลอดภัยด้วยใช่ไหม"
"เพคะ"
"ข้ามีเรื่องจะรบกวนหน่อย"
"เชิญรับสั่งมาได้"
"ในเผ่าพีรูมีคนๆ หนึ่งชื่อโทจิน ช่วยสืบประวัติเขาหน่อยได้ไหม"
"ได้สิเพคะ"
เวลาเดียวกันนี้ คูชูทูลพระราชายูริว่า
" ฝ่าบาท หึ แคว้นพูยอ เหมือนจะเกิดเรื่องใหญ่พะยะค่ะ คนของเราที่อยู่นั่นรายงานมาว่า พวกหัวหน้าเผ่าเข้าประชุมเคร่งเครียด แต่อ๋องเทโซกลับไม่ปรากฎตัวให้เห็น แสดงว่า เขาอาจเกิดเรื่องบางอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริงละก้อ เราต้องทำอะไรบางอย่างหรือเปล่า"
"ข้าเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว"
"เอ่อ หา ฝ่าบาททรงทราบแล้วหรือ"
" คนที่ไปทำร้ายอ๋องเทโซ ก็คือเฮยา หนังสือที่จะส่งไปแคว้นชิลลา เมืองฮวางยงและอื่นๆ เพราะเป็นงานสำคัญจึงไม่อยากใช้คนอื่น ขอให้ท่านเดินทางด้วยตัวเอง"
"พะยะค่ะ"
เฮยากับเคยูพามูยุลกับมาโนมาพักที่แห่งหนึ่ง พักโซไม่พอใจต่อว่าแทนทั้งสองว่ามีผลงานขนาดนี้ทำไมไม่ให้ทั้งสองเข้าวัง
เค ยูดุ "คนอย่างเจ้า บังอาจรู้พระทัยฝ่าบาทได้ยังไง จุ๊ๆ หึ เพราะพวกเจ้ายังเผยตัวไม่ได้ จึงให้อยู่นี่ก่อน เห็นแก่ความปลอดภัยมาก่อน อย่าคิดน้อยใจเลยนะ"
มูยุลกับมาโนรับคำ "ครับ"
เฮยาบอกต่อว่า "ฝ่าบาททรง ดีพระทัยเมื่อรู้ว่าพวกเจ้าได้สร้างผลงาน"
มาโนตื่นเต้น "จริงหรือครับ"
" จริงสิ หึ หลายวันนี้ คงยังไม่มีอะไรให้พวกเจ้าทำ ถือว่าพักผ่อนเถอะนะ ขาดเหลืออะไรละก้อ บอกมาได้ ไม่ต้องเกรงใจ ขออย่างเดียว อย่าไปไหนส่งเดช"
ยอนมาขอมาวังว่านอกเวลา จะขอไปรักษาคนจน มาวังบ่นว่าจะทำไปทำไม แต่ก็ยอมหาโรงหมอให้ยอน
องค์ชายยอจินมาเฝ้าองค์หญิงเซยู และเห็นองค์หญิงเซยูมีสร้อยที่สวยมากก็เอ่ยชม
"เป็นสร้อยที่สวยมาก ของพี่หญิงหรือ"
"เป็นของพี่ชายเจ้า"
"เจ้าพี่แฮเมียง ทิ้งไว้ให้หรือ"
"เจ้ายังมี พี่ชายอีกคนที่เสียชีวิตไป หลังจากเกิดมาไม่นาน"
"ทำไมเรื่องนี้ หม่อมฉันไม่เคยรู้เลย"
"ใช่ ทุกวันนี้ใครต่อใครต่างก็ลืมเขาไปหมด สร้อยเส้นนี้ พี่เป็นคนให้เขาไว้ ก่อนเราจะจากกัน"
"แล้วทำไม สร้อยเส้นนี้ กลับมาอยู่กับพี่หญิงอีกล่ะ"
"ข้าก็แปลกใจเหมือนกัน ไม่นึกว่าผ่านไปหลายปี สร้อยเส้นนี้ยังอยู่ และกลับมาหาข้าได้"
องค์ ชายยอจินเสด็จออกมาก็พบกับพักโซ ทรงตรัสถามถึงสองคนที่จับตัวเขาไปว่าเป็นยังไง พักโซบอกว่าไม่รู้ แต่องค์ชายยอจินไม่เชื่อ ทรงคาดคั้นอย่างหนัก
"ข้าแค่อยากเจอพวกเขา ขอร้องล่ะนะ"
"พวกเขาจับองค์ชายไปขัง ยังจะทรงพบอีกหรือ"
"ข้าน่ะ ไม่เคยถือสา และไม่เคยโกรธพวกเขาแม้แต่ซักนิด ตอนนี้ แค่อยากเจอพวกเขาเท่านั้น"
ยุนวาแทรกว่า "คนโหดร้ายอย่างงั้นจะไปพบทำไมอีกเพคะ หม่อมฉันว่าอย่าดีกว่า"
พักโซเถียง "โหดร้ายอะไรกัน พวกเขาไม่ใช่คนอย่างงั้น"
องค์ชายยอจินจับได้ทันที "นึกแล้วว่าต้องรู้ พวกเขาอยู่ไหนแน่"
พักโซอึกอัก "เอ่อ คือ คือว่า"
"นี่คือ คำสั่งขององค์ชาย พาข้าไปพบพวกเขาเดี๋ยวนี้"
พักโซพาองค์ชายยอจินไปพบมูยุลกับมาโน แต่มูยุลไม่อยู่เพราะแอบไปพบกับยอน เหลือมาโนคนเดียว มาโนพบหน้าองค์ชายยอจินก็ตกใจมาก
"หือ เฮ้ย เอ่อ องค์ชายๆ หม่อมฉันสมควรตาย ทรงอภัยด้วย"
"หึ ข้าน่ะ ไม่เคยถือสาพวกเจ้าเลย อีกคนหายไปไหน"
มาโนอึกอัก พักโซเสียงเข้ม "มูยุลอยู่ไหน"
"เพื่อนเขาอีกคน ชื่อมูยุลหรือ"
"พะยะค่ะ"
"มูยุล ไม่มีจิตวิญญาณ ไม่มีเลือดเนื้อ แปลกจริง ทำไมตั้งชื่อนี้ เขาอยู่ไหน"
"หม่อมฉัน ไม่ทราบพะยะค่ะ"
"อะไรนะ ไม่รู้ไปไหนหรือ หัวหน้าสั่งว่าห้ามออกไปข้างนอกไง" พักโซดุอีก
มาโนรีบขอร้อง "เจ้าอย่าไปบอกนางเชียวนะ"
"ขอทรงอภัย วันหลังค่อยมาดีมั้ยพะยะค่ะ" องค์ชายยอจินเห็นด้วย
โทจินนำหัวของหัวหน้าเผ่าคีซานกลับมามอบให้แพกึย
"ทำดีมาก เก่งจริงๆ" แพกึยชื่นชม
"เสียดายลูกน้องตายหมด ต้องขอโทษด้วยครับ"
"ไม่เป็นไร จะทำงานใหญ่ บางทีก็ต้องมีการเสียสละ เจ้าไปพักผ่อนได้"
ขณะเดียวกันนี้ มูยุลก็ได้พบกับยอน นางดีใจมาก
"เห็นเจ้าเงียบหายไป ข้ายังเป็นห่วงอยู่ ในเมื่อกลับมาได้ก็ค่อยโล่งอกหน่อย"
"คุณหนูเป็นห่วงข้าหรือครับ"
"นี่คือ ป้ายหยกของพ่อข้า? ทำไมเจ้าถึงเอามา"
" ตอนกลับไปพูยอ ข้าแอบไปที่บ้านของคุณหนู แม้ว่าข้าวของทุกอย่างจะหายหมด เหลือเพียงบ้านเปล่าๆ แต่ข้าไปดูห้องหนังสือ กลับเจอป้ายหยกนี่"
"หึ ตอนนั้นออกมาฉุกระหุก แทบไม่ได้เอาสิ่งมีค่าซักอย่างติดตัวมาด้วย ขอบใจมากนะ"
" ตอนอยู่พูยอ อย่างน้อยข้าก็ได้แก้แค้น ให้คุณหนูบ้าง แม้จะไม่ทั้งหมด ข้าไปลอบสังหาร อ๋องเทโซด้วยธนู ถูกหน้าอกเข้าอย่างจัง แต่ยังไม่รู้ชะตา"
ยอน อึ้งไป มูยุลกล่าวต่อว่า "ขอโทษด้วยครับ ข้ารู้ว่าถึงเจ็บแค้นยังไง แคว้นพูยอก็คือบ้านเกิด ส่วนอ๋องเทโซ คือคนที่คุณหนูเคารพ ข้าไม่น่ามองข้ามจุดนี้ไปเลย"
"ฮือ หึ หึ ไม่เป็นไร ข้าจะลืมให้หมด หึ ทั้งพูยอ ทั้งฝ่าบาท หึ ข้าจะลืมให้หมด ฮือ ฮือๆๆ ฮือๆๆ" ยอนร้องไห้อย่างเศร้าเสียใจ
"นับแต่นี้ ข้าจะพาคุณหนูออกจากความมืดมิด เหมือนที่คุณหนูช่วยรักษาข้า ข้าจะรักษาเจ้าบ้าง"
"ฮือๆๆ" ยอนยังคงร้องไห้
"จนกว่าคุณหนูจะหายดี ข้าจะอยู่กับเจ้า คอยปกป้องเจ้าไว้ ข้าไม่สะดวกที่จะออกมา อาจมีช่วงหนึ่ง ที่ไม่ได้มาหาคุณหนูบ่อยนัก"
"ไม่ต้องห่วงข้า ดูแลตัวเองไว้เถอะ หึ เดี๋ยวนี้ข้าไม่กลัวอีกแล้ว เพราะในโกคูรยอ ยังมีพี่โทจินอีกคน"
"แม้แต่โทจิน ก็มาอยู่นี่ด้วยหรือ"
"ใช่ เขาพักอยู่บ้านหัวหน้าเผ่าพีรู"
มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน จบ 14
เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn
2 comments:
ขอบคุณมากๆครับ สนุกมากเลย
ขอบคุณที่สละเวลาเอาลงให้อ่านนะครับ ติดตามอ่านมาตั้งแต่เรื่องลีซานครับ ขอบคุณครับ
Post a Comment