Friday, March 06, 2009

ลีซาน - เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ - ลีซาน (35)-(36)

ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน 35

องค์หญิงวาวานพบว่าแชซกจูไปเป็นพวกเดียวกับองค์ชายลีซาน
เมื่อองค์หญิงวาวานรู้เช่นนั้นแล้วก็มีคำสั่งให้ชองโฮคยอมกำจัดแชซกจูทันที
องค์ชายลีซานเข้าเฝ้าพระเจ้ายองโจ และทูลว่า "จะให้ลูกอนุฯ และอดีตขุนนาง
กลับมาทำงานในตำแหน่ง "นานกวาน" ดีมั้ยพ่ะย่ะค่ะ"
"หน่วยงานนี้จะดูแลกิจการของราชสำนักทั้งหมด สำหรับคนที่ออกจากราชการไปนาน
รวมถึงคนใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ มันจะยากไปหรือเปล่า" " ถ้าอย่างงั้น
ก็ต้องให้คนที่มีประสบการณ์มาสอนก่อน ค่อยๆ เรียนรู้ไป ไหนๆ ระบบงานต่างๆ
ต้องมีการวางแผนใหม่อยู่แล้ว จะได้ศึกษาไปในตัว
จากนั้นค่อยเลือกคนที่ตั้งใจและขยันขันแข็งดีมั้ยพ่ะย่ะค่ะ"


"ก็ได้ แสดงว่าปูทางไว้แล้ว ข้ายังนึกว่าเจ้าจะทำงานไม่รอบคอบ
กลายเป็นผักชีโรยหน้าซะอีก แต่คงไม่ใช่อย่างงั้น นี่คงวางแผนมานาน
ให้ไปตามทีละขั้นตอนล่ะสิ" "ขอบพระทัยที่ทรงชม" "ทีหลังเรื่องเล็ก
น้อยไม่ต้องมาถามข้าอีก คนเหล่านี้อีกหน่อยจะเป็นกำลังสำคัญของเจ้าๆ ก็ดูแลไปละกัน
ถ้าหมดเรื่องแล้วก็ออกไปก่อน ตอนบ่ายข้ายังต้องไปท้องพระโรง
มีประชุมกับสามกรมใหญ่อีก" "เอ่อ หม่อมฉันขอบังอาจทูลถาม ประชุมสามกรมใหญ่
เมื่อวานผ่านไปแล้วนี่พ่ะย่ะค่ะ" "หือ อ้อ นั่นสินะ หมู่นี้ไม่รู้เป็นอะไร
ข้าชอบหลงๆ ลืมๆ อยู่เรื่อย สงสัยจะใกล้วันตายแล้วกระมัง" "ฝ่าบาท
ทำไมรับสั่งอย่างงั้นล่ะพ่ะย่ะค่ะ" "ตกใจทำไมกัน เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา
ใครๆ ก็ต้องเจออยู่แล้ว" "ฝ่าบาท" "อยู่มาถึงวันนี้ก็พอแล้ว
เห็นเจ้ารู้จักทำงานทำการ ข้าจะได้ตายตาหลับซะที ดีไม่ดี
ข้าอาจจะยกบัลลังก์ให้เจ้าก่อนก็ได้" "ฝ่าบาท โปรดอย่ารับสั่งอย่างงั้น
หม่อมฉันฟังแล้วใจไม่ดีเลย" องค์ ชายลีซานถามมหาดเล็กถึงพระอนามัยของพระเจ้ายองโจ
มหาดเล็กตอบอย่างอึกอักว่าไม่มีอะไร องค์ชายลีซานจึงสั่งให้ตามหมอหลวงมาดูพระอาการ
เทซูกลับไปเยี่ยมดัลโฮ ทำให้รู้ว่ามักซูรู้แล้วว่าดัลโฮเป็นขันทีมาก่อน
และบอกเลิกกับดัลโฮ องค์ชายลีซานทรงเป็นห่วงซองซงยอนมาก
จึงตัดสินใจให้เทซูไปดูความเป็นอยู่กับนางที่ต้าชิงหน่อย
เทซูดีใจมากรีบกลับไปเก็บของทันที พระ
มเหสีจองซุนอาศัยช่วงที่พระเจ้ายองโจทรงหลงลืม
เข้าเฝ้าแล้วทูลให้ออกคำสั่งให้คิมคีจูกลับมาเฝ้า
พร้อมสั่งให้ราชเลขามารับคำสั่งทันที
เมื่อออกมาพระมเหสีจองซุนก็ทรงกำชับไม่ให้ราชเลขาพูดมากกับเรื่องวันนี้
เทซูไปถึงต้าชิง ก็พบว่าซองซงยอนถูกไล่ออกจากศูนย์ศิลปะไปแล้ว
เขาตามหาไม่เจอก็รีบกลับไปทูลองค์ชายลีซาน "หมายความว่ายังไง ทำไมหานางไม่พบ
เจ้าไปถึงต้าชิง ทำไมหานางไม่พบล่ะ" เทซูเอาแต่ร้องไห้ "เทซู" "ฮือๆๆ องค์ชาย
นางหายสาบสูญไปแล้ว แม้หม่อมฉันจะตามหา ทั่วเมืองหลวงทุกซอกทุกมุม
แต่ก็ไม่พบนางพ่ะย่ะค่ะ" องค์ชายลีซานตกใจมาก "หา" "ฮือๆๆ องค์ชาย
ช่วยตามหานางหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ ส่งทหารไปตามหานางที องค์ชาย"
"ส่งข่าวไปที่เมืองอึยจู ให้ส่งตัวแทนไปประสานกับทางต้าชิง ขอกำลังจาก
องครักษ์เสื้อแพรให้ช่วยเราตามหาหน่อย" "องครักษ์เสื้อแพร ก็คือ" "
หน่วยงานที่เหมือนกองปราบของเรา เห็นบอกว่า มีวิธีในการตามหาคนที่สูญหาย
แม้จะไม่ง่ายนัก แต่ถ้าติดต่อได้ เราก็จะมีความหวังมากขึ้น ไปเร็วเข้า
เวลามีน้อยอยู่" "พ่ะย่ะค่ะ" นัมซาโชน้อมรับคำสั่ง คิมคีจูได้กลับมาเมืองหลวง
เขาอาฆาตชองโฮคยอมที่กล้าทรยศต่อพระมเหสีจองซุน
และขู่ว่าอีกไม่นานพระมเหสีจองซุนจะทรงชำระแค้นคนที่ทรยศ
พระชายาโยอึยทรงทราบเรื่องซองซงยอนแล้วก็ตัดสินใจไปหาองค์ชายลีซาน "เจ้าบอกว่าไงนะ
ที่นางไปอยู่ต้าชิง เป็นความผิดของเจ้าหรือ นี่มันหมายความว่า" "นางไม่ได้
เต็มใจที่จะไปต้าชิงหรอกเพคะ ฮือ รู้ทั้งรู้ว่าไปแล้วชาตินี้อาจไม่ได้กลับมาอีก
เหมือนคนถูกเนรเทศ นางก็ยังจำใจต้องไป" "เหมือนคนถูกเนรเทศยังไง ไหนเสด็จแม่บอกว่า
นางสมัครใจที่จะไปเองไม่ใช่หรือ เฮ่ย" " องค์ชายเพคะ ที่เสด็จแม่ทรงทำแบบนี้
เป็นเพราะ ความหวังดีที่มีต่อหม่อมฉัน ฮือ เสด็จแม่ทรงเข้าพระทัยผิด
นึกว่าถ้าไม่มีนางจะเป็นผลดีต่อเราสองคน เลยให้นางไปซะ ฮือ จนกลายเป็นแบบนี้
เพราะหม่อมฉันไม่ดีเอง ฮือ รู้อยู่ว่านางไปเพราะสาเหตุอะไร
กลับไม่มาทูลให้องค์ชายทรงทราบ เป็นความผิดของหม่อมฉันเองเพคะ ฮือ" "เฮ่อ เฮ่ย"
องค์ชายลีซานกล่าวอะไรไม่ออกได้แต่ถอนพระทัย เทซูพบซองซงยอนแต่นางแทบจะไม่มีสติ
หรือแม้แต่จะลืมตา องค์ชายลีซานรู้ข่าวก็รีบให้หมอไปตรวจอาการทันที

ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน จบ 35

ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน 36

หมอหลวงบอกว่าอาการของซองซงยอนยากที่จะเยียวยาได้
ทุกคนวิตกกังวลเป็นห่วงซองซงยอนมาก องค์ชายลีซานอยู่เคียงข้างไม่ห่าง
พระชายาโยอึยเข้ามาขอโทษพระพันปีเฮคยองที่ต้องบอกความจริงกับองค์ชายลีซาน "
หม่อมฉันทราบดีเพคะ เสด็จแม่ทรงเห็นใจหม่อมฉัน ถึงได้ออกหน้าแทน
ทำในสิ่งที่หม่อมฉันไม่กล้าทำ หม่อมฉันเอง ยอมรับว่าส่วนลึกในใจ ก็หวังให้นาง
เมื่อจากไปแล้ว ชาตินี้ไม่ต้องกลับมาอีก เพื่อจะได้ไม่รบกวนองค์ชาย ฮือ
หม่อมฉันแกล้งทำไม่รู้ แต่ผู้หญิงคนนี้สามารถปลอบใจองค์ชายได้
ทำให้หม่อมฉันอิจฉานัก ที่สำคัญหม่อมฉันยังรู้สึก หึงหวงนางอย่างมากด้วย ฮือ
แต่ว่าหม่อมฉันก็ไม่อยากให้นางไปตกระกำลำบากที่ต่างแดนอีกแล้วเพคะ
หรือแม้แต่ไม่อยากเห็นองค์ชายเป็นทุกข์ เพราะตามหานางไม่เจออีก ฮือ
จึงอยากให้เสด็จแม่ทรงเห็นพระทัย ช่วยเหลือองค์ชาย ให้ตามหาผู้หญิงคนนั้นให้พบ
และพานางกลับมาเถอะเพคะ" "ข้าทำไม่ได้หรอกนะ" "เสด็จแม่" "
ที่จริงข้าก็เห็นใจชะตากรรมที่นางได้รับ และที่จำใจไล่นางไปนั้น
ข้าเองก็รู้สึกเสียใจ แต่ว่า ต่อให้คิดยังไง นี่คือหนทางที่ดีที่สุด
เพราะถ้าให้นางอยู่ต่อ จะเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของลูกซานก็เป็นได้"
"เสด็จแม่เพคะ" " ตอนนี้นางไม่มีข่าวคราว ดูๆ ไปอาจเป็นเรื่องดีมากกว่า สิ่งที่ทำไป
แม้ลูกซานจะตำหนิข้าก็ช่วยไม่ได้
เพราะข้าจะไม่ยอมให้นางกลับมาอยู่นี่เพื่อเป็นเสี้ยนหนามอีก ได้แต่ภาวนา
ให้นางอยู่ต้าชิงหรือที่ไหนซักแห่ง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็พอแล้ว" เท
ซูบอกนัมซาโชว่าองค์ชายลีซานดูแลซงยอนดีเช่นนี้
เชื่อว่าไม่นานนักนางจะต้องฟื้นได้สติขึ้นมา เมื่อเทซูพูดจบก็จากไปด้วยความซึมเศร้า
ไม่นานซองซงยอนก็รู้สึกขึ้น และพบองค์ชายลีซานต่างดีใจมาก
องค์ชายลีซานรีบสั่งให้เรียกหมอมาดูอาการนางทันที
หมอบอกให้ใช้ยากระตุ้นชีพเสริมด้วย เพื่อปรับสมดุลให้เหมือนปกติ เมื่อหมอกลับไปแล้ว
ซองซงยอนก็จะลุกขึ้น องค์ชายลีซานสั่งให้นอนพักก่อน "องค์ชาย ทำไมถึง
มาอยู่ที่นี่ได้เพคะ" "หึ สิ่งที่เจ้าอยากรู้ คือทำไมข้ามาอยู่นี่หรือ
รู้มั้ยว่าหมดสติไปกี่วัน ทำให้ข้าเป็นห่วงแค่ไหน รู้บ้างหรือเปล่า" "หึ องค์ชาย"
"ทำไมยอมทำอะไรโง่ๆ ถึงใครจะพูดยังไง เจ้าก็ไม่ควรไปต้าชิง และรีบมาบอกข้า
ว่าเจ้าไม่ไปไหนทั้งนั้น" "องค์ชาย" " ข้ารู้เรื่องหมดแล้ว ว่าทำไมเจ้าต้องไปต้าชิง
และรู้ว่า ทำไมก่อนไปถึงไม่บอกความจริงให้ข้ารู้
นึกว่าทำแบบนี้เพราะหวังดีต่อข้าหรือ นึกว่าพอไม่มีเจ้าแล้ว ชีวิตข้าจะยิ่งดีขึ้น
เจ้าคิดอย่างงั้นใช่ไหม" "ฮือ องค์ชาย" "ฮือ เฮ่อ ทำไมความคิดเจ้าถึงได้ตื้นเขินนัก
เจ้ามีสิทธิ์ไปไหนก็ได้ แต่เมื่อเจ้าไปแล้ว ข้าอาจจะ อยู่ต่อไม่ได้เลยซักวัน
เคยคิดบ้างหรือเปล่า" "องค์ชาย ฮือ" องค์ชายลีซานเสด็จกลับถึงตำหนัก
พระพันปีเฮคยองก็มาเฝ้ารออยู่ เพื่อถามว่าพาหมอหลวงไปไหนมา " หม่อมฉัน
เจอตัวซงยอนแล้วพ่ะย่ะค่ะ ที่ให้หมอหลวงไปตรวจข้างนอก ก็เพราะเร่งรีบจะช่วยชีวิตนาง
ที่อยู่ระหว่างความเป็นความตาย เสด็จแม่ทรงทำได้ยังไง" "ลูกซาน" "นางเป็นคนน่าสงสาร
แล้วทำไมเสด็จแม่ ทรงกีดกันคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ขับไล่ไสส่งนางได้ลงคอ
ผู้หญิงคนนี้ จะทำลายอนาคตของหม่อมฉันได้ยังไง" "เจ้าบอกว่า
นางเป็นคนน่าสงสารงั้นหรือ ไม่ใช่เลย เรื่องไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด
ก็ดูอย่างวันนี้เป็นต้น งานการไม่คิดจะสนใจ
หนีออกจากวังไปเฝ้านางโดยไม่คิดถึงผลที่ตามมา
แล้วอย่างงี้ยังไม่มีผลต่ออนาคตของเจ้า
จะไม่ให้แม่ออกหน้าจัดการผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง" "เสด็จแม่" "รู้
มั้ยถ้าให้ขุนนางรู้เข้า จะเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน คงเอาเรื่องนี้เป็นข้ออ้าง
หาเหตุผลไปทูลฟ้องต่อเสด็จปู่อีก สมัยก่อนเสด็จพ่อของเจ้า
ก็เคยทำเรื่องแบบนี้แล้วผลเป็นยังไง เจ้าลืมหมดแล้วใช่ไหม
แล้วจะให้แม่วางตัวนิ่งเฉยได้ยังไง บอกแม่มาเถอะลูกซาน
ว่าความกังวลที่มีต่อเด็กคนนั้น คิดว่านางจะมีอะไรกับเจ้า นั่นเป็นแค่
ความเข้าใจผิดของแม่ฝ่ายเดียวใช่ไหม" " ไม่พ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่ ไม่ใช่การเข้าใจผิด
หม่อมฉันจะขอทูลว่า ที่แล้วมา หม่อมฉันก็ไม่เคยเข้าใจ หม่อมฉันนึกว่านางเป็นเพื่อน
ซึ่งมีความปรารถนาดีต่อกัน แต่พอหลังจากนางไปแล้ว
หม่อมฉันถึงรู้ว่านั่นไม่ใช่เพียงแค่ เพื่อนธรรมดา เหมือนที่เสด็จแม่ทรงคิด
หม่อมฉันเก็บนางไว้ อยู่ในส่วนลึกของหัวใจมาตลอด ปล่อยให้นาง
ใช้ชีวิตเหมือนที่แล้วมาได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ" "ลูกซาน" " เสด็จแม่
หม่อมฉันจะทำตามเป้าหมายที่ทรงวางไว้ และจะไม่สร้างปัญหา ให้เสด็จแม่ทรงกังวลด้วย
ขอแต่ให้นางใช้ชีวิตเหมือนเดิมต่อไป อยู่กับหม่อมฉันเหมือนเป็นเพื่อน
หม่อมฉันขอร้อง โปรดอย่าทรงทำอะไรนางอีก ได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ"
พระชายาโยอึยทรงแอบฟังอยู่ก็ทรงเศร้าใจไม่น้อย
องค์หญิงวาวานกลัดกลุ้มใจยิ่งนักเมื่อรู้ว่าพระเจ้ายองโจทรงอภัยโทษให้คิมคีจู
เพราะเท่ากับพระมเหสีจองซุนก็ได้รับการอภัยโทษด้วย พระมเหสีจองซุนทราบจากหมอว่า
ถ้าได้ใกล้ชิดพระเจ้ายองโจที่กำลังป่วยอยู่ขณะนี้ ก็จะยิ่งว่านอนสอนง่าย ฮงกุก
ยองรู้สึกแปลกใจที่พระเจ้ายองโจทรงมีพระวินิจฉันลงมาเร็วกว่าปกติบ่อยๆ
แล้วทรงเรียกราชเลขาไปรับสั่งพิเศษ แต่เขาไม่รู้เรื่องจึงไปถามราชเลขา
แต่ราชเลขาอ้างว่าไม่ได้ไปตำหนักใหญ่เลย องค์หญิงวาวานไปขอเฝ้าพระมเหสี จองซุน
ทำให้พบว่าพระเจ้ายองโจทรงอยู่ด้วย และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
สร้างความแปลกใจให้กับองค์หญิงวาวานมาก พอพระเจ้ายองโจเสด็จกลับ
ก็ถามพระมเหสีจองซุนทันที "พระมเหสี นี่มันอะไรกันเพคะ" "เจ้ามาพบข้าวันนี้
คงได้ยินข่าวลือบางอย่างล่ะสิ" "พระมเหสี" " ในเมื่อเห็นฝ่าบาทอยู่ที่นี่
ข้าคงไม่ต้องเสียเวลาพูดให้มากความอีก ถ้ารู้ว่าหมายถึงอะไรละก้อ
ต่อไปจะวางตัวแบบไหนก็จงคิดให้ดี ถ้าฉลาดก็จงกลับไปที่ตำหนัก ทบทวนสิ่งที่แล้วมาซะ
และอย่าทำอะไรวู่วาม ให้ข้าต้องตามล้างตามเช็ดอีกจะดีที่สุด ไม่อย่างงั้น
บัญชีที่เราต้องสะสางอาจจะยาวเป็นหางว่าวก็ได้" ลีชองคุยกับปาร์คยองมุน
เพื่อขอให้ซองซงยอนได้กลับเข้ามาทำงานที่ศูนย์อีกครั้ง
ซองซงยอนรู้ก็ดีใจมากที่จะได้กลับมาทำงานองค์ชายลีซานมาเยี่ยมพระชายาโยอึย
"องค์ชายเสด็จมา ไม่ทราบมีเรื่องอะไรหรือเพคะ" "ได้ยินว่าหมู่นี้
เจ้าเอาแต่เก็บตัวไม่ไปไหน เป็นห่วงว่าจะไม่สบายหรือเปล่า ก็เลยมาเยี่ยม" "หึ
ไม่มีอะไรหรอกเพคะ หม่อมฉันสบายดี องค์ชายไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงก็ตาม
น้ำพระทัยขององค์ชาย หม่อมฉันรู้สึกตื้นตันนัก" "พินกุง เรื่องของซงยอน
ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ข้ามาคิดดูแล้ว เป็นความผิดของข้ามากกว่า
ที่ทำให้เจ้ารู้สึกผิด" "องค์ชาย" " เรื่องของซงยอน
ในมุมมองของเจ้าย่อมไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเท่าไหร่ แต่ข้ากลับห่วงแต่ตัวเอง
โดยมองข้ามความรู้สึกที่แท้จริงของเจ้า ข้า รู้สึกละอายต่อเจ้านัก"
"หม่อมฉันไม่เข้าใจความคิดขององค์ชาย ถูกความริษยาบังตา
จิตใจคับแคบถือเป็นความผิดอย่างมาก รู้เรื่องแต่กลับปิดเงียบ
ไม่ทูลให้องค์ชายได้ทรงทราบไว้ก่อน แล้วทำไมยังทรงเห็นพระทัยหม่อมฉันอีกล่ะเพคะ"
"พินกุง" "องค์ชาย ทรงเป็นรัชทายาทแห่งโชซอน แต่หม่อมฉัน
เป็นแค่ชายาจะเห็นแก่เรื่องเล็กน้อย ให้องค์ชายมารับผิดแทนได้ยังไง
รับสั่งขององค์ชาย จะทำให้หม่อมฉัน ละอายจนเหลือจะกล่าวแล้วเพคะ"
ฮงกุกยองนัดชองโฮคยอมมาพบที่หอนางโลม ชองโฮคยอมมารอเขาก่อนแล้ว "มาแล้วหรือ ว่าไง
นัดข้ามานี่มีธุระอะไร" "ดูเหมือนท่านไม่ได้ฉลาดเหมือนที่ข้าคิดไว้เลย" "อะไรนะ" "
วันก่อนข้าได้พูดอย่างชัดเจนแล้วว่า นี่คือความปรานีครั้งสุดท้ายจากองค์ชายของเรา
ถ้าไม่อยากตายก็จงเจียมตัวไว้บ้าง แต่แล้ว ไม่ทันไรท่านก็กล้ามีลูกเล่นอีก"
"ข้าไม่เข้าใจที่พูด ข้าน่ะหรือมีลูกเล่น โทษที ข้าไม่เข้าใจจริงๆ
เจ้าจะพูดอะไรกันแน่" " วันก่อนราชเลขาไปตำหนักใหญ่กลางดึก เข้าเฝ้าในเวลานั้น
มีสาเหตุเพียงข้อเดียวเท่านั้น คือฝ่าบาททรงมีพระบัญชาอย่างเร่งด่วน จริงหรือเปล่า
แต่ว่า จนวันนี้ยังไม่รู้ที่มาที่ไปของราชโองการนั่น
ส่วนราชเลขาก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้เข้าเฝ้า ถึงขั้นนี้แล้ว
ท่านยังไม่เข้าใจสิ่งที่ข้าพูดอีกหรือ" "ไม่ ข้าเพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้
แต่ว่าเจ้ามาหาผิดคนแล้ว เสียใจด้วย นั่นไม่ใช่ความคิดของข้าเลย
พูดไปเจ้าอาจไม่เชื่อ คนที่ถูกราชโองการเล่นงานปางตาย คือข้าต่างหาก
ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แต่เหมือนตัวเองใกล้จะหมดลมเต็มที"
"ข้ายิ่งไม่เข้าใจความหมายของท่าน" "อยากรู้มั้ยว่า ราชโองการที่ออกมาคืออะไร
ถ้าอยากรู้ ข้าก็จะบอก เพราะไหนๆ ช้าเร็วเจ้าก็ต้องรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว"
พอฮงกุกยองรู้เรื่องคิมคีจูจากเทซูมาที่หอนางโลมก็ตกใจไม่น้อย
"เจ้าบอกว่าเห็นคิมคีจูหรือ" "ใช่ครับไต้เท้า ข้าขยี้ตาแทบตายก็เห็นเป็นเขา"
"นี่มัน เกิดอะไรขึ้นครับนี่ คนที่ถูกเนรเทศไปแล้ว จู่ๆ
มาฉุยฉายอยู่ในเมืองหลวงได้ไง" ฮงกุกยองรีบรายลานองค์ชายลีซาน "ท่านบอกว่าไงนะ
คิมคีจูกลับมาเมืองหลวงอีกครั้งงั้นหรือ" "พวกเทซูเห็นกับตาจึงมารายงานพ่ะย่ะค่ะ
เขาบอกว่า เห็นคนที่ถูกเนรเทศแล้ว กลับมาอยู่เมืองหลวงอีก" "หา
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ หรือว่า เขาหนีออกจากเขตเนรเทศหรือยังไง" "ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ
แต่เป็นราชโองการ" "อะไรนะ" "เพราะราชโองการจากฝ่าบาท
ทรงอภัยโทษให้คิมคีจูพ่ะย่ะค่ะ"
องค์ชายลีซานและทุกคนพากันคิดหนักว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร "เป็นราชโองการพ่ะย่ะค่ะ
เพราะฝ่าบาท ทรงอภัยโทษให้คิมคีจูถึงได้กลับมา"
องค์ชายลีซานรีบเสด็จไปเข้าเฝ้าพระเจ้ายองโจ " เจ้ามาก็ดีแล้ว
ข้ามีเรื่องบางอย่างจะปรึกษาด้วยพอดี เกี่ยวกับการเปิดตลาดค้าขายที่ "ตงแน"
เดิมทีให้ซื้อขายแลกเปลี่ยนเดือนละ 6 วัน แต่เพราะมีการลักลอบซื้อขาย
เลยมาขอเพิ่มเป็นสิบวัน เจ้าเห็นว่าควรทำไงดี ทำไมไม่พูดล่ะ" "ฝ่าบาท" "ว่าไง
มีอะไรก็พูดสิ" "เพราะอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ ทำไมถึงทรงมีราชโองการออกมาอย่างงั้น"
"ราชโองการหรือ" " ใต้เท้าคิมคีจู
เป็นนักโทษอาญาที่คิดปองร้ายหม่อมฉันและเชื้อพระวงศ์ทั้งหลาย
แล้วทำไมฝ่าบาททรงอภัยโทษ ให้เขากลับมาง่ายๆ ล่ะพ่ะย่ะค่ะ" "ข้าหรืออภัยโทษให้เขา?
เจ้าเอาอะไรมาพูดน่ะ" "ฝ่าบาท" องค์ชายลีซานอึ้งไปนิด "พูดมาสิ ข้ากำลังถามเจ้าอยู่
ข้าอภัยโทษให้คิมคีจู พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง" พระ
เจ้ายองโจให้มหาดเล็กไปเชิญราชเลขามาพบด่วน และต่อว่าว่าไม่เคยให้มีคำสั่งเรื่องนี้
แต่ราชเลขายืนยัน โดยให้มหาดเล็กช่วยยืนยัน พระเจ้ายองโจทรงอึ้งไปเอง
พระเจ้ายองโจทรงคิด ใคร่ครวญถึงเรื่องราวต่างๆ ที่บางครั้งถูกเตือนว่าทำไปแล้ว
ก็ทรงมีรับสั่งให้หมอหลวงมาตรวจดูอาการ พระองค์เริ่มรู้สึกว่าพระองค์ความจำเสื่อม
หมอหลวงไม่กล้าทูล พอดีพระมเหสีจองซุนเข้ามา และสั่งให้หมอหลวงออกไปทันที
"ไม่ได้ยินหรือไง ข้าบอกให้ออกไปเดี๋ยวนี้" พระมเหสีจองซุนสั่ง
หมอหลวงยังอึกอักอยู่ พระเจ้ายองโจตรัสถาม "เจ้าจะทำอะไรอีก
ข้าเคยสั่งว่าอย่ามาให้เห็นหน้าอีกไง" "หม่อมฉัน
มีเรื่องจำเป็นต้องมาทูลให้ทรงทราบเพคะ เพราะฉะนั้นฝ่าบาท" "หุบปาก
ข้าไม่อยากฟังเจ้า" "ฝ่าบาท" "ไม่ได้ยินหรือไง
จะให้ข้าเรียกทหารมาลากตัวออกไปใช่ไหม" " หม่อมฉัน จะมาให้คำตอบฝ่าบาทเพคะ
เรื่องที่หมอหลวงไม่กล้าพูด หม่อมฉันจะมาทูลให้ทราบว่าฝ่าบาททรงเป็นอะไร
เช่นนี้แล้ว ยังจะทรงขับไล่หม่อมฉันอีกหรือเพคะ"

ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน จบ 36

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn

Readlakorn เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ช่อง3,5,7,นิยาย ไทยรัฐ,
ละครเกาหลี,ละครไต้หวัน (Series), ลิ้งค์(Links) ดูละคร Youtube
เรื่องย่อละคร
ลีซานจอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน สุสานภูเตศวร สาปภูษา มนต์รักข้าวต้มมัด เมียหลวง
เพลงรักข้ามภพ สายสืบดิลิเวอรี่ เทพบุตรนักบาส ปอบผีฟ้า ตะวันชิงดวง

Readlakorn

Related Posts



5 comments:

Anonymous said...

ขอบคุณค่ะ คุณยายติดตามอ่านทุกตอนเลยค่ะ จากคุณยาย2474

Anonymous said...

ขอบคุณมากๆค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน สนุกมากๆค่ะ

Anonymous said...

ขอบคุณนะคะ ติดตามอ่านทุกตอนเลยเพราะว่าไม่ค่อยมีเวลาดูชอบละครเรื่องนี่มาก ๆ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับน้ำใจที่มาเขียนให้อ่านทุกตอนเลย

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะครับ

Anonymous said...

ขอบคุณค่ะ อยากอ่านตอนใหม่เร็วๆจัง

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal