Monday, December 15, 2008

ใจร้าว เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ -ใจร้าว(25)อวสาน

ใจร้าว 25 (อวสาน)

กรวิกเดินไปมาอย่างกระวนกระวายหน้าห้อง
ในขณะที่เมลานีนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่โซฟา ทุกคนต่างรอฟังอาการของช่อลดา
สักครู่ลักษณ์เปิดประตูห้องออกมา บอกว่าตอนนี้ช่อลดาปลอดภัยแล้ว แต่ถ้ายังต้องเข้าๆ
ออกๆ โรงพยาบาลอยู่อย่างนี้ ร่างกายจะแย่ ภูมิต้านทานก็จะต่ำลง การมีลูก
จะทำให้ร่างกายของช่อลดาแย่ลงเรื่อยๆ เพราะให้ยาที่เคยให้ ก็ให้ไม่ได้
กรวิกต้องตัดสินใจแล้วว่าจะเก็บลูกไว้หรือเปล่า
กรวิกรู้สึกเย็นวาบตั้งแต่หัวจรดเท้า หัวใจแทบจะหยุดเต้นลงในทันที
ช่อลดายกมือปิดหน้าร้องไห้โฮ หัวใจคนเป็นแม่แทบแตกสลาย
เมื่อรู้ว่าเธอจะต้องเอาลูกออก แต่เป็นตายยังไง ช่อลดาก็ไม่มีวันให้เอาลูกของเธอออก



รีบให้สัญญากับลักษณ์ว่าต่อไปนี้ เธอจะดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด
กรวิกเองก็รีบให้สัญญาเช่นกัน และยืนยันว่าจะเก็บลูกไว้
เมลานีต้องเอามือปิดปากไม่ให้ตัวเองร้องไห้โฮกับความรักของกรวิกและช่อลดา
ลักษณ์แม้จะหนักใจ แต่ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ แม่บ้านของกรวิกมาขอลาออกไปกะทันหัน
ช่อลดาเองก็ไม่สามารถทำงานบ้านได้ไหว ภัทรที่ลาออกมาจากบริษัทของดวงแก้วแล้ว
เลยมาขออาสาเป็นแม่บ้าน ช่วยกรวิกดูแลช่อลดา เป็นการไถ่บาป โดยไม่เอาค่าจ้าง
กรวิกอนุญาต แต่ยืนยันว่ายังไงเขาก็ต้องให้เงินเดือนภัทร ภัทรยินดีอย่างยิ่ง
กรวิกดูแลช่อลดาและลูกในท้องอย่างดี จนย่างเข้าอายุครรภ์ 6 เดือน
กรวิกถูกดวงแก้วเรียกตัวเข้าบริษัท ให้มารับทราบว่าเรตติ้งละครของกรวิกเวลานี้
ต่ำกว่าทุกเรื่องที่เคยเล่นมา เทปก็ขายไม่ได้ และที่สำคัญ ละครใหม่อีก 3
เรื่องที่กรวิกต้องเป็นพระเอก ก็โดนคนอื่นเสียบแทน
รวมถึงหนังที่เป็นการร่วมทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่นก็โดนแคนเซิ้ลคิวไปแล้วด้วย
ดวงแก้วบอกว่ากรวิกต้องเรียกคะแนนนิยมกลับคืนมาอีกครั้ง ด้วยการทำตามที่เธอบอก
กรวิกถามว่าทำอะไร "สร้างสถานการณ์ที่ทำให้คนดูสงสารเช่น ขับรถตกคลอง
โดนรถชนจนต้องเข้าโรงพยาบาล โดนขโมยขึ้นบ้าน
หรือไม่ก็ทำอะไรให้คนฮือฮาไปเลยด้วยการถ่ายนู้ดฉบับลับเฉพาะกิจสักเล่ม"
เจษฎาตอบแทนดวงแก้ว กรวิกหันขวับ "ปัญญาอ่อน!
ทำไมพี่ดวงถึงยอมให้คนไม่มีสมองพรรค์นี้เข้ามานั่งฟัง
เรื่องที่มันควรจะเป็นความลับระหว่างเราสองคน" ดวงแก้วยืดตัวบอก
"เจษเพิ่งเข้ามาเป็นหุ้นส่วนของพี่" "มิน่าล่ะ เมื่อก่อนพี่ดวงถึงมีกึ๋นมากกว่านี้"
กรวิกแดกดัน ดวงแก้วทำหูทวนลม "จะอะไรก็แล้วแต่ วิกต้องทำตามแผนที่บริษัทวางไว้"
กรวิกลุกขึ้น "ตอนนี้เวลาของผมมีค่าทุกวินาที
ผมจะไม่มีวันเอาเวลาที่มีค่าของผมไปสร้างเรื่องปัญญาอ่อนหลอกลวงชาวบ้านเด็ดขาด!"
ดวงแก้วเอ็ดตะโร "เธอกล้าขึ้นเสียงกล้าขัดคำสั่งพี่เหรอ
อย่าลืมสิว่าใครเป็นคนปั้นเธอขึ้นมา
ที่เธอผงาดขึ้นเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้ทุกวันนี้เพราะใคร" "ผมเคารพพี่ดวง
แต่ผมรังเกียจคนที่เขียนอะไรด้วยมือแล้วลบด้วยเท้า" "กรวิก!
ตอนนี้เธอก็ไม่ต่างจากดาวที่ตกจากฟ้าลงมาจมโคลนแล้วเธอยังกล้าต่อปากต่อคำพี่อีกเหรอ
ดี ในเมื่อเธอดื้อด้านกับพี่ พี่ก็จะใช้ไม้แข็งกับเธอ"
ดวงแก้วโยนหนังสือสัญญาใส่หน้า "หนังสือสัญญา
เอาไปอ่านดูให้ดีว่าเธอต้องทำอะไรตามเงื่อนไขของบริษัทบ้าง"
กรวิกหยิบหนังสือสัญญาขึ้นมาดู แล้วบรรจงฉีกต่อหน้าดวงแก้วและเจษฎา
"ต่อไปนี้เราไม่มีพันธะต่อกัน จะให้ทนายตามผมไปเสียค่าปรับที่ไหนเมื่อไหร่ก็เชิญ
ขอบคุณนะครับที่เรียกผมมาปลดแอกวันนี้ ผมเพิ่งรู้ว่าคำว่า "อิสรภาพ"
มันมีความหมายยิ่งใหญ่แค่ไหนก็เดี๋ยวนี้เอง" กรวิกส่งยิ้มให้ทั้งคู่
ก่อนจะเดินออกไป ดวงแก้วโกรธจนตัวสั่น ในขณะที่เจษฎายืนกัดฟันจนกรามปูด ช่อลดา
ลักษณ์ เมลานี
ภัทรนั่งประจำที่ที่โต๊ะกินข้าวซึ่งเต็มไปด้วยอาหารสีสันหน้าตาน่ารับประทาน
ทุกคนมองหน้ากันไปมาอย่างแปลกใจ
สักครู่กรวิกเดินเข้ามาพร้อมแจกันดอกไม้ซึ่งเพิ่งจัดเสร็จ
ชายหนุ่มวางแจกันใบใหญ่นั้นลงที่โต๊ะข้างๆ แล้วเดินไปเปิดเพลงคลาสลิค
ก่อนจะหันมาเห็นว่าทุกคนพากันนั่งมองเขาโดยที่ยังไม่มีใครกินอะไร
ภัทรสงสัยว่าทำไมวันนี้กรวิกอารมณ์ดี กรวิกยิ้มบอกว่าวันนี้เขาเป็นอิสระแล้ว
เพราะได้ออกจากวิชชั่น พอสสิเบิ้ลเรียบร้อยแล้ว
และฉีกสัญญาเขวี้ยงใส่หน้าทั้งดวงแก้วและเจษฎาด้วย ภัทรเฮลั่น
นึกอยากเห็นช็อตเด็ดนั้นด้วยตาตัวเอง ทุกคนต่างแสดงความยินดีกับอิสระที่กรวิกได้รับ
กรวิกกุลีกุจอตักกับข้าวให้ช่อลดา เมลานีมองภาพทั้งคู่ ยิ้มปลื้มไปกับช่อลดา
ลักษณ์เหล่มองเมลานี ลักษณ์ขับรถพาเมลานีมาส่งที่บ้าน แต่ระหว่างทาง
เมลานีเงียบมาตลอด ลักษณ์สงสัย เลยตัดสินใจจอดรถถามว่ามีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า
เมลานีบอก "บางครั้งฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าฉันเกิดมาเพื่ออะไร
วิกเขามีจุดมุ่งหมายในชีวิต มีเอยให้ดูแล ฉันเองก็อยากจะดูแลใครสักคนเหมือนกัน"
"ผมดูแลคนอื่นมาทั้งชีวิต บางครั้งผมก็อยากมีใครสักคนมาดูแล" เมลานีหันไปมองลักษณ์
ลักษณ์จ้องลึกเข้าไปในดวงตาหญิงสาว "เราอาจจะต่างกันสุดขั้ว
แต่กลับมีความต้องการที่ตรงกัน บางครั้งคนเราอุตส่าห์ตามหาใครสักคนมาทั้งชีวิต
แต่กลับพบว่าคนที่เราวิ่งตามหากลับเป็นใครสักคนที่อยู่ใกล้ๆ แค่นั่งถัดไปแค่นี้เอง
คุณว่ามั้ย" เมลานีเขิน ไม่ยอมหันมาสบตาชายหนุ่ม แต่พูดแก้เก้อ "กลับกันเถอะค่ะ"
"แล้วใครสักคนที่นั่งถัดจากผมก็มีแค่คุณคนเดียว เมลานี"
เมลานีหันมามองหน้าลักษณ์ใจเต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าตื่นเต้นอะไรนักหนา
ลักษณ์ยิ้มให้เมลานี เป็นรอยยิ้มที่เปิดเผย
จริงใจและมั่นคง

0000000000000000000000000000

กรวิกพาช่อลดามาตรวจครรภ์ตามปกติ
แต่แล้วก็ต้องได้รับข่าวจากลักษณ์ว่าตอนนี้ ช่อลดามีอาการครรภ์เป็นพิษ ความดันสูง
โปรตีนในปัสสาวะสูงเข้าขั้นอันตราย ต้องทำการผ่าตัดคลอดเด็กเดี๋ยวนี้
กรวิกตกใจว่าลูกเพิ่งจะแค่ 6 เดือนกว่าเท่านั้น แต่ลักษณ์บอกว่า ถ้าปล่อยทิ้งไว้
ช่อลดาก็จะชัก แล้วเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงตามส่วนต่างๆ ในร่างกายจะหดตัว
สมองจะขาดเลือด และช่อลดาก็ไม่รอดแน่ ยังไงต้องช่วยชีวิตแม่เอาไว้ก่อน ส่วนลูก
ลักษณ์บอกว่าอายุครรภ์น้อยขนาดนี้ ปอดและหลอดลมอาจจะยังไม่แข็งแรง อาจจะไม่รอด
กรวิกเหมือนถูกกระชากหัวใจออกจากอก
เขาต้องเผชิญกับวินาทีแห่งความเป็นและความตายของลูกและเมียในเวลาเดียวกันหรือนี่
แต่แล้วเหมือนสวรรค์บันดาล ช่อลดาคลอดลูกสาวออกมาให้กรวิกได้สำเร็จ ลักษณ์พากรวิก
เมลานี และภัทรไปดูลูกที่นอนในตู้อบ กรวิกมองลูกน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใจ
ลักษณ์บอก "ลูกคุณหนัก 2,000 กรัม ถือว่าตัวโตมากถ้าเทียบกับอายุครรภ์แค่ 6
เดือนกว่าๆ เป็นเด็กผู้หญิงที่เข้มแข็งที่พระเจ้าส่งมาเพื่อเป็นของขวัญให้คุณกับเอย
และพวกเราทุกคนจริงๆ" กรวิกรีบถาม "แล้วเมื่อไหร่ลูกผมถึงจะออกจากตู้ได้ครับ"
ลักษณ์บอก "ต้องรอให้แน่ใจว่าปอดแข็งแรงและปรับอุณหภูมิร่างกายได้ดีแล้ว แล้ว
ก็ต้องเช็คเลือดและรอดูว่าเด็กมีภาวะตัวเหลืองต้องส่องไฟช่วยรึเปล่า"
กรวิกพูดกับลูก "ลูกพ่อวิกแข็งแรงออก ไม่เป็นอะไรมากอยู่แล้วเนอะ
ตอนนี้นอนรออยู่ที่นี่ก่อนนะจ๊ะคนดี เดี๋ยวพ่อวิกจะไปพาแม่เอยมาเยี่ยมนะจ๊ะ"
กรวิกพูดเล่นกับลูกอารมณ์ดีสุดๆ
โดยไม่ทันสังเกตสีหน้าลักษณ์เหมือนมีอะไรบางอย่างในใจ
กรวิกเอื้อมไปจับมือช่อลดาซึ่งนอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียง กรวิกจูบมือหญิงสาว
"น้องเอย ลูกของเราปลอดภัยแล้วนะจ๊ะ
พี่วิกขอบคุณน้องเอยมากนะที่มีลูกที่น่ารักให้พี่วิก พี่วิกไปดูลูกมาแล้วนะ
ลูกเราเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักมาก พี่วิกอยากให้น้องเอยฟื้นเร็วๆ จัง
จะได้พาน้องเอยไปดูลูกด้วยกัน" "นี่ก็ออกมาจากห้องผ่าตัดตั้งหลายชั่วโมงแล้วนะคะหมอ
ทำไมเอยยังไม่ฟื้นซะทีล่ะ ดาราคนอื่นที่เขาคลอดลูก ออกจากห้องคลอดก็พูดกันจ้อยๆ
ไม่เห็นมีใครนอนซมอย่างนี้เลย จริงมั้ยน้องเมนี่" ภัทรหันไปถามเมลานี "นั่นสิ
มันไม่ผิดปกติไปหน่อยรึคะ"
ลักษณ์นิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะตัดสินใจพูดว่าเอยจะยังหลับอยู่อย่างนี้ ทุกคนอึ้ง
ลักษณ์พูดต่อ "หลังการผ่าตัดทำคลอด เอยเสียเลือดมาก เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
สมองขาดออกซิเจน ทำให้เอยไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อแรงกระตุ้นใดใด ทั้งๆ
ที่สัญญาณชีพ ผมหมายถึงการเต้นของหัวใจและความดันยังเป็นปกติ" กรวิกตะลึงอึ้ง
พูดอะไรไม่ออก เมลานีบอกให้ลักษณ์อธิบายให้ชัดกว่านี้ "พูดง่ายๆ ก็คือ
เอยจะมีสภาพเหมือนผักที่ขยับหรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย แม้แต่จะลืมตา
เอยก็ไม่สามารถบังคับกล้ามเนื้อได้
ซึ่งอาการพวกนี้เป็นผลมาจากการเป็นลิวคีเมียและอาการครรภ์เป็นพิษร่วมกัน"
สิ้นเสียงลักษณ์ กรวิก เมลานี ภัทรอึ้ง ทั้งหมดจมอยู่ในความเงียบชั่วอึดใจ
แล้วเสียงคร่ำครวญหวนไห้ของกรวิกก็ดังขึ้นในท่ามกลางความเงียบงันนั้น "ทำไมน้องเอย
ทำไมน้องเอยถึงโชคร้ายอย่างนี้ เรามีลูกที่น่ารัก น้องเอยเองก็ปลอดภัยแล้ว
แต่ทำไมต้องปลอดภัยเพื่อมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ทำไมคนที่โชคร้ายถึงไม่เป็นพี่วิก
ทำไมต้องเป็นน้องเอยซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำไม"
กรวิกลูบมือช่อลดาแล้วเอาแนบหน้าอย่างรักและสงสารหญิงสาวอย่างที่สุด
ทุกคนมองกรวิกอย่างเห็นใจ เมลานีและภัทรอดน้ำตาคลอ ใจหายไปกับชายหนุ่มไม่ได้
ช่อลดายังนอนนิ่ง ไม่รับรู้ใดใด เมื่อช่อลดายังไม่สามารถทำหน้าที่แม่ได้
กรวิกเลยไปเรียนรู้วิธีการอุ้มลูก เลี้ยงลูกแทนจนคล่อง
แล้วกรวิกก็อุ้มลูกเข้ามาหาช่อลดาที่ยังนอนนิ่งอยู่ที่เตียง
กรวิกวางหนูน้อยลงแนบอกช่อลดา ทารกน้อยลืมตาขึ้นมายิ้ม
เหมือนได้ซึมซับไออุ่นจากผู้เป็นแม่ "พี่วิกจะตั้งชื่อลูกว่า "ของขวัญ" นะน้องเอย
อายุแกน้อยนิดแค่นี้ ถ้าเป็นเด็กอื่นก็คงไม่รอดแล้ว
แต่ลูกเป็นเด็กที่เข้มแข็งอดทนเหมือนแม่ แกถึงรอดมาได้
แกเป็นเหมือนของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าประทานให้เราสองคน
พี่วิกอยากให้น้องเอยลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าลูกของเราจริงๆ" กรวิกหันมาพูดเล่นกับลูก
จึงไม่เห็นว่า ช่อลดาค่อยๆขยับเปลือกตา "เนอะลูกเนอะ
ลูกจะได้เห็นคุณแม่ที่สวยที่สุดใจดีที่สุดแล้วก็อ่อนหวานที่สุดในโลก
ส่วนแม่เอยก็จะได้เห็น "ของขวัญ"
ที่น่ารักที่สุดเข้มแข็งที่สุดแล้วก็ยิ้มเก่งที่สุดในโลก จริงมั้ยลูก โอ๋ จริงเหรอ
จ้ะ แม่เอยสวยที่สุดในโลกสิจ๊ะ นี่ไง" กรวิกขยับลูกให้มองหน้าช่อลดา
ชายหนุ่มกวาดตามองตามลูก แล้วก็ต้องช็อกซีนีมาเมื่อเห็น ช่อลดาจ้องมาที่เขา
กรวิกอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะกระโดดโลดเต้นไปมาแล้วแหกปากตะโกนลั่น ดีใจสุดๆ
ร้องลั่นว่าช่อลดาฟื้นแล้ว แต่แล้วกรวิกก็ต้องยิ้มค้าง
เพราะช่อลดามองมาที่เขากับลูก แต่เป็นการมองที่เคว้งคว้างไร้ความหมาย
เป็นการมองที่เหมือนเด็กทารกแรกเกิดที่มองทุกอย่างเป็นของแปลกใหม่
ไร้ซึ่งความทรงจำใดใด กรวิกพูดไม่ออก ยืนกอดลูกแน่น มือไม้สั่น ใจสลาย
เจ็บร้าวไปทั้งใจจนต้องกัดฟันกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา0000000000000000000000
เจษฎามาหาวุฒิที่คอนโดอย่างอารมณ์ดี แต่แล้วเท้าก็เกิดเหยียบอะไรบางอย่างที่พื้น
เจษฎาก้มลงมองเท้าตัวเองที่เหยียบรองเท้าส้นสูงแหลมปี๊ดของใครสักคนซึ่งถอดอยู่คู่กับรองเท้าผ้าใบผู้ชายอีกคู่
เจษฎาเลือดแล่นขึ้นหน้า ชายหนุ่มโกรธจนหนวดกระดิก ชายหนุ่มเดินเข้าไปด้านในห้อง
เห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังฟัดกันอย่างเมามันบนเตียงนอน เจษฎาร้องลั่น "ทอปัด!"
ทอปัดซึ่งกำลังเคลิ้มกับรสสวาทของชายหนุ่มที่นัวเนียอยู่บนตัวเธอ สะดุ้งตกใจสติแตก
"พี่เจษ!" ชายหนุ่มที่ผงะหันไปมองเจษฎา แล้วตกใจตาเหลือกคือวุฒิ
เจษฎากระโดดขึ้นไปกระชากวุฒิออกมาจากทอปัด แล้วผลักชายหนุ่มไปติดกำแพง
ทอปัดกระโดดมาร้องห้ามเจษฎา "อย่าค่ะ พี่เจษ ปัดผิดไปแล้ว ปัดยอมรับผิด
พี่เจษอย่าทำร้ายวุฒิเลยนะคะ" เจษฎาหันขวับ "เรื่องอะไรฉันจะทำร้ายคนที่ฉันรัก
แกนั่นแหละที่ต้องเป็นฝ่ายเจ็บตัว" เจษฎาตบทอปัดซ้ายขวาจนหน้าหันเลือดกบปาก
"เผลอหน่อยเดียว ตามมาแบท่าให้แฟนฉันถึงที่ ทำไมถึงได้ร่านอย่างนี้ หา!" ทอปัดงง
"พี่เจษ นี่มันอะไรกัน" "วุฒิก็เหมือนกัน
อยู่กับพี่มันมีความสุขไม่พอเหรอถึงต้องไปหาเศษหาเลยกับของเน่าๆพรรค์นี้"
วุฒิเอาตัวรอด "ผม ผมไม่ได้คิดจริงจังอะไร แค่นึกสนุกชั่วครั้งชั่วคราวแค่นั้น"
"แกพูดอย่างนี้ได้ยังไง ไหนแกบอกว่าแกปิ๊งฉันตั้งแต่เห็นกันครั้งแรกไง ไอ้ชาติชั่ว"
ทอปัดด่า "ปากดีนักนะมึง กล้าด่าแฟนกูเหรอ" เจษฎาแบคแฮนด์ใส่ทอปัดจนเซไปกองกับพื้น
วุฒิรีบสำทับ "เขาตามผมมาที่นี่เองนะครับพี่เจษ ผมไล่เขากลับ เขาก็ไม่กลับ"
"ไอ้ผู้ชายเฮงซวย โกหกเอาตัวรอดซึ่งๆหน้า นี่หรือคนที่จะก้าวขึ้นเป็น ซุปเปอร์สตาร์
หน้าตัวเมียชัดๆ อุบาทว์ วิปริตด้วยกันทั้งคู่" ทอปัดตะโกนด่า
เจษฎาตรงเข้าไปขย้ำคอทอปัด "มึงนึกว่ามึงเป็นใครถึงกล้ามาด่ากู
อยากได้นักใช่มั้ยผู้ชาย เดี๋ยวกูจัดให้ รับรอง จะทำให้มึงหายอยากไปนานเลยล่ะ"
ทอปัดจะคลานหนี เจษฎาตามไปจิกหัว
หญิงสาวผวากลัวจนตัวสั่นก่อนจะปลิวตามแรงกระชากของชายหนุ่มไป
ทอปัดลากสังขารอันบอบช้ำ มาหากรวิกที่คอนโด
ที่เวลานี้กรวิกพาช่อลดามาอยู่ที่คอนโดแล้ว กรวิกตกใจ
ไม่คิดว่าเจษฎาจะเลวได้ขนาดนี้ แนะให้ทอปัดไปแจ้งความ
เพื่อเจษฎาจะได้มาทำร้ายไม่ได้อีก ทอปัดร่ำไห้ บอกว่าเจษฎาขู่ว่าถ้าเธอแจ้งความ
จะเอาวิดีโอคลิบที่แอบถ่ายเธอไว้ มาแพร่ในเน็ต
และจะเอาภาพนิ่งขึ้นปกหนังสือประจานด้วย ทอปัดร้องไห้โฮ โทษตัวเองที่ไปเชื่อคนเลว
กรวิกถามว่าจะเอายังไงต่อไป ทอปัดบอกว่าตอนนี้คิดอะไรไม่ออก อยากจะอยู่นิ่งๆ สักพัก
ทอปัดกราบลงที่ตักกรวิก "ปัดขอโทษนะคะพี่วิก ปัดผิดไปแล้ว
ถ้าปัดเชื่อพี่วิกตั้งแต่แรก เรื่องมันก็คงไม่เป็นอย่างนี้"
กรวิกเอามือปาดน้ำตาให้น้อง "พี่อยากให้ปัดมองโลกในแง่ดี ในความเลวร้ายที่ปัดเจอ
มันก็ยังมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่ อย่างน้อยมันก็ทำให้ปัดโตขึ้น
แล้วก็แยกแยะได้ว่าอะไรผิดอะไรถูกเพราะฉะนั้นปัดต้องจำทุกอย่างไว้เป็นบทเรียน
นั่นจะทำให้ปัดไม่ตัดสินใจทำอะไรผิดพลาดอีก เข้าใจมั้ย"ทอปัดพยักหน้าทั้งน้ำตา
กรวิกสอนต่อ "ที่สำคัญไม่ว่าปัดจะทำอะไรต่อจากนี้ไป
ปัดจะต้องยืนบนลำแข้งของตัวเองให้ได้
ไม่มีใครอยากเป็นสะพานให้ใครโดยไม่หวังผลตอบแทน ที่สำคัญ อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ
เพราะยังไงเขาก็หายใจแทนเราไม่ได้ตลอดชีวิต
พี่จะเป็นกำลังใจและรอวันที่ปัดจะประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยตัวเองนะ" "ค่ะ พี่วิก
ปัดจะพยายามนะคะ ปัดจะพยายามค่ะ" กรวิกลูบหัวทอปัดยิ้มเอ็นดูฉันท์น้องสาว
ในขณะที่ฝ่ายหญิงก็มองพี่ชายที่แสนดีน้ำตาคลอ

00000000000000000000

กรวิกพาช่อลดา
ของขวัญ และภัทร มาที่เกาะ และคอยดูแลทั้งแม่ทั้งลูก จนของขวัญอายุได้ 7 เดือนแล้ว
กรวิกดูแลเอาใจใส่ช่อลดาอย่างดี ทั้งอาบน้ำ สระผม ตัดเล็บให้
เวลาที่ทำอะไรให้ช่อลดา กรวิกก็จะฮัมเพลงที่เขาร้องตอนออกเทปให้ช่อลดาฟังไปพลางๆ
ด้วยตลอด กระทั่งวันที่ของขวัญอายุได้ 1 ขวบครึ่ง
กรวิกแบกช่อลดาใส่หลังเดินเล่นที่ชายหาด ชายหนุ่มยังร้องเพลงต่อเนื่อง
"ใจของฉันมันเป็นของเธอ คนเดียวทั้งใจ จะรอเธอรักเธอจนตายใจเอย
ใจของฉันมันเป็นของเธอ ไม่ว่านานเท่าไร และมันจะเป็นของเธอตลอดไป"
ระหว่างที่กรวิกตะเบ็งเสียงแข่งกับเสียงคลื่น
ช่อลดาซึ่งซบอยู่ที่ไหล่ชายหนุ่มเริ่มค่อยๆ พลิกได้
เสียงเพลงของกรวิกขาดหายไปทันทีที่ชายหนุ่มรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวนั้น
ชายหนุ่มหยุดเดินแขนช่อลดาซึ่งปล่อยทิ้งแนบลำตัวทั้งสองข้างเริ่มขยับเขยื้อน
หญิงสาวค่อยๆ ใช้มือไต่มาตามแขนกรวิก แล้วเกาะที่ต้นแขนของชายหนุ่มทั้งสองข้าง
กรวิกขนลุกซู่ วิ่งกระโดดโลดเต้นไปมาแล้วตะโกนเรียกภัทรเสียงลั่นหาด ทั้งๆ
ที่ช่อลดายังคาอยู่บนหลัง ภัทรเดินมาถามว่ามีอะไร กรวิกบอกว่าช่อลดาขยับตัวได้แล้ว
ภัทรมองดูก็เห็นเป็นจริงว่าช่อลดาจับแขนกรวิกแน่น
ทั้งคู่กระโดดโลดเต้นดีใจใหญ่อยู่ที่ชายหาดนั่นเอง ถึงวันคริสมาสต์อีฟ
ลักษณ์และเมลานีมาเยี่ยมกรวิกและช่อลดาที่เกาะด้วย
ทุกคนที่ได้รู้ข่าวว่าช่อลดาร่างกายสมบูรณ์เกือบ 80% แล้ว ก็ดีใจใหญ่
ลักษณ์กับเมลานีถือโอกาสนี้บอกข่าวดีกับทุกคนด้วย เมลานียิ้มเขินบอกกรวิก
"คืออาทิตย์หน้า จะมีงานประกาศรางวัลเอเชียนทีวีอะวอร์ด ปีนี้จัดที่กรุงเทพฯ
แล้วละครเรื่องสุดท้ายที่เราเล่นด้วยกันเมื่อต้นปีที่แล้วก็ได้เข้าชิงหลายรางวัล
รวมทั้งรางวัลดารานำชาย/หญิง เมนี่อยากให้วิกไปด้วยกันน่ะ"
ช่อลดานั่งมองของขวัญซึ่งหยิบกังหันอันเล็กๆ ขึ้นมาเป่า
ภัทรกระทุ้งให้เมลานีบอกข่าวดีอีกอย่าง เมลานียิ่งเขินหนัก หันไปมองลักษณ์
ลักษณ์พูดแทน "เราสองคนจะหมั้นแล้วก็แต่งงานกันต้นปีหน้าครับ"
ของขวัญหยิบกังหันลมอันเล็กลุกขึ้น แล้วเดินเตาะแตะออกไป โดยที่คนอื่นๆ
ไม่ทันเห็นเพราะมัวแต่แสดงความยินดีกับเมนี่และลักษณ์ ช่อลดาหันไปมองของขวัญ
กรวิกเข้าไปแสดงความยินดีกับลักษณ์และเมลานี "ยินดีด้วยนะครับ
ในที่สุดคุณก็เจอผู้หญิงที่ดีและเหมาะสมกับคุณที่สุดจนได้"
"ภัทรก็เลยอกหักไปตามระเบียบ ดีนะที่เป็นน้องเมนี่
ถ้าเป็นผู้หญิงอื่นล่ะก็ต้องข้ามศพภัทรไปก่อน" ทุกคนหัวเราะขำกับท่าสะบัดงอนของภัทร
กรวิกยิ้มบอก
"ผมจะพาน้องเอยกับของขวัญไปแสดงความยินดีกับคุณและเมนี่ในวันงานแน่นอนครับ"
กรวิกหันมามองลูกเมีย แล้วรอยยิ้มก็เจื่อนหายไปทันที
เพราะไม่พบทั้งลูกและเมียอยู่ตรงนั้นแล้ว ทุกคนตกใจ
ที่พบว่าช่อลดาและลูกหายไปจากบ้านจริงๆ กรวิกร้องตะโกนเรียกของขวัญ และช่อลดา
พลันทุกคนก็เห็น ของขวัญวิ่งถือกังหันอันเล็ก ล้อลมอยู่ชายหาด โดยมีช่อลดาเดินตาม
ทุกคนวิ่งเข้าไปหาทั้งคู่ ช่อลดาเดินตามของขวัญด้วยความเป็นห่วง
แม้จำไม่ได้ว่าเป็นลูก แต่รู้ว่าเป็นห่วง
หนูน้อยวิ่งมองกังหันในเมื่ออย่างมีความสุข แล้วจู่ๆ ก็ล้มสะดุดหน้าคว่ำไปกับพื้น
สัญชาตญาณความเป็นแม่ทำให้ช่อลดาวิ่งไปตะครุบตัวลูกไว้
แล้วอุ้มขึ้นมากอดแนบอกเพราะหนูน้อยร้องไห้จ้า ทุกคนตามมาดูเหตุการณ์ใกล้ๆ
อดซาบซึ้งไม่ได้กับภาพของขวัญน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดแม่ ช่อลดาอุ้มลูกเดินไปมา
เหมือนกับแม่ที่กำลังปลอบโยนลูกให้หยุดร้อง แล้วในที่สุด
ของขวัญน้อยก็หยุดร้องไห้ได้จริงๆ ทุกคนอึ้งไป เมื่อเห็นว่าช่อลดาเดินได้แล้ว
กรวิกวิ่งเข้าไปกอดลูกเมียแน่น ทุกคนต่างน้ำตาคลอ ดีใจด้วยกับกรวิก
ในขณะที่ช่อลดาไม่รู้เรื่องอะไร
รู้อยู่อย่างเดียวว่าเธอต้องกอดเด็กน้อยจนกว่าเด็กจะหยุดร้องไห้และยิ้มออกมาได้
ภัทรเปิดทีวีให้ช่อลดา ดูการประกาศผลรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมของเอเชีย
ซึ่งทั้งเมลานี และกรวิกต่างก็คว้ารางวัลมาครองได้เป็นผลสำเร็จ
ภัทรพากษ์ให้ช่อลดาฟังด้วยว่า ละครเรื่องนี้ ช่อลดาก็มีส่วนช่วยด้วยเหมือนกัน
ช่อลดาเพ่งมองที่ทีวี พยายามนึกตามว่ากรวิกคือใคร ในงาน
กรวิกขึ้นมารับรางวัลแล้วเดินมาพูดที่โพเดี่ยม
"ขอบคุณผู้ชมที่ติดตามผลงานและเป็นกำลังใจให้ผมตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
รวมทั้งผู้หญิงอีกสองคนที่เป็นลมหายใจ
เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมได้มายืนอยู่บนเวทีอันทรงเกียรตินี้อีกครั้ง
นั่นก็คือภรรยาและลูกสาวของผม รางวัลนี้เป็นของคุณกับลูกด้วยครับ
ทั้งสองคนให้เวลาผมทำงานและเสียสละเพื่อผมมามาก
ตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจะต้องดูแลพวกเขาบ้าง ละครเรื่องนี้อาจจะเป็นละครเรื่องสุดท้าย
และรางวัลนี้อาจจะเป็นรางวัลสุดท้ายในชีวิตการเป็นนักแสดงของผม
ผมอาจจะห่างหายไปจากผู้ชม แต่รับรองว่าผู้ชมทุกท่านจะอยู่ในใจผม
ไม่ใช่แค่เฉพาะวันนี้ แต่คุณจะอยู่ในใจผมตลอดไป
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการต้อนรับอันอบอุ่น และการสนับสนุนอย่างเหนียวแน่นเสมอมา
ขอบคุณมากครับ" กรวิกยกมือไหว้ผู้ชมผ่านจอทีวีด้วยความเคารพนอบน้อม
ท่ามกลางเสียงตบมือดังกระหึ่มกึกก้อง ระหว่างที่กรวิกพูด
ช่อลดาก็จ้องทีวีตาไม่กระพริบ กำลังเรียบเรียงปะติดปะต่อเรื่องราวของชายหนุ่ม
แต่มันเป็นเรื่องราวที่ขาดวิ่น เป็นเศษเสี้ยวของภาพที่ไม่สามารถเล่าเรื่องได้
ช่อลดาเริ่มปวดหัว เพราะนึกไม่ออก จำไม่ได้ว่ากรวิกเป็นใครกันแน่ ภายหลังงานประกาศ
นักข่าวต่างกรูกันเข้ามาถามว่า กรวิกจะอำลาวงการบันเทิงจริงหรือไม่
แต่ก่อนที่กรวิกจะได้พูดอะไร ดวงแก้วก็ปรากฏตัวขึ้นและพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
"ยังไงวิกก็ไม่สามารถทิ้งงานในวงการบันเทิงไปได้หรอกค่ะ
อย่าลืมสิคะว่างานนี้เป็นงานที่วิกรักมาก
แล้วปีนี้ก็มีโปรเจ็กใหญ่ๆมากมายก่ายกองรอวิกอยู่ทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นละครอีก 4
เรื่อง ที่ต้องแสดงคู่กับเมนี่ หนังอีก 3 เรื่อง ซึ่งหนึ่งในสามนั้น
วิกจะได้เล่นประกบกับดาราระดับจตุรเทพของเอเชีย แล้วก็บิ๊กโปรเจ็กกลางปี
คือการถ่ายโฆษณารถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งต้องเซ็นสัญญาโกอินเตอร์เพื่อแสดงคู่กับแบรด
พิทท์ ทั้ง 3 เวอร์ชั่น" นักข่าวฮือฮาป่าแตก กรวิกยิ้มเย้ย "เหรอครับ
ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย" "ก็พี่ตั้งใจมาเซอร์ไพร์สวิกพร้อมๆ
กับประกาศให้นักข่าวรู้วันนี้เลยไง ค่าเซ็นสัญญางานนี้ไม่ต่ำกว่าร้อยล้านนะ"
ดวงแก้วยิ้มอวด "ทางเอเจนซี่ที่อเมริกาเขาจะบินมาเซ็นสัญญาพรุ่งนี้เลยจ้ะ
ยังไงพี่ก็ขอเชิญนักข่าวทุกคนด้วยนะคะ"
"ถ้างั้นพี่ดวงคงต้องไปจับคนอื่นมาเซ็นแทนผมแล้วล่ะ เพราะผมจะกลับต่างจังหวัดคืนนี้
แล้วก็จะไม่โผล่มากรุงเทพฯอีก ถ้าไม่จำเป็น" กรวิกเย้ย ดวงแก้วหุบยิ้มแทบไม่ทัน
"หมายความว่ายังไง" "ผมว่าผมพูดชัดไปแล้วบนเวทีนะครับ
แต่ถ้าใครยังไม่เข้าใจหรือฟังไม่ทัน ผมก็จะพูดให้ได้ยินชัดๆ เป็นครั้งสุดท้ายว่า
ผมจะไม่กลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีก จนกว่าคนในครอบครัวผมจะอยู่กันอย่างมีความสุข"
"หมายความว่าเธอจะทิ้งโปรเจ็กเป็นร้อยๆ ล้านนี่ไป
เพราะเมียสมองพิการของเธองั้นเหรอวิก" "ครับ
แล้วต่อให้พี่ขนเงินมากองให้ผมเป็นพันเป็นหมื่นล้าน ผมก็ไม่สนใจ
ผมไม่มีวันกลับมาทำงานกับคนปกติแต่ใจพิการอย่างพี่อีก พี่ได้ยินชัดแล้วใช่มั้ยครับ"
"ไอ้บ้า อยู่ดีๆ ก็ทิ้งเงินเป็นร้อยๆ ล้าน แกต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ กรวิก"
"ใครกันแน่ที่บ้า คุณจำไม่ได้เหรอว่าคุณเคยด่าผมว่าเป็นดาวที่ตกจากฟ้าลงมาจมโคลน
แล้ววันนี้คุณจะมาดึงผมขึ้นจากโคลนให้มือคุณเลอะทำไม
หรือว่าเม็ดเงินที่คุณจะได้จากการหักค่าตัวของผม มันมากถึงขนาดทำให้คุณยอมแกล้งบ้า
ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเอาตัวมาเปื้อนโคลนกับผมอีกครั้งได้"ดวงแก้วเต้นผาง
"นายกรวิก!" กรวิกมองตั้งแต่หัวจรดเท้า
"นอกจากจะไม่มีศักดิ์ศรีแล้วคุณยังน่าสมเพชอีกต่างหาก คุณดวงแก้ว"
นักข่าวพากันฮือฮายังกับผึ้งแตกรัง
ต่างคนต่างแย่งกันถ่ายรูปกรวิกปะทะคารมกับดวงแก้วจ้าละหวั่น
กรวิกขยับเดินแทรกนักข่าวออกมาอย่างสง่าผึ่งผาย ในขณะที่ดวงแก้วอ้าปากค้าง
สั่นไปทั้งตัว
เมลานียิ้มสะใจกับอาการเจ็บแสบไปถึงปีกมดลูกของเจ้าแม่วงการบันเทิงไทย00000000000000000000000
กรวิกกำลังถักผมเปียให้ของขวัญซึ่งตอนนี้อายุ 3 ขวบแล้ว
ในขณะที่เด็กหญิงก็นั่งหวีผมให้ตุ๊กตาต่ออีกทอด ช่อลดานั่งมองภาพพ่อลูกอยู่บนเตียง
มีรอยยิ้มขึ้นมา กรวิกยิ้มลูบหัวลูกอย่างเอ็นดู หลังจากถักเปียเสร็จ
ชายหนุ่มละสายตาจากลูกมาที่แม่ แล้วก็ต้องแปลกใจที่เห็นช่อลดายิ้ม
ช่อลดาหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นมาเช็ดผมที่ยังเปียกหมาดๆ ของตัวเอง
กรวิกเดินไปหาหญิงสาว ไปยืนซ้อนหลังเช็ดผมให้ช่อลดา แล้วก็หยิบหวีมาหวีผมให้
สักครู่ชายหนุ่มก็ตะลึงตัวชา เมื่อได้ยินเสียงของช่อลดา "ขอบคุณ" กรวิกทิ้งหวี
แล้วกระโดดลงจากเตียงมายืนตรงหน้าหญิงสาว "เมื่อกี้น้องเอยว่าอะไรนะ
น้องเอยพูดใช่มั้ย น้องเอยพูดว่าอะไร" ช่อลดาสบตากรวิก "ขอบคุณ"
กรวิกรู้สึกเหมือนพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสได้สำเร็จ ความสุขที่รอคอยมากว่าสามปี
บัดนี้วินาทีอันยิ่งใหญ่มาถึงแล้ว ชายหนุ่มน้ำตาคลอ "น้องเอยพูดได้แล้ว
น้องเอยจำพี่วิกได้แล้วใช่มั้ย ไชโย น้องเอยจำพี่วิกได้แล้ว"
กรวิกวิ่งไปอุ้มของขวัญขึ้นมา "ของขวัญ แม่เอยจำเราสองคนได้แล้วลูก แม่จำเราได้แล้ว
เย้" ช่อลดาพูดตาม "ของขวัญ" กรวิกชี้ที่ตัวเอง "พี่วิก" "พี่วิก" ช่อลดาพูดตาม
กรวิกอยากจะโห่ร้องให้ก้องโลก อยากจะประกาศให้ทุกคนในโลกรู้ว่าเขามีความสุขแค่ไหน
แต่แล้ว กรวิกก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อช่อลดาถาม "คุณเป็นใคร"
คำพูดเพียงประโยคเดียวของช่อลดาทำให้โลกที่เรืองรองสว่างไสวของกรวิกดับมืดลงทันใด
คำพูดเพียงประโยคเดียวที่บอกเขาว่าหญิงสาวอาจจะพูดได้ แต่จำเขาไม่ได้เลย
ชายหนุ่มหมดสิ้นเรี่ยวแรงแม้แต่จะอุ้มลูก ช่อลดายังคงมองกรวิกอย่างพินิจพิจารณา
พยายามอย่างเหลือเกินที่จะจำให้ได้ว่าชายหนุ่มเป็นใคร กรวิกอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ
ให้คนทั้งโลกได้ยิน แต่ท้ายที่สุดชายหนุ่มก็อุ้มลูกมานั่งข้างๆ ช่อลดา
แล้วโอบกอดหญิงสาวแน่น "ไม่เป็นไรนะน้องเอย ไม่เป็นไร" กรวิกปลอบหญิงสาว
แต่ในใจตัวเองกลับปวดร้าวหนัก
ชายหนุ่มกัดฟันแน่นเพื่อกลบไม่ให้หญิงสาวได้ยินเสียงสะอื้นไห้ที่อยู่ในใจตัวเอง
เวลาผ่านไป ของขวัญอายุได้ 6 ขวบแล้ว กำลังนั่งขุดทรายเล่นที่ชายหาด
สักครู่เด็กหญิงขุดเจอหอย รูปลักษณ์และสีสันสวยงาม เด็กหญิงดึงขึ้นมาจากทราย
แล้วยื่นให้ช่อลดาซึ่งนั่งก่อปราสาททรายอยู่ข้างๆ "ของขวัญให้แม่เอยค่ะ"
ช่อลดารับเปลือกหอยมา แล้วยิ้มหวานให้เด็กหญิง "ขอบคุณมากนะคะ"
แล้วหญิงสาวก็ส่งเปลือกหอยที่อยู่ในอุ้งมือทั้งสองข้างนั้นให้กรวิก "ฉันให้คุณนะคะ
พี่วิก" กรวิกยิ้มแล้วรับเปลือกหอยนั้นมา "ขอบคุณครับ ไปเดินเล่นกันนะ"
กรวิกดึงช่อลดาขึ้นมา ก่อนจะเดินมาอุ้มลูกเอาขึ้นขี่คอ มือนึงก็โอบกอดช่อลดาไว้
ชายหนุ่มพาลูกและเมียเดินเลียบริมหาด เสียงกรวิกดังขึ้นในใจ
"พระเจ้าดลบันดาลให้มนุษย์เกิดมาเพื่อทำอะไรสักอย่าง แล้วผมก็รู้แล้วว่า
ผมเกิดมาเพื่อทำอะไร ผมดีใจที่ท่านประทานให้ผมได้ทำในสิ่งที่ผมรักและอยากทำ
และผมจะทำในสิ่งที่ผมรักต่อไปอย่างไม่มีวันย่อท้อ
แล้วก็หวังว่าสักวันพระองค์จะเห็นใจและประทานสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตผมกลับคืนมา
ถ้าคุณรักใครสักคน จงอย่ารีรอที่จะบอกรักเขา
จงบอกรักเขาในเวลาที่เขาสามารถรับรู้ความหมายอันยิ่งใหญ่ของมันได้
แล้วคุณจะอัศจรรย์ใจที่พบว่า คำว่า "รัก" นั้นมีพลังและอานุภาพมหาศาลเพียงใด
เมื่อคุณได้คำว่า "รัก" นั้นกลับคืนมา"

ใจร้าว อวสาน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn

Readlakorn

เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ช่อง3,5,7,นิยาย ไทยรัฐ,
ละครเกาหลี,ละครไต้หวัน (Series), ลิ้งค์(Links) ดูละคร Youtube, ลิ้งค์ดาวน์โหลด
(Download) เพลงละคร OST. และ เพลง MP3 ทั่วไป ทั้งVampires (แวมไพร์) Sumo อื่นๆ
เรื่องย่อละคร
ใจร้าว ดินเนื้อทอง สื่อรักชักใยอลวน ดาวจรัสฟ้า คิมชูซอน
เมนูรักเชฟมือใหม่ ศิลามณี คู่ป่วนอลวน เจ้าหญิงลำซิ่ง ภูติแม่น้ำโขง
เพราะรักนี้มิอาจลืม (Alone in Love) หีบหลอนซ่อนวิญญาณ อุบัติรักข้ามขอบฟ้า

Readlakorn

Related Posts



10 comments:

Anonymous said...

จบแล้วอาT^T

ซึ้งดีจิงๆ

ขอบคุณมากนะคะที่เอามาลง

>___<

Anonymous said...

เศร้าจัง แต่ซึ้งมาก ขอบคุณมากนะคะ

Anonymous said...

ก็ยังดีกว่าให้น้องเอยตายเนอะ ขอบคุณคุณลีลี่มากค่ะ

Anonymous said...

ขอบคุณมากๆเลยคร้า

Anonymous said...

เห้อๆๆๆๆๆๆๆ
ได้อ่านแล้ว ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอนจบ
ก็ ยัง ดี ที่ ได้ มีรัก เนอะ...

Anonymous said...

ขอบคุณนะคะ

ซึ้งจังๆ

Unknown on 12/19/2008 said...

เศร้าอาทิตย์หน้าก้อจบแล้ว^^

Anonymous said...

ตกลง เอย หายเปนปกติมั๊ยค่ะ


แต่งัยก็ช่าง


แค่อ่านแค่นี้ น้ำตาก็ไหลแล้วอ่ะ เศร้าจัง

Anonymous said...

นางเอก น่าสงสาร

พระเอกด้วย

ฮือๆๆ น่าสงสารทุกคนเลย

Anonymous said...

เรื่องนี้พี่เคน พี่แอฟเล่นดีมากๆ เลย หนูจะจำละครเรื่องนี้ไปตลอดชีวิต ไม่มีวันลืม มีวีซีดีออกเมื่อไหร่ จะซื้อมาเก็บไว้ดูทุกวัน ชอบมาก ๆๆๆ มากที่สุด

แล้วตอนนี้คุณหน่อยสบายดีรึเปล่าคะพี่เคน น้องคุณโตรึยัง ถ้าไม่มีคนช่วยเลี้ยงลูกติดต่อได้ค่ะ 0875218906 อยากใกล้ชิดกับคุณหน่อนมาก ดาราในดวงใจเลย อ๋อหนูเรียนจบ ตรี เอกบัญชี (ซื่อสัตย์ เรียบร้อย รับรอง) ไม่ดีไม่ต้องจ้าง

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal