Tuesday, December 09, 2008

ใจร้าว เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ -ใจร้าว(19)ถึง(22)

ใจร้าว 19

ช่างแต่งหน้าลงมือแต่งหน้าให้กรวิก
กรวิกไม่สนใจฟังสิ่งที่ช่างแต่งหน้าคุยด้วย เพราะมัวแต่มองทอปัด จนภัทรแซว
"แหม
เห็นเด็กใหม่มาล่ะจ้องตาไม่กะพริบเลยนะ เดี๋ยวเถอะจะฟ้อง น้องเมนี่"
กรวิกไม่สนใจกับเสียงแขวะของภัทร ตาลโผล่เข้ามาในห้องบอกว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว
เชิญกรวิกกับทอปัดได้เลย ทอปัดหันมาสบตากรวิก แล้วยิ้มหวานพูดต่อหน้าทุกคน
"ปัดเป็นเด็กใหม่เพิ่งเข้ามาในวงการ พี่วิกมีอะไรก็บอกก็สอนได้นะคะ
ปัดขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ"
ทอปัดยกมือไหว้กรวิกอย่างนอบน้อม
ก่อนจะเดินออกจากห้องไป กรวิกมองตาม โกรธที่ทอปัดทำเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน



หลังถ่ายทำเสร็จ กรวิกกวาดตามองรอบข้างเห็นไม่มีใครสนใจ
จึงกดเสียงต่ำตั้งคำถามใส่ทอปัดอย่างไม่พอใจทันที
"เธอมาที่นี่ได้ยังไง
ใครเป็นคนพาเธอเข้ามา"
"ใครจะพาเข้ามามันไม่สำคัญเท่ากับวันนี้ปัดได้มายืนอยู่ในวงการสมใจแล้ว"
"เธอไม่มีเรียนเหรอ หรืออยากเป็นดาราถึงขนาดต้องโดนเรียน"
"ทำไมปัดต้องโดนเรียนในเมื่อปัดลาออกจากมหาวิทยาลัยตั้งนานแล้ว
พี่วิกไปมุดหัวอยู่ที่ไหนล่ะถึงได้ไม่รู้ เชยจัง" ทอปัดพูดไปยิ้มไปอย่างท้าทาย
กรวิกอึ้งที่รู้ความจริง แต่ก่อนที่จะอ้าปากจวกทอปัดต่อ
เสียงผู้กำกับฯก็ดังขึ้น
"ขออีกเทคนะ อารมณ์ของวิกดีแล้ว
แต่ทอปัดพี่อยากให้หน้านิ่งอีกนิดเมื่อกี้มันดูดุไป
ขอเป็นแบบไม่เห็นผู้ชายคนนี้อยู่ในสายตาอีกต่อไปแล้วดีกว่า"
"ค่ะ"
กรวิกสวมวิญญาณนักแสดงเริ่มเล่นคัทนี้ใหม่เหมือนตอนต้นฉาก
ทอปัดถือโอกาสใส่อารมณ์เต็มที่ เพราะอยากแสดงอารมณ์แบบนี้กับกรวิกมานานแล้ว
หลังถ่ายงานจบกรวิกสบโอกาสลากทอปัดออกมาคุยที่สวนข้างสถานที่ถ่ายทำ
ช่อลดาเอาหนังสือมาวางที่รถได้ยินเสียงคุ้นๆเลยลัดเลาะมาตามพุ่มไม้มองกรวิกกับทอปัด
"ทำไมต้องเลิกเรียนหนังสือ" กรวิกโกรธมาก ทอปัดบอกว่าอยากทำงาน
"ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องลาออกกลางเทอมอย่างนี้"
"งานปัดมีทุกวัน จะให้ปัดถ่อสังขารไปเรียนไหวได้ยังไง
พี่วิกเองก็เรียนไม่จบเพราะเข้ามาทำงานในวงการเหมือนกันไม่ใช่เหรอ"
"ฉันจำเป็นต้องทำเพราะฉันไม่มีเงินเรียน
ส่วนเธออดอยากอะไรนักหนาถึงต้องออกมาทำงาน
เงินเดือนแต่ละเดือนที่ฉันให้ไว้ใช้มันไม่พอรึไงทอปัด"
"พอ แต่ปัดอยากดัง
มีอะไรมั้ย"
"ทอปัด เธอเปลี่ยนไปมากนะ ใครสอนให้เธอเป็นคนก้าวร้าวอย่างนี้"
"ถ่ายเสร็จแล้วหรือครับที่รัก"
เจษฎายิ้มแล้วเดินเข้ามา
กรวิกอึ้งมากที่เห็นเจษฎาเดินไปโอบไหล่ทอปัด
"แกเองเหรอที่ทำให้น้องฉันกร้านโลกได้ถึงขนาดนี้"
"การเป็นดารามันทำให้คนกร้านโลกตรงไหนไม่ทราบ
ผมแค่ทำให้น้องคุณได้เรียนรู้ชีวิต มีประสบการณ์กับเรื่องบางเรื่องที่เขาไม่เคยรู้
ไม่เคยลอง ไม่เคยทำมาก่อนเท่านั้นเอง"
กรวิกฉุนจัด
ถลาเข้าไปเงื้อหมัดทำท่าจะชกหน้าเจษฎา แต่ภัทรเข้ามาเรียกไว้ซะก่อน
กรวิกหัวเสียมากเดินกลับเข้าไปทำงานต่อ ช่อลดาได้ยินทั้งหมด
ลักษณ์และเมลานีวิ่งเข้าป่ายิ่งลึกยิ่งเจอต้นไม้ใหญ่
สักครู่เท้าเมลานีสะดุดกับรากไม้ล้มลง เมลานีกุมเท้าด้วยความเจ็บปวด
"โอ๊ยยยย
เจ็บ"
ลักษณ์ก้มลงดูที่เท้าเมลานีเห็นรองเท้าข้างขวาโดนกิ่งไม้เกี่ยวจนฉีก
เท้าข้างซ้ายของเมลานีเป็นรอยขีดข่วนเลือดไหลเป็นทาง
ส่วนเท้าข้างขวาเล็บเปิดเพราะสะดุดรากไม้
"ยังพอเดินไหวมั้ย ผมได้ยินเสียงน้ำ
คงมีลำธารใกล้ๆแถวนี้ ผมจะล้างแผลทำแผลให้"
เมลานีพยักหน้าขยับตัวจะลุกขึ้น
แต่แล้วก็ต้องตกใจที่เห็นลักษณ์ล้มกลิ้งไปกองกับพื้น
เพราะไม้ท่อนใหญ่ที่อยู่ในมือโชค
"วิ่งเก่งนักนะมึง ทำเอาพวกกูตามจนเหนื่อย"
โชคเงื้อไม้จะฟาดลักษณ์อีกทีให้สาแก่ใจ
ลักษณ์หลบแล้วเตะผ่าหมากเข้าที่กล่องดวงใจของโชค
โชคล้มตึงลงไปร้องโอดครวญอยู่กับพื้น สืบกระโดดเตะลักษณ์กลิ้งไปกับพื้น
ก่อนจะตามไปกระทืบซ้ำ ขามเอาปืนตบใส่กกหูลักษณ์
ลักษณ์เบี่ยงตัวหลบแต่ไม่ทันโดนปืนกระแทกแบบเฉียดๆจนเซไป
ขามเอาปืนตามมาจ่อจะยิงลักษณ์
"อย่าอยู่เลยมึง"
เสียงประสุนแล่นแหวกอากาศดังสนั่น
พร้อมๆกับเสียงร้องลั่นของขามที่โดนเมลานีเอาไม้ท่อนเบ้อเร้อฟาดเข้าที่คอ
ทำให้กระสุนพลาดเป้า สืบจะยิงเมลานีทางด้านหลัง
ลักษณ์ตะโกนเตือนเมลานีเสียงดังลั่นให้เมลานีหลบ เมลานีเบี่ยงตัวหลบตามสัญชาตญาณ
กระสุนวิ่งผ่านห่างเธอไปไม่ถึงนิ้ว
ลักษณ์ลืมเจ็บใช้มือขวาที่ยังเดี้ยงอยู่หยิบท่อนไม้แล้วเหวี่ยงใส่สืบอย่างแรงโดยไม่รู้ตัว
เมลานีตามไปเตะสืบซ้ำด้วยเท้าและรองเท้าเยินๆของตัวเอง แต่ก็เจ็บเท้าซะเอง
ลักษณ์ฉุดมือเมลานีวิ่งไป ขามซึ่งยังเจ็บหลังวิ่งตามมา
ขามตามทั้งคู่ไปด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียม ในขณะที่โชคกับสืบวิ่งขาลากตามขามออกไป
ลักษณ์ประคองเมลานีวิ่งหลบกระสุนอย่างฉิวเฉียดหลายนัด
เมลานีกัดฟันวิ่งจนเท้าแหกเปิง เจ็บจนทนไม่ได้
"ฉันไม่อยากพูดประโยคเดียวกับที่นางเอกละครพูดกันบ่อยๆนะ แต่ ฉันวิ่งไม่ไหวแล้ว
คุณทิ้งฉันไว้ที่นี่แล้วรีบหนีไปเถอะ"
"พูดอะไรบ้าๆ
ผมพาคุณมาเดือดร้อนแล้วผมจะทิ้งคุณได้ยังไง ถ้าจะตาย เราก็ต้องตายด้วยกัน"
"แต่ฉันวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ"
"ไม่ไหว ก็ไม่ต้องวิ่ง"
"เราจะต้องตายจริงๆ แบบไม่มีคัทไม่มีเทคเลยใช่มั้ย"
"เราอาจรอด
ถ้าเรายอมเสี่ยง"
"มีอะไรที่ต้องเสี่ยงมากกว่าการวิ่งหนีไอ้พวกนั้นอีกเหรอ"
"ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด"
เมลานีมองหน้าลักษณ์อย่างงงๆ
ว่าหมายถึงอะไร
ลักษณ์มองที่บนต้นไม้ก่อนจะพาเมลานีหนีขึ้นไปนั่งบนกิ่งไม้และนิ่งเงียบอยู่เดียวกัน
กลุ่มพวกขามวิ่งตามมาไม่เห็นทั้งคู่ก็บ่นกันใหญ่
ขณะที่ทั้งคู่นั่งนิ่งแทบไม่หายใจอยู่นั้น
งูเขียวเจ้ากรรมก็ดันเลื้อยผ่านมาลอยหน้าลอยตาทักทายเมลานีในระยะเผาขน
เมลานีอ้าปากกว้างเตรียมแหกปากกรี๊ด
ลักษณ์เอื้อมมือไปปิดปากเมลานีได้ทันชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด
แต่ด้วยความกลัว
เมลานีสะบัดตัวจะหนีลงจากต้นไม้ซะให้ได้ ลักษณ์ไม่รู้จะทำยังไง
จึงคว้าตัวเมลานีมากอดไว้แนบอก เพื่อไม่ให้เธอเผชิญหน้ากับงูเขียวตัวเล็กๆ
นั่นอีกต่อไป เมลานีกอดลักษณ์แน่นพร้อมหลับตาปี๋
ในขณะที่เหล่าร้ายข้างล่างต่างแยกย้ายไปคนละทิศ
ลักษณ์เหลือบตามองไปยังเบื้องล่างแล้วรู้สึกโล่งอกที่ผ่านนาทีแห่งความตายไปได้
แต่ในความโล่งอกนั้นมันมีความอบอุ่นอย่างประหลาดแทรกเข้ามา
เป็นความอบอุ่นที่เกิดจากไออุ่นของใครบางคน ใครบางคนที่อยู่ในอ้อมแขนเขานั่นเอง
ทอปัดเดินยืดควงเจษฎาออกมาที่ลานจอดรถ กรวิกจ้ำตามหลังมาติดๆ
แล้วฉุดแขนทอปัดออกมา
"กลับบ้านกับพี่เดี๋ยวนี้ยายปัด
แล้วก็เลิกทำงานในวงการนี้ซะ!"
"ไม่ค่ะ ปัดไม่กลับ
แล้วปัดก็ไม่เลิกคิดที่จะเป็นดาราด้วย"
ทอปัดสะบัดมือออก เจษฎายียวน
"บังคับใจกันอย่างนี้มันจะดีเหรอ" เจษฎาลอยหน้าลอยตา
"มึงไม่ต้องพูดมากเลย
เพราะมึง น้องกูถึงได้เป็นแบบนี้"
กรวิกปรี่เข้ามาชกเจษฎา
แต่ทอปัดเข้าไปห้ามไว้แล้วเอาตัวเข้ากัน
"อย่านะพี่วิก อย่าทำอะไรพี่เจษนะ!"
"พี่ปัดอยากให้กลับบ้าน ปัดก็กลับไปกับเขาเถอะ ผมไม่อยากมีเรื่อง"
"ไม่ค่ะ
ปัดจะไปกับพี่เจษ"
" ได้ยินชัดแล้วใช่มั้ย
ทอปัดไม่ใช่เด็กที่คุณจะล่ามโซ่ให้ตัวติดกับคุณ ได้นะ ในเมื่อเด็กไม่อยากอยู่กับคุณ
คุณก็ควรจะเคารพการตัดสินใจของเด็ก" เจษฎายิ้มเยาะ
กรวิกไม่สนใจ
"เธอกำลังตกเป็นเบี้ยล่างของหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งเธอรู้รึเปล่า
ไอ้นี่มันไม่เคยคิดจริงจังจริงใจกับใคร มันแค่หลอกใช้เธอไปวันๆ
วงการนี้มันมีแต่เสือสิงห์กระทิงโฉด เด็กอย่างเธอไม่มีทางตามคนพวกนี้ทันหรอก"
เจษฎาตีหน้าเศร้า "ผมดูน่าเกลียดน่ากลัวอย่างที่พี่ชายคุณว่ารึเปล่า
ถ้าไม่สบายใจที่จะอยู่กับผม จะกลับบ้านไปเรียนหนังสือก็ได้นะครับเด็กน้อย"
"ไม่ค่ะ ปัดก้าวออกมาแล้วปัดจะไม่กลับไปยืนที่เดิมเด็ดขาด"
"นี่อุตส่าห์ช่วยพูดแล้วนะ อีกอย่างผมก็ไม่ได้ล็อกแขนล็อกขาน้องคุณเอาไว้ซะด้วย
ช่วยไม่ได้จริงๆ"
ลีลายียวนกวนส้นบาทาของเจษฎา ทำให้กรวิกห้ามใจไม่ไหว
ชกโครมเข้าที่หน้าชายหนุ่มแล้วตามเข้าไปซ้ำอีกหมัด
ทอปัดเข้าไปห้ามแล้วตะโกนลั่นอย่างขวัญเสีย
"หยุดเดี๋ยวนี้นะพี่วิก
ปัดไม่นึกเลยว่าพี่วิกจะบ้า ป่าเถื่อนอย่างนี้ ไปกันเถอะค่ะพี่เจษ
ปัดไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว"
ทอปัดเดินเข้าไปนั่งรอในรถเจษฎา
เจษฎาลุกขึ้นมาเช็ดเลือดที่มุมปาก แล้วแสยะยิ้มใส่กรวิก
"ยอมเจ็บตัวเสียเลือดนิดหน่อย แต่ผลที่ได้มันคุ้มแสนคุ้มในเมื่อไม่ได้พี่
ก็ต้องมาลงที่น้องอย่างนี้แหละ แสบดี"
เจษฎาเดินผิวปากขึ้นรถแล้วขับออกไป
กรวิกยืนกำหมัดกัดฟันแน่น ข่มความเสียใจ
ช่อลดาเดินเข้ามาจับแขนกรวิกอย่างเข้าใจและเห็นใจตลอดเวลาที่อยู่บนรถกรวิกนั่งนิ่ง
ช่อลดาเอื้อมมือไปกุมมือกรวิก
"พี่วิกไม่แน่ใจ นึกไม่ออกว่าตัวเองทำพลาดอะไร
ทำไมทอปัดถึงเป็นอย่างนี้ไปได้"
"อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดนะคะพี่วิก"
"แต่ในวงการนี้มันมีแต่คนเห็นแก่ตัว ชิงดีชิงเด่นกันทั้งนั้นนะน้องเอย
พี่วิกไม่อยากให้ยายปัดติดอยู่ในวังวนของคนพวกนี้"
"คุณทอปัดไม่ใช่เด็ก
เธอบรรลุนิติภาวะแล้วนะคะ พี่วิกต้องให้อิสระเธอเดินไปตามเส้นทางที่เธอเลือก"
"ทั้งๆที่เรารู้ว่าเส้นทางนั้นเต็มไปด้วยเสือหิวที่จ้องจะตะครุบเหยื่อที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างยายปัดงั้นเหรอ
ไอ้เจษมันไม่ได้เลวธรรมดาๆ นะ มันเป็นที่สุดของความเลวเลยล่ะ"
"ยังไงพี่วิกก็ตามปกป้องคุณทอปัดไม่ได้ตลอดเวลานะคะ
พี่วิกให้โอกาสเธอได้เรียนรู้ผิดถูกในชีวิตด้วยตัวเองเถอะค่ะ
มันอาจจะไม่ราบรื่นอาจจะผิดหวังหรือล้มลุกคุกคลานบ้าง
แต่ถ้าเรามองในแง่ดีนั่นคือประสบการณ์ชีวิตที่จะทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นนะคะ"
กรวิกรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ยินคำปลอบประโลมจากช่อลดา
กรวิกอบอุ่นใจเสมอเมื่อมีช่อลดาอยู่ข้างกาย
ที่ลำธารในป่า
เมลานีร้องซี๊ดดดดกัดฟันทนแสบ ลักษณ์วักน้ำในลำธารล้างคราบเลือดกรังบนแผลที่เท้า
ลักษณ์ฉีกชายเสื้อออกแล้วพันแผลให้หญิงสาวอย่างไม่ถนัดนักเพราะมือที่ยังเจ็บอยู่
เมลานีมองภาพนั้นอย่างซาบซึ้งใจจนลืมความเจ็บแสบไปชั่วขณะ
"มือคุณ
ยังเจ็บมากใช่มั้ย"
"มันเจ็บแล้วเจ็บอีกจนหายเจ็บแล้วล่ะครับ
แต่เท้าคุณนี่..ผมกลัวว่ามันจะติดเชื้อ คุณต้องเจ็บตัวก็เพราะผม ถ้าผมไม่ขึ้นรถคุณ
คุณก็คงไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงอย่างนี้ ผมขอโทษนะครับ"
"ช่างมันเถอะ คุณเคยบอกไม่ใช่เหรอ
เรื่องบางเรื่องฟ้าข้างบนท่านลิขิตไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้
ไม่งั้นฉันก็ไล่คุณลงจากรถแล้วสิ แต่ทำไมฉันไม่ไล่ล่ะ จริงมั้ย"
"ช่วงนี้คุณมองโลกในแง่ดีบ่อยขึ้นนะ"
"ที่ฉันไม่เข้าใจก็คือไอ้พวกนั้นมากกว่า มันตามฆ่าคุณทำไม ฉันไม่เชื่อหรอกว่า
คนอย่างคุณจะไปมีเรื่องกับใครจนมีคนตามล่าเอาชีวิตได้"
"ผมก็นึกไม่ออก
ผมไม่เคยมีเรื่องกับใครด้วยซ้ำ แต่ที่แน่ๆคือมีคนต้องการเก็บผม
ผมได้ยินไอ้พวกนั้นมันเรียกว่า "นาย""
"มันพูดกันตอนไหน ทำไมฉันไม่ได้ยิน"
"คุณจะได้ยินได้ยังไง
ในเมื่อตอนนั้นคุณมัวแต่กลัวงูเขียวตัวเล็กๆจนเอาแต่หลับตาปี๋ แถมยังกอดผมซะแน่น"
"ถ้างั้นเรารีบไปกันต่อเถอะ ถ้าต้องค้างคืนอยู่ในป่าฉันคงตายแน่ เพราะ
ฉันกลัวสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิด" เมลานีเขินหน้าแดงรีบเปลี่ยนเรื่อง
"เรายังออกไปตอนนี้ไม่ได้หรอก ต้องรอให้เย็นกว่านี้อีกนิดจะได้พรางตัวได้
ผมว่าเราอยู่ไม่ไกลจากถนนแล้วล่ะ ผมได้ยินเสียงรถ คุณลองฟังสิ"
ทั้งคู่นิ่งเงียบ และแล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น และชัดเจนยิ่งกว่าเสียงรถ
นั่นก็คือเสียงท้องร้องของเมลานี
"นึกแล้วว่าคุณต้องหิว เอ้า!"
ลักษณ์หัวเราะอารมณ์ดียื่นกล้วยหวีหนึ่งที่วางอยู่หลังต้นไม้ให้
"ผมเก็บมาตอนที่คุณนั่งทำใจก่อนจะยอมให้ผมล้างแผลน่ะ"
"อร่อยกว่ากินกล้วยหอมทอดราดด้วยน้ำผึ้งที่เกาะเสม็ดอีกนะเนี่ย"
เมลานีกินด้วยความหิว ลักษณ์ยิ้มขำเมลานี ไม่ว่าจะตกระกำลำบากยังไง
เมลานีก็ยังมีความสุขในการรับประทานเสมอ
ดวงแก้วส่งแก้วไวน์ให้เจษฎา
แล้วจิบไวน์ในแก้วตัวเอง ดวงแก้วคุยธุระ
"เมื่อกี้อยู่กองถ่าย คุยไม่ถนัด
พี่อยากรู้ว่าเธอจะลงปกภาพลับของวิกกับเอยเมื่อไหร่ ไหนว่าจะลงตั้งแต่ฉบับแรกๆ
นี่มันเลทมานานแล้วนะ"
"ผมว่าช่วงนี้ยังไม่เหมาะ
เพราะละครเขาก็กำลังออนแอร์ตามด้วยมิวสิควิดีโออีกต่างหาก กระแสเขาดีอยู่แล้ว
เราไม่จำเป็นต้องสร้างตัวช่วยหรอกครับ"
"แต่เก็บไว้นานเกินไป
คนมันจะไม่อินน่ะสิ อีกอย่างมือที่สามอย่างเอยก็ไม่อยู่แล้วด้วย ระวัง
มันจะกลายเป็นแค่เรื่องก็อซซิปธรรมดาที่หาหลักฐานอะไรไม่ได้เลยนะ"
"แต่ผมไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดานะ พี่ดวงไม่ต้องห่วง
ถ้ากรวิกแข็งข้อใส่พี่ดวงหรือกระแสตกขึ้นมาเมื่อไหร่
ผมจะเล่นข่าวนี้สร้างกระแสทันที ถึงเวลานั้น กรวิกต้องหันมาซบอกพี่ดวงเหมือนเดิม
หรือถ้าเบื่อขึ้นมา พี่ดวงจะเขี่ยทิ้งก็ตามใจ"
"ต้องดูก่อนว่าเขาจะพยศแค่ไหน"
เจษฎาเดินเข้ามาใกล้เพื่อคลอเคลียดวงแก้ว
"ที่มีแต่ได้กับได้ก็คือวิชชั่น
พอสสิเบิ้ลและปาปาราซซี่ รับรองพี่ดวงรวยเละ เชื่อมือผมเถอะ"
ดวงแก้วยิ้มพอใจ
"พี่เลือกคนไม่ผิดจริงๆ"
เจษฎาซุกไซ้ดวงแก้วปลุกอารมณ์ ดวงแก้วยิ้มยั่ว
"ไม่กลัวนางเอกใหม่จะรอนานเหรอ"
"ก็ให้รอไปสิ
ผมไม่สนหรอกของหวานปะแล่มๆพรรค์นั้น สู้ของเผ็ดร้อนอย่างนี้ไม่ได้
ดุเด็ดถึงใจกว่าเยอะ"
เจษฎาผลักดวงแก้วลงบนโซฟาแล้วบรรเลงลีลาซาดิสต์ใส่กัน
ลักษณ์กับเมลานี พยายามโบกรถ เมลานียืนโบกพร้อมใส่แอคติ้งแต่รถก็ไม่จอด
ลักษณ์ขำมาก เมลานีไม่ยอมแพ้ สุดท้ายรถลุงช่วยแล่นเข้ามาและรับทั้งคู่ไปด้วยกัน
รถลุงช่วยมาจอดที่โกดังร้างแถวท่าเรือ ลุงช่วยปลุกเมลานีและลักษณ์ให้ตื่น
แต่พอทั้งคู่ตื่นขึ้นมาก็เห็นขามจ้องหน้า ทั้งคู่ตกใจมาก
ส่วนลุงช่วยพอรับเงินจากขามเสร็จก็หนีไป ขามแค้นมาก
ลักษณ์
เมลานีหันมามองหน้ากัน ทั้งคู่อ่านใจกันออก
จึงพร้อมใจกันถีบเข่งมะพร้าวที่อยู่ตรงปลายเท้าใส่สามวายร้ายที่ยืนอยู่ท้ายกระบะ
แล้วอาศัยช่วงที่พวกนั้นเสียจังหวะปีนขึ้นหลังคาหนีไปทางหน้ารถ หายเข้าไปในโกดัง
สามวายร้ายตั้งตัวได้วิ่งตามทั้งคู่ไป
เมลานี ลักษณ์วิ่งตับแลบเข้ามาในโกดัง
โดยมีสามวายร้ายตามมาไกลๆสามวายร้ายไล่ยิงทั้งคู่
ลักษณ์และเมลานีใช้ซอกหลืบของลังและตู้คอนเทนเนอร์ในโกดังเป็นที่หลบกระสุน
ขามส่งสัญญาณให้โชคกับสืบอ้อมไปยิงทั้งคู่อีกทาง
ลักษณ์และเมลานีวิ่งหนีวิถีกระสุนของโชคและสืบ
จนหลงเข้าไปยังทิศทางที่ขามดักอยู่
ขามเล็งปืนใส่ทั้งคู่ซึ่งวิ่งออกมาจากซอกหลืบเพื่อหนีโชคกับสืบ
กระสุนถากแขนลักษณ์เลือดกระจายออกมานอกเสื้อ เมลานีตกใจสุดๆ
"คุณ เจ็บมากมั้ย"
"ไม่เป็นไร ถากแขนไปนิดเดียว" ลักษณ์ดึงเมลานีวิ่งไป ขามตามมาเจอโชคและสืบ
"มันหายไปไหน"
"ก็เมื่อกี้พี่ให้ผมยิงต้อนมันมาหาพี่"
"หามันให้เจอ
ไม่งั้นพวกมึงไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้าอีก"
ขามคำรามลั่น
โชคและสืบวิ่งแยกย้ายกันออกไป ขามหงุดหงิดที่พลาดโอกาสทองไปได้
ลักษณ์ดึงเมลานีออกมานอกโกดัง
"คุณวิ่งออกไปตามถนนนี่
อาจมีบ้านชาวบ้านอยู่แถวนี้ คุณไปขอความช่วยเหลือจากเขา"
"แล้วคุณล่ะ"
"ผมจะไปล่อพวกมันไว้เอง คุณหนีไปก่อน"
"แต่"
"สัญญาว่าจะรักษาตัวให้รอด
สัญญา"
เมลานีพยักหน้า
แล้วลักษณ์ก็ทำในสิ่งที่เมลานีหรือแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะทำ
นั่นคือการดึงเมลานีเข้ามากอด สักครู่จึงผละออกมา
"ไปสิ รีบไป"
เมลานีเลิ่กลั่ก พูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าจะทำยังไงดี
แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจวิ่งออกไป ลักษณ์มองตามเมลานี ก่อนจะกลับเข้าไปในโกดัง
ใจร้าว จบตอน 19


ใจร้าว 20

ที่ท่าเรือยอร์ช กรวิกกำลังจะพาช่อลดากลับไปยังเกาะส่วนตัว
แต่แล้วเกิดได้ยินเสียงปืนดังขึ้นที่โกดังร้างเสียก่อน เสียงปืนดังขึ้นถี่
จนกรวิกเห็นท่าไม่ค่อยดี กลัวว่าจะเป็นคนดีที่โดนลวงมาทำร้าย
เลยบอกให้ช่อลดารออยู่ในเรือ เขาจะลองเข้าไปสืบดูหน่อย
ช่อลดาเป็นห่วงกรวิกมาก
กรวิกบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เขาสัญญาว่าจะกลับมาหาช่อลดาแน่นอน
ช่อลดามองตามกรวิกที่วิ่งไปอย่างกังวลใจ ที่สุดช่อลดาก็ทนนิ่งดูดายไม่ได้
ตัดสินใจวิ่งตามกรวิกไปทันที
กรวิกแลกหมัดกับขามจนปืนกระเด็นตกไปไกล
ต่างคนต่างไม่ยอมลงให้กัน
โชคเอาท่อเหล็กที่วางอยู่กับพื้นฟาดเข้าที่หน้าลักษณ์แต่เฉียดโดนหางคิ้ว
ลักษณ์หงายหลังตึงลงกับพื้นเลือดไหลทะลัก กรวิกวิ่งเข้ามาเห็นหน้าหมอลักษณ์เต็มๆ
ก็ตกใจ กระโจนเข้าไปถีบโชคที่กำลังจะหวดท่อนเหล็กซ้ำเข้าที่หน้าลักษณ์
โชคตะวัดท่อนเหล็กใส่กรวิก ทั้งคู่สู้กันดุเดือด จนท่อนเหล็กหลุดจากมือโชค
กรวิกคว้าท่อนเหล็กไว้ได้ แล้วหวดเข้าที่ขาโชคจนกระดูกลั่น
แล้วเสยอีกทีเข้าที่หน้าเลือดกระจาย โชคสลบทันที
เมลานีทนเป็นห่วงหมอลักษณ์ไม่ได้ เลยย้อนกลับมาดู
เห็นลักษณ์พยายามยันตัวขึ้นจากพื้น
กรวิกจัดการโชคเสร็จหันกลับมาเพื่อจะเดินไปดูลักษณ์ เมลานีเห็นกรวิก
และเห็นขามกำลังหยิบปืนซึ่งกระเด็นอยู่กับพื้นขึ้นเหนี่ยวไกเล็งไปที่กรวิก
ช่อลดาซึ่งเพิ่งวิ่งเข้ามาทันเห็นพอดี เมลานีตะโกนบอกกรวิกให้ระวัง
เมลานีวิ่งเข้าไปกันกรวิก กระสุนพุ่งเข้าใส่แถวๆ เอวเมลานี กรวิก ลักษณ์
ช่อลดาตะโกนเรียกเมลานีในเวลาพร้อมๆ กัน เมลานีร่วงผล็อยลงกับพื้น
ขามจะยิงใส่กรวิกอีกนัด แต่โดนลักษณ์เตะเข้าที่ท้ายทอยจนสลบพับไป
กรวิกวิ่งเข้าไปช้อนร่างเมลานีขึ้นมา ช่อลดาพุ่งตามเข้าไปนั่งข้างๆ เมลานี
ลักษณ์อึ้งที่เห็นช่อลดาอยู่กับกรวิก
ทั้งสี่คนมองกันอย่างเลิ่กลั่กที่เหตุการณ์เลวร้ายดึงทุกคนให้มาเจอกัน
กรวิกอุ้มเมลานีเดินจ้ำนำทุกคนไปที่เรือ
กรวิกและลักษณ์ช่วยกันลำเลียงเมลานีลงไปนอนในเรือ
ช่อลดาเข้าไปประคองเมลานีให้ลักษณ์ซึ่งฉีกชายเสื้ออีกข้างของตัวเองมาผูกห้ามเลือดให้หญิงสาว
เมลานีสลึมสะลือ เรียกหาแต่กรวิก สักครู่หญิงสาวก็คอพับไปกับไหล่ของช่อลดา
ช่อลดาตกใจสุดขีด ลักษณ์บอกว่าเสียเลือดมากเลยสลบไป กรวิกซึ่งขับเรืออยู่หันมามอง
ชายหนุ่มรู้สึกผิดสุดๆ
ขามเอาศพของโชคที่ตายแล้ว
ทำให้หน้าเละเสียโฉมจนจำแทบไม่ได้ ไปหลอกปรัชญาว่าเป็นศพของลักษณ์
โดยอ้างว่าลักษณ์ฤทธิ์เยอะ เลยจับหน้าลากไปกับรถ หน้าเลยแหก
ปรัชญามองศพที่อยู่กับพื้นราวซากหมาข้างถนนตัวหนึ่ง
ไม่ได้ทันสังเกตว่าขามยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ข้างๆ
ลักษณ์ทำแผลให้เมลานีเสร็จ
หันมาเห็นกรวิกและช่อลดาที่สายตาเต็มไปพะวง ก็เลยบอกว่า
"ดีที่กระสุนแค่เฉียดไปไม่ได้ฝังใน แต่ก็เสียเลือดมากจนทำให้อ่อนเพลีย
และอาจจะไข้ขึ้น ทางที่ดีควรจะมีใครเฝ้าจนกว่าจะเช้า แล้วค่อยดูอาการกันอีกที
ขอตัวก่อนนะครับ"
ลักษณ์เดินออกมา ช่อลดามองหน้ากรวิกแวบหนึ่ง
แล้วเดินตามลักษณ์ออกไป กรวิกจะเดินตาม
แต่แล้วก็ต้องชะงักกลับไปหาเมลานีเพราะเสียงเพ้อของหญิงสาวเรียกเขา
กรวิกนั่งลงข้างเตียงแล้วกุมมือเมลานีเพื่อให้หญิงสาวอุ่นใจ
ช่อลดาเดินมองหาลักษณ์ บอกว่าลักษณ์ถูกยิงมา ยังไม่ได้ทำแผลเลย
ลักษณ์หันมาเผชิญหน้า
"ช่างมันเถอะ อยู่ไกลหัวใจเยอะ
มีเรื่องอื่นที่ทำให้เจ็บปวดหัวใจมากกว่านี้"
ช่อลดากลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างยากเย็น "พี่ลักษณ์คะ เอยขอโทษ"
ลักษณ์อยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ ชายหนุ่มเจ็บไปถึงกระดองใจ
"ขอโทษที่เลือกเขาอย่างนั้นเหรอ
เอยรู้มั้ยว่าพี่เจ็บแค่ไหนที่ไม่เห็นเอยสวมแหวนแล้ว
ตลอดเวลาที่นั่งมาในเรือพี่มีเหตุผลร้อยแปดที่จะเข้าข้างตัวเอง แหวนอาจจะหาย
เอยอาจจะลืม แต่แล้วความจริงที่พี่กลัวที่สุดและไม่อยากนึกถึง มันก็เกิดขึ้นจนได้
เอยตั้งใจและเต็มใจจะถอดแหวนวงนั้นเพื่อเขา"
ช่อลดาน้ำตาไหลพราก "พี่ลักษณ์
เอยเสียใจ เอยไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ เอย"
"ไม่ต้องพูดไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว
เอาเป็นว่าพี่เข้าใจแล้วก็ขอบคุณที่เอยทำให้พี่ไม่ต้องหลอกตัวเองอีกต่อไป
ที่ผ่านมามันแค่เจ็บหลอกๆ พอต้องมาเจ็บจริงๆ พี่บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันเจ็บแค่ไหน
แต่ยังไงพี่ก็ต้องผ่านคืนนี้และคืนต่อๆไปให้ได้ อยากจะรู้เหมือนกัน ที่เขาว่า
เวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างให้ดีขึ้นได้ มันจริงมั้ย"
ลักษณ์ฝืนยิ้มให้ช่อลดานิดนึงก่อนจะหันหลัง
แล้วเดินลงไปที่ชายหาดเพราะไม่อยากให้หญิงสาวเห็นน้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่เคยหยดออกมาสักครั้งหลังจากแม่ตาย
ช่อลดาร้องไห้เสียใจหนักที่ทำให้ลักษณ์เสียใจ
เมลานีฟื้นขึ้นมา เห็นกรวิกก็ดีใจ
กรวิกขอโทษเมลานีที่ทำให้ต้องเจ็บตัว เมลานีส่ายหน้า
"อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ
เมนี่เต็มใจ ตอนเมนี่เห็นมันเหนี่ยวไกจะยิงวิก
เมนี่ก็ตัดสินใจได้ในทันทีว่าเมนี่จะทำอะไร
เมนี่ทนเห็นคนที่เมนี่รักถูกยิงต่อหน้าต่อตาไม่ได้หรอกค่ะ"
กรวิกเหมือนมีอะไรเหนียวๆ มาจุกที่ลำคอ "คุณเสียเลือดมาก พักผ่อนก่อนเถอะนะ
อย่าเพิ่งพูดอะไรมากเลย"
"ขอคำเดียวค่ะ เมนี่รักคุณนะคะ"
เมลานีค่อยๆหลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย
คำเดียวที่ตอกกรวิกให้ตรึงอยู่กับที่
เขาจะทำอย่างไรกับหญิงสาวที่นอนเจ็บอยู่ตรงหน้าเพราะเขา
บอกเธอว่าเขารักใครอื่นที่ไม่ใช่เธออย่างนั้นหรือ
000000000000000000000
กรวิกเดินสูดหายใจลึก ปลดปล่อยอารมณ์เลียบมาตามริมหาด
ชายหนุ่มชะงักเมื่อเห็นลักษณ์ยืนนิ่งอยู่มุมหนึ่ง กรวิกเดินเข้าไปทัก
ถามว่าลักษณ์มีเรื่องกับใคร ถึงได้ถูกตามฆ่าอย่างนั้น ลักษณ์บอก
"ผมไม่เคยมีเรื่องกับใคร ก็เลยไม่รู้ว่าใครต้องการจะฆ่าผม
แต่ก็ยังดีที่คนบ่งการมันส่งมือปืนมาตามฆ่าผมซึ่งๆ หน้า อย่างน้อยผมก็ได้ระวังตัว
ดีกว่าคนบางคนที่ฆ่าผมให้ตายทั้งเป็นด้วยการแทงข้างหลังโดยที่ผมไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว"
กรวิกเจ็บจี๊ดดดดด ชาไปทั้งตัวกับคำพูดเปรียบเปรยของลักษณ์
"ถ้าหมอหมายถึงเรื่องผมกับน้องเอย
ผมอยากจะบอกว่าเราสองคนรักกันเรารักกันมาก่อนที่น้องเอยจะเจอหมอด้วยซ้ำไป"
"คุณคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างคุณกับเอยงั้นเหรอ
ผมรู้ทุกเรื่องและให้โอกาสเอยตัดสินใจเสมอ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน
คุณได้หัวใจเธอไปก็รักษาเอาไว้ให้ดี เพราะว่าวันไหนที่คุณทำเธอเสียใจ
ผมนี่แหละจะเป็นคนดึงเธอมาและจะไม่มีวันปล่อยเธอให้คุณอีกเป็นอันขาด ผมรับรอง"
ลักษณ์จ้องตากรวิกเขม็ง ทั้งคู่แมนใส่กันสุดฤทธิ์ ก่อนที่ลักษณ์จะเดินจากไป
ทิ้งกรวิกให้ยืนอัดอั้นตันใจตามลำพัง
ตำรวจโทรแจ้งปราชญ์ว่าตอนนี้พบศพคนที่คาดว่าจะเป็นหมอลักษณ์
จากหลักฐานที่พบใจตัว ทำให้ปราชญ์ช็อกอย่างมาก ทุกคนพากันไปดูศพ
แสงฉายร้องไห้ฟูมฟายจะเป็นจะตาย
ในขณะที่เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานและสำรวจบริเวณที่พบศพ
ปราชญ์กับปรัชญากระโจนลงจากรถเข้าไปหาตำรวจ
ปราชญ์เอื้อมมือรับกระเป๋าเงินและบัตรประชาชนของลักษณ์จากตำรวจมาดู น้ำตาคลอ
ตำรวจถามแสงฉายว่าแน่ใจหรือไม่ว่านี่คือศพของลักษณ์ แสงฉายบอกว่าสามีเธอเอง
ทำไมจะจำไม่ได้ ปราชญ์เช็ดน้ำตา ขอดูหน้าศพใกล้ๆ
แต่พอปราชญ์เห็นหน้าศพแล้วถึงกับเบือนหน้าหนีด้วยความชอกช้ำใจแสนสาหัส
ในขณะที่แสงฉายกรี๊ดเพราะนั่งอยู่ใกล้ศพในระยะประชิดกว่าคนอื่น
หญิงสาวกระโดดออกมาทันที แสงฉายเหลือบเห็นแผลเป็นที่แขนศพเลยชี้มั่วส่งเดช
บอกว่าจำแผลเป็นที่แขนได้
ปราชญ์มองตามมือแสงฉายไปที่ศพ
แล้วเกิดประกายบางอย่างในตา ไม่ใช่เพราะแผลเป็นที่แขน
แต่เป็นเพราะสิ่งที่อยู่ต่ำกว่านั้น ที่มือทั้งสองข้างของศพ
ไม่มีวี่แววว่าเคยหักหรือบาดเจ็บเหมือนมือของลักษณ์
ซึ่งมันต่างจากใบหน้าที่แหลกเละจนจำไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
เมลานีฟื้นลืมตาขึ้น
หญิงสาวลำดับเหตุการณ์แล้วค่อยๆลุกนั่งที่หัวเตียง
ช่อลดาเปิดประตูเข้ามาพร้อมถาดข้าวต้มที่อยู่ในมือ พอเห็นเมลานีตื่น
ก็เตรียมจะป้อนข้าวให้ พลางถามอาการว่าเป็นยังไงบ้าง
เมลานีจ้องหน้าช่อลดาด้วยสายตาที่บ่งว่าเอาเรื่อง
เธอว่าจะถามถึงสภาพร่างกายหรือจิตใจ ถ้าเป็นด้านจิตใจ ช่อลดาคงไม่ต้องถาม
น่าจะรู้ดีว่าแย่ขนาดไหน ช่อลดากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
บอกว่าเธอกับกรวิกบริสุทธิ์ใจต่อกัน เมลานีโกรธเลือดพล่าน
"เธอจะบอกว่าเธอกับวิกอยู่ด้วยกันในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง
เธอไม่ได้มีอะไรกับเขาอย่างนั้นเหรอ แน่จริงก็พูดออกมาสิว่าไม่มี"
ช่อลดาน้ำตาเล็ด แทนคำตอบ เมลานีสะกดใจให้สงบนิ่งต่อไปไม่ไหว
เพราะการไม่ตอบมันคือคำตอบที่แสนจะหนักแน่นและชัดเจน
หญิงสาวตบหน้าช่อลดาอย่างแรงจนหน้าหัน
"ฉันสู้อุตส่าห์มองเธอในแง่ดีตลอด
ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะกลายเป็นงูพิษมาแว้งกัดฉันได้
ต่อหน้าทำเป็นใสซื่อแต่ลับหลังคอยฉกคอยกัดคนอื่น
เธอมีความสุขมากรึไงกับการแย่งแฟนชาวบ้านน่ะ หา!"
"คุณเมนี่
เอยไม่เคยคิดจะทำร้ายจิตใจคุณเมนี่เลยนะคะ"
"แล้วทำไมถึงได้มาอยู่กับวิก
ไหนว่าจะกลับอเมริกาไง ทำไมถึงไม่กลับ เธอตั้งใจจะหลอกทั้งฉันทั้งหมอลักษณ์
บอกคู่หมั้นตัวเองว่าจะไปอยู่กินกับเขาที่โน่น ที่แท้กลับมาอยู่กินกับแฟนคนอื่น
ทำไมถึงได้หน้าด้านขนาดนี้ ถามจริงๆเถอะ วินาทีที่เธอเจอฉันกับหมอลักษณ์
เธอรู้สึกละอายใจบ้างมั้ย หรือว่าไปอยู่เมืองนอกซะนาน
หน้าเลยหนายางอายสักนิดก็เลยไม่มี"
ช่อลดาน้ำตาไหลพราก "คุณเมนี่
เอยไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเมนี่คิด"
เมลานีตวาดกลับ
"ก็เพราะเธอไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดไง เรื่องมันถึงได้เป็นอย่างนี้
แต่อย่าหวังนะว่าเธอจะได้วิกไป ฉันรักวิก ฉันจะทวงคนรักของฉันคืน
ความสุขของแมวขโมยอย่างเธอ มันจบสิ้นลงแล้ว ช่อลดา"
ช่อลดาไม่สามารถยืนอยู่ตรงนั้นได้ หญิงสาววิ่งร้องไห้โฮออกไป
ช่อลดาวิ่งร้องไห้ออกมานอกห้อง ชนลักษณ์ซึ่งกำลังจะเข้าไปดูอาการเมลานีพอดี
ช่อลดาผวาเข้าไปซบอกชายหนุ่มอย่างต้องการที่พึ่ง
บอกว่าตอนนี้เมลานีกำลังเข้าใจเธอผิด เธอจะทำยังไงลักษณ์โอบกอดหญิงสาวเพื่อปลอบใจ
กรวิกเดินเข้ามาอึ้งกับภาพที่เห็นตรงหน้า ตามมาด้วยความรู้สึกไม่พอใจ
พูดเสียงกระชาก ให้ทั้งคู่หลีกทาง ลักษณ์กับช่อลดาผละออกจากกัน
และขยับถอยออกจากประตู กรวิกเดินเข้าห้องเมลานีไปหน้านิ่ง
กรวิกประคองเมลานีเดินออกกำลังกาย หญิงสาวสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด
ก่อนจะถามว่าซื้อบ้านหลังนี้ไว้นานหรือยัง
กรวิกบอกว่าเขาซื้อไว้ให้ผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วย
เมลานีตะลึง
หน้าแดงซ่านขึ้นมาทันที บอกว่าจะเซอร์ไพร์สกันก็ไม่บอก
กรวิกอึ้งที่หญิงสาวเข้าใจผิด
เมลานีหลบตาเขินอายแล้วชะงักเมื่อมองไปที่อีกมุมของหาด พยักเพยิดให้กรวิกดู
ก่อนจะพูดเขี่ยว่าตอนนี้ลักษณ์กับช่อลดาคงปรับความเข้าใจกันได้แล้ว
กรวิกมองตามคิ้วขมวด เมลานียิ้มพอใจ
ขณะนั้นช่อลดากำลังร่ำไห้ปรึกษาเรื่องที่เมลานีเข้าใจผิดกับลักษณ์
สักครู่ช่อลดารู้สึกเหมือนโลกหมุนติ้ว ปวดหัวจนแทบระเบิด
แล้วเลือดก็ซึมออกจากปากและจมูก ลักษณ์รู้ในทันทีว่าอาการหญิงสาวเข้าสู่ภาวะอันตราย
ลักษณ์กอดช่อลดาไว้ไม่ให้ทรุดลง แล้วร้องถามหายาแต่ช่อลดาแน่นิ่ง
ลักษณ์ตัดสินใจอุ้มหญิงสาววิ่งกลับไปยังบ้านพักทันที
ลักษณ์เปิดลิ้นชักตู้เตียงวุ่นวายกับการหายาจนเจอ
ชายหนุ่มแกะยาที่เหลืออยู่เม็ดสุดท้ายออกจากแผงอย่างระวัง
ก่อนจะรินน้ำแล้วประคองช่อลดาซึ่งนั่งหายใจรวยรินอยู่เตียงกินยา ถามว่ามียาอีกไหม
ช่อลดาบอกว่าไม่เหลือแล้ว
ลักษณ์บอกว่าช่อลดาต้องไปเช็คร่างกายกับเขาให้เร็วที่สุดเข้าใจมั้ย
และต้องกินยาทุกวัน ช่อลดาส่ายหน้า บอกว่าเธอไม่อยากรักษาอะไรอีกแล้ว
ช่อลดากำมือทุบเตียงอย่างต้องการระบายความอัดอั้นในใจ
"เอยไม่อยู่
ไม่อยากสู้หน้าใครอีกต่อไปแล้ว เอยอยากตาย ได้ยินมั้ยคะ เอยอยากตาย"
ลักษณ์โผเข้าไปกอดหญิงสาวแน่นเพื่อปลอบใจ กรวิกกับเมลานีเข้ามาเห็น
ทันได้ยินลักษณ์พูด
"อย่าพูดอย่างนั้น พี่จะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีเอย"
กรวิกไม่พูดพล่ามทำเพลง กระโดดเข้าไปกระชากลักษณ์แล้วชกชายหนุ่มกระเด็น
ก่อนจะตามไปอัดซ้ำ ช่อลดาตกใจแทบช็อกผลักกรวิก ต่อว่าที่กรวิกทำร้ายคนไม่มีทางสู้
กรวิกลมหึงขึ้นหน้า ถามว่าไม่มีแรงสู้ แต่มีแรงทำอย่างอื่นได้งั้นเหรอ
ช่อลดาช็อกแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
"ฉันนึกแล้วว่ายังไงเธอก็ตัดมันไม่ขาด
แล้วมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิดจริงๆแต่จะทำอะไรกันก็หัดเกรงใจเจ้าของบ้านบ้าง
นี่มันห้องฉัน เตียงนอนนี่ก็ของฉัน หรือถ้าหากอดกลั้นกันไม่ไหว
อย่างน้อยก็น่าจะปิดประตู คนเดินผ่านไปมา จะได้ไม่เห็นอะไรที่มันอุดจาดตา"
ช่อลดาสุดจะทน ตบหน้ากรวิกอย่างแรง ก่อนจะพาลักษณ์เดินหนี กรวิกตะโกนตาม
"บ้านหลังนี้สะอาดทุกซอกทุกมุม อย่าพาอดีตคู่หมั้นเธอไปทำสกปรกที่ไหนล่ะ"
"ไม่ใช่อดีตคู่หมั้น พี่ลักษณ์ยังเป็นคู่หมั้นของเอย
แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะคะเราสองคนจะไม่ทำให้บ้านนี้แปดเปื้อน เพราะเราจะไปจากที่นี่
เดี๋ยวนี้"
ช่อลดาพูดจบก็ดึงมือลักษณ์ให้ตามออกไป กรวิกใจหายวาบ
อยากจะตะโกนเรียกแล้วกระโดดเข้าไปกอดรั้งหญิงสาวไว้
แต่ขาเหมือนโดนหมุดตรึงอยู่กับที่ เมลานียิ้ม ไม่ใช่เพราะดีใจแต่เพราะโล่งใจมากกว่า
แสงฉายเดินเข้าไปในลิฟท์ แล้วก็ต้องตาเหลือกถอยหลังผงะไปจนชิดผนังลิฟท์
เมื่อเห็นลักษณ์ ลักษณ์ถามแสงฉายด้วยความเป็นห่วง ว่าโดนตามฆ่าเหมือนเขาหรือเปล่า
แต่แสงฉายคิดว่าลักษณ์เป็นผี ก็หลอน กรี๊ดลั่นพูดสารภาพมาหมด
"ช่วยด้วย
อย่าทำอะไรแซนดี้เลย แซนดี้กลัวแล้ว แซนดี้ ไม่ได้ฆะฆ่าคุณ คุณปะ ปรัชญาบังคับให้ซะ
แซนดี้พะ พาคุณออกไปจากโรงพยาบาล นอกนั้นขะเขาเป็นคนทำทั้งหมด"
ลักษณ์ตะลึงไม่คิดว่าจะรู้เรื่องความจริงโดยบังเอิญอย่างนี้
กรวิกพาเมลานีมาส่งที่บ้าน โสภิตาอารมณ์เสียที่เมลานีไปเที่ยวกับกรวิกแล้ว
เธอไม่สามารถติดต่อได้ ถ้าหากเป็นอะไรไปใครจะรับผิดชอบ
กรวิกบอกว่าเขาจะจ่ายค่าใช้จ่ายในการรักษาให้ทั้งหมด เมลานีชิงพูดขึ้นว่า
รวมถึงค่าเลี้ยงดูเธอเวลาที่ทำงานไม่ได้ด้วย โสภิตางง
"ก็หมายความว่าเราคุยและตกลงกันแล้วว่า เราจะแต่งงานกันน่ะสิคะ"
โสภิตาอึ้ง
แต่แอบดีใจจนเนื้อเต้นอยู่ในใจ
ในที่สุดก็ได้ซุปเปอร์สตาร์มาเป็นลูกเขยสมใจอยากจนได้ กรวิกอึ้ง
ไม่คิดว่าเมลานีจะจับเขามัดมือชกชกอย่างนี้
ใจร้าว จบตอน 20


ใจร้าว 21

ข่าวการแต่งงานระหว่างเมลานีและกรวิกแพร่สะพัดออกไป รู้ถึงหูของช่อลดา
เพราะลักษณ์เอาหนังสือพิมพ์มายื่นให้ดูข่าว ทำเอาช่อลดาใจหวิว ตาพร่าพราย
พยายามกล้ำกลืนน้ำตาไม่ให้มันทะลักไหล
ลักษณ์หัวเสียบอกว่าไม่คิดว่ากรวิกจะกล้าทำร้ายช่อลดาขนาดนี้
ทั้งที่เพิ่งจะผ่านเวลาไปแค่วันเดียว ช่อลดาน้ำตาซึม
ปากบอกแค่ว่าทั้งคู่เหมาะกันดีแล้ว ลักษณ์ส่ายหน้า
ถามว่าจะยอมให้ทั้งคู่แต่งงานกันจริงหรือ ช่อลดายิ้มเศร้า
"เอยไม่อยากให้ความรักของเอยทำร้ายใครอีกแล้ว ไม่ว่าใครคนนั้นจะเป็นคุณเมนี่
พี่ลักษณ์หรือพี่วิกเองก็ตาม พี่วิกอาจจะเสียใจเพราะเอยแค่ครั้งเดียว
แต่จะมีความสุขไปตลอดชีวิต ยังไงงานแต่งงานก็ต้องมีขึ้น"
"โดยที่เอยต้องเจ็บอยู่คนเดียว" ลักษณ์ไม่เข้าใจ
"ค่ะ เอยยอม
เอยจะทำทุกอย่างเพื่อให้เรื่องมันจบ"
"แล้วเอยจะทนได้หรือ"
"เอยทนได้
เอยต้องทนให้ได้ค่ะพี่ลักษณ์"
ลักษณ์สงสารช่อลดาจับใจ
แต่ก็สงสารหัวใจตัวเองที่แหลกยับเยินไปแล้วเช่นกัน
กรวิกโยนหนังสือลงตรงหน้าภัทรกับดวงแก้ว โดยมีเมลานีนั่งอยู่ด้วย
กรวิกโวยว่าใครให้ข่าวเรื่องแต่งงาน ทำไมไม่ถามเขาก่อน เขายังไม่พร้อม
เมลานีหน้าร้อนผ่าว โวยกลับบ้าง
"แล้วเมื่อคืนตอนที่คุยกับแม่
ทำไมวิกไม่บอกแม่ไปล่ะ
มาบอกอะไรตอนที่ใครๆในประเทศนี้เขารู้กันหมดแล้วว่าเราจะแต่งงานกัน"
ภัทรกับดวงแก้วงง ว่าทั้งคู่ยังไม่ตกลงกันให้ดีอีกหรือ
ทั้งที่จะแถลงข่าวในเวลาอันใกล้อยู่แล้ว เมลานีบอกกับกรวิกอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
"แล้วแต่วิกเขาเถอะค่ะ สิ่งไหนที่วิกเห็นว่าเหมาะสมและควรทำก็ทำเถอะ
เมนี่เคารพในการตัดสินใจของวิกเสมอ
ถ้าวิกเห็นว่าเมนี่ไม่มีค่าพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน เมนี่ก็คงบังคับใจวิกไม่ได้"
เมลานีมองหน้ากรวิกอย่างวัดใจ ดวงแก้วมองหน้าภัทร
รู้สึกได้ว่าทั้งคู่ต้องมีปัญหากันแน่ๆ ดวงแก้วให้ทั้งคู่ตกลงกันเอง
เธอจะไปรับหน้านักข่าวก่อน กรวิกบอกว่ามันเร็วเกินไป เมลานีย้อน
"แล้วจะรอไปเพื่ออะไร
เพื่อที่วิกจะได้กลับไปง้อเอยแล้วมายกเลิกการแต่งงานของเราทีหลังอย่างนั้นเหรอ
มันจะไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือคะ
ถ้าวิกคิดว่าผู้หญิงคนนั้นรักวิกมากกว่าที่เมนี่รักล่ะก็
ออกไปบอกทุกคนเลยค่ะว่าวิกจะไม่แต่งงานกับเมนี่
เมนี่จะกราบทุกคนแล้วบอกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดของเมนี่คนเดียว"
เมลานีเช็ดน้ำตาที่ไหลพรากก่อนจะเดินออกจากห้องไป ภัทรถอนหายใจ
"สรุปว่าเรื่องนี้มีเอยเข้ามาเกี่ยวข้อง สรุปว่าเอยไม่ได้กลับอเมริกา
พี่ไม่รู้ว่าเรื่องเอยกับวิกมันเป็นยังไงมายังไงนะ แต่ที่พี่รู้คือ
น้องเมนี่รักวิกมาก ถ้าเป็นพี่
พี่คงไม่ทิ้งคนรักเพื่อไปอยู่กับผู้หญิงที่เขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว
โดยเฉพาะคนรักที่กล้าเอาตัวเองเป็นโล่บังกระสุนให้พี่
การสละชีวิตให้ใครสักคนมันเป็นเรื่องใหญ่มากนะวิก
ใหญ่พอๆกับเรื่องโดนคนรักบอกเลิกการแต่งงานต่อหน้าคนทั้งประเทศนั่นแหละ
วิกลองถามตัวเองดูว่าน้องเมนี่ทำผิดอะไร
สมควรจะต้องเจ็บทั้งตัวแถมยังต้องได้รับความอับอายจนกลายเป็นตราบาปไปตลอดชีวิตมั้ย
คิดดูให้ดี"
ภัทรเดินออกไปอีกคน กรวิกนั่งนิ่งแต่ในใจอึดอัดอกแทบระเบิด
เขาจะแต่งงานกับใครที่ไม่ใช่
ช่อลดาได้หรือ แล้วเมลานีล่ะมีความผิดอะไร
เขาจะทำให้เธอมีตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิตได้ยังไง
กรวิกมาขอพบช่อลดา
แต่ลักษณ์มาเปิดประตูให้ ลักษณ์บอกว่าช่อลดาไม่มีอะไรจะคุยด้วย
แต่กรวิกก็ตื๊อจะคุยให้ได้ ที่สุดช่อลดายอมเปิดประตูออกมา
แต่ออกมาเพื่อบอกให้กรวิกออกไปจากชีวิตของเธอ กรวิกอึ้ง แต่พยายามตั้งสติละล่ำละลัก
"น้องเอย พี่วิกขอโทษที่เข้าใจน้องเอยกับหมอลักษณ์ผิดไป
พี่วิกรู้ว่าน้องเอยไม่มีวันเปลี่ยนใจไปจากพี่วิก
พี่วิกไม่ดีเองที่ระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ด่วนสรุปทุกอย่างเร็วเกินไป พี่วิกขอโทษ
ยกโทษให้พี่วิกเถอะนะ"
"คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษเพราะคุณไม่ได้เข้าใจผิด
ทุกอย่างที่คุณเห็นทุกอย่างที่คุณเข้าใจมันถูกต้องแล้ว ฉันกับพี่ลักษณ์รักกัน
และการที่เราจะแสดงความรักต่อกันมันก็ไม่น่าจะไปรบกวนใคร
ในเมื่อเราเป็นคู่หมั้นกัน" เสียงช่อลดาหมางเมิน
กรวิกใจหายวูบ
"น้องเอยทำไมพูดอย่างนี้
พี่วิกไม่เชื่อว่าน้องเอยจะลืมอดีตลืมความรักที่เรามีต่อกันได้ พี่วิกไม่เชื่อ"
"เชื่อเถอะค่ะ เรื่องในอดีต ความรักเก่าๆ มันไม่มีความหมายอะไรสำหรับฉันสักนิด
ในเมื่อตอนนี้ฉันได้กลับมาอยู่กับคนที่ฉันรักแล้ว"
ช่อลดาเดินมายืนเคียงข้างลักษณ์ กรวิกรู้สึกเหมือนโลกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ชายหนุ่มอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่พึมพำ
"ไม่จริง น้องเอย ไม่จริง"
ช่อลดาพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบคม หน้าและแววตาเด็ดเดี่ยว
"เลิกฝันเลิกงมงายกับความรักความหลังแล้วตื่นขึ้นมายอมรับความจริงสักที
เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว"
กรวิกน้ำเสียงเหือดแห้ง แววตาแห้งผากนั้นมีน้ำตาคลอ
"น้องเอย พี่วิกจะลืมได้ยังไง"
"ในเมื่อผู้หญิงเขาไม่รักแล้วยังอยากจะมีเยื่อใยกับเขาอยู่อีกงั้นเหรอ
ถ้าอยากจะฝันลมๆแล้งๆอย่างนั้นอยู่คนเดียวก็ตามใจ แต่กรุณาให้เกียรติเราสองคนด้วย
อย่ากลับมาที่นี่ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก
ถ้าคุณยังอยากให้ฉันเหลือความรู้สึกดีๆกับคุณบ้าง" ช่อลดาเสียงแข็ง
ลักษณ์แทบไม่เชื่อสายตาว่าสิ่งที่เห็นและได้ยินจะหลุดออกมาจากปากช่อลดาได้
ช่อลดามองกรวิกด้วยแววตาที่เย็นชา
เป็นการมองที่ทำให้กรวิกขนลุกซู่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
ชายหนุ่มรู้ได้ในทันทีว่าสายสัมพันธ์ระหว่างเขากับหญิงสาวขาดสะบั้นลงอย่างสิ้นเชิง
กรวิกออกไปแล้ว ลักษณ์เดินเข้ามาถามช่อลดาว่าเป็นอะไรหรือเปล่า
ช่อลดาว่าไม่เป็นไร ยังไงการแต่งงานของเมลานีและกรวิกก็ต้องเกิดขึ้น
ลักษณ์ยกมือขึ้นแตะไหล่หญิงสาวอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะเดินออกมา
ทันทีที่ลักษณ์เดินพ้นห้องไป ช่อลดาเซแล้วทรุดไปกับราวระเบียง
หญิงสาวปวดมวนท้องราวๆกับมีผีเสื้อเป็นหมื่นๆตัวกระพือปีกอยู่ในนั้น
ช่อลดาซุกตัวร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด
แต่เธอเอามือปิดปากบังคับตัวเองไม่ให้เสียงสะอื้นดังลอดออกมา
0000000000000000000000000000
ปราชญ์ได้รู้แล้วว่าลักษณ์ยังไม่ตาย
เขาเรียกประชุมคณะกรรมการบอร์ด เพื่อจะบอกว่า เขาได้ลาออกจากตำแหน่งประธานแล้ว
และจะแต่งตั้งประธานโรงพยาบาลคนใหม่ ปรัชญายืนขึ้นอย่างภาคภูมิ
ด้วยความคิดว่าจะเป็นตัวเองเต็มที่ แต่แล้วก็ต้องช็อก
เมื่อเห็นลักษณ์ก้าวเข้ามาในห้องประชุม ปราชญ์แนะนำกับคณะกรรมการทุกคน
"ในนามคณะกรรมการบอร์ด ผมขอแต่งตั้งคุณหมอลักษณ์
พิษณุการเป็นประธานบริษัทคนใหม่ มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการบริหารจัดการทุกเรื่อง
ขอแสดงความยินดีด้วยครับ"
คณะกรรมการทุกคนลุกขึ้นยืนปรบมือ ปรัชญาตะโกนลั่น
"ไม่จริง แกจะมาแย่งตำแหน่งฉันได้ยังไง ในเมื่อแกตายไปแล้ว เป็นไปไม่ได้
ฉันเห็นกับตา แกตายไปแล้ว แกตายแล้วไอ้ลักษณ์ แกถูกฆ่าตาย!"
ลักษณ์ยืนจ้องปรัชญานิ่ง "คุณรู้เพราะคุณเป็นคนจ้างไอ้พวกมือปืนนั่นฆ่าผม"
ปรัชญาขวัญหนีดีฝ่อ วิ่งสติแตกออกจากห้องไป
เจอตำรวจเดินเข้ามาหมายจะจับกุมตัวไปโรงพัก ปรัชญาปฏิเสธลั่นว่าเขาไม่เกี่ยว
ปราชญ์เดินตามมาสมทบบอกให้ปรัชญารับผิดซะ ปรัชญาแค้นจัด
"นี่แกจัดฉากแต่งตั้งประธานวันนี้เพื่อจะลากฉันเข้าตารางงั้นเหรอไอ้แก่"
ลักษณ์ตกใจ "คุณจะพูดอะไรควรจะให้เกียรติท่านประธานบ้าง ท่านเป็นคุณพ่อคุณนะ"
"มันไม่ใช่พ่อกู มันเป็นพ่อมึงต่างหากล่ะไอ้โง่"
ลักษณ์ตะลึง
จับต้นชนปลายไม่ถูก ในขณะที่ปราชญ์ได้แต่อึ้ง
นึกไม่ถึงว่าความลับจะแตกในสถานการณ์อย่างนี้ ลักษณ์ถามว่าหมายถึงอะไร
"ผู้ชายคนนี้ไงล่ะที่ถีบหัวแม่มึงส่ง แล้วมาแต่งงานกับผู้หญิงรวยๆอย่างแม่กู
ผู้ชายคนนี้ที่ทิ้งแม่มึงตั้งแต่มึงยังเกาะสายสะดือแม่มึงอยู่ในท้อง
คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อมึง เขารักมึงมากเลยไอ้ลักษณ์" ปรัชญาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
ลักษณ์อื้ออึง พูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง ดีใจที่รู้ว่าใครคือพ่อ
แต่ก็เสียใจในชะตากรรมของตัวเองและแม่ ทุกคนพยายามเกลี้ยกล่อมให้ปรัชญายอมมอบตัว
แต่ปรัชญาวิ่งไปคว้าปืนในห้องทำงานมา แล้วจับปราชญ์เป็นตัว
ลักษณ์ขอแลกตัวเองเข้าเป็นตัวประกันแทนปราชญ์
ปราชญ์และตำรวจยังตามปรัชญาที่ล็อคคอลักษณ์ไว้เป็นตัวประกัน
ปราชญ์พยายามเดินเข้ามาใกล้ๆปรัชญา พลางเกลี้ยกล่อม แต่โดนปรัชญายิงใส่ขา
ปรัชญากดลิฟท์ถี่ยิบ เสียงลิฟท์ดังขึ้น ประตูลิฟท์เปิดออก
ปรัชญายิ้มหลุดโลกเหมือนคนบ้า ลักษณ์เงยหน้าขึ้นไปเห็น
เห็นป้ายกระดาษเขียนด้วยตัวหนังสือตัวใหญ่ๆว่า "ระวัง..ลิฟท์ค้าง!"
ลักษณ์ร้องห้ามลั่น แต่ไม่ทัน ขาปรัชญาก้าวไปในอากาศที่เวิ้งว้างและมืดมิด
ชายหนุ่มตกวูบลงไป ลักษณ์พุ่งเข้าไปดึงมือปรัชญาที่ตะกายไขว่คว้าอากาศไว้ได้
ปรัชญาพยายามจับมือลักษณ์ไว้แน่น ลักษณ์บอกปรัชญา
"จับมือพี่แน่นๆ จับแน่นๆ"
ปรัชญามองหน้าลักษณ์แวบหนึ่ง เป็นแวบสุดท้าย
แล้วปรัชญาก็ไม่สามารถเกาะมือลักษณ์ได้ไหว
ร่างชายหนุ่มดำดิ่งลงไปยังพื้นเบื้องล่างราวกับโดนนรกสูบ
เสียงร้องที่เปล่งออกมาก็ไม่ต่างจากเปรตขอส่วนบุญ
ลักษณ์มองภาพสยดสยองที่อยู่เบื้องล่าง
ก่อนจะหันหลังพิงลิฟท์อย่างหมดอาลัยตายอยากในชีวิต
ในขณะที่ปราชญ์เห็นหน้าลักษณ์ก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับปรัชญา
ปราชญ์จัดงานศพให้ปรัชญา ลักษณ์มาร่วมด้วย สองพ่อลูกไม่มีอะไรจะพูดกัน
ลักษณ์ยกมือไหว้จะลากลับ แต่ปราชญ์เรียกไว้
"เดี๋ยวสิลูก อย่าเพิ่งไป"
ลักษณ์ชะงัก ชายหนุ่มน้ำตาคลอกับคำว่า "ลูก" ซึ่งหลุดออกมาจากปากปราชญ์
"อยู่ให้พ่อได้ขอโทษลูกก่อนได้มั้ย พ่อไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งลูก
เพียงแต่แม่ของลูกรู้เรื่องการแต่งงานของพ่อจากแม่ของปรัชญา
ก่อนที่พ่อจะได้อธิบายความจริงให้ฟัง หลังจากนั้นแม่ของลูกก็หายไป
พ่อพยายามตามหาแทบพลิกแผ่นดินก็ไม่เจอ จนกระทั่งลูกโต พ่อถึงรู้ว่าแม่หนีไปอยู่
อเมริกาและเลี้ยงลูกที่นั่น ลูกรู้มั้ยวันที่พ่อค้นพบว่ามีคนชื่อหมอลักษณ์
พิษณุการ อยู่ในโลกนี้ พ่อดีใจขนาดไหน
พ่อรู้ได้ในทันทีว่าลูกต้องเป็นลูกของพ่อเพราะ "พิษณุการ"
คือนามสกุลของผู้ญิงที่พ่อรัก"
"แล้วท่านทิ้งแม่ไปแต่งงานใหม่ทำไม"
"แม่ของปรัชญาท้อง เขามาขอให้พ่อช่วยแต่งงานกับเขา
เพราะลูกสาวท่านผู้หญิงพิศมัยจะท้องโดยไม่มีพ่อไม่ได้
ท่านผู้หญิงพิศมัยมีบุญคุณกับพ่อมาก
พ่อจึงต้องตอบแทนบุญคุณท่านโดยที่พ่อไม่รู้ว่าแม่ของลูกท้อง
พ่อมารู้จากจดหมายที่แม่เขียนทิ้งไว้ในวันที่หนีพ่อไป"
ลักษณ์น้ำตาไหล
"แม่ไม่เคยพูดว่าพ่อเป็นใครตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต แต่สิ่งที่แม่พูดเสมอคือ
พ่อเป็นคนดี และขอให้ผมเป็นคนดีเหมือนพ่อ แม่ไม่เคย
โทษว่าการที่เราต้องอยู่อย่างลำบากตามลำพังสองคนเป็นความผิดของใคร
แต่ให้คิดในแง่ดีว่าบางทีพระเจ้าก็ประทานส่วนที่ขาดมาเพื่อให้เรารู้จักเติมให้มันเต็ม
แม่อยากให้ผมเป็นหมอเพราะจะได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
และหวังว่าความดีงามจากการช่วยนั้นจะทำให้ผมได้พบกับคนที่ให้กำเนิดผมสักวัน"
"นุดีเป็นผู้หญิงที่มีน้ำใจประเสิรฐและดีงาม ลูกถึงได้ดีงามเหมือนแม่ พ่อเสียใจ
ถ้าพ่อเลือกได้พ่อจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้
พ่อจะยอมเป็นคนเนรคุณคนดีกว่าต้องเสียเมียและลูกไป พ่อขอโทษ ขอโทษจริงๆ
ยกโทษให้พ่อด้วยลักษณ์ อภัยให้พ่อด้วย"
ลักษณ์ก้มลงกราบแทบเท้าปราชญ์
ปราชญ์เจ็บจี๊ด ถ้าลูกจะโกรธเขาบ้าง เขาอาจจะไม่เจ็บเพราะรู้สึกผิดมากเท่านี้
"ผมจะยกโทษให้ได้ยังไง ในเมื่อผม ไม่เคยโกรธพ่อเลยสักครั้ง"
"ลูกพ่อ"
ปราชญ์ประคองลักษณ์ขึ้นมา
ทั้งคู่ยืนกอดกันด้วยความรักความผูกพันที่ต่างฝ่ายต่างถวิลหาซึ่งกันและกันมานานแสนนาน
กรวิกไม่เอาใจใส่ในเรื่องการเตรียมงานแต่งงานเลย แม้กระทั่งเรื่องหาสถานที่
กรวิกก็แค่ขับรถมาส่งเมลานีที่โบสถ์ ให้เมลานีเข้าไปติดต่อเอง เมลานีน้อยเนื้อต่ำใจ
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่คิดว่าสักวันกรวิกคงมองเห็นความรักของเธอ
เมลานีเดินเข้ามาในโบสถ์ หญิงสาวมองหาเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่
แต่ไม่เห็นใครนอกจากผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่เบื้องหน้าองค์พระเยซู
เมลานีเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น แล้วถามอย่างเกรงใจ
"คุณคะ
คุณพ่อโจเซฟอยู่มั้ยคะ"
ผู้หญิงคนนั้นหันมา
แล้วเมลานีก็ต้องอึ้งเมื่อพบว่าผู้หญิงคนนั้นคือ ช่อลดา ช่อลดาก็อึ้ง
ตะลึงงันไม่แพ้กัน ไม่คิดว่าจะพบเมลานีที่นี่
ใจร้าว จบตอน 21

ใจร้าว 22

ช่อลดาเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ บอกว่าหลวงพ่อโจเซฟอยู่ที่ออฟฟิศด้านหลัง
เมลานีบอก่วาเธอมาจองโบสถ์สำหรับจัดงานแต่งงาน ช่อลดากล้ำกลืนฝืนยิ้มแสดงความยินดี
ก่อนจะบอกว่าเธอก็มาจองสถานที่แต่งงานกับหมอลักษณ์เหมือนกัน เมลานียิ้มออกมาได้
ก่อนจะพูดตอกย้ำ
"แล้วเธอกับหมอลักษณ์เตรียมงานไปถึงไหนแล้ว
ต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็บอกนะ ฉันยินดีช่วย
ตอนนี้ฉันกับวิกไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ เพราะเตรียมงานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
เหลือแต่ไปแจกการ์ดผู้ใหญ่แค่นั้น"
เมลานีพูดไปยิ้มไป
แต่เพื่อต้องการย้ำให้ช่อลดารู้ว่าเธอกับกรวิกจะแต่งงานกันจริงๆ
ช่อลดาซ่อนหัวใจที่ร่ำไห้ไว้ใต้รอยยิ้มได้อย่างมิดชิด
กรวิกนอนหลับฝันร้าย
เขาตื่นขึ้นมาไม่รู้จะไปทางไหน มองเห็นโบสถ์ที่เมลานีเดินเข้าไป ก็เลยเดินตามเข้ามา
เจอกับช่อลดาเข้าเต็มเปา กรวิกเลือดสูบฉีดแล่นพล่านไปทั้งตัว
ใจเต้นตูมตามราวกับจะทะลุออกมานอกอก ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับหญิงสาว
เมลานีแอบสังเกตเห็นปฏิกิริยาของทั้งคู่ เลยพูดเตือนสติเพื่อให้ทั้งคู่รู้สถานะว่า
ต่างคนต่างมีเจ้าของแล้ว
"เอยมาขอใช้สถานที่แต่งงานเหมือนเรา
บังเอิญจังเลยนะคะ"
กรวิกรู้สึกเหมือนตกลงมาจากที่สูง จุกเสียดแน่นไปหมดทั้งใจ
ช่อลดาก็แทบลืมหายใจเหมือนกัน กรวิกกัดฟันพูดเสียงสั่น
"ยินดีด้วยนะ"
"เช่นกันค่ะ"
กรวิกใจหาย ช่อลดาพูดสั้นๆแค่นี้เองหรือ
ชายหนุ่มส่งสายตาตัดพ้อน้อยใจ กรวิกไม่ได้ยินเสียงใดใด
ชายหนุ่มมัวแต่จ้องลึกลงไปในดวงตาของช่อลดา
เมลานีควงแขนกรวิกซึ่งยังคงยืนมองช่อลดาพร้อมส่งสายตาตัดพ้ออีกแวบนึงก่อนจะยอมเดินไปกับเมลานี
ช่อลดายืนมองทั้งคู่เดินจากไป
หญิงสาวหันหลังให้ภาพบาดตานั้นด้วยสภาพหัวใจที่สุดแสนจะบอบช้ำ
ทันทีที่กรวิกและเมลานีเดินพ้นประตูโบสถ์ไป ช่อลดาก็ล้มตึง
ที่ห้องทำงานลักษณ์
ลักษณ์เปิดประตูออกมาแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นแสงฉายซึ่งอยู่ในชุดคนไข้ของโรงพยาบาลโผเข้ามาหาชายหนุ่มด้วยน้ำตานองหน้า
แสงฉายบอกว่าเธอกลัว ลักษณ์บอกแสงฉายว่าจะได้ออกจากที่รพ.แน่
แต่ต้องให้แน่ใจว่ายาที่ปรัชญาบังคับให้แสงฉายกินนั้น หมดฤทธ์ที่ทำให้เกิดอาการหลอน
ไม่มีผลข้างเคียงแล้ว แสงฉายขวัญผวา
"แต่แซนดี้กลัว คุณปรัชญาต้องมาหักคอแซนดี้
เขาต้องตามมาเอาชีวิตแซนดี้แน่ๆ แซนดี้กลัว กลัว ช่วยด้วย ช่วยด้วย"
แสงฉายกอดลักษณ์แน่น ลักษณ์ดันหญิงสาวออก แล้วเขย่าตัวก่อนจะพูดเตือนสติ
"ฟังนะแซนดี้ ปรัชญาตายไปแล้ว เขาอยู่คนละโลกกับคุณ
เขาไม่มีวันกลับมาทำร้ายคุณได้ คนที่จะฆ่าคุณได้มีอยู่แค่คนเดียว"
แสงฉายตาเหลือก มองไปรอบๆตัวอย่างหวาดผวา "ใคร"
"ตัวคุณเอง
ถ้าคุณสลัดเรื่องปรัชญาออกไปจากความคิดจากจิตใต้สำนึกไม่ได้ เขาก็จะอยู่กับคุณ
ตามหลอกหลอนคุณไปตลอดชีวิต เข้าใจมั้ย"
แสงฉายปล่อยโฮ
สักพักตำรวจเดินมาขอรับตัวแสงฉาย
ในฐานะผู้ต้องสงสัยคดีจ้างวานฆ่าหมอลักษณ์ไปให้ปากคำ แสงฉายตาแทบปลิ้น
มือไม้ปากคอสั่น ปฏิเสธลั่น ลักษณ์แก้ตัวให้
"ผมว่า
คงมีการเข้าใจผิดกันแล้วล่ะครับ แสงฉายเป็นภรรยาผม
เธออยู่ในเหตุการณ์วันที่ผมถูกทำร้ายก่อนจะถูกพาตัวไป
ตัวเธอเองก็โดนทำร้ายด้วยการถูกบังคับให้กินยากล่อมประสาทอย่างแรงด้วยเหมือนกัน
ฤทธิ์ของยากล่อมประสาทมีผลทำให้ผู้เสพไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ บางขณะ
ผมเชื่อว่าคุณปรัชญาอาจจะพาเธอไปไหนต่อไหนในช่วงเวลาที่เธอไม่รู้ตัว
แต่เพื่อความถูกต้อง ผมจะพาเธอไปให้การที่โรงพักเองหลังจากที่เธอหายป่วยแล้ว"
ตำรวจยอมเชื่อ แล้วขอตัวออกไป แสงฉายปล่อยโฮที่เคยคิดร้ายกับลักษณ์
ลักษณ์บอกว่าเขาไม่เคยถือโทษโกรธแสงฉายเลย แสงฉายบอกว่าเธอจะกลับตัวเป็นภรรยา
เป็นแม่บ้านที่ดี แต่ลักษณืบอกว่าเขากับแสงฉาย ยังไงก็เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น
แสงฉายอึ้ง พูดไม่ออก หน้าที่เพิ่งเช็ดน้ำตาออกหมาดๆ กลับมีน้ำตาไหลรินออกมาอีก
กรวิกนั่งซึม เมลานีถือถ้วยกาแฟมาให้ กรวิกก็หันไปรับด้วยท่าทีเหม่อลอย
จนกาแฟหกใส่มือ เมลานีตกใจ รีบหาทิชชู่มาเช็ดให้ แล้วหญิงสาวก็อึ้งกิมกี่เมื่อจู่ๆ
กรวิกก็ถามคำถามที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินมาก่อน
"ทำไมคนเราถึงได้ลืมความรัก
ลืมอดีตที่ผูกพันกันง่ายนัก คุณสามารถรักใครอื่นทั้งๆที่คุณมีคนรักอยู่แล้วได้มั้ย
ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ"
"แล้ววิกจะแต่งงานกับเมนี่ทำไม"
เมลานีน้ำตาคลอ
"ความรับผิดชอบไงครับ คุณให้ชีวิตผม
ผมก็ตอบแทนคุณด้วยชีวิตแต่ไม่ใช่หัวใจ"
"สักวัน
เมนี่จะทำให้วิกรักเมนี่ด้วยหัวใจให้ได้"
"อย่าเสียเวลาเลยครับ
หัวใจผมมีแค่ดวงเดียว และคนคนเดียวที่เป็นเจ้าของก็คือ น้องเอย" เมลานีอึ้ง
กรวิกและเมลานีอยู่ในชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวซึ่งจะใส่ในวันงาน
เตรียมตัวที่จะถ่ายรูปเจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่แล้วสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด
คือทอปัดเดินตึงๆเข้ามา แล้วผลัก
เมลานีออกไปจากกรวิก
แล้วบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับกรวิก กรวิกถอนใจระอา
ก่อนจะตัดปัญหาด้วยการดึงแขนทอปัดออกไป ภัทรเข้าใจว่าทอปัดคือกิ๊กใหม่ของกรวิก
แต่เมลานีบอกว่าทอปัดคือน้อง ภัทรสงสัยว่าน้องอะไรถึงได้ทำท่าหึงหวงขนาดนี้
เมลานีเหนื่อยใจ ในขณะที่ภัทรอยากรู้อยากเห็น
ทอปัดทุบตีกรวิก
ที่ทำร้ายจิตใจเธอด้วยการจะแต่งงานกับเมลานี กรวิกถามว่าแล้วเกี่ยวอะไรกับทอปัดด้วย
ทอปัดโวยวายน้ำตาไหล
"ก็ปัดรักพี่วิก ที่ปัดทำทุกอย่าง
พาตัวเองมาเป็นดาราก็เพราะปัดรักพี่วิก ปัดต้องการให้พี่วิกรักปัด ชื่นชมปัด
เห็นปัดอยู่ในสายตาบ้าง แต่พี่วิก กลับเห็นนังนั่นดีกว่าปัด
พี่วิกถึงได้แต่งงานกับมัน พี่วิกใจดำ ทำไมถึงได้ใจดำ ทำร้ายปัดได้ขนาดนี้ ทำไมๆๆ"
กรวิกเขย่าตัวทอปัดเพื่อเรียกสติ "หยุดเดี๋ยวนี้นะทอปัด
ถ้าเธอไม่ได้เป็นน้องฉัน ฉันจะโทรเรียกตำรวจมาลากเธอออกไปเดี๋ยวนี้ หัดมีสติบ้างสิ
เธอไม่ใช่เด็กอมมือแล้วนะ เธอไม่รู้เลยเหรอว่าคำว่า "น้อง" สำคัญกับฉันแค่ไหน
ฉันอาจจะรักผู้หญิงสักคนแล้วหันหลังให้เขาได้ แต่ฉันหันหลังให้น้องตัวเองไม่ได้
ถึงเธอจะทำผิดพลาดยังไง ฉันก็อภัยให้เธอได้เสมอ เพราะเธอเป็นน้องของฉัน
เข้าใจมั้ย..ทอปัด"
ทอปัดได้ยินสิ่งที่กรวิกพูดแล้วร้องไห้โฮ
หญิงสาวโผเข้ากอดชายหนุ่ม กรวิกเห็นทอปัดสะอื้นตัวโยนก็กอดกลับ แล้วพูดปลอบใจ
"อย่าเอาตัวเองเข้าแลกกับอะไรเพื่อพี่อีก
พี่ไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอนอกจากความเข้าใจ
เธอไม่ผิดหรอกที่เลือกทางเดินชีวิตบนเส้นทางสายบันเทิงแบบนี้
ในเมื่อมันเป็นความฝันของเธอ พี่ขอให้เธอเดินไปตามความฝันอย่างตั้งใจ
มันอาจจะมีอุปสรรคระหว่างทางบ้าง เธอต้องอดทนให้มาก แล้วก็มั่นฝึกฝนตัวเอง
แต่สองสิ่งนี้ก็ยังไม่พอ เธอต้องมีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ด้วย
นั่นจะทำให้เธออยู่ในวงการนี้ได้นาน เข้าใจมั้ย"
ทอปัดพูดไม่ออก
ได้แต่พยักหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น
"พี่ขออวยพรให้เธอประสบความสำเร็จบนเส้นทางสายนี้ และถ้ามีปัญหาอะไร
อย่าลืมว่าเธอยังมีพี่ชายคนนี้อยู่เคียงข้างเธอเสมอ"
ทอปัดโผเข้ากอดกรวิกแน่นอีกครั้ง
ลักษณ์พาช่อลดาส่งโรงพยาบาล
หลังจากที่ช่อลดาเป็นลมที่โบสถ์ แต่แล้วเมื่อตรวจร่างกาย ก็พบว่าช่อลดากำลังจะมีลูก
ลักษณ์อึ้งเหมือนโลกจะถล่ม เขาบอกเรื่องนี้กับช่อลดาเมื่อเธอฟื้นมา
ช่อลดาอึ้งไม่แพ้กัน ลักษณ์บอกให้ช่อลดาบอกเรื่องนี้กับกรวิก ก่อนที่จะสายไป
ช่อลดายืนยันว่าลูกคนเดียวเธอเลี้ยงได้ แต่เธอจะไม่ทำร้ายจิตใจใครเด็ดขาด
ลักษณ์เตือนสติ ว่ายังไงเด็กก็ต้องมีพ่อ ช่อลดาเอามือปิดหน้า
ระเบิดเสียงร่ำไห้ที่อัดอั้นอยู่ในใจ
"แล้วพี่ลักษณ์จะให้เอยทำยังไง
เอยเจอคุณเมนี่ที่โบสถ์ เอยเห็นสีหน้าเธอ
เอยก็รู้ว่าเธอดีใจและมีความสุขแค่ไหนที่จะได้แต่งงานกับพี่วิก
ตัวพี่วิกเองก็คงทำใจเรื่องเอยได้แล้ว
เอยจะไปทำให้ความรู้สึกของทุกคนพังทลายอีกครั้งได้ยังไง"
"เอยรู้มั้ยว่า
บางครั้งพี่ยังนึกน้อยใจที่เอยเข้าใจความรู้สึกของสองคนนั่นมากกว่าพี่ ถ้าตอนนี้
พี่จะขอให้เอยถนอมความรู้สึกของพี่เหมือนคนอื่นบ้างล่ะ เอยจะทำได้มั้ย"
ช่อลดาชะงัก "พี่ลักษณ์จะให้เอยทำอะไร"
"อนุญาตให้พี่เป็นพ่อของลูกเอยได้มั้ย
ในเมื่อพี่ไม่มีวันจะได้ตัวและหัวใจของคนเป็นแม่
ก็ขอให้พี่ได้เป็นพ่อของลูกของผู้หญิงที่พี่รักเถอะนะ"
ช่อลดามองลักษณ์ด้วยความรู้สึกเต็มตื้น หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตา
ลักษณ์กำลังมาหาที่พึ่งทางใจที่โบสถ์ ขณะพึมพำอยู่กับพระเจ้า
"ลูกทำถูกต้องแล้วใช่มั้ยครับ ช่วยตอบลูกทีว่าลูกทำถูกต้องแล้ว"
เงียบ
ไม่มีคำตอบและสรรพเสียงใดใดตอบกลับ นอกจากเสียงหัวใจเต้นของชายหนุ่ม
ลักษณ์นั่งอยู่ในความเงียบสักครู่จึงลุกขึ้น แล้วเดินออกไป
เมลานีเดินนำทีมงานจัดดอกไม้ซึ่งขนอุปกรณ์และดอกไม้บานเบอะประมาณเต็มรถสิบล้อเข้ามา
ทั้งคู่เจอกันที่กลางโถง
ต่างคนต่างอึ้งไปชั่วขณะเพราะตั้งแต่กลับจากผจญเวรผจญกรรมกับพวกโจรห้าร้อยมา
ทั้งคู่ยังไม่มีโอกาสได้คุยกันสักคำ
ลักษณ์ลุกขึ้นแสดงความยินดีกับเมลานี
เมลานียิ้มขอบคุณ และบอกว่า ลักษณ์ก็เช่นกัน หากมีงานแต่งเมื่อไหร่ อย่าลืมเชิญ
เธอกับกรวิกด้วย ลักษณ์บอกว่ามีแน่นอน แต่ยังไม่ใช่เร็วๆนี้
เมลานีเชิญให้ลักษณ์และช่อลดามางานแต่งเธอด้วย ลักษณ์บอกว่าจะพยายาม
ลักษณ์ก้มศีรษะให้เมลานีอย่างสุภาพก่อนจะเดินผละออกมา เมลานีเผลอเรียกชายหนุ่มไว้
แล้วถามถึงเรื่องแผลบาดเจ็บ ลักษณ์ยิ้ม
"ครับ ขอบคุณนะครับที่จำได้
หวังว่าแผลของคุณคงหายดีแล้วเหมือนกัน"
ทั้งคู่มองตากัน
ภาพที่ต้องผจญภัยหนีผู้ร้ายอยู่ในป่าผุดขึ้นมากลางใจแวบนึงแล้วก็หายวับไป
ลักษณ์เดินผละจากเมลานีออกมา ในขณะที่หญิงสาวยังคงมองตาม
ใจร้าว จบ 22


โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn

Readlakorn
เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ช่อง3,5,7,นิยาย ไทยรัฐ,
ละครเกาหลี,ละครไต้หวัน (Series), ลิ้งค์(Links) ดูละคร Youtube, ลิ้งค์ดาวน์โหลด
(Download) เพลงละคร OST. และ เพลง MP3 ทั่วไป ทั้งVampires (แวมไพร์) Sumo อื่นๆ
เรื่องย่อละคร
ใจร้าว ดินเนื้อทอง สื่อรักชักใยอลวน ดาวจรัสฟ้า คิมชูซอน
เมนูรักเชฟมือใหม่ ศิลามณี คู่ป่วนอลวน เจ้าหญิงลำซิ่ง ภูติแม่น้ำโขง
เพราะรักนี้มิอาจลืม (Alone in Love) หีบหลอนซ่อนวิญญาณ อุบัติรักข้ามขอบฟ้า

Readlakorn

Related Posts



6 comments:

Anonymous said...

อยากทราบว่าทั้งหมดมีกี่ตอน

Anonymous said...

ขอบคุณค่ะ

Anonymous said...

ขอบคุณมั่ก ๆ นะค่ะ

Anonymous said...

อ่านอีกๆๆ สนุกมากค่ะ

ขอบคุณมากๆเลย

Anonymous said...

ขอบคุณค่ะ.....อย่าลืมมาโพสต์ให้อีกนะ

Anonymous said...

สนุกมาก ขอบคุณนะคะ

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal