Friday, November 07, 2008

คิมชูซอน- เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ - คิมชูซอน (63)จบบริบุรณ์

คิมชูซอน 63

"เจ้ากรมมหาดเล็ก เมื่อกี้ท่านบอกว่า ข้าเป็นทรราชย์งั้นหรือ"
"การที่ฝ่าบาททรงใช้อำนาจเผด็จการ บีบคั้นเหล่าขุนนาง กดขี่ข่มเหงราษฎร จนคนดีๆ
ลาออกจากราชการ ชาวบ้านก็หมดศรัทธา เริ่มต่อต้านฝ่าบาทนานแล้ว
เพราะฝ่าบาททรงผิดต่อหลักทศพิธราชธรรม เป็นทรราชย์ที่ฆ่าคนเป็นผักปลา
ยึดติดกับความโหดร้าย ยังไม่รู้พระองค์อีกหรือพ่ะย่ะค่ะ" "ไม่จริง
ทุกวันนี้เหล่าขุนนาง ต่างบอกว่าบ้านเมืองร่มเย็น ใครๆ ก็ชื่นชมข้า
แล้วทำไมท่านมาตำหนิข้าแบบนี้"


"นับแต่ทรงครองราชย์มาก็เริ่มกำจัดขุนนางที่ทูลด้วยความหวังดี
สั่งให้ทำป้ายเตือนสติ เท่ากับปิดกั้นทุกคนไม่ให้แสดงความเห็น จนวันนี้
เหลือแต่พวกกังฉินประจบสอพลออยู่ข้างพระวรกายเท่านั้น ทรงเป็นถึงพระราชา
แต่กลับหูเบาเชื่อคนถ่อยง่ายๆ แทนที่จะฟังความเห็นจากคนที่ภักดี
ฟังเสียงโอดครวญของราษฎรจะได้ทรงปรับปรุงให้ดีขึ้น" พระเจ้ายอนซันทรงโกรธ "หนอย"
พงชอนรีบสอพลอทันที "เจ้ากรมมหาดเล็ก ท่านรู้หรือเปล่าว่าอยู่ต่อหน้าใคร
กล้าพูดจาส่งเดชหรือ" คิมชูซอนหันมาย้อนพงชอน "ท่านก็เหมือนกัน เป็นถึงเชื้อพระวงศ์
รับเบี้ยหวัดจากทางการอยู่แล้ว วันๆ กลับสรรหาแต่นางโลมมาเข้าวัง
ชักจูงฝ่าบาทไปในทางเสื่อมเสีย พาให้พระองค์หมกมุ่นกับอบายมุขยังไม่พออีกหรือ" "หา
อะไรนะ" "ที่แล้วมาฝ่าบาท ทรงอ้างว่าต้องการเป็นพระราชาที่มีอำนาจเต็ม
เป็นเหตุให้สังหารขุนนางที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประหารมเหสีโซฮวา
รวมถึงสนมของอดีตพระราชาก็ไม่เว้น
รับสั่งว่าจะยึดที่นาคืนจากขุนนางเพื่อให้มีงบประมาณมากขึ้น จะได้ไปช่วยคนที่ลำบาก
แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นสภาพนี้ ท้องพระโรงอันศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นสถานที่จัดเลี้ยง
เต็มไปด้วยนางโลมระเกะระกะ ทำให้ท้องพระคลังแทบไม่มีเงินเหลืออีก
ถ้าพระราชาทำตัวแบบนี้แล้ว คนอื่นจะเคารพกฎเกณฑ์ไปทำไมกัน ต่อให้ราษฎร
ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำแค่ไหน ส่งส่วยเข้ามาก็ไม่พอให้ราชสำนักถลุงอยู่ดี
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือความร่มเย็นที่ฝ่าบาทต้องการจะเห็นงั้นหรือ"
พระเจ้ายอนซันได้แต่ขบกราม "หึ" "ฝ่าบาท ทรงเปลี่ยนตอนนี้ยังไม่สายเกินแก้หรอกนะ
หม่อมฉันเชื่อว่าพระองค์ แค่ถูกกิเลสบังตาและแวดล้อมด้วยพวกสอพลอเท่านั้น
ทำให้สติของพระองค์ ขาดการยั้งคิดไปชั่วคราว ตอนนี้ ขอเพียงกำจัดพวกสอพลอให้หมดไป
โดยเฉพาะคนอย่างใต้เท้าพงชอน ฝ่าบาทก็จะทรงดีขึ้นทันที" พงชอนขบกรามโกรธแค้น "ฮึ่ม"
"ยังมีขันทีกังฉิน ที่ถือว่าเป็นคนโปรดของฝ่าบาท ใช้อำนาจกดขี่ราษฎร
เอารัดเอาเปรียบอย่างคิมจาวอนก็ทรงรับสั่งให้ประหารซะ หรือแม้แต่สนมชาง
ที่ทำให้ฝ่ายในเสื่อมเสียอย่างมาก ก็สมควรไล่ออกจากวังซะเดี๋ยวนี้ ฝ่าบาท
ทรงยุติความเหลวแหลกทั้งหมด ขับไล่นางโลมออกจากวังเถอะพ่ะย่ะค่ะ
จากนั้นก็ให้บัณฑิตสามกรมใหญ่กลับมาทำงาน
นับแต่นี้ทรงห่วงใยทุกข์สุขดูแลราษฎรให้ดีขึ้น นี่ต่างหาก
คือวิถีแห่งการเป็นพระราชาที่ดี อันจะทำให้บ้านเมืองร่มเย็นอย่างแท้จริงพ่ะย่ะค่ะ"
"หึ แม้ท่านจะเป็นมหาดเล็กที่ข้าโปรดปรานที่สุด แต่ก็ไม่อยากทนฟังเพ้อเจ้ออีกแล้ว
วันนี้ข้าจะให้อภัยซักครั้ง รีบออกไปเดี๋ยวนี้"
"โปรดฟังคำเตือนของหม่อมฉันซักครั้งเถอะพ่ะย่ะค่ะ"
"ข้าบอกให้ออกไปเดี๋ยวนี้ไม่ได้ยินหรือ หึ" "หม่อมฉัน เคยเชื่อว่าฝ่าบาท
ซักวันคงสำนึกถึงพระปณิธานในการครองราชย์ที่แท้จริง
จากที่หลายปีนี้หม่อมฉันอดทนด้วยความเจ็บปวด
เฝ้ามองฝ่าบาททำทุกอย่างที่ผิดศีลธรรมจรรยา หม่อมฉันก็ยังหวังว่าฝ่าบาทจะทรงคิดได้
แต่มาถึงวันนี้ ฝ่าบาททรงทำให้หม่อมฉันผิดหวัง ทำให้เหล่าขุนนางรวมถึงราษฎร
ผิดหวังในตัวฝ่าบาทด้วย" "อะไรนะ" "คนที่ไร้ซึ่งความศรัทธาจากปวงชน
แม้เป็นพระราชาก็ไม่อาจครองตำแหน่งได้นานหรอก" "หุบปากเดี๋ยวนี้ ข้ามั่นใจมาตลอดว่า
อย่างน้อยก็มีท่านคนหนึ่งที่ไม่มีวันหักหลังข้า
แล้วทำไมวันนี้ท่านมาดูหมิ่นข้าขนาดนี้" คิมชูซอนคุกเข่า "ฝ่าบาท
อย่าทรงทำลายผลงานของเสด็จพ่อ และอย่าละเมิดการเสียสละอันสูงส่ง
ของมเหสีโซฮวาอีกเลย ป่านนี้ทั้งสองพระองค์ คงกันแสงเพราะฝ่าบาทจะแย่แล้ว"
"บังอาจนัก ฮึ่ม หึ คิมชูซอน ข้าจะฟันท่านให้คอขาด ตัดลิ้นออกมาซะ
ดูซิยังจะกล้าสั่งสอนข้าอีกหรือเปล่า" "หม่อมฉันพร้อมจะรับความตายอยู่แล้ว
ถึงวันนี้คงไม่มีอะไรต้องกลัวอีก แต่ก่อนที่ ฝ่าบาทจะทรงลงมือ
ขอให้ทำลายโถใบนี้ด้วยพระองค์เองก่อน" "อะไรนะ" "ภายในโถประจำตัวใบนี้
มีสิ่งที่บรรจุ คือสมบัติส่วนตัวของหม่อมฉันเอง สมัยที่หม่อมฉันยังหนุ่ม
เพราะไม่อาจตัดใจจากความรักที่มีต่อมเหสีโซฮวา จึงได้ยอมตอนตัวเอง
ตัดสินใจเป็นมหาดเล็กเพื่อจะปกป้องนางไว้" "ท่าน ว่ายังไงนะ
มหาดเล็กต่ำต้อยอย่างท่าน บังอาจลบหลู่เสด็จแม่ข้าเชียวหรือ" "เรื่องนี้มเหสีโซฮวา
ก็ทรงรู้ใจหม่อมฉันดี ก่อนนางจะสิ้นพระชนม์จึงได้สั่งไว้ว่า ให้ดูแลฝ่าบาทให้ดี
แต่วันนี้ หม่อมฉันไม่อาจทำตามสัญญาที่ให้ไว้ได้อีก จึงอยากทำลายโถใบนี้ซะ
เพื่อเป็นการลงโทษที่ผิดสัญญา" "หึ ไม่มีทางซะล่ะ เสด็จแม่ของข้า
จะไปยุ่งเกี่ยวกับมหาดเล็กต่ำต้อยอย่างท่าน ให้เป็นที่เสื่อมเสียได้ยังไง"
"เสด็จแม่ของฝ่าบาท ทรงหวังให้พระองค์ เป็นพระราชาที่ดี" "เงียบเดี๋ยวนี้นะ ย้าก"
พระเจ้ายอนซันระงับความโกรธไม่ได้ลงมือกับคิมชูซอน "ฮือ ฝ่าบาท หึ
แม้จะทรงเพิกเฉยต่อหลักธรรมทั้งมวล ฮือ ก็ขอให้อย่าลืม ฮือ หลักพื้นฐาน
ของการเป็นมนุษย์ โอ๊ะ ฮือ" "ข้าบอกให้เงียบยังไม่ฟังอีก ย้าก" "โอ๊ะ หึ ฝ่าบาท โอย
เฮ่อ" คิมชูซอนสิ้นลม "หึ ชูซอน หึ ทำไมท่าน ต้องลบหลู่ข้าและเสด็จแม่ถึงเพียงนี้
ทำไงได้ เพราะท่านรนหาที่เอง หึ เพราะท่านรนหาที่ หึ"
พระพันปีซุกยอนทรงทราบเรื่องคิมชูซอนจากซังกุงก็ตกพระทัย "ฝ่าบาทน่ะหรือ
ทรงสังหารเจ้ากรมมหาดเล็กด้วยพระองค์เองน่ะ" "ได้ยินว่าท่านเจ้ากรมไปทูลเตือนสติ
ฝ่าบาททรงกริ้วจึงได้ลงมือเพคะ" "หึ ทำไมถึง ทำไมเป็นแบบนี้ได้"
พระพันปีซุกยอนทรงแทบจะเป็นลม พระชายารีบเข้าประคอง "พระพันปี ทำพระทัยดีๆ ไว้เพคะ"
"ใต้เท้าคิม เป็นมหาดเล็กที่อยู่เคียงข้างฝ่าบาท ทำงานด้วยความซื่อสัตย์มานาน
ตอนนี้เท่ากับว่าฝ่าบาทโค่นต้นไม้ใหญ่
ที่ช่วยบังแดดบังฝนให้พระองค์ลงไปทั้งต้นอย่างน่าเสียดาย
เมื่อสูญเสียคนดีอย่างเขาไปแล้ว ต่อไปจะมีใคร อยู่เคียงข้างฝ่าบาทด้วยความภักดีอีก
ฮือ" พระพันปีซุกยอนทรงได้แต่คร่ำครวญเสียใจ
พระเจ้ายอนซันเองก็ทรงซึมเศร้ากับเรื่องคิมชูซอนไม่น้อย "หึ ข้า
ใช้มือข้างนี้สังหารชูซอน เขาเป็นคนที่ เปรียบเหมือนพ่อแท้ๆ ของข้า ดูแลข้ามา
แล้วต่อไปจะมีใครที่ซื่อสัตย์ ไว้ใจได้เหมือนเขาอีก" คิมจาวอนทูลปลอบ "ฝ่าบาท
อย่าทรงคิดมากเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ไม่ใช่ความผิดของพระองค์" พงชอนเสริมทันที
"มหาดเล็กคิมพูดถูกแล้ว ฝ่าบาทเพียงแต่สังหารคนที่ลบหลู่เบื้องสูง
ท้าทายอำนาจของพระราชาต่างหากพ่ะย่ะค่ะ" "ใช่ ถูกต้อง นี่ไม่ใช่ความผิดของข้า
ข้าสู้ไว้ใจ ให้เกียรติเขามาตลอด เขายังไม่รู้บุญคุณ มาดูถูกข้า
ถึงขนาดลบหลู่เสด็จแม่ข้าด้วย หึ แล้วทำไม ข้ากลับรู้สึกไม่สบายใจเลย
เหมือนกลัวอะไรไม่รู้ หึ จาวอน ไปเอาเหล้ามาหน่อยซิ ข้าจะดื่มให้เมา
ไม่งั้นรู้สึกทนไม่ไหว เฮ่อ หึ เฮ่อ" พระเจ้ายอนซันทรงหอบ
เหล่ามหาดเล็กเพื่อนของคิมชูซอนต่างพากันเสียใจไม่น้อยกับการจากไปของคิมชูซอน
วอฮาเห็นศพของคิมชูซอนก็ได้แต่ร้องเรียกให้ตื่น "ชอนตง แม่มาแล้วลูก
ทำไมนอนเฉยไม่ลุกขึ้นมาทักทายล่ะ ตื่นมาเร็วเข้าลูก หึ ชอนตง ชอนตงตื่นมาสิลูก
ไหนว่า เจ้าจะลาออกจากราชการ นับแต่นี้ไปอยู่กับแม่ไม่ใช่หรือ
แล้วทำไมกลับเอาแต่นอนล่ะ หา ลืมตาขึ้นมาดูแม่หน่อยซิ ชอนตงๆ เร็วสิลูก
แม่บอกให้ลืมตาไง" โตชิเตือนสติ "เลิกพูดซะที ตอนนี้เขาตายไปแล้ว
เขาถูกพระราชาฆ่าตาย" "อย่ามาโกหกนะ ข้าไม่เชื่อ หึ เขาเพียงแต่นอนหลับเท่านั้น ฮือ
ถ้าเขาตื่นมาเมื่อไหร่ จะเรียกหาแม่ทันที ชอนตง รีบตื่นมาดูแม่เร็วเข้า ฮือ"
วอฮาร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ "ถ้าเจ้าห่วงเขาแบบนี้ เขาจะวางใจไปอย่างสงบได้ยังไง
เจ้าก็ปล่อยเขาไปเถอะนะ" "ไม่ อย่ามาหลอกข้า ลูกข้ายังไม่ตายซักหน่อย ฮือ
เขาเพิ่งสัญญาว่าจะกลับมาอยู่กับข้าไม่นานนี้ ฮือๆๆ ชอนตงๆ ตื่นมาเร็วเข้า ฮือๆๆ"
ยางซองยุนเอ่ยว่า "ข้าก็ไม่รู้จะพูดยังไง ถึงปลอบใจท่านได้ นอกจากขอให้หักห้ามใจ
ชูซอน ต่อต้านความเผด็จการของฝ่าบาท ไปทูลเตือนด้วยความหวังดี สุดท้ายจึงถูกสังหาร
พวกเราทุกคน ต่างก็ภาคภูมิใจ ในความภักดีของเขาอย่างมาก และหวังว่าการตายของเขา
จะนำแสงสว่างแม้เพียงน้อยนิด มาสู่บ้านเมือง ที่กำลังเข้าสู่ยุคมืดของเรา
ให้ทุกคนมีความหวังขึ้นหน่อย ข้า ขอรับรองในฐานะมหาดเล็ก ที่ภักดีต่อบ้านเมือง"
"ฮือๆๆ ชอนตง ฮือ ลูกแม่ ฮือๆๆ ฮือๆๆ ชอนตง" วอฮาร้องไห้ด้วยความอาลัยยิ่ง
คิมชูซอนยังได้เขียนจดหมายไว้ให้วอฮาว่า "ท่านแม่ วันนี้ข้า
ต้องไปทำหน้าที่ที่สวรรค์มอบหมายให้แล้ว ถ้าอยู่ต่อหน้าท่าน ข้าคงพูดอะไรไม่ออก
นอกจากใช้จดหมายบรรยายความในใจแทน สมัยก่อนท่านเก็บข้ามาเลี้ยงดู
ทั้งที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาก่อน แล้วข้าก็ยังตอนตัวเอง เพื่อเป็นมหาดเล็ก
ทำให้ท่านเสียใจอีก ตลอดเวลาที่ผ่าน ข้าทำให้ท่านเป็นห่วง
แทบไม่เคยอยู่เป็นสุขเลยซักวัน จนสุดท้ายข้ายังต้องไปก่อนท่านโดยไม่ได้ตอบแทนบุญคุณ
ต้องขออภัยด้วย ถ้าชาติหน้ามีจริง ข้าโชคดีได้เกิดเป็นลูกของท่านอีก ข้าให้สัญญาว่า
จะหาภรรยาที่เป็นแม่ศรีเรือน มีลูกมีหลานให้อุ้มชู
เลี้ยงดูท่านในยามแก่เฒ่าให้มีความสุข หึ
ช่วยทำลายผ้าเปื้อนเลือดและมีดเงินของพ่อแม่ข้า ไม่ต้องเก็บไว้อีก ส่วนป้ายหยก
ก็ไปคืนแก่เจ้าของเดิมซะ ท่านแม่ ตั้งแต่ข้ารู้ความ จนถึงวันนี้
ข้าเห็นท่านเป็นแม่คนเดียวเท่านั้น ขอบคุณที่เลี้ยงดู" "ฮือๆๆ ฮือ
ข้าเกลียดสวรรค์นัก ทำไมถึงให้ชอนตง เกิดมาด้วยชะตาที่อาภัพ ได้ 3 อย่าง เสีย 3
อย่างแบบนี้ ฮือ มันช่างไม่ยุติธรรมต่อเขาซะเลย ฮือๆๆ" "เขาเป็นมหาดเล็ก
ที่ทูลเตือนพระราชาด้วยความหวังดี ต่อต้านระบบเผด็จการ
อีกหน่อยจะเป็นที่แซ่ซ้องไปนาน ฮือ เพราะนี่คือหน้าที่ของเขา" โตชิกล่าว
วอฮาเอาแต่ร้องไห้เสียใจ000000000000000000 พระเจ้ายอนซันทรงคิดถึงคิมชูซอน
ในหลายเรื่องที่คิมชูซอนกล่าวกับพระองค์ และปรารภว่า
"แต่ไหนแต่ไรเขาเป็นคนที่ข้าไว้ใจที่สุด ทำไมต้องมาหลอกข้า
แถมยังแต่งเรื่องเสด็จแม่มาโกหกข้าอีก รนหาที่ตายชัดๆ สงสัยจะแก่จนเลอะ
ไม่มีหัวคิดซะบ้าง" "หม่อมฉันขอบังอาจทูลว่า สมัยที่มเหสีโซฮวายังดำรงตำแหน่งอยู่
ก็มีข่าวลือว่าใต้เท้าคิมเป็นอดีตคนรัก
ทำให้ชื่อเสียงของพระนางด่างพร้อยไม่น้อยพ่ะย่ะค่ะ" พงชอนทูล "อะไรนะ ใต้เท้าพงชอน
ท่านพูดจริงหรือเปล่า" "แม้ว่ามเหสีโซฮวา
ภายหลังจะพิสูจน์ได้ว่าทรงเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่เพราะข่าวลือที่มีกับใต้เท้าคิม
ทำให้อดีตพระราชาทรงหมดความเชื่อมั่นไปมาก
และพระเกียรติของพระมเหสีก็ดูจะด่างพร้อยรุนแรง เป็นเหตุให้พระนาง
ถูกปลดจากตำแหน่งอย่างง่ายดายพ่ะย่ะค่ะ" "ฮึ่ม ช่างเป็นคนที่เนรคุณนัก
เสด็จพ่อข้าอุตส่าห์ไม่รังเกียจเขา เห็นเป็นเพื่อนรักและมหาดเล็กคนสนิท
แม้แต่ข้าก็เคารพราวกับญาติผู้ใหญ่ แล้วเป็นแค่มหาดเล็ก
กล้าคิดละเมิดต่อเสด็จแม่ข้า หลอกลวงเสด็จพ่อ ทำให้แม่ข้าเสื่อมเสียอย่างหนัก
แล้วแบบนี้จะปล่อยไว้ได้ยังไง" คิมจาวอนทูลต่อว่า "หม่อมฉันก็ไม่นึกว่า
คนอย่างใต้เท้าคิดจะเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก ทำเรื่องเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้พ่ะย่ะค่ะ"
"แบบนี้ถึงข้าจะสับเขาเป็นชิ้นๆ ก็ไม่ถือว่าเกินไปแล้ว ฮึ่ม" "ทูลฝ่าบาท
เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ" "เกิดเรื่องอะไร" "เอ่อ มหาดเล็กทุกคน
มาชุมนุมที่ตำหนักใหญ่เหมือนจะประท้วงเพคะ" "อะไรนะ ประท้วงหรือ"
ยางซองยุนทูลเมื่อเห็นพระเจ้ายอนซันเสด็จออกมา "ทูลฝ่าบาท
ทรงยุติความเผด็จการเถอะพ่ะย่ะค่ะ" พวกมหาดเล็กทูลตาม "ทูลฝ่าบาท
ทรงยุติความเผด็จการเถอะพ่ะย่ะค่ะ" "พวกเจ้าทำอะไร นี่เป็นเขตราชฐานชั้นใน
กล้ามาแสดงการประท้วงเชียวหรือ" "พวกเราทุกคน หวังจะให้ฝ่าบาททรงตระหนักถึงภารกิจ
ซึ่งต้องขจัดทุกข์บำรุงสุขและเสริมสร้างความเจริญให้แก่บ้านเมือง ฝ่าบาท ได้โปรด
ทรงยุติการเข่นฆ่า อย่าให้เกิดการนองเลือดอีก
โปรดช่วยราษฎรให้พ้นจากความทุกข์ยากด้วยเถอะ"
"โปรดช่วยราษฎรให้พ้นจากความทุกข์ยากด้วยเถอะ" "แต่ละคนช่างเหิมเกริมนัก
เป็นแค่มหาดเล็กแท้ๆ กล้าดียังไงมาแสดงความเห็นต่อการปกครองของข้าแบบนี้"
"พวกเราแม้จะเป็นมหาดเล็กก็จริง แต่รู้จักคำว่าภักดี รู้ว่าอะไรคือมนุษยธรรม
จึงได้มาทูลฝ่าบาทในวันนี้ ฝ่าบาท เสียงราษฎรคือเสียงสวรรค์ โปรดทรงยุติ
ความทารุณโหดร้ายทั้งปวง เป็นพระราชาที่ดีด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ"
"เป็นพระราชาที่ดีด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ" "เป็นแค่มหาดเล็ก
ทำยังกะขุนนางตงฉินบังอาจมาสอนให้ข้าเป็นคนดี บอกมาซิ
เป็นขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์คนไหน เสี้ยมสอนให้พวกเจ้ามาแข็งข้อต่อข้า
ไม่กลัวตายหรือยังไง" จาจีเอ่ยว่า "พวกเรา ต้องการสานต่อเจตนารมณ์ของใต้เท้าคิม
ที่ทูลเตือนฝ่าบาทด้วยความหวังดีพ่ะย่ะค่ะ" "อะไรนะ
เจ้าบอกว่าเดินตามรอยคนทรยศคิมชูซอนที่กำแหงมาดูหมิ่นข้าอย่างงั้นหรือ"
"ถ้าตอนนี้ฝ่าบาท ทรงยุติการเข่นฆ่าเป็นพระราชาที่ดีได้จริง คิมชูซอน
ก็จะเป็นคนถ่อยที่ลบหลู่เบื้องสูง สมควรตาย แต่ว่า ถ้าหากฝ่าบาท
ทรงเป็นเผด็จการอย่างเขาว่าจริง ชื่อของคิมชูซอนก็จะถูกจารึกไว้
ในฐานะข้าราชบริพารที่ซื่อสัตย์ ตายเพราะความจงรักภักดีที่มีต่อฝ่าบาท
เพราะฉะนั้นชูซอน จะเป็นคนชั่วในประวัติศาสตร์ หรือเป็นวีรบุรุษผู้กล้า
ก็อยู่ที่การตัดสินพระทัยของฝ่าบาทองค์เดียวเท่านั้น หม่อมฉันเชื่อว่า
เขาคงอยากให้ฝ่าบาทเป็นพระราชาที่ดี ในขณะที่เขาถูกจารึกว่าเป็นคนชั่วก็ไม่เป็นไร
เพราะฉะนั้น ขอฝ่าบาททรงฟัง คำอ้อนวอนของเราด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ"
"แต่ละคนต่ำต้อยราวกับเศษหญ้า ยังกล้ามาใช้วาจาสามหาวโน้มน้าวความคิดข้าอีกหรือนี่
จาวอน เจ้าเห็นหรือเปล่า กรมมหาดเล็กแข็งข้อต่อข้า
จงสั่งให้มหาดเล็กตรวจการณ์ของเจ้า มาจัดการฆ่าคนพวกนี้ให้หมดเลย"
"แต่ถ้าไม่มีพวกเขา งานในวังก็จะยุ่งเหยิงนะพ่ะย่ะค่ะ" คิมจาวอนค้าน "หุบปาก
เจ้าอยากตายพร้อมกับพวกเขาหรือไง" "เอ่อ พ่ะย่ะค่ะ น้อมรับพระบัญชา
ฆ่าพวกแข็งข้อให้หมดเร็ว ทำไมยังไม่ลงมืออีก ไม่ได้ยินคำสั่งข้าหรือไง หึ หนอย
ฮึ่ม" ยางซองยุนชี้หน้า "เจ้าคนถ่อย
ลืมหน้าที่ของมหาดเล็กว่าควรทำอะไรบ้างแล้วใช่ไหม" "ข้าแค่ทำตามพระบัญชาเท่านั้น
ย้าก" คิมจาวอนจัดการยางซองยุน ทุกคนเข้ามารุมเรียกยางซองยุน "ใต้เท้ายางๆๆๆ"
คิมจาวอนจัดการฆ่าพวกมหาดเล็กทุกคน แม้ว่าพวกมหาดเล็กจะร้องขอชีวิต
แต่ทุกคนก็ถูกฆ่าหมด พระเจ้ายอนซันทอดพระเนตรแล้วทรงหอบ
"ไม่นึกว่าแม้แต่มหาดเล็กยังกล้ามาท้าทายข้า การที่พวกเขาแข็งข้อขนาดนี้
เพราะคิมชูซอนวางแผนไว้แต่แรก มุ่งจะก่อการร้ายชัดๆ เจ็บใจคนพวกนี้นัก
ถึงตายยังจะมาลบหลู่ข้าอีก ก็เอาซี่ ให้มันรู้ไปว่าใครจะแน่กว่าใคร จาวอน
ไปตรวจดูซิว่า ในกรมมหาดเล็กยังมีใครเป็นพวกเดียวกับคิมชูซอนอีก
แล้วจับมาประหารให้หมด" "พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท" "ราชเลขาจงฟัง
ให้ยึดทรัพย์ทั้งหมดของคิมชูซอน รื้อถอนบ้านที่อยู่ให้ทำเป็นบ่อน้ำครำ ที่สำคัญ
ตั้งแต่วันนี้ห้ามทุกคนใช้ชื่อชูซอนเหมือนเขา ไม่ว่าจะเป็นราษฎรหรือขุนนาง
หากมีชื่อนี้ ก็ต้องเปลี่ยนให้หมด แม้แต่ฎีกาหรือประกาศทุกชนิดในวังหลวง
ก็ห้ามมีคำว่า "ชู" ให้ข้าเห็นเด็ดขาด ไม่งั้นคนๆ นั้นจะมีโทษถึงตาย
หนังสือเล่มไหนที่เขียนถึงคิมชูซอน ก็ให้เผาทิ้งทันทีได้ยินมั้ย" "พ่ะย่ะค่ะ
รับด้วยเกล้า" พวกทหารไปจัดการรื้อถอนเรือนฝ่ายใน วอฮาตกใจมาก โตชิเข้ามาขวาง
"เอาซี่ ใครกล้ามาทำลายเรือนฝ่ายในของเราให้มันรู้ไป แต่ต้องผ่านศพข้าก่อน
แน่จริงเข้ามาเลย วันนี้เป็นไงก็เป็นกันสิน่า" "เราแค่ทำตามพระบัญชาเท่านั้น
ถ้าไม่อยากตาย เจ้านั่นแหละหลีกไป" วอฮาร้องห้าม "อย่าไปสู้เขา ถ้า ไม่มีเจ้าอีกคน
ข้าคงอยู่ต่อไม่ได้อีก ฮือ" "หึ หึ แต่บ้านหลังนี้
เปรียบเหมือนบ้านที่สองของมหาดเล็กทั้งหลาย ฮือ
เคยมีเด็กที่เกิดใหม่จากที่นี่มากมาย เพื่อไปรับใช้ฝ่าบาทและราชสำนัก ฮือ แล้วทำไม
ทำไมพระราชา ฮือ ต้องมีคำสั่งให้ทำลายที่นี่ทิ้งด้วย"
"ใช่ว่าข้าจะไม่เข้าใจความรู้สึกของเจ้า แต่ว่า การใช้กำลังขัดพระบัญชา
ไม่ใช่สิ่งที่ชอนตงต้องการจะเห็นหรอกนะ ฮือ ถึงตอนนี้บ้านเราจะถูกทำลาย ฮือ
แต่มหาดเล็กที่ออกไป ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ยังไงก็จะคงอยู่ตลอดไป"
ทั้งโตชิและวอฮาร้องไห้เสียใจ "เรือนฝ่ายในที่แชซังกุงอุตส่าห์ฝากไว้กับพวกเรา
ต่อไปจะไม่มีอีกแล้ว" "พระราชากวาดล้างกรมมหาดเล็ก ถึงเก็บที่นี่ไว้ก็เปล่าประโยชน์
เจ้าก็อย่าเสียใจนักเลย" "เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่ไปกับเราด้วยน่ะ"
วอฮาถามหญิงสาวที่คิมชูซอนช่วยไว้ "ข้าจะอยู่ที่นี่ต่อ เพื่อทำธุระบางอย่างน่ะค่ะ"
"แล้วเจ้า ยังมีอะไรต้องทำอีกหรือ" "วันก่อนตอนเช้า
ข้าสัญญากับใต้เท้าคิมว่าจะรอเขาอยู่ที่นี่ ข้าจะสวดมนต์ภาวนาให้เขาทุกวัน
หวังว่าซักวันคงมีโอกาส ช่วยเขาฟื้นฟูเรือนฝ่ายในอีกครั้งน่ะค่ะ"
"เมื่อเป็นความประสงค์ของเจ้า เราก็ไม่ขัดหรอก เสียดายลูกข้า
ไม่ทันได้เห็นใจเจ้าก็ด่วนจากไปซะก่อน หึ ถ้ามีวาสนาคงได้พบอีก" "รักษาตัวด้วยนะ"
"เฮ่อ ขอให้โชคดีค่ะ" พระเจ้ายอนซันทรงดื่มเหล้า สนมชางนกซูถามว่าทำไมทรงดื่มมากนัก
"ฮ่า ใครบอกว่ามาก ข้ากลับคิดว่า ทำไมคืนนี้ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่เมาด้วยซ้ำ มา
รินให้ข้าอีกถ้วยซิ อึ้ม นกซู วันนี้ไม่เห็นท่านเจ้ากรมมาพบข้าเลย
ข้ามีเรื่องจะคุยกับเขาหน่อย ไปตามเจ้ากรมมหาดเล็กมาหน่อยซิ" "เอ่อ คิมชูซอน
ถูกฝ่าบาทประหาร เนื่องจากความผิดฐานลบหลู่เบื้องสูงแล้ว" "งั้นหรือ หึ นั่นสินะ
จริงด้วย ข้าเป็นคน สังหารตาแก่หน้าโง่คนนั้นเอง เฮ่อๆๆ สงสัยข้าจะเมา เฮ่อๆๆ
แต่ว่า ทำไมข้าชอบคิดว่า แค่เรียกคำเดียวเขาก็จะมาพบข้า ไม่ไปไหนหรอก" "ฝ่าบาท
นับแต่นี้ อย่าทรงคิดเรื่องคิมชูซอนได้ไหมเพคะ" "ก็ได้ ข้าจะไม่คิดอีก มา
เจ้าก็ดื่มซักถ้วยสิ" "หึ ขออภัยเพคะ นับแต่นี้หม่อมฉันคงดื่มกับฝ่าบาทไม่ได้อีก"
"อะไรนะ แปลว่าเจ้าจะขัดคำสั่งข้าด้วยหรือ" "เพราะตอนนี้ หม่อมฉัน
กำลังตั้งครรภ์สายพระโลหิตของฝ่าบาทเพคะ" "เจ้า บอกว่าตั้งครรภ์หรือ เฮ่อๆ แหม
ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ เฮ่อๆๆ งั้นข้า ก็ยิ่งต้องดื่มให้มากกว่านี้สิ ฮ่า
เฮ่อๆๆ" "ถ้าหม่อมฉัน โชคดีละก้อ อาจมีโอรสถวายให้ฝ่าบาทก็ได้" "แน่นอน
ถ้ามีลูกชายให้ข้าละก้อ ไม่ว่าเจ้าต้องการอะไร ข้าจะประเคนให้หมดเลย เฮ่อๆๆ
ไปตามชูซอนมาหน่อยซิ ราชสำนักมีเรื่องมงคล เจ้ากรมมหาดเล็กต้องรู้ก่อนใคร
จำได้ว่าตอนเด็ก ข้ามักจะขี่หลังเขาบ่อยๆ บางทีก็แอบฉี่รด ทำให้หลังเขาเปียกปอนหมด
อ้อมกอดของเขา อบอุ่นเหมือนแม่ข้าไม่มีผิด อบอุ่นและปลอดภัย ทำให้ข้าวางใจ หึ"
พระพันปีซุกยอนทรงมีรับสั่งกับพ่อตาขององค์ชายจินซองว่า
"พักก่อนพระอัยยิกาสิ้นพระชนม์ยังไม่ทันไร ใต้เท้าคิมก็เสียชีวิตไปอีก ตอนนี้
คงไม่มีใครกล้าเตือนสติฝ่าบาท เป็นเกราะคุ้มกันสำหรับเชื้อพระวงศ์อย่างเราอีกแล้ว
คิดแล้วก็น่าเป็นห่วงนัก" "ทั้งหมดนี้ เพราะหม่อมฉันบกพร่องต่อหน้าที่
ขอทรงอภัยพ่ะย่ะค่ะ" "ทุกวันนี้ราชสำนัก มีเรื่องผิดปกติหรือเปล่า" "เอ่อ
มีเรื่องผิดปกติ หึ เป็นไปไม่ได้หรอกพ่ะยะค่ะ ใครจะกล้าบังอาจ
คิดร้ายต่อราชบัลลังก์ของฝ่าบาทได้" "แต่สถานการณ์วุ่นวาย เห็นแล้วน่าเป็นห่วงนัก
ฐานะของท่าน นอกจากเป็นเชษฐาของมเหสีแล้ว ยังเป็นพ่อตาขององค์ชายจินซอง
จึงต้องเป็นกำลังสำคัญของฝ่าบาทให้ดีล่ะ" "น้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ"
พระเจ้ายอนซันทรงฝันถึงคิมชูซอนมาบอกให้ยุติงานเลี้ยง ก็ทรงตกพระทัยใจตื่นบรรทม
"ฝ่าบาท ทรงลืมปณิธานแต่แรกแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ ทำไมทรงละเลยต่อความทุกข์ยากของราษฎร
เอาแต่หาความสุขใส่พระองค์ถึงเพียงนี้" "เงียบเดี๋ยวนี้นะ เจ้ากล้าดียังไง
มาสอนข้าด้วยหลักการโง่ๆ อีก หึ" "ฝ่าบาท มีอะไรหรือเพคะ" "นกซู
เมื่อกี้เจ้าไม่ได้ยินเสียงขันทีเฒ่ามาสั่งสอนข้าหรือ" "ทรงสงบสติก่อน
ในห้องนี้ไม่มีใครนะเพคะ" "ฝ่าบาททรงฟังเสียงราษฎร ที่กำลังร้องทุกข์ด้วยเถอะ"
"ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ข้าจะตัดลิ้นเจ้าซะ จะได้ไม่ต้องพูดมากอีก ออกมาซี่" "ว้าย
ฝ่าบาทเพคะ ฝ่าบาท หึ" พระเจ้ายอนซันทรงหอบ
และในคืนต่อมาพระเจ้ายอนซันก็ทรงฝันถึงคิมชูซอนอีก "หา
จำได้ว่าข้าฆ่าเจ้าไปแล้วชัดๆ ทำไมยังมีชีวิตอยู่นี่อีก" "หม่อมฉันยอมสละชีวิต
เพื่อหวังทูลให้ทรงมีสติยั้งคิด แล้วทำไมจนวันนี้ยังไม่รู้สำนึก
เข่นฆ่ามหาดเล็กที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์อีก ฝ่าบาท คิดจะเป็นทรราชย์จริงหรือ"
"อะไรนะ นี่เจ้ายังไม่เข็ด อยากตายอีกครั้งหรือไง" "ฝ่าบาท วิญญาณของเสด็จแม่
รวมถึงเสด็จพ่อของพระองค์กำลังร่ำไห้ต่อความโหดร้ายของฝ่าบาททรงรู้หรือเปล่า
ความหวังดีของเสด็จพ่อเสด็จแม่ ทำไมฝ่าบาทไม่รู้จักคิดบ้าง ฝ่าบาทจะถูกตราหน้า
ว่าเป็นลูกเนรคุณได้หรือพ่ะย่ะค่ะ" "หุบปากเดี๋ยวนี้ เจ้าเป็นนักโทษที่ชั่วช้า
ยังกล้าบังอาจเอ่ยถึงเสด็จพ่อเสด็จแม่ข้าอีกหรือ" "ถ้าฝ่าบาทยังทรงหมกมุ่น
อยู่กับสุรานารีและอบายมุขโดยไม่สนใจราชกิจอีกทรงอยู่ในวงล้อมของคนสอพลอ
ฆ่าคนเป็นผักปลาโดยไม่ละอาย อีกหน่อย
ฝ่าบาทจะถูกประวัติศาสตร์จารึกว่าทรงเป็นพระราชาทรราชย์ ถูกประณามชั่วลูกชั่วหลาน"
"ข้าบอกให้เงียบนะ ข้าจะเป็นพระราชาที่มีอำนาจ
สร้างความผาสุกให้แก่บ้านเมืองต่างหาก เจ้าอย่ามาทำให้ข้าเสื่อมเสีย
อย่ามากล่าวหาข้าส่งเดชนะ" "สมัยก่อน ทรงเป็นองค์ชายที่มีเมตตาและน่ารักนักหนา
แต่ทำไมวันนี้ ทรงกลายเป็นพระราชาผู้เหี้ยมโหดไปได้ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป
หม่อมฉันชักเป็นห่วงแล้วว่า ฝ่าบาทจะรักษาบัลลังก์ได้นานแค่ไหน" "ข้าจะฆ่าเจ้า
ย้าก" พระเจ้ายอนซันทรงฟันดาบมั่ว พระชายาตกพระทัย "ฝ่าบาท ทรงเป็นไรหรือเพคะ"
"เจ้าถอยไป วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าแก่ปากเสีย มาสาปแช่งข้าดีนัก ย้าก" "ฝ่าบาท
ในตำหนักไม่มีใครนะเพคะ" พระเจ้ายอนซันทรงหอบ "ชุงจอน ข้ารู้สึกกลัว
ตอนนี้ข้างกายข้า แทบไม่เหลือใครอีก" "ฮือ ยังมีหม่อมฉัน
ที่จะอยู่กับฝ่าบาทตลอดไปเพคะ" "ชุงจอน เจ้าอย่าทิ้งข้าไปอีกคนล่ะ อย่าปล่อยให้ข้า
อยู่คนเดียวในโลกนี้ ฮือๆๆ ฮือๆๆ"00000000000000000000
คิมจาวอนกำลังเสนอรายชื่อขุนนาง ที่จะมีการโยกย้าย
ทันใดนั้นพระเจ้ายอนซันก็ทรงได้ยินเสียงคนร้องไห้ "ใครน่ะ ใครมาร้องไห้อยู่แถวนี้"
"ฝ่าบาท มีอะไรหรือพ่ะยะค่ะ" "จาวอน เจ้าได้ยินมั้ย
ได้ยินเสียงคนร้องไห้อยู่แถวนี้หรือเปล่า" "หม่อมฉัน ไม่เห็นได้ยินอะไรเลย" "ฮือ หึ
ตอนนี้ในวัง ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็มีแต่เสียงร้องโอดครวญ ของวิญญาณที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิด
หึ ไสหัวไปนะ ไปให้พ้น ฮือ" "ฝ่าบาท ทรงสงบสติไว้ หม่อมฉันเห็นว่า
คงเพราะหักโหมกับราชกิจมากไป จึงได้เกิดภาพหลอนพ่ะย่ะค่ะ" "หึ หึ ข้าทนไม่ไหวแล้ว
หึ จาวอน ไปเตรียมพิธีเซ่นไหว้หน่อยซิ ตั้งโต๊ะบูชาเร็วเข้า
ข้าจะอุทิศส่วนกุศลให้คนที่ตายในวัง" คิมจาวอนอึกอัก "เอ่อ หึ"
พระพันปีซุกยอนทรงทราบจากพระชายาก็แปลกพระทัย "เจ้าบอกว่าฝ่าบาท
ร้องไห้ต่อหน้าเจ้าอยู่ตั้งนานงั้นหรือ มันจะสื่อถึงอะไรได้น่ะ"
"หม่อมฉันรู้สึกว่าฝ่าบาท จะทรงสำนึกผิดในสิ่งที่ทำเพคะ"
"ถ้าฝ่าบาทรู้จักสำนึกและกลับตัวซะใหม่ ก็เป็นบุญของบ้านเมืองแล้ว"
"หม่อมฉันเชื่อว่า น่าจะเป็นอย่างงั้นเพคะ" นางในเข้ามา "พระมเหสี
มีเรื่องจะขอทูลเพคะ" "เข้ามาสิ" "ได้ยินว่าฝ่าบาท
ทรงทำพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณคนตายเพคะ" "อะไรนะ เซ่นไหว้หรือ
ทำไมมีเรื่องแบบนี้ได้ล่ะ" "เห็นว่าเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คนที่ตาย
จะได้ไม่มารังควานอีกเพคะ" "นี่เป็นวังหลวงแท้ๆ จะทำพิธีเกี่ยวกับภูตผีได้ยังไง
ฝ่าบาทช่างเหลวไหลซะจริงๆ" พระเจ้ายอนซันทรงทำพิธี
"วิญญาณทั้งหลายที่ล่องลอยอยู่ในวัง จงรีบหายไปซะ ทั้งเชื้อพระวงศ์ที่ถูกหาว่าทรยศ
ขุนนางที่ตายเพราะมาพูดส่งเดชกับข้า รีบไปซะให้หมด
ยังมีสนมนางในที่ตายอย่างอ้างว้างเดียวดาย รวมถึงมหาดเล็กที่ตายหมู่มากมาย
วิญญาณทั้งหลายที่หาชีวิตไม่แล้ว จงสลายไปให้หมด ณ บัดนี้ ข้าเป็นพระราชา
จะขอทำพิธีส่งวิญญาณพวกเจ้าไปสู่สุขคติ เลิกจองเวรซึ่งกันและกัน
ไปสู่โลกที่สุขสันต์เถอะ ไปซะ ไปเดี๋ยวนี้" เหตุการณ์นี้
เหล่าขุนนางต่างวิพากวิจารณ์กัน "เฮ่ย
เราเป็นประเทศที่ถือหลักปรัชญาในการดำเนินชีวิต แต่ฝ่าบาทกลับทรงงมงาย
เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ ถึงขนาดทรงทำพิธีขับไล่ภูตผีด้วยพระองค์เองซะได้"
"เพราะศีลธรรมมันเสื่อมแล้ว จริยธรรมก็ไม่มี ใครจะทำอะไรก็ได้หมด
ข้าไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องแปลกซักนิด" "ฝ่าบาททรงเสียสติไปแล้ว
ถึงจะเป็นพระราชาแต่ไม่มีคุณงามความดี บ้านเมืองถึงได้วิกฤติอยู่อย่างงี้
เห็นทีถ้าไม่กำจัดพระราชาองค์นี้ บ้านเมืองเราอาจจะไม่รอดก็ได้
ถ้าจะทำอะไรก็ต้องรีบวางแผน เปลี่ยนแผ่นดินใหม่โดยเร็วที่สุด"
พระเจ้ายอนซันทรงเสด็จมาเข้าเฝ้าพระพันปีซุกยอน
สร้างความประหลาดพระทัยแด่พระนางยิ่งนัก "ทำไมวันนี้มาได้ล่ะ" "หลายวันนี้
หม่อมฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงไม่ได้มาเฝ้าบ่อยนัก
วันนี้ตั้งใจจะมาเยี่ยมพระพันปีพ่ะย่ะค่ะ" "ไม่นึกว่าฝ่าบาท
ยังมีแก่ใจนึกถึงแม่อย่างข้าอีก ต้องขอขอบใจ" "แต่ว่า
ทำไมพระพักตร์พระพันปีดูซีดเซียวนัก ไม่สบายหรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ" "วันก่อนได้ยินว่า
เจ้าต้องการขับไล่ภูตผีในวัง ถึงขั้นทำพิธีเซ่นไหว้ด้วยตัวเอง
ข้าห่วงว่าจะทำให้ขุนนางและราษฎร เกิดการครหาต่อเรื่องนี้ ถ้าไงไปเชิญนักบวชตบะสูง
มาทำพิธีให้เป็นเรื่องเป็นราว หรือคนทรงที่เชี่ยวชาญทางนี้โดยเฉพาะก็ได้
ไม่เห็นจำเป็นเลย ที่เจ้าต้องไปทำด้วยตัวเองน่ะ" "เพราะหม่อมฉัน
ได้ยินเสียงคนร้องไห้ รบวนประสาทมาหลายวัน ทำให้นอนไม่หลับนะพ่ะย่ะค่ะ" "อะไรนะ"
"แต่พระพันปีก็ไม่ต้องห่วงอีก หลังจากทำพิธีผ่านพ้น
จนวันนี้หม่อมฉันก็ไม่ได้ยินเสียงใครมาร้องไห้อีกเลย"
"ยังไงก็ห่วงสุขภาพตัวเองไว้หน่อย เจ้าต้องแข็งแรงไว้ บ้านเมืองถึงจะมั่นคงได้
โดยเฉพาะสุขภาพจิตที่ดีนั้น ส่งผลถึงร่างกายอย่างมากรู้มั้ย" "รับสั่งของพระพันปี
หม่อมฉันจะจำไว้พ่ะยะค่ะ" พระเจ้ายอนซันทรงตรัสกับคิมจาวอนว่า "จาวอน
ดูท่าวิญญาณที่มารบกวนคงไปสู่สุขคติหมดแล้ว
ต่อไปข้าจะได้วางใจทำงานเพื่อบ้านเมืองซะที" "ยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ
หม่อมฉันยังห่วงว่าฝ่าบาทจะทรงประชวร จนไม่รู้จะทำไงดี" "ข้าจะไม่เป็นอย่างงั้นอีก
อีกไม่นาน ข้าจะออกไปเยี่ยมชาวบ้าน ดูว่าความเป็นอยู่ขัดสนอะไรบ้าง ที่สำคัญ
จะให้มีการสอบคัดเลือก เพื่อรับขุนนางใหม่ให้มาทำงาน" "ทรงปรีชายิ่งแล้ว"
"นับแต่นี้ ข้าจะไม่เรียกนางรำมาปรนนิบัติในวังอีก จะตั้งใจเป็นพระราชาที่ดี" "หึ
ฝ่าบาท สำหรับหม่อมฉัน ไม่ว่าจะทรงมีพระดำริแบบไหน เมื่อมีพระบัญชา
หม่อมฉันก็จะทำตามพ่ะย่ะค่ะ" "ดีมาก จาวอน เจ้าสมแล้วที่เป็นคนที่ข้าไว้ใจ
ถ้างั้นคืนนี้ ข้าจะจัดงานเลี้ยงถวายเพื่อพระพันปีโดยเฉพาะ
สนมชางเนื่องจากตั้งครรภ์คงไม่อาจมาร่วมได้ เจ้าก็ให้ "เบเฮียง" และ "ฮุงลาน"
มาแทนนางละกัน" "พ่ะย่ะค่ะ น้อมรับพระบัญชา" ขุนนางทราบเรื่องก็รีบปรึกษากันทันที
"ได้ยินว่าคืนนี้ ฝ่าบาทจะทรงจัดเลี้ยงให้พระพันปี
จะมีทหารที่ยอมมาร่วมขบวนกับเราทั้งหมด 500 คน รอจังหวะเพื่อบุกเข้าวังหลวง"
"ทหารแค่ 500 ท่านคิดว่าจะยึดวังหลวงได้สำเร็จหรือ" "ข้าเชื่อว่าถ้ามีคนออกหน้า
อาจมีขุนนางและราษฎรที่ไม่พอใจพระราชาทรราชย์มานาน
มาช่วยสมทบอีกมากโดยที่เราไม่ต้องกะเกณฑ์ และหลังจากยึดวังหลวงได้
กำจัดพระราชาทรราชย์แล้ว เราก็จะหนุนให้องค์ชายจินซองเป็นพระราชาองค์ใหม่"
"แล้วขุนนางที่เป็นฝ่ายฝ่าบาทล่ะ เราจะจัดการพวกเขายังไง" "ถ้าไม่ยอมอ่อนข้อ
ก็ต้องสังหารให้หมด หรือไม่ก็คือ เปลี่ยนใจมาเข้ากับพวกเราซะ" "แล้วยังมี
ใต้เท้าซินโซ ซึ่งเป็นเชษฐาของพระมเหสีและพ่อตาขององค์ชายจินซองล่ะ เราจะทำยังไง"
"ใต้เท้าคนนี้ อีกหน่อยอาจได้เป็นพระสะสุระของพระราชา ข้าจะไปเจรจาเอง
ดูว่าเขาเอนเอียงกับฝ่ายไหนแน่ แล้วค่อยว่ากันใหม่" เวลาเดียวกันนี้
พระพันปีซุกยอนทรงรับสั่งอยู่กับองค์ชายในพระเจ้ายอนซัน
"เห็นครูที่สอนหนังสือกล่าวชมว่า รัชทายาทเป็นคนเฉลียวฉลาด ปัญญาเฉียบแหลม
อีกหน่อยโตขึ้น คงเป็นพระราชาที่ปรีชาสามารถอย่างแน่นอน" "ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ
หม่อมฉัน ยังต้องศึกษาอีกมากนัก" "เซจา อนาคตถ้าได้ครองราชย์จริง
อย่าลืมความตั้งใจของเจ้า ที่จะเป็นพระราชาที่ดี
ทำนุบำรุงบ้านเมืองให้มีความผาสุกล่ะ" "รับสั่งของพระพันปี
หม่อมฉันจะจำไว้พ่ะย่ะค่ะ" "อึม ดีมากจ้ะ ทุกครั้งที่ได้เห็นเจ้า ว่านอนสอนง่าย
เจริญเติบโตเป็นเด็กดี ข้าก็รู้สึกค่อยมีกำลังใจหน่อย" "พระพันปีเพคะ
ถ้าให้องค์ชายจินซองมาเข้าวังบ่อยๆ สอนเซจาเกี่ยวกับหลักปกครองและหลักธรรมาภิบาล
หม่อมฉันเชื่อว่า เซจาคงจะยิ่งเก่งกว่านี้เพคะ" "ได้สิ ข้าจะบอกให้องค์ชายจินซอง
รู้ว่าเจ้าอยากให้เขามาสอน" "หึ ขอบพระทัยเพคะ" "ชุงจอน
ได้ยินว่าตอนนี้สนมชางกำลังตั้งครรภ์อยู่
แม้ว่าคุณสมบัติของนางจะไม่เหมาะสมและไม่รู้กาลเทศะ ไม่คู่ควรจะเป็นพระสนม แต่ไหนๆ
ก็มีสายโลหิตของฝ่าบาทแล้ว เลยอยากให้เจ้า มีเมตตาต่อนางหน่อย
ฝ่าบาทจำเป็นต้องมีทายาทเยอะๆ บ้านเมืองถึงจะมั่นคง เจ้าคงเข้าใจดีใช่ไหม"
"หม่อมฉัน ทราบแล้วเพคะ" "อีกอย่าง ข้ารู้สึกไม่ค่อยอยากไปงานเลี้ยงคืนนี้
จะทำไงดีล่ะ" "ทำไมรับสั่งอย่างงั้นล่ะเพคะ" "เพราะหมู่นี้ข้ามักจะฝันร้ายบ่อยๆ
แล้วจู่ๆ ให้ไปงานเลี้ยงที่มีนางรำคอยปรนนิบัติ
คงรู้สึกกระอักกระอ่วนยังไงชอบกลอยู่" "แต่หม่อมฉันได้ยินว่า
งานนี้ฝ่าบาททรงหมายมั่นจะจัดเพื่อพระพันปีโดยเฉพาะ อาจเพราะทรงสำนึกผิด
ต้องการถือโอกาสนี้กลับตัวใหม่ จึงอยากให้พระพันปีทรงเข้าพระทัย
ไปซักครั้งเถอะนะเพคะ" "งั้นข้าก็ต้องไปล่ะ"00000000000000
คิมจาวอนมาปรึกษากับสนมชางนกซู "ฝ่าบาทน่าจะถือเอางานเลี้ยงคราวนี้
ขับไล่พวกนางรำออกไปให้หมด เพราะทรงตั้งพระทัยจะกลับตัว เป็นพระราชาที่ดีเหมือนเดิม
ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง อีกหน่อยจะมีขุนนางใหม่มาถวายความเห็นมากมาย
ทำให้ฐานะของหม่อมฉันและพระสนม อาจสั่นคลอนก็เป็นได้" "หึๆๆ ท่านเจ้ากรมฯ
เชื่อว่าฝ่าบาทจะทำอย่างงั้นได้หรือ วันก่อนท่านก็เห็น
ว่าฝ่าบาททรงทำพิธีเซ่นไหว้ด้วยความจริงจังแค่ไหน
ทุกวันนี้ความแค้นที่ฝังลึกอยู่ในพระทัยฝ่าบาท ทำให้แม้แต่พระองค์เอง
ก็ไม่อาจต้านทานไหว หึ แล้วจะมีขุนนางหน้าไหนกล้าเข้าใกล้พระองค์อีก คอยดูไปเถอะ
ต่อให้วันนี้ ฝ่าบาททรงขับไล่นางรำออกไปจริง
ไม่เกินสามวันก็ต้องรับสั่งให้พวกนางกลับมาอีก
และตำแหน่งของท่านก็ไม่มีวันสั่นคลอนด้วย ขอให้หายห่วงได้" ในงานเลี้ยง
พระเจ้ายอนซันทรงมีรับสั่งกับพระพันปีซุกยอนว่า "หม่อมฉัน
ต้องการชดเชยความอกตัญญูที่เคยทำต่อพระพันปี เพราะสมัยก่อนทรงเลี้ยงดูหม่อมฉัน
เอ็นดูราวกับลูกแท้ๆ วันนี้ก็เลยจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อจะตอบแทนพระพันปี"
"เจ้ารู้จักคิด และมีความกตัญญูต่อข้าๆ ก็รู้สึกดีใจมากแล้ว
แต่วันนี้รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว อยากกลับไปพักผ่อนที่ตำหนักจะได้หรือเปล่า"
"ถ้าพระพันปีทรงประชวร หม่อมฉันจะให้หมอหลวงมาดูดีมั้ยพ่ะย่ะค่ะ" "ไม่ต้องหรอก
คงเพราะหลายวันนี้ นอนหลับไม่ค่อยสนิท ร่างกายก็เลยอ่อนเพลียเท่านั้น
ถ้าได้นอนแต่หัวค่ำ ร่างกายก็จะดีขึ้น เจ้าไม่ต้องห่วงนักหรอก" "ถ้าอย่างงั้น
ก็แล้วแต่พระพันปีเถอะ" พระพันปีซุกยอนเสด็จกลับแล้ว พระเจ้ายอนซันทรงตรัสว่า
"พรุ่งนี้เช้า พวกเจ้าจะถูกพาออกจากวังทั้งหมด คืนนี้เป็นคืนสุดท้าย
เชิญสนุกให้พอละกัน เฮ่อๆๆ" ขุนนางท่านหนึ่งไปคุยกับใต้เท้าซินโซ
แต่กลับถูกใต้เท้าซินโซว่า "นี่ท่านมาเพ้อเจ้ออะไร คิดก่อกบฏหรือ เป็นขุนนางแท้ๆ
จะทำเรื่องทรยศต่อฝ่าบาทได้ยังไง" "ฝ่าบาททรงเผด็จการเกินขอบเขตไปแล้ว
เพื่อเห็นแก่บ้านเมือง เราคงต้องถอนถอนพระองค์ซะ" "หา หึ
แม้แต่ใต้เท้ามูยองก็เห็นด้วยกับการก่อกบฏงั้นหรือ" "นี่ไม่ใช่กบฏ
แต่เป็นการกอบกู้บ้านเมือง หลังจากปลดทรราชย์แล้ว
เราจะสนับสนุนโอรสของอดีตพระราชาหรือก็คือลูกเขยท่านให้ขึ้นครองราชย์แทน พูดตรงๆ
ไม่อ้อมค้อมดีกว่า ท่านยังจะเข้าข้างน้องเขยที่เป็นทรราชย์
หรือว่าจะสนับสนุนลูกเขยตัวเองให้เป็นพระราชา" "หุบปาก
พวกท่านกล้าดียังไงมาชักชวนให้ข้าก่อกบฏด้วย หึ ฟังให้ดีนะ
ข้าจะไม่มีวันสมรู้ร่วมคิดกับพวกท่านแน่นอน รีบไสหัวไปจากบ้านข้าซะ ฮึ่ม หึ"
ใต้เท้าซินโซ ถูกฆ่าตาย จากนั้นเหล่าขุนนางก็พากันตรงไปวังหลวง
ก่อนเข้าวังหลวงพบกับพงชอนก็จัดการฆ่าทันที
คิมจาวอนรอพงชอนอยู่ก็บ่นว่าทำไมยังไม่มา พอดีลูกน้องเข้ามารายงานว่าเกิดเรื่อง
"เกิดเรื่องอะไร" "ข้างนอกเหมือนมีคนคิดกบฏ กำลังจะบุกเข้าวังหลวงแล้ว" "อะไรนะ
กบฏหรือ" ทันใดนั้นก็เห็นพวกทหารกับองครักษ์ต่อสู้กัน
และเสียงขุนนางท่านหนึ่งดังแว่วมาว่า "พระราชาอยู่ไหน รีบไปตามหาเดี๋ยวนี้
โดยเฉพาะขันทีถ่อยคิมจาวอนที่คอยให้ท้ายฝ่าบาท และนังแพศยาชางนกซู ไปจับตัวออกมา
แล้วฆ่ามันให้หมด" คิมจาวอนได้ยินก็ตกใจ ลูกน้องบอกให้เขาหนี แต่คิมจาวอนบอกว่า "หึ
ข้าเป็นเจ้ากรมมหาดเล็ก ไม่สมควรจะทิ้งฝ่าบาทไว้องค์เดียว ข้าต้องถวายอารักขา
ดูแลความปลอดภัยของพระองค์" "แต่มันสายไปแล้วนะครับ" "หึ ข้าจะร่วมเป็นร่วมตาย
อยู่เคียงข้างฝ่าบาท หึ เอ่อ พวกเจ้าถอยไปเดี๋ยวนี้
ข้าคือเจ้ากรมมหาดเล็กที่ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่าบาทนะ" เหล่าขุนนางไม่ถอย
คิมจาวอนต่อว่า "ปกติฝ่าบาททรงโปรดปรานท่านนัก ยังกล้าวางแผนก่อกบฎอีก
ไม่กลัวถูกสวรรค์ลงโทษบ้างหรือไง" "คิมจาวอน คืนนี้
ข้าจะเอาชีวิตสุนัขรับใช้อย่างเจ้า เพื่อแก้แค้นให้ราษฎรที่ถูกข่มเหง และคนดีๆ
ที่ต้องตายเพราะเจ้า เฮ้ย" คิมจาวอนถูกฆ่าตายทันที ด้านชางนกซูกำลังฝันหวานว่า "หึๆ
ท้องนี้ถ้าเป็นโอรสละก้อ ข้าจะให้ฝ่าบาทสร้างตำหนักหลังใหม่ให้เลยล่ะ เฮ่อๆๆ เฮ่ย"
พวกนางในร้องตกใจ ที่ขุนนางบุกเข้ามา ชางนกซูเองก็ตกใจ "พวกเจ้ากล้าดียังไง
บุกรุกตำหนักสนมเอกเชียวหรือ" "นังคนนี้คือชางนกซูใช่ไหม" "ใช่ค่ะไต้เท้า"
"จับนางแพศยาไปตัดหัวเดี๋ยวนี้" "ครับ" "พวกเจ้าจะทำอะไรข้า
ชั่วดียังไงข้าก็เป็นสนมที่ได้รับการแต่งตั้ง และตอนนี้ก็กำลังตั้งครรภ์อยู่
พวกเจ้ายังกล้าเสียมรรยาทอีกหรือ" "ฝ่าบาทก็เอาตัวไม่รอดแล้ว" "หา อะไรนะ ว้าย
เอ่อ" หญิงหลายคน ร้องตกใจ พระเจ้ายอนซันทรงอยู่ภายในงานเลี้ยง
ก็แปลกพระทัยที่เห็นเหล่าขุนนาง "ข้าไม่ได้สั่งให้พวกท่านเข้าวัง ทำไมอยู่ดีๆ
บุกมางานเลี้ยงของข้า ทำให้เสียอารมณ์น่ะ จะมาเตือนอะไรข้าอีกหรือไง" "ตอนนี้ฝ่าบาท
ถูกถอดถอนแล้ว" "ถอดถอนหรือ หน้าไหนกล้ามาพูดกับข้าว่าจะถอดถอนข้าน่ะ ปาร์ควอนจง
ท่านจะเป็นพระราชาแทนข้าหรือไง ซองฮียัน หรือท่านจ้องจะชิงบัลลังก์ข้าอยู่ ยูซุนจอง
ท่านก็อยากเป็นพระราชาหรือไง หา" "สวรรค์ลิขิต ให้องค์ชายจินซองขึ้นมาแทน
เอาตราหยกมาซะ" "องค์ชายจินซองหรือ ถ้าเป็นองค์ชายจินซองละก้อ
ข้ายินดีมอบบัลลังก์ให้เขา มหาดเล็กตำหนักใหญ่ ไปเอาตราหยกมาซิ
ในที่สุดมือที่เปื้อนเลือดของข้า ก็ได้ล้างอย่างเกลี้ยงเกลาซะที"
จากนั้นขุนนางก็เข้าเฝ้าพระพันปีซุกยอน "พระพันปี
สิ่งที่เราทำเพื่อหวังให้บ้านเมืองดีขึ้น โปรดทรงมีพระบัญชาให้องค์ชายจินซอง
เป็นพระราชาองค์ใหม่ก่อนฟ้าสางด้วยเถอะพ่ะยะค่ะ" "ข้ารับปากไม่ได้หรอก
จะให้ข้าเป็นคนถอดถอนฝ่าบาท และให้องค์ชายจินซองขึ้นมาแทนได้ยังไง"
"ตอนนี้ฝ่าบาทถูกคุมตัวอยู่ที่ตำหนักใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ" "สวรรค์ลิขิต
ให้หน้าที่นี้เป็นขององค์ชายจินซอง ถ้ารอถึงรุ่งเช้า
คนที่เป็นฝ่ายฝ่าบาทก็จะลุกฮือขึ้นต่อต้าน ถึงตอนนั้นเราจะไม่อาจควบคุมได้อีก
พระพันปี ได้โปรด ทรงตัดสินพระทัยเถอะพ่ะย่ะค่ะ" "ทรงตัดสินพระทัยด้วยเถอะ"
พระพันปีซุกยอนทรงลำบากพระทัยมาก ขณะที่พระเจ้ายอนซันทรงนึกถึงคิมชูซอนทันที "ชูซอน
เจ้าพูดถูกแล้ว เพราะข้าไม่เคยปกป้องสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ แต่ว่า
ในเมื่อสวรรค์ลิขิตให้องค์ชายจินซองขึ้นมาแทน ข้าก็ไม่เสียดาย ไม่ยึดติด
ไม่หวงไว้อีก" พระเจ้าจินซองทรงขึ้นครองราชย์ "บัดนี้ สวรรค์ลิขิตให้ข้า
ได้ครองราชย์สืบต่อจากเจ้าพี่ ทำงานเพื่อบ้านเมือง นับแต่นี้ ข้าจะถือเอาพระเจ้า
"แทโจ" เป็นแบบอย่าง ทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญ เคารพกฎหมาย
เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ราชสำนัก ห่วงใยทุกข์สุขของราษฎร เป็นพระราชาที่ดีสืบไป"
"ขอฝ่าบาท ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนานหมื่นๆ ปี ขอฝ่าบาท ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน หมื่นๆ
ปี" ขณะที่พระเจ้ายอนซันทรงถูกเนรเทศ ระหว่างทางก็ถูกชาวบ้านสาปแช่ง
วอฮาเห็นก็ขอเข้าไปคุยกับอดีตพระเจ้ายอนซัน "ใต้เท้า
ข้าเป็นแม่ของอดีตเจ้ากรมมหาดเล็กคิมชูซอนน่ะค่ะ ข้าจะขอคุยกับนักโทษหน่อยได้ไหมคะ
เพราะมีของบางอย่างจะมอบให้เขาน่ะค่ะใต้เท้า" "ใครจะรู้ว่าเป็นแม่จริงหรือเปล่า
อาจจะแอบอ้างก็ได้" "ท่านนายกอง หญิงคนนี้เป็นแม่ของคิมชูซอนจริงๆ
ท่านจงอนุญาตเถอะ" "หึ อย่าเสียเวลานานนัก รีบๆ คุยล่ะ" "ข้าเหมือนจะคุ้นหน้าท่าน
เราเคยพบกันมาก่อนใช่ไหม" พระเจ้ายอนซันตรัสถามก่อน
"เคยพบตอนฝ่าบาทยังทรงพระเยาว์เพคะ" "ข้าสังหารลูกชายคนเดียวของท่าน
ท่านคงรู้สึกโกรธข้ามากสินะ ขนาดข้าเสียแม่ไปหลายปี ความเจ็บปวดยังไม่เคยจางหายเลย
นับประสาอะไรกับท่านที่เสียลูกที่เลี้ยงดูมา ข้ารู้สึกละอายต่อท่านนัก"
"หม่อมฉันกล้าทูลได้ว่า ตราบจนวันตายของลูก เขาไม่เคยตำหนิฝ่าบาทเลยซักนิด
เพราะเขาเชื่อว่าถ้าเอาชีวิตเข้าแลก ฝ่าบาทจะกลายเป็นพระราชาที่ดีได้
ด้วยเหตุนี้จึงยอมให้ตัวเองตายซะ ฮือ หม่อมฉัน หม่อมฉัน เข้าใจความคิดของลูก
จึงไม่ถือสาฝ่าบาทด้วยเช่นกัน ฮือ โปรดรับนี่ไว้ด้วย" "นี่คืออะไร"
"ก่อนที่มเหสีโซฮวา จะสิ้นพระชนม์
ได้มอบของสิ่งนี้ให้ลูกหม่อมฉันเก็บไว้เป็นที่ระลึก หม่อมฉันรู้ว่าลูก
คงอยากให้ฝ่าบาทเป็นคนเก็บรักษาหยกครึ่งชิ้นนี้ไว้มากกว่า"
พระเจ้ายอนซันทรงคิดถึงคิมชูซอน และสำนึกในสิ่งที่กระทำต่อคิมชูซอนก็ร้องไห้ออกมา
"ชูซอนๆๆ"

คิมชูซอน จบบริบูรณ์


แล้วพบกันเรื่องใหม่นะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn

Readlakorn

เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ช่อง3,5,7,นิยาย ไทยรัฐ,
ละครเกาหลี,ละครไต้หวัน (Series), ลิ้งค์(Links) ดูละคร Youtube, ลิ้งค์ดาวน์โหลด
(Download) เพลงละคร OST. และ เพลง MP3 ทั่วไป ทั้งVampires (แวมไพร์) Sumo อื่นๆ

เรื่องย่อละคร
โบตั๋นกลีบสุดท้าย ใจร้าว สะใภ้ลูกทุ่ง ดินเนื้อทอง
ดาวจรัสฟ้า คิมชูซอน เมนูรักเชฟมือใหม่ สู่แสงตะวัน คู่ป่วนอลวน ภูติแม่น้ำโขง
เพราะรักนี้มิอาจลืม (Alone in Love) หีบหลอนซ่อนวิญญาณ อุบัติรักข้ามขอบฟ้า

Readlakorn

Related Posts



13 comments:

Anonymous said...

ขอบคุณคุณใหม่ เจ้าของกระทู้มากๆ


minnie

Anonymous said...

ขอบคุณมาก ทำไมเศร้าจังล่ะ

Anonymous said...

เฮ้อออ เศร้าจริงๆ ขอบคุณมากเลยนะค่ะ ไว้เจอกันเรื่องต่อไปนะ แล้วจะเข้ามาอ่านบ่อยๆค่ะ

Anonymous said...

Thank you very much. I truly enjoyed reading this korean novel. It's rather sad story but alot of thought left behind. Looking forward to reading the forthcoming novel traslated by you. Thanks again very much naka....Aunt Chaweewan

Anonymous said...

จบแล้ว เศร้าจังเลย
ขอบคุณมากๆนะคะ

Anonymous said...

จบเศร้าจังเลยค่ะเฮ้อ ไม่น่าเลย สงสาร แต่ขอบคุณมากนะคะ ที่นำมาให้อ่านกัน ^^

Anonymous said...

จบเศร้ามากๆเลยค่ะ เฮ้อๆไม่น่าเลย แต่ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ที่นำมาให้อ่านกัน ^^

Anonymous said...

ขอบคุณมากนะคะ

Anonymous said...

ขอบคุณมากๆ นะคะ ติดตามมาตลอดเลย

Anonymous said...

ขอบคุณมากเลยนะคะ แปลได้เก่งจัง

Anonymous said...

แล้วเรื่องใหม่ที่จะมาแทนเรื่องคิมชูซอน อยากรู้จังว่าเรื่องอะไร

Anonymous said...

อยากรู้จังว่าหนังเรื่องต่อจากคิมชูซอน คือหนังเรื่องอะไร

Anonymous said...

ขอบคุณมากนะคะที่หามาให้อ่าน เศร้ามากร้องไห้ซะยกใหญ่ และขออีกเรื่องค่ะ อยากอ่านเรื่อง คุณชายไฮโซกับคุณหนูโอท็อป ไม่ทราบว่ามีหรือเปล่าคะ

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal