ใจร้าว 15
กรวิกอุ้มช่อลดาเดินเลียบมาตามชายหาด ช่อลดาร้องถามว่าจะพาไปไหน กรวิกยิ้มๆ เจ้าเล่ห์
"ไปดูอะไรที่รับรองว่าเธอไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน"
"อะไรคะ"
"พระจันทร์"
"พระจันทร์ ใครๆ ก็เคยเห็นพระจันทร์กันทั้งนั้นล่ะค่ะ" ช่อลดางง
"แต่พระจันทร์ที่อื่นไม่เหมือนที่นี่"
"ทำไมคะ พระจันทร์ที่นี่พิเศษกว่าที่อื่นตรงไหน"
"ตรงที่ ที่นี่มี พระจันทร์สองดวง"
กรวิกปล่อยช่อลดาลง กรวิกหันออกไปยังท้องทะเลเบื้องหน้าเหมือนเป็นการเชื้อเชิญช่อลดา
ช่อ ลดามองตามสายตากรวิก แล้วก็ต้องตะลึงๆ ตึงๆ กับภาพพระจันทร์ดวงมหึมาที่อยู่บนท้องฟ้า กับภาพเงาสะท้อนของมันที่อยู่บนผืนน้ำ จนดูราวกับว่าที่นี่มีพระจันทร์สองดวงอย่างที่กรวิกพูดจริงๆ
ช่วงเวลานั้นที่เกาะส่วนตัวของกรวิก กรวิกและช่อลดายืนมองออกไปที่ท้องฟ้าและท้องทะเล เบื้องหน้าทั้งคู่คือพระจันทร์ดวงกลมโตสองดวง
"เธอไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนใช่มั้ย"
"ค่ะ มัน สวยมาก สวยเหลือเกิน สวยจนเอยบอกไม่ถูกว่าดวงที่อยู่บนฟ้าหรือดวงที่อยู่ในทะเล ดวงไหนที่สวยกว่ากัน"
"ฉันว่าดวงนี้" กรวิกมองช่อลดาด้วยแววตาลึกซึ้ง
"ดวงไหนคะ" ช่อลดายังไม่ทันหันมามองกรวิก
"ดวงที่อยู่ตรงหน้าฉันนี่"
ช่อลดาหันมามองกรวิกอย่างงงๆ แต่แล้วก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นสายตาที่กรวิกมองมา
"ดวงนี้สวยที่สุด"
ช่อลดาใจสั่นตัวสั่น เลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง มือไม้แข้งขาดูเกะกะเป็นส่วนเกินไปหมด
ช่อลดายืนมองพระจันทร์ และเมื่อชายตามองมาข้างๆก็ยังเห็นกรวิกจ้องมองอยู่เหมือนเดิม กรวิกเขินจนทนอยู่ตามลำพังกับชายหนุ่มไม่ไหว
"เรา กลับขึ้นบ้านกันเถอะค่ะ"
"เขินล่ะสิ"
"ปะ เปล่าคะ เอย คือ ที่นี่ลมพัดแรง เอยหนาวน่ะค่ะ"
ช่อลดาพูดพลางยกมือขึ้นมากอดอกห่อไหล่ให้กรวิกเห็นว่าหนาวจริงๆ กรวิกกอดเอวช่อลดาหมับ ช่อลดาไม่ทันตั้งตัวตกใจ
"ก็เธอหนาว ฉันก็จะกอดให้หายหนาว"
ช่อ ลดาเบี่ยงตัวหลบกรวิก แต่ยิ่งหลบ กรวิกยิ่งแกล้งกอดช่อลดาแน่น จนเสียงป้าสวยดังขึ้น ช่อลดาบิดตัวผละจากกรวิกจะวิ่งไปตะโกนเรียกป้าสวย แต่กรวิกไวกว่าชิงพูดกับช่อลดาซะก่อน
"งู" ช่อลดาตกใจ ยืนตัวฟรีซแข็ง
กรวิก คว้ามือช่อลดากระโดดหลบไปอยู่หลังพุ่มไม้ ป้าสวยเดินเวียนไปวนมา ผ่านกรวิกกับช่อลดาแค่พุ่มไม้คั่น ป้าสวยถือตะเกียงตะโกนเรียกกรวิกและช่อลดาหลุดไปอีกทาง กรวิกช่อลดาแอบหัวเราะขำป้าสวยที่ชอบด่าลุงส่ง แล้วสักครู่ต่างคนต่างก็ขำไม่ออก เมื่อทั้งคู่หันมาหน้าชนกันโดยบังเอิญ กรวิกใจเต้นตึกตักไม่แพ้ช่อลดา
"ไหนคะ งู" ช่อลดาพยายามตั้งสติ กรวิกยิ้มกรึ่มแทนคำตอบ
"เอยลืมไปว่า ผู้ชายร้ายกว่างู" ช่อลดาวิ่งผละออกมาจากกรวิก แต่ด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข กรวิกวิ่งตาม
เวลา เดียวกันเมลานีกับลักษณ์นัดเจอกันที่ร้านกาแฟเพื่อปรึกษากันถึงเรื่องการหาย ตัว เมลานีถามว่าระหว่างกรวิกกับช่อลดา มีเรื่องอะไรที่เธอไม่รู้และควรต้องรู้ไหม ลักษณ์นั่งนิ่ง พูดไม่ออก
" คุณรู้แต่คุณไม่พูด การที่คุณนิ่งเงียบ เท่ากับคุณต้องการปิดเรื่องนี้เอาไว้ ซึ่งมันไม่แฟร์กับฉัน ฉันควรมีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องทั้งหมดเท่ากับคุณสามคน" เมลานีบอก
"ทุกวันนี้คุณยังรักเขาไม่ใช่เหรอ"
"ก็ ใช่ แต่ฉันไม่ชอบอะไรที่มีเงื่อนงำ" เมลานีอึ้ง
"อะไรที่คุณคิดว่ามีเงื่อนงำ อดีตของกรวิกอย่างนั้นเหรอ"
"อดีตของวิกกับเอย"
" ผมไม่ทราบ เขาอาจจะเคยรู้จักกันมาก่อน อาจจะสนิทกันมาก แต่ผมไม่สน ผมไม่เคยยึดติดกับเรื่องในอดีตของคนที่ผมรัก ผมสนใจแค่ปัจจุบันที่เอยเป็นคู่หมั้นผม และผมก็รักเธอ"
เมลานีอึ้ง คำตอบของลักษณ์เท่ากับปิดประตูตายให้กับคำถามของเธอ ทั้งคู่ออกจากร้านมายืนที่สะพานริมน้ำแห่งหนึ่ง
"ฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณพูดนะ แต่มันยากมากที่เราจะรักใครโดยไม่สนใจอดีตที่ผ่านมาของเขาเลย"
"คุณสนใจได้ แต่อย่าใส่ใจ เพราะถ้าคุณใส่ใจมันก็จะเป็นเรื่องขึ้นมา และทำให้คุณไม่สบายใจได้ในทันที"
"คุณคงรักเอยมาก ความรักของคุณเป็นยังไง คุณรักเอยที่ตรงไหน"
เม ลานีหันมาถามลักษณ์ซึ่งนั่งอยู่ที่ม้านั่งตรงข้ามเธอ ลักษณ์มองเมลานีราวกับจะค้นหาสิ่งที่อยู่ในก้นบึ้งหัวใจเธอ ก่อนจะเอ่ยปากถามกลับ
"แล้วคุณล่ะ รักกรวิกยังไง"
"ฉันอยากเห็นเขามีความสุข ตลอดเวลา"
" แล้วในความสุขนั้นต้องมีคุณอยู่ด้วยรึเปล่า คุณพร้อมจะเห็นเขามีความสุขกับใครก็ได้รึเปล่าที่ไม่ใช่คุณ ความรักของผมที่มีต่อเอยเป็นแบบนั้น"
เมลานีหน้าชา คำพูดของลักษณ์ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กอมมือที่ไม่รู้ว่าความรัก คืออะไร เมลานีนั่งนิ่ง มองไปสายน้ำเบื้องหน้า
"ขอบคุณนะที่สอนให้ฉัน รู้จักความรักมากขึ้น แต่ฉันคงรักใครแบบคุณไม่ได้หรอก เพราะฉันยังกิเลสหนา ถ้าตะบี้ตะบันรักใครโดยไม่หวังจะครอบครองเขาเลยล่ะก็ ไปบวชชีเลยดีกว่า ไม่รู้จะรักไปทำเบื้อกอะไร"
ลักษณ์ ยิ้มขำ "ที่ผมลงทุนพูดให้คุณฟังตั้งนานสองนาน ผมนึกว่าคุณเข้าใจนะเนี่ย"
" เข้าใจแล้วก็ซาบซึ้งมาก แต่ทำไม่ได้ ความรักของคุณมันเป็นความรักในอุดมคติ บัวปริ่มน้ำอย่างฉันทำไม่ได้หรอก แต่เอาล่ะ เพื่อไม่ให้คุณเสียน้ำใจ ฉันจะพยายามเปลี่ยนทัศนะคติ ไม่ใช่คอยแต่จะรับอย่างเดียว แต่จะเป็นฝ่ายให้ให้ให้แล้วก็ให้ด้วยก็แล้วกัน"
"ความรักมันไม่มีอะไรยุ่งยากมากอย่างที่คุณคิดหรอก ถ้าคุณเจอคนที่ใช่ คนที่เบื้องบนส่งมาให้ คุณจะรู้ว่ามันง่ายกว่าที่คุณคิด"
"คุณหมายความว่า วิกอาจไม่ใช่ "คนที่ใช่" ของฉันงั้นเหรอ"
" อาจจะใช่หรือไม่ใช่ ผมไม่ทราบ แต่สักวัน คุณจะรู้เอง ปัญหาของคุณมีแค่นี้ใช่มั้ย ทีนี้ก็ถึงปัญหาของผมบ้าง คุณจะเจอกรวิกอีกเมื่อไหร่"
เมลานีอึ้ง ก่อนจะบอกว่าพรุ่งนี้ ลักษณ์บอก
"คุณคงมีเรื่องต้องคุยกับเขาเยอะ ผมเองก็เหมือนกัน"
เมลานีบอกไม่ถูกว่าทำไมถึงได้หลุดปากบอกลักษณ์ในเรื่องที่ควรจะปิดไว้ก่อน อาจจะเป็นเพราะมิตรไมตรีที่ชายหนุ่มหยิบยื่นให้ก่อนกระมัง
ลักษณ์ ขับรถมาส่งเมลานีที่บล้าน พอเมลานีไปแล้ว จู่ๆ ก็มีชายวิ่งตัดหน้ารถเขา แล้วนอนฟุบข้างถนน ลักษณ์รีบลงไปดู ก็โดนผู้ชายคลุมหัวเป็นไอ้โม่งอีก 3 คน กรูเข้ามาทำร้ายร่างกายจนน่วม ประไพคนรับใช้บ้านเมลานีเห็นพอดี รีบวิ่งไปบอกเมลานีหน้าตื่น เมลานีรีบวิ่งออกมา เห็นลักษณ์กำลังโดนรุมอย่างไม่ปราณีก็ตกใจ กรี๊ดลั่น
ประไพได้สติ ตะโกนว่าไฟไหม้ พวกคนร้ายตกใจรีบเผ่นหนี กลัวชาวบ้านฮือมารุม เมลานี ประไพวิ่งมาดูลักษณ์ ซึ่งมือไม้แตกเลือดท่วม น่วมไปหมด เมลานีเขย่าตัวลักษณ์อย่างแรงเพื่อให้รู้สึกตัว ลักษณ์พอจะรู้สึกตัวบ้าง เมลานีถามว่าพวกนั้นมารุมทำไม ลักษณ์บอกว่าพวกนั้นไม่ได้ต้องการเงิน แต่เขาไม่รู้ว่าต้องการอะไร ลักษณ์พูดได้แค่นั้นก็สลบเหมือด หมดสติอยู่ตรงนั้น เมลานีตกใจ รีบพาลักษณ์ส่งโรงพยาบาล
ปรัชญาได้รับ รายงานจากลูกน้องว่าตอนนี้ลักษณ์น่วมไปหมดทั้งตัว อาจถึงขั้นพิการก็ได้ ปรัชญาดีใจหัวเราะลั่น ให้เงินค่าจ้างลูกน้องไปครบตามจำนวน ก่อนจะดื่มเหล้าอย่างสุขสำราญใจ ปราชญ์เข้ามาทันได้ยินพอดี รู้เรื่องทั้งหมด เลยตบหน้าปรัชญาจนหน้าหัน โกรธจัดจนแทบห้ามอารมณ์ไม่อยู่ ปรัชญาตะลึง แต่ก็ไม่สนใจ บอกว่าลักษณ์ซวยเองที่โผล่มาคิดจะแย่งสมบัติของเขา
"แล้วมันต่างอะไรกับคนที่อยู่กับฉันมาตลอดชีวิตอย่างแก แกเคยดูแล เคยใส่ใจกับธุรกิจที่ฉันอุตส่าห์สร้างมันขึ้นมารึเปล่า"
"เห็นมั้ย ยังไม่ทันไรพ่อก็เห็นไอ้ลูกเมียน้อยนั่นดีกว่าผม"
"อย่าก้าวร้าวไปถึงแม่ของหมอลักษณ์ ในเมื่อแกไม่รู้อะไรเลย"
" ทำไม เพราะพ่อรักแม่มันมากกว่าแม่ผมอย่างนั้นเหรอ พ่อเห็นผู้หญิงชั้นต่ำที่ยอมเป็นเมียน้อยคนอื่นดีกว่าลูกคุณหญิงอย่างแม่ผม ใช่มั้ย พ่อถึงได้รักไอ้ลูกนอกคอกนั่นมากกว่าผม"
"แกหยุดด่าลูกฉันเดี๋ยวนี้นะ"
"แล้วไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงนี้มันไม่ใช่ลูกพ่อรึไง หรือว่าลูกผู้หญิงหากินอย่างไอ้หมอลักษณ์มันเป็นลูกพ่อคนเดียว"
"ใช่ หมอลักษณ์เป็นลูกฉันคนเดียว"
ปรัชญาตัวชา เหมือนถูกสูบเลือดออกไปจนหมดตัว
"หมายความว่ายังไง" ปรัชญาตะลึง
"ฉันรักกับแม่ของหมอลักษณ์ และมีหมอลักษณ์ตั้งแต่ก่อนจะแต่งงานกับแม่แกเพราะ ความจำเป็น"
"ความจำเป็นอะไร"
" ความจำเป็นที่แม่แกมาขอร้องให้ฉันช่วยรับเป็นพ่อเด็กที่อยู่ในท้องเขาน่ะสิ ฉันสงสารก็เลยแต่งงานด้วย แม่ของหมอลักษณ์รู้เข้าก็เลยพาลูกหนีไป โดยที่ฉันไม่มีโอกาสอธิบายความจริงให้เขาฟัง จนเขาตายจากไป"
"พ่อกำลังจะบอกผมว่า ผมเป็นลูกติดแม่มาอย่างนั้นเหรอ"
ปราชญ์ยืนนิ่ง ไม่พูดอะไร "ผมไม่ใช่ลูกพ่อ"
ปรัชญา เดินผละจากปราชญ์มาอย่างเลื่อนลอย เหมือนคนไร้ซึ่งวิญญาณ ปราชญ์เสียใจ ความลับที่ไม่คิดจะเปิดเผยให้ใครรู้ กลับต้องมาระเบิดเอาวันนี้เอง
บนชายหาดกรวิกกับช่อลดาอยู่ในอารมณ์สดชื่นแจ่มใส และเป็นอิสระต่อพันธนาการทั้งปวง
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ ช่อลดา เธอคิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ"
"ถึงหนีไม่พ้น แต่พี่วิกก็ต้องเหนื่อยหน่อยล่ะ จำไม่ได้เหรอว่าเมื่อก่อนพี่วิกต้องเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะวิ่งไล่เอยทัน"
"เดี๋ยวเถอะ จับได้เมื่อไหร่จะทำโทษซะให้"
ทั้งคู่วิ่งไล่ตามกันอย่างสนุกสนาน แต่แล้วสักครู่กรวิกตกใจสุดขีดเมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่พื้น
"น้องเอย งู ระวัง"
"เอยไม่ยอมให้พี่วิกหลอกเป็นครั้งที่สองหรอก"
ช่อ ลดาหันกลับไปวิ่งต่อด้วยใบหน้าที่เบิกบาน งูฉกช่อลดา ช่อลดาสะดุ้งเฮือกทรุดลงกองกับพื้นทราย โดยที่งูตัวต้นเหตุเลื้อยหนีเข้าดงผักบุ้งทะเลไป กรวิกช็อก วิ่งเข้าไปหาช่อลดาซึ่งนั่งเอามือกุมข้อเท้า กรวิกตัดสินใจใช้ปากดูดพิษงูที่ข้อเท้าช่อลดา ช่อลดามองภาพวีรกรรมของกรวิกด้วยนัยน์ตาที่พร่ามัว สะลึมสะลือ ก่อนจะเป็นลมพับไป กรวิกช้อนตัวช่อลดาขึ้นไว้แนบอก แล้ววิ่งตรงดิ่งกลับเข้าบ้านทันที
ลุงส่งกับป้าสวยรีบมาดูเหตุการณ์ ทั้งหมดกลับมาที่บ้าน ลุงส่งมีความรู้เรื่องสมุนไพรจึงสามารถช่วยช่อลดาได้ ตกดึกช่อลดานอนเพ้อเพราะพิษไข้อยู่บนเตียง
"พี่วิก พี่วิก"
"พี่อยู่นี่" กรวิกพุ่งเข้ามาหาช่อลดา
"เอย เอยไม่ได้ตั้งใจทำร้ายจิตใจพี่วิก เอยไม่ได้ตั้งใจ เอยขอโทษ ขอโทษ"
กรวิกน้ำตาซึม แม้ในยามเจ็บ ภาพของเขาก็ยังตามหลอกหลอนเธอ
" น้องเอย พี่วิกต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษที่ทำให้น้องเอยเจ็บตัวอย่างนี้ พี่วิกไม่น่าพาน้องเอยมาลำบากที่นี่เลย อย่าเพิ่งเป็นอะไรเลยนะคนดีของพี่ พี่ขอร้อง"
"หนาว หนาวเหลือเกิน เอย ไม่คิดจะหนี เอยแค่อยากจะบอกพี่ลักษณ์ว่าเอยยังมีชีวิตอยู่ ไม่คิดจะหนีพี่วิกไปไหนอีกแล้ว ไม่ไป ไม่ไป"
ช่อลดาพึมพำเพ้อออกมา กรวิกเสียใจที่เข้าใจช่อลดาผิดมาตลอด กรวิกน้ำตาไหลขณะจับมือช่อลดาขึ้นมากุม
" น้องเอยต้องหาย ไหน ลืมตาขึ้นมาคุยกับพี่วิกซิ พี่วิกมีเรื่องจะขอโทษน้องเอยเยอะแยะเลยรู้มั้ย แล้วก็มีเรื่องสำคัญจะสารภาพกับน้องเอยด้วย ได้ยินที่พี่วิกพูดมั้ย ตื่นขึ้นมามองพี่วิก ให้โอกาสพี่วิกได้ขอโทษน้องเอยสักครั้ง ได้โปรดเถอะนะ"
กรวิกดึงมือช่อลดามาจูบแล้วกุมมือหญิงสาวไว้แนบหน้าผากตัวเอง
ใจร้าว จบตอน 15ใจร้าว 16
ช่อลดาลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ ช่อลดาจะขยับพลิกตัว จึงหันมาเห็นกรวิกนั่งอยู่ที่พื้นหลับฟุบไปกับเตียง โดยที่มือยังกุมมือช่อลดาไว้ ช่อลดามองภาพกรวิกอย่างซาบซึ้งใจ นี่เขาคงอดหลับอดนอนเพื่อดูแลเธอทั้งคืน ช่อลดาก็ตื่นจากภวังค์ เมื่อป้าสวยถืออ่างน้ำอุ่นและผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเข้ามา
กรวิกได้ยิน เสียงป้าสวย ลืมตาตื่น พอหันไปเห็นช่อลดาฟื้นแล้วก็รีบละล่ำละลักถามว่าช่อลดาเป็นยังไงบ้าง แล้วรีบบอกให้ป้าสวยไปเอายามาให้ช่อลดา และจะพาขึ้นฝั่งไปหาหมอ ช่อลดาบอกว่าเธอไม่เป็นอะไรมากแล้ว ให้กรวิกรีบไปทำงานดีกว่า แต่กรวิกยืนยันว่าเขาไม่ไปทำงาน แต่จะอยู่เฝ้าช่อลดา ช่อลดามองกรวิกอย่างตราไว้ในดวงจิต ไม่ใช่แค่เพราะความห่วงใยที่กรวิกมีให้ แต่เพราะอ่อนโยน ความผูกพันที่ห่างหายไปนาน ได้หวนกลับคืนสู่ใจช่อลดาอีกครั้ง
กรวิกพา ช่อลดามาขึ้นฝั่งเพื่อไปหาหมอ กรวิกสวมใส่แว่นดำอำพรางผู้คน ช่อลดาเกรงใจ บอกกรวิกว่าไม่ต้องเข้าไปหรอก เดี๋ยวคนจะแตกตื่น แต่เมื่อช่อลดาให้หมอตรวจเสร็จ ก็ถือโอกาสยืมโทรศัพท์หมอเพื่อโทรหาลักษณ์ แต่ติดต่อไม่ได้
ช่อลดาเดินออกมา กรวิกหยิบถุงยามาดูแปลกใจว่าทำไมไม่ได้มีแต่ยาทา
"ยาบำรุงเลือดน่ะค่ะ คุณหมอเห็นว่าซีดก็เลยให้มา"
"กินให้ตรงตามเวลาที่หมอสั่งด้วยล่ะ ฉันต้องไปแล้วยังไงผมฝากป้าดูแลภรรยาผมด้วยนะ แล้วก็อย่าลืม"
"บังคับคุณหนูให้กินอาหารเสริมและยาตามเวลาที่หมอสั่ง ป้าไม่ลืมเด็ดขาด คุณวิกไปทำงานเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ"
กรวิก รีรอ มองหน้าช่อลดาแล้วขยับเข้าขยับออกอยู่หลายเที่ยว ก่อนจะตัดใจเรียกลุงส่งให้ตามออกไป กรวิกส่งโทรศัพท์ให้ลุงส่งและบอกว่าเอาไว้เพื่อที่ตัวเองจะได้โทรมาเช็ค แต่ห้ามบอกช่อลดาเด็ดขาดว่าลุงส่งมีโทรศัพท์
ช่อลดากำลังลองเสื้อผ้าที่ ซื้อมา กรวิกเดินกลับมาแล้วเอ่ยปากชมว่าสวยมาก สวยทั้งผ้าและคนใส่ ช่อลดาตาโตที่เห็นกรวิกยังอยู่อีก ทั้งที่สายแล้ว เลยถามว่าลืมอะไรอีก กรวิกยิ้มบอกว่าลืมจริงๆ ด้วย ช่อลดางงว่าลืมอะไร
"ลืมหอมแก้มภรรยาไง"
ว่าแล้วก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง กรวิกหอมฟืดที่แก้มช่อลดาซึ่งไม่ทันได้ตั้งตัวทันที
ป้าสวยเห็นแล้วอ้าปากค้าง เอามือปิดหน้าเขินซะจนเหมือนโดนจูบซะเอง
"ไปส่งหน่อยได้มั้ย จะได้มีกำลังใจไปทำงาน"
ช่อลดายิ้มเขินก่อนจะเดินนำกรวิกออกไป เพราะไม่อยากแสดงอาการเขินอายต่อหน้าป้าสวยมากไปกว่านี้
ช่อลดาเดินมาตามสะพานไม้ โดยมีกรวิกเดินตามหลัง กรวิกเฝ้ามองด้านหลังของช่อลดา จนกระทั่งช่อลดาหันมาเจอดวงตาฉ่ำกรึ่มของกรวิก
"ไปทำงานได้แล้วค่ะ" ช่อลดาเขินมาก
"ความจริงวันนี้ ฉันมีเรื่องจะสารภาพกับเธอตั้งหลายอย่าง"
ช่อลดาใจเต้นตึกตัก จะสารภาพอะไร ไม่นะ ยังไม่ทันตั้งหลัก ช่อลดาบ่ายเบี่ยงเอาเรื่องงานบังหน้า
"เดี๋ยวไปไม่ทัน กองถ่ายจะเสียหายอีกนะคะ"
"พูดตอนนี้เลยได้มั้ย"
"แต่ทีมงานรอพี่วิกไม่ได้แล้วนะคะ รีบไปเถอะค่ะ เรายังมีเวลาคุยกันอีกเยอะ จะคุยเมื่อไหร่ก็ได้"
"ไม่ใช่เมื่อไหร่ก็ได้ ต้องคืนนี้ ไม่งั้นฉัน เอ๊ย พี่วิก อกแตกตายแน่ รอพี่วิกนะ แล้วพี่วิกจะรีบกลับมา"
กรวิกทำท่าจะกระโดดลงเรือ แต่แล้วก็ชะงักวิ่งกลับมาจับมือช่อลดาแน่นอีก
"สัญญานะว่าจะยังไม่นอน จะรอพี่วิกก่อน รับปากสิ น้องเอย"
"ค่ะ ค่ะ เอยจะรอ"
กรวิกระดมจูบมือช่อลดาอย่างอิ่มเอมใจ ก่อนจะตัดใจกระโดดลงเรือแล้วขับออกไปอย่างกรึ่มใจสุดๆ
ช่อ ลดารู้สึกเหมือนตัวเองลอยอยู่ในสวรรค์ชั้นวิมาน ความสุขอันหอมหวานของวันวารหวนกลับมาหาเธออีกครั้ง รวมทั้งสรรพนาม "พี่วิก" ที่กรวิกใช้เรียกแทนตัวเอง และ "น้องเอย" ซึ่งเขาใช้เรียกเธอจนติดปากเสมอมา นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริงหรือนี่
ปรัชญาเก็บข้าวของเครื่องใช้บนโต๊ะทำงานลงกระเป๋าด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ปราชญ์เดินเข้ามารบถามว่าปรัชญาจะไปไหน
" ผมก็ยังไม่รู้ รู้แต่ว่าผมหมดหน้าที่ หมดความชอบธรรมที่จะอยู่ที่นี่แล้ว ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์ดูแลเอาใจใส่ผมตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาผมลานะ ครับ"
ปรัชญายกมือไหว้ปราชญ์ ก่อนจะเดินผละออกมา
"อย่าไปได้มั้ย พ่อขอร้อง ถึงแกจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อ แต่พ่อก็รักแกเหมือนลูกในไส้"
ปรัชญาหันกลับมามองปราชญ์น้ำตาคลอ
" ที่พ่อเฝ้ากล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดู ให้การศึกษาที่ดีกับแกเพราะอะไร ที่พ่อทำงานหนักสร้างอาณาจักรใหญ่โตไว้ก็เพื่อใคร ถ้าไม่ใช่เพื่อให้ลูกทุกคนมีต้นทุนไว้ทำกิน พ่อไม่เคยคิดจะยกทุกอย่างให้หมอลักษณ์ แล้วปล่อยให้แกไปปากกัดตีนถีบอยู่ข้างนอกอย่างที่แกเข้าใจ พ่อแค่อยากเห็นแกสองคนพี่น้องช่วยกันทำมาหากิน ช่วยกันสานต่อสิ่งที่พ่อทำไว้ พ่อผิดเองที่ไม่บอกความจริงแกตั้งแต่แรก เรื่องมันถึงได้บานปลายแบบนี้"
"ไม่ใช่ครับ พ่อไม่ผิด ผมต่างหากที่ผิด ผมมันเลวที่เอาแต่ใจตัวเอง คิดเอาแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียว ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของพ่อ จนก่อเรื่องเลวๆ ขึ้น ผมมันเลว ชั่ว ชั่วจนไม่น่าให้อภัยจริงๆ"
ปรัชญาสติแตกตีอกชกตัว ถีบโต๊ะชกกำแพงจนเลือดสาด ปราชญ์ยื้อตัวลูกไว้
" หยุดนะ แกจะทำร้ายตัวเองให้มันได้อะไรขึ้นมา ทำไมแกไม่ช่วยดูแลหมอลักษณ์ ทำให้พี่เขาฟื้นตัวให้เร็วที่สุด แล้วเริ่มต้นกันใหม่ พ่อสัญญาว่าพ่อจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก แต่แกต้องรับปากพ่อว่าจะไม่คิดทำอะไรชั่วๆ เหมือนที่แล้วๆ มา ตกลงมั้ย"
ปรัชญาพุ่งเข้าไปกอดพ่อปล่อยโฮเหมือนเด็กๆ แล้วก้มลงกราบเท้า
" ผมขอโทษครับพ่อ ขอบคุณนะครับที่พ่อให้อภัยผม ต่อไปนี้ผมจะไม่คิดร้ายกับพี่ลักษณ์อีก ผมสาบาน ถ้าผมคิดชั่วๆแบบนั้นอีกเมื่อไหร่ ขอให้ผมมีอันเป็นไปเมื่อนั้น"
ปราชญ์ดึงปรัชญาขึ้นมาแล้วตบหลังลูกเบาๆเพื่อปลอบโยนและให้กำลังใจ ปรัชญาร้องไห้ตัวโยนแต่ด้วยแววตาที่แข็งกร้าวดุดัน
ปราชญ์ เดินจ้ำมาตามทางเดินในรพ. ด้วยสีหน้ากระวนกระวาย จนถึงหน้าห้องลักษณ์ จึงเคาะประตูพยาบาลสินีเดินมาเปิดประตูให้ ปราชญ์เดินเข้าห้องไป ปรัชญาซึ่งเดินตามปราชญ์มามองอยู่โดยที่ปราชญ์ไม่รู้ตัว
"รีบแจ้นมาเลยนะ กูนึกแล้วว่ายังไง เลือดมันต้องข้นกว่าน้ำ"
ปรัชญากัดฟันจนกรามปูดอย่างแค้นใจ ปราชญ์ค่อยๆเดินเข้ามาหาลักษณ์ เอื้อมมือไปจับมือลูกบีบเบาๆ
" พ่อผิดเอง พ่อไม่น่ายื้อลูกไว้เพราะความเห็นแก่ตัวของพ่อ ถ้าพ่อรู้ว่าการดึงลูกกลับมาแล้วทำให้ลูกต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ พ่อจะยอมเจ็บ ยอมมองความสำเร็จของลูกอยู่ไกลๆ ดีกว่าเห็นลูกเจ็บอยู่ใกล้ๆ อย่างนี้ พ่อขอโทษ ขอโทษจริงๆ"
ปราชญ์น้ำตาคลอ มองลักษณ์ซึ่งนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวดร้าวรานใจ
ปราชญ์ เดินออกไปพักใหญ่แล้ว ลักษณ์ค่อยๆรู้สึกตัว เป็นจังหวะเดียวกับที่เมลานีแวะมาหาพร้อมถือปิ่นโตแบบญี่ปุ่นเดินเข้ามา ถามอาการของลักษณ์ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ลักษณ์บอกว่าค่อยยังชั่วมากแล้ว และขอบคุณที่เมลานีมาส่งเขาที่รพ.แถมยังอยู่เฝ้าจนเช้าอีก เมลานีจิ้มผลไม้จากจานป้อนลักษณ์ เพราะเห็นว่าลักษณ์ทานเองไม่ได้ เสียงหนึ่งดังแหวขึ้น
"ฉันนึกแล้วเชียวว่าแกต้องมีอะไรกับหมอลักษณ์" แสงฉายปรากฏตัว
"มีอะไรคะ" เมลานีงง
" ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อเหมือนนางเอกละครโง่ๆ หน่อยเลย จะมีอะไรกับใครก็สืบซะก่อนซี้ว่าเขามีเมียแล้วรึยัง เป็นถึงดาราดังไม่น่าทำตัวง่ายอย่างนี้เลยนะ" แสงฉายใส่ไม่ยั้ง
"หยุดเดี๋ยวนี้นะแสงฉาย"
"เดี๋ยวค่ะ คุณเข้าใจถูกแล้วว่าฉันเป็นดาราดัง แต่คุณล่ะ..เป็นใครคะ"
"ฉัน แซนดี้ เป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายของหมอลักษณ์"
"อ้อ" เมลานีอึ้ง
"รู้แล้วก็กลับไปสิ จะหน้าด้านอยู่ทำไม ดูซิ ขนาดหมอลักษณ์เจ็บเจียนตาย ยังอุตส่าห์ตามมาประเคนของหวานให้ถึงเตียง"
" อ้าว..ถ้าไม่ประเคนของหวานแล้วจะให้ประเคนอาหารมื้อหนักหรือคะ คนป่วย ยังไงก็ต้องเพิ่มพลังด้วยของหวานก่อน ไว้มีแรงเมื่อไหร่ค่อยป้อนอาหารมื้อหนัก แรงดีอย่างคุณหมอ เมนี่ป้อนได้ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็นอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง หรือจะแถมมื้อดึกอีกมื้อก็ยังได้" เมลานีกวน
"แกหมายความว่ายังไง จะจับผัวฉันให้ได้เลยใช่มั้ย มีนังเอยคนเดียวยังไม่พอ ริจะเอานังนี่เป็นเมียน้อยอีกคนเหรอ"
" แหม เมนี่ว่าจะขอคิดนานกว่านี้หน่อย แต่พอมาเจอเมียคุณหมอตัวเป็นๆแล้ว เมนี่ว่าเมนี่ไม่คิดมากดีกว่า จะให้เป็นเบอร์ 3 รองเอยก็ได้ ค่ะ เมนี่ยอม เพราะเมนี่สงสารคุณหมอม๊ากที่เมียเบอร์1 นิสัยคล้ายไพร่แบบนี้"
"แก!" แสงฉายตบหน้าเมลานีอย่างแรง
"แสงฉาย ทำไมทำอะไรบ้าๆอย่างนี้หา" ลักษณ์ตกใจ
"นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ อย่ามายุ่งกับผัวฉันอีกจำไว้"
เมลานีหันกลับมา แล้วง้างมือตบแสงฉายคืนสองครั้งซ้อน
"คิดว่าคนอื่นมือกุดตีนกุดรึไง เธอทำอะไรฉัน ฉันจะเอาคืนเป็นสองเท่าจำไว้"
เม ลานีคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกไป ทิ้งให้แสงฉายอ้าปากหวอ อยากจะกรี๊ดให้ลั่นแต่ก็กรี๊ดไม่ออกลักษณ์ปวดหัวจี๊ด อยากจะขยับเท้าขึ้นมากุมขมับแทนมือซะให้รู้แล้วรู้รอดไป
ใจร้าว จบตอน 16
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ
เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn
Readlakorn
เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ช่อง3,5,7,นิยาย ไทยรัฐ, ละครเกาหลี,ละครไต้หวัน (Series), ลิ้งค์(Links) ดูละคร Youtube, ลิ้งค์ดาวน์โหลด (Download) เพลงละคร OST. และ เพลง MP3 ทั่วไป ทั้งVampires (แวมไพร์) Sumo อื่นๆ
เรื่องย่อละคร
ใจร้าว ดินเนื้อทอง สื่อรักชักใยอลวน ดาวจรัสฟ้า คิมชูซอน เมนูรักเชฟมือใหม่ ศิลามณี คู่ป่วนอลวน เจ้าหญิงลำซิ่ง ภูติแม่น้ำโขง เพราะรักนี้มิอาจลืม (Alone in Love) หีบหลอนซ่อนวิญญาณ อุบัติรักข้ามขอบฟ้า
Readlakorn
1 comments:
^w^อยากอ่านตอนใหม่ไวๆจะเรยคะ
Post a Comment