คิมชูซอน 53
ตอนต่อๆอาจจะช้านิดนึงนะ
โชชิคยอมกล่าวกับพวกมหาดเล็กว่า
"พิธีสถาปนารัชทายาทได้ผ่านพ้นไปแล้ว ข้าก็จะประกาศทิศทางของตัวเองเหมือนกัน
ข้าจะลาออกจากตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็ก ตามที่เคยรับปากไว้ แต่ว่าอนาคต
ใครจะมาเป็นผู้นำคนใหม่นั้น รอให้ข้าไปถวายบังคมลาฝ่าบาท แล้วจะทูลให้ทรงทราบ
เพื่อให้แต่งตั้งใหม่ ใครมีอะไรคัดค้านมั้ย" ชองฮันซูคัดค้าน "ข้าน้อย
ไม่เห็นด้วยกับใต้เท้า ที่ก่อนลาออกยังได้คัดเลือกเจ้ากรมคนใหม่
ไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว" "เหตุผลที่คัดค้านคืออะไร" "การทำแบบนี้ เท่ากับคนใหม่ที่มา
เป็นเพียงตัวตายตัวแทนของท่านเท่านั้น ข้าจึงหวังว่า เมื่อท่านเสียสละด้วยการลาออก
ต่อไปก็อย่าก้าวก่ายเรื่องในกรมมหาดเล็กอีก"
"คราวนี้เมื่อข้าลาออกแล้ว ตั้งใจจะไปจากเมืองหลวง
ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องก้าวก่ายอีก เพียงแต่อยากให้รู้ว่า การที่ข้าขอเลือกคนใหม่
ด้วยตัวเองนั้น เพื่อเป็นการแสดงความภักดีที่รับใช้ราชสำนัก
มาเกือบครึ่งค่อนชีวิตต่างหาก" เวลาเดียวกันนี้
คิมชูซอนเห็นยางซองยุนจึงถามว่าทำไมดื่มแต่วัน
ยางซองยุนตอบว่าเพื่อนเขาจะลาออกไปเลยดื่ม คิมชูซอนถามว่าใคร "ก็พ่อของเจ้าไง
เขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเจ้ากรมแล้ว เจ้ายังไม่รู้อะไรอีกหรือ" "หา
เป็นความจริงหรือครับนี่" "จริงสิ แต่ข้าไม่เข้าใจความคิดของเขาเลย
ถ้าจะทำเพื่อความถูกต้อง 20 ปีก่อนก็น่าจะออกไปนานแล้ว แทนที่จะเป็นตอนนี้
หรือจะบอกว่าเพิ่งมาคิดได้ งั้นอีก 20 ปีค่อยลาออกก็ยังไม่สาย ไม่เห็นต้องรีบร้อน
จะมาออกช่วงนี้ทำไมกัน เฮ่ย ข้าล่ะไม่เข้าใจพ่อเจ้าจริงๆ เฮ่อๆๆ"
คิมชูซอนรู้เช่นนั้นก็ไปเกลี้ยกล่อมโชชิคยอมให้เปลี่ยนความตั้งใจ "ต่อให้ท่านจะไป
ข้าคิดว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะ ถ้าไม่มีท่านซักคน
มหาดเล็กก็จะไปสมคบกับเหล่าขุนนาง หาวิธีถอดถอนรัชทายาทอีก ถึงตอนนั้น
รัชทายาทซึ่งไม่มีใครหนุนหลังเลย ก็จะตกอยู่ในอันตรายนะครับ" "ชูซอน
คนที่จะปกป้องรัชทายาทได้นั้น ไม่ใช่ข้า แต่เป็นเจ้าต่างหาก
เรื่องนี้ข้าตัดสินใจแน่นอนแล้ว เจ้าจงอย่าขัดอีกเลย"
"ท่านทำเพื่อโอซังกุงใช่ไหมครับ" "เหมือนที่ครั้งหนึ่ง
เจ้าเคยคิดพามเหสีโซฮวาหนีไปกลางดึก ความรู้สึกข้าตอนนี้
ก็อยากให้เจ้าเข้าใจเหมือนกัน" คิมชูซอนไปหาโอซังกุงบอกว่ามีเรื่องรบกวน
โอซังกุงบอกให้ว่า "ตอนนี้ท่านพ่อ คิดลาออกจากตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็ก
ถ้าไม่มีท่านพ่ออยู่ซักคน คนที่คิดปองร้ายรัชทายาทและหาทางเล่นงานอยู่
ก็จะกุมสถานการณ์แทน ถึงตอนนั้น รัชทายาทก็จะ
ตกอยู่ในภาวะคับขันและไม่มีใครช่วยได้" "หึ แล้วเจ้าอยากให้ข้าทำอะไรบ้าง"
"คนที่จะทำให้ท่านพ่อเปลี่ยนใจได้ ตอนนี้ก็มีแต่ท่านคนเดียว ข้าคิดว่า
อย่างน้อยการทำแบบนี้ เท่ากับตอบแทนพระเมตตาของมเหสีโซฮวาด้วย" "อึม เอาเถอะ
ถ้าเขามาเมื่อไหร่ ข้าจะลองคุยให้ละกัน" "ขอบคุณนายหญิงมาก ถ้าอย่างงั้น
เรื่องนี้ขอฝากท่านไว้ด้วย ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับ" คิมชูซอนออกไป
โอซังกุงมองตามแล้วถอนใจ โอซังกุงมาหาวอฮาที่บ้าน และบอกนางว่า
"ข้าอยากดูผ้าเปื้อนเลือดและมีดเงินเล่มเล็กที่เมื่อก่อนเคยอยู่บ้านเจ้าหน่อย
ตอนนั้นความจำข้ายังเลือนราง นึกอะไรไม่ออก แต่เชื่อว่า
ของพวกนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับอดีตของข้าไม่มากก็น้อย ถ้าไง ข้าจะขอดูอีกทีได้ไหมคะ"
"ของพวกนั้น ตอนนี้ไปอยู่ที่ชอนตงหมดแล้วค่ะ" "ชูซอนน่ะหรือ" "ถ้ายังไง
ข้าจะบอกให้เขา นำไปให้ท่านดูที่บ้านจะสะดวกมากกว่า" "อ้อ
ได้อย่างงั้นก็ยิ่งดีน่ะค่ะ"
พระเจ้าซองจงทรงมีรับสั่งกับเหล่าขุนนางแล้วขอปิดประชุม
ก่อนจะตรัสให้ใต้เท้าซังตังอยู่ก่อน "ใต้เท้าซังตัง
รับราชการตั้งแต่สมัยพระเจ้าเซโจ ถือเป็นขุนนางเสาหลักที่มีความดีความชอบ
สร้างคุณูปการต่อบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน" "หม่อมฉัน
เพียงแค่ทำตามหน้าที่ของขุนนางเท่านั้น ไม่บังอาจรับคำชมพ่ะย่ะค่ะ"
"แถมยังส่งลูกสาวสองคนมาเป็นสนมในวัง แม้แต่ตอนที่ข้าครองราชย์
ท่านก็อยู่ในสภาปกครองดูแลราชกิจ ซึ่งข้าก็รู้ดี" "วันนี้จู่ๆ ฝ่าบาท
เกิดเห็นความดีของหม่อมฉัน จนมีรับสั่งชมเชย หม่อมฉันขอขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ"
"ความเสียสละของท่าน ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจรับใช้บ้านเมืองนั้น
ข้าเห็นว่าสิ่งที่ควรทำ ก็ได้บรรลุเป้าหมายไปหมดแล้ว ฉะนั้น นับแต่นี้
ข้าคิดว่าควรถึงเวลา ที่จะตอบแทนความดีของท่าน ด้วยการมีชีวิตบั้นปลายที่เป็นสุข"
"เอ่อ หมายความว่า" ใต้เท้าซังตังอึ้งไป "ขอให้ท่าน ลาออกจากราชการไปซะ
นี่คือความเมตตาครั้งสุดท้าย ที่ข้าสามารถทำเพื่อท่านได้" ใต้เท้าซังตังตกใจมาก
พระพันปียินซูทรงทราบก็ตรัสกับพระเจ้าซองจง "ฝ่าบาท เจ้าก็รู้ว่าใต้เท้าซังตัง
เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ แล้วทำไมให้เขาลาออกซะล่ะ" "เขาชอบรวบรวมสมัครพรรคพวก
ถือว่ามีเสียงข้างมากในมือ ขัดขวางการทำงานของหม่อมฉันเรื่อย
ไม่ว่าอะไรก็คัดค้านไปหมด เพราะฉะนั้น หม่อมฉันจึงถือว่าเห็นแก่ผลงานที่มีมา
ให้เขาลาออกไปด้วยตัวเอง" "แต่คนๆ นี้ ถือเป็นศูนย์กลางของอำนาจในวัง
เขาคงไม่ยอมเชื่อฟังเจ้าง่ายๆ ออกไปแต่โดยดีหรอกนะฝ่าบาท" "ถ้าเขากล้าขัดคำสั่ง
หม่อมฉันก็จะสั่งปลดเขาซะ" "ถ้าทำอย่างงั้นจริง
เจ้าไม่กลัวเสียงคัดค้านจากเหล่าขุนนางบ้างหรือ" "ตอนนี้
หม่อมฉันมีทายาทที่จะสืบต่อแล้ว ยังมีอะไรต้องกลัวพวกขุนนางอีก ราชสำนักในวันหน้า
จะให้คนมีความรู้และมองการณ์ไกลอย่าง "คิมจงจิก" เป็นผู้นำ คนเก่าต้องปลดออกให้หมด"
พระพันปียินซูทรงรับฟังแล้วถอนหาใจ
ใต้เท้าซังตังโกรธมากและลั่นวาจาว่าจะไม่ยอมลาออก
ขณะที่ชองฮันซูข่มขู่บังคับให้ฮุงบีวางยา เมื่อนางปฏิเสธว่าไม่กล้าทำ
"ถ้าเจ้ากล้าปฏิเสธ ข้าจะเปิดเผยสิ่งที่เจ้าทำ ให้ทุกคนได้รู้ ถึงตอนนั้น
อย่าว่าแต่เจ้าเลย แม้แต่คนในครอบครัว ก็อาจถูกประหารทั้งตระกูลก็ได้ แต่ว่า
ถ้าช่วยข้าทำงานนี้ให้สำเร็จได้ ข้าจะตอบแทนด้วยเงินจำนวนมหาศาล
นี่ไม่ใช่การขอร้องแต่เป็นการออกคำสั่ง เจ้าต้องทำงานให้เสร็จถึงจะถอนตัวได้"
กึมพยอเชิญหัวหน้ามหาดเล็กไปพบ ขอร้องให้ช่วยเกลี้ยกล่อมโชชิคยอมไม่ให้ออก
แต่หัวหน้ามหาดเล็กไม่เห็นด้วย กึมพยอจึงบังคับว่าถ้าใครไม่ยอมก็ไม่ให้ออกจากห้อง
ชองฮันซูรู้ก็รีบมาเจรจากับกึมพยอทันที "โทกึมพยอ
ทำไมเจ้าใช้กำลังข่มขู่หัวหน้าทั้งหลาย ให้ลงชื่อถอนคำร้องงั้นหรือ"
"ข้าทำเพื่อปกป้องนายของข้า เจ้าจงถอยไปซะ" "หนังสือที่พวกเขาลงชื่อไว้
รีบเอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้" "ชองฮันซู ถ้าไม่เพราะท่านเจ้ากรมห้ามไว้ละก้อ
ป่านนี้คนสารเลวอย่างเจ้าตายด้วยอาวุธข้านานแล้ว
ไม่มีทางได้มาเนรคุณใต้เท้าอยู่นี่หรอก" "นี่แปลว่า
เจ้าจะขัดคำสั่งหัวหน้ามหาดเล็กตรวจการณ์ใช่ไหม จับตัวเขาไว้" โชชิคยอมเข้ามา
"ที่นี่เป็นกรมมหาดเล็ก พวกเจ้าถือดาบทำอะไร มหาดเล็กโท เอาหนังสือถอนคำร้องออกมา"
"แต่ว่าใต้เท้าครับ" "กึมพยอ เดี๋ยวนี้เจ้าก็เอาอย่างคนอื่น
กล้าขัดคำสั่งข้าแล้วหรือ มหาดเล็กชอง เอานี่ไปซะ" "ขอบคุณใต้เท้ามาก"
"ทุกวันนี้ข้ายังเป็นเจ้ากรมอยู่ ในฐานะเจ้ากรมมหาดเล็ก ขอสั่งว่าเรื่องของกึมพยอ
ห้ามเอาผิดเขาเด็ดขาด" "ได้ครับ ข้าน้อยจะทำตามคำสั่ง" ชองฮันซูออกไป "ใต้เท้า
ทำไมถึงยอมให้คนอย่างงั้น เป็นผู้กุมชะตาในกรมมหาดเล็กล่ะครับ"
"ข้ารู้ว่าเจ้าทำเพราะหวังดีต่อข้า แต่ซักวันหนึ่ง
เจ้าจะเข้าใจในสิ่งที่ข้าทำเหมือนกัน" องค์ชายวอนจาถามคิมชูซอน
โชชิคยอมจะลาออกจริงหรือเปล่า "แม้จะยังไม่ทูลฝ่าบาทอย่างเป็นทางการ
แต่คิดว่าเขาตัดสินใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ" "อีกหน่อยถ้าขาดคนที่ภักดีอย่างเขาไป
ข้าคิดว่าเสด็จพ่อ คงจะเสียใจไม่น้อย ชูซอน
เจ้าช่วยไปบอกให้ไต้เท้าโชอยู่ต่อได้หรือเปล่า" "หม่อมฉันจะลองดูพ่ะยะค่ะ"
ยางซองยุนก็ถามโชชิคยอมว่าคิดดีแล้วหรือที่จะลาออก
"ตั้งแต่เห็นฝ่าบาททรงประทานยาพิษให้มเหสีโซฮวา ข้าก็เริ่มคิดหนักแล้ว
ฝ่าบาททำเพื่อปกป้องบัลลังก์และรัชทายาท จำต้องยอมตัดพระทัย
สั่งประหารหญิงที่ทรงมีความรักมานาน ข้อนี้ข้าพอเข้าใจ เพราะข้าเอง
ก็เคยทำเพื่อข้ออ้าง คือรักษากรมมหาดเล็กไว้
จนถึงขนาดเข่นฆ่าเพื่อนสนิทและพ่อบุญธรรมที่มีบุญคุณ แล้วมีหรือ
จะไม่เข้าใจความรู้สึกของฝ่าบาทน่ะ" "แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ
ทำไมเพิ่งคิดลาออกเอาป่านนี้ล่ะ ถ้าเจ้ารู้จักคิดแต่แรก
น่าจะออกไปนานแล้วไม่ใช่หรือ" "หึ อาจเพราะบางอย่างที่เรียกว่า
ความโลภและยึดติดหรือเปล่า แต่มาวันนี้ ข้าแค่อยากอยู่กับคนที่ข้ารักมาชั่วชีวิต
แค่นี้ก็พอแล้ว แต่ว่า เมื่อข้าไปจากที่นี่แล้ว อยากให้เจ้า
ช่วยดูแลกรมมหาดเล็กต่อไป" "อะไรนะ เฮอะ เฮ่อๆๆ คนที่ขี้เหล้าเมายาอย่างข้า
เรื่องอะไรให้แบกภาระหนัก เจ้าคิดว่าคุ้มแล้วหรือ" "ตอนนี้คนที่เหมาะจะเป็นผู้นำ
ก็มีแต่เจ้าคนเดียว" "จริงอยู่ที่ว่า ข้ามาทำงานอยู่นี่นานพอๆ กับเจ้า
แต่เป็นคนโง่ที่ไม่เคยรู้ว่าอะไรคือการเมืองและอำนาจ หึ ฉะนั้นอย่าพูดดีกว่า"
"นับแต่นี้กรมมหาดเล็ก ไม่ควรที่จะ ไปก้าวก่ายการเมือง หรือยุ่งกับพวกขุนนางอีกแล้ว
พวกเรา แค่ถวายงานในส่วนของฝ่ายในก็พอ ฉะนั้นคนที่อาวุโส และเป็นที่เกรงใจของคนอื่น
ก็มีแต่เจ้าเท่านั้น ถ้าไง อย่าปฏิเสธคำขอของเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ที่กำลังจะไปเถอะนะ"
ยางซองยุนถอนใจ โชชิคยอมขึ้นกราบทูลพระเจ้าซองจงถึงเรื่องที่จะลาออก "ใต้เท้าโช
ท่านบอกว่าจะลาออก หมายความว่าไงน่ะ" "ไม่ว่าเหตุผลที่ออกคืออะไรก็ช่าง
แต่ข่าวลือที่หม่อมฉัน รับอดีตซังกุงคนหนึ่งเป็นอนุภรรยา
ก็เพียงพอที่จะทำให้ราชสำนักเสื่อมเสียได้แล้ว จึงสมควรรับผิดชอบพ่ะย่ะค่ะ"
"แต่ข้ารับปากไม่ได้ ถ้าไม่มีท่านซักคน
ต่อไปข้าจะสู้กับพวกขุนนางและบริหารราชกิจได้ยังไง" "ฝ่าบาท
เป็นที่รู้กันว่าถ้าขันทีเรืองอำนาจ บ้านเมืองจะสั่นคลอน หลายปีนี้
หม่อมฉันคอยถวายความเห็นต่างๆ นั่นเพราะฝ่าบาท ทรงอยู่ภายใต้อำนาจของขุนนาง
จนไม่อาจเป็นตัวของตัวเองได้ แต่ว่า ทุกวันนี้ฝ่าบาทสามารถว่าราชการด้วยพระองค์เอง
แม้แต่รัชทายาทก็ทรงแต่งตั้ง จนบ้านเมืองมีเสถียรภาพแล้ว หม่อมฉันจึงเห็นว่า
ถึงเวลาควรจะถอนตัวซะที ทั้งหมดนี้ ขอทรงเห็นพระทัย และโปรดทรงอนุญาตด้วย"
"เรื่องนี้ เป็นความสมัครใจของท่านจริงหรือ" "หลังจากหม่อมฉันไปแล้ว ขอเสนอให้
"ยางซองยุน" ขึ้นมาแทน เพราะเห็นว่าเขา
ถวายงานต่อฝ่าบาทและราชสำนักด้วยความภักดีมานาน จึงขอทรงอนุญาตด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ"
"หึ ตอนนี้ข้ายังให้คำตอบอะไรไม่ได้หรอก ถ้าไงขอเวลาคิดดูก่อน
ค่อยตัดสินใจว่าจะทำตามที่ขอ ให้ลาออกดีหรือไม่" "หม่อมฉันเชื่อว่าฝ่าบาท
ทรงมีวินิจฉัยที่ดีอยู่แล้ว ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ"
จากนั้นโชชิคยอมไปทูลลาพระพันปียินซู ทรงตรัสถามว่า "ใต้เท้าโช
เหตุผลของการลาออกคืออะไรกัน" "ถึงเวลาควรให้คนอื่นทำงานแทนบ้าง
จึงจะขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ" "ไม่ใช่เพื่อโอซังกุงหรอกหรือ ต่อให้ตอนนี้
ท่านยินดีลาออกก็จริง ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับนางได้อีก
เข้าใจที่ข้าพูดหรือเปล่า ทำไมไม่ยอมตอบคำถามข้าล่ะ" "พระพันปี
หม่อมฉันเป็นมหาดเล็กนะพ่ะย่ะค่ะ แม้จะอยู่กับโอซังกุงในเวลานี้
ก็ไม่ใช่ความสัมพันธ์ฉันท์หนุ่มสาว แต่เพราะนางเป็นภรรยาของเพื่อนสนิท
หม่อมฉันจึงอยากช่วยดูแล ถ้าไง ขอทรงเข้าพระทัยใหม่ด้วย"
"นางเคยเป็นแม่นมของฝ่าบาทและยังเป็นซังกุงในวังด้วย แม้ว่าท่านเอง
จะไม่อาจมีความสัมพันธ์เลยเถิดกับนางได้ แต่ความรักฉันท์หนุ่มสาวนั้น
เกิดจากใจและไม่อาจห้ามได้ จึงไม่เหมาะจะอยู่ด้วยกัน อย่าลืมซะล่ะ"000000000000000
โชชิคยอมบอกภรรยาของเขาว่าจะยกสมบัติให้ทั้งหมด และเขาจะไปจากเมืองหลวง
ทำให้ภรรยาเขาเสียใจมาก ตัดสินใจไปหาโอซังกุง "ยังไงก็จะแย่งสามีข้าให้ได้ใช่ไหม
ปล่อยให้เมียหลวงน้ำตาตกในทุกวัน เจ้ายังคิดอยู่สบายอีกหรือ
สวรรค์ไม่มีวันให้อภัยเจ้าหรอกนะ" "ข้ารู้ว่า แม้จะกล่าวคำขอโทษฮูหยินยังไง
ก็ไม่อาจชดเชยความผิดที่ก่อไว้ได้ ตอนนี้จึงได้แต่ ขอให้ฮูหยินให้อภัยเท่านั้น"
"ถ้ามีความจริงใจ อยากให้ข้ายกโทษละก้อ เอานี่ไปกินซะ" "ขวดนี้ คืออะไรหรือคะ"
"เป็นยาพิษ ถ้าเจ้าจริงใจ ก็ดื่มเข้าไปให้หมด" "หึ ฮูหยินคะ ทำไมถึงได้"
"ทางเดียวที่จะให้ข้ายกโทษนั้นง่ายมาก ก็คือใช้วิธีนี้ ถ้าเจ้าไม่ดื่มไปให้หมด
ไม่งั้น ก็มาวางยาข้าให้ตายซะ หึ"
ทางด้านคิมชูซอนก็ถามยางซองยุนว่าโชชิคยอมให้เขารับตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็กจริงหรือเปล่า
"จริงสิ ข้าก็อยากเป็นจนตัวสั่น เลยรีบรับปากเขาทันที" "แสดงว่า ท่านพ่อยังยืนกราน
จะลาออกจากที่นี่จริงหรือครับ" "เฮ่ย ข้าเคยนึกว่า พ่อเจ้าน่ะ
เป็นคนเลือดเย็นที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาทั้งนั้น แต่ไม่นึกว่าแค่ผู้หญิงคนเดียว
จะทำให้เขาละทิ้งได้ทุกอย่าง ถ้าเจ้าเข้าใจความรู้สึกของเขาบ้าง
ก็อย่าบังคับให้เขาอยู่ต่อเลยนะ" โชชิคยอมไปหาใต้เท้าซังตังบอกเรื่องลาออก
ใต้เท้าซังตังแปลกใจ "อย่าบอกนะว่า ท่านลาออกด้วยความสมัครใจน่ะ" "ใช่
ถ้าไงขอให้ใต้เท้า ลองเอาอย่างข้าบ้าง ลาออกด้วยกันดีมั้ย" "อะไรนะ"
"สมัยก่อนท่านเคยช่วยให้พระเจ้าเซโจ ได้ครองราชย์
จากนั้นเราก็ช่วยกันเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ โดยสนับสนุนพระราชาองค์ปัจจุบันให้ขึ้นแทน
ในฐานะขุนนางอาวุโส ท่านน่าจะเสวยสุขลาภยศจนอิ่มแปล้ และควรแก่เวลา
ที่จะปล่อยให้ฝ่าบาททรงปกครองด้วยพระองค์เอง ส่วนท่าน ก็น่าจะวางมือ
ไปใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบได้แล้ว" "โชชิคยอม คำพูดของเจ้า คือประชดข้าใช่ไหม"
"ข้าน้อย มีแต่ความหวังดีต่อใต้เท้า จึงมาเตือนสติให้รู้บ้าง
ต่อให้ร่วมมือกับชองฮันซู ทำทุกวิถีทางให้รัชทายาทลงจากตำแหน่งก็เถอะ
วันหน้าวันหลัง แผ่นดินนี้ก็ไม่มีที่ยืน ให้คนอย่างท่านอยู่ดี"
"ข้าไม่อยากฟังอีกแล้ว จะไปไหนก็รีบไปเถอะ" "เชื่อว่าใต้เท้า
คงเข้าใจความหมายที่ข้าพูด ถ้าไง ข้าขอลาก่อน"
โชชิคยอมกลับออกมาและกล่าวกับกึมพยอว่าเขารู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
และน่าจะลาออกแต่แรกแล้ว "แต่ยังไง ข้าก็ไม่เข้าใจเจตนาของไต้เท้าอยู่ดี" กึมพยอว่า
"ยังไงซะ คนอย่างข้าก็ไม่มีวันถูกประวัติศาสตร์จารึกในฐานะมหาดเล็กอยู่แล้ว
ขอแค่ใช้เวลาที่เหลือ ทำสิ่งดีๆ ให้แก่ตัวเองบ้าง แค่นี้พอเข้าใจหรือเปล่า"
โชชิคยอมกลับมาบอกโอซังกุงว่าเขาทูลฝ่าบาทเรียบร้อยแล้วเรื่องลาออก
"ข้าได้ทูลฝ่าบาท เกี่ยวกับเรื่องลาออกแล้ว รอเพียงมีพระบัญชาออกมาเมื่อไหร่
เราจะไปจากเมืองหลวงทันที" "ใต้เท้า ท่านยอมละทิ้งทุกอย่าง
เพื่อเห็นแก่ข้าจริงหรือคะ" "สำหรับข้าแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในโลก
ก็คือเจ้าคนเดียวเท่านั้น" "แต่ว่าใต้เท้าคะ ข้ารู้สึกไม่สบายใจเลย"
"ขอให้เชื่อข้าเถอะ ข้าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แต่ช่วงนี้
ข้าต้องสะสางงานทั้งในกรมมหาดเล็กและที่บ้านให้เรียบร้อย เลยอาจจะหายไปพักหนึ่ง
เจ้าเองก็เตรียมตัว จัดเก็บข้าวของ เพื่อไปกับข้าเถอะนะ" "ข้าจะทำตามที่สั่ง"
คิมชูซอนรอเครื่องว่างขององค์ชายวอนจานานแล้วจึงไปตาม
ทำให้รู้ว่ามีขวดยาวางอยู่ด้วย เขารีบไปให้ยางซองยุนตรวจสอบ
และพบว่าเป็นพิษที่น่ากลัวมาก แม้แต่เข็มเงินก็ไม่อาจตรวจสอบได้ "แต่ว่า
ที่ข้าไม่เข้าใจก็คือ ทำไมไม่ใส่ไปซะ กลับทิ้งขวดไว้ข้างๆ ล่ะ"
พระเจ้าซองจงทรงทราบก็สั่งให้องครักษ์สืบหาคนร้ายให้ได้
ด้านชองฮันซูรู้จากลูกน้องก็ตกใจแถมฮุงบีก็หายตัวไป
พระพันปียินซูทรงทราบก็ทรงเรียกสนมออมมาว่าฮุงบีหายไปไหน
แต่สนมออมยืนยันว่าไม่ทราบจริงๆ
พระพันปียินซูคิดว่าฮุงบีต้องเกี่ยวข้องกับการวางยาแน่
ทรงรับสั่งให้ค้นที่พักอย่างละเอียด และตรัสกับสนมออมว่า
"สนมออมจงกลับไปสำนึกผิดให้มาก ก่อนที่เรื่องนี้จะกระจ่าง
ห้ามออกจากตำหนักแม้แต่ก้าวเดียว" "หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ" สนมออมออกไป "เฮ่ย
มเหสีโซฮวาก็ตายแล้ว ทำไมยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อีกนะ ฮึ่ม"
พระมเหสีซุกยอนตรัสต่อว่า "พระพันปีเพคะ
ถ้าสามารถจับกุมคนที่คิดปองร้ายรัชทายาทได้ในภายหลัง งั้นมิแสดงว่า
มเหสีโซฮวาถูกให้ร้ายหรอกหรือ" "ตอนนี้ยังไม่เจอใคร
เราก็ไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไง อย่าเพิ่งด่วนสรุปนักเลย"
ชองฮันซูตามตัวฮุงบีจนพบและคาดคั้นว่าทำไมถึงทิ้งหลักฐานไว้
"เป็นเพราะข้าสะเพร่าน่ะค่ะ กำลังจะใส่ยาอยู่แล้ว พอดีมีคนเข้ามาก็เลย"
"แปลว่าเจ้าไม่ได้จงใจหรอกหรือ" "เอ่อ ข้าน้อยไม่กล้า
ทิ้งหลักฐานไว้เพื่อให้ร้ายท่านหรอกค่ะ" "แล้วทำไมต้องหนีออกจากวัง
ในเวลากลางคืนด้วย" "นั่นเป็นเพราะ ข้ากลัวถูกคนจับได้เลยหนีไป ตั้งหลักก่อนน่ะค่ะ"
"ก็ได้ ข้าจะเชื่อเจ้าซักครั้ง รอถึงพรุ่งนี้เช้าค่อยไปจากเมืองหลวงละกัน" "หา
ขอบคุณใต้เท้ามากค่ะ ฮือ เอ่อ หึ" "แต่ว่า ต่อไปนี้ ข้าจะไม่ไว้ใจเจ้าอีกแล้ว"
ชองฮันซูฆ่ารัดคอฮุงบีทันที "ข้าจะไม่ยอมให้ผู้หญิงต่ำต้อยอย่างเจ้า
มาทำลายอนาคตของข้าเข้าใจหรือเปล่า" "อย่า ไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรด ปล่อยข้า โอ๊ะ
โอย" ฮุงบีตาย พระพันปียินซูทรงให้ตามตัวคิมชูซอนมาเฝ้าและตรัสถามว่า "มหาดเล็กคิม
เจ้ากับนางในชื่อฮุงบี เกี่ยวข้องยังไงกันแน่"
"หม่อมฉันไม่เข้าใจที่รับสั่งพ่ะย่ะค่ะ" "หึ ที่พักของนางถูกตรวจค้น
ได้พบจดหมายฉบับหนึ่ง ที่นางเขียนถึงเจ้า ลองอ่านดูสิ" "มหาดเล็กคิม
ขณะที่เจ้าได้อ่านจดหมาย ถ้าหากว่า ข้าไม่ไปจากเมืองหลวง ก็คงจากโลกนี้ไปแล้ว
เหมือนที่เจ้าเคยสงสัยว่า ที่มีการทำคุณไสยต่อพระพันปี และทำให้พระสนมชองทรงแท้ง
รวมถึงการให้ร้ายมเหสีโซฮวานั้น ทั้งหมดเป็นฝีมือข้าเอง แต่ว่า
ข้าทำเพราะความจำเป็น ข้าถูกมหาดเล็กชองฮันซูข่มขู่ ไม่กล้าที่จะขัดคำสั่ง
แต่ตอนนี้ ข้าเริ่มรู้สึกเสียใจเต็มที แต่ว่า
เขากลับบังคับให้ข้าวางยาต่อรัชทายาทอีก ซึ่งข้าทำไม่ได้จริงๆ จึงตัดสินใจหนีไปซะ
แต่ก่อนข้าจะไป หวังจะไถ่บาปให้เจ้าบ้าง จึงได้เขียนจดหมายนี้ขึ้นมา
เพื่อให้รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่าน ข้ามีความจริงใจต่อเจ้า มากมายขนาดไหน"
เมื่อคิมชูซอนอ่านจบ พระพันปียินซูตรัสถามว่า "ตกลงนางเป็นอะไรกับเจ้ากันแน่
ทำไมก่อนออกจากวัง นางต้องเขียนจดหมายถึงเจ้าด้วย" "หม่อมฉันกับนาง
รู้จักในฐานะมหาดเล็กกับนางในเท่านั้น พระพันปี
สิ่งสำคัญตอนนี้คือรีบจับกุมมหาดเล็กชอง
เพื่อเปิดโปงความชั่วที่คิดปองร้ายรัชทายาทนะพ่ะย่ะค่ะ" "แน่นอน
ข้าได้ส่งทหารไปตามล่าเขาแล้ว รอให้ได้ตัวมาเมื่อไหร่
จะรู้ว่าข้อความในจดหมายเป็นจริงหรือเท็จ หรือแม้แต่
ความสัมพันธ์ระหว่างฮุงบีกับเจ้า ตกลงมีลับลมคมในอะไรหรือเปล่า แต่ก่อนหน้านั้น
เจ้าห้ามไปเฝ้ารัชทายาทอีก และห้ามออกจากวังไปข้างนอกด้วย"
ลูกน้องของชองฮันซูรีบมาเตือนให้เขาหนีไป
เพราะมีข่าวว่าเขาเป็นผู้บงการการปองร้ายรัชทายาท และมีคำสั่งให้จับกุม
ชองฮันซูไปขอร้องใต้เท้าซังตังให้ช่วย
แต่ใต้เท้าซังตังไม่สนใจและไล่ชองฮันซูกลับไปพระมเหสีซุกยอนทรงตรัสกับองค์ชายวอนจาว่า
"เซจา (คำเรียกแทนรัชทายาท) เจ้าคงตกใจมากสินะ ต่อไปจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก
ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ" "เสด็จแม่ ถ้าสืบได้ว่าใครเป็นคนวางยาหม่อมฉัน
ก็จะล้างมลทินให้มเหสีโซฮวาได้ ใช่มั้ยพ่ะย่ะค่ะ" พระมเหสีซุกยอนทรงอึ้งไป
"เป็นอย่างงั้นใช่หรือเปล่า" "เรื่องนี้ ฝ่าบาทกับพระพันปีจะทรงตัดสินพระทัยเอง
เจ้าไม่ต้องห่วงแทนหรอกนะ" "หม่อมฉันทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
โชชิคยอมถูกพระพันปียินซูต่อว่า "ท่านนี่ทำงานประสาอะไรน่ะ
ไม่รู้หรือว่ามหาดเล็กชองหลอกลวงฝ่าบาทและราชสำนักมานานแค่ไหนแล้ว"
"จดหมายของนางในฮุงจะจริงหรือไม่
ต้องรอให้จับตัวนางและมหาดเล็กชองกลับมาสอบปากคำถึงจะรู้ความจริงพ่ะย่ะค่ะ"
"ถ้าเรื่องนี้ เป็นการกระทำของชองฮันซูจริง อย่าว่าแต่ท่านเลย
แม้แต่กรมมหาดเล็กก็ยากจะปัดความรับผิดชอบได้
ถึงตอนนั้นท่านจะไม่ใช่ลาออกแต่เป็นการไล่ออก แถมยังถูกลงโทษอย่างหนักด้วย"
โชชิคยอมออกมาสั่งกึมพยอว่าให้ออกตามหาชองฮันซู เจอเมื่อไหร่ให้ฆ่าได้ทันที
แต่ชองฮันซูรีบมาหาโชชิคยอมเสียก่อน "มหาดเล็กชอง จนป่านนี้แล้ว
ยังไม่ออกจากเมืองหลวงอีกหรือ" "ต่อให้ไปจากเมืองหลวงได้ คนที่เป็นมหาดเล็กอย่างเรา
จะใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกได้ยังไงครับ" "แล้วยังกลับมาหาข้าทำไมอีก" "หึ ท่านเจ้ากรม
หึ กรุณาช่วยชีวิตข้าหน่อยเถอะครับ สิ่งที่ข้าทำก็เพื่อกรมมหาดเล็กทั้งนั้น
ท่านน่าจะรู้ดีกว่าใครไม่ใช่หรือครับ ถ้าคราวนี้ท่านยอมละเว้นชีวิตข้าซักครั้ง
ต่อไปไม่ว่ายังไง ข้าจะไม่แข็งข้อต่อท่าน ให้เป็นทาสรับใช้ก็ยินดี"
"ปากเจ้าอ้างว่าทำเพื่อกรมมหาดเล็ก แต่จริงๆ เป็นความทะเยอทะยานส่วนตัว
พาให้เจ้ามาถึงจุดจบในวันนี้ เหตุผลแค่นี้ ยังไม่รู้สำนึกอีกหรือ
เมื่อเจ้ากล้ามาหาข้าอีก ข้าก็คงไม่ จัดการเอาชีวิตเจ้าให้แปดเปื้อน
ตอนนี้มีสองทางให้เลือกเท่านั้น รีบไปจากเมืองหลวง เพื่อรักษาชีวิตไว้ หรือไม่ก็
เพื่อรักษาเกียรติของกรมมหาดเล็ก จัดการปลิดชีพตัวเองซะ ตกลงจะเลือกทางไหนดีกว่า
ก็แล้วแต่เจ้าจะคิดเอง" "หา ใต้เท้าครับ" ชองฮันซูคิดหนัก แล้วเขาก็คิดในใจว่า
"โชชิคยอม ถ้าข้าจะตาย ขอมีคนตายเป็นเพื่อนจะได้ไม่เหงาเถอะ"
โชชิคยอมเข้าเฝ้าพระเจ้าซองจง ทรงตรัสถามว่าจับตัวคนร้ายได้หรือยัง "ชองฮันซู
เหมือนจะออกจากเมืองหลวงแล้วพ่ะย่ะค่ะ" "สั่งไปที่กรมอาญา
ให้ติดประกาศจับกุมทั่วเมือง ไม่ว่ายังไง ก็ต้องได้ตัวมาให้เร็วที่สุด" "ฝ่าบาท
เรื่องของชองฮันซู ปล่อยไปเถอะพ่ะย่ะค่ะ" พระเจ้าซองจงทรงอึ้งโกรธไปนิด "อะไรนะ
คนที่กล้าวางยารัชทายาท ท่านกลับบอกให้ปล่อยเขาหรือ"
"ถ้าเขาถูกจับได้และมีการไต่สวน
จะโยงใยถึงการสิ้นพระชนม์ของมเหสีโซฮวาและความจริงก็จะกระจ่าง ถึงตอนนั้นเมื่อไหร่
ระเกียรติของฝ่าบาทและพระพันปี มิต้องด่างพร้อยหรือพ่ะย่ะค่ะ"
"แปลว่าเห็นแก่ข้าและราชสำนัก ต้องให้นางถูกปรักปรำตลอดไปงั้นหรือ"
"อย่างน้อยที่สุด เพื่อเห็นแก่หน้าตาของบ้านเมือง ไม่มีทางเลี่ยงพ่ะย่ะค่ะ"
พระเจ้าซองจงทรงขัดพระทัยยิ่งนัก โอซังกุงมาหาคิมชูซอน คิมชูซอนถามว่ามีธุระอะไร
"เอ่อ คือ ข้าไม่อาจยับยั้งการลาออกของใต้เท้าโชได้ จึงมาบอกเจ้าว่าข้าขอโทษด้วย"
"ในเมื่อท่านพ่อยืนกรานหนักแน่น ก็ไม่เกี่ยวกับท่านและไม่ใช่ความผิดของท่านด้วย
อย่าคิดมากเลยครับ" "หึ เอ่อ มหาดเล็กคิม มีดเงินที่แม่เจ้าทิ้งไว้
รวมทั้งผ้าเปื้อนเลือด ขอข้าดูหน่อยได้ไหม"
"แล้วทำไมท่านถึงอยากดูของพวกนี้ล่ะครับ" "ข้ามีเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง
แต่อย่าเพิ่งถามตอนนี้เลย ขอข้าดูซักนิดก็พอ" พอโอซังกุงเห็นสิ่งของก็ร้องไห้ออกมา
"นายหญิง เป็นไรหรือเปล่าครับ" "หึ ไม่เป็นไร ฮือ ข้าได้ดูหมดแล้ว ฮือ ตอนนี้
คงต้องกลับซะที ฮือ ฮือ มหาดเล็กคิม ฮือ" "ครับนายหญิง มีอะไรก็เชิญพูดได้" "เอ่อ
ไม่มีอะไร ฮือ ข้ามารบกวนนานแล้ว เจ้าไม่ต้องส่งหรอก ฮือ" โอซังกุงกลับไปหาวอฮา
และถามนางว่า "ชูซอนคือลูกแท้ๆ ของข้าใช่ไหม รีบตอบมาเร็วสิ เขาคือเด็กที่
ข้าคลอดอยู่กลางป่าและทิ้งเขาไว้ใช่ไหม" "ใช่แล้วค่ะ" "หา ฮือ แล้วทำไมถึงได้
เพราะอะไร" "ที่แล้วมาข้าไม่เคยบอกท่าน ถือเป็นความผิดที่ยากจะให้อภัยนัก"
โอซังกุงเอาแต่ร้องไห้ วอฮากล่าวต่อว่า "เพราะข้ากลัว ใครจะมาพรากลูกไป
กลัวชอนตงยอมรับความจริงไม่ได้ กลัวเขาจะทำอะไรโง่ๆ ออกมา" "ฮือ
ไม่ใช่ความผิดของท่านหรอก ฮือ เฮ่อ ข้าให้กำเนิดเขา ฮือ แต่ไม่มีปัญญาเลี้ยงดู
เป็นความผิดของข้ามากกว่า ฮือๆๆ" "นายหญิงคะ ฮือ ลูกชายคนเดียวของท่าน
กลับไปเป็นมหาดเล็ก ทำให้สกุลของท่านสิ้นลูกสิ้นหลาน
ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้าเอง ฮือๆๆ" "ไม่ใช่หรอก ฮือ
ท่านสอนเขาดีกว่าที่ข้าคิดไว้ ฮือ อบรบให้เขาเป็นเด็กดีนัก ฮือๆๆ เฮ่อ
เรื่องนี้อย่าไปบอกเขาเด็ดขาด ขอแค่ได้พบลูก ข้าก็พอใจแล้ว ฮือ
ข้าจะไม่บอกความจริงให้เขารู้ จะไปจากเมืองหลวงเงียบๆ" "นายหญิง" ทั้งสองร้องไห้
โชชิคยอมประกาศให้ยางซองยุนดำรงตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็กใหม่
ยางซองยุนกล่าวว่าจะเลิกเหล้าเป็นอันดับแรก พอแยกย้าย
โชชิคยอมก็กล่าวกับเพื่อนรักว่า "นับแต่นี้ ได้เจ้าเป็นผู้นำคนใหม่
ข้าก็ค่อยหายห่วงหน่อย" "ข้าก็ไม่รู้จะทำได้ดีแค่ไหน แต่จะพยายามเต็มที่ละกัน"
"นับแต่ข้าเป็นเจ้ากรมมหาดเล็กมาหลายปี ที่นี่มีแต่กลิ่นคาวเลือด ฆ่าฟันไม่หยุด
ตอนนี้ได้คนใหม่ที่เป็นหมอ ก็ช่วยเยียวยาแผลร้าย ที่เกิดในสมัยข้าเถอะนะ"
ชองฮันซูแอบมาหาโอซังกุง และมองหนังสือให้ พร้อมบอกว่า
"บันทึกประจำวันของกรมมหาดเล็กในปี "ชองชู" หลังจากท่านได้อ่านแล้ว
อาจช่วยทบทวนความทรงจำ ที่สูญหายไปให้กลับคืนก็ได้" "หา แล้วทำไมต้องมาให้ข้าอ่าน
เพื่ออะไร" "เพราะข้าอยากให้ท่าน ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของใต้เท้าโชชิคยอมซะบ้าง
จะได้ตาสว่างขึ้น หมดเรื่องแล้ว ข้าขอตัวก่อน" โชชิคยอมกลับมายามดึก
เห็นโอซังกุงอยู่ในความมืดก็จะจุดไฟให้ แต่โอซังกุงบอกว่า "อย่ายุ่งกับไฟเด็ดขาด
เพราะว่า ข้าไม่อยากมองหน้าท่าน เพื่อจะพูดจาอีกแล้ว" "นี่เจ้า พูดอะไร
ไม่เห็นเข้าใจเลย" "ปีชองจุน เกิดเหตุชิงบัลลังก์ขององค์ชายโนซาน
คนที่ทรยศสามีข้าและทำให้เขาตาย ก็คือใต้เท้าใช่ไหม" "คือ เหตุการณ์ในตอนนั้น
ข้าเคย เล่าให้เจ้าฟังหมดแล้วนี่นา" "ข้อความในบันทึกเล่มนี้ที่เขียนไว้
เป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้นหรือยังไง เสียที ข้าอุตส่าห์นับถือท่านมานาน
แต่ท่านกลับหลอกลวงข้า ปิดบังความจริงมาถึง 20 ปี ท่านทำได้ยังไงกันน่ะ ฮือ
ข้าไม่เคยรู้เลยว่า ท่านคือคนที่ฆ่าสามีและทำให้ข้าพรากจากลูก ท่านทำแบบนี้ได้ไงคะ
เพราะอะไร ฮือๆๆ แล้ววันข้างหน้า ข้าตายไปจะมองหน้าสามีได้ยังไง
ท่านทำร้ายครอบครัวของเพื่อนได้ถึงขนาดนี้ ไม่คิดว่าเกินไปหน่อยหรือ
ท่านยังเป็นมนุษย์หรือเปล่า ฮือๆๆ" "หึ ข้ากลัวว่าถ้าเจ้ารู้ความจริงเมื่อไหร่
จะทิ้งข้าไป ข้าอยากให้เจ้าอยู่ใกล้ๆ ถ้าไง เจ้าจงให้อภัยข้า ซักครั้งเถอะนะ ไหนๆ
เหตุการณ์ก็ล่วงเลยถึงป่านนี้แล้ว" "ฮือๆ นับแต่นี้ไป
ข้าไม่อยากเห็นหน้าท่านอีกชั่วชีวิต ฮือ เชิญกลับไปซะ ฮือๆๆ ฮือๆๆ" โอซังกุงร้องไห้
คิมจาวอนเล่นเป็นเพื่อนกับองค์ชายวอนจา
ทันใดนั้นซังกุงก็เข้ามารายงานว่าพระมเหสีซุกยอนกำลังจะประสูติ
องค์ชายวอนจารีบเสด็จไปดู พระมเหสีซุกยอนทรงประสูติพระธิดา
พระเจ้าซองจงตรัสกับพระนางว่า "ชุงจอน ขอบใจเจ้ามากนะ" "ขอทรงอภัยเพคะ"
"เจ้าอายุยังน้อย สุขภาพแข็งแรง คราวหน้าคงมีลูกชายให้ฝ่าบาทได้เชยชมซักคน
ไม่ต้องเสียใจมากหรอกนะ" พระพันปียินซูตรัส องค์ชายวอนจาตรัสต่อ "เสด็จแม่
คราวหน้าขอให้มีน้องชายนะพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันจะอธิษฐานให้เสด็จแม่ทุกวันเลย"
"ขอบใจมากจ้ะลูก หึ"
วอฮาเรียกคิมชูซอนมาพบและบอกว่าถึงเวลาที่จะบอกความจริงเกี่ยวกับแม่แท้ๆ ของเขา
"แม่แท้ๆ ของข้า หมายความว่าไงหรือครับ" "ชอนตง คนที่ให้กำเนิดเจ้า ก็คือโอซังกุง"
"หา เอ่อ ท่านแม่ ท่านพูดอะไรน่ะครับ" "ใจจริงแม่อยากบอกเจ้านานแล้ว ฮือ
แต่เพราะกลัวจะเสียเจ้าไปเลยไม่กล้าพูด แต่ว่า
เจ้าก็เป็นผู้ใหญ่พอจะรับรู้ความจริงซะที โอซังกุงคือแม่บังเกิดเกล้าของเจ้า" "เอ่อ
ไม่ ไม่จริง ฮือ เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เชื่อหรอกครับ ฮือ แม่ของข้า แม่ข้า
มีแต่ท่านคนเดียว ฮือ" "ฮือ ชอนตง ฮือ" สองแม่ลูกพากันร้องไห้ คิมชูซอนไปหาโอซังกุง
เพื่อจะถามว่า "ที่ข้ามาวันนี้ เพราะมีเรื่องจะขอถามท่านหน่อยน่ะครับ
มีคนบอกว่าท่าน เป็นแม่แท้ๆ ของข้า ไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่า" "ถึงขั้นนี้แล้ว
ข้าคงไม่มีหน้า ไปยอมรับว่าเป็นแม่เจ้าอีก" "แล้ว เพราะอะไร หึ ทำไมสมัยก่อน
ท่านต้องทิ้งข้าไปด้วย" โอซังกุงอึ้งไป "ช่วยบอกข้าหน่อยได้ไหมครับ
ตอนนั้นท่านมีเหตุผลอะไร ถึงต้องทิ้งข้าไปอย่างงั้น ฮือ และบอกด้วยว่า
ใครคือพ่อแท้ๆ ของข้า" "เฮ่อ พ่อบังเกิดเกล้าของเจ้า คือหัวหน้า
มหาดเล็กวังหลวงชื่อคิมจามยอง ฮือ สมัยเพราะช่วยองค์ชายโนซาน กอบกู้บัลลังก์ เฮ่อ
ถูกหาว่าเป็นโจรกบฎ และสังหารจนตาย" คิมชูซอนตกใจ
และยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อโอซังกุงกระอักเลือด "นายหญิง ฮือ นายหญิง
ท่านเป็นอะไรหรือครับ ฮือ" โอซังกุงหอบ "ข้า ฮือ ผิดต่อพ่อของเจ้า
ที่ไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อเขาคนเดียว ฮือ ลูกชายที่เฝ้าคิดถึง อยู่ใกล้ตัวแท้ๆ
ข้ากลับไม่รู้ว่าเป็นเขา ฮือ ข้าไม่มีหน้า จะอยู่ในโลกนี้ต่ออีก" "ฮือ
ไม่ใช่อย่างงั้น นายหญิงๆ" "ฮือ แต่ว่า ก่อนข้าจะตาย ยังได้พบเจ้าซักครั้ง
แค่นี้ก็ถือว่าพอใจแล้ว" "ไม่เป็นไร ท่านแข็งใจหน่อย ข้าจะตามหมอมาดูเดี๋ยวนี้"
"ไม่ต้อง สายไปแล้ว เฮ่อ ฮือ ชูซอน ฮือ แม่ทอดทิ้งเจ้าแต่เล็ก ฮือ
แถมยังจำเจ้าไม่ได้อีก เจ้ายกโทษ ให้แม่ได้ไหม" "ฮือ ฮือๆๆ ท่านแม่ ฮือ" "แม่ต้อง
ขอโทษเจ้าด้วย แม่ ขอโทษ" โอซังกุงสิ้นใจ "หา ฮือ ท่านแม่อย่าไปนะ ท่านแม่ ฮือ
โปรดอย่าทิ้งข้าไป ฮือ เราเพิ่งรู้ความจริงแท้ๆ ฮือ ทำไมท่านจะทิ้งข้าไปอีก ฮือๆๆ
ท่านแม่ ฮือๆๆ ลืมตามาเร็วเข้า ฮือ ท่านแม่ ฮือๆๆ ท่านแม่ ฮือๆๆ ท่านแม่ ฮือๆ"คิมชูซอน จบ 53
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ
เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn
Readlakorn
เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ช่อง3,5,7,นิยาย ไทยรัฐ,
ละครเกาหลี,ละครไต้หวัน (Series), ลิ้งค์(Links) ดูละคร Youtube, ลิ้งค์ดาวน์โหลด
(Download) เพลงละคร OST. และ เพลง MP3 ทั่วไป ทั้งVampires (แวมไพร์) Sumo อื่นๆ
เรื่องย่อละคร
โบตั๋นกลีบสุดท้าย สะใภ้ลูกทุ่ง รักเธอยอดรัก คิมชูซอน
เมนูรักเชฟมือใหม่ สู่แสงตะวัน หมวยอินเตอร์ เย้ยฟ้าท้าดิน เพราะรักนี้มิอาจลืม
(Alone in Love) ความลับของซูเปอร์สตาร์ อุบัติรักข้ามขอบฟ้า
Readlakorn
4 comments:
ทำไมมันเศร้าๆๆๆๆๆๆๆขนาดนี้
ขอตอนต่อไปเร็ว ๆ กว่านี้หน่อยนะ ...please...ไม่งั้นจะขอตายตามโอซังกุง
ขอบคุณมั่ก จ้า
ขอบคุณมากค่ะ ขออีก
Post a Comment