คิมชูซอน 52
พระเจ้าซองจงตรัสในที่ประชุมขุนนางว่า "ข้าคิดว่า
จะทำตามรับสั่งสุดท้ายของพระอัยยิกา ดำเนินการสถาปนา รัชทายาทให้เร็วที่สุด"
ใต้เท้าซังตังค้านทันที
"แต่นี่ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์สำหรับพระอัยยิกาอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ น่าจะรอให้
ทูตจากต้าหมิงอัญเชิญประกาศรับรองฐานะพระมเหสีองค์ใหม่ซะก่อน
ค่อยดำเนินการก็ยังไม่สาย" "ก็ได้ แต่ว่า หลังจากนี้แล้ว ข้าจะไม่รออะไรอีก"
ใต้เท้าซังตังกล่าวกำชับกับชองฮันซูว่า "นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเราแล้ว
ถ้าไม่ให้ทูตต้าหมิงมาช่วยทำการยับยั้ง เรื่องที่จะให้องค์ชายน้อยเป็นรัชทายาทละก้อ
อีกหน่อยพวกเราทั้งหมด จะไม่อาจ ต้านแรงแค้นในพระทัยขององค์ชายน้อย
ที่ต้องเล่นงานเรากลับแน่ มหาดเล็กชอง เข้าใจความหมายที่ข้าพูดใช่หรือเปล่า"
"แต่ว่า
ก่อนอื่นเราควรเล่นงานเกราะคุ้มภัยขององค์ชายน้อยคือไต้เท้าโชซะก่อนน่ะครับ"
"เจ้ามีวิธีงั้นหรือ" "เอาจดหมายนี่ไปถวายต่อพระพันปี รับรองว่าโชชิคยอม
ต้องลาออกจากตำแหน่งอย่างง่ายดาย" ใต้เท้าซังตังเข้าเฝ้าพระพันปียินซู
พระนางตรัสถามทันทีว่า "ข้าเข้าใจดีว่า
ทำไมท่านถึงไม่เห็นด้วยที่จะให้ฝ่าบาทสถาปนาวอนจาเป็นรัชทายาทซะที แต่ว่า
เขาเป็นลูกชายคนโตของฝ่าบาท โดยเฉพาะเรื่องมเหสีโซฮวา
ฝ่าบาทมีคำสั่งให้ทุกคนห้ามพูดเรื่องนี้อีก
เชื่อว่าวอนจาคงไม่มีทางรู้เกี่ยวกับเรื่องของแม่เขาแน่ ถ้าพวกท่านยังยืนกราน
ไม่ให้มีการสถาปนาซะที ข้าอาจต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว
ท่านเข้าใจความหมายที่พูดหรือเปล่า" "หม่อมฉันรับปากฝ่าบาท
รอให้ทูตจากต้าหมิงมาถึงซะก่อน หลังจากนั้นค่อยลงมติเกี่ยวกับเรื่องนี้
ขอพระพันปีทรงวางพระทัยพ่ะย่ะค่ะ" "หึ เอาเถอะ งั้นข้าก็จะเชื่อท่านละกัน"
"พระพันปี ได้ยินว่าเจ้ากรมมหาดเล็ก หมู่นี้ มีการรับอนุภรรยาจนเป็นที่ครหาไปทั่ว"
"มหาดเล็กมีอนุฯ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ทำไมต้องถูกครหาด้วยล่ะ" "เพราะอนุฯ
ที่โชชิคยอมรับมาใหม่นั้น เป็นว่าเป็นโอซังกุง ที่เคยถูกขับออกจากวังพ่ะย่ะค่ะ"
"อะไรนะ ท่านบอกว่าโอซังกุง ไปเป็นอนุภรรยาของใต้เท้าโชจริงหรือนี่"
"เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันไหนเลยจะกล้าทูลความเท็จ นี่คือจดหมายที่โชฮูหยิน
เขียนเกี่ยวกับเรื่องราวของโชชิคยอมและโอซังกุง ว่าเป็นมายังไง ขอทรงทอดพระเนตรได้"
ใจความในจดหมายมีว่า "ข้าน้อย เป็นภรรยาเอกของเจ้ากรมมหาดเล็กโชชิคยอม ตลอด 20
กว่าปีที่ผ่าน ทำหน้าที่ภรรยาไม่เคยบาดตกบกพร่อง แต่ว่า หลายปีก่อน
โอซังกุงที่ถูกขับออกจากวัง
ไปมีความสัมพันธ์กับสามีข้าแถมยังเลี้ยงดูเป็นตัวเป็นตนอีก
ถึงขนาดหวังครองตำแหน่งเมียหลวงของข้าด้วยซ้ำ จริงๆ แล้ว
ที่ข้าเขียนจดหมายนี้ขึ้นมา ไม่ใช่เพราะความหึงหวงหรือต้องการจะทำลายพวกเขา
หากแต่เห็นว่าซังกุงซึ่งเคยถวายงานต่อฝ่าบาทและพระมเหสี
จะอยู่กินกับมหาดเล็กและเป็นแค่อนุฯ ได้ยังไง
มิเท่ากับทำให้ราชสำนักเสื่อมเสียหรอกหรือ เพราะฉะนั้น ขอให้เข้าใจความรู้สึกของข้า
ลงโทษโอซังกุง ตามแต่จะเห็นควรด้วยเถอะ" พระพันปีทอดพระเนตรแล้วโกรธมาก "เลวมาก
เฮ่อ นี่มันอะไรกัน ซังกุงกับมหาดเล็ก ทำไมถึงได้ทำเรื่องเหลวไหลแบบนี้ออกมา
ฮงซังกุง ไปตามโอซังกุงมาพบข้าหน่อยซิ" "น้อมรับพระบัญชาเพคะ" โอซังกุงมาเข้าเฝ้า
พระพันปียินซูทรงตรัสต่อว่าทันที "หึ เจ้า ไม่รู้สึกละอายบ้างเลยหรือ" "เอ่อ
พระพันปี ทรงหมายความว่าไงหรือเพคะ หม่อมฉัน ไม่เข้าใจที่ทรงรับสั่ง"
"ไม่เข้าใจจริงหรือแกล้งโง่กันแน่ ครั้งหนึ่งเจ้าเคยเป็นแม่นมของฝ่าบาท
กลับไปเป็นอนุฯ ของขันที ช่างไม่คิดถึงหน้าตาของราชสำนักบ้าง เป็นซังกุงแท้ๆ
กลับไปอยู่กินกับมหาดเล็กแถมยังเป็นเมียน้อยเขาอีก
แค่นี้ก็ทำให้ฝ่าบาทเสื่อมเสียไปไหนต่อไหนแล้ว
ต่อไปยังมีหน้าบอกว่าเคยเป็นแม่นมของพระองค์อีกหรือ" "พระพันปี
เป็นความสิ้นคิดของหม่อมฉันเพคะ ใต้เท้าโช
เพียงแต่เห็นหม่อมฉันไร้ญาติขาดมิตรเลยมาช่วยดูแล นอกจากนี้ก็ไม่มีความผิดอะไร
หากจะมีโทษ หม่อมฉันก็ขอรับคนเดียวเพคะ" "นี่แสดงว่า ตั้งแต่ตอนอยู่ในวัง
เจ้าก็มีอะไรกับเขาแล้วใช่ไหม" "เอ่อ ไม่จริงเพคะ ทรงเข้าพระทัยผิดแล้ว
เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ทรงคิด" "หึ คนที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่รู้จักสำรวม
กลับได้เป็นซังกุงคนสนิทของพระมเหสี มิน่า มเหสีโซฮวาถึงเป็นคนจิตใจคับแคบ
สุดท้ายต้องถูกประหารก็สมควรแล้ว ข้าขอสั่งให้เจ้า ออกจากเมืองหลวงเดี๋ยวนี้"
"พระพันปี" "ถ้าไม่ยอมไปแต่โดยดีละก้อ ข้าจะถือว่าทำผิดกฎของฝ่ายใน
สั่งโบยเจ้าให้หนัก จากนั้นก็เนรเทศไปอยู่ชายแดนซะ" โชชิคยอมกำลังสั่งงานอยู่
กึมพยอเข้ามารายงานเรื่องโอซังกุงถูกพระพันปียินซูตำหนิและให้ออกจากเมืองหลวงภายในวันนี้
โชชิคยอมตกใจมาก เขารีบเข้าเฝ้าพระพันปียินซู "ใต้เท้าโช
ข้ากำลังอยากคุยเรื่องบางอย่างกับท่านอยู่พอดี ท่านมาก็ดีแล้ว" "พระพันปี
ทำไมรับสั่งให้โอซังกุงออกจากเมืองหลวง โดยไม่มีปี่มีขลุ่ยล่ะพ่ะย่ะค่ะ"
"ท่านมาพบข้าเพราะไม่พอใจที่นางถูกขับไล่หรือยังไง"
"ชั่วดียังไงนางก็เคยเป็นแม่นมของฝ่าบาทมาก่อน หลังจากถูกขับออกจากวังแล้ว
พระพันปียังจะให้ออกจากเมืองหลวงอีก สาเหตุเพราะอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ" "ใต้เท้าโช
ท่านไม่รู้จริงหรือว่านางทำอะไรผิดน่ะ ก็เพราะเหมือนที่ท่านว่า
นางเคยเป็นแม่นมของฝ่าบาท และยังเป็นซังกุงที่ตำหนักกลางด้วย
เป็นผู้หญิงที่มียศศักดิ์ของฝ่ายใน แล้วไปเป็นอนุฯ ของมหาดเล็ก มันสมควรแล้วหรือ
ซังกุงก็ถือเป็นผู้หญิงของฝ่าบาท ท่านกลับไปอยู่กินกับนาง แค่นี้ก็มีความผิดแล้ว
น่าจะคุกเข่าขอรับโทษหรือแม้แต่ขอลาออกด้วยซ้ำ ยังมาซักไซ้ไล่เรียงกับข้าอีกหรือ"
"พระพันปี ทรงเข้าพระทัยผิดแล้ว หม่อมฉันเพียงแต่ดูแลนาง ในฐานะเพื่อนร่วมงานในวัง
จะบอกว่าเป็นอนุฯ ของหม่อมฉัน เป็นไปไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ" "ใต้เท้าโช
ท่านยังจะปากแข็งหลอกข้าอีกใช่ไหม นี่คือจดหมายที่ฮูหยินท่านเป็นคนเขียน
เชิญเอาไปอ่านเองเถอะ จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรซะบ้าง
เดิมทีข้ากะจะเห็นแก่ฝ่าบาทที่ไว้ใจท่านนัก เรื่องนี้ถือว่าแล้วไปเถอะ
แต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้ว" "สมัยก่อนโอซังกุงออกจากวังก็เพราะรับสั่งของพระพันปี
การที่หม่อมฉันช่วยดูแลแม่นมของฝ่าบาท อีกทั้งยังเป็นซังกุงของอดีตพระมเหสี
แค่นี้ก็เป็นความผิดละก้อ หม่อมฉันก็ยินดีรับโทษ แต่ว่า ถ้าจะลงอาญาโอซังกุงซ้ำอีก
หม่อมฉัน เห็นจะทำตามรับสั่ง ของพระพันปีไม่ได้อีกแล้ว" "ว่าไงนะ"
"หม่อมฉันเข้าใจในสิ่งที่พระพันปีทรงมีรับสั่งแล้ว ถ้าไง ขอทูลลาก่อน"
โชชิคยอมออกไป พระพันปียินซูได้แต่ทรงแค้นในใจ
โชชิคยอมรีบไปดูโอซังกุงที่เก็บข้าวของเตรียมออกจากบ้าน "นี่มันอะไรกัน
ทำไมเจ้าจะจากข้าไป โดยไม่บอกกล่าวซักคำล่ะ" "ข้าไม่อยากให้ท่าน
เดือดร้อนเพราะข้าอีกเลยคิดว่าขอไปเงียบๆ ดีกว่าค่ะ ขอเพียงข้าไปจากที่นี่ซะ
ต่อไปพระพันปี ก็จะไม่รื้อฟื้นเรื่องของเราอีก แม้แต่ฮูหยินของท่านก็จะให้อภัย
ที่สำคัญ ชูซอนจะให้ความนับถือ ไม่รังเกียจเหมือนแต่ก่อนอีก" "แต่สำหรับข้าแล้ว
โลกนี้ไม่มีสิ่งใดๆ สำคัญกว่าเจ้าอีก ต่อให้ถูกปลดจากตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็ก
หรือแม้แต่สูญเสียทุกอย่าง ขอเพียงมีเจ้า อยู่เคียงข้างเท่านั้น
ชาตินี้ข้าก็ไม่หวังอะไรอีกแล้ว" "ฮือ เฮ่อ แต่ว่า ข้าเป็นคนต่ำต้อย ฮือ
ทำไมท่านถึงดีต่อข้าขนาดนี้คะ" "ถึงจะแลกด้วยชีวิตก็ช่าง ข้าจะปกป้องเจ้า
ไม่ให้ใครมาแตะต้อง" "ใต้เท้า ฮือๆๆ"
องค์ชายวอนจาถามคิมชูซอนว่าทำไมในวังดูวุ่นวายล่ะ
"ทุกคนกำลังจัดงานต้อนรับทูตจากต้าหมิงพ่ะยะค่ะ" คิมชูซอนตอบ
"เห็นเขาว่าถ้ามีหนังสือรับรองจากต้าหมิงเรื่องมเหสีองค์ใหม่ งั้นเสด็จแม่ของข้า
ต่อไปก็ไม่มีโอกาสได้กลับมาอีกแล้วสิ" คิมชูซอนอึ้ง "องค์ชาย" "แต่ไม่ต้องห่วงหรอก
ข้า จะทำตามคำพูดที่ให้ไว้กับเสด็จแม่
กตัญญูต่อพระมเหสีองค์ใหม่เท่ากับเสด็จแม่เหมือนกัน อีกหน่อย เมื่อข้าโตกว่านี้
จะไปหาเสด็จแม่เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก" คิมชูซอนพูดไม่ออก น้ำตาไหลออกมา
"ชูซอน เจ้าเป็นไรไป ทำไมร้องไห้ล่ะ" "อ้อ หึ ไม่มีอะไรพ่ะย่ะค่ะ รีบเสด็จเร็วเข้า
เดี๋ยวจะเลยเวลาเรียนหนังสือ" "ก็ได้ ไปเร็วเข้า" ค่ำคืนนั้น
พระเจ้าซองจงตรัสถามคิมชูซอนว่า "ชูซอน รู้มั้ยว่าวันนี้เป็นวันอะไร" "หม่อมฉัน
ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ" "วันนี้ เป็นวันที่ข้าได้พบมเหสีโซฮวาครั้งแรก
ในสมัยที่ข้ายังเป็นแค่เชื้อพระวงศ์อยู่ ตอนนั้นนางเอาป้ายหยกมาคืน มาถึงบ้านข้า
วันนั้น แม้จะอยู่ต่อหน้าพระพันปีที่ดุดัน นางยังกล้าแสดงความเห็นตรงไปตรงมา
ทำให้ข้านับถือน้ำใจนางนัก จากนั้นก็เอาป้ายหยกที่ได้จากเสด็จปู่
หักเป็นสองท่อนและให้นางครึ่งหนึ่ง ชั่วขณะนั้น
ข้าสัญญากับตัวเองว่าจะดูแลนางตลอดไป แต่มาวันนี้
ข้ากลับเป็นคนออกคำสั่งให้นางไปตาย" "ฝ่าบาท" "ฮือ ทุกครั้งที่นึกว่าก่อนตาย
นางจะโกรธข้าแค่ไหน ข้าก็รู้สึกปวดใจนัก" "แต่ว่าพระมเหสี
แม้จะถึงลมหายใจเฮือกสุดท้าย ก็ยังเป็นห่วงฝ่าบาทอยู่พ่ะย่ะค่ะ" "ฮือ ชูซอน
อีกหน่อยถ้าข้าตายแล้ว จะเอาหน้าที่ไหนไปพบนางได้อีก ฮือ ฮือ"
ขณะที่พระเจ้าซองจงกำลังทรงมีรับสั่งอยู่นั่นเอง องค์ชายวอนจาทรงบุกเข้ามา จากนั้น
องค์ชายวอนจาก็ทูลถามพระเจ้าซองจงว่า "เสด็จพ่อ เมื่อกี้รับสั่งอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ
หม่อมฉันได้ยินว่าทรงทำให้เสด็จแม่ตายงั้นหรือ ชูซอน เจ้าบอกข้ามาเดี๋ยวนี้"
คิมชูซอนอ้ำอึ้ง "ทำไมไม่ตอบคำถามข้าล่ะ งั้นข้าจะไปหาเสด็จแม่เอง ฮึ่ม" "องค์ชายๆ
อย่าไปพ่ะย่ะค่ะ ฮือ" "ปล่อยข้านะ ปล่อยซี่ เสด็จแม่ๆๆ ฮือๆๆ เสด็จแม่ ฮือๆๆ ฮือๆๆ
ฮือๆๆ เสด็จแม่ ฮือๆๆ" พระเจ้าซองจงตรัสว่า "วอนจา
ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องของแม่เจ้า พ่อก็รู้สึกปวดใจไม่น้อยกว่าเจ้าเหมือนกัน
แต่ว่า ไหนๆ เรื่องได้มาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้าต้องทำตัวให้เข้มแข็งเข้าไว้
ยอมรับความจริงให้ได้นะลูกนะ" "ฮือ เสด็จพ่อ ทำไมต้องให้เสด็จแม่ตายด้วย
เพราะอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ" "รอให้เจ้าโตขึ้นก็จะรู้เอง ตอนนี้อย่าเพิ่งถามดีกว่า"
"ไม่ว่าเสด็จแม่ จะทำความผิดร้ายแรงยังไงก็ช่าง เสด็จพ่อก็ควรปกป้องนาง
ไม่ให้ใครปองร้ายถึงจะถูกสิพ่ะย่ะค่ะ ฮือๆๆ" องค์ชายวอนจาเสด็จหนีไป "เฮ่อ
เดิมข้าคิดว่า จะไม่ให้วอนจารู้เรื่องแม่ของเขาตลอดชีวิต
แต่กลับกลายเป็นว่าข้าไม่ทันระวัง ทำให้เขารู้เรื่องซะก่อน ฮือ ชูซอน
ต่อไปเจ้าเป็นตัวแทนข้า คอยปลอบใจวอนจาให้ดี รู้หรือเปล่า"
คิมชูซอนรีบตามไปดูแลองค์ชายวอนจา "หึ ความจริงเรื่องของพระมเหสี
ฝ่าบาทจำต้องตัดสินพระทัยเพราะความจำเป็น ต่อไปองค์ชาย
แม้จะไม่มีเสด็จแม่ก็ต้องเข้มแข็งเข้าไว้ หม่อมฉันรู้ว่าคนที่สูญเสียแม่
การจะทำให้ลืมนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ว่า องค์ชายก็ต้องทำให้ได้
เพื่อไม่ให้พระมเหสีต้องทรงเป็นห่วง และเห็นองค์ชายทรงกันแสงอีก" "ชูซอน
แล้วเจ้าได้เห็นเสด็จแม่ของข้า ก่อนนางจะถูกประหาร เป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า"
"คงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะได้เห็นพระมเหสีในวันสุดท้ายหรอกพ่ะย่ะค่ะ แต่ว่าองค์ชาย
ยังไงก็ตามแต่ จงอย่าโกรธเคืองฝ่าบาทหรือแม้แต่ผู้ใหญ่ในวัง ไปตำหนิพวกเขา
เพราะเรื่องการตายของเสด็จแม่เด็ดขาด หม่อมฉันเชื่อว่าพระมเหสี
คงไม่อยากเห็นองค์ชายเป็นเด็กที่อาฆาตมาดร้าย" "ชูซอน ข้ารู้สึกคิดถึงเสด็จแม่จัง
เสด็จแม่ ฮือๆๆ ฮือๆๆ" องค์ชายวอนจาเอาแต่ร้องไห้ ไม่ยอมกินยอมนอน
พระมเหสีซุกยอนปลอบก็แล้ว พระพันปียินซูทรงทราบก็เสด็จมาดู
องค์ชายวอนจาเสียใจที่เป็นลูกแท้ๆ แต่ไม่มีโอกาสได้ส่งเสด็จแม่เป็นครั้งสุดท้าย
"วอนจา เสด็จแม่ของเจ้าคือพระมเหสีที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
ทำไมไม่ยอมลืมคนที่ทำความผิดใหญ่หลวง กลับพูดให้เสด็จแม่ของเจ้าเสียใจขนาดนี้
นับแต่นี้ไป ห้ามพูดถึงมเหสีโซฮวาอีกเข้าใจมั้ย" พระพันปียินซูตรัส "ถึงนางจะทำผิด
เลวร้ายขนาดไหน แต่ยังไงก็เป็นแม่ที่หม่อมฉันรักที่สุด" "วอนจา
นี่แปลว่าเจ้าจะขัดคำสั่งเสด็จย่าอย่างข้าใช่ไหม บังอาจ ยังจะมองหน้าอีก
เดี๋ยวข้าสั่งให้ตีจริงๆ" พระมเหสีซุกยอนรีบทูล "พระพันปี อย่าทรงกริ้วเพคะ
เด็กที่รู้ว่าสูญเสียแม่กระทันหัน ย่อมรู้สึกเสียใจเป็นธรรมดา" "วอนจา
ถ้าเจ้าเป็นคนอ่อนแอแบบนี้ อีกหน่อยจะขึ้นเป็นพระราชา ดูแลทุกข์สุขของราษฎร
ปกครองบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขได้ยังไง ต่อไปเสด็จแม่ของเจ้า
คือพระมเหสีองค์นี้องค์เดียว จงจำใส่ใจไว้ด้วย เฮ่ย" พระพันปียินซูเสด็จออกไป
องค์ชายวอนจาเอาแต่กรรแสงเป็นลม
พระมเหสีซุกยอนรีบให้คิมชูซอนไปตามยางซองยุนมาดูอาการ
พระมเหสีซุกยอนรับสั่งให้ยางซองยุนดูแลองค์ชายวอนจาอย่างดี ยางซองยุนบ่นกับคิมชูซอน
เกรงว่ายาจะรักษาจิตใจที่บอบช้ำไม่ได้
แต่คิมชูซอนคิดว่าองค์ชายวอนจาไม่นานคงจะฟื้นฟูพระกำลังได้
เพราะทรงเป็นเด้กที่เข้มแข็งและอดทน
พระพันปียินซูตรัสถามพระเจ้าซองจงว่าจะทำยังไงกับองค์ชายวอนจาดี
"ยังไงซะเมื่อเขาโตขึ้น หม่อมฉันก็จะบอกให้รู้อยู่แล้ว ถ้าไง
ให้เขารู้ก่อนจะได้เริ่มทำใจ หม่อมฉันคิดว่ากลับเป็นผลดี
ต่อส่วนรวมมากกว่านะพ่ะย่ะค่ะ" "แล้วทูตต้าหมิงที่จะมาล่ะ
เราจะอธิบายเรื่องนี้กับพวกเขายังไง
ถ้าต้าหมิงรู้ว่ามเหสีโซฮวามีความผิดถึงขั้นถูกประหาร ไม่แน่อาจใช้เป็นข้ออ้าง
ไม่ให้เราแต่งตั้งวอนจาเป็นรัชทายาทก็ได้ หรือแม้แต่หาช่องทาง
จะมาก้าวก่ายเรื่องภายในของเราด้วยซ้ำ เจ้ารู้หรือเปล่า"
"เรื่องเกี่ยวกับมเหสีโซฮวา หม่อมฉันให้ทุกคนปิดปากหมด
ตอนนี้สำคัญก็คือภาวนาให้วอนจาหายดีไวๆ เรื่องอื่นไว้ว่าทีหลังเถอะ" "อึม มันก็จริง
ก่อนจะถึงเรื่องรัชทายาท สิ่งสำคัญสำหรับตอนนี้
คือให้ทุกคนเรียกขวัญกำลังใจกลับมาซะก่อน
หลังจากมเหสีโซฮวาและพระอัยยิกาทยอยสิ้นพระชนม์ไป" "หม่อมฉัน
ก็คิดเช่นเดียวกับเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ" "ถ้าอย่างงั้น
สั่งปลดโชชิคยอมออกจากตำแหน่งซะ" "เสด็จแม่ หม่อมฉันไม่เข้าใจที่รับสั่ง" "โชชิคยอม
รับโอซังกุงที่ถูกขับออกจากวังไปเป็นอนุฯ เท่ากับลบหลู่ราชสำนักอย่างแรง"
"เรื่องนี้หม่อมฉันไม่เชื่อเด็ดขาด" "หึ
นี่คือจดหมายที่เมียหลวงของโชชิคยอมเป็นคนเขียนเอง มหาดเล็กรับซังกุงไปเป็นอนุฯ
เท่ากับหมิ่นเกียรติของเจ้าและราชสำนัก โชชิคยอมนอกจากจะไม่รับแล้ว ยังมาเถียงข้างๆ
คูๆ อีก ฉะนั้นข้าจึงอยากให้เจ้า ลงโทษเขาโดยการปลดจากตำแหน่งซะ"
ชองฮันซูเองก็ไปขอร้องแกมบังคับข่มขู่ให้พวกมหาดเล็กลงชื่อในฏีการ้องเรียนให้ถอดถอนโชชิคยอมออกจากตำแหน่ง
เรื่องที่รับโอซังกุงเป็นอนุภรรยา พระเจ้าซองจงทรงเรียกโชชิคยอมมาถาม
และขอร้องให้โอซังกุงออกจากเมืองหลวงไป "แต่ว่าฝ่าบาท หากทำอย่างงั้นจริง
ชาตินี้นางจะไม่ได้กลับมา ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงอีกแล้ว" "นางเคยเป็นแม่นมของข้า
คนที่เลี้ยงดูข้าตั้งแต่ยังแบเบาะ กลับไปอยู่กินกับเจ้ากรมมหาดเล็ก
ซึ่งถือว่าผิดกฎอย่างมาก ที่สำคัญ ข้าไม่อยากได้ยินข่าวฉาวแบบนี้อีก
เมื่อนางไปจากเมืองหลวงแล้ว ความเป็นอยู่ทุกอย่าง ราชสำนักจะรับผิดชอบเอง
ถ้าท่านยังเชื่อฟังคำสั่งข้าอยู่ ก็ขอให้ปล่อยนางไปซะ แล้วข้าจะไม่ถือสาเอาความอีก"
พอออกมาโชชิคยอมก็เห็นมหาดเล็กทุกคนมาชุมนุม
โดยชองฮันซูยื่นหนังสือขอให้โชชิคยอมลาออก โชชิคยอมอึ้งไป "ทุกวันนี้ท่านเจ้ากรม
รับโอซังกุงซึ่งเคยถูกขับออกจากวังให้เป็นอนุฯ เท่ากับทำลายชื่อเสียงของกรมมหาดเล็ก
อีกทั้งยังทำให้ฝ่าบาททรงเสื่อมเสียอีก สมควรลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบน่ะครับ"
กึมพยอเตือนชองฮันซู "มหาดเล็กชอง รู้มั้ยอยู่ต่อหน้าใคร
กล้าบอกให้ใต้เท้าลาออกหรือ" "ที่อยากให้ข้าลาออก เป็นความคิดของชองฮันซูคนเดียว
หรือเป็นความเห็นชอบของทุกคน" มหาดเล็กทุกคนจำต้องบอกว่าเห็นชอบด้วย
โชชิคยอมจึงกล่าวว่า "แต่ละคนเป็นระดับหัวหน้างาน กลับทำตัวเหมือนหลิวลู่ลม
ไม่ก็นกกระจอก ที่ไหนทำรังได้ก็ไปซุกหัวที่นั่น ไม่รู้สึกละอายบ้างหรือไง เอาเถอะ
ในเมื่อลูกน้องไม่ให้ความเคารพ ถึงข้าจะดันทุรังเป็นเจ้ากรมต่อไป
ก็คงไม่มีความหมายอะไรอีก ข้าจะรอจนกว่า องค์ชายน้อยได้เป็นรัชทายาทแล้ว
ถึงตอนนั้นแล้วค่อยปลดเกษียณ แต่ช่วงนี้ยังต้องต้อนรับทูตจากต้าหมิง
ช่วยไปดูแลงานให้ดีด้วย" "ทราบแล้วครับใต้เท้า" "ออกไปได้แล้ว" คนอื่นออกไปแล้ว
โชชิคยอมกล่าวกับชองฮันซูว่า "ชองฮันซู อยากจะขึ้นมา อยู่ในตำแหน่งแทนข้ามากหรือ"
"ข้าเพียงแต่รวบรวมความเห็นจากทุกคนมานำเสนอเท่านั้น สมัยก่อนใต้เท้า
ก็เคยใช้วิธีนี้ต่อต้านพ่อบุญธรรมจนสำเร็จไม่ใช่หรือครับ เพราะฉะนั้น
ข้าแค่เจริญรอยตามท่านเท่านั้น" "เฮ่อๆๆ เอาเถอะ แต่ว่า ตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็ก
ไม่ใช่มีอิทธิพลก็จะเป็นได้หรอกนะ ถ้าเจ้ายังไม่เห็นสัจธรรมข้อนี้
ซักวันจะถูกอำนาจทับถม จนตายด้วยมือตัวเอง" "หึ ข้าน้อย จะจำคำสอนของใต้เท้าไว้
ไม่มีวันลืมแน่นอน" ชองฮันซูออกไป "ใต้เท้า โปรดสั่งมาเถอะครับ ข้าน้อย
จะรีบไปตัดหัวมัน มาเป็นของขวัญให้ท่านเดี๋ยวนี้" กึมพยอโกรธแทน "หึ ไม่จำเป็นหรอก
ปล่อยเขาไปเรื่อยๆ ซักวันจะพินาศ เพราะความทะเยอทะยานของเขาเอง หึๆๆ"0000000000000
พระเจ้าซองจงตรัสถามอาการขององค์ชายวอนจาจากคิมชูซอนว่าเป็นยังไงบ้าง
"พ้นขีดอันตรายแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้กำลังรักษาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าไม่นาน
คงจะหายเป็นปกติ" "เฮ่อ ชูซอน ตั้งแต่ข้าครองราชย์มา
เหมือนต้องสูญเสียคนสำคัญไปไม่น้อยนอกจากผู้หญิงที่รักอย่างมเหสีโซฮวาแล้ว
ยังมีแม่นมและออลูตง ซึ่งข้าก็ไม่อาจปกป้องพวกนาง จึงต้องปล่อยให้ไปหมด" "แต่ว่า
หม่อมฉันเชื่อว่าฝ่าบาท จะสามารถปกป้ององค์ชายน้อยได้อย่างตลอดรอดฝั่ง
และต้องทำอย่างงั้น ทุกคนที่จากไปถึงนับว่าเสียสละอย่างคุ้มค่า" "ใช่
งั้นข้าให้สัญญา ต่อให้แลกด้วยตำแหน่งพระราชาของข้า ก็จะปกป้องวอนจา ให้ถึงที่สุด"
พระมเหสีซุกยอนทำพิธีขอพรให้องค์ชายวอนจาหายไวๆ
คิมชูซอนเองก็เฝ้าองค์ชายวอนจาทุกคืนไม่ยอมห่าง
องค์ชายวอนจาเอาแต่เพ้อหาอดีตพระมเหสียุนโซฮวา
คิมชูซอนต้องช่วยจับตัวองค์ชายวอนจาไว้ "ทรงฟื้นแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ" "ชูซอน
เมื่อกี้ข้าฝันไป เหมือนจะเห็นเสด็จแม่ด้วยล่ะ ข้าเดินอยู่ในวัง แล้วเกิดหลงทาง
จู่ๆ เสด็จแม่ก็พาให้ ข้ากลับมาพบกับเจ้า" "หึ องค์ชาย
พระมเหสีโซฮวาทำทุกอย่างเพื่อเห็นแก่อนาคตขององค์ชาย
แม้กระทั่งยอมสละชีวิตเพื่อปกป้ององค์ชายไว้ ฮือ สิ่งที่นางคาดหวัง
คือให้องค์ชายเป็นเด็กดี ละทิ้งความแค้นส่วนตัว ตั้งใจเล่าเรียน
โตขึ้นเป็นพระราชาที่ดี ปกครองบ้านเมืองให้สงบสุข เพราะฉะนั้น องค์ชายต้องทรงละทิ้ง
ความไม่พอพระทัยที่มีต่อฝ่าบาทและพระพันปีอย่าทรงดื้อรั้น
ถือว่าเสด็จแม่ทรงไปดีแล้ว นี่คือ สิ่งที่นางคาดหวังไว้พ่ะยะค่ะ" "เอาเถอะ
ข้าจะจำคำสั่งเสียของเสด็จแม่ไว้ให้ขึ้นใจ วันหน้าเมื่อข้าได้ครองราชย์
จะช่วยล้างมลทินให้เสด็จแม่ ไม่ให้ใครประณามอีก" คิมชูซอนได้ยินก็ดีใจ "หึ องค์ชาย"
พระพันปียินซูตรัสถามพระเจ้าซองจงว่าพิธีต้อนรับทูตจากต้าหมิงเตรียมการถึงไหนแล้ว
พระเจ้าซองจงตรัสว่า "พรุ่งนี้จะมาถึงตำหนัก “มูวา” พ่ะย่ะค่ะ
หลังจากให้การรับรองตำแหน่งของชุงจอนแล้ว
เชื่อว่าเหล่าขุนนางคงไม่คัดค้านเรื่องการแต่งตั้งรัชทายาทอีก" "อึม
หลังจากที่ชุงจอน ได้รับการรับรองจากต้าหมิง
นับแต่นี้ก็จะถือเป็นมเหสีแห่งโชซอนโดยสมบูรณ์ ต่อไปต้องทำหน้าที่ให้ดี
ดูแลทุกฝ่ายด้วยล่ะ" "ทราบแล้วเพคะ" "ทูลพระพันปี องค์ชายมาขอเข้าเฝ้าเพคะ"
"วอนจาหรือ เชิญเข้ามาซิ วอนจา เห็นว่าป่วยหนักยังไม่หายดีไม่ใช่หรือ
ทำไมมาหาย่าได้ล่ะ" "หม่อมฉันจะมาขอโทษพระพันปี เสด็จพ่อ และเสด็จแม่
ขอทรงอภัยที่หม่อมฉันเคยเสียมรรยาทพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉัน รู้ว่าตัวเองทำไม่ถูก
ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว" "หึๆๆ ตัวแค่นี้รู้จักสำนึกผิดและทบทวนตัวเอง
ย่ารู้สึกดีใจนัก" "ตั้งแต่วันนี้ไป
หม่อมฉันจะลืมเรื่องการสิ้นพระชนม์ของเสด็จแม่ให้หมด" "วอนจา มาหาพ่อซิ
เจ้าอายุยังน้อย ต้องเจอกับเรื่องทุกข์ใจใหญ่หลวง อย่าถือสาพ่อเลยนะลูก" "หม่อมฉัน
จะไม่โทษใครอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ" ทุกคนปลาบปลื้มใจยิ่งนัก
ใต้เท้าซังตังเห็นองค์ชายวอนจาหายดีแล้วก็กังวล แต่ชองฮันซูบอกว่ายังมีโอกาส
"ขุนนางที่มาจากต้าหมิงคราวนี้ มีคนหนึ่งเป็นเพื่อนสนิทข้า สมัยเพิ่งเข้าวังใหม่ๆ
ข้าจะบอกเขาเรื่องมเหสีโซฮวา เพื่อให้ยับยั้งการแต่งตั้งรัชทายาทซะ" "หึ
พรุ่งนี้พวกเขาจะมาถึงท่าเรือ “ยินจิน” เพื่อไปตำหนัก “มูวา”
เจ้าต้องหาจังหวะให้ดีล่ะ"
แล้วชองฮันซูก็นำจดหมายรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องมเหสีโซฮวา
และเหตุผลที่เหล่าขุนนางไม่เห็นด้วยในการที่จะให้องค์ชายวอนจาขึ้นเป็นรัชทายาท
คิมชูซอนออกมาบ้านเห็นเด็กๆ คุกเข่าก็ถามว่าทำอะไร
"ได้ข่าวว่าองค์ชายวอนจาทรงประชวร พระองค์ทรงเป็นคนที่เราต้องปรนนิบัติในอนาคต
จึงมาอธิษฐานขอให้ทรงหายไวๆ น่ะครับ" "อึม พวกเจ้าช่างเป็นเด็กดีนัก
ตอนนี้องค์ชายก็ทรงทุเลามากแล้ว ยิ่งได้กำลังใจจากพวกเจ้า
เชื่อว่าคงจะหายในเร็ววันนี้ เจ้าชื่ออะไรหรือ" "ข้าน้อยชื่อ “คิมจาวอน” ครับ"
"คราวก่อน ขอบใจที่ช่วยเตือนสติข้านะ" "ไม่หรอกครับ ข้าบังอาจไปสั่งสอนท่านมากกว่า
ดีที่ท่านใจกว้าง ให้อภัยข้า" "หึ ปลายเดือนจะมีการสอบเป็นมหาดเล็ก
พวกเจ้าต้องตั้งใจเรียน เพื่อสอบผ่านให้ได้ทุกคนล่ะ" "เราจะจำไว้ครับ" เด็กๆ
พร้อมใจกันตอบ คิมชูซอนขอให้วอฮาช่วยทำพิธีขอพรให้องค์ชายวอนจาแข็งแรง
"เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอก เห็นเจ้ากลับไปทำงานใหม่ แม่ก็วางใจแล้ว"
"ตอนนั้นเป็นความผิดของข้าเอง ท่านแม่อย่าถือสาเลยนะครับ ท่านอาโตชิก็เหมือนกัน
ข้ารู้สึกละอายต่อท่านด้วย" "หึๆๆ วันหลังถ้าจะบ้าก็ไม่เป็นไร แค่บอกให้รู้ก่อน
ข้าจะตบหน้าแรงๆ ซักสองฉาด จะได้มีสติมากขึ้น" "เฮ่อๆๆ เพราะข้ากลัวจะถูกท่านตบอีก
เลยไม่กล้าทำอะไรผิดพลาดอีกแล้ว" "หึ เอานี่ไป" วอฮานำจดหมายมามอบให้
"อะไรหรือครับท่านแม่" "ก่อนที่ท่านยายจะไปจากเมืองหลวง
ฝากจดหมายฉบับนี้ให้เจ้าได้อ่าน ข้างในอาจเขียนเกี่ยวกับอนาคตของเจ้า
เจ้าเอาไปอ่านและจำไว้ละกัน" "หึ ทราบแล้วครับ"
คิมชูซอนกลับเข้ามาในวังก็ทราบจากพวกจาจีว่าโชชิคยอมถูกกดดันให้ลาออกอีกครั้ง
เรื่องที่รับโอซังกุงเป็นอนุภรรยา คิมชูซอนจึงไปหาโชชิคยอม "เจ้า
มาหาข้ามีอะไรหรือ" "เมื่อกี้ได้ยินว่า
ท่านพ่อถูกหัวหน้าหลายคนกดดันให้ลาออกหรือครับ"
"ที่เจ้ามาเพราะเป็นห่วงเรื่องนี้หรอกหรือ ไหนเจ้าเคยโกรธข้า
เพราะเรื่องมเหสีโซฮวานี่นา"
"แม้ว่าเราจะมีแนวคิดไม่ตรงกันเกี่ยวกับหน้าที่ของการเป็นมหาดเล็ก
แต่ข้าก็ไม่เคยหวังว่าท่านจะถูกปลดออกจากตำแหน่งเจ้ากรมฯ
เพราะมีการใส่ร้ายป้ายสีน่ะครับ" "เห็นเจ้าเป็นห่วงข้าขนาดนี้ ต้องขอขอบใจ"
"ได้ยินว่าเป็นแผนของชองฮันซูด้วย ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมท่านพ่อไม่ยอมทำอะไรคนๆ
นี้ซักที" "แม้เขาจะเป็นต้นเรื่องก็จริง แต่ไม่ได้สร้างหลักฐานเท็จกล่าวหาเลื่อนลอย
ฉะนั้นจะลาออกหรือไม่ ให้ข้าเป็นคนตัดสินดีกว่า" "เฮ่อ ท่านพ่อครับ ถ้าไงเชิญท่าน
พาโอซังกุงหนีไปเถอะ อย่างน้อยเพื่อเห็นแก่อนาคต ไม่ต้องถูกใครรังควานอีก"
"บอกแล้วว่าเรื่องนี้เจ้าไม่ต้องห่วง ตอนนี้
หน้าที่อย่างเดียวของเจ้าคือดูแลองค์ชายน้อยให้ดี ไม่ว่ายังไง
อย่าปล่อยให้ทรงประชวรอีก หรือแม้แต่ทำให้ผู้ใหญ่ในวังไม่พอพระทัย
เมื่อนั้นการเป็นรัชทายาท จะยิ่งมีปัญหามากขึ้น" คิมชูซอนไปหาชองฮันซู
และได้ยินชองฮันซูพูด "เฮ่อๆๆ ทุกวันนี้มหาดเล็กฮันกลายเป็นขันทีต้าหมิง
กลับมาอย่างภาคภูมิ เท่ากับสวรรค์เข้าข้างข้านัก ฮ่าๆๆ" "มหาดเล็กชอง
ทำไมต้องให้ร้ายพ่อข้า บีบให้ลาออกจากตำแหน่งด้วย" "มหาดเล็กคิม
เจ้ากลัวว่าพอไม่มีใต้เท้าโชแล้ว อีกหน่อยจะไม่มีคนหนุนหลังเลยเดือดร้อนแทนใช่ไหม"
"ท่านพ่อเคยช่วยเจ้า ให้พ้นจากอันตรายหลายต่อหลายครั้ง แล้วทำไมตอนนี้
เจ้ากลับเนรคุณ ทำเขาได้ลงคอหรือ" "หึ สิ่งที่เขาช่วยข้า เพื่อจะหลอกใช้ข้าต่างหาก
และข้าก็หลอกใช้เขาเหมือนกัน จึงไม่จำเป็นต้องตอบแทนบุญคุณ หรือเนรคุณใครทั้งนั้น"
"อะไรนะ" "มหาดเล็กคิม ถ้าวันหนึ่งไต้เท้าโชถูกเขี่ยออกจากตำแหน่ง เจ้าเอง
ก็จะไม่ได้อยู่ในกรมมหาดเล็กอีก ถึงตอนนั้นแม้แต่องค์ชายน้อย
ก็จะเจริญรอยตามอดีตมเหสีโซฮวา ฉะนั้นตอนนี้เจ้ายังอยู่
ก็รีบปกป้องให้พ้นจากปากเหยี่ยวปากกาเถอะ" "มหาดเล็กชอง ข้าขอเตือนให้รู้อีกครั้ง
ถ้าเจ้ากล้าปองร้ายองค์ชายน้อยละก้อ ข้าจะเล่นงานเจ้า แลกด้วยชีวิตเป็นไงก็เป็นกัน"
ยางซองยุนเห็นจดหมายที่วอฮามอบให้คิมชูซอนก็ขออ่าน "ฮึ่ม ลูกชายที่ยังเล็ก
คิดถึงมารดาที่เสียชีวิต อยากจะตามหาแม่แท้ๆ ปรากฎว่าสายไปแล้ว"
"ใต้เท้าพอรู้ความหมายมั้ยครับ" "คิดว่าสองประโยคแรก
คงหมายถึงองค์ชายน้อยกับมเหสีโซฮวา แต่ประโยคหลังอ่านแล้วงงๆ อยากจะตามหาแม่แท้ๆ
ปรากฎว่าสายไปแล้ว หึ ฮึ่ม แต่คงเป็นไปไม่ได้ ที่จู่ๆ
แชซังกุงจะเขียนโดยไม่มีจุดประสงค์ น่าจะมีความนัยบางอย่าง เจ้าคิดให้ดีละกัน"
"ข้าทราบแล้วครับ" ขุนนางต้าหมิงต่างพากันมาอวยพรให้พระมเหสีซุกยอน
ซึ่งมีพระเจ้าซองจงคอยต้อนรับอย่างดี
ใต้เท้าซังตังเห็นก็มาถามชองฮันซูเรื่องที่บอกว่าคุยกับขุนนางต้าหมิงแล้ว
ชองฮันซูเองก็ไม่เข้าใจ เพราะเพื่อนของเขาก็รับปากแล้วว่าจะช่วยเจรจา
"ข้าไม่อยากฟังอีกแล้ว เรื่องมาถึงขั้นนี้ ยังไงก็ต้องขัดขวาง
ไม่ให้องค์ชายน้อยขึ้นเป็นรัชทายาท แต่ขอบอกไว้ก่อน ถ้าเจ้าทำไม่ได้ละก้อ
ข้าจะให้เจ้าออกจากกรมมหาดเล็ก ล่วงหน้าไปก่อนโชชิคยอมซะอีก ฮึ่ม"
คิมชูซอนเองก็คุยกับเพื่อนของชองฮันซูที่เขาไปขอร้องเรื่องการแต่งตั้งรัชทายาท
"มหาดเล็กฮัน เพราะเจ้าออกหน้า เรื่องการสถาปนารัชทายาทถึงผ่านพ้นอย่างราบรื่น
บุญคุณของเจ้า ข้าจะไม่มีวันลืมเลย" "คนที่ควรขอบใจคือข้ามากกว่า
หลายปีก่อนถ้าไม่มีเจ้า ข้าคงไม่รู้หน้าที่ของการเป็นมหาดเล็ก
แต่เป็นแค่คนที่เห็นแก่ได้ ถูกคนอื่นหลอกใช้เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า
เพราะความซื่อตรงของเจ้าทำให้ข้าเริ่มมีสติ ยอมกลับมาเป็นมหาดเล็กที่แท้จริง
ฉะนั้นควรที่ควรตอบแทนเจ้า คือข้ามากกว่า" "ฟังเจ้าพูดแบบนี้ ข้าก็ยิ่งซาบซึ้ง"
"คราวหน้าถ้าข้าจะมาอีก คืออัญเชิญราชโองการเกี่ยวกับรัชทายาทแล้ว"
"แม้เจ้าจะไปเป็นขันทีที่ต้าหมิง แต่จงอย่าลืมว่า ต้นกำเนิดเป็นชาวโชซอน
จงทำดีให้คนต้าหมิง เกิดความภูมิใจในสายเลือดโชซอนของเจ้าด้วยเถอะนะ" "ได้
ถ้าอย่างงั้น วันหน้าค่อยพบกันใหม่" "ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ" คิมชูซอนอวยพร
พระเจ้าซองจงทรงประกาศสถาปนาองค์รัชทายาท "ข้าขอแต่งตั้งลูกชายคนโต
เป็นองค์รัชทายาท สืบทอดราชบัลลังก์ จึงประกาศให้รู้โดยทั่วกัน โดยมีตราทองคำประทับ
และแผ่นหยกที่จะมอบให้ นับแต่นี้ต้องขยันหมั่นเพียร สร้างสมความดี
เป็นพระราชาที่ทรงคุณธรรม นำความผาสุกมาสู่บ้านเมืองสืบไป" "หม่อมฉัน
รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ" องค์ชายวอนจาประกาศกับเหล่าขุนนางต่อว่า "ข้า
จะน้อมรับพระบัญชาของฝ่าบาท เป็นรัชทายาทที่ดี ทำงานเพื่อ บ้านเมืองของเรา" "ฝ่าบาท
ทรงพระเจริญๆๆ รัชทายาท ทรงพระเจริญๆๆ" พระพันปียินซูตรัสว่า
"ย่าเชื่อว่ารัชทายาทองค์น้อย วันหน้าถ้าได้ครองบัลลังก์จริง คงเป็นพระราชาที่ดี
ทำให้บ้านเมืองเจริญแน่ นับแต่นี้ ถ้าจะเป็นพระราชาที่ห่วงใยราษฎร
ขจัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ผู้ยากไร้ ก็ต้องตั้งใจเรียนหนังสือรู้มั้ยจ๊ะ"
"หม่อมฉันจะจำไว้พ่ะยะค่ะ" พระมเหสีซุกยอนตรัสต่อ
"ขอแค่ขยันหมั่นเพียรเหมือนอย่างทุกวันนี้ ตั้งใจเล่าเรียนกับท่านครู
อีกหน่อยก็จะเป็นพระราชาที่ดีได้แล้วล่ะจ้ะ" "หม่อมฉัน
จะตั้งใจทำหน้าที่รัชทายาทอย่างดีพ่ะย่ะค่ะ" คิมชูซอนทูลอวยพร "รัชทายาท
วันนี้ทรงสง่างามนัก ถ้าวิญญาณของเสด็จแม่ได้เห็น
คงจะปลาบปลื้มพระทัยแทนรัชทายาทแน่" "ชูซอน วันหน้าถ้าข้าได้ครองราชย์จริง
จะล้างมลทินให้เสด็จแม่ที่ถุกคนชั่วกล่าวหา จนถูกประหารชีวิต ข้า
จะช่วยสะสางความแค้น ของเสด็จแม่ให้ได้" คิมชูซอนตกใจ "หา รัชทายาท"คิมชูซอน จบตอน 52
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ
เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn
Readlakorn
เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ช่อง3,5,7,นิยาย ไทยรัฐ,
ละครเกาหลี,ละครไต้หวัน (Series), ลิ้งค์(Links) ดูละคร Youtube, ลิ้งค์ดาวน์โหลด
(Download) เพลงละคร OST. และ เพลง MP3 ทั่วไป ทั้งVampires (แวมไพร์) Sumo อื่นๆ
เรื่องย่อละคร
โบตั๋นกลีบสุดท้าย สะใภ้ลูกทุ่ง รักเธอยอดรัก คิมชูซอน
เมนูรักเชฟมือใหม่ สู่แสงตะวัน หมวยอินเตอร์ เย้ยฟ้าท้าดิน เพราะรักนี้มิอาจลืม
(Alone in Love) ความลับของซูเปอร์สตาร์ อุบัติรักข้ามขอบฟ้า
Readlakorn
7 comments:
ขอบคุณมากค่ะ
วันนี้รออ่านทั้งวันเลย
ขอบคุณจริงๆๆค่ะ
จะรอตอนที่ 53-62 ต่อนะคะ
เอาตอนใหม่มาลงอีกเร็วๆนะคะ ชิบมากเลย เปิดเข้ามาดูทุกวัน ขอบคุณมากๆนะคะ
ขอบคุณมากนะคะ สนุกมากเลย ไม่ค่อยมีเวลาดูในโทรทัศ
นางเอกตายหรือคะ แล้วจะมีนางเอกรุ่นลูกของมเหสีโซฮวาอีกหรือเปล่า
ขอบคุณค่ะ ชอบมากเลย อยากอ่นตอนใหม่เร็วๆจัง
เมื่อไรตอน53-62จะมาคะ
อยากอ่านต่อเร็วๆจัง
จะรออ่านนะคะ
ขอบคุณมากคับ
พอรู้ตอนจบแล้วครับ อ่านจากประวัติศาสตร์เกาหลีวีกีพีเดีย สะใจพระพันปีมากคับ ตายอย่างงั้นได้ 555+
สงสารโซฮวามากเลย ถูกประวัติศาสตร์จารึกว่าเป็นคนไม่ดี
ถ้าใครอยากรู้ตอนจบคร่าวๆ ไปอ่านประวัติศาสตร์ราชวงศ์โซชอนในวีกีนะคับ
ไม่อยากเชื่อเลยว่าพระมเหสีซุกยุนในประว้ิติศาสตร์ ก็คือพระพันปีในเรื่องแดจังกึมเองเหรอเนี่ย...
๗าก.....
Post a Comment