คิมชูซอน 44
พระมเหสีโซฮวาเสด็จไปที่คุกหลวง
พระนางทรงสะเทือนพระทัยยิ่งนักจนกรรแสงออกมาเมื่อทรงทรงพบว่าพระเจ้าซองจงทรงเสด็จเยี่ยมออลูตง
พระมเหสีโซฮวาทูลเสด็จพระเจ้าซองจงกลับพระตำหนัก
พระเจ้าซองจงทรงตกพระทัยยิ่งนักเมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นพระมเหสีโซฮวาเสด็จมาที่คุกหลวง
พระเจ้าซองจงทรงมีรับสั่งกับพระมเหสีโซฮวาว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามพระองค์จะทรงปกป้องออลูตงถึงที่สุด
"ชุงจอน ข้ายังมีเรื่องจะคุยกับนางอีก เจ้ากลับไปก่อนเถอะ" "หม่อมฉัน
ทำตามรับสั่งของฝ่าบาทไม่ได้เพคะ" "อะไรนะ ชุงจอน
นี่แปลว่าเจ้ากล้าขัดคำสั่งข้างั้นหรือ"
"หม่อมฉันอยากให้ฝ่าบาทรีบเสด็จกลับตำหนักซะ เรื่องคืนนี้ถ้าให้ใครรู้เข้า
อย่าว่าแต่ฝ่าบาทองค์เดียว แม้แต่ออลูตงก็จะยิ่งมีความผิดมากขึ้น
ทรงต้องการให้เป็นอย่างงั้นหรือเพคะ ชูซอน รีบพาฝ่าบาทกลับไปตำหนักใหญ่เดี๋ยวนี้"
"ฮือ พระมเหสีรับสั่งถูกแล้วเพคะ ฝ่าบาทไม่ควรอยู่ที่นี่ รีบเสด็จกลับจะดีกว่า"
"ข้าให้สัญญา ยังไงจะช่วยเจ้าออกมาให้ได้" "หม่อมฉัน ฮือ คงตายตาหลับ
ไม่หวังอะไรอีกแล้ว ฮือ"
เมื่อเสด็จออกมาแล้วพระเจ้าซองจงทรงต่อว่าพระมเหสียุนโซฮวาอีก
"วันก่อนข้าเคยบอกเจ้าว่า ในฐานะพระมเหสี เจ้าไม่ต้องทำอะไรมาก
นอกจากทำหน้าที่ตัวเองให้ดีก็พอ แต่แล้ว ทำไมยังมาเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของข้า
ถึงขนาดตามไปเรือนจำอีก" "หึ ฝ่าบาท ก่อนจะทรงตำหนิหม่อมฉัน
ทรงมองพระองค์เองก่อนได้ไหมเพคะ เรื่องของฝ่าบาทกับออลูตง ถ้าให้เหล่าขุนนางรู้เข้า
มันจะยิ่งบานปลายจนใครก็ไม่อาจช่วยได้อีกนะเพคะ" "แล้วจะให้ข้ายึดมั่นในบัลลังก์
แต่ปล่อยให้ผู้หญิงที่รักถูกทรมาน โดยไม่เหลียวแลได้หรือ" "ฝ่าบาท
ทำไมอยู่ต่อหน้าหม่อมฉันแท้ๆ รับสั่งว่ารักนางได้หรือเพคะ" "หึ เหมือนที่สมัยก่อน
ข้าเคยขัดรับสั่งเสด็จแม่ จะรับเจ้าเป็นสนมให้ได้ มาวันนี้ก็เช่นกัน
ยังไงข้าต้องช่วยออลูตงไว้ก่อน จึงอยากบอกเจ้าไว้ว่า เลิกยุ่งกับเรื่องของข้าซะที"
"ฝ่าบาทเพคะ" "หมดเรื่องแล้วเชิญเจ้ากลับไปพักผ่อนได้" "หม่อมฉันเข้าใจฝ่าบาทดี
ทรงมีความรู้สึกอยากปกป้องคนรักให้พ้นภัย แต่ออลูตงนั้น
นางมีข้อหาคบชู้กับชายหลายคน คงไม่อาจมีการอภัยโทษ
เพียงเพราะฝ่าบาททรงมีความรักต่อนางอย่างสุดซึ้ง โปรดทรงคิดให้ดีเถอะเพคะ" "ข้า
ขอสั่งให้เจ้าออกไปเดี๋ยวนี้"
คิมชูซอนถามชองฮันซูว่ามีวัตถุประสงค์อะไรที่นำเสด็จพระมเหสีโซฮวาไปยังคุกหลวง
จากนั้น
คิมชูซอนก็เตือนชองฮันซูว่าเวลานี้ตนกำลังสืบความจริงเรื่องการแท้งลูกของสนมชองอยู่
ชองฮันซูหัวเราะร่าเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ชองฮันซูบอกคิมชูซอนว่าอย่าคิดว่าคิมชูซอนเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีคนเดียวเท่านั้น
"มหาดเล็กคิม อย่านึกว่าในวังมีแต่เจ้าคนเดียวที่จงรักภักดีสิ
เจ้าเองก็หวังดีต่อฝ่าบาทถึงพาพระมเหสีออกนอกวัง และยังจับออลูตงมาอีก
ไม่ทันไรก็ลืมแล้วหรือ ข้าชักสงสัยว่า เพราะเจ้ายังไม่หมดเยื่อใยต่อพระมเหสี
เลยทำให้ขาดวิจารณญาณไปหรือเปล่า" "มหาดเล็กชอง ข้าจะหาหลักฐาน
ที่เจ้าร่วมมือกับคุณหนูซอยอง ทำให้สนมชองทรงแท้ง และเอาความผิดของเจ้า
ประกาศให้ทุกคนรับรู้" "หึ ข้าไม่เคยทำอะไรผิด อย่าคิดมาขู่เลย อยากทำอะไรก็ทำเถอะ"
เมื่อพูดจบก็จากไป
พระเจ้าซองจงทรงมีรับสั่งถามโชชิคยอมว่าเหตุใดโชชิคยอมจึงไม่รักษาคำมั่นสัญญา
จนเป็นเหตุให้ออลูตงต้องถูกจับกุมคุมขัง โชชิคยอมตอบว่า "พระอาญาไม่พ้นเกล้า
การที่ออลูตงถูกจับคราวนี้ เป็นการตัดสินใจของนาง ไม่เกี่ยวกับคนอื่นพ่ะย่ะค่ะ"
"อะไรนะ" "ถ้าจู่ๆ นางหายตัวไป แน่นอนว่านางต้องปลอดภัยแน่ แต่ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง
ข่าวลือต่างๆ ระหว่างฝ่าบาทกับนางก็จะพูดกันไม่รู้จบ
เหล่าขุนนางก็จะจับเอาประเด็นนี้ มากดดันฝ่าบาทไม่เลิกซะที เพราะฉะนั้น
นางต้องการเปิดเผยว่าไม่เกี่ยวกับฝ่าบาท ด้วยเหตุนี้
จึงยอมให้กรมอาญาจับตัวแต่โดยดีพ่ะย่ะค่ะ"
ชองฮันซูไม่เข้าใจว่าซอยองปั่นหัวโชชิคยอมกับใต้เท้าซังตังเพื่ออะไร
และยังให้เปลี่ยนตัวพระมเหสีอีก "คราวก่อนข้าก็เคยบอกแล้วนี่ ท่านดูแลกรมมหาดเล็ก
ส่วนข้าดูแลฝ่ายใน ทีนี้บ้านเมืองก็จะเป็นของเราสองคน คอยดูไปเถอะ
การเปลี่ยนพระมเหสีองค์ใหม่ จะเป็นเป้าหมายขั้นแรกในการร่วมมือของเรา"
"เจ้าคิดว่าการจะปลดพระมเหสีนั้น ทำได้ง่ายๆ งั้นหรือ" "อนาคตที่ข้าวางไว้
ขึ้นอยู่กับผลงานของท่านด้วย ข้าน่ะ เชื่อใจท่านเสมอ"
พระพันปียินซูทรงทราบเรื่องจากชองฮันซูก็มีรับสั่งให้คิมชูซอนเข้าเฝ้าเพื่อทรงสอบถามเรื่องที่คิมชูซอนนำเสด็จพระเจ้าซองจงไปยังคุกหลวง
พระนางทรงตำหนิคิมชูซอนเป็นการใหญ่ "เจ้าไม่รู้หรือว่าเพราะความวู่วามของเจ้า
จะทำให้คนอื่นยิ่งมองพระมเหสีในแง่ร้ายและไม่ไว้ใจนางอีกต่างหาก เจ้ากรมมหาดเล็ก
สั่งโบยมหาดเล็กคิมจนกว่าจะยอมพูดความจริงออกมา วันนี้ข้าจะให้เขา
สำนึกในหน้าที่ถวายอารักขาต่อฝ่าบาทและราชสำนัก จะได้ไม่เหิมเกริมอีก"
"น้อมรับพระบัญชาพ่ะยะค่ะ" ถึงจะถูกโบย แต่คิมชูซอนก็ยืนยันว่าเขาพาไปเอง
จนโชชิคยอมมาพบและขอให้หยุดการลงโทษ และทูลว่างกรมมหาดเล็กจะจัดการต่อ
"ความรักลูกของท่านเป็นที่น่าเห็นใจก็จริง แต่ถึงท่านจะออกหน้าด้วยตัวเอง
ก็ไม่อาจช่วยให้มหาดเล็กคิมผ่อนหนักเป็นเบาได้หรอกนะ" "ถ้าลูกหม่อมฉันทำผิดจริง
หม่อมฉันมีหน้าที่ ลงโทษให้หนักอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ตามที่เราได้ตกลงไว้
ทรงรอให้เรื่องของออลูตง ยุติไปก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ" "หึ ก็ได้ ถ้าถึงสุดท้ายแล้ว
ความผิดของมหาดเล็กคิมปรากฎชัดเจน หัวหน้ามหาดเล็กทุกแผนกต้องลาออกหมด
และที่เคยรับเบี้ยหวัดไปเท่าไหร่ ก็ต้องคืนให้ราชสำนัก ห้ามเก็บไว้เอง
ท่านจะรับปากได้ไหม" "หม่อมฉันน้อมรับพระบัญชา ขอทรงวางพระทัย" "ใต้เท้าโช
เรื่องนี้ท่านรับปากข้าต่อหน้ามหาดเล็กทั้งหลายแล้ว
ถึงเวลาไม่ต้องมาแก้ตัวอะไรอีกล่ะ" พระพันปียินซูเสด็จไป
โชชิคยอมสั่งให้พาตัวคิมชูซอนไปให้ยางซองยุนดูแลก่อน
จากนั้นโชชิคยอมก็ต่อว่าที่กรมมหาดเล็กเชื่อฟังพระพันปียินซูมากกว่าพระเจ้าซองจง
"ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกี่ยวกับว่า มหาดเล็กคิมพาฝ่าบาทไปเรือนจำจริงหรือไม่
แต่อยู่ที่ว่า มีใครบางคนเอาเรื่องภายในของเราไปทูลพระพันปีมากกว่า
ข้าขอย้ำอีกครั้งให้รู้ ถ้าให้จับได้ว่า มีใครทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้
ข้าจะลงโทษให้หนัก จำไว้ด้วย"
จากนั้นโชชิคยอมก็ไปสอบถามคิมชูซอนว่าทำไมต้องพาพระเจ้าซองจงไปพบออลูตง "เพราะข้า
เข้าใจความรู้สึกของฝ่าบาทถึงตัดสินใจทำอย่างงั้นน่ะครับ
ต่างฝ่ายต่างมีความรักต่อกัน แต่รู้อยู่ว่าไม่ได้สมหวัง มองไปมีแต่ความท้อแท้
หนำซ้ำอีกคนก็อาจจะตาย ข้าจึงเห็นว่าสมควรจะช่วย"
"แต่เรื่องเมื่อคืนถ้าให้พวกขุนนางรู้เข้า เจ้าคงรู้ว่า แม้แต่ฝ่าบาท
ก็อาจมีมลทินติดตัวได้" "เรื่องนี้ข้าเข้าใจดีครับ แต่ว่าข้าไม่เสียใจในสิ่งที่ทำ
ต่อให้ถูกลดขั้นไปจากนี้ ข้าก็ยินดีรับโทษ" "ก่อนที่เรื่องออลูตงจะยุติ
และไม่ให้มีการสั่งยุบกรมมหาดเล็กอีก เจ้าทำอะไร ขอให้ระวังไว้หน่อยนะ"
พระมเหสียุนโซฮวาทราบจากโบดึ๊กว่าคิมชูซอนถูกพระพันปีลงโทษก็เสด็จมาหา
"หม่อมฉันได้ยินว่า พระพันปีทรงลงอาญามหาดเล็กคิมอย่างหนักจริงมั้ยเพคะ"
"ข้าเป็นแม่สามี เกิดไปลงโทษคนสนิทของพระมเหสีอย่างเจ้าเข้า
เลยจะมาเอาผิดกับข้าหรือยังไง" "มหาดเล็กคิมทำเกินหน้าที่ พาฝ่าบาทเสด็จไปเรือนจำ
สมควรถูกลงโทษอย่างหนัก ข้อนี้หม่อมฉันก็เห็นด้วยเพคะ" "แล้วยังไง" "หึ
หม่อมฉันยังได้ยินว่า พระพันปีทรงยืนกราน จะจัดระเบียบในกรมมหาดเล็กใหม่
หม่อมฉันเห็นว่า สาเหตุเป็นเพราะ มหาดเล็กคิมเคยพาหม่อมฉันออกนอกวัง
และยังลักพาตัวออลูตงเข้ามาอีก เพราะเหตุนี้ใช่ไหมเพคะ
มหาดเล็กคิมแค่ทำตามคำสั่งหม่อมฉันกับฝ่าบาทเท่านั้น นอกนั้นเขาไม่มีความผิดอะไรเลย
แต่ทำไมพระพันปี
กลับเอาเรื่องนี้เป็นข้ออ้างเพื่อจะสั่งยุบกรมมหาดเล็กซะล่ะเพคะ"พระพันปียินซูชังน้ำหน้าอย่างมาก
"หึ" "ถ้าให้ดี ทรงลงอาญาหม่อมฉันซะดีกว่า หม่อมฉัน ยินดีรับโทษแทนมหาด
เล็กคิมเพคะ" "ชุงจอน เจ้าชักเหิมเกริมไปใหญ่แล้วนะ ที่จริงในความคิดของข้า
ก็อยากลงโทษเจ้า ดัดนิสัยจองหอง ไม่รู้จักยำเกรงผู้ใหญ่ซะบ้าง
แต่ว่าเพราะข้าให้เกียรติเจ้าซึ่งเป็นประมุขของฝ่ายใน
จึงอดทนมาจนทุกวันนี้ยังไม่รู้อีกหรือ ข้าเริ่มเข้าใจแล้วว่า
ทำไมฝ่าบาทถึงนับวันจะเบื่อหน่ายเจ้า ขนาดเห็นผู้หญิงต่ำต้อยยังดีกว่าด้วยซ้ำ"
"พระพันปี รับสั่งเกินไปแล้วนะเพคะ" "เมื่อก่อนที่ฝ่าบาทชอบออกไปข้างนอก
ถึงขั้นมีความสัมพันธ์กับออลูตง ไม่ใช่เพราะเจ้า
ไม่ให้เกียรติสามีและหมดความเชื่อมั่นในตัวเขาหรอกหรือ
รอให้เรื่องออลูตงจบไปก่อนเถอะ
เมื่อนั้นตัวการที่ทำให้สนมชองแท้งลูกก็จะถูกเปิดเผยด้วย
ถ้ามีหลักฐานว่าเจ้ามีส่วนพัวพัน อนาคตเจ้าจะเป็นยังไงนั้น
คงไม่ต้องให้ข้าอธิบายหรอกนะ" "หม่อมฉัน เชื่อว่าตัวเองบริสุทธิ์
ไม่เคยกลัวว่าใครจะมากล่าวหาเพคะ" "หึ
ข้าก็จะคอยดูว่าความมั่นใจของเจ้าจะอยู่ถึงเมื่อไหร่ เชิญยะโสให้พอเถอะ
ตอนนี้กลับไปได้แล้ว"
ใต้เท้าซังตังไปคาดคั้นออลูตงให้พูดเรื่องการมีสัมพันธ์กับพระเจ้าซองจง
แต่ออลูตงยืนยันว่าไม่รู้จักพระเจ้าซองจง
ทำให้ใต้เท้าซังตังสั่งทหารให้ลงโทษออลูตงจนกว่าจะยอมรับ โชชิคยอมทราบก็ไม่พอใจมาก
ใต้เท้าซังตังยังมาเชิญเสด็จพระเจ้าซองจงไปสอบปากคำออลูตง พระองค์ทรงหนักใจมาก
โชชิคยอมเองกลับเห็นดีด้วย เพื่อเป็นการยืนยันว่าพระองค์ไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้
แต่พระเจ้าซองจงบอกว่าพระองค์ทำไม่ได้ พระองค์จะลงโทษคนที่รักได้อย่างไร "หม่อมฉัน
รู้ดีว่าฝ่าบาททรงเจ็บปวดแค่ไหน แต่ความทุกข์ในใจนั้น ใช้เวลาซักพัก มันจะค่อยๆ
บรรเทาเบาบางลง แต่ราชบัลลังก์ต่างหาก เป็นสิ่งที่ต้องสืบทอด
ชั่วลูกชั่วหลานนะพ่ะย่ะค่ะ ใครจะบีบคั้นฝ่าบาทยังไงก็ตามแต่ ไม่ต้องทรงยำเกรง
เพราะทรงมีอำนาจแห่งพระราชาอย่างเต็มเปี่ยม แม้แต่ออลูตง
ก็อยากให้ฝ่าบาททรงทำเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ" พระเจ้าซองจงทรงยินยอมแล้ว
โชชิคยอมเองก็มาด้วย พระเจ้าซองจงตรัสว่า "วันนี้ข้าจำเป็น ต้องมาทำหน้าที่พิเศษ
ในการสอบคดีภรรยาเชื้อพระวงศ์ คบชู้สู่ชายกับคนมากหน้า
ซึ่งถือว่าบั่นทอนศีลธรรมเป็นอย่างมาก จึงต้องมาพิจารณาเอง เบิกตัวนักโทษได้แล้ว"
ออลูตงถูกนำตัวออกมา พระเจ้าซองจงตรัสถามว่า "นักโทษคนนี้ เมื่อมีฐานะเป็นถึง เฮยิน
แล้ว ทำไมยังต้องคบชู้กับชายไม่เลือกหน้าอีก" "หม่อมฉัน
เดิมเป็นธิดาใต้เท้าปาร์คยุนชาง แห่งสำนักการศึกษา แต่งงานกับใต้เท้าแทคังซู
จึงได้รับยศเป็น เฮยิน โดยปริยาย สาเหตุที่หม่อมฉันถูกหย่าร้าง
ด้วยข้อหาว่าเป็นชู้กับช่างชื่อ จีโกบี
นั่นเป็นข้อกล่าวหาที่แทคังซูกุขึ้นมาทั้งสิ้น หม่อมฉัน
ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง" พระเจ้าซองจงทรงตรัสถามองค์ชายพังซานและองค์ชายโซซาน
ทั้งสองยอมรับและกล่าวว่าเพราะออลูตงทอดสะพานให้
ออลูตงจึงโต้กลับว่าเพราะทั้งสองเข้ามาเคาะห้องของนางพร้อมมีดข่มขู่ให้รับไมตรี
บางคนก็บอกว่าหลังจากมีความสัมพันธ์แล้ว ถึงรู้ว่าที่แท้
เป็นภรรยาเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง ออลูตงสุดทนโต้กลับว่า "เฮ่อๆๆ นี่น่ะหรือ
ขุนนางและชนชั้นสูงที่มียศศักดิ์ทั้งหลาย แถมยังได้รับการศึกษามาอย่างดีแล้ว
เพราะไม่อาจห้ามใจตัวเอง ปล่อยให้กิเลสครอบงำ หมกมุ่นอยู่กับกามตัณหา
เห็นผู้หญิงสวยหน่อยเป็นไม่ได้ พอได้สมหวังแล้วมีปัญหาตามมาก็แก้ตัวน้ำขุ่นๆ
แล้วแบบนี้จะให้ราษฎรฝากความหวังไว้กับพวกท่านได้ยังไง" ใต้เท้าซังตังดุ
"หุบปากเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ เรากำลังไต่สวนที่เจ้าทำผิดจารีต
ละเมิดความเป็นกุลสตรีที่ดี เจ้ายังทำเป็นปากกล้า
ต่อว่าต่อขานคนอื่นต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทอีกหรือ" ออลูตงกล่าวต่อว่า
"หญิงที่เกิดในโชซอน ถ้าถูกครอบครัวตัดขาดหรือสามีทอดทิ้ง นางแทบไม่มีทางอยู่รอด
ฮือ หญิงที่ถูกหย่าร้าง ถ้าไม่ฆ่าตัวตายทันที ต้องการอยู่ต่อ ไม่ว่าด้วยอะไรก็ตาม
ต้องไปยืนรอหน้าหมู่บ้าน ฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนแรกที่เดินผ่าน ขอไปอยู่กับเขาทันที
ฮือ ซึ่งข้าไม่ต้องการเป็นอย่างงั้น ถึงได้ลิขิตชีวิตตัวเอง จนกลายมาเป็นแบบนี้ ฮือ
หม่อมฉัน ไม่คิดว่าทำอะไรผิด" พวกขุนนางโกรธ
โชชิคยอมกระซิบให้พระเจ้าซองจงรับสั่งถามเกี่ยวกับข่าวลือ
เพื่อที่ว่าจะได้แก้ข้อกล่าวหาที่เกี่ยวกับพระองค์ได้ "นักโทษคนนี้
เคยรู้จักข้าหรือเปล่า" "หึ ผู้หญิงต่ำต้อยไม่รักดีอย่างหม่อมฉัน
จะมีวาสนาได้รู้จักผู้สูงศักดิ์อย่างฝ่าบาทได้ยังไงเพคะ คืนนี้
เป็นครั้งแรกที่หม่อมฉันได้เข้าเฝ้าด้วยซ้ำ" ใต้เท้าซังตังตกใจ "หา" "ถ้าอย่างงั้น
คุณชายลีที่เจ้าเคยกล่าวถึง เขาเป็นใคร" "เป็นคนที่ หม่อมฉันพร้อมจะตายเพื่อเขา
และมีแต่ความจริงใจมอบให้เขาคนเดียว ฮือ สิ่งใด ที่หม่อมฉันจะทำเพื่อเขาได้
หม่อมฉันยินดีแม้จะสละชีวิต เพื่อคุณชายลีคนนี้คนเดียว" "แล้วทำไมเขารู้ว่า
ตอนนี้เจ้าถูกจับมาไต่สวนแถมยังทรมานอีก กลับไม่ยอมออกหน้าช่วยเหลือซักนิดล่ะ
เจ้าคิดว่า จะน้อยใจและเกลียดชังเขาหรือเปล่า" "หม่อมฉันรู้ดีแก่ใจว่า
คุณชายลีรักหม่อมฉันด้วยความจริงใจ ยิ่งกว่าหญิงคนไหนในชีวิตของเขา
หม่อมฉันจึงไม่โกรธเขาเพคะ" "วันนี้ไต่สวนพอแค่นี้ ผู้ต้องหายอมรับความผิดที่ก่อ
ก่อนที่ข้าจะมีคำสั่งตัดสินโทษของนาง ใครก็ห้ามมีการทรมานอีก"
ใต้เท้าซังตังไม่พอใจการสอบสวนและตัดสินในครั้งนี้
พระมเหสียุนโซฮวาทราบจากคิมชูซอนว่ายุติการไต่สวนแล้ว
ก็บอกให้คิมชูซอนไปพูดคุยปลอบพระทัยฝ่าบาทแทนพระองค์ที "แล้วทำไม
พระมเหสีไม่เสด็จไปเข้าเฝ้าเอง กลับให้หม่อมฉันไปแทนล่ะ" "เฮ่อ
ข้าเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง จะให้ไป
ปลอบใจฝ่าบาทที่กำลังอาลัยอาวรณ์ต่อผู้หญิงอีกคน
โดยที่ตัวเองไม่รู้สึกรู้สมได้ยังไง ชูซอน เจ้าไปแทนข้าแหละดีแล้ว
ปลอบใจฝ่าบาทอย่าให้ทรงคิดมากนัก" คิมชูซอนปฏิบัติตามรับสั่งของพระมเหสียุนโซฮวา
"ฝ่าบาท หม่อมฉันจะรินเหล้าให้เอง" "ข้า นอกจากไม่สามารถช่วยหญิงที่รักได้แล้ว
ยังร่วมมือกับขุนนางทั้งหลาย คาดคั้นเอาผิดกับนางอีก
ข้าช่างเป็นคนที่ไม่เอาไหนจริงๆ ไม่ใช่ลูกผู้ชายด้วย" "ฝ่าบาท
โปรดอย่าทรงตำหนิองค์เองอีกเลย หม่อมฉันเชื่อว่า ออลูตงคงจะเข้าใจฝ่าบาทดี"
"เจ้าคิดว่านาง เข้าใจความรู้สึกของข้าตอนนี้จริงหรือ" "ถ้ามีความรักต่อกันจริง
ย่อมต้องเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ" "หึ นั่นสินะ ฟังเจ้าพูดแบบนี้แล้ว ข้าค่อยอุ่นใจหน่อย"
โชชิคยอมเข้ามาพูดคุยกับออลูตง "ตอนนี้ เป็นอันว่าข่าวลือ
ระหว่างเจ้ากับฝ่าบาทได้จบลง จะไม่มีใครครหาอีก" "แม้ว่าอนาคต
ข้าจะถูกประวัติศาสตร์จารึกว่าเป็นหญิงแพศยาไร้ยางอาย
แต่สามารถได้พระทัยของฝ่าบาทมาครอง ก็พอแล้ว" "เจ้า
เป็นยอดหญิงที่น่าชื่นชมยิ่งกว่าชายอกสามศอก ยิ่งกว่าขุนนางคนไหนๆ ตราบจนวันตาย
ข้าจะไม่มีวันลืมเจ้า" "หึๆ ข้าน่ะ เป็นเพียงหญิงแพศยาออลูตง
ซึ่งชื่อที่ข้าตั้งเองนี้ จะถูกจารึกไปอีกนาน แค่นี้ก็เกินพอแล้ว
ข้าจะไม่มีวันเสียใจอีก" ใต้เท้าซังตังยังไม่ยอมแพ้
ไปทูลให้พระเจ้าซองจงสั่งประหารออลูตงอีก พระเจ้าซองจงตกพระทัยยิ่งนัก
"ให้ข้าสั่งประหารออลูตงหรือ ใต้เท้าซังตัง นี่เป็นข้อเรียกร้องที่เกินไปแล้วนะ"
"ผู้หญิงคนนี้ เกิดในชนชั้นขุนนางและเป็นภรรยาเชื้อพระวงศ์ กลับประพฤตินอกรีต
ฝ่าฝืนจารีตประเพณีของเรา มีความสัมพันธ์กับชายหลายคน ทั้งองค์ชายพังซานและโซซาน
โอยูโซ โนกงพิล ชองซูจีซึ่งเป็นขุนนางผู้ใหญ่ รวมถึงบัณฑิตคนสำคัญ
และขุนนางในสามกรมใหญ่ ยังไม่นับช่างโลหะและชนชั้นไพร่
ล้วนเคยข้องแวะกับนางทั้งสิ้น ถือเป็นหญิงใจกล้าที่มักมากในกาม
ทำให้เสื่อมเสียศีลธรรมนัก เราจึงเห็นว่าควรรับโทษโดยการประหารซะ"
"แม้นางจะมีความผิดหลายกระทง แต่ไม่น่าถึงขั้นประหารชีวิต ข้าว่าแค่ให้โบยร้อยที
เป็นการตักเตือนก็น่าจะเพียงพอแล้ว" "ฝ่าบาท ออลูตงทำให้ราชสำนักเสื่อมเสีย
ผู้คนนินทาไปทั่ว หากไม่ลงโทษเป็นเยี่ยงอย่าง
เท่ากับเสียการปกครองและกฎหมายก็ไม่มีความหมายด้วยพ่ะย่ะค่ะ" ใต้เท้ายุนโฮทูลว่า
"ถ้าละเว้นชีวิตนาง ราชสำนักและเหล่าขุนนางก็จะเป็นที่หัวเราะของชาวบ้าน
ต่อไปจะมีการมั่วสุมมากขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมือง เราจึงเห็นว่า
ยังไงก็ต้องประหาร ปล่อยไว้ไม่ได้พ่ะยะค่ะ" "ใครจะพูดยังไงก็ช่างเถอะ ข้า
จะไม่มีวันสั่งประหารนางเด็ดขาด" "ฝ่าบาท นี่เป็นความเห็นชอบ
โปรดทรงรับฟังเถอะพ่ะย่ะค่ะ" "โปรดทรงรับฟังเถอะพ่ะย่ะค่ะ" พวกขุนนางพร้อมใจกันทูล
ทำให้พระเจ้าซองจงทรงหนักพระทัยยิ่งนัก พระพันปียินซูทรงทราบก็ตรัสถามพระเจ้าซองจง
"ฝ่าบาท ทำไมถึงยืดเยื้อไม่ยอมสั่งประหารซะที น่าจะทำตามคำขอของเหล่าขุนนาง
ประหารนางโดยเร็วไม่ดีกว่าหรือ" "หม่อมฉัน ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ"
"ฝ่าบาท ตอนนี้ความผิดของนางก็เป็นที่เปิดเผยชัดเจนแล้ว
ทำไมเจ้ายังลังเลตัดสินใจไม่ได้อีกล่ะ" "เพราะนางเป็นผู้หญิงที่หม่อมฉันรัก
เมื่อคืน หม่อมฉันต้องไปไต่สวนนางด้วยตัวเอง แค่นี้ก็ปวดใจมากแล้ว
จะให้สั่งประหารได้ลงคอหรือพ่ะย่ะค่ะ" "ฝ่าบาท นี่เจ้าพูดอะไรออกมาต่อหน้าข้า
รู้ตัวหรือเปล่า ออลูตงบอกแล้วว่าไม่รู้จักเจ้า เจ้ายังพยายามเอาตัวเอง
ไปเกี่ยวข้องกับนางอีก แล้วเมื่อไหร่เรื่องมันจะจบซะที"
"นางต้องการช่วยหม่อมฉันถึงได้ปฏิเสธ นางยอมเจ็บตัว ถูกทรมานแค่ไหนก็ไม่พูด
ปิดบังความจริงเพื่อหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันกลับใจเสาะ ห่วงแต่บัลลังก์ของตัวเอง
ทำเป็นไม่รู้จักนาง แล้วจะให้หม่อมฉันประหารนางอีก
ถ้าเป็นเสด็จแม่จะทรงทำได้หรือพ่ะย่ะค่ะ" "เจ้าช่างโง่จริงๆ
เห็นแก่เรื่องส่วนตัวจะพาให้บ้านเมืองหายนะก็ยอมใช่ไหม
ถ้าไม่รีบประหารนางให้หมดเรื่องหมดราว อีกไม่นานเจ้าจะพินาศเพราะผู้หญิงคนนี้
ทำไมจนป่านนี้ยังไม่เข้าใจอีก" "ทูลพระพันปี พระมเหสีมาขอเฝ้าเพคะ" "เฮ่อ
ให้นางเข้ามา" พระมเหสียุนโซฮวาเข้ามา "หึ มีธุระอะไร อยู่ดีๆ จะมาพบข้าทำไมอีก"
"หม่อมฉัน มาเฝ้าพระพันปีและฝ่าบาท เพราะมีเรื่องจะทูลขอเพคะ" "มีเรื่องขอร้องหรือ
ไหนลองพูดมาซิ" "ไม่ต้องฟังเสียงคัดค้าน ละเว้นชีวิตออลูตงเถอะเพคะ" "อะไรนะ
เจ้ารู้ตัวหรือเปล่า ว่ากำลังพูดอะไรต่อหน้าข้าน่ะ" "หม่อมฉัน
จะมาทูลขอพระพันปีและฝ่าบาท ให้ทรงเมตตาละเว้นชีวิตออลูตงเพคะ" "ชุงจอน
ผู้หญิงคนนี้ ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ทำตัวเหลวแหลกไม่รู้จักสำรวม
คบชู้สู่ชายแทบนับไม่ถ้วน นำความอัปยศมาสู่บ้านเมืองของเรา
แล้วคนที่มีความผิดขนาดนี้ ทำไมเจ้ายังมาออกหน้าปกป้องอีกล่ะ" "หม่อมฉัน
ไม่ได้หวังจะปกป้องความผิดของนางเพคะ เพียงแต่เมื่อมีการไต่สวนอย่างเปิดเผย
เราก็ควรให้ความเป็นธรรมโดยถือกฎหมายเป็นหลัก
ซึ่งความผิดของออลูตงไม่ได้ร้ายแรงมากมาย จึงไม่น่าจะถูกประหารเพคะ"
"ความคิดของเจ้าช่างแปลกนัก ทำให้ข้าเดาไม่ถูกจริงๆ ผู้หญิงคนนี้
ทำให้ฝ่าบาทถูกคนครหา แม้แต่ราชสำนัก ก็เกือบจะง่อนแง่นเพราะความอับอาย ตัวเจ้าเอง
ก็เคยเกิดความหึงหวงเพราะนาง ถึงขนาดข่วนหน้าฝ่าบาทด้วยซ้ำ ให้คนไปจับนางมาไต่สวน
ทำให้ใครต่อใครวุ่นวายเพราะผู้หญิงคนนี้คนเดียว แล้วความผิดขนาดนี้
เจ้ากลับบอกว่าไม่ได้ร้ายแรงมากมาย
ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่" "หม่อมฉันเห็นว่า
ออลูตงเป็นผู้หญิงที่รักฝ่าบาท ด้วยความจริงใจเพคะ" "อะไรนะ"
"ถ้าตอนนี้ฝ่าบาทจำต้องสั่งประหารนาง เพราะทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว อีกหน่อย
ฝ่าบาทต้องเสียพระทัยเพราะเรื่องนี้ไปชั่วชีวิต ถึงตอนนั้นฝ่าบาท
แม้จะบริหารราชกิจยังไง ในพระทัยก็มีมลทินที่ลบล้างไม่ออก
แล้วเหล่าขุนนางก็จะเอาเรื่องนี้มาพูด สุดท้ายก็ยังจะกดดันฝ่าบาทได้อยู่ดี" "ชุงจอน
หึ หลังจากไต่สวนแล้ว
ฝ่าบาทได้พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับออลูตงต่อหน้าเหล่าขุนนางทั้งหลาย
แล้วทำไมเจ้ายังมาพูดส่งเดชอีก" "ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉัน
อยากให้ทรงทบทวนคำพูดของหม่อมฉันให้ดีก่อนเพคะ" "ชุงจอน แต่ไหนแต่ไรไม่ว่าเจ้า
จะแสดงความเจ้ากี้เจ้าการยังไง ข้าก็ถือว่าเจ้าเป็นมเหสี
คงมีวิจารณญาณที่ถูกต้องและเป็นธรรมอยู่บ้าง
แต่วันนี้ดูเหมือนว่าข้าจะมองเจ้าผิดไปจริงๆ" "หม่อมฉัน
ก็ทำเพื่อรักษากฎของราชสำนัก จึงมาทูลขอพระพันปีเพคะ"
"ข้าไม่อยากพูดกับเจ้าให้เสียเวลาอีกแล้ว รีบกลับไปซะดีกว่า"
พระมเหสียุนโซฮวาทูลพระเจ้าซองจงอีกครั้งว่า "ฝ่าบาท อย่าไปฟังเสียงเหล่าขุนนาง
จนมีรับสั่งประหารออลูตงนะเพคะ" "ชุงจอน เจ้าทำอะไรกลับไปกลับมาหรือเปล่า" "ฝ่าบาท
หม่อมฉันไม่เข้าใจที่รับสั่งเพคะ สิ่งที่หม่อมฉันทำวันนี้
เพื่อจะทูลขอให้ฝ่าบาทใช้ความเป็นธรรมตัดสินคดีนี้ก็เท่านั้น" "ข้ารู้แต่ที่แล้วมา
เจ้าเกลียดชังออลูตงนักหนา ทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางข้า
แล้วตอนนี้กลับมาขอให้ไว้ชีวิตนางซะ เจ้าทำเพื่ออะไรกันแน่" "ฝ่าบาทเพคะ" "จู่ๆ
เปลี่ยนจากความหึงหวง กลายเป็นแม่พระที่ใจดี รู้จักเห็นใจคนอื่น
สรุปแล้วเจ้าเป็นคนแบบไหนกันแน่ ทำให้ข้ารู้สึกงงจริงๆ"
พระมเหสียุนโซฮวาได้แต่ถอนพระทัยจบตอนที่ 44
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ
เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn
1 comments:
อ่านจบไปอีกตอน กำลังรอตอนใหม่อยุ่นะคะคุณ Lily ขอบคุณค่ะ
Post a Comment