Thursday, September 18, 2008

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ - คิมชูซอน (43)

คิมชูซอน 43

คิมชูซอนนำขวดยาไปคาดคั้นเอาความจริงจากชองฮันซูว่าเหตุใดจึงทำร้ายสนมชองจนแท้งลูก
ชองฮันซูไม่เพียงไม่ยอมรับ ทั้งยังต่อว่าคิมชูซอนอีกด้วย
ชองฮันซูกล่าวต่อไปว่าการที่คิมชูซอน
ทำเช่นนี้นั้นอาจทำให้พระมเหสีโซฮวาทรงเดือดร้อนไปด้วย "มหาดเล็กชอง ถึงขั้นนี้แล้ว
แทนที่จะสำนึกยังมาพาลคนอื่นอีก ถ้ายังทำไขสือไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
ข้าจะไปทูลฝ่าบาท เพื่อให้ลงโทษเจ้าเอง" "ก็เอาสิ ถ้าเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง
จะไปฟ้องท่านเจ้ากรม ให้มาลงโทษข้าก็ได้ แต่ถ้าสืบแล้วไม่เกี่ยวข้องกับข้า
เจ้าก็จะมีความผิด ฐานแจ้งความเท็จลบหลู่ผู้บังคับบัญชา
และถ้าเจ้ารับคำสั่งมาจากพระมเหสีละก้อ แม้แต่พระนาง
ก็จะถูกสอบเพราะเรื่องนี้เหมือนกัน" คิมชูซอนไปบอกเล่าให้โชชคิยอมฟัง
โชชิคยอมกลับบอกว่าสิ่งที่คิมชูซอนทำวู่วามเกินไป คิมชูซอนถึงกับอึ้ง
"เราไม่รู้ว่าพวกเขามีเหตุจูงใจอะไรถึงต้องทำแบบนี้ ลำพังแค่มียาพิษในบ้าน
เอาผิดใครไม่ได้หรอก"


"แต่มันเป็นยาพิษที่หายาก ข้าเชื่อว่ามีไว้เพื่อปองร้ายสนมชอง
ให้เกิดอาการแท้งลูกแน่" "ต่อให้เจ้าคาดการณ์ถูกก็เถอะ
แต่ที่เจ้าปล่อยให้หญิงแพศยาคนหนึ่ง เข้าออกวังหลวงตามใจชอบ
แค่นี้ก็ทำให้ผู้คนครหาไปทั่วแล้ว แม้แต่กรมมหาดเล็กก็พลอยเสื่อมเสียด้วย
นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่ เกี่ยวข้องถึงความอยู่รอดของเรา
และไม่ใช่การคาดเดาเฉยๆ" "ถ้าอย่างงั้น แปลว่าท่านพ่อ จะไม่ทำอะไรพวกเขาหรือครับ"
"เรื่องฮันซูกับซอยอง ข้าจะจัดการให้เอง แต่ระหว่างนี้
เจ้าห้ามเอาเรื่องนี้ไปเปิดเผยกับใคร ต่อให้พระมเหสี ทรงคาดคั้นขนาดไหน
เจ้าก็ห้ามพูดเด็ดขาด" ใต้เท้าซังตังทูลพระเจ้าซองจงให้ยุบกรมมหาดเล็ก
พระเจ้าซองจงถามเหตุผล ใต้เท้าซังตังบอกว่าเป็นความประสงค์ของพระพันปียินซู
พระเจ้าซองจงจึงเสด็จไปเฝ้าพระพันปียินซู
พระพันปียินซูทรงตรัสว่าพระเจ้าซองจงไว้ใจโชชิคยอมมากไป ทั้งคิมชูซอนด้วย
ทรงปรารถนาจะให้ลดบทบาทและจำนวนคนลงไม่ต้องถึงกับยุบก็ได้
พระเจ้าซองจงน้อมรับพระประสงค์
พระเจ้าซองจงเห็นโชชิคยอมมาเข้าเฝ้าทรงรีบถามถึงออลูตง "ใต้เท้าโช ท่านมาก็ดีแล้ว
ได้ยินว่า เมื่อคืนออลูตงถูกคนของกรมอาญาจับได้
แต่ระหว่างทางกลับถูกคนอีกกลุ่มหนึ่งช่วยไป นั่นเป็นคำสั่งจากท่านใช่ไหม"
"หม่อมฉันได้พานางไปอยู่ที่ๆ ปลอดภัย ขอทรงวางพระทัยได้" "เฮ่อ
นึกแล้วว่ามีท่านอยู่ข้างๆ ข้าแทบไม่ต้องห่วงอะไรอีก" "แต่ต่อไปฝ่าบาท
คงไม่อาจพบหน้า ผู้หญิงคนนี้ได้อีกแล้ว" "ข้า ในฐานะพระราชา และลูกผู้ชายคนหนึ่ง
เมื่อให้สัญญากับท่านก็ต้องทำตาม" "ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ แต่ว่า หม่อมฉันได้ยินว่า
มีการเสนอให้ฝ่าบาท ทรงยุบกรมมหาดเล็กใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ"
"เรื่องนี้ข้าไม่มีทางเห็นชอบด้วย ท่านไม่ต้องห่วงไปหรอก
ข้าเชื่อว่าท่านมีความภักดี จะไม่หักหลังท่านแน่" "ได้ยินว่าพระพันปี
ทรงร่วมมือกับเหล่าขุนนาง เตรียมการที่จะ ปรับปรุงกรมมหาดเล็กหรือพ่ะย่ะค่ะ"
พระเจ้าซองจงทรงอึ้งไปทีเดียว โชชิคยอมมาเฝ้าพระพันปียินซู
และถูกพระพันปียินซูตรัสขู่ว่า "พักก่อนดูเหมือนว่า
ข้าเคยเตือนท่านและท่านเจ้ากรมไปหลายครั้ง แต่ไม่มีใครยอมรับฟัง
ก็ถือซะว่าหาเรื่องใส่ตัว อย่ามาโทษข้าเลยนะ" "หม่อมฉันเชื่อว่าพระพันปี
อนาคตต้องทรงเสียพระทัยแน่" "อะไรนะ" "ถ้าลดฐานะของมหาดเล็กลง อีกทั้งปรับเบี้ยหวัด
จนมีใครรู้เข้า ปีหน้าจะไม่มีใครเข้าวังมาเป็นขันทีอีก จากนั้นคนที่อยู่ในวัง
ก็จะอยู่ภายใต้การอารักขาของทหารและเหล่าขุนนางทั้งหลาย ซึ่งถ้าเป็นอย่างงั้นจริง
ความเคลื่อนไหวของทุกพระองค์ก็จะขึ้นอยู่กับเหล่าขุนนาง ให้พวกเขาบงการ
ไม่อาจทำอะไรได้อย่างอิสระอีก" "ถ้าเป็นอย่างงั้นเพื่อแลกกับความมีวินัย
มันก็ไม่เสียหายไม่ใช่หรือ ไม่ว่าท่านจะอธิบายยังไงก็ตาม ข้าก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ
ท่านจงออกไปซะดีกว่า" "พระพันปี ภาษิตว่า น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ทรงอย่าลืมซะล่ะ"
โชชิคยอมเรียกชองฮันซูมาสอบถามว่า "เรื่องคุณไสยของพระพันปี
รวมถึงสนมชองที่ทรงแท้งแล้วมีการสืบสวน ได้ความคืบหน้าบ้างมั้ย"
"จนป่านนี้ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด ที่จะเอาผิดใครได้น่ะครับ แต่ว่า ดูเหมือนพระพันปี
จะทรงสงสัยพระมเหสีมากที่สุด" "แล้วเจ้าเห็นว่ายังไง คิดว่า
น่าจะเป็นอย่างงั้นหรือเปล่า" "ดูจากรูปการณ์
เหมือนหลักฐานส่วนใหญ่จะบ่งชี้ไปที่พระมเหสีหมด จนน่าสงสัยน่ะครับ"
"ถ้าหลักฐานส่วนใหญ่ไปในทิศทางเดียวก็อาจเป็นได้ว่า มีคนคิดให้ร้ายพระมเหสี
แล้ววางแผนสร้างสถานการณ์ให้หลงเชื่อ เจ้าต้องสืบให้แน่ชัด
จนกว่าจะได้ตัวผู้บงการล่ะ" "เอ่อ ครับ ข้าจะทำตามคำสั่ง"
โอซังกุงเรียกคิมชูซอนมาพบที่บ้าน คิมชูซอนถามว่ามีเรื่องอะไรจะพูดกับเขา "หึ หึ
เอานี่ไป เป็นชุดที่ข้าตัดให้เจ้า" "หึ นายหญิง ทำไมอยู่ดีๆ
ให้ของมีค่าขนาดนี้ล่ะครับ" "ข้าจะขอพูดตรงๆ กับเจ้าดีกว่า ข้า
ตัดสินใจรับไมตรีจากไต้เท้าโช ยอมอยู่กินกับเขาแล้ว" "อะไรนะครับ"
"เมื่อข้าตัดสินใจฝากชีวิตไว้กับเขา ก็เท่ากับเจ้าเป็นลูกข้าอีกคนเหมือนกัน
ต่อไปจงเรียกข้าว่าแม่ และข้า ก็จะรักเจ้าเหมือนเป็นลูกแท้ๆ ทำไมเจ้า
ทำหน้าเหมือนไม่พอใจล่ะ หรือไม่เต็มใจเป็นลูกข้า รังเกียจข้าหรือไง"
"ข้ารู้ว่าท่านดีต่อข้ามาตลอดและเราก็ถูกชะตากัน
แต่ว่าท่านพ่อมีภรรยาที่อยู่กินมานานแล้ว ซึ่งฮูหยินคนนี้ ก็คือแม่บุญธรรมของข้า
หนำซ้ำข้ายังมี แม่เลี้ยงที่เลี้ยงดูมาแต่เล็กอีกคน เพราะฉะนั้น ข้าจึงไม่อยาก
ให้ท่านปลงใจกับท่านพ่อ เพื่อมาเป็นแม่ข้าอีกคน" "ชูซอน" "ทุกวันนี้พระมเหสี
ก็ทรงอยู่อย่างหวานอมขมกลืนที่ฝ่าบาทได้ใหม่แล้วลืมเก่า ข้าจึงเห็นว่า
ผู้ชายไม่ว่ามีเหตุผลอะไรก็ตาม ก็ไม่ควรทำเรื่องนอกใจภรรยา หรือมีอนุฯ
ให้นางเสียใจอีก หึ หมดเรื่องแล้ว ถ้าไงข้าขอตัวก่อน"
ด้านวอฮาก็พูดต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดรับรู้
ข้าเป็นคนบาปที่พรากแม่พรากลูก ถ้าเวรกรรมมีจริงก็ให้ลงที่ข้าคนเดียวเถอะ ต่อให้ข้า
ตกนรกหมกไหม้ยังไงก็ตาม ข้าก็ยินดีชดใช้หนี้กรรมทุกอย่าง แต่ว่าชอนตงกับโอซังกุง
ไม่รู้อะไรด้วยเลย โปรดคุ้มครองให้พวกเขาจงมีอนาคตที่ดีด้วยเถอะ"
พระอัยยิกาจองฮีทรงทราบว่าพระพันปียินซูมีความประสงค์จะยุบกรมมหาดเล็ก
ทรงต่อว่าการทำเช่นนั้นเป็นการตัดแขนตัดขาตัวเอง
และบอกว่าไม่ควรยุบกรมมหาดเล็กเป็นอันขาด คิมชูซอน ไปหาซอยอง คิมชูซอนกล่าวโทษซอยอง
แต่ซอยองกลับแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง จากนั้น คิมชูซอนก็ไปเข้าเฝ้าพระมเหสีโซฮวา
และทูลว่าชองฮันซูเกี่ยวข้องกับการปองร้ายพระนาง พระมเหสีโซฮวาทรงกริ้วมาก
โชชิคอยมเข้ามาพบกับออลูตง "ต้องให้มาอยู่ในที่ๆ คับแคบ ขออภัยด้วยนะ"
"ทำไมท่านต้องช่วยข้ามานี่ด้วย" "เป็นรับสั่งของฝ่าบาท" "แล้วตอนนี้
ท่านจะทำไงกับข้าต่อไป" "ตอนนี้มีทหารเที่ยวตามหาเจ้าแทบจะพลิกแผ่นดิน
เจ้าอาจต้องอยู่นี่ซักพัก จนกว่าเรื่องจะซาลง แล้วค่อยไปจากเมืองหลวง ไปอยู่ในที่ๆ
ไม่มีใครรู้จัก ไม่งั้นละก้อ" "ไม่อย่างงั้น อาจต้องฆ่าข้าปิดปาก โดยไม่ให้ใครรู้
ข้านึกว่าแค่ไปจากเมืองหลวง นับแต่นี้ฝ่าบาทคงจะหลุดพ้นจากปัญหาทั้งปวง
ที่ไหนได้ยังถูกจับกลับมา ให้พัวพันกับการชิงอำนาจอีก คิดแล้วก็ช่างน่าขำนัก
ผู้ชายมีสิทธิ์ มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงเป็นร้อยเป็นพัน โดยไม่ถูกหาว่าทำผิด
แล้วทำไมผู้หญิง แค่รักชายคนหนึ่งเท่านั้น กลับถูกหาว่าทำผิดจารีต
เป็นหญิงแพศยาไร้ยางอาย ข้าไม่น่าเกิดในบ้านเมืองที่ล้าหลังขนาดนี้
มีแต่พวกหัวโบราณทั้งนั้น ท่านจะให้ข้าทำไงต่อไป" "ฝ่าบาทเคยรับสั่ง
ให้ข้าละเว้นชีวิตเจ้า แม้จะไม่ใช่พระบัญชา แต่ก็ทรงวิงวอน ข้าเชื่อว่าเจ้า
คงไม่มีวันเปิดเผย เรื่องระหว่างเจ้ากับฝ่าบาทอยู่แล้ว
แต่ว่าตราบใดที่เจ้ายังมีตัวตนอยู่ บัลลังก์ของฝ่าบาทก็จะไม่มั่นคงซะที
ถ้าเจ้าโกรธแค้นโชคชะตาที่ทำให้เกิดเป็นผู้หญิงโชซอน งั้นอนาคตเจ้า
ก็จงตัดสินเองเถอะ ข้าจะให้เกียรติ ในการเลือกของเจ้า"
หลังจากที่พระมเหสียุนโซฮวาทรงใคร่ครวญแล้ว พระนางก็ตัดสินพระทัยเรียกชองฮันซูมาพบ
"หัวหน้าชอง ได้ยินว่าท่านรับคำสั่งพระพันปี
ให้ทำการสืบสวนเรื่องสนมชองแท้งลูกใช่ไหม" "ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ"
"ยาพิษที่นางได้รับโดยไม่รู้ตัวนั้น เห็นบอกว่า
เป็นชนิดเดียวกับที่หลายปีก่อนเคยปองร้ายองค์ชายน้อยด้วย"
"หม่อมฉันก็คิดอย่างงั้นพ่ะย่ะค่ะ" "หึ แต่สมัยนั้น
ข้าถูกมองว่าวางยาลูกตัวเองเพื่อหวังตำแหน่งพระมเหสี
พอเที่ยวนี้สนมชองถูกพิษจนแท้งลูกอีก
มิกลายเป็นว่าข้าคือผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งหรอกหรือ หัวหน้าชอง
มีเหตุผลอะไรถึงได้มากล่าวหาข้าขนาดนี้"
"หม่อมฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพระมเหสีให้มาเฝ้า แถมยังรับสั่งเรื่องพวกนี้อีก"
"เห็นบอกว่าท่านก็มีส่วนพัวพัน กับการวางยาสนมชอง แล้วเพราะอะไร
กลับนำหน้ามาไต่สวนคดีนี้ซะเอง" "ถึงหม่อมฉันจะไม่รู้ว่า
พระมเหสีทรงไปฟังใครพูดอะไรมา จนมาสงสัยหม่อมฉัน แต่ในฐานะหัวหน้ามหาดเล็กตรวจการณ์
หม่อมฉันจะไต่สวนคดีนี้อย่างเป็นธรรม ไม่เคยคิดใส่ร้ายพระมเหสีแม้แต่น้อย" "หึ
แม้จะเป็นหัวหน้ามหาดเล็กตรวจการณ์ แต่เมื่อต้องสงสัยว่ามีส่วนพัวพันกับคดีนี้
ตามหลักท่านก็ไม่มีสิทธิ์มาไต่สวนอีก ถ้าให้ดี ถอนตัวจากเรื่องนี้ซะดีกว่า"
"หม่อมฉันทำตามไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ" "อะไรนะ" "ถ้าพระมเหสี
ไม่อาจชี้ชัดว่าใครเป็นคนกล่าวหาว่าหม่อมฉัน
และไม่มีหลักฐานว่าหม่อมฉันมีส่วนรู้เห็น ต่อให้เป็นรับสั่งของพระมเหสี
หม่อมฉันก็ทำตามไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ" โบดึ๊กเข้ามา "ทูลพระมเหสี
พระอัยยิการับสั่งให้เข้าเฝ้าด่วนเพคะ" "มหาดเล็กชอง ถ้าถือว่ามีพระพันปีให้ท้าย
คิดปองร้ายคนอื่นส่งเดชละก้อ ข้าจะไม่ให้อภัย จงจำไว้ด้วยล่ะ"
"หม่อมฉันจะจับตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ ขอพระมเหสีทรงวางพระทัย"
พระอัยยิกาจองฮีทรงเรียกพระพันปียินซูและพระมเหสียุนโซฮวามาให้ปรับความเข้าใจ
รอมชอมซึ่งกันและกัน ทั้งสองต่างรับปาก
แต่พอเสด็จออกมาพระพันปียินซูทราบจากชองฮันซูว่าถูกพระมเหสียุนโซฮวาเรียกตัวไปข่มขู่ให้ถอนตัวจากการสืบหาคนผิด
ทำให้พระพันปียินซูทรงกริ้วมาก และบอกว่าจะสนับสนุนเองให้เขาสืบหาความจริงต่อไป
จากนั้นพระพันปียินซูทรงเรียกพระมเหสียุนโซฮวามาเฝ้าและตรัสว่า
ที่พระมเหสียุนโซฮวาไม่อยากให้ชองฮันซูสืบเพราะร้อนตัวที่พระนางตกเป็นที่สงสัย
พระมเหสียุนโซฮวาไม่เข้าใจ "หึ รู้มั้ยว่านี่คืออะไร ตอนอดีตมเหสีคยองเฮ ยังอยู่
เคยมีของสิ่งนี้ปรากฎเพื่อสาปแช่งนาง แล้วตอนนี้ก็มาแช่งข้าอีก
โดยปักอยู่บนเสาหน้าตำหนักของข้า สมัยก่อน ข้าไม่อยากสืบสาวราวเรื่องให้มากความ
แต่ไม่นึกว่าวันนี้ มันจะโผล่มาให้เห็นอีก เจ้ารู้มั้ยว่า
มันมาจากไหนและมีจุดประสงค์เพื่ออะไร" "หม่อมฉัน ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือเดี๋ยวนี้
ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย" "สมัยก่อนตุ๊กตาคุณไสยแบบนี้ถูกค้นพบที่ตำหนักของเจ้า
ยังจำได้หรือเปล่า" "พระพันปีเพคะ นี่แปลว่าพระนาง ทรงสงสัยหม่อมฉันงั้นหรือ"
"ข้าย่อมหวังว่าเรื่องต่ำทรามเหล่านี้จะไม่เกี่ยวกับเจ้า แต่ว่า
ดูจากรูปการณ์เหมือนทุกอย่างจะบ่งชี้ไปที่เจ้า แล้วจะให้ทำยังไง" "พระพันปีเพคะ
หม่อมฉัน" "ข้าเชื่อว่าคนที่ทำตุ๊กตาแบบนี้ และที่ทำให้สนมชองแท้งลูก
น่าจะเป็นฝีมือคนๆ เดียวกัน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายๆ อย่างเมื่อก่อนอีก
ข้าจะสืบให้รู้ว่าใครกล้าบังอาจ เอาของอัปมงคลแบบนี้เข้าวังมา
และมีจุดประสงค์อะไรถึงมาล่วงเกินข้า,ยังไงก็ต้องสืบให้รู้ถึงเบื้องหลัง
เพราะฉะนั้นเจ้า จงอย่าทำอะไรที่เป็นการก้าวก่ายจนกว่าคดีนี้จะคลี่คลายเรียบร้อย
ถ้ามีใครมาบอกว่า เจ้ายังให้มหาดเล็กคิม ไปสืบเรื่องนี้อย่างลับๆ อีก
ข้าจะลงโทษทั้งเจ้าและมหาดเล็กคิมด้วย สิ่งที่ข้าพูดมาทั้งหมด
เจ้าจงจำไว้และอย่าคิดขัดคำสั่งล่ะ" โตชิไม่สบายมาก เขาตัดสินใจออกไปอยู่ที่อื่น
วอฮาตามหาจนพบและอ้อนวอนให้เขากลับไปด้วยกัน แต่โตชิกลับไล่นางกลับไป
เพราะไม่อยากเป็นภาระของนาง "คำพูดนี้พูดออกมาได้ยังไง
ถ้าตอนนี้ข้าเป็นฝ่ายป่วยหนักบ้าง เจ้าจะทิ้งข้าได้หรือเปล่า ที่แล้วมา
เจ้าคอยอยู่เคียงข้างข้ามาตลอด ถ้าไม่มีเจ้าแล้ว ข้าจะอยู่ต่อได้ยังไง
ถึงต่อไปต้องดูแลเจ้าในยามเจ็บป่วย แต่ขอเพียงได้เห็นหน้า ข้าก็พอใจแล้ว ฮือ
ได้โปรด อย่าทิ้งข้าไปไหนได้ไหม ฮือ" โตชิเห็นวอฮาร้องไห้อย่างมากก็ใจอ่อนกับนาง
โชชิคยอมตัดสินใจมาพบใต้เท้าซังตัง "ใต้เท้าโช ตัดสินใจแน่แล้วใช่ไหม"
"ใต้เท้าซังตัง สมัยก่อน เนื่องจากอดีตพระราชาทรงบีบคั้นเราหนัก
และเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของการเป็นมหาดเล็ก เราจึงร่วมก่อการ
หวังว่าท่านคงไม่ลืมหรอกนะ" "เรื่องนี้เราสองคน ช่วยกันวางแผนจนบรรลุเป้าหมาย
ข้าจะลืมได้ก็แปลกล่ะ" "ถ้าตอนนี้ท่านจะยุยงเหล่าขุนนาง
ให้มาเล่นงานกรมมหาดเล็กของเรา ข้าคง ยอมแลกด้วยชีวิต
เพื่อจะสู้กับท่านให้ถึงที่สุด" "หึ ถ้าทำอย่างงั้น เราอาจพินาศทั้งสองฝ่าย
ซึ่งถือว่าไม่คุ้ม น่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้หรือเปล่า" "ใต้เท้า
ให้ขุนนางเลิกถวายฎีกาได้ไหมล่ะ อย่างน้อยก็ช่วยยับยั้ง ไม่ให้ขุนนางกับมหาดเล็ก
เกิดความบาดหมางโดยไม่จำเป็น" "มอบตัวออลูตงให้ข้าสิ ถ้าได้ตามนี้
ข้าจะให้เหล่าขุนนางยุติข้อเรียกร้อง ที่ให้ยุบกรมมหาดเล็กซะ"
"ถ้าท่านยอมให้สัญญากับข้าข้อหนึ่ง ข้าจะมอบตัวนาง ให้ท่านทันที" "สัญญาอะไร"
"อย่าให้ออลูตง มีส่วนเกี่ยวพันถึงฝ่าบาท ไม่ว่าด้วยกรณีไหน ที่สำคัญ
ให้ละเว้นชีวิตนาง อย่าฆ่าปิดปากเด็ดขาด ถ้าท่านรับปากตามนี้ได้ ออลูตง
ก็จะเป็นของใต้เท้าทันที" "ข้าให้สัญญาได้" "ขอบคุณใต้เท้ามาก" "แต่ว่า
ท่านก็ต้องรับปากเรื่องหนึ่งเหมือนกัน" "เชิญพูดมาได้เลย"
"ข้าอยากถอดถอนมเหสีองค์นี้ เปลี่ยนเป็นคนใหม่" "ใต้เท้า
ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าไงน่ะ" "คงไม่คิดว่าแค่ผู้หญิงคนนี้ จะเป็นข้อแลกเปลี่ยน
ไม่ให้เราสั่งยุบกรมมหาดเล็กได้หรอกนะ สมัยก่อน เพื่อรักษากรมมหาดเล็กไว้
เราเปลี่ยนพระราชายังทำได้ แล้วตอนนี้เพื่อกรมมหาดเล็ก แค่เปลี่ยนตัวพระมเหสี
จะเป็นไรนักหนาเชียว ว่าไงจะยอมรับปากหรือเปล่า" โชชิคยอมยอมตกลงด้วย
เขากลับไปบอกให้กึมพยอปล่อยตัวออลูตง แล้วนางก็ถูกทหารจของกรมอาญาจับตัวไป
คิมชูซอนรู้ก็รีบมาทูลพระเจ้าซองจง ทำให้พระองค์จะไปหาออลูตงทันที
แต่คิมชูซอนห้ามไว้ ทำให้พระองค์เสียใจที่ปกป้องคนรักไม่ได้
พระพันปียินซูเสด็จไปที่เรือนจำเพื่อขอพบกับออลูตง
มีใต้เท้าซังตังคอยเฝ้าอยู่ด้านหน้า "ไม่ว่าข้าจะถามอะไร เจ้าต้องตอบตามความจริง
ห้ามโกหกแม้แต่น้อยล่ะ" "เชิญรับสั่งถามมาได้" "เจ้ากับฝ่าบาท
เคยมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวเป็นความจริงหรือเปล่า" "เป็นไปไม่ได้หรอกเพคะ
ฝ่าบาทเป็นผู้สูงศักดิ์ จะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงต่ำต้อย
ไร้ค่าอย่างหม่อมฉันได้ยังไง หึ คนที่หม่อมฉันมีความรักให้ และเคยมีอะไรกับเขานั้น
คือคุณชายลีต่างหาก หม่อมฉัน เคยแต่ปรนนิบัติคุณชายลีคนเดียว ส่วนฝ่าบาทนั้น
หม่อมฉันไม่เคยเห็นแม้แต่พระพักตร์ด้วยซ้ำ" "ที่พูดนี่ เป็นความจริงหรือเปล่า"
"ต่อหน้าพระพันปี หม่อมฉันไม่กล้าทูลความเท็จหรอกเพคะ" "แต่ว่า
เจ้าเป็นภรรยาเชื้อพระวงศ์แท้ๆ ทำไมถึงไม่รักเกียรติของตัวเอง
ไปเกลือกกลั้วกับผู้ชายมากหน้าหลายตาล่ะ"
"หม่อมฉันเคยเป็นภรรยาของเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง มีตำแหน่งเป็นถึงเฮยิน
และถือเป็นสมาชิกในราชวงศ์ ย่อมมีความภูมิใจในยศศักดิ์เหมือนกับคนอื่นๆ
แต่เพราะหม่อมฉันถูกสามีหาว่าคบชู้สู่ชาย รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
จึงอยากแก้แค้นทุกคนให้หมด แม้ว่าหม่อมฉัน จะถูกประณามว่าเป็นหญิงแพศยา
ทำให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสีย แต่อย่างน้อย หม่อมฉันก็ได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า
ผ่านทั้งความทุกข์และความสุข ถือว่าไม่มีอะไรต้องเสียดายอีก ได้ยินว่าพระพันปี
ทรงตกพุ่มม่ายตั้งแต่ยังสาว เลี้ยงดูโอรสสององค์ด้วยความเหนื่อยยาก
ทรงยึดมั่นในจารีต เข้มงวดกับพระองค์เองและคนรอบข้าง ไม่รู้สึกเหนื่อยบ้างหรือเพคะ"
พระพันปียินซูฟังแล้วก็ทรงกริ้ว "อะไรนะ เจ้าช่างเป็นผู้หญิงที่โอหังจริงๆ
นี่กล้าลามปามมาถึงข้าเชียวหรือ" "หามิได้เพคะ หม่อมฉันเพียงแต่
ระบายความในใจให้พระพันปีได้ทรงรับรู้เท่านั้น ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด"
"ถ้าเจ้าไม่อยากให้ใครประณาม ก็ควรฆ่าตัวตายซะ ก่อนจะถูกผู้ชายคนไหนกระทำการย่ำยี
ซึ่งหากเป็นอย่างงั้น เจ้าก็จะปกป้องเกียรติของวงศ์ตระกูล
รวมทั้งชื่อเสียงของสามีไว้ได้ แต่ว่า สิ่งที่เจ้าทำกลับตรงข้าม
มีแต่ให้คนอื่นมองว่า เจ้าช่างเต็มไปด้วยกิเลสอันน่ารังเกียจ"
คิมชูซอนเองก็มาหาออลูตงที่เรือนจำเช่นกัน และถามนางว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้
"คนที่หวังจะให้ข้าตาย ยังไงก็ต้องหาวิธีจับกลับมาอีก ต่อให้ออกจากเมืองหลวงไป
ก็ไม่มีประโยชน์ ข้าเลยกลับมาเองให้หมดเรื่องหมดราวดีกว่า มหาดเล็กคิม
เรื่องที่เคยรับปากข้าคราวก่อน ยังจำได้ไหม ไม่ว่าข้าจะอยู่ในสภาพลำบากขนาดไหน
ขอเพียงเอ่ยปาก เจ้าจะให้ข้าได้พบฝ่าบาท เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะอำลา ชั่วชีวิตข้า
มีแต่ทำในสิ่งที่ตัวเองพอใจ ต่อให้พรุ่งนี้เช้าถูกประหาร
ข้าก็ไม่รู้สึกเสียดายซักนิด แต่ว่า หึ ข้าแค่อยากพบฝ่าบาท เป็นครั้งสุดท้ายก็พอ
ฮือ ได้โปรด ให้ข้าสมหวังซักครั้งเถอะนะ"
คิมชูซอนรีบไปเฝ้าพระเจ้าซองจงและบอกว่าจะพาเสด็จไปหาออลูตง
พระเจ้าซองจงดีพระทัยมาก "ข้า นึกว่าชาตินี้ จะไม่มีโอกาสได้เห็นเจ้าอีกแล้ว"
ทั้งสองกอดกันด้วยความรักความคิดถึง "ฮือ ข้าให้สัญญา ไม่ว่ายังไง
จะช่วยเจ้าออกมาให้ได้" "ฮือ หม่อมฉัน มีโอกาสได้พบฝ่าบาทอีกครั้งก่อนตาย
แค่นี้ก็พอใจมากแล้วเพคะ" ทั้งสองพากันร้องไห้
เวลาเดียวกันชองฮันซูก็รีบไปส่งข่าวบอกพระมเหสียุนโซฮวาว่าคิมชูซอนพาพระเจ้าซองจงไปพบออลูตง
"ชูซอนน่ะหรือ เฮ่อ แล้วทำไมท่าน ต้องมาบอกให้ข้ารู้เกี่ยวกับเรื่องของฝ่าบาท"
"หม่อมฉันหวังจะให้พระมเหสี ทรงเข้าพระทัยในสิ่งที่หม่อมฉันทำให้ถูกต้องกว่าเดิม
จึงมาทูลให้ทรงทราบพ่ะย่ะค่ะ" "มหาดเล็กชอง
ท่านสามารถพาข้าไปที่เรือนจำได้หรือเปล่า"

จบ 43

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn


Related Posts



2 comments:

Anonymous said...

เอาตอนใหม่ลงอีกเร็วๆนะชอบอ่านมาก อยยากอ่านตอนใหม่เร็วๆจัง มาอัพวันไหน เวลาไหนได้มาอ่านก่อนใคร

Anonymous said...

โห มันส์มากค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะที่เอามาให้อ่าน ยังรอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อค่ะ...ขอบคุณค่ะ

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal