Thursday, September 18, 2008

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ - คิมชูซอน (42)

คิมชูซอน 42

พระพันปียินซูทรงกริ้วพระมเหสีโซฮวายิ่งนักที่ทำให้พระพักตร์พระเจ้าซองจงเป็นแผล
พระมเหสีโซฮวาทูลพระพันปียินซูว่า "หม่อมฉัน
เพียงแต่ไม่ทันระวังเอามือไปปัดถูกพระพักตร์ ขณะกำลังทูลด้วยความหวังดี
ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ขออย่าทรงเข้าพระทัยผิดเพคะ"
"แปลว่าขอเพียงเจ้าไม่ตั้งใจซะอย่าง
ก็สามารถล่วงเกินฝ่าบาทยังไงก็ได้ตามใจชอบงั้นหรือ รีบไปที่ตำหนักใหญ่เดี๋ยวนี้
แล้วคุกเข่าต่อหน้าตำหนักเพื่อขอให้ฝ่าบาทยกโทษซะ ได้ยินมั้ย" "หม่อมฉัน
ทำตามรับสั่งไม่ได้เพคะ" "อะไรนะ ไหนลองพูดชัดๆ ให้ข้าฟังอีกทีซิ" "พระพันปีเพคะ
ทำไมไม่ทรงถามก่อนว่า คืนนั้นได้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
กลับเอาแต่ตำหนิที่หม่อมฉันทำร้ายพระพักตร์ของฝ่าบาทล่ะเพคะ" "นี่เจ้าพูดอะไรนะ"
"ถ้าตอนนี้หม่อมฉันไปคุกเข่า ก็เท่ากับยอมรับว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด
แล้วฝ่าบาทจะไม่มีวันสำนึกว่า พระองค์ได้ทรงทำอะไรที่ผิดต่อหม่อมฉันบ้างเพคะ"



"ชุงจอน นี่เจ้ากำลังตำหนิความผิดของฝ่าบาทงั้นหรือ" "หม่อมฉัน
เห็นว่าใครก็ตามที่ทำผิด สมควรที่จะยอมรับ
และหน้าที่ของหม่อมฉันก็คือช่วยให้ฝ่าบาทได้แก้ไขข้อบกพร่องเพคะ"
"แต่ข้าว่าหน้าที่ของเจ้า คือการสำรวมกิริยาและปกปิดความผิดของฝ่าบาท
แทนที่จะเอะอะโวยวายตำหนิข้อผิดพลาดของสามีตัวเอง แถมยังให้เหล่าสนมมากดดัน
จากนั้นเจ้าก็ตบตีพระองค์ นี่คือสิ่งที่ภรรยาควรทำงั้นหรือ"
"หม่อมฉันเห็นว่าพระพันปีรับผิดสั่งผิดไปแล้วเพคะ หม่อมฉันมีแต่ความหวังดี
ไม่เคยหึงหวงฝ่าบาทเลยซักนิด จริงอยู่ที่ว่าหม่อมฉัน
เคยตำหนิฝ่าบาทต่อหน้าธารกำนัลโดยไม่ยำเกรง หรือแม้แต่
หม่อมฉันเคยออกนอกวังโดยไม่ขออนุญาต ซ้ำยังให้คนนอกเข้ามาส่งเดช
ซึ่งถือว่าผิดกฎของราชสำนักอย่างแรง แต่ว่า สิ่งที่หม่อมฉันทำ
ก็เพื่อปกป้องพระเกียรติของฝ่าบาท รวมทั้งรักษาความมีหน้ามีตาของราชสำนักไว้เพคะ"
"หมายความว่าที่เจ้าทำผิดกฎเกณฑ์ กลับกลายเป็นความหวังดีต่อราชสำนักงั้นหรือ"
"หม่อมฉันเห็นว่า กฎต่างๆ ที่มีในราชสำนักนั้น
กำหนดขึ้นเพื่อรักษาความมีเสถียรภาพของบ้านเมือง ไม่ใช่เพื่อรักษาหน้าตา
ของเชื้อพระวงศ์ทั้งหลาย เมื่อมีการทำผิดเพคะ" "เฮ่อๆๆ
ข้าเพิ่งรู้สึกว่าเจ้านับวันจะยิ่งปีกกล้าขาแข็งมากขึ้น
นี่แปลว่าสิ่งที่เจ้าทำล้วนเห็นแก่บ้านเมืองทั้งนั้น ไม่ต้องให้แม่สามีอย่างข้า
คอยจ้ำจี้จำไชอีกแล้วใช่ไหมชุงจอน" "พระพันปีเพคะ ตั้งแต่หม่อมฉันอยู่ในตำแหน่งนี้
ก็เคร่งครัดกฎเกณฑ์ ไม่เคยทำอะไรผิด เพราะฉะนั้น อนาคตก็จะเป็นเช่นนี้ต่อไป
รักษาระเบียบวินัยไม่ให้มีความบกพร่อง" "หึ ชุงจอน เจ้าหึงหวงฝ่าบาทจนก้าวร้าว
แสดงความหยิ่งยะโสต่อแม่สามีอย่างข้า ต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์อีกแล้ว
เพราะเจ้าไม่คู่ควร จะอยู่ในตำแหน่งพระมเหสีอีกเข้าใจมั้ย" "หม่อมฉัน
กล้าสาบานว่าไม่เคยทำสิ่งที่ผิดต่อสวรรค์หรือแม้แต่ฝ่าบาท ถ้าจะถูกถอดจากตำแหน่ง
หม่อมฉันก็ไม่กลัวหรอกเพคะ หึ หม่อมฉันเชื่อว่าพระพันปี
คงเข้าพระทัยเจตนารมณ์ของหม่อมฉันดีแล้ว ขอทูลลาเพคะ" "เฮ่อ
เมื่อก่อนนึกว่านิสัยของนาง แค่เถรตรงไปหน่อยเท่านั้น ที่ไหนได้
ช่างเป็นผู้หญิงที่ร้ายลึกจริงๆ ร้ายลึกนัก"
พระมเหสียุนโซฮวาเสด็จออกมาก็พบองค์ชายน้อยรออยู่ "วอนจา ทำไมมาอยู่แถวนี้ล่ะลูก"
"หม่อมฉัน ตั้งใจมารอเสด็จแม่หลังจากเข้าเฝ้าเสร็จแล้ว" "อะไรนะ หึ หึ
ดูซิทั้งมือและหน้าเย็นเฉียบไปหมด ทำไมต้องมารอแม่อยู่นี่ด้วยล่ะ"
"หม่อมฉันได้ยินว่า เสด็จย่าให้เสด็จแม่ไปเฝ้าเพื่อจะทรงตำหนิอย่างแรง"
"ไปฟังเรื่องเหลวไหลนี่มาจากไหนน่ะ เสด็จย่าแค่เข้าพระทัยผิด
หลังจากฟังแม่อธิบายก็หมดเรื่องแล้ว" องค์ชายน้อยทรงร้องไห้ "วอนจา จำไว้นะลูก
ไม่ว่ายังไงก็ห้ามโกรธเสด็จย่าเด็ดขาดเพราะนางเป็นผู้ใหญ่ เข้าใจหรือเปล่า"
"พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันจะจำรับสั่งของเสด็จแม่ไว้" "เฮ่อ เพราะแม่ไม่ดีเอง
ทำให้เจ้าเป็นห่วงจนร้องไห้ ต่อไปเพื่อเห็นแก่เจ้า แม่จะรอบคอบให้มากขึ้น
ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ ไปเถอะลูก"
พระพันปียินซูทรงกริ้วพระมเหสีโซฮวายิ่งนักที่ทำให้พระพักตร์พระเจ้าซองจงเป็นแผล
พระมเหสีโซฮวาทูลพระพันปียินซูว่าพระนางไม่ได้มีเจตนาทำร้ายพระเจ้าซองจง
คิมชูซอนทูลพระเจ้าซองจง
ด้วยความจริงใจว่าพระองค์ควรตัดขาดความสัมพันธ์กับวีตงได้แล้ว
นานวันเข้าจะทำให้ความสัมพันธ์ของพระองค์กับพระมเหสีโซฮวาร้าวฉาน จากนั้นคิมชูซอน
ก็ไปเข้าเฝ้าพระพันปียินซู
คิมชูซอนทูลพระพันปียินซูว่าแม้ว่าตนเป็นเพียงมหาดเล็กต่ำต้อย
แต่ตนจะให้ตนนิ่งดูดายปล่อยให้พระเจ้าซองจงหลงผิดไปไม่ได้
โชชิคยอมเข้าเฝ้าพระพันปียินซูและพระเจ้าซองจง
โชชิคยอมทูลทั้งสองพระองค์ว่าปัญหาความวุ่นวายในกรมอาญาได้คลี่คลายลงไปแล้ว
จากนั้นโชชิคยอมก็ไปพบไต้เท้าซังตัง สนมชองแท้งลูก
พระมเหสีโซฮวาทรงเสด็จไปหาคิมชูซอน พระนางทรงมีรับสั่งกับคิมชูซอน
ว่ามีคนใช้เรื่องของสนมชอง ให้ร้ายพระนาง คิมชูซอน
ได้ยินเช่นนั้นก็เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะดำเนินการเสียที
พระพันปียินซูทรงเรียกคิมชูซอนเข้ามาต่อว่าและสั่งห้ามไม่ให้ทำหน้าที่เกินกว่ามหาดเล็ก
ไม่เช่นนั้นจะเอาเรื่องเขาและพระมเหสียุนโซฮวา
พระพันปียินซูทรงเชิญใต้เท้าซังตังมาพบ และบอกว่าอยากปฏิรูปกรมมหาดเล็ก
โดยให้ลดจำนวนคนและไม่ให้ทำงานซ้ำซ้อน ห้ามก้าวก่ายการทำงานของพระเจ้าซองจง
ใต้เท้าซังตังเห็นด้วยและยินดีช่วยเต็มที่
โชชิคยอมรู้เรื่องก็รีบเข้าเฝ้าพระพันปียินซู ทูลขอให้ยกเลิก "อะไรกันนี่
ข้าเคยนึกว่าใเท้าโชเป็นคนมองการณ์ไกลซะอีก ที่ไหนได้ กลับมาขอให้ข้าเปลี่ยนความคิด
แทนที่จะมองเห็นความเสื่อมถอยในหน่วยงานของตัวเอง พักก่อนข้าเคยบอกท่านว่า
ให้ไปกวดขันให้เด็กเคร่งครัดระเบียบวินัย
เพื่อให้กรมมหาดเล็กเป็นเหมือนเกราะคุ้มภัยสำหรับฝ่าบาทและราชสำนักไปนานๆ แต่แล้ว
ท่านรู้มั้ยว่าทุกวันนี้เป็นไงบ้าง นนางมองเห็นจุดอ่อนของฝ่าบาท
หวังใช้เป็นข้อต่อรองสั่นคลอนราชบัลลังก์ ส่วนมหาดเล็กแทนที่จะดูแลฝ่าบาทให้ดี
กลับพาไปเที่ยวข้างนอกจนฝ่าบาทเกือบมีอันตรายด้วย
แถมยังปล่อยให้คนนอกมาเข้าออกวังหลวง ซ้ำร้ายกว่านั้น
มีคนใช้ตุ๊กตามาทำคุณไสยสาปแช่งข้า อะไรมันจะชั่วร้ายขนาดนี้
ทั้งหมดนี้เพราะท่านปล่อยปละละเลยลูกน้อง
ทำให้ระเบียบหย่อนยานเสียการปกครองข้าจึงต้องออกหน้าแทน แล้วอย่างงี้
ท่านยังมีข้ออ้างให้ข้ายกเลิก การปฏิรูปอีกหรือ ใต้เท้าโช" "กรมมหาดเล็ก
เป็นกำลังสำคัญของราชสำนัก ถ้าจะทรงถอดถอนพวกเรา อีกหน่อยราชสำนัก
ก็จะตกอยู่ใต้อำนาจเหล่าขุนนางอย่างไม่ต้องสงสัย" "การทำให้ฝ่าบาทมีอันตราย
และก่อความวุ่นวายในราชสำนักไม่หยุดหย่อน เป็นความบกพร่องของมหาดเล็กจริง
ข้าก็คงจำเป็นต้องร่วมมือกับขุนนางทำอะไรซักอย่าง" "ถ้าพระพันปีทรงคิดว่า
นี่เป็นการตัดสินพระทัยที่ถูก หม่อมฉัน ก็คงต้องคัดค้าน เรื่องนี้ให้ถึงที่สุด"
"ว่าไงนะ นี่แปลว่าใต้เท้าโช กล้าท้าทายอำนาจของข้าอย่างงั้นหรือ" "หม่อมฉัน
ไม่อาจทนเห็นกรมมหาดเล็ก ต้องมาพินาศต่อหน้า โดยที่ตัวเองไม่ทำอะไรเลย
จึงขอทูลให้ทรงทราบไว้" "ไม่งั้นท่านจะแก้ปัญหายังไง" "หม่อมฉันจะขอรับผิดชอบ
ข่าวลือต่างๆ ที่เกิดในราชสำนัก ว่าสาเหตุเกิดจากที่ไหนกันแน่
หากสืบได้ว่าเป็นความผิดของมหาดเล็กจริง หม่อมฉันจะจับคนๆ นั้น
มาให้พระพันปีทรงลงอาญา หรือแม้แต่ ตัดเบี้ยเลี้ยงก็ยินดี ขอให้ทรงเชื่อหม่อมฉัน
และให้เวลาซักนิดก็พอ" "หึ คำพูดของท่าน ข้าจะเชื่อได้หรือเปล่า"
"หากไม่สามารถทำตามคำพูด นอกจากให้ปฏิรูปใหม่แล้ว หม่อมฉันยังขอถวายชีวิต
สุดแต่พระพันปีจะจัดการ" โชชิคยอมเข้าเฝ้าพระเจ้าซองจง
ทรงดีพระทัยที่โชชิคยอมกลับมาทำงาน
แต่โชชิคยอมกลับขอให้พระเจ้าซองจงรับปากเรื่องหนึ่งก่อน พระเจ้าซองจงบอกให้ว่ามา
"เรื่องออลูตง สมควรจะให้จบลงแบบไหน ขอให้หม่อมฉัน เป็นผู้พิจารณาได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ"
พระเจ้าซองจงตกพระทัย "อะไรนะ" "ทุกวันนี้ ต้นเหตุแห่งความวุ่นวายในราชสำนัก
รวมถึงข่าวลือร้อยแปดพันเก้านั้น ล้วนเกิดจากฝ่าบาท
ไปผูกสัมพันธ์กับออลูตงจนบานปลายขึ้นมา หากจะให้เรื่องราวยุติ และให้ฝ่าบาท
เลิกบาดหมางกับขุนนางทั้งหลาย ก็ขอให้เชื่อการทำงานของหม่อมฉัน
อย่าได้ทรงยุ่งเกี่ยวอีกเลย ถ้าหากว่าฝ่าบาท ยังไม่อาจตัดพระทัยจากหญิงคนนี้ได้
หม่อมฉันก็จนปัญญา ที่จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ ให้ดีกว่านี้เหมือนกัน" "งั้น
ข้าจะทำตามเงื่อนไขของท่านก็ได้ แต่ยังไงก็ตาม
ข้าอยากให้ท่านรับปากเรื่องหนึ่งเหมือนกัน" "เชิญรับสั่งมาได้"
"ละเว้นชีวิตผู้หญิงคนนี้ซักครั้ง ความผิดของนางก็แค่มีความรักต่อข้า
ข้าไม่อยากให้นางถูกปองร้าย ถ้าสามารถรับปากเรื่องนี้ได้
นอกนั้นก็แล้วแต่ท่านจะจัดการ" "หม่อมฉัน ขอถวายสัญญาพ่ะย่ะค่ะ"
โชชิคยอมสั่งให้ชองฮันซูพาตัวออลูตงกลับมาพบเขาให้ได้
พระมเหสียุนโซฮวาเชิญพระสนมทุกคนมาเลี้ยงอาหารว่าง
เป็นการขอบคุณที่ทุกคนหวังดีต่อพระนาง แต่เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
สนมชองที่ตั้งครรภ์อยู่เกิดอาการเจ็บท้องอย่างมากต้องรีบตามหมอ
พระอัยยิกาจองฮีกับพระพันปียินซูเสด็จมาดูสนมชอง และทราบว่าแท้งก็พากันเสียใจ
พระพันปียินซูให้ชองฮันซูสืบว่าเป็นเพราะเหตุใดกันแน่
ชองฮันซูรู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของฮุงบี ชองฮันซูมาคาดคั้นฮุงบี
นางยอมรับว่าซอยองสั่งให้ทำ ไม่เช่นนั้นญาติพี่น้องของนางจะเป็นอันตราย
ชองฮันซูสั่งให้ฮุงบีปิดเป็นความลับ
ชองฮันซูไปสอบถามยางซองยุนว่าเป็นการวางยาจริงหรือไม่ ยางซองยุนตอบว่าใช่
คิมชูซอนได้ยินก็รีบไปทูลเตือนพระมเหสียุนโซฮวาให้ระวังพระองค์
แต่พระมเหสียุนโซฮวาคิดว่าที่เหตุการณ์เป็นแบบนี้เพราะคนคนนั้นต้องการใส่ร้ายพระนาง
ชองฮันซูไปทูลพระพันปียินซู และมั่นใจว่าพระมเหสียุนโซฮวาน่าจะเป็นคนทำ
จากนั้นเขาก็ไปพบซอยอง ซึ่งนางบอกว่าพบตัวออลูตงแล้ว ให้รีบไปรายงานใต้เท้าซังตัง
วอฮามาพบโอซังกุงและถามว่าจำเรื่องอดีตได้บ้างหรือยัง
โอซังกุงตัดสินใจเล่าให้วอฮาฟังว่า "ถึงขั้นนี้แล้ว ข้าก็ไม่อยากปิดบังท่านอีก
เมื่อก่อนสามีของข้า เคยเป็นหัวหน้าองครักษ์ในสมัยองค์ชายโนซาน
และหวังจะช่วยพระองค์กอบกู้บัลลังก์คืนด้วย แม้ข้าอยากจะตามหาลูกที่พลัดพรากให้พบ
แต่ถ้าให้ใครรู้ว่าพ่อแม่เค้าเคยเป็นนักโทษกบฎ กลับจะทำลายอนาคตของเขามากกว่า
ข้าจึงไม่อยากเห็นแก่ตัว ทำให้เด็กที่มีอนาคตสดใส
ถูกสังคมประนามว่าเป็นลูกกบฎที่ชั่วช้า แค่นี้ถือว่าข้าได้ทำอะไรเพื่อเขาบ้าง
หลังจากไม่เคยเลี้ยงดูมาเลย ข้าคิดว่า อาจจะรับไมตรีจากไต้เท้าโช ตามที่เขาเสนอมา"
"หมายความว่าท่านกับเขา จะยอมเป็นสามีภรรยางั้นหรือคะ" "ถ้าข้ายอมลดตัวเป็นอนุฯ
ของเขา ก็เท่ากับชูซอน กลายเป็นลูกข้าโดยปริยายด้วย ข้าจะได้ดูแลเขา เหมือนลูกแท้ๆ
เป็นการชดเชย ดูเหมือนว่าข้ากับท่าน ยังไงก็ต้องเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง"
พระมเหสียุนโซฮวาเสด็จไปเยี่ยมสนมชอง แต่กลับได้ยินนางกล่าวหาว่าพระนางเป็นคนวางยา
พร้อมสาปแช่งลูกในครรภ์ของพระนาง
ทำให้พระมเหสียุนโซฮวาไม่พอพระทัยต่อว่าสนมชองอย่างรุนแรง
พระพันปียินซูทราบจากพวกซังกุงก็ทรงเรียกพระมเหสียุนโซฮวามาต่อว่า
ที่เอาเรื่องสนมชองที่กำลังเสียใจมาเป็นประเด็น จิตใจคับแคบไม่คู่ควรเป็นพระมเหสี
"หม่อมฉัน รู้สึกเสียใจที่ได้ยินพระพันปีรับสั่งแบบนี้เพคะ" พระพันปียินซูทรงอึ้ง
"อะไรนะ" "แต่ไหนแต่ไร พระพันปีมีแต่ตำหนิหม่อมฉันอยู่ร่ำไป แต่กับสนมอื่น
กลับประทานความเมตตาสงสาร แม้ทำผิดก็ทำไม่รู้ไม่เห็นซะ" "ชุงจอน
นี่แปลว่าเจ้ากำลังตำหนิแม่สามีแล้วใช่ไหม"
"หม่อมฉันแค่ทูลความจริงให้พระพันปีทรงทราบเท่านั้น
และเห็นว่าก่อนที่จะทรงเอาเรื่องหม่อมฉัน สมควรตำหนิความผิดของสนมชองด้วยเพคะ" "หึ
เจ้านี่มันร้ายจริงๆ จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยยอมรับความผิดของตัวเองซักครั้ง"
"หม่อมฉันไม่ได้ทำผิด ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องยอมรับในสิ่งที่คนอื่นกล่าวหาด้วยเพคะ"
"เจ้าแสดงความก้าวร้าวต่อข้า ไม่ได้รับความนับถือจากเหล่าสนม
แถมยังทำให้พวกนางเกลียดชัง แม้แต่ซังกุงนางในก็ไม่ถูกชะตาด้วยซักคน
ข้าคงต้องเตือนสติเจ้า ให้ทบทวนดีๆ ว่าอนาคตเจ้าจะอยู่ในวังได้ยังไง" "พระพันปีเพคะ
รับสั่งแบบนี้ หมายความว่าจะทรงขู่หม่อมฉันใช่ไหมเพคะ" "เฮอะ
คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ ไม่เคยสำนึกอะไร ต่อให้ข้าขู่ว่าจะประหารเจ้า
ข้าก็เชื่อว่าคนเก่งอย่างเจ้าไม่เคยนึกกลัวหรอก หมดเรื่องแล้วเชิญกลับไปได้
ก่อนที่จะสำนึกในความผิดที่ก่อไว้ ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก ออกไปซะ"
กิดโยสาวใช้ของออลูตงเป็นคนส่งข่าวบอกซอยอง
เพราะซอยองเคยบอกไว้ว่าถ้าเดือดร้อนให้ส่งข่าวบอกนาง นางจะช่วยเหลือ
พอออลูตงรู้ความคิดของกิดโยก็ตกใจและบอกให้รีบพากันหนี แต่ไม่ทันการณ์แล้ว
ออลูตงถูกทหารบุกเข้ามาจับตัว
แต่แล้วกึมพยอก็บุกเข้ามาชิงตัวออลูตงกับกิดโยไปได้เสียก่อน
ใต้เท้าซังตังทราบจากคนของเขาก็รู้ว่าต้องเป็นฝีมือโชชิคยอมแน่ๆ
เขาสั่งให้นายกองไปจับตาดูความเคลี่อนไหวของโชชิคยอม
คิมชูซอนไปสืบหาตัวยาแล้วนำมาให้ยางซองยุนช่วยตรวจสอบที
ยางซองยุนตรวจสอบแล้วบอกว่าน่าจะใช่ เพราะเขาเอามาทดลองกับหนู
ขณะที่พวกขุนนางพากันบุกไปหาโชชิคยอมถึงที่บ้าน และขอตรวจค้นบ้านเพื่อหาตัวออลูตง
ทั้งที่โชชิคยอมไม่ยินดี แล้วพวกนั้นก็ผิดหวังกลับไป
จากนั้นโชชิคยอมก็เดินทางไปหาใต้เท้าซังตัง "ใต้เท้าโช วันนี้นึกยังไง
มาถึงบ้านข้าได้น่ะ" "ใต้เท้าซังตัง การที่ท่านต้องการตัวออลูตง
เพื่อหวังกุมอำนาจแทนฝ่าบาทใช่ไหม" "อะไรนะ" "ถ้าท่านคิดว่า
แค่นี้ยังทะเยอทะยานไม่พออีก ไม่นานนัก ท่านเองอาจจะหมดสิ้นทุกอย่างก็ได้"
"ความหมายของท่าน คือจะขู่ข้าหรือไง" "นี่ไม่ใช่การข่มขู่ ยังมีขุนนางมากมาย
ที่มีความสัมพันธ์กับออลูตง แต่ไม่กล้าเปิดเผยเพราะกลัวจะเดือดร้อน
มีช่างคนหนึ่งชื่อจีโกบี เปิดเผยรายชื่อเหล่าขุนนาง และเชื้อพระวงส์
ที่มีความสัมพันธ์กับออลูตงให้ข้ารับรู้" "ฮึ่ม ถ้ามีขุนนางไปเกี่ยวข้องด้วยจริง
ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ว่า ถ้าท่านจะอ้างว่า
ทำเพื่อปกป้องพระเกียรติของฝ่าบาท จนพาผู้หญิงคนนั้นไปหลบซ่อนละก้อ
สุดท้ายอย่าว่าแต่ท่านเลย แม้แต่กรมมหาดเล็กก็จะถูกไต่สวนด้วย เพราะฉะนั้น
มอบตัวนางมาให้ข้าดีกว่า มีแต่วิธีนี้เท่านั้น กรมมหาดเล็กถึงจะอยู่รอดปลอดภัยได้
เพราะตอนนี้พระพันปี กำลังเตรียมจะปฏิรูปกรมมหาดเล็กใหม่ โดยไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น
จงจำไว้ด้วย"

จบ 42

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn


Related Posts



1 comments:

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับ

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal