คิมชูซอน 47
คิมชูซอนปลอบพระทัยพระมเหสีโซฮวาว่า "พระมเหสี
ทำไมยิ่งทำให้ฝ่าบาททรงกริ้วและเข้าพระทัยผิดล่ะพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้พระมเหสี
เหมือนอยู่ท่ามกลางศัตรูที่จ้องจะทำร้ายรอบด้าน มองไปก็มีแต่ความมืดมน
หาใครเป็นที่พึ่งไม่ได้ และคนที่จะสามารถช่วยพระมเหสี
ก็มีแต่ฝ่าบาทองค์เดียวเท่านั้น" "ข้าก็รู้สภาพตัวเองดี แต่ว่า
ถ้าไม่มีความรักจากฝ่าบาทซะแล้ว ข้ายังยึดติดตำแหน่งพระมเหสีไว้
จะมีความหมายอะไรอีก" "พระมเหสี ขอให้ทรงคิดถึง
องค์ชายทั้งสองพระองค์ที่ยังเยาว์วัยบ้างเถอะพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป
รีบไปขออภัยโทษจากฝ่าบาท และเอาหยกชิ้นนั้นคืนมาเร็วเข้า มีแต่วิธีนี้
ถึงจะปกป้ององค์ชายทั้งสองให้ปลอดภัยได้นะพ่ะย่ะค่ะ"
โบดึ้กถูกพระพันปียินซูถูกลงโทษ
เมื่อพระพันปีเรียกซังกุงมาสอบถามว่ามีหนูที่ตำหนักจริงหรือไม่
ทำให้โบดึ้กเปลี่ยนคำให้การ "ฮือ หม่อมฉัน เพียงแต่ จะช่วยล้างมลทินให้พระมเหสี
เลยทำตามคำแนะนำ ของหัวหน้ามหาดเล็กตรวจการณ์ ที่ชื่อชองฮันซูเพคะ ฮือ
ขอทรงเชื่อหม่อมฉันด้วย ฮือๆๆ"
พระพันปียินซูเรียกชองฮันซูมาสอบถาม ชองฮันซูปฏิเสธว่า "ไม่เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ
หม่อมฉันเป็นคนทูลพระพันปี ว่าพระมเหสีเป็นคนทำคุณไสย ซ้ำยังทำให้สนมชองทรงแท้งอีก
หลักฐานชัดเจน มิหนำซ้ำหม่อมฉัน ยังเอาชีวิตเป็นประกัน
ไปตรวจค้นที่ตำหนักกลางกว่าจะพบสารหนู แล้วจู่ๆ จะเปลี่ยนใจไปช่วยพระมเหสีได้ยังไง
หม่อมฉันเห็นว่า น่าจะเป็นเพราะโบดึ๊กต้องการช่วยพระมเหสี หาข้ออ้างไม่ได้
เลยโยนให้หม่อมฉันรับผิดแทนพ่ะย่ะค่ะ" "อึม สิ่งที่เจ้าพูดมา
รับรองว่าเป็นความจริงหรือเปล่า" "หม่อมฉันทูลความจริงทุกคำ ไม่เคยโกหกพ่ะย่ะค่ะ"
พระพันปียินซูทรงไปจัดการกับโบดึ๊กอีกครั้ง และคาดคั้นให้พูดความจริง
โบดึ๊กอึ้งบอกว่านางพูดความจริงแล้ว ทำให้ถูกทรมานอีกครั้ง
จนทนไม่ไหวบอกว่ายอมสารภาพแล้ว "ก็ได้ ขอเพียงเจ้ายอมสารภาพ ข้าจะละเว้นชีวิตทันที
บอกมาเดี๋ยวนี้ เจ้ารับคำสั่งจากใคร ให้เอาสารหนูมาเก็บในวัง พระมเหสี
เป็นคนสั่งให้ทำใช่ไหม" โบดึ๊กร่ำไห้อย่างหนัก "ยังอีก
ไหนว่าจะพูดแล้วทำไมยังเงียบล่ะ" "ฮือๆๆ เพคะ ใช่ เป็น รับสั่งของพระมเหสี ที่ให้
หม่อมฉันไปหามาเอง ฮือ เป็นรับสั่งของพระมเหสี ฮือ ให้หม่อมฉันเอาสารหนู
ไปเก็บไว้ในตำหนักเพคะ ฮือๆๆ" ดังนั้นพระพันปียินซูจึงรีบไปรายงานพระอัยยิกาจองฮี
เพื่อจะลงโทษพระมเหสียุนโซฮวา แต่พระเจ้าซองจงยังทรงเห็นว่าเป็นการกล่าวหาหรือเปล่า
"ฝ่าบาท เจ้าเคยคิดมั้ยว่าจุดประสงค์ที่นาง เก็บสารหนูไว้ เพื่อจะทำอะไรกันแน่
ตราบใดที่นางยังเป็นพระมเหสีอยู่ ทั้งเจ้าและคนอื่นๆ
พร้อมจะตกอยู่ในห้วงอันตรายได้ทุกเมื่อ เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้บ้างมั้ย
ฉะนั้นเพื่อเป็นการ ตัดไฟแต่ต้นลม มีแต่สั่งปลดนางซะ
แล้วไล่ออกจากวังถึงเป็นวิธีที่ดี" พระอัยยิกาจองฮีทรงค้านว่า
"แต่นางเป็นแม่ขององค์ชายทั้งสอง ถ้าเราสั่งปลดง่ายๆ
จะทำให้เสถียรภาพของบ้านเมืองสั่นคลอนหรือเปล่าก็ไม่รู้" "หม่อมฉันกลับเห็นว่า
นิ้วไหนร้ายตัดนิ้วนั้น ดีกว่าปล่อยให้ลุกลามใหญ่โต จนสายเกินแก้นะเพคะ" "แต่ว่า
เรายังไม่ได้ถามความเห็นเหล่าขุนนางว่าคิดยังไง
ถ้าจะมีการถอดถอนผู้เป็นพระมเหสีน่ะ" "ตอนนี้แค่ให้ฝ่าบาทเห็นชอบด้วยเท่านั้น
หม่อมฉันเชื่อว่า ขุนนางอื่นคงไม่มีอะไรคัดค้านหรอกเพคะ" พระพันปียินซูยังไม่ยอมแพ้
"แต่ยังไง ควรจะฟังความเห็นจากเหล่าขุนนางอีกครั้งดีกว่า" พระอัยยิกาจองฮีตรัส
"ฝ่าบาท งั้นก็เรียกประชุมขุนนางเร็วเข้า ถกเฉพาะประเด็นปลดพระมเหสี
ให้ทุกคนช่วยออกความเห็นหน่อย" คิมชูซอนรู้จากปากโบดึ๊กเรื่องที่ชองฮันซูหาทางช่วย
แต่กลับทรยศนาง
คิมชูซอนจึงไปเอาเรื่องชองฮันซูว่าเขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ถึงทำเรื่องแบบนี้
ชองฮันซูบอกแต่ว่าเขาทำตามคำสั่งและบอกให้คิมชูซอนไปถามโชชิคยอมเองดีกว่า "ชองฮันซู
เจ้าทำให้พระพันปีกับพระมเหสีทรงบาดหมางยังไม่พอ
จะยุยงให้ข้ากับท่านพ่อผิดใจกันอีกใช่ไหม" "จริงๆ แล้วใต้เท้าโช
ไม่เพียงรู้ต้นตอที่มีการทำคุณไสยต่อพระพันปี หรือแม้แต่สนมชองทรงแท้ง
กระทั่งเรื่องวุ่นวายทั้งหลาย เขาก็รู้ดีหมด คราวก่อน จู่ๆ คุณหนูซอยองก็กลับมา
แล้วตอนนี้หายไป เพราะคำสั่งใต้เท้าโชทั้งนั้น เจ้าเข้าใจหรือเปล่า
รับรองว่าทุกวันนี้ เขารู้แก่ใจว่ายังไงพระมเหสีก็ต้องถูกถอดถอน
ใครก็ไม่สามารถช่วยได้อีก" คิมชูซอนไปหาโชชิคยอมทันที "ท่านพ่อ
ท่านทำแบบนี้ได้ไงครับ ปล่อยให้ซอยองออกจากเมืองหลวง
ทั้งที่นางทำคุณไสยต่อพระพันปีและทำให้สนมชองทรงแท้ง จากนั้น
ก็ปล่อยให้พระมเหสีเป็นผู้รับเคราะห์ทั้งหมด จนตอนนี้พระนาง อยู่ในสภาพหมิ่นเหม่
จวนเจียนจะถูกปลด ในขณะที่ท่านรู้ทุกอย่าง กลับไม่พูดอะไรเลย
นิ่งเฉยปล่อยให้ในวังจัดการเอง ข้าอยากให้ท่านบอกว่านี่เป็นการเข้าใจผิดทั้งเพ
บอกว่าข้าโง่เขลาตีความผิด ให้ท่านตำหนิว่าข้าวู่วาม คิดอะไรตื้นๆ ไม่เป็นความจริง"
"มันเป็นเรื่องจริง ข้ารู้ต้นสายปลายเหตุที่เกิดทั้งหมด" "ข้าไม่เชื่อ
นี่เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ ปกติท่านมักจะสอนข้า
ว่าหน้าที่ของมหาดเล็กคือภักดีต่อฝ่าบาทและราชสำนัก แล้วทำไม กลับปล่อยให้คนถ่อย
มาก่อเรื่อง สร้างความเดือดร้อนให้แก่พระมเหสี
ในขณะที่ท่านไม่เห็นทำอะไรซักอย่างล่ะครับ" "ข้า
ไม่อยากแก้ตัวต่อหน้าเจ้าเพราะคงฟังไม่ขึ้น แต่ว่า
สิ่งที่ทำเพื่อรักษากรมมหาดเล็กไว้ อยากให้เจ้าเข้าใจจุดนี้ไว้ด้วย"
"ยังไงข้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี กรมมหาดเล็กคืออะไรครับ
มันสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดเลยหรือ
ท่านถึงยอมเอาพระมเหสีเข้าแลกเพื่อปกป้องมันไว้น่ะครับ" "ชูซอน ที่เจ้าพูด
เป็นการลบหลู่ข้า รู้ตัวหรือเปล่า" "ตอนนี้ ข้ารู้สึกผิดหวังในตัวท่านนัก
เดิมทีข้าตั้งใจจะเคารพท่านและกตัญญูต่อท่านชั่วชีวิต แต่ท่านกลับทำให้ข้าผิดหวัง
ฮือ" โอซังกุงได้ยินก็เสียใจไม่น้อยเช่นกัน "ที่แล้วมา
ข้าเชื่อว่าท่านเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่แล้ว ฮือ ทำไมท่านถึงปล่อยให้พระมเหสี หึ เฮ่อ
ขอโทษ ช่วงนี้ถ้าไม่จำเป็น ข้าไม่อยากเห็นหน้าท่านอีก หึ เชิญกลับบ้านไปซะดีกว่า
และขอเวลาข้าหน่อย ข้าจะเก็บของไปจากที่นี่เหมือนกัน" "ยังไงคืนนี้
ข้าจะกลับบ้านแน่นอน แต่อยากขอร้องซักนิดว่าอย่าไปจากที่นี่ได้ไหม เพราะที่นี่
คือบ้านของเจ้าคนเดียว"
พระเจ้าซองจงทรงนำเรื่องการปลดพระมเหสียุนโซฮวาเข้าที่ประชุม ใต้เท้าซังตังเห็นด้วย
ขุนนางท่านอื่นก็พลอยเห็นด้วยเช่นกัน
พระเจ้าซองจงทรงตรัสถามพระพันปียินซูอีกครั้งว่าต้องการปลดพระมเหสียุนโซฮวาจริงหรือ
"ถ้าเจ้าเห็นว่า เป็นตายร้ายดีก็ไม่อาจตัดขาดจากนางได้
งั้นข้าจะเป็นฝ่ายขอไปเองละกัน" "พระพันปี ทำไมถึง" "ข้าพอให้อภัย
ที่นางมักจะแสดงความจองหอง ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา แต่ว่า ในฐานะแม่ของวอนจา
แค่คิดถึงว่าอีกหน่อยนางจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพระพันปีแทนข้า
แล้วมาวางอำนาจกับข้าอีก ข้าก็แทบไม่อยากอยู่ร่วมชายคากับนางอีกแล้วเข้าใจมั้ย
ฉะนั้นเจ้าจงตัดสินใจเร็วๆ ว่าจะเลือกแม่หรือเลือกนาง ไม่ว่าเจ้าเลือกคนไหน
ข้าก็รับได้หมด" สนมซุกไปเข้าเฝ้าขอร้องพระอัยยิกาจองฮีให้ช่วยพระมเหสียุนโซฮวา
ขณะที่สนมชองนำเหล่าซังกุงมาทูลให้พระอัยยิกาจองฮีเห็นชอบปลดพระมเหสียุนโซฮวาสะ
ชองฮันซูมาขอให้โชชิคยอมไปทูลพระเจ้าซองจงให้ตัดสินพระทัยเรื่องการปลดพระมเหสียุนโซฮวา
ทำให้โชชิคยอมย้อนถามว่าชองฮันซูหวังอะไรกันแน่
ชองฮันซูตอบว่าทำเพื่อช่วยชีวิตคิมชูซอน "ถ้าพระมเหสีถูกปลดจริง
ข้าเชื่อว่าพระพันปีคงไม่ละเว้นมหาดเล็กคิม ซึ่งเข้าข้างพระมเหสีมาโดยตลอด
แต่ถ้าท่านยอมออกหน้า เร่งให้ฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยปลดพระมเหสีโดยเร็ว
เชื่อว่าพระพันปี อีกหน่อยคงไม่กล้าทำอะไรมหาดเล็กคิมอีก" "แล้วเจ้านึกยังไง
ถึงได้เป็นห่วงชูซอนนัก" "เพราะข้า รู้ว่าทำไมใต้เท้าถึงไม่ทำอะไรข้าเลย
หลังจากรู้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะการวางแผนของข้า
ถ้าท่านจะเอาเรื่องนี้มาเล่นงานข้าจริง ป่านนี้ข้าคงถูกไล่ออกจากกรมมหาดเล็ก
หรือไม่ก็ถูกฆ่า หายไปจากโลกนี้นานแล้ว" "แล้วเจ้าคิดว่าที่ข้าไว้ชีวิตเจ้า
อยู่ถึงวันนี้เพื่ออะไรกัน" "ลำพังความสามารถของมหาดเล็กคิมคนเดียว
ไม่อาจปกครองกรมมหาดเล็กได้ จึงต้องอาศัยข้าเป็นผู้ช่วยอีกแรง ถ้าเดาไม่ผิดละก้อ
ท่านน่าจะเห็นข้าเป็นขั้นบันไดสำหรับให้เขาไต่เต้า
จนกว่าจะมีประสบการณ์พอที่จะทำงานเองได้ เพราะฉะนั้น ชีวิตข้าก็เหมือนอยู่เพื่อเขา
ถ้าไม่อยากให้ตัวเองตาย ก็ต้องปกป้องมหาดเล็กคิมไว้ก่อน" "แล้วเจ้าคิดว่าอนาคต
เกิดชูซอนสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง แล้วเจ้าจะทำไง" "ถ้าไม่อยากโดนไสหัวในภายหลัง
ข้าก็ต้องเร่งพัฒนาตัวเอง เป็นเสาหลักที่มั่นคงของกรมมหาดเล็ก"
พระพันปียินซูทรงเรียกโชชิคยอมมาสอบถามว่ามีวิธีเกลี้ยกล่อมพระเจ้าซองจงจริงหรือเปล่า
"ทูลพระพันปี ถ้าหม่อมฉันสามารถทำให้ฝ่าบาท ทรงตัดสินพระทัย
ในการปลดพระมเหสีโดยเร็ว พระพันปีก็ต้องรับปากจะไม่ยุบกรมมหาดเล็ก รวมทั้ง
ไว้ชีวิตลูกหม่อมฉัน คิมชูซอนได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ" "นี่แปลว่าท่าน มายื่นหมูยื่นแมว
จะต่อรองกับข้าใช่ไหม" "หม่อมฉันได้ยินว่า เรื่องการปลดพระมเหสีนั้น
พระพันปีก็ได้ทรงเจรจาต่อรอง กับใต้เท้าซังตังอยู่ก่อนแล้วไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ"
"อะไรนะ" "วันหน้ากรมมหาดเล็ก จะยอมเป็นทาสรับใช้พระพันปีแต่โดยดี อีกอย่าง
ถ้าพระมเหสีถูกขับออกจากวังเมื่อไหร่ ลูกชายหม่อมฉัน คงไม่กล้าทำอะไรเหิมเกริม
ให้พระพันปีไม่พอพระทัย เหมือนที่แล้วมาอีก เพราะฉะนั้น จะทรงรับปากได้ไหมพ่ะยะค่ะ"
"หึ เอางั้นก็ได้ แต่ว่า ภายใน 3 วันนี้ ก่อนจะถึงวันเกิดของพระมเหสี
การถอดถอนต้องให้เป็นเรื่องเป็นราวที่แน่ชัดล่ะ" โชชิคยอมมาเฝ้าพระมเหสียุนโซฮวา
พระนางถามว่ามีเรื่องอะไร "ตอนนี้พระมเหสี ถูกคนปองร้ายแต่ไม่อาจแก้ต่าง
ทำให้ต้องเผชิญกับการถูกถอดถอนในไม่ช้านี้" "ใต้เท้าโช
ท่านพอรู้มั้ยว่าเป็นฝีมือใครน่ะ" "แม้จะไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร
แต่หม่อมฉันก็พอเดาออก ว่าจุดประสงค์ที่คิดถอดพระมเหสีนั้น เพื่ออะไรกันแน่"
"งั้นก็จงพูดมา ว่าคนพวกนั้น ต้องการอะไร ถึงอยากให้ปลดข้านัก" "เป้าหมายของพวกเขา
ไม่ได้อยู่ที่พระมเหสี หากแต่เป็นองค์ชายวอนจาต่างหาก" "อะไรนะ วอนจาน่ะหรือ"
"เพราะการครองราชย์ในอนาคตมีผลกระทบต่อพวกเขา จึงคิดกำจัดพระมเหสี ซึ่งเป็นพระมารดา
ขององค์ชายรัชทายาท ให้พ้นทางซะก่อนพ่ะยะค่ะ" "เชิญพวกเขาฝันหวานไปเถอะ
ต่อให้ทำเพื่อลูก ข้าก็จะล้างมลทินให้ตัวเอง และอยู่กับตำแหน่งนี้ไม่ไปไหน"
"อาศัยแค่สารหนูที่ค้นพบ บวกกับคำให้การของนางใน
คงไม่อาจทำให้พระมเหสีพ้นจากตำแหน่งได้ง่ายๆ แต่ตราบใดที่พระมเหสี
ยังคงอยู่ในวังหลวงต่อไป ก็จะมีคนที่ คิดปองร้ายต่อพระนาง คอยวางแผน
และหาทางกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ อนาคตขององค์ชายวอนจา
ก็จะไม่สดใส เหมือนที่ทรงคิดไว้แน่" "ใต้เท้าโช หมายความก็คือ
ข้าควรลาออกไปซะถึงจะดีใช่ไหม" "จะทรงเลือกเดินทางไหนนั้น อยู่ที่พระมเหสี
จะทรงพิจารณาเอง" "แต่ว่า ถ้าข้าออกจากวังจริง องค์ชายทั้งสองคน
ท่านคิดว่าจะเป็นไงบ้าง" "พระพันปีทรงรับปาก จะให้การดูแลอย่างดีพ่ะย่ะค่ะ"
"แปลว่าข้าต้องถูกถอดถอน ถึงจะคุ้มครองลูกได้อย่างงั้นหรือ"
"ตอนนี้ขอเพียงให้องค์ชายทั้งสอง ได้เติบใหญ่อย่างราบรื่น อนาคตไม่แน่ว่า
พระมเหสีอาจจะได้ กลับมาอีกครั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้นก็เป็นได้" "ใต้เท้าโช
แล้วท่านจะรับปากข้า ดูแลองค์ชายให้ดีได้ไหม" "หม่อมฉันขอถวายคำมั่น
ว่าจะปกป้ององค์ชายด้วยชีวิตพ่ะย่ะค่ะ"
พระมเหสียุนโซฮวาทรงตัดสินพระทัยไปเข้าเฝ้าพระเจ้าซองจง "ชุงจอน
ทำไมเจ้ากล้าขัดคำสั่งเสด็จแม่ มาพบข้าที่นี่อีกล่ะ" "วันนี้
จะเป็นวันสุดท้ายที่หม่อมฉันแข็งข้อ ขัดรับสั่งของพระพันปีเพคะ ฝ่าบาทเพคะ ได้โปรด
มีพระบัญชาให้ปลดหม่อมฉันเถอะ" "ชุงจอน เจ้ามาเพ้อเจ้ออะไรอีกล่ะนี่ ทำไมจะให้ข้า
เป็นคนใจร้ายที่ทอดทิ้งภรรยาตัวเองหรือไง" "หม่อมฉัน
ถือเอาความรักเป็นใหญ่จึงรักมั่นต่อฝ่าบาท ยอมเข้าวังมาเป็นสนม
ได้รับพระเมตตาจากพระองค์ จนได้เป็นพระมเหสีซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิต
แต่ว่าตำหนักแคเท ไม่เหมาะกับคนต่ำต้อยอย่างหม่อมฉัน เพราะหม่อมฉันทำตัวไม่ดี
จึงพลอยให้ฝ่าบาท ทรงบาดหมางกับพระพันปีอยู่หลายครั้ง
รวมทั้งถูกเหล่าขุนนางกดดันมาตลอด และยังมีความวุ่นวายในวัง
ที่เกิดขึ้นไม่รู้จบซะที ในเมื่อหม่อมฉัน ไม่เป็นที่ต้องการของฝ่าบาทและราชสำนักอีก
หมดความเชื่อมั่นที่จะครองตำแหน่ง พระมเหสีไว้ได้ ถ้าตอนนี้ฝ่าบาท
ยังมีความรักต่อหม่อมฉันบ้าง แม้แต่น้อยนิดละก้อ ขอได้ทรงโปรด
ทำตามคำขอของหม่อมฉันเถอะเพคะ" "ชุงจอน แล้วเจ้าไม่คิดถึงวอนจา
รวมทั้งลูกชายที่เพิ่งเกิดบ้างหรือ" "ที่หม่อมฉันต้องทำแบบนี้ ก็เพื่อลูกชายทั้งสอง
จึงจำเป็นต้องเลือกเพคะ" "ชุงจอน" "ฝ่าบาทเพคะ โปรดอย่าให้หม่อมฉัน
อยู่กับความทุกข์ทรมานต่อไปอีกเลย" "แปลว่าเจ้าจะบีบให้ข้า
เป็นสามีใจร้ายที่ตัดขาดภรรยาให้ได้ใช่ไหม" "ฝ่าบาท ถ้าทรงทำแบบนี้จริง
หม่อมฉันจะไม่มีวันตำหนิฝ่าบาทเลย เพราะฉะนั้น โปรดทรงอนุญาตให้หม่อมฉันไปเถอะเพคะ"
"เอานี่ไปด้วยได้ไหม" พระเจ้าซองจงทรงมอบหยกครึ่งซีก "ฮือ หม่อมฉันจะไม่มีวันลืม
ที่สมัยก่อน ฝ่าบาทเคยฝากรักไว้กับหยกครึ่งซีกนี้ ฮือ ก่อนที่ หม่อมฉันจะออกจากวัง
อยากดูลูกเป็นครั้งสุดท้าย ฝ่าบาททรงอนุญาต ให้หม่อมฉันได้คุยกับลูก
อีกซักครั้งได้ไหมเพคะ" พระมเหสียุนโซฮวาพบหน้าโอรสทั้งสองด้วยความเศร้า
"เสด็จแม่ๆๆ ต้องทรงเข้มแข็งไว้นะพ่ะย่ะค่ะ ไว้โตขึ้น
หม่อมฉันจะดูแลและกตัญญูต่อเสด็จแม่ให้มาก" พระมเหสียุนโซฮวาได้แต่คิดในใจ "วอนจา
อนาคต เจ้าต้องเป็นพระราชา ที่ราษฎรต่างก็เทิดทูนนะลูกนะ แม่ออกไปแล้ว
จะสวดมนต์ภาวนาให้เจ้าทุกวัน ขอให้โตเป็นผู้ใหญ่ไวๆ และได้ครองราชย์ต่อไป ฮือๆๆ"
พระมเหสียุนโซฮวาพบกับคิมชูซอน เขาขอให้พระนางสู้
พระนางเตือนคิมชูซอนว่าไม่ต้องเสียใจและตรัสกับเขาว่า "ชูซอน เมื่อข้าไปแล้ว
ช่วยดูแลลูกทั้งสองแทนข้าด้วย ฮือ ในวังที่มีแต่การแก่งแย่ง คนที่ข้าไว้ใจ
สามารถฝากลูกไว้กับเขาได้ ก็มีแต่เจ้าคนเดียวเท่านั้น สัญญากับข้าสิ
ว่าจะดูแลองค์ชายทั้งสอง ให้ดีเหมือนกับมีข้าอยู่" "ฮือ หม่อมฉันให้สัญญา
หม่อมฉันจะดูแลองค์ชายวอนจา รวมทั้งองค์ชายรองที่เพิ่งประสูติ
ด้วยชีวิตของหม่อมฉัน" "ขอบใจเจ้ามาก ตอนนี้ ข้าถือว่าหมดห่วง ไปจากที่นี่ได้ซะที"
พระมเหสียุนโซฮวาเข้าไปน้อมรับพระบัญชาจากพระอัยยิกาจองฮีและพระพันปียินซู
"หม่อมฉัน มาน้อมรับพระเสาวนีย์จากพระอัยยิกาเพคะ" "พระอัยยิกาเพคะ
โปรดทรงอ่านประกาศ ให้ทุกคนได้ฟังกันทั่วเถอะ" พระพันปียินซูทรงเร่ง
"ข้ารู้สึกแน่นหน้าอกยังไงพิกล เหมือนจะอ่านประกาศไม่ไหว ถ้าไงให้เจ้า
ช่วยอ่านแทนข้าจะดีกว่า" พระพันปียินซูทรงอ่าน "ปีอิกแฮ ให้ปลดมเหสียุนเป็นสามัญชน
และขับออกจากวัง ไม่ให้มีฐานันดรใดๆ อีก นับแต่นี้ไป อดีตมเหสียุนโซฮวา
เนื่องในปีคาบู หลังจากมเหสีคยองเฮสิ้นพระชนม์ ได้รับพระเมตตาจากฝ่าบาท
อีกทั้งให้การประสูติโอรส จึงได้เป็นมเหสีองค์ใหม่แทน
แต่ว่าเพราะอุปนิสัยเป็นคนเถรตรง ไม่ให้ความเคารพผู้ใหญ่ในวัง เข้มงวดต่อเหล่าสนม
อีกทั้งมีความริษยาหึงหวง ถึงขนาดโดยจากวังโดยพละการ
จับผู้หญิงที่อยู่ข้างนอกมาไต่สวนเอาผิด ลงโทษตามใจชอบ ละเมิดกฎเกณฑ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สุดท้ายยังบังอาจ ใช้กำลังข่วนพระพักตร์ของฝ่าบาทจนเป็นรอยแผล
ยิ่งเป็นความผิดที่ยากจะอภัย ซ้ำยังมีอกุศลจิตคิดปองร้ายพระพันปี
โดยการใช้วิชามารต่างๆ และยังวางยาพิษ
ทำให้สนมชองสูญเสียบุตรในครรภ์ไปอย่างน่าเสียดาย หนำซ้ำเร็วๆ นี้ ยังให้นางในคนสนิท
ไปสรรหาสารพิษมาเก็บอยู่ในวัง เพื่อเตรียมวางแผน
ประทุษร้ายต่อฝ่าบาทและคนในราชสำนัก เพื่อเป็นการลงโทษตามความผิดที่ก่อไว้
และเพื่อป้องกันเหตุร้ายซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงมีพระบัญชา
ให้ปลดออกจากตำแหน่งมเหสี ไปเป็นสามัญชน และให้ออกจากวังนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป หึ
ยุนโซฮวา จะยอมรับความผิดหรือไม่" "ทูลพระพันปี จนวันนี้
หม่อมฉันยังไม่รู้ว่าสารหนูและเชือกสองสีนั้น ทำไมถึงอยู่ในตำหนักของหม่อมฉันได้
ถ้าหม่อมฉันคิดปองร้ายพระพันปีจริง หรือวางยาทำให้สนมชองแท้งลูก
หรือแม้แต่ใช้กระดูกสาปแช่งสนมซุกยอนก็ตาม หม่อมฉันยินดี
ที่จะให้ทรงประหารชีวิตเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ แม้จะไม่รู้ว่า ใครอยู่เบื้องหลัง
และมีจุดประสงค์อะไรถึงได้ใส่ร้ายหม่อมฉัน ปรักปรำถึงขนาดนี้
แต่ความบริสุทธิ์ของหม่อมฉันนั้น ฟ้าดินรับรู้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็รู้
ที่สำคัญหม่อมฉันรู้แก่ใจดีเพคะ" "ยุนโซฮวา จนถึงวันนี้แล้ว
เจ้ายังไม่สำนึกในความผิดที่ก่ออีกหรือ" "หม่อมฉัน
กล้าสาบานต่อฟ้าว่าไม่เคยทำอะไรผิด แม้จะเป็นพระมเหสี
แต่ไม่เป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาท พระพันปีทรงชิงชัง เหล่าสนมก็พากันรังเกียจ
แม้แต่ซังกุงและนางใน ไม่ให้ความเคารพหม่อมฉัน นั่นเพราะหม่อมฉันไม่มีความดีเพียงพอ
แต่ถ้าจะตั้งข้อหา ว่าหม่อมฉันเป็นตัวการทำให้ราชสำนักเสื่อมเสียละก้อ
หม่อมฉันขอยอมออกจากวัง เป็นสามัญชนดีกว่า" "ถอดชุดทังอีของนางออก
และเอาปิ่นประดับคืนด้วย" พระพันปียินซูทรงตรัสด้วยความโกรธ
"หามเกี้ยวเข้ามาได้แล้ว" พระพันปียินซูตรัสต่อ ยุนโซฮวาทูลลา "พระอัยยิกา พระพันปี
ขอจง ทรงพระเจริญเพคะ" ขณะที่ยุนโซอวาขึ้นเกี้ยวออกไป
องค์ชายวอนจาก็มาเข้าเฝ้าพระเจ้าซองจง "วอนจา ทำไมมาพบพ่อที่นี่ล่ะ" "เสด็จพ่อ
ทรงมีรับสั่งให้ปลดเสด็จแม่จริงหรือพ่ะยะค่ะ" "อะไรนะ"
"ทำไมต้องทรงขับไล่เสด็จแม่ออกจากวังด้วย เพราะอะไร เสด็จพ่อ
ทรงถอนรับสั่งคืนเถอะพ่ะย่ะค่ะ" "เสด็จแม่เจ้า มีเหตุจำเป็นถึงต้องออกวังไป
เจ้าจงยอมรับความจริงเถอะนะ" "หม่อมฉัน เกลียดเสด็จพ่อที่ทำกับเสด็จแม่แบบนี้
เสด็จแม่ๆ" องค์ชายวอนจาจะเสด็จตามยุนโซฮวา คิมชูซอนรีบเข้ามาขวางและกันไว้
"องค์ชาย ตามไปไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ" "ปล่อยข้านะ ปล่อยสิ ข้าจะไปกับเสด็จแม่ด้วย
ฮือๆๆ เสด็จแม่ๆๆ อย่าทิ้งหม่อมฉันไป หม่อมฉันจะไปกับเสด็จแม่ เสด็จแม่ ฮือ
เสด็จแม่ๆ ฮือๆๆ เสด็จแม่ ฮือๆๆ เสด็จแม่ อย่าทิ้งหม่อมฉันไป เสด็จแม่ๆ"
"ถ้าองค์ชายทรงตะโกนเรียกแบบนี้ จะทำให้พระมเหสียิ่งเสียพระทัยมากขึ้น
และเป็นห่วงองค์ชายด้วย อีกหน่อยพระมเหสี จะได้กลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้น องค์ชายต้องไม่กรรแสงนะพ่ะย่ะค่ะ" คิมชูซอนปลอบ "ชูซอน
เจ้าพูดจริงหรือเปล่าน่ะ" "จริงพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันเชื่อว่าพระมเหสี
จะได้กลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน" "ฮืออก็ได้ ขอเพียงเสด็จแม่ได้กลับมาจริง
ข้าจะไม่ร้องไห้อีก ชาตินี้ไม่มีวันร้องไห้ด้วย เสด็จแม่ ต่อไป
หม่อมฉันจะไม่ร้องไห้ แต่เสด็จแม่ก็ต้องกลับมาหาหม่อมฉันเร็วๆ นะ ฮือๆๆ ฮือๆ ฮือ ๆ
ๆ"จบตอนที่ 47 คิมชูซอน
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ
เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn
Readlakornเว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ช่อง3,5,7,นิยาย ไทยรัฐ,
ละครเกาหลี,ละครไต้หวัน (Series), ลิ้งค์(Links) ดูละคร Youtube, ลิ้งค์ดาวน์โหลด
(Download) เพลงละคร OST. และ เพลง MP3 ทั่วไป ทั้งVampires (แวมไพร์) Sumo อื่นๆ
เรื่องย่อละครโบตั๋นกลีบสุดท้าย สะใภ้ลูกทุ่ง รักเธอยอดรัก คิมชูซอน
เมนูรักเชฟมือใหม่ สู่แสงตะวัน หมวยอินเตอร์ เย้ยฟ้าท้าดิน เพราะรักนี้มิอาจลืม
(Alone in Love) ความลับของซูเปอร์สตาร์ อุบัติรักข้ามขอบฟ้า
Readlakorn
6 comments:
ฮือออ สงสารพระมเหสียุนอ่ะ พระราชาก็ใจร้ายๆๆๆๆ ฮืออออ
ขอบคุณคุณลิลี่นะคะ แต่ขอบ่นหน่อยนะคะ ว่าเซ็งพระพันปีกะพระราชาจัง
ชอบพระมเหสีสวยดีพระราชาก็หล่อ อิอิ แต่ว่าอยากให้พระมเหสีสมหวังเกลียดอีนังออลูตงง่า
แง่งๆๆพระราชาใจร้าย
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ...หนุกมาก
คุณLilyค้า รอตอนที่ 48 อยู่นะค้า ฮือ..ฮือ..สงสารพระมเหสีจังเรยยย์
ทำไมต้องไล่พระมเหสีออกจากวังด้วย สงสารองค์ชายวอนจาจัง เอามาลงอีกเร็วๆนะ คอยอยู่....... ใจจะขาดแล้วเอย
Post a Comment