Wednesday, September 10, 2008

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ - คิมชูซอน (40)

คิมชูซอน 40

พระมเหสียุนโซฮวาทรงจับจ้องไปที่ออลูตงด้วยพระพักตร์ที่เอาจริงเอาจัง
พระนางทรงตำหนิออลูตงที่เข้าวังหลวงเป็นการผิดคำพูด ที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้
ออลูตงทูลพระมเหสีโซฮวาว่า "หม่อมฉัน ถูกบ้านเดิมของตัวเองตัดขาด ถูกสามีทอดทิ้ง
และเคยผ่านผู้ชายมามากหน้าหลายตา ชีวิตแบบนี้ก็แทบไม่มีความหมายอยู่แล้ว
มีหรือหม่อมฉันจะกลัวความตายอีก แต่ว่าการคิดถึงคนที่รักนั้น มันทำให้ทรมาน
ยิ่งกว่าความตายมาเยือนร้อยเท่า" "หึ งั้นหรือ" "หม่อมฉัน รู้ว่าพระมเหสี
ทรงเป็นหญิงคนแรกและคนเดียวที่ฝ่าบาททรงมีความรักให้ แต่ว่า
ความรักที่ฝ่าบาททรงมีต่อหม่อมฉัน หม่อมฉันก็เชื่อว่าเป็นความจริงใจเหมือนกัน"



"ความหมายของเจ้าคือ ไม่ว่าเป็นตายร้ายดี ก็ไม่มีวันเลิกรากับฝ่าบาทใช่ไหม" "ฮือ
หม่อมฉันคิดว่าพระมเหสี น่าจะทรงทราบดีว่าถ้าเรามีรักแท้ ให้แก่ใครซักคน
ความรู้สึกจะเป็นไงบ้าง" "เจ้านี่มันมารยาสาไถยจริงๆ ทำไมต้องให้ข้า
เป็นผู้หญิงใจร้ายที่คอยพลัดพรากคนอื่น ทำไมต้องให้ข้า ทนรับความเจ็บปวดถึงขนาดนี้"
"คนที่หม่อมฉันรักนั้น เขาไม่ใช่พระราชา แต่เป็นคนธรรมดาชื่อคุณชายลี ฮือ
หม่อมฉันก็ไม่นึกว่าเรื่องจะบานปลายถึงขนาดนี้ ฮือ"
พระมเหสียุนโซฮวาทรงสดับเช่นนั้นถึงกับตรัสไม่ออกเลยทีเดียว
ทรงคุกเข่าขอร้องออลูตงให้ไปจากเมืองหลวงโดยให้คำนึงถึงพระเจ้าซองจงเป็นสำคัญ
"ข้ารู้ดีว่า การคิดถึงคนที่เรารักนั้น ความรู้สึกจะเป็นแบบไหน
ถ้าเจ้าตัดใจจากฝ่าบาทไม่ได้ ข้าก็จำเป็น
ต้องจับเจ้าไปประหารเพื่อไม่ให้อยู่เป็นเสี้ยนหนามอีก แต่ว่า
เจ้าก็เป็นหญิงคนหนึ่งที่ฝ่าบาททรงหลงรัก ข้าจึงไม่อยากทำร้ายเจ้า ฮือ
รับปากข้าไปจากที่นี่เถอะนะ" "ฮือ พระมเหสี" "ข้าเชื่อว่าเจ้าก็รักฝ่าบาท
ด้วยความจริงใจเหมือนกัน แต่ถ้าเจ้ายอมไปจากเมืองหลวงซะ
จะไม่แค่เป็นผลดีต่อเจ้าและฝ่าบาทเท่านั้น ยังเป็นการปกป้อง
ราชสำนักและบ้านเมืองไม่ให้สั่นคลอนอีกต่างหาก เฮ่อ ข้า
เชื่อว่าเจ้าเป็นคนฉลาดน่าจะหาทางออกที่เหมาะสมได้ วันหน้าถ้าเรามีโอกาสได้พบกันอีก
เราสองคนอาจมีคนใดคนหนึ่ง ที่ต้องจบชีวิตลงก็ได้ เจ้าจงจำไว้ให้ดี"
พระมเหสียุนโซฮวาออกไป ออลูตงร้องไห้
พระพันปียินซูทรงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าพระมเหสีโซฮวามีลับลมคมใน
ทำให้พระมเหสีโซฮวาทรงไม่รู้ว่าจะอธิบายความจริงอย่างไร เมื่อเป็นเช่นนี้
พระมเหสีโซฮวาจึงทูลถามพระพันปียินซูว่า "หม่อมฉันรู้แก่ใจดีว่า
ปกติพระพันปีทรงห่วงใยหม่อมฉันขนาดไหน แต่ว่า หม่อมฉันมีความจำเป็นบางอย่าง
จึงต้องออกจากตำหนักชั่วคราว ขอให้ทรงเชื่อหม่อมฉันซักครั้ง โปรดอย่าถามอีกเลยเพคะ"
"เป็นไปไม่ได้หรอกนะ เหมือนที่คราวก่อนเจ้าลักลอบออกจากวังโดยพละการ
แต่เพราะเห็นแก่ลูกในท้อง ข้าจึงไม่อยากถือสาหาความ
แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ได้สำนึกซักนิด ซ้ำยังผิดกฎของฝ่ายในครั้งแล้วครั้งเล่าอีก
วันนี้ข้าจึงต้องรู้ให้ได้ว่าเจ้าไปไหนมา ทำอะไรนอกลู่นอกทางหรือเปล่า"
"พระพันปีเพคะ ในเมื่อหม่อมฉันเป็นพระมเหสี อีกทั้งประมุขของฝ่ายในด้วย
แล้วทำไมพระพันปีถึงได้ทรงระแวงหม่อมฉันนัก แถมยังคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวอีก"
"เฮอะ อะไรนะ เจ้าพูดอะไรออกมา รู้ตัวหรือเปล่า"
"ในเมื่อพระพันปีไม่ทรงไว้วางพระทัยหม่อมฉัน งั้นหม่อมฉัน
ก็ไม่มีอะไรจะทูลให้ทรงทราบเหมือนกัน" "นี่แปลว่าเจ้าจะแข็งข้อต่อข้าหรือยังไง"
"พระพันปีเพคะ หม่อมฉัน ตั้งแต่ตั้งครรภ์ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ได้โปรด
ทรงเห็นพระทัยหม่อมฉันบ้าง เชิญเสด็จกลับไปพักผ่อนแล้ววันหลังค่อยถามเถอะเพคะ" "หึๆ
นับวันเจ้าจะยิ่งเหิมเกริมมากขึ้นจริงๆ จนไม่เห็นผู้ใหญ่อยู่ในสายตาแล้วใช่ไหม หึ
ก็ได้ ข้ายอมแพ้ ถือว่าเห็นแก่หลานที่อยู่ในท้อง คืนนี้ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า
แต่ว่า ข้าขอบอกให้รู้ จงอย่าลืมเรื่องในคืนนี้เป็นอันขาด และข้าก็ไม่มีวันลืมด้วย"
"ขอทรงอภัยเพคะ" ขณะที่คิมชูซอนกำลังพาออลูตงออกจากวังหลวง
ชองฮันซูก็พาคนมาจับตัวออลูตงไปและต่อว่าคิมชูซอนที่ทำอะไรไม่คำนึงถึงหน้าที่
และบอกให้เขารอผู้ใหญ่จะว่าอย่างไรกับเรื่องนี้ ชองฮันซูรีบไปรายงานโชชิคยอม
เขาบอกว่าเรื่องคิมชูซอนจะจัดการเอง
ส่วนออลูตงชองฮันซูเสนอให้พาไปอยู่ในที่เร้นลับก่อน โชชิคยอมไม่เห็นด้วย
"เรื่องที่นางเข้าออกวังหลวง ถ้าให้เหล่าขุนนางรู้เข้าละก้อ
ต้องกลายเป็นประเด็นโจมตีฝ่าบาทแน่ ภายในคืนนี้
ถ้าไม่สามารถส่งนางออกจากเมืองหลวงได้ คงต้องฆ่าปิดปาก
เพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามอีก" "แต่ข้าไม่เห็นด้วยกับความคิดของใต้เท้า" "อะไรนะ"
"ตอนนี้พระทัยของฝ่าบาท ทรงผูกพันกับออลูตงคนเดียว ถ้าจู่ๆ นางหายไปจากโลกนี้
ไม่แน่ว่า ฝ่าบาทอาจทรงหมดอาลัยตายอยากก็ได้" "ไม่งั้น เจ้าคิดว่าทำไงดี"
"มรสุมหนักหน่วงแค่ไหนก็มีเวลาที่สงบ ขอเพียงเราอดทนรอให้มันเข้าที่ เช่นเดียวกัน
ความรักที่ฝ่าบาททรงมีต่อออลูตง ซักวันก็จะจืดจางไปตามกาลเวลา ข้าจึงเห็นว่า
ก่อนที่ฝ่าบาทจะทรงเบื่อหน่ายผู้หญิงคนนี้ เราให้พบกันบ้างก็ไม่เห็นเป็นไร"
"มันก็จริง เจ้าพูดมีเหตุผล แต่ใต้เท้าซังตัง
ทุกวันนี้กำลังจับตาเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ เจ้าคิดว่าวิธีนี้จะใช้ได้หรือ"
"ข้ามีหนทางจะทำให้เรื่องนี้หมดปัญหา ไม่ต้องห่วงหรอกครับ" "งั้นก็ได้
สรุปว่างานนี้ ข้าจะมอบให้เจ้า แต่ว่า เจ้าจงรู้ไว้
เรื่องนี้จะให้คนนอกมารับรู้ไม่ได้" "ถ้าโชคร้ายเกิดมีการแพร่งพราย
ข้าจะออกหน้าแก้ปัญหาให้เอง แต่ต้องรบกวนใต้เท้า ให้ไปทูลพระมเหสี
อย่าทรงก้าวก่ายเรื่องของออลูตงอีกน่ะครับ" "ก็ได้ ข้าจะไปทูลเอง"
ชองฮันซูรีบไปทูลพระเจ้าซองจงว่าให้เรื่องซาลงก่อน แล้วเขาจะพาไปพบออลูตง
พระเจ้าซองจงเห็นดีด้วย ออลูตงไปพักอยู่กับซอยอง
ออลูตงบอกว่านางจะไปจากเมืองหลวงในวันรุ่งขึ้น
ซอยองจึงบอกว่าถ้าออกจากบ้านนี้ก็คงจะถูกจับข้อหาคบชู้
ออลูตงแปลกใจย้อนถามว่าแล้วซอยองช่วยนางทำไม
"ข้าเคยบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับคุณหนูไง ขอให้เชื่อใจข้า รับรองว่า
ไม่นานข้าจะช่วยให้เจ้าได้พบฝ่าบาท คลายความคิดถึงที่มีต่อพระองค์"
ซอยองกระหยิ่มที่ทุกอย่างดูจะเข้าทางไปสะหมด
นางกล่าวกับชองฮันซูที่กังวลว่าถ้าออลูตงถูกจับ พระเจ้าซองจงจะเดือดร้อน
"ถ้าเราทำให้เกิดมรสุม สั่นสะเทือนราชสำนักและเสถียรภาพแห่งบัลลังก์ของฝ่าบาท
จะยิ่งเป็นผลดีต่อเรามากขึ้น เรื่องนี้ท่านก็อย่าโกรธข้าเลยนะ"
พระพันปียินซูทรงพบว่าพระมเหสีโซฮวามีพระบัญชาให้คิมชูซอนพาออลูตงเข้าวังหลวง
เมื่อพระนางทรงรู้เช่นนั้นแล้วก็มีรับสั่งให้โชชิคยอมเข้าเฝ้า
พระพันปียินซูทรงตำหนิโชชิคยอมว่าเหตุใดมหาดเล็กไม่แบ่งเบาภาระพระราชา
ในทางกลับกันกลับทำนอกเหนือหน้าที่
พระนางกล่าวต่อไปว่าหากเป็นเช่นนี้ก็จำเป็นต้องยุบกรมมหาดเล็ก
"วันนี้ก่อนที่ข้าจะลงโทษคิมชูซอน เรียกท่านมาตักเตือนก่อนก็เพราะว่า
ข้าเห็นว่าเรื่องนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากความคิดของเขาคนเดียว
ช่วงนี้ที่มีข่าวฝ่าบาทออกไปข้างนอกบ่อยครั้ง เห็นว่าเพราะกรมมหาดเล็กทำงานหละหลวม
ปล่อยปละละเลย ถ้าหากว่าการเป็นมหาดเล็กแทนที่จะคอยเตือนสติฝ่าบาท
กลับช่วยปิดบังความผิด ว่าไงว่าตามกันแล้ว ผู้ใหญ่ในกรมฯ
ก็ไม่ต่างกับพระอิฐพระปูนซักนิด ใต้เท้าโช
ต่อไปคงต้องเน้นให้ทุกคนคำนึงถึงกฎระเบียบ และสำนึกในหน้าที่ตัวเองบ้าง
ถ้ายังมีเรื่องแบบนี้เกิดซ้ำอีก ในนามของราชสำนักโชซอน ข้าคงต้อง
สังคายนากรมมหาดเล็กซะใหม่ อย่าลืมคำพูดข้าล่ะ ใต้เท้าโช"
ขณะที่คิมชูซอนทูลพระมเหสียุนโซฮวาเรื่องที่รักษาตัวออลูตงไว้ไม่ได้
ถูกชองฮันซูจับตัวไป โชชิคยอมก็เข้ามาเฝ้าพระมเหสียุนโซฮวา "ใต้เท้าโช
วันนี้ทำไมมาพบข้าได้ล่ะ" "ได้ยินว่าพระมเหสีรับสั่งให้มหาดเล็กคิม
ไปพาตัวออลูตงมาเมื่อคืนเพื่อจะทรงพบปะใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ" คิมชูซอนรีบออกตัว
"เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับพระมเหสี เป็นความเจ้ากี้เจ้าการของข้าเองครับ"
"นี่ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะมาแทรก ทำไมไม่รู้กาลเทศะซะบ้าง" โชชิคยอมดุ "เรื่องนี้
คงไม่อาจปิดบังใต้เท้าโชซึ่งรู้เรื่องราวในวังหลวง อย่างทะลุปรุโปร่งได้
ข้าเป็นคนสั่งให้มหาดเล็กคิม ไปพานางเข้าวังมาเอง" "หม่อมฉัน เข้าใจดีว่า
พระมเหสีทรงเป็นห่วงและไม่อยากให้ฝ่าบาทเป็นที่ครหา แต่ว่า เพราะเรื่องออลูตง
ตอนนี้ไม่เพียงแต่ฝ่าบาทเท่านั้น แม้แต่ราชสำนักก็เข้าใจพระมเหสีผิดไปอย่างมาก
ฉะนั้นเรื่องของนาง มอบให้หม่อมฉันจัดการดีกว่า พระมเหสีไม่ต้องเกี่ยวข้องด้วยอีก"
"ขอบคุณใต้เท้าโชที่หวังดี อยากจะมาช่วยข้า แต่ว่า ในฐานะที่ข้าเป็นมเหสีของฝ่าบาท
คงไม่อาจทนเห็นผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลเหนือพระองค์ และทำให้ราชสำนักวุ่นวายได้"
"แต่ถ้ามีใครแปรเจตนาของพระมเหสี ว่าเกิดจากความหึงหวง หม่อมฉันก็เกรงว่า
พระมเหสีอาจจะทรงเสื่อมเสียก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ" "หึงหวงอะไรกัน ไร้สาระ
ข้าไม่กลัวพวกปากหอยปากปูจะพูดมาก จนละทิ้งหน้าที่ที่ภรรยาพึงกระทำหรอกนะ
เรื่องของข้า ข้าสามารถจัดการเองได้" โชชิคยอมเตือนคิมชูซอน
อย่าลืมหน้าที่มหาดเล็กเป็นอันขาด "ขอโทษด้วยครับ แต่ข้าคิดว่า
นี่คือความจงรักภักดีที่มีต่อฝ่าบาทและพระมเหสี จึงได้ตัดสินใจทำลงไป"
"ข้าว่าเจตนาของเจ้า คือทำเพื่อความรักที่มีต่อพระมเหสี
และป่านนี้ยังไม่ลืมมากกว่า" "ท่านพ่อ ทำไมท่าน" "ถ้าเจ้าบอกว่า
ทำเพราะความภักดีที่มีต่อฝ่าบาทจริง ก็ควรสังหารออลูตงเพื่อปิดปากซะ
หรือไม่ก็ปิดบังทุกคนในวัง แอบส่งนางไปจากเมืองหลวงอย่างเงียบๆ แต่นี่
เจ้าใช้วิธีแก้ปัญหาโดยคำนึงถึงความรู้สึกของพระมเหสี นั่นก็เป็นเพราะ
ความรักที่เจ้ามีต่อนางเป็นการส่วนตัว จนลืมหน้าที่ของมหาดเล็กไป" "ท่านพ่อ
ให้ข้าสาบานต่อฟ้าก็ได้นะครับ ทุกวันนี้ไม่เคยคิดบังอาจจาบจ้วง ถึงพระมเหสีอีกเลย"
"แม้ปากเจ้าจะยืนยันว่าไม่คิด แต่ในใจอาจเผลอคิด โดยที่เจ้าไม่รู้ตัวก็เป็นได้
เจ้าเองก็รู้ดี กิเลสมนุษย์สามารถทำลายล้างทุกสิ่ง ถ้ายังไม่รู้จักสำรวม
จะไม่เพียงแต่เจ้าเท่านั้น แม้แต่ฝ่าบาทและพระมเหสีก็จะมีผลกระทบตามด้วย
ถ้าไม่อยากให้เสียใจภายหลัง ก็จงจำให้มั่น ว่าวันนี้ข้าได้พูดอะไรบ้าง"
คิมชูซอนไปหาซอยอง และตำหนิซอยองที่ทำตามอำเภอใจ
"แม้แต่วิหคยังรู้จักกู่ร้องเพื่อหาคู่ของมัน ถ้าไม่เจอก็จะรออยู่อย่างงั้น
นับประสาอะไร กับมนุษย์ที่มีหัวใจและความรู้สึก รักคนๆ หนึ่งแต่ไม่อาจพบหน้า
ไม่อาจได้เคียงคู่อยู่กิน ความรู้สึกนี้ ท่านน่าจะรู้ดีกว่าใครไม่ใช่หรือ"
"เลิกเพ้อเจ้อซะที ถ้ายังกล้าเข้าออกวังหลวงตามใจชอบ เพื่อก่อความวุ่นวายไม่เลิก
ทำให้ฝ่าบาทกับพระมเหสีทรงไม่สบายพระทัยละก้อ ข้าจะไม่นิ่งเฉยดูดายอีก" "หึ
ไม่นิ่งเฉยดูดาย แล้วจะทำอะไรได้" "ถ้าไม่ฟังคำเตือนของข้า ใครก็ตาม
อย่าหวังจะมีชีวิตอยู่อีก" "หึๆๆ คนที่เป็นสุภาพบุรุษอย่างท่าน
รู้จักขู่ผู้หญิงด้วยหรือ ไม่เหมือนนิสัยท่านเลยนะ" "ขอเพียงทำหน้าที่มหาดเล็กให้ดี
ข้าสามารถทำได้ทุกอย่าง" "ข้าเห็นท่านมาตั้งแต่เล็กจนโต มหาดเล็กคิม
ไม่ใช่คนที่กล้าทำอะไรรุนแรงได้" "ผิดแล้ว เจ้าดูผิดไปถนัด ข้า
ในเมื่อถึงขนาดกล้าตอนตัวเอง ก็พร้อมจะสละชีวิตหากเกิดเหตุร้ายแรง
โดยไม่กลัวอะไรทั้งนั้น" "มหาดเล็กคิม ท่านเชื่อเรื่องเกิดมาจะได้ 3 อย่าง เสีย 3
อย่างหรือเปล่า ข้าว่าเรื่องทำนายดวงชะตาแบบนี้ มีแต่ทำให้คนงมมายมากกว่า
ชะตาของมนุษย์ น่าจะอยู่ที่เราเลือกเส้นทางที่จะเดิน ไม่เกี่ยวกับสวรรค์กำหนดให้
การที่ท่านตอนตัวเองเพื่อเป็นมหาดเล็กก็เช่นกัน ไม่ได้เป็นเพราะสวรรค์ลิขิต
หากแต่เพราะความรักในใจ ที่ไม่ได้สมหวังต่างหากจริงมั้ย"
"ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพล่ามอะไร" "เช่นเดียวกับเรื่องของฝ่าบาทและออลูตง
ไม่ได้เกิดจากสวรรค์บันดาล หากแต่เป็นเพราะความบังเอิญ ฉะนั้นผู้หญิงคนนี้
ท่านจึงไม่ต้องห่วงมากนัก เอาเป็นว่า พอถึงเวลาเมื่อไหร่ นางก็จะหายไปจากโลกนี้เอง
และตอนนี้นางก็ พักอาศัยอยู่กับข้า ถ้าท่านอยากพบนาง ข้าก็ไม่ห้ามหรอก"
คิมชูซอนได้พบกับออลูตงตามคำของซอยอง ออลูตงกล่าวกับคิมชูซอนว่า
"ข้ายอมละทิ้งชีวิตคู่ ผูกสัมพันธ์กับผู้ชายมากหน้า เพราะนึกว่าตัวเอง
จะมองข้ามจารีต ไม่สนใจเรื่องศีลธรรม โดยเห็นว่าสิ่งเหล่านี้
เป็นเพียงเปลือกจอมปลอมที่มนุษย์สร้างขึ้นเท่านั้น หึ
แต่ไม่นึกว่าจะเกี่ยวพันถึงบ้านเมือง ทำให้ข้ากลายเป็นคนที่น่าสมเพช จะอยู่ก็ยาก
ไปก็ลำบากนัก" "ต้องทำยังไงท่านถึงจะลืมฝ่าบาทได้ หรือไม่งั้น ต่อให้ลืมไม่ได้จริงๆ
ก็ถือว่าเห็นแก่ฝ่าบาทไปจากเมืองหลวงได้ไหม ถ้าข้าจะคุกเข่าขอร้องท่านในวันนี้
ท่านจะรับปากข้าได้หรือเปล่า" "เคยมีผู้สูงศักดิ์คนหนึ่ง
ลดตัวมาคุกเข่าต่อหน้าข้าแล้ว หึ คงไม่มีอะไรน่าตกใจ
และทำให้ข้าเจ็บปวดมากกว่านั้นอีก" "ท่านหมายถึง พระมเหสีใช่ไหม"
"ข้าพยายามคิดทบทวนอยู่หลายครั้ง หึ ถ้าตอนนี้เป็นข้าจะยอมละทิ้งศักดิ์ศรี
คุกเข่าให้หญิงอื่นเพื่อปกป้องสามีหรือเปล่า มันเป็นสิ่งที่ยาก
ใช่ว่าใครก็สามารถทำได้ ถ้าเป็นข้า คงไม่อาจทำได้ถึงขนาดนี้แน่" "แต่พระมเหสี
ก็คือผู้หญิงแบบนี้ ทรงทำได้ทุกอย่างเพราะเห็นแก่ฝ่าบาท
ไม่คำนึงถึงพระเกียรติและศักดิ์ศรี เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องเล็ก" "งั้นข้าคิดว่าเจ้า
ก็น่าจะเป็นคนประเภทนี้เหมือนกัน ข้าเข้าใจแล้ว ยังไงจะรีบตัดสินใจให้เร็ว
เพราะข้าก็ไม่อยากให้ฝ่าบาททรงลำบากพระทัย เพราะข้าเป็นต้นเหตุ ขอให้วางใจได้" "หึ
ขอบคุณคุณหนูมาก"000000000000
พระอัยยิกาจองฮีทรงเตือนพระพันปียินซูที่เข้มงวดต่อพระมเหสียุนโซฮวามากไป
แม้พระพันปียินซูจะบอกว่ามีเหตุให้ต้องตักเตือน "แต่นางกำลังตั้งครรภ์อยู่
เจ้าจะผ่อนผันบ้างไม่ได้หรือ แต่ไหนแต่ไรอย่าว่าแต่เชื้อพระวงศ์หรือชาวบ้านเลย
ความบาดหมางระหว่างแม่สามีกับสะใภ้ แทบจะมีในทุกครัวเรือนด้วยซ้ำ
แต่ว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ มักต้องการการใส่ใจเป็นพิเศษนะ" "เสด็จแม่เพคะ
นี่แปลว่าหม่อมฉัน เป็นแม่สามีที่ใจร้าย คอยเล่นงานสะใภ้หรือยังไง"
"ไม่ใช่อย่างงั้น เจ้าอย่าแปลความหมายข้าผิดไป
แต่เป็นเพราะเจ้าไม่เคยผ่านการเป็นมเหสีมาก่อน
จึงไม่รู้ถึงความกดดันและภาระอันหนักหน่วงของคนเป็นประมุขฝ่ายในต่างหาก
ตำแหน่งมเหสีนั้น ไม่เพียงเป็นภรรยาของฝ่าบาท แม้แต่การพูดการจา
ก็ต้องอยู่ในกฎอย่างเคร่งครัด ไม่แค่เป็นแบบอย่างของเหล่านางในเท่านั้น
แม้แต่ภรรยาขุนนางทั้งหลาย นางก็ต้องเข้มงวดกวดขัน หากใครทำอะไรนอกลู่นอกทาง
ก็มีสิทธิ์ว่ากล่าวตักเตือนได้ ที่สำคัญกว่านั้น แม้แต่บ่าวไพร่ในวัง
ใครทำอะไรไม่เรียบร้อยก็ต้องคอยดูแล ฉะนั้นความกดดันของนาง
จึงถือว่ามากมายราวกับมีภูเขาอยู่ในอกก็ไม่ปาน ข้าจึงหวังว่า
เจ้าจะเห็นใจสถานภาพของนางบ้าง อะไรที่ปล่อยได้ก็ปล่อยๆ บ้างเถอะ"
พระพันปียินซูทรงได้แต่เก็บความไม่พอพระทัยไว้
คิมชูซอนเห็นยางซองยุนดื่มเกล้าเร็วก็ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า "ฮ่า ข้าน่ะนะ
ดื่มเพราะสมเพชตัวเอง ที่เกิดมาเป็นมหาดเล็กต่างหาก ชูซอนเอ๊ย รู้มั้ยว่าเพราะอะไร
เวลารับมหาดเล็กใหม่ ถึงต้องให้ทุกคนตอนหมดน่ะ"
"เพื่อไม่ให้เกิดการล่วงล้ำระหว่างชายที่ทำงานในวัง กับผู้หญิงของพระราชาไงล่ะครับ"
"หึ ผิดแล้วเจ้าหนุ่มเอ๊ย ไม่งั้น ทหารที่เฝ้ายาม รวมทั้งองครักษ์
ขุนนางที่เข้าออกวังหลวงเป็นประจำ ไหนจะพวกสามกรมใหญ่
มิต้องตอนให้เกลี้ยงก่อนจะมาทำงานในวังหรอกหรือ" คิมชูซอนคิดตาม
"กาลครั้งหนึ่งนานมา ถือกันว่าพระราชาคือเทพเจ้า รับสั่งของพระราชา
เป็นสิ่งที่ไพร่ฟ้าทั่วหล้าต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
และการถ่ายทอดพระบัญชาอันเปรียบเหมือนประกาศิตแห่งสวรรค์นั้น
ก็เป็นหน้าที่ของมหาดเล็ก เพราะฉะนั้น มหาดเล็กอย่างเราก็คือ
อยู่กึ่งกลางระหว่างเทพกับมนุษย์บนผืนโลกจนกลายเป็นว่า เป็นคนก็ไม่เชิง เทพก็ไม่ใช่
เป็นผู้ชายก็ไม่ใช่ ผู้หญิงก็ไม่เชิง เลยต้องให้มหาดเล็กตอนซะจะได้หมดเรื่องหมดราว
เข้าใจหรือเปล่า" "แล้วทำไมถึงบอกว่าท่านสมเพชตัวเองล่ะครับ" "แต่ว่า หลังๆ
ไม่รู้เพราะอะไร หน้าที่ในการเป็นสื่อกลางระหว่างเทพเจ้ากับมนุษย์นั้น
กลายเป็นหนทาง ที่จะหนีพ้นความยากจนแถมยังสร้างขั้วอำนาจขึ้นมาซะเอง เพราะฉะนั้น
เจ้าไม่คิดว่ามันน่าสมเพชหรอกหรือ หึๆ ชูซอน รู้มั้ยว่าการเป็นมหาดเล็ก
สิ่งที่น่าเกลียดที่สุดคืออะไร ก็คือเป็นเศษดิน แต่หวังทะยานขึ้นฟ้า
สวมหน้ากากจอมปลอมใช้อิทธิพลข่มคนอื่น สุดท้ายก็ตายอย่างอนาถ
และที่น่าอดสูกว่านั้นคือ เราเป็นมนุษย์แท้ๆ
กลับไม่มีความรู้สึกโดยธรรมชาติเหมือนคนทั่วไป ต้องทนอยู่กับความทุกข์ทรมาน
เจ็บปวดอย่างแสนสาหัสรู้มั้ย ทีหลังน่ะนะ ให้เจ้าทำงานนานกว่านี้หน่อย เฮ่อๆ
ก็จะคิดเหมือนข้า มอมเมาตัวเองไปวันๆ ดีกว่า หึๆ ระวังให้ดี คอยดูนะ
เจ้าจะเหมือนข้าซักวัน เฮ่อๆๆ หึ ฮือ"
พระเจ้าซองจงทรงเรียกชองฮันซูมาพบตรัสว่าอยากพบออลูตงเพื่ออำลาเป็นครั้งสุดท้าย
การเสด็จของพระเจ้าซองจงมีหลายฝ่ายจับตามองอยู่แล้ว จึงเกิดเรื่องขึ้น
พระเจ้าซองจงพูดคุยกับออลูตงได้เพียงว่า "ข้ารู้สึกละอายต่อเจ้านัก"
"หม่อมฉันเข้าใจดี ไม่ต้องรับสั่งอะไรเพคะ ฮือ"
ทันใดนั้นชองฮันซูก็เข้ามาบอกว่ามีคนของกรมอาญาตามมา จึงรีบพาพระเจ้าซองจงเสด็จหนี
พระเจ้าซองจงจะไม่เสด็จหนีเพราะเป็นห่วงออลูตง ชองฮันซูบอกว่าจะมีคนมาพานางหนีเอง
ระหว่างทางหนีพระเจ้าซองจงถามชองฮันซูว่า ทำไมกรมอาญารู้
ชองฮันซูทูลตอบว่าคงดูจากความเคลื่อนไหวของพระเจ้าซองจง
ทรงตรัสถามว่าแล้วครั้งที่แล้ว ทำไมออลูตงหายสาบสูญไป
ชองฮันซูทูลว่าเพราะพระมเหสียุนโซฮวาสั่งให้จับนางเข้าวัง พระเจ้าซองจงตกพระทัยมาก
พระเจ้าซองจงตรงไปที่ตำหนักของพระมเหสียุนโซฮวาทันที "ชุงจอน เจ้าช่างเก่งนักนะ
แม้ข้าจะรู้นิสัยเจ้ามานาน แต่ทำไมเจ้าถึงได้ ลบหลู่พระราชาอย่างข้าถึงขนาดนี้"
"ฝ่าบาท ทรงหมายความว่าไงหรือเพคะ" "เจ้าไม่ได้สั่งให้ชูซอน
ไปจับออลูตงเข้าวังมาหรอกหรือ แล้วเจ้าพูดอะไรกับนางบ้าง ข่มขู่ให้ไปจากเมืองหลวง
ห้ามพบข้าอีกใช่ไหม" "ฝ่าบาทเพคะ" "ทำไมเจ้าถึงได้โหดร้ายกับผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
ทั้งที่นางไม่มีอะไรจะสู้เจ้าได้อยู่แล้ว เพราะอะไร" "ฝ่าบาท
ทำไมไม่เคยเข้าพระทัยสิ่งที่หม่อมฉันทำเพื่อฝ่าบาทบ้างล่ะเพคะ
มีแต่สงสารผู้หญิงคนนั้น ทำยังกะหม่อมฉันรังแกนางนักหนา" "อะไรนะ" "ใช่แล้วเพคะ
หม่อมฉัน บอกนางว่าถ้าไม่รีบไปจากเมืองหลวง จะไม่รับประกันชีวิตของนาง
และถ้ายังกล้าพบฝ่าบาทอีก หม่อมฉันก็บอกว่าจะส่งทหารไปจัดการนางซะ" "ชุงจอน
เจ้าช่างเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวนัก ต่อไปข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก" "ฮือ
ฝ่าบาทเพคะ" คิมชูซอนทนไม่ไหว "ฝ่าบาท เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพระมเหสีพ่ะย่ะค่ะ"
"เจ้าเองก็เชื่อฟังนางแล้วมาปิดบังข้าเหมือนกัน" "ฝ่าบาท" "ข้าไม่อยากฟังอีกแล้ว"
"ฝ่าบาทเพคะ อย่าทรงคิดถึงออลูตงอีกเลย แม้ฝ่าบาทไม่อยากพบหม่อมฉัน
นับแต่นี้ก็ไม่เป็นไร แต่ว่าหม่อมฉัน ไม่อาจทนเห็นฝ่าบาททรงถลำลึก
โดยไม่เตือนไม่ได้เพคะ" "หลีกไปเดี๋ยวนี้" "โอ๊ะ ฮือ"
คิมชูซอนรีบเข้ามาดูพระมเหสียุนโซฮวา "พระมเหสี เอ่อ พระมเหสี เป็นไงบ้างพ่ะย่ะค่ะ
ฝ่าบาท ทำไมทำกับพระมเหสีแบบนี้พ่ะย่ะค่ะ"

จบ 40

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn


Related Posts



1 comments:

hippogriff on 9/10/2008 said...

มาดักรอตั้งแต่เช้าเลย
อิอิ ได้อ่านด้วย ไม่ผิดหวัง
ขอบคุณคร่า

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal