Monday, September 08, 2008

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ - คิมชูซอน (38)ถึง (39)

คิมชูซอน 38


คิมชูซอนทูเตือนพระเจ้าซองจงต่อว่า
"ฝ่าบาท หญิงคนนั้น
เป็นภรรยาของพระญาตินะพ่ะย่ะค่ะ
สมควรแล้วหรือที่จะลดพระองค์ไปโปรดปรานหญิงที่ไร้ซึ่งเกียรติทั้งปวง
หม่อมฉันแทบไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ"
"ชูซอน ข้าก็รู้ว่าเจ้าคิดยังไง แต่ว่า
ข้าบอกแล้วว่าหักห้ามใจตัวเองไม่ได้น่ะ เฮ่อ"
"ฝ่าบาท
หม่อมฉันขอวิงวอนในฐานะข้าราชบริพาร ได้โปรด ทรงหักห้ามพระทัยบ้างเถอะพ่ะย่ะค่ะ
ฝ่าบาทเคยรับสั่งว่า อนาคตจะทรงเป็นพระราชาที่ดี
เห็นแก่ประโยชน์สุขของราษฎรและความอยู่รอดของโชซอนมาก่อนไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ
แล้วทำไมถึงได้ ทรงเห็นแก่หญิงไร้ค่าคนหนึ่ง
ถึงกับยอมผิดศีลธรรมและจริยธรรมอันดีงาม ถ้าแม้แต่ฝ่าบาท
ยังทรงมีพระทัยฝักใฝ่ในภรรยาของชายอื่น แล้วจะเรียกศรัทธาจากเหล่าขุนนาง
และราษฎรได้ยังไง มิต่างกับคนที่หลงในเพศรสจนมัวเมาหรอกหรือ
และถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ฝ่าบาทจะไม่เป็นที่เทิดทูน
มีแต่ให้ชนรุ่นหลังจดจำว่าทรงเป็นพระราชาที่เลอะเลือน
เห็นแก่อิสตรีจนละเลยต่อบทบาทหน้าที่ โดยเฉพาะหม่อมฉัน ขอเตือนในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง
ที่มีความหวังดีต่อฝ่าบาท ได้โปรด อย่าทรงมองข้ามความรัก
ที่พระมเหสีทรงมีต่อฝ่าบาทอีก"




คำพูดของคิมชูซอนทำให้พระเจ้าซองจงทรงคิดอย่างหนัก
และพระองค์ก็ทรงเห็นด้วยกับคำพูดของคิมชูซอน
พระเจ้าซองจงทรงนำบทกลอนที่วีตงถวายพระองค์ออกมา
จากนั้นพระเจ้าซองจงก็ทรงทอดถอนพระทัยด้วยความอาลัย
พระมเหสีโซฮวาทรงตระหนักดีว่าการที่คิมชูซอน
เสี่ยงตายทูลถวายคำแนะนำพระเจ้าซองจง นั้นด้วยเป็นห่วงพระนางยิ่งนัก
พระเจ้าซองจงทรงมีพระบัญชาให้ใต้เท้าซังตังและขุนนางใหญ่ทั้งหลายบริจาคทรัพย์สิน
ให้ความช่วยเหลือพสกนิกรที่ทุกข์ยาก
พระเจ้าซองจงเข้าเฝ้าพระพันปียินซูและพระอัยยิกาจองฮีพร้อมด้วยพระมเหสียุนโซฮวา
"ฝ่าบาท ชุงจอน ดั่งคำว่าครอบครัวเป็นรากฐานของบ้านเมือง ถ้าพวกเจ้าทั้งสอง
มีความรักใคร่ปรองดอง ราชสำนักถึงจะสงบ และความมั่นคงของบ้านเมือง
ก็เกิดจากความสามัคคีของราชสำนักเป็นสำคัญ" พระอัยยิกาจองฮีตรัส
"หม่อมฉันทำให้ทรงเป็นห่วง ขออภัยด้วยเพคะ"
พระพันปียินซูทูลพระเจ้าซองจงที่ทรงเงียบ "ฝ่าบาท ทำไมไม่ทูลตอบล่ะ"
"เสด็จแม่ โอซังกุงเป็นแม่นมที่เลี้ยงหม่อมฉันมาแต่เล็กจนโต
ทำไมเสด็จแม่ไม่มาปรึกษากับหม่อมฉันซักคำ ก็ถือวิสาสะไล่นางออกไปซะแล้ว"
"เจ้าสนิทกับโอซังกุงมาก ผูกพันมาแต่เล็ก ข้อนี้แม่ก็เข้าใจดี
ถึงขนาดรักนางยิ่งกว่าแม่แท้ๆ ของตัวเองด้วยซ้ำ แต่การที่ให้นางออกจากวังคราวนี้
เพื่อต้อง การให้ยุติข้อครหาเกี่ยวกับการที่ชุงจอนออกนอกวังไป
ฉะนั้นนับแต่นี้เลิกเอ่ยถึงโอซังกุงซะที"
"แต่ว่า"
พระอัยยิกาจองฮีทรงตัดบท
"การตัดสินใจของแม่เจ้าคราวนี้ถือว่าถูกแล้ว
ทีหลังแม้แต่เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องออกไปเยี่ยมราษฎรด้วยตัวเองอีก
แค่ฟังรายงานจากเหล่าขุนนางก็พอ ส่วนชุงจอนก็ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี
ขอเพียงพวกเจ้าคืนดีเหมือนแต่ก่อน ข่าวลือในวังก็จะหมดไปเอง"
"หม่อมฉันจะจำไว้พ่ะย่ะค่ะ"
"หม่อมฉันเอง
ก็ได้ทบทวนความผิดที่ทำอะไรวู่วามเกินเหตุ ต่อไปจะระวังตัวให้มาก
ไม่ให้เกิดซ้ำอีกเพคะ"
"ดีมาก เมื่อพวกเจ้าต่างให้สัญญา ข้าก็จะได้วางใจหน่อย"
พอออกจากตำหนัก พระเจ้าซองจงตรัสกับพระมเหสียุนโซฮวา
"เฮ่อ คราวก่อนข้า
ใช้คำพูดรุนแรงไปหน่อย ชุงจอน เจ้าอย่าโกรธเลยนะ"
"หม่อมฉัน
จะพยายามลืมเรื่องนี้ไปซะ ฝ่าบาทก็อย่าทรงใส่พระทัยอีก"
องค์ชายน้อยเสด็จมา
"เสด็จพ่อ"
"อึ๊บ จะมาเข้าเฝ้าเสด็จย่าหรือลูก"
"พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ"
"วอนจา แม่เคยบอกว่าให้เดินดีๆ ห้ามวิ่งไงล่ะจ๊ะ นิสัยใจร้อนของเจ้า
ไม่รู้เหมือนใครกันแน่"
"หม่อมฉัน ดีใจที่เห็นเสด็จพ่อกับเสด็จแม่อยู่ด้วยกัน
เลยรีบวิ่งมาหาน่ะพ่ะย่ะค่ะ"
"เอาเถอะลูก ทีหลังก็เชื่อฟังเสด็จแม่หน่อย
อย่าให้นางเป็นห่วงอีกล่ะ"
"ทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ"
"แหม
ดูเหมือนลูกเราจะโตขึ้นเยอะนะนี่ ตั้งใจเรียนหนังสือกับท่านครูหรือเปล่า"
"พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉัน จะเป็นพระราชาที่ดีเหมือนเสด็จพ่อ
ห่วงใยราษฎรด้วยพ่ะย่ะค่ะ"
"ดีมากลูก งั้นก็ต้องตั้งใจเรียนหนังสือ
หาความรู้ใส่ตัวเยอะๆ ล่ะ"
"พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันเข้าใจแล้ว"
"เก่งมากลูก"
จากนั้นพระพันปียินซูก็ทรงมีรับสั่งประชุมตำหนักหลัง
พระนางทรงตำหนิทุกคนเป็นการใหญ่
"หึ สนมออม ถ้าไม่ได้เจ้ามารายงานเรื่องนี้
ป่านนี้ข้าก็เหมือนถูกปิดหูปิดตา และอาจทำให้เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายไปอีก"
สนมออมชอบใจ "หึ หามิได้เพคะ หม่อมฉัน เพียงแต่ทำตามหน้าที่ตัวเองเท่านั้น"
"การเอาเรื่องไม่ดีของพระมเหสีมาเปิดเผย ถือเป็นหน้าที่ของสนมงั้นหรือ
ถ้านางทำผิดจริง ไม่ควรรีบมาฟ้องข้า แต่ให้ฟังนางอธิบายก่อน ถ้าคิดว่าไม่สมเหตุสมผล
ก็ให้นางมาพูดกับข้าด้วยตัวเองถึงจะถูกจริงมั้ย เป็นแค่สนมเล็กๆ
ถึงกับกล้าตำหนิพระมเหสีแถมยังมาฟ้องข้าอีก สนมออม ถ้าเจ้าไม่ให้ความเคารพนางบ้าง
ข้าก็จะลงโทษเจ้าเหมือนกัน"
"พระพันปี หม่อมฉันสำนึกผิดแล้วเพคะ"
"สนมคนอื่นก็เหมือนกัน จงจำไว้ให้ดี ทีหลังไม่ว่ายังไงก็ช่าง
ห้ามก้าวร้าวถึงพระมเหสีและต้องให้เกียรตินางตามสมควรล่ะ"
"ทราบแล้วเพคะ"
สนมซุกไปเข้าเฝ้าพระมเหสียุนโซฮวา ปลอบใจว่า
"เรื่องส่วนพระองค์ของฝ่าบาท
พระมเหสีก็ทรงปล่อยวางบ้างเถอะเพคะ ฝ่าบาทไม่ใช่คนที่หลงอะไรง่ายๆ
ไม่นานก็คงตาสว่างและกลับตัวกลับใจได้"
"เจ้าเองก็เป็นสนมของฝ่าบาท
ทำไมถึงใจกว้างขนาดนี้ ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ"
"หม่อมฉันรู้แต่ว่า
ผู้ชายยิ่งตามติด เขาจะยิ่งหนีไปไกล ฉะนั้นถ้าเราอยู่เฉยๆ รอให้เขากลับมาเอง
น่าจะดีมากกว่านะเพคะ"
"ข้าก็เชื่อว่าฝ่าบาท ซักวันคงกลับตัวกลับใจ แต่ว่า
เรื่องของความรักความใคร่ ไม่ใช่นึกจะกลับตัวก็กลับได้ทันที
ตราบใดที่สองฝ่ายยังมีความอาลัยอาวรณ์ต่อกันอยู่
ใครจะบอกได้ว่าถ่านไฟเก่าจะไม่คุขึ้นมาอีก นี่คือสิ่งที่ข้าเป็นห่วง"
พระเจ้าซองจงให้คนไปตามคิมชูซอนมาเฝ้า
"ชูซอน ข้าจะออกนอกวังไปอีก
ข้ามีเรื่องบางอย่างจะพูดกับออลูตง"
"คราวนี้ แม้จะถูกลงโทษฐานขัดพระบัญชา
หม่อมฉันก็เห็นจะทำตามรับสั่งไม่ได้อีก"
"ข้าจะไปบอกเลิกนางให้เป็นเรื่องเป็นราว และเอาผ้าผืนนี้ไปคืนด้วย
เพื่อบอกนางว่า เราสองคนสิ้นสุดกันที"
"ฝ่าบาท เป็นความจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ"
"อึม ข้าตัดสินใจแล้วว่า ต่อไปจะไม่ไปหานางอีก"
คิมชูซอนปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
ออลูตงเศร้าโศกเสียใจยิ่งนักที่พระเจ้าซองจงทรงตัดขาดความสัมพันธ์กับนาง
"ข้าตั้งใจเอาของสิ่งนี้มาคืนให้ นายข้าให้มาบอกว่า
คุณหนูกับเขาถือว่าหมดวาสนาต่อกันแล้ว"
"ไม่มาก็ไม่เห็นจะว่าอะไร
ทำไมต้องเอาสิ่งแทนใจมาคืนด้วย นายเจ้าก็ช่างใจร้าย ตัดรอนข้าได้ถึงขนาดนี้
มันก็จริง เรื่องบางอย่างที่ฉาบฉวย จะเอาความยั่งยืนอะไรนักหนา ไปบอกเขาว่า
ข้าได้รับสิ่งของเรียบร้อยแล้ว"
"คุณหนู ถ้าไงเชิญท่าน ไปจากเมืองหลวงได้ไหม"
"อะไรนะ พูดแบบนี้หมายความว่าไง"
"ตราบใดที่คุณหนูยังอยู่นี่
ข้าเชื่อว่านายข้า คงไม่อาจลืมคุณหนูได้ และซักวันก็จะมาหาอีก เพราะฉะนั้น
ให้ท่านไปจากเมืองหลวงดีกว่า"
"ทำไมต้องบังคับข้าให้ทำตามใจเจ้าด้วย"
"นี่เป็นการขอร้องอย่างจริงใจต่างหาก"
"ข้าน่ะ
ชาตินี้จะไม่มีวันไปอยู่ไหนทั้งนั้น ถ้าเจ้าห่วงนายมาก ก็สู้พาเขาไปจากเมืองหลวง
ยังจะง่ายซะกว่า"
"คุณหนูก็รู้อยู่ว่า นายข้าไม่มีทางไปจากเมืองหลวงได้
ไม่ว่าด้วยเหตุอะไรก็ตาม ป่านนี้คุณหนู น่าจะพอเดาออกว่า
ฐานะที่แท้จริงของนายข้าคืออะไรกันแน่ ถ้าให้คนอื่นรู้ถึงความสัมพันธ์นี้ นายของข้า
จะตกอยู่ในภาวะลำบากทันที ฉะนั้นถ้าคุณหนูมีความจริงใจต่อนายข้าบ้าง
ก็ขอให้รับปากโดยเร็ว เพราะนี่คือ ความหวังดีที่มีต่อคนรัก โดยการเสียสละเพื่อเขา
คิดว่าคุณหนูน่าจะไตร่ตรองข้อเสนอของข้า หมดเรื่องแล้ว ข้าต้องขอตัวก่อน"
เวลาเดียวกันนี้ จีโกบีก็ถูกชองฮันซูจับตัวมาสอบสวน
จากนั้นชองฮันซูก็มาปรึกษากับโชชิคยอม
"คนร้าย ยอมรับผิดแล้วหรือยัง"
"แม้จะยอมรับความผิดที่ก่อ แต่เจตนาของเขา ดูต่างจากที่เราคาดการณ์ไว้มาก
ถ้าคำให้การของ จีโกบี เป็นความจริง แล้วเราจะทำไงดีครับ
ไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่เชื้อพระวงศ์ และขุนนางชั้นสูงก็ถูกผู้หญิงคนนี้ปั่นหัว
ความสามารถของผู้หญิงคนนี้ถือว่าไม่ธรรมดาน่ะครับ"
"เรื่องนี้มีปัญหาที่ว่า
เกี่ยวพันหลายฝ่ายจนยากจะปิดบัง ถ้าเรื่องของออลูตง
ให้ขุนนางหรือแม้แต่ราษฎรรู้เข้า ทีนี้อย่าว่าแต่ราชสำนัก แม้แต่เมืองหลวง
ก็จะมีผลกระทบ จนก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างมาก ฮันซู ตอนนี้กรมมหาดเล็ก
มีงานสำคัญที่สุด คือปกปิดเรื่องของฝ่าบาทกับออลูตงให้เงียบ
อย่าได้แพร่งพรายแม้แต่น้อย ที่สำคัญ จากคำให้การของจีโกบี ยังมีใครพัวพันอีกบ้าง
เอารายชื่อมาให้ข้า"
"ทราบแล้วครับไต้เท้า แต่ว่า เราจะทำไงกับจีโกบีดีครับ"
"เขารู้ฐานะที่แท้จริง ของฝ่าบาทแล้วไม่ใช่หรือ"
"งั้นข้ารู้ว่าควรจัดการยังไง"
วอฮามาหาโอซังกุงที่บ้าน
โอซังกุงบอกเล่าให้วอฮาฟังว่า
"บ้านหลังนี้ เห็นบอกว่าสมัยก่อนข้าเคยอยู่มา
ใต้เท้าโชเลยหวังว่า เมื่อข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว
อาจช่วยให้ฟื้นฟูความจำบ้างไม่มากก็น้อยน่ะค่ะ"
"ใต้เท้าโชหวังดีต่อท่านถึงขนาดนี้ นับว่าเป็นคนที่หายากนะคะ"
"หึ
ถ้าไม่มีใต้เท้าละก้อ ป่านนี้ข้าคงไม่ได้อยู่ในโลกนี้อีก หึ เลยไม่รู้ว่า
จะตอบแทนบุญคุณเขายังไงดี แต่ว่า บางครั้งข้าก็ ไม่อยากให้ตัวเองมีความจำฟื้นคืน
เพราะกลัวที่จะต้องรับรู้ว่า เมื่อก่อนตัวเองเป็นคนแบบไหน ดีหรือชั่วก็ไม่รู้"
"นิสัยคนเราไม่เปลี่ยนง่ายๆ หรอกค่ะ ข้าเชื่อว่าสมัยก่อน ท่านก็เป็นคนอ่อนโยน
ไม่ต่างกับทุกวันนี้แน่นอน"
"โอซังกุง" คิมชูซอนเรียก
"ทำไมรู้ว่าข้าอยู่ที่นี่ล่ะ" โอซังกุงถามอย่างแปลกใจ
"ข้าถามท่านกึมพยอน่ะครับ เลยรู้ว่านายหญิงมาอาศัยอยู่บ้านหลังนี้"
"หมู่นี้พระมเหสีทรงเป็นไงบ้าง"
"พระพันปีทรงช่วยไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย
ฝ่าบาทก็เริ่มได้คิด ไม่กล้าเสด็จไปไหนอีก ทำให้เหตุการณ์ค่อยดีขึ้นน่ะครับ"
"เฮ่อ ทุกครั้งที่นึกถึงว่าพระมเหสีเหมือนต่อสู้อยู่เพียงลำพังพระองค์เดียว
ข้าก็อดเป็นห่วงไม่ได้"
"ข้าจะเป็นตัวแทนท่าน ถวายการดูแลพระมเหสีอย่างดี
ไม่ต้องห่วงหรอกครับ"
"ขอบใจมาก ขอเพียงมีเจ้าอยู่กับพระมเหสี
ข้าก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอีก เพราะข้าเชื่อใจเจ้าเสมอ"
สองแม่ลูกออกจากบ้านโอซังกุงมาพร้อมกัน วอฮาถามลูกชายว่า
"หมู่นี้รู้สึกเจ้าผอมไปเยอะนะ ทำงานในวังลำบากมากหรือไง"
"การติดตามเป็นเงาของพระราชา บางครั้งเราก็รู้สึกหมดคุณค่าในตัวเองน่ะครับ
ข้าทำให้ท่านแม่ คอยเป็นห่วงอยู่เรื่อย ต้องขอโทษด้วย"
"เราเป็นแม่ลูก
ทำไมต้องเกรงใจขนาดนี้ด้วยล่ะ"
"เฮ่อ แค่ได้มาระบายกับท่าน
ข้าก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอกครับ เฮ่อ"
พอกลับถึงวังหลวง
คิมชูวอนก็ถูกพระมเหสียุนโซฮวาเรียกมาถามว่าการที่เขายอมเป็นขันทีเพื่ออะไร
คิมชูซอนบอกว่าเพราะเคยสัญญากับใต้เท้าโชว่าจะเป็นลูกบุญธรรมของเขา
พี่ชายของพระมเหสียุนโซฮวาไม่พอใจที่น้องสาวถูกนอกใจ
ด้วยเหตุนี้จึงเข้ากับใต้เท้าซังตังโดยบอกใต้เท้าซังตังว่าการที่พระเจ้าซองจง
เสด็จออกจากวังหลวงนั้นพระองค์เสด็จไปหาออลูตง
ใต้เท้าซังตังตกใจและดีใจเมื่อรู้ความจริงเช่นนั้น
ซอยองไปหาออลูตง
ออลูตงแปลกใจถามว่ามีธุระอะไร
"ข้าชื่อซอยองค่ะ ข้าก็เหมือนคุณหนู
เป็นผู้หญิงที่ถูกมองข้าม ถูกใครต่อใครหยามเหยียดไม่ให้ความสำคัญ
ข้าออกจากเมืองหลวง ไปอยู่ในชนบทสามปี ไม่นึกว่าพอกลับมาถึง
ชื่อออลูตงก็โด่งดังจนได้ยินทุกวัน หึๆ และสมคำร่ำลือนัก พอเห็นหน้าเจ้า
ถึงรู้ว่าทำไมใครต่อใครถึงหลงใหล บางคนถึงขนาดยอมตายด้วยซ้ำ"
"สรุปแล้วที่มานี่
มีเรื่องอะไรกันแน่"
"ได้ยินว่าคุณชายลี เป็นเพื่อนสนิทกับคุณหนูใช่ไหม
ท่านเป็นคนฉลาด ป่านนี้คงพอเดาออกว่า จริงๆ แล้วเขาเป็นใครกันแน่"
"แม่นาง
เจ้าจะบอกอะไรข้ากันแน่"
"ตอนนี้เหล่าขุนนาง พยายามหาเบาะแสเกี่ยวกับเรื่องนี้
เพื่อให้ฝ่าบาททรงยอมจำนน เชื่อว่าอีกไม่นานเพื่อให้ฝ่าบาท ยอมอยู่ใต้อำนาจ
พวกเขาต้องมาจับเจ้าแน่"
"ถ้ามาเพราะเรื่องนี้ละก้อ ไม่ต้องห่วง
ข้าจะไปจากเมืองหลวงก็ได้"
"คิดว่า การหลบหนีคือวิธีแก้ปัญหางั้นหรือ"
"เดิมข้าเกิดในตระกูลขุนนาง แต่งงานกับเชื้อพระวงศ์
ดูผิวเผินเหมือนชีวิตจะราบรื่น แต่สุดท้ายก็ถูกสามี และครอบครัวเขาขับไล่ไสส่ง
จนมาถึงวันนี้ ข้าได้รู้จักพระราชา จนถึงไพร่ชั้นต่ำ ทุกคนล้วนหลงใหลในตัวข้า หึ
ถึงไปจากเมืองหลวงก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว"
"แต่ถ้าคุณหนูจากไปคราวนี้
ไม่แน่ว่าชาตินี้อาจไม่ได้กลับมาอีก ถึงจะไปจริง
ก็ควรอำลาฝ่าบาทซักครั้งไม่ใช่หรือคะ"
"พระองค์ทรงตัดขาดกับข้า
แม้แต่สิ่งแทนใจก็ให้เด็กเอามาคืน หรือต่อให้ตอนนี้เรายังมีเยื่อใยต่อกันอยู่
แล้วเจ้าคิดว่าข้าจะสามารถเข้าวังหลวง ไปพบฝ่าบาทได้หรือเปล่า"
"ถ้าคุณหนูมีจดหมายให้ข้า ก็อาจได้พบฝ่าบาท"
ซอยองบอกชองฮูหยินว่าโชชิคยอมให้ที่พักพิงโอซังกุง จากนั้นนางก็ไปหาสนมออม
ซอยองบอกสนมออมว่านางมีหนทางทำให้สนมออมเป็นพระมเหสี
"พระสนม
ไม่ทราบทรงสำราญดีมั้ยเพคะ"
"หึ สามปีก่อน จู่ๆ เจ้าก็หายสาบสูญไปซะอย่างงั้น
อยู่ไหนก็ไม่ส่งข่าวซักนิด แล้วนึกยังไงถึงมาพบข้าอีก"
"หึ
หม่อมฉันทำเพราะความจำเป็นน่ะเพคะ แต่ว่า
ดูเหมือนพระสนมจะมีพระพักตร์เคร่งเครียดหรือเปล่า"
"เฮ่อ
ข้าต้องเป็นเบี้ยล่างพระมเหสี ไหนจะมีสนมอื่นตั้งครรภ์แซงหน้าอีก
อย่าว่าแต่เป็นคนโปรดเลย ทุกวันนี้ แค่จะเฝ้าฝ่าบาทซักครั้งยังยากด้วยซ้ำ"
"หม่อมฉัน ก็ตั้งใจจะมาแก้ปัญหาให้พระสนมนี่แหละ"
"หึ เจ้ามีความสามารถอะไร
แก้ปัญหาให้ข้าได้หรือ"
"ช่วยให้พระสนม เป็นเจ้าของตำหนักแคเทให้ได้"
"อะไรนะ ตอนนี้พระมเหสียังอยู่ เจ้ากล้ามาพูดเหลวไหลเชียวหรือ ต่อไปนี้
ไม่ว่าเจ้าจะมาเป่าหูยุยงอะไรก็ช่าง ข้าก็ไม่หลงเชื่ออีกแล้ว"
"บ้านเมืองเรา
สิ่งที่ถือเคร่งครัดที่สุด คือจารีตประเพณีอันดีงาม หม่อมฉันได้ยินว่าพระมเหสี
ทรงหึงหวงที่ฝ่าบาทมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่น ถึงขนาดออกนอกวังไปตามหาด้วยซ้ำ
ความอิจฉาของผู้หญิง เป็น 1 ใน 7 ข้อห้ามซึ่งถือว่าผิดร้ายแรง
อาจถึงขั้นถูกปลดจากตำแหน่งนะเพคะ"
"อะไรนะ"
"ขอเพียงทรงฟังหม่อมฉันอีกครั้ง รับรองว่าพระสนม
อีกไม่นานได้ขึ้นเป็นพระมเหสีอย่างแน่นอน"
จากนั้นสนมออมก็ให้ฮุงบีนำเครื่องเสวยไปให้พระเจ้าซองจง พร้อมจดหมายของออลูตง
"หม่อมฉัน รู้สึกขอบพระทัยนัก ที่ฝ่าบาททรงใช้ความจริงใจมากกว่ายศศักดิ์
มาเอาชนะใจหม่อมฉัน คนที่หม่อมฉันรักนั้น ไม่ใช่พระราชา หากแต่เป็นคุณชายลีต่างหาก
หม่อมฉัน จะไม่มีวันลืม คุณชายลี ที่แสนจะมีน้ำใจคนนั้น อีกไม่นาน
หม่อมฉันจะไปจากเมืองหลวงแล้ว แต่ก่อนออกเดินทาง ถ้าเป็นไปได้
หม่อมฉันอยากพบฝ่าบาทอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตของคนที่มาจับผิดหม่อมฉัน
จึงหวังว่าคืนนี้จะได้เข้าวังไปพบฝ่าบาทซักครั้ง ถ้าทรงรับปากตามคำขอ
ก็ขอให้ตอบจดหมายของหม่อมฉัน โดยเร็วที่สุด"
พระเจ้าซองจงถามว่าฮุงบีเป็นคนสนิทของสนมออมหรือ จากนั้นก็ตอบฮุงบีว่ารับปาก
พอซอยองรู้เรื่องก็รีบส่งข่าวบอกออลูตง นางดีใจมาก
ด้านกึมพยอรู้ว่าซอยองเป็นคนพาออลูตงเข้ามาในวังหลวงเพื่อให้พบกับพระเจ้าซองจงก็รีบรายงานโชชิคยอม
เวลาเดียวกันนี้ พระพันปียินซูก็ทรงเรียกพระมเหสียุนโซฮวามาอบรม
"ความรู้สึกของเจ้า ที่ต้องแบ่งปันสวามี
ร่วมกับสนมอีกนับสิบในวัง,มีหรือข้าจะไม่เข้าใจ หึ เพราะข้าก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน
ที่สำคัญตอนนี้ฝ่าบาท ยังไปผูกสัมพันธ์กับผู้หญิงที่อยู่นอกวังอีก แล้วเจ้า
จะไม่รู้สึกรู้สมบ้างก็คงจะผิดมนุษย์ไปหน่อยน่ะนะ แต่ว่าชุงจอน การเป็นพระมเหสีนั้น
ยังรวมถึงพระแม่แห่งแผ่นดิน ฐานะสูงส่งเป็นที่เทิดทูนนัก ซึ่งตำแหน่งนี้
ไม่ใช่ใครก็ได้ จะมาแทนที่หรือมีวาสนาได้ครอบครอง จึงต้องใช้ความอดทนและหนักแน่น
คำนึงถึงพระเกียรติของสวามีมาก่อน"
"หม่อมฉันก็เข้าใจดีเพคะ"
"อีกอย่างที่ต้องจำไว้ คือเจ้าเป็นเสาหลักของราชวงศ์
มีหน้าที่ในการให้กำเนิดทายาทเพื่อสืบสันตติวงศ์ต่อ
ซึ่งถือเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุด"
"คำสอนของพระพันปี หม่อมฉันจะจำไว้เพคะ"
"อึม ข้าจึงอยากให้เจ้า จงเปิดใจให้กว้าง ให้อภัยในความผิดพลาดของฝ่าบาท
ซึ่งถือว่าพลั้งเผลอไปบ้าง ขอเพียงเจ้ารู้จักอดทนและอดกลั้นให้มาก เชื่อว่าซักวัน
ฝ่าบาทต้องเห็นในความดีของเจ้าอย่างแน่นอน เฮ่อ เอานี่ไป
ทุกครั้งที่รู้สึกไม่สบายใจหรือว้าวุ่น ก็ให้ถือลูกประคำนี้
สวดมนต์นั่งสมาธิให้จิตสงบเถอะนะ หึ เรื่องแบบนี้ข้าเชื่อว่าเจ้าน่าจะรับมือได้
คงไม่ยากนักหรอก"
พระเจ้าซองจงมาตามที่นัดหมายและบอกให้มหาดเล็กถอยไป
อ้างว่าทรงอยากอยู่ตามลำพัง เวลาเดียวกันนี้พระมเหสียุนโซฮวามาถามหาพระเจ้าซองจง
และรู้ว่ามหาดเล็กปล่อยให้พระเจ้าซองจงอยู่เพียงพระองค์เดียวก็จะเข้าไปเฝ้า
จบ 38


คิมชูซอน 39

พระเจ้าซองจงและออลูตงกอดกันด้วยความถวิลหา
"ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน"
"ฮือ หม่อมฉันก็เช่นกัน คิดถึงฝ่าบาทนัก ฮือ"
"ข้าพยายามจะลืมเจ้าให้ได้ แต่ความรักความคิดถึงที่มีต่อเจ้า
ไม่อาจลบเลือนได้เลย"
"หม่อมฉัน มีโอกาสได้พบฝ่าบาทอีกครั้ง
ก่อนจะไปจากเมืองหลวง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว"
"เจ้าจะไปจากเมืองหลวงหรือ
ทำไมถึงจะไปซะล่ะ"
"มันเป็นวิธี ที่ดีต่อฝ่าบาทและหม่อมฉันด้วยเพคะ หึ ขอฝ่าบาท
ทรงลืมหม่อมฉันซะเถอะ"
"ไม่ได้ ข้าลืมเจ้าไม่ลงหรอก"
"อย่าให้เป็นเพราะหม่อมฉัน ทำให้ฝ่าบาททรงวางพระองค์ลำบากอีกเลยเพคะ"
"ข้าสามารถปกป้องเจ้าได้ ขอให้เจ้าเชื่อข้าสิ อีก 3 วันในเวลาเที่ยงคืน
เจ้าไปรอที่ศาลาหลังเดิม ถึงตอนนั้นข้าจะไปหาเจ้า รับปากเร็วเข้า ถ้าเจ้าไม่มา
ข้าจะรอ จนกว่าจะได้เห็นหน้าเจ้า"
"หม่อมฉันรับปากฝ่าบาทเพคะ"
"ขอบใจมาก"
พระมเหสีโซฮวาซึ่งแอบสะกดรอยตามพระเจ้าซองจง
นั้นทรงโทมนัสยิ่งนักเมื่อทอดพระเนตรเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พระมเหสีโซฮวาทรงเป็นลมหมดสติและตกเลือด คิมชูซอน เห็นเช่นนั้นจึงเข้าไปประคอง
จากนั้นก็ทูลให้พระนางทรงเข้มแข็งและพากลับตำหนัก
ยางซองยุนรีบมาดูอาการของพระมเหสียุนโซฮวา โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
ซอยองนัดพบออลูตง ออลูตงไม่เข้าใจว่าซอยองเป็นใครและช่วยนางด้วยเหตุผลอะไร
"หึ ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใครละก้อ คุณหนูลองมองตัวเองดูก็ได้ เพราะเราสองคน
มีหลายอย่างที่คล้ายกันมาก เราต่างเป็นผู้หญิง
และเกิดมาในยุคศักดินาผู้ชายครองเมือง ในขณะที่ผู้หญิงเป็นเพียงของเล่น
เจ้าคิดปั่นหัวผู้ชายทั้งโลก หลอกให้หลงแล้วทิ้งขว้างเพื่อระบายความแค้น
ข้าก็เหมือนกัน ทำทุกอย่างเพื่อระบายความเจ็บแค้นในใจ ฉะนั้น
เราสองคนจึงเป็นหัวอกเดียวกัน และข้าก็อยากช่วยเหลือ คิดว่าเป็นไงคะ ถือโอกาสนี้
เรามาคบกันเป็นเพื่อนดีมั้ยล่ะ"
"ถ้าจะเป็นเพื่อน
เห็นชัดว่าเจ้ามีคมดาบที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง แล้วจะให้ข้าไว้ใจได้ยังไง"
"หึ
ข้าจะเป็นเพื่อนที่ดี หรือเพื่อนที่คิดปองร้ายกันแน่ วันหลังคุณหนูจะรู้เอง ถ้าไง
วันนี้คงต้องขอตัวก่อน หึ ช่วงนี้ทางการจะส่งคนมาตามจับเจ้า ทางที่ดี
ก่อนฟ้าสางหาที่หลบภัยซะดีกว่า ไม่งั้น เจ้าอาจได้ไปพบฝ่าบาทในเรือนจำก็ได้ หึ"
โชชิคยอมสอบถามถึงเหตุผลที่ซอยองเป็นตัวกลางให้พระเจ้าซองจง และออลูตงพบหน้ากัน
"ถ้าออกจากเมืองหลวงคราวนี้ ข้าเชื่อว่านาง ชาตินี้คงไม่ได้กลับมาอีกแน่
เพราะฉะนั้น จึงอยากให้นางได้พบคนรักเป็นครั้งสุดท้ายน่ะค่ะ ไม่มีเจตนาอื่นเลย"
"หึๆๆ งั้นหรือ ปกติเจ้าใจแข็งยังกะอะไร
รู้จักเห็นใจความรักของคนอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับตัวเอง
ถึงขนาดพาออลูตงเข้าวังเชียวหรือ"
"จริงๆ แล้ว
เพราะข้าอยู่ในแวดวงของมหาดเล็กมาตั้งแต่เด็ก
จึงไม่รู้ว่าอะไรคือความรักของหนุ่มสาว และไม่เคยประสบด้วยตัวเอง แต่ว่า
งไงข้าก็เป็นคนเหมือนกัน อย่างน้อยความจริงใจระหว่างชายหญิงคู่หนึ่งที่มีให้แก่กัน
ข้าก็พอรู้บ้างล่ะค่ะ"
"เอาเถอะ ถือว่าข้าเชื่อคำพูดของเจ้า แต่ว่า
ถ้าเจ้าคิดทรยศต่อข้า มีเจตนาอื่นแอบแฝงละก้อ เจ้าจะไม่ได้อายุยืนแน่"
"สุนัขที่ดี จะไม่แว้งกัดเจ้าของที่เลี้ยงมันมา เรื่องนี้
ขอให้ท่านเชื่อข้าได้"
ซอยองไปหาชองฮันซู
ซอยองเปิดเผยความจริงให้ชองฮันซูรู้ว่านางเป็นฆาตกรฆ่าใต้เท้าโน จากนั้น
ซอยองก็เตือนสติชองฮันซูว่าจะเร็วหรือช้าก็ต้องเกิดความวุ่นวายในวังหลวงอย่างแน่นอน
ขอให้ชองฮันซูช่วงชิงความเป็นใหญ่ในกรมมหาดเล็กมาให้ได้
"ข้าคิดแล้วว่า
ต่อไปจะไม่เป็นหุ่นเชิดโง่ๆ ให้เจ้าบงการชีวิตอีก" ชองฮันซูว่า
"ที่บงการท่านไม่ใช่ข้า ดูให้ดีซะก่อน มันเป็นกิเลสในใจท่านต่างหาก
ที่ข้าวางยาฆ่าไต้เท้าโน เพื่อแลกกับความอยู่รอดของท่าน
เพราะเห็นแก่ความมักใหญ่ใฝ่สูงที่ท่านมีมานาน"
"หึ บอกมาซิ
เจ้าต้องการอะไรจากข้ากันแน่"
"ขอเพียงเราสองคนร่วมมือกัน
ซักวันจะได้ควบคุมทั้งกรมมหาดเล็กและตำหนักใน ถึงตอนนั้นเมื่อไหร่ อำนาจจะไปไหนเสีย
นอกจากเป็นของเราสองคนเท่านั้น ข้ามองว่าท่านคือคนที่เหมาะจะร่วมงานกับข้า
และเชื่อว่า จนวันนี้ข้ายังดูคนไม่ผิด"
พระเจ้าซองจงเสด็จมาดูอาการของพระมเหสียุนโซฮวา
"ชุงจอน
ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ย"
"หม่อมฉันทำให้ทรงเป็นห่วง ขออภัยด้วยเพคะ"
"เจ้ารู้หรือว่าข้าเป็นห่วงขนาดไหนน่ะ"
"หม่อมฉันไปหาฝ่าบาทที่อุทยาน
แต่เพราะทางมันมืด ก็เลยหลงทางน่ะเพคะ"
"หึ แล้วมีเรื่องด่วนอะไรนัก
เจ้าถึงไม่มีผู้ติดตามซักคน ต้องไปหาข้าที่อุทยานคนเดียวน่ะ
ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกนะ"
"ดูเหมือนนี่ก็ดึกมากแล้ว เชิญฝ่าบาทกลับตำหนักใหญ่
ไปบรรทมเถอะเพคะ"
"งั้นก็ได้ เจ้าก็พักผ่อนให้มากเหมือนกัน นาซังกุง
ต่อไปต้องดูแลพระมเหสีให้ดี ห้ามบกพร่องอีกล่ะ"
"ซองจง ชูซอน
ดีที่เมื่อกี้เจ้าอยู่กับพระมเหสีด้วย ไม่อย่างงั้น นางกับทารกในครรภ์
อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันก็เป็นได้"
"ฝ่าบาท ทรงลืมออลูตง
ได้จริงหรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ"
"ข้าให้เจ้าไปคืนผ้าผืนนั้น
เป็นการบอกลาแล้วไม่ใช่หรือ"
"ฝ่าบาททรงลืมได้จริงหรือ"
"อะไรกันนี่
แปลว่าเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าหรือไง"
"หึ มิได้พ่ะย่ะค่ะ งั้นหม่อมฉัน
ขอทูลลาก่อน"
ภรรยาของโชชิคยอมบุกไปไล่โอซังกุงให้ออกจากวังหลวง
แต่โอซังกุงไม่ยอมไป จึงโดนทำร้าย โชคดีที่ยุนฮูหยินกับวอฮามาหาและช่วยไว้
โชชิคยอมเข้าเฝ้าพระเจ้าซองจง โชชิคยอมทูลพระเจ้าซองจง
ว่าใต้เท้าซังตังบริจาคทรัพย์สินช่วยเหลือพสกนิกรทุกข์ยากโดยง่ายนั้นสร้างความประหลาดใจให้ผู้คนยิ่งนัก
"ฝ่าบาท ใต้เท้าซังตัง ไม่ใช่คนที่กล้าฝืนกระแส
แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมขาดทุนง่ายๆ เช่นกัน ป่านนี้คงกำลังคิดอยู่ว่า จะมีหนทางไหน
สามารถขัดพระบัญชาของฝ่าบาทได้"
"งานนี้ทำเพื่อราษฎร
ช่วยให้พวกเขาพ้นจากความอดอยาก ข้าไม่กลัวใครมาคัดค้านหรอก"
"ฝ่าบาท
เรื่องเกี่ยวกับออลูตง ไม่ทราบว่าจะทรงดำเนินการยังไงพ่ะย่ะค่ะ"
"ออลูตงหรือ"
พระเจ้าซองจงตกพระทัยนิดๆ
"ได้ยินว่าเมื่อคืนนี้ ฝ่าบาททรงอนุญาต
ให้นางมาพบในวังใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ"
"หึ ท่านรู้ด้วยหรือ"
"หม่อมฉันอยู่ข้างนอกยังรู้ขนาดนี้ คนในวังจะไม่รู้ก็คงน่าแปลก
หากเป็นอย่างงั้นจริง ฝ่าบาทจะถุกเหล่าขุนนางวิพากษ์วิจารณ์
ถึงขั้นตำหนิการกระทำด้วยซ้ำฝ่าบาท ให้ผู้หญิงคนนี้ออกจากเมืองหลวงเถอะพ่ะย่ะค่ะ
มีแต่ทางนี้เท่านั้น ถึงจะสามารถปกป้อง พระเกียรติและบัลลังก์ของฝ่าบาทไว้ได้"
"บัลลังก์ข้ามั่นคงอยู่แล้ว แค่ผู้หญิงคนเดียวจะทำให้สั่นคลอนได้ยังไง"
"บ้านเมืองของเรา มีศีลธรรมจรรยาเคร่งครัด ถ้าให้ใครรู้ว่า ฝ่าบาท
กับภรรยาเชื้อพระวงศ์มีความสัมพันธ์ที่เกินเลย ขุนนางที่ไม่พอใจอยู่แล้ว
จะใช้เป็นข้ออ้างบีบคั้นฝ่าบาททุกวิถีทางแน่นอน ฝ่าบาท เพื่อเห็นแก่ผู้หญิงคนนี้
จะยอมให้บ้านเมือง เข้าสู่ภาวะวิกฤติได้หรือพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท คำเตือนของหม่อมฉัน
โปรดทรงไตร่ตรองให้ดีด้วย"
"ข้าเข้าใจความหมายที่ท่านพูดมา
เรื่องนี้ข้ามีข้อสรุปแน่ แต่ขอเวลาอีกหน่อยเถอะนะ"
"หม่อมฉัน เชื่อว่าฝ่าบาท
จะทรงมีวิจารณญาณที่ดี เกี่ยวกับเรื่องนี้พ่ะยะค่ะ"
โชชิคยอมเตือนสติคิมชูซอน
ว่าพระเจ้าซองจง เป็นคนเหมือนพวกเรา
"พระราชาของเราองค์นี้
ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา และมีคุณสมบัติในการเป็นพระราชาที่ดีโดยครบถ้วน
เราเป็นมหาดเล็ก จึงมีหน้าที่ ถวายการรับใช้ เพื่อให้พระองค์ทำหน้าที่โดยสมบูรณ์
และแม้ว่าพระองค์จะเป็นเจ้าแผ่นดินก็จริง แต่ว่า ในอีกแง่ก็ทรงเป็นผู้ชายด้วย
บางครั้งอาจจะทำผิดพลาดไปบ้าง โดยปกติวิสัยของปุถุชนทั่วไป การช่วยพระองค์ปกปิด
และบรรเทาปัญหาที่เกิด ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราเหมือนกัน"
"แต่ว่า
ถ้าความผิดของฝ่าบาท สั่นคลอนถึงคนหมู่มาก ถึงตอนนั้นจะทำไงดีครับ"
"เราก็ต้องพยายามขัดขวางไว้ เป็นตายร้ายดีก็อย่าให้เกิดขึ้น เพราะนี่คือ
ภารกิจสำคัญที่เราจำเป็นต้องแบกรับ และถือเป็นเกียรติของเราด้วย ชูซอน
เรื่องเหล่านี้ มันเป็นชะตากรรมของมหาดเล็กอยู่แล้ว เจ้าจงอย่าลืมซะล่ะ"
ซอยองมาพบใต้เท้าซังตัง และบอกว่านางมีวิธีแก้ปัญหาหนักอก
ตอนแรกใต้เท้าซังตังไม่สนใจฟัง แต่ก็บอกให้ซอยองลองบอกวิธีมา
"ขอเพียงกำจัดคนที่ยุยงให้ฝ่าบาททรงทำแบบนี้ ปัญหาก็แก้ได้แล้วนี่คะ"
"คนที่ยุยงฝ่าบาทหรือ"
"ใต้เท้าโชชิคยอม จนวันนี้ยังเป็นคนโปรดของฝ่าบาท
ถึงขนาดปรึกษาราชการงานเมืองได้ทุกเรื่อง"
"หึ แล้วเจ้ามีหนทางมั้ยล่ะ
ที่จะกำจัดโชชิคยอมน่ะ"
"ภาษิตว่าไกลสุดขอบฟ้า ใกล้อยู่แค่ตา ถ้าไง
ข้าจะมอบตัวออลูตง ให้ไต้เท้าจัดการดีมั้ยคะ"
"เจ้ารู้ว่าผู้หญิงที่ชื่อออลูตง
ตอนนี้อยู่ไหนหรือ"
จากนั้นใต้เท้าซังตังก็เข้าเฝ้าพระพันปียินซู
บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะทูล
"คิดว่า พระพันปีน่าจะทรงทราบ
เกี่ยวกับเรื่องที่ฝ่าบาท เสด็จออกนอกวังไปบ่อยครั้ง
เพื่อหาผู้หญิงคนหนึ่งใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ"
"เห็นบอกว่านั่นเป็นข่าวลือไร้สาระ
ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีจงใจให้ร้ายฝ่าบาท แล้วจะมาพูดทำไมอีกล่ะ"
"พระพันปีไม่ควรจะทรงเชื่อเช่นชั้น เพราะหญิงที่ว่า
เป็นภรรยาของเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ"
"อะไรนะ ท่านพูดอะไรออกมา
รู้ตัวหรือเปล่า"
"ภรรยาของท่านแทคังซู คือหญิงที่มีความสัมพันธ์กับฝ่าบาท
ถึงขั้นทรงหลงใหล เสด็จไปหาบ่อยครั้งพ่ะย่ะค่ะ"
คีฮอมมารายงานพระมเหสียุนโซฮวาให้สบายใจเรื่องออลูตง
เพราะทางการวางแผนจับกุมนางมาลงโทษอยู่
พระมเหสียุนโซฮวาสดับฟังแล้วก็เกรงว่าเรื่องจะมาถึงพระเจ้าซองจง
พระพันปียินซูทรงเรียกพระเจ้าซองจงมาว่า พร้อมด้วยพระมเหสียุนโซฮวา
"ฝ่าบาท
เจ้าจะทำตัวเหลวไหลไปแล้วนะ"
"เสด็จแม่ ทรงกริ้วเรื่องอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ"
"ข้ารู้ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับผู้หญิงที่ชื่อออลูตงหมดแล้ว
เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาทำไขสือกับข้าอีก จริงอยู่ที่ว่าผู้ชายมีเมียหลายคนได้
ทุกวันนี้ต่อให้เจ้ารับสนมอีก 10 คน หรือแม้แต่ไปหาซังกุงนางในไม่ซ้ำหน้าในแต่ละคืน
แม่ก็ไม่มีสิทธิ์ว่าอะไรเจ้าเลย แต่ว่า นั่นเป็นภรรยาคนอื่น
แถมยังเป็นพระญาติของเราเอง จะไปยุ่งเกี่ยวได้ยังไง
เพราะเจ้าหลงเสน่ห์หญิงที่ชื่อออลูตงนั่น จึงมักออกจากวังบ่อยๆ
โดยอ้างว่าไปเยี่ยมชาวบ้าน ทำแบบนี้ไม่รู้สึกละอายต่อลูกชายตัวเองบ้างหรือไง
ข้ารู้สึกผิดหวังในตัวเจ้าจนไม่รู้จะพูดยังไง ทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เด็กแล้ว
ยังจะทำเรื่องน่าอดสูเพราะเห็นแก่หญิงที่มีพันธะโดยไม่นึกละอายซักนิด"
"หึ
หม่อมฉัน ขอน้อมรับความผิด แล้วแต่เสด็จแม่จะลงอาญาพ่ะย่ะค่ะ"
"ทุกวันนี้เหล่าขุนนาง บอกว่าจะตั้งข้อหาออลูตง ฐานทำลายศีลธรรมอันดี
ประพฤติผิดจารีต คบชู้สู่ชาย แล้วจับมาแห่ประจานลงโทษให้หนัก
ถ้าเรื่องงามหน้าระหว่างเจ้ากับนางเป็นความจริงอย่างที่เขาว่า
แล้วจะจัดการยังไงช่วยบอกหน่อยซิ เกิดวันไหนทุกคนรวมหัว
เอาเรื่องผู้หญิงคนนี้มาเป็นข้ออ้าง หาว่าเจ้าไม่คู่ควรกับตำแหน่ง
แล้วเราจะไปเถียงเขายังไงดี เพราะความที่เจ้าไม่รู้จักสำรวม
จึงทำให้ราชสำนักมัวหมอง ผู้คนครหานินทา เรื่องนี้ข้าจะไม่ให้อภัยเด็ดขาด
เจ้าจงจำไว้ด้วย"
"เรื่องนี้หม่อมฉันจะแก้ปัญหาเอง
เสด็จแม่ไม่ต้องห่วงพ่ะย่ะค่ะ"
"เฮ่ย ชุงจอนก็เหมือนกัน
หมู่นี้คงกลุ้มใจเพราะเรื่องผู้หญิงคนนี้จนแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ตอนนี้ข้าเข้าใจดีแล้ว แต่ว่า ต่อให้ฝ่าบาทมีผู้หญิงอีกกี่คน
หรือแม้แต่รับสนมเป็นร้อย แต่มเหสีเอกนั้น จะมีแต่เจ้าคนเดียวเท่านั้น
แม้เขาจะทำผิดจนยากจะให้อภัย แต่การที่เจ้าหุนหันไปตามที่นอกวัง ทำแบบนี้
ก็ถือว่าเสื่อมเสียต่อฐานะเป็นอย่างยิ่ง"
"หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ"
"หึ
ต่อไปนี้ ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ข้าจะไม่แค่ตักเตือนอย่างเดียว
พวกเจ้าจงจำไว้ด้วยล่ะ"
หลังจากเสด็จออกมาพระเจ้าซองจงตรัสกับพระมเหสียุนโซฮวา
"ชุงจอน เมื่อกี้เห็นข้าถูกเสด็จแม่ตำหนิอย่างแรง เจ้าคงสะใจสินะ
ข้าเคยบอกแล้วใช่ไหม หรือแม้แต่ขอร้องเจ้าว่าไม่จำเป็นอย่ายุ่งกับเรื่องนี้อีก
แล้วทำไมไปเข้าหูเสด็จแม่ได้ ทำให้ข้าถูกตำหนิจนอับอายขนาดนี้
คราวก่อนโอซังกุงก็ถูกไล่ออกเพราะเจ้า
คราวนี้ยังจะให้ข้ารับเคราะห์แทนเจ้าอีกหรือไง"
"ฝ่าบาทรับสั่งเกินไปแล้วนะเพคะ
เรื่องนี้ หม่อมฉันแทบไม่อยากไปนึกถึงด้วยซ้ำ แล้วอยู่ดีๆ
จะไปทูลให้พระพันปีทรงทราบได้ยังไง"
"อะไรนะ"
"ทุกวันนี้แค่คิดถึงเรื่องระหว่างฝ่าบาทกับออลูตง หม่อมฉันก็รู้สึกละอาย
จนไม่กล้าพูดกับใครแม้แต่คนเดียว หม่อมฉันพยายามอดทน
ปิดปากเงียบอยู่กับความทุกข์ใจเพียงลำพัง แต่แล้วฝ่าบาท
ก็มาหาว่าหม่อมฉันเป็นคนก่อเรื่องอีก"
"นั่นสินะ
ข้าทำให้ภรรยาที่ดีเลิศประเสริฐศรีอย่างเจ้า ต้องเสียใจไม่หยุดหย่อนแล้วนี่"
"ภาษิตว่าใครเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอง ทุกอย่างเกิดเพราะฝ่าบาทเป็นต้นเหตุ
ฉะนั้นเลิกกล่าวโทษคนอื่นซะที ถ้าอยากรู้ความจริง ฝ่าบาทก็ไปหาคำตอบเองเถอะ
ถ้าไม่มีอะไรแล้ว หม่อมฉัน ขอทูลลาก่อนเพคะ"
00000000000
ชองฮันซูมาถามฮุงบี เรื่องพาออลูตงมาพบพระเจ้าซองจง
ฮุงบียอมรับและบอกว่าคืนนี้ก็นัดกันอีก แต่พอคิมชูซอนมาถาม
ฮุงบีกลับโกหกว่าไม่รู้เรื่อง แต่คิมชูซอนก็คาดคั้นจนได้
ฮุงบีรีบบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับสนมออม แต่เป็นซอยองที่จัดการ
พระเจ้าซองจงเสด็จไปยังสถานที่ที่นัดหมายกับออลูตงโดยมีรับสั่งให้ชองฮันซูตามเสด็จ
พระมเหสีโซฮวาทรงวิตกกังวลว่าเมื่อบรรดาขุนนางใหญ่ในราชสำนักรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพระเจ้าซองจงและออลูตงแล้วจะตำหนิพระองค์
ด้วยเหตุนี้พระมเหสีโซฮวาจึงทรงมีรับสั่งกับคิมชูซอน
"เจ้ามานั่งใกล้ๆ ข้า
ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาท จะเสด็จออกนอกวังไปเยี่ยมราษฎรอีกครั้ง ข้าว่า
คงนัดแนะกับออลูตงจะไปหานางมากกว่า ตอนนี้ทางการกำลังเร่งหาผู้หญิงคนนี้
เพื่อจะจับนางให้ได้ ไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไร
ฝ่าบาทยังกล้าออกไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลังอีก ข้าอยากให้เจ้าไปขัดขวาง
อย่าให้ฝ่าบาทกับออลูตง ได้พบหน้ากันอีก จากนั้นก็พาออลูตง กลับมาพบข้าแทน"
"อะไรนะ ทำไมพระมเหสีถึงได้ ถ้าให้ฝ่าบาทหรือไม่ก็พระพันปีทรงทราบเข้า
เรื่องนี้ พระมเหสีจะรับผิดชอบได้หรือพ่ะย่ะค่ะ"
"ความกริ้วของฝ่าบาทกับพระพันปี ไม่นานคงหายไป ไม่ใช่สิ่งที่ควรกังวลนัก
แต่ถ้าออลูตงถูกจับแล้วเปิดเผยเรื่องของนางกับฝ่าบาทออกมา รากฐานของบ้านเมือง
ก็จะสั่นคลอนเพราะเรื่องนี้แน่ แม้ฝ่าบาทจะทรงกริ้วข้า นับแต่นี้ไม่ยอมเสด็จมาอีก
แต่ขอเพียงพระองค์ ได้เป็นพระราชาที่ดีให้ผู้คนยกย่อง ข้าก็ไม่หวังอะไรอีกแล้ว"
คิมชูซอนชวนเพื่อนๆ ไปจัดการตามที่พระมเหสียุนโซฮวารับสั่ง
เวลาเดียวกันนี้ใต้เท้าซังตังก็สั่งให้ลูกน้องไปจับตัวออลูตงเช่นกัน
แต่คิมชูซอนถึงตัวออลูตงและบอกว่ามีการเปลี่ยนสถานที่นัดหมาย
แล้วเชิญออลูตงไปกับเขา แล้ววางยาสลบ
พระเจ้าซองจงกับชองฮันซูพากันมาถึงที่นัดหมาย และพบทหารจำนวนมาก
ชองฮันซูเข้าไปคุย
"เรามาจากกรมอาญาเพื่อจะจับนักโทษคนหนึ่ง
จำเป็นต้องซุ่มอยู่แถวนี้ พวกเจ้าหลีกไปซะ"
"เจ้านั่นแหละถอยไป
เพราะนี่คือฝ่าบาท"
"จับคนร้ายอะไร คนร้ายที่ไหน ถึงต้องแห่กันมาขนาดนี้"
"เป็นหญิงแพศยาชื่อออลูตง ซึ่งทำผิดจารีตประเพณี ทำให้สังคมเสื่อมถอยพ่ะย่ะค่ะ"
พระเจ้าซองจงทรงตกพระทัยมาก "หา อะไรนะ หึ"
ชองฮันซูรีบกลับมารายงานโชชิคยอมทันที
เขาคิดว่าถ้าคนของกรมอาญาจับตัวออลูตงได้เป็นเรื่องใหญ่แน่
กึมพยอเองก็ไม่พบร่องรอยของออลูตง
โชชิคยอมบอกทั้งสองว่าต้องหาตัวออลูตงให้พบก่อนกรมอาญา ทั้งสองรีบออกไปทันที
ชองฮันซูกับซอยองรีบไปถามสาวใช้ของออลูตง จนรู้ว่าคิมชูซอนพาไป
ซอยองรีบบอกให้ชองฮันซูตามไปค้นในวังให้เจอ
จบ 39

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn

Related Posts



0 comments:

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal