คิมชูซอน 37
พระมเหสีโซฮวาเสด็จไปที่บ้านออลูตง "นี่เป็นยามวิกาล
ท่านมานี่มีธุระอะไร" "ข้ามาตามหาสามีของข้า" "ท่านก็คือภรรยา ของคุณชายลีงั้นหรือ"
"จะไปบอกให้เขาออกมาดีๆ หรือว่า ต้องการให้ข้าเข้าไปค้นเอง
ทำไมไม่ยอมตอบคำถามข้าล่ะ" "คืนนี้คุณชายลี ไม่ได้มาบ้านข้า ต้องขออภัยด้วยค่ะ"
"อะไรนะ นึกว่าพูดแบบนี้ ข้าจะเชื่อคำโกหกของเจ้าหรือไง" "ตอนนี้ต่อให้คุณชายลี
อยู่ในบ้านข้าจริงก็เถอะ ข้าคงไม่สามารถบังคับให้เขาออกมาพบท่านได้
หรือไม่ถ้าจะเชิญฮูหยินเข้าไปในห้องส่วนตัวก็คงไม่เหมาะนัก ข้างนอกอากาศหนาวมาก
ถ้าไงเชิญฮูหยิน ไปพักผ่อนที่เรือนรับรองก่อน ดื่มน้ำชาให้อบอุ่นซักนิดดีมั้ยคะ
งั้นข้าจะนำทางให้ฮูหยินเอง" "เห็นบอกว่าสามีข้า หมู่นี้มาหาเจ้าบ่อยครั้ง
ไม่เว้นกลางวันกลางคืน เจ้ากับเขามีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่" "คุณชายลีเป็นเพื่อน
ที่ชอบมาฟังข้าดีดพิณบ่อยๆ ไม่มีอะไรมากว่านี้" "เป็นเพื่อนหรือ แต่ได้ยินว่า
เจ้าเป็นภรรยาเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง โบราณสอนว่าชายหญิงห้ามอยู่ใกล้ชิด
แล้วทำไมเจ้าถึงปล่อยตัวนัก กล้าคบหากับผู้ชายอย่างเปิดเผยเชียวหรือ"
"ฮูหยินคงไม่เคยได้ยินว่า ออลูตงเป็นผู้หญิงแบบไหนสินะ ครั้งหนึ่ง
ข้าเคยถูกสามีทอดทิ้ง ถูกครอบครัวของตัวเองตัดขาด
เป็นหญิงที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้
ข้าจึงออกจากครอบครัวของสามีโดยเด็ดขาด มาอยู่ข้างนอกตามลำพังโดยไม่มีใครช่วยเหลือ
หึ สำหรับข้าแล้ว ทุกคนที่เกิดมา ไม่มีแบ่งชนชั้นวรรณะ ไม่มีแบ่งชายหญิง หึ
ขอเพียงจิตใจตรงกัน ชอบฟังเสียงพิณของข้า รู้จักเสพสุนทรียรสของดนตรี
แค่นี้เราก็เป็นเพื่อนได้แล้ว" "ที่ข้ามาหาเจ้าวันนี้
ไม่ใช่เพราะความหึงหวงสามีหรอกนะ แต่เป็นเพราะฐานะของเขา ไม่เหมือนคนทั่วไป
ที่สำคัญ เรื่องนี้ถ้ามีใครรู้เข้าละก้อ สามีข้าจะเสื่อมเสีย
อาจถึงขั้นตกที่นั่งลำบากก็ได้" "ที่จริงแล้ว ข้าก็พอรู้ฐานะคุณชายลี
ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน แม้เราจะเพิ่งรู้จักไม่นาน แต่ก็ถือว่าถูกชะตาต้องใจนัก
ข้าจึงไม่อยากให้เขาเดือดร้อน หรือมีปัญหาเพราะข้า เข้าไปแทรกแซงในชีวิตเขา ข้อนี้
ข้ารู้สภาพตัวเองดี ขอท่านไม่ต้องเป็นห่วง" "หึ งั้นเจ้าบอกให้สามีข้า
ต่อไปอย่ามาที่นี่อีกได้ไหม" "ข้าคิดว่า จะให้คำสัญญากับฮูหยินดีกว่า
ต่อไปจะไม่พบเขาอีก" "หึ งั้นข้าจะเชื่อเจ้า ถ้าไง ข้าคงต้องขอตัวก่อน"
"คุณชายเคยบอกว่า ภรรยาของเขาเป็นหญิงคนเดียวที่มีรักแท้ให้นาง ทำให้ข้าแอบหวังว่า
ซักวันจะได้พบท่านบ้าง และพอมาเจอวันนี้ ถึงรู้ว่าคุณชายลี พูดไว้ไม่ผิดซักนิด"
"แต่ข้ากลับหวังว่า ต่อไปเราสองคน ไม่ต้องมาเจอกันอีก"
หลังพระมเหสียุนโซฮวาเสด็จกลับไปแล้ว ออลูตงเข้าไปพบกับพระเจ้าซองจงทรงตรัสว่า
"ข้ารู้สึกละอายต่อเจ้าจริงๆ" "คุณชายคะ ความรักที่ฮูหยินมีต่อท่าน
ถือว่าผูกพันลึกซึ้งนัก แล้วทำไมท่านถึงมองข้าม หญิงที่เคยมีความรักให้นาง
กลับมาหาข้าแทนซะล่ะ" "ความรักที่มีต่อนางไม่เคยเปลี่ยนหรอก
แต่ว่าความรักที่มีต่อเจ้า ก็เป็นความจริงใจ" "หึๆๆ ผู้ชายก็คือผู้ชายจริงๆ
นั่นแหละ พูดออกมาได้ว่า กับภรรยาและเมียน้อย คือความจริงใจทั้งคู่
แต่สำหรับผู้หญิงแล้ว ชั่วชีวิตของนาง อาจจะรักคนๆ เดียวเท่านั้น
ข้าถึงไม่เข้าใจผู้ชาย ทำไมมีความรักไปเผื่อแผ่ให้ใครต่อใครมากนัก หึ
ต่อไปอย่าทำให้นาง เสียใจเพราะการกระทำของท่านอีก" "งั้นวันนี้ข้าจะกลับก่อน
แล้ววันหลังค่อยมาหาเจ้าใหม่" "ข้าหวังว่าท่าน นับแต่นี้จะไม่มาหาข้าอีก"
"คำพูดนี้ข้าจะถือว่าไม่ได้ยิน" "คุณชายคะ ท่านกล้าที่จะทอดทิ้ง
ภรรยาเอกคนนี้แล้วมาอยู่กับข้ามั้ยล่ะ ถ้าไม่สามารถทิ้งหญิงที่มีรักแท้ให้นางได้
ต่อไปก็อย่ามาหาข้าอีก" ออลูตงยื่นคำขาด
พระเจ้าซองจงเสด็จออกมาก็พบกับคิมชูซอนที่เฝ้ารออยู่ ทรงต่อว่าคิมชูซอน "ชูซอน
ทำไมต้องพาพระมเหสีมาที่นี่" "หม่อมฉัน ไม่อาจขัดพระทัยพระมเหสี
ที่เพียรขอร้องอ้อนวอนได้" "ตกลงใครเป็นนายของเจ้า มหาดเล็กที่ดูแลพระราชา
รู้ว่านายตัวเองตกที่นั่งลำบากแท้ๆ ยังจะไปเชื่อคนอื่นอีกใช่ไหม"
"เนื่องจากพระมเหสี ทรงเป็นห่วงฝ่าบาทจนไม่ยอมเสวย ไหนจะกำลังตั้งครรภ์อยู่
สุขภาพไม่สู้ดีนัก หม่อมฉัน จึงไม่อาจแข็งใจทูลความเท็จต่อหน้าพระพักตร์
สุดท้ายเลยต้องพามาที่นี่ด้วยตัวเอง" "เจ้าจะแก้ตัวยังไงก็ช่าง
ข้าถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ตัวเองแล้ว" "ฝ่าบาท"
ขณะที่พระมเหสียุนโซฮวากำลังจะพักผ่อน พระเจ้าซองจงเสด็จมาหา "ชุงจอน
เมื่อกี้เจ้าออกไปไหนมา" โอซังกุงทูลว่า "ฝ่าบาท ตอนนี้พระมเหสี
รู้สึกไม่ค่อยสบายนัก วันหลังค่อยถามเถอะเพคะ" "โอซังกุงไม่ต้องพูดมาก"
"เมื่อกี้หม่อมฉันไปไหนมา ฝ่าบาทน่าจะทรงทราบดี ไม่จำเป็นต้องมาถามหม่อมฉันอีก"
"อะไรนะ" "การเยี่ยมชาวบ้านของฝ่าบาท ทำให้เกิดการครหามากมายและข่าวลือต่างๆ
จนทำให้เหล่าขุนนางหันมาเพ่งเล็งเรื่องนี้เป็นอย่างมาก"
"ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าไม่ต้องยุ่งกับการที่ข้าจะออกนอกวัง แล้วทำไมยังให้ชูซอน
สะกดรอยตามข้าไปอีก" "ฝ่าบาทเพคะ เรื่องที่เกิดในคืนนี้
หม่อมฉันจะถือว่าไม่เคยรู้เห็นมาก่อน และขอให้ฝ่าบาท ทรงลืมเรื่องในอดีตให้หมดด้วย"
"ชุงจอน ทำไมเจ้าไม่เกรี้ยวกราดออกมาซะเลย ถามตรงๆ ว่าข้าไปอยู่ไหนกันแน่"
"หม่อมฉันไม่กล้าหรอกเพคะ เพราะฝ่าบาทไม่เพียงเป็นสวามีของหม่อมฉัน
ยังเป็นประมุขแห่งโชซอนด้วย ถ้าฝ่าบาททรงทำให้ทุกคนเสื่อมศรัทธา
เกียรติของราชสำนักก็จะพลอยเสื่อมเสียไปด้วย กว่าฝ่าบาทจะได้ครองราชย์อย่างมั่นคง
ทรงอำนาจอย่างเช่นทุกวันนี้ ต้องผ่านความเหนื่อยยากแค่ไหน ทรงลืมแล้วหรือเพคะ
หม่อมฉันไม่อยากให้ฝ่าบาท มีข้อบกพร่องให้เหล่าขุนนางจับได้ กลายเป็นชนักปักหลัง
จนต้องไปอยู่ใต้อำนาจของพวกเขาอีกครั้ง หม่อมฉันยังจำได้ดีว่า
ครั้งหนึ่งฝ่าบาทเคยให้สัญญา ว่าจะเป็นพระราชาที่ดี ห่วงใยในทุกข์สุขของราษฎร
หม่อมฉัน จะรอดูว่าเมื่อไหร่ ฝ่าบาทจะทรงทำตามสัญญาซะที" "รู้มั้ยว่าเจ้า
นับวันจะเหมือนพระพันปีมากขึ้น นับแต่นี้ไป ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก"
พระเจ้าซองจงเสด็จกลับไป พระมเหสียุนโซฮวาได้แต่ร้องไห้เสียใจ
หลังจากที่พระพันปียินซูทรงรู้เรื่องที่พระมเหสีเสด็จออกจากวังหลวงแล้ว
พระนางก็ทรงมีรับสั่งให้พระมเหสีโซฮวาเข้าเฝ้าเพื่อถามถึงสาเหตุที่เสด็จออกจากวังหลวง
พระมเหสีโซฮวาไม่ได้ทูลความจริงให้พระพันปียินซูรู้
โอซังกังยอมรับเป็นความผิดของนางที่นำเสด็จพระมเหสีโซฮวาออกจากวังหลวง
ด้วยเหตุนี้เองนางจึงถูกพระพันปียินซูทรงลงโทษโบยและถูกขับออกจากวังหลวง
พระมเหสียุนโซฮวาทรงขอร้องพระพันปียินซู "พระพันปี
อย่าทรงไล่โอซังกุงออกจากวังเลยเพคะ
เรื่องที่ออกไปข้างนอกเป็นความประสงค์ของหม่อมฉันเอง โอซังกุงไม่ได้ทำผิด
ทำไมต้องถูกไล่ออกด้วย" "หึ โอซังกุง ถือเป็นคนสนิทของเจ้า
นอกจากดูแลความเป็นอยู่แล้วยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
แต่นี่กลับปล่อยให้เจ้าอุ้มท้องออกไปข้างนอก โดยพละการ
แล้วจะไม่ให้ถือเป็นความผิดใหญ่หลวงได้ยังไง" "หม่อมฉันยินดีรับโทษทุกอย่างเพคะ
ขอเพียงอภัยโทษให้โอซังกุงเท่านั้น" "ตามหลักข้าก็ควรลงโทษเจ้าเหมือนกัน
แต่ตอนนี้เจ้ากำลังตั้งครรภ์ ข้าเลยต้องยั้งไว้ก่อน โดยให้โอซังกุงออกจากวังแทน
เท่ากับรับผิดชอบเรื่องนี้ให้จบๆ ไปซะ" พระอัยยิกาจองฮีตรัสขึ้น "หึ
แทปีพูดถูกแล้วล่ะ การที่เจ้าออกนอกวังโดยไม่มีเหตุผลที่ฟังขึ้น
ถือเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง ในเมื่อพระพันปีมีวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม
เจ้าก็อย่าเถียงอีกเลยนะ" พระมเหสียุนโซฮวาจำต้องออกไป
พระอัยยิกาจองฮีตรัสกับพระพันปียินซูว่า "หึ แทปี โอซังกุงเคยเป็นแม่นมของฝ่าบาท
แม้จะทำผิดร้ายแรงก็จริง แต่ถึงขั้นไล่ออก มันจะไม่เกินไปหน่อยหรือ"
"เพื่อเป็นการยุติ คำครหาที่ชุงจอนออกไปข้างนอกโดยพละการ เราไม่มีทางอื่นนะเพคะ"
"เฮ่อ แล้วทำไมนางต้องออกไปกลางดึกกลางดื่น เป็นเรื่องที่น่าสงสัยจริงๆ"
"เห็นบอกว่าฝ่าบาท ไปหลงผู้หญิงที่อยู่นอกวังคนหนึ่ง ถึงขั้นไปมาหาสู่บ่อยครั้ง
นางเลยเกิดความหึงหวงกระมัง" "อะไรนะ เจ้าบอกว่าเพราะความหึงหวงหรือ" "เพราะ
คิดว่าน่าจะเป็นอย่างงั้น"
พระมเหสียุนโซฮวาทรงเสียพระทัยอย่างมากที่ช่วยโอซังกุงไม่ได้เหลือ
"ท่านถูกไล่ออกเพราะข้าเป็นต้นเหตุ แต่ข้ากลับไม่สามารถช่วยอะไรท่านได้
รู้สึกละอายใจเหลือเกิน" "เพราะหม่อมฉันไม่ดีเอง ไม่ได้ถวายการดูแลพระมเหสีให้ดี"
"รอให้พระพันปีหายกริ้วซะก่อน ข้าจะเข้าไปทูลขอ ให้ทรงเรียกท่านกลับมาใหม่อีกครั้ง
แต่ตอนนี้ไปอยู่บ้านเดิมของข้าก่อนจะดีมั้ย" "ไม่ต้องห่วงหม่อมฉันหรอกเพคะ
พอมีที่ปักหลักเมื่อไหร่ หม่อมฉันจะส่งข่าวให้ทรงทราบ"
"หลายปีนี้ที่ข้าทนอยู่ในวังได้ เพราะมีท่านอยู่เคียงข้าง ถ้าไม่มีท่านแล้ว
ข้าก็ไม่รู้จะหันไปพึ่งใครได้อีก" "ยังมีโบดึ๊กอีกคน ที่สามารถดูแลพระมเหสีได้ดี
โบดึ๊ก เจ้าต้องดูแลพระมเหสีแทนข้าด้วยล่ะ" "ฮือ นายหญิง ฮือๆๆ ข้าจะจำไว้ค่ะ
ฮือๆๆ" "พระมเหสี โปรดทรงคิดถึงทารกในครรภ์ให้มากเข้าไว้นะเพคะ"
ขณะที่โอซังกุงกำลังจะออกจากวังหลวง ได้พบกับคิมชูซอน
ทำให้เขารับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจากโบดึ๊ก
โอซังกุงยังขอให้คิมชูซอนช่วยดูแลพระมเหสียุนโซฮวาให้ดี
ทันใดนั้นพระเจ้าซองจงเสด็จมาพอดี "แม่นม อย่าเพิ่งไป แม่นม
ทำไมไม่เห็นมาบอกลาข้าซักคำ ก็จะออกจากวังแล้วล่ะ" "ฝ่าบาท"
"ข้าจะไม่ยอมให้ท่านจากไปแบบนี้ ข้าจะไปทูลขอเสด็จแม่ให้ท่านอยู่ต่อ
โปรดอย่าไปเลยนะ" "ถ้าหม่อมฉันอยู่ในวังต่อไป อาจทำให้ฝ่าบาทกับพระมเหสี
ยิ่งมีปัญหากวนพระทัยไม่รู้จบ ให้หม่อมฉันไปดีกว่าเพคะ พระมเหสีไม่ได้ทูลพระพันปี
เกี่ยวกับสาเหตุที่ออกนอกวัง เพื่อไปตามฝ่าบาทในยามค่ำคืนดึกดื่นเช่นนั้น
จึงทำให้พระพันปีทรงกริ้วมาก ฝ่าบาท ถือว่าเห็นพระทัยพระมเหสีซักนิด
ต่อไปอย่าเสด็จไปหาผู้หญิงที่อยู่ข้างนอกคนนั้นอีก
ทรงรับปากหม่อมฉันเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมเพคะ" "แม่นม" "ฝ่าบาท ได้โปรด
ทรงเป็นพระราชาให้ผู้คนยกย่องเถอะเพคะ"
พระเจ้าซองจงทรงไปต่อว่าพระมเหสียุนโซฮวาที่ทำให้โอซังกุงต้องออกจากวังหลวง
"โอซังกุงออกจากวังไปแล้ว สาเหตุเพราะเจ้าไม่ไว้ใจข้า ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
นางจึงต้องรับโทษแทนเห็นหรือเปล่า" "ฝ่าบาท อย่าทรงตำหนิหม่อมฉันนะเพคะ
ถ้าไม่เพราะฝ่าบาท ทำเรื่องนอกใจหม่อมฉันและปิดบังซ่อนเร้น หม่อมฉันคงไม่อยู่ดีๆ
ออกจากวังไปหาฝ่าบาทหรอกเพคะ" "ชุงจอน" "โอซังกุง
ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างหม่อมฉันกับฝ่าบาทต้องง่อนแง่นจึงเลือกที่จะไปซะเอง
หม่อมฉันไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมป่านนี้ฝ่าบาทยังไม่ทรงสำนึกอีก
กลับหาว่าที่นางถูกพระพันปีไล่ออกจากวัง เป็นความผิดของหม่อมฉันซะเอง หม่อมฉัน
รู้สึกผิดหวังในตัวฝ่าบาทนัก" "ไม่นึกเลยว่า เจ้าจะกล้าตำหนิข้าได้ถึงขนาดนี้
แต่เจ้าพูดมาก็ถูก นี่เป็นความผิดของข้าเอง เพราะข้าเป็นคนไม่เอาไหน" "ฮือ ฝ่าบาท
เฮ่อ เฮ่อ" โอซังกุงออกไปก็เจอกับโชชิคยอม ซึ่งมารอรับนางไปดูแล
พาไปอยู่บ้านเก่าของนาง "ข้าเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก แต่ทำไมรู้สึกแปลกๆ
เหมือนคุ้นเคยกับที่นี่มาก่อนล่ะคะ" "อ้อ ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก
นี่เป็นบ้านเก่าของเจ้า ที่เคยอยู่อาศัยมาพักใหญ่ เมื่อ 23 ปีก่อน" "อะไรนะคะ
ถ้าอย่างงั้น" "ถ้ามาอยู่ที่นี่ ไม่แน่ว่า อาจช่วยให้เจ้าฟื้นฟูความจำ
ได้เร็วขึ้นก็ได้" "แต่ว่า ข้าไม่อยากให้ตัวเอง
เป็นภาระรบกวนท่านมากกว่านี้อีกแล้ว" "ข้าเคยรับปาก จา-มยอง ว่า จะช่วยดูแลภรรยาเขา
และทายาทของเขาอย่างดีไม่ให้ลำบาก แม้ว่าตอนนี้จะหาเด็กไม่พบ แต่สัญญาที่เคยให้ไว้
ข้าก็ต้องทำตามให้ได้" ชองฮันซูตามหาลีดงเพื่อสอบถามความสัมพันธ์ของลีดงและวีตง
หลังจากที่ชองฮันซูรู้ความจริงแล้วก็นำความไปบอก
โชชิคยอมบอกให้ชองฮันซูตามหาคนที่คิดปองร้ายพระเจ้าซองจง แต่ชองฮันซูย้อนถามว่
"คนที่คิดปองร้ายต่อฝ่าบาท ถ้าถูกจับได้ สมควรจะประหารทันทีไม่ใช่หรือครับ"
"จะฆ่าช่างฝีมือคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องยากหรอก เพียงแต่ก่อนหน้านี้
ข้าอยากรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับออลูตงให้แน่ชัด แล้วค่อยลงโทษก็ยังไม่สาย"
"อะไรนะครับ เพราะอะไรถึงได้" ซอยองกล่าวว่า "ทำแบบนี้ เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม
ถ้าใครรู้ว่า ฝ่าบาททรงไปข้องแวะกับหญิงที่ชื่อออลูตงในเชิงชู้สาว
เหล่าขุนนางต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา
ถ้าเราสืบได้ว่านางยังมีความสัมพันธ์กับใครอีก
ก็จะเป็นการรักษาเกียรติของฝ่าบาทไว้ได้" "ซอยองพูดถูกแล้ว
คนที่มีความสัมพันธ์กับนาง
ไม่ว่าจะเป็นเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางผู้ใหญ่อาจจะเอาเรื่องนี้ไปพูดต่อ
และถ้าใครรู้ว่ามีฝ่าบาทไปเกี่ยวพันด้วย ถึงตอนนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่
สั่นสะเทือนถึงราชสำนัก แม้แต่ความมั่นคงของบ้านเมือง ก็จะมีผลกระทบตาม
เข้าใจหรือเปล่า" "ถ้าอย่างงั้น ท่านจะจัดการกับผู้หญิงคนนี้ยังไงดีคะ" ซอยองถาม
โชชิคยอมนิ่งคิด
คิมชูซอนดื่มเหล้าดับทุกข์ด้วยกลัดกลุ้มใจเรื่องของพระเจ้าซองจงและพระมเหสีโซฮวา
ตกดึกคิมชูซอนก็ไปเข้าเฝ้าพระเจ้าซองจง คิมชูซอนทูลพระเจ้าซองจงด้วยน้ำตานองหน้าว่า
"ขอทรงอภัยพ่ะย่ะค่ะ เป็นเพราะหม่อมฉัน รู้สึกมึนหัวไปหมด ไม่อาจใช้สติไตร่ตรองได้
จึงไปดื่มมานิดหน่อยพ่ะย่ะค่ะ" "อะไรนะ" "ฝ่าบาท ความรักที่ทรงมีต่อพระมเหสี
ยังเหมือนเดิมหรือเปล่า และกับผู้หญิงอื่น นั่นคือความรักหรือความใคร่กันแน่
ทำไมถึงทรงนอกใจหญิงที่ฝ่าบาทเคยรับสั่งว่า นางคือรักแท้ของพระองค์ได้พ่ะย่ะค่ะ"
"เจ้ามาเพ้อเจ้ออะไรกับข้าอีก" "ฝ่าบาท ม่อมฉันเชื่อในรับสั่งของพระองค์เสมอ
และเชื่อว่าฝ่าบาททรงมีความรักความจริงใจ ต่อพระมเหสีมาตลอด
แต่ทำไมกลับมีผู้หญิงอื่น จนทำให้พระมเหสี ทรงเสียพระทัยได้ถึงขนาดนี้พ่ะย่ะค่ะ"
"หุบปากเดี๋ยวนี้นะ รู้ตัวหรือเปล่าว่า เจ้าชักเหิมเกริมมากไปแล้ว"
"เพราะหม่อมฉันเคยสัญญากับฝ่าบาท ว่าจะดูแลพระมเหสีอย่างดี
จึงยอมตอนตัวเองเพื่อเข้าวังแม้จะโตแล้ว เพื่อมาเป็นมหาดเล็ก
และเป็นเพราะเชื่อในความรักของฝ่าบาท
หลังจากได้เห็นพระมเหสีกับฝ่าบาทได้ร่วมหอลงโรงอย่างชื่นมื่น
ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาหลายปี หม่อมฉันไม่เคยนึกเสียใจแม้แต่น้อย
ตัวเองเป็นแบบนี้ ถึงขนาดสิ้นลูกสิ้นหลาน แต่พอมาวันนี้ หม่อมฉันเริ่มเสียใจซะแล้ว
ทำไมฝ่าบาทถึงได้ทำร้ายจิตใจของพระมเหสีได้ลงคอพ่ะย่ะค่ะ
ทุกครั้งที่หม่อมฉันเห็นพระมเหสีทรงกันแสง หม่อมฉันก็แทบขาดใจตาม ฝ่าบาท
หม่อมฉันเกลียดฝ่าบาทที่สุด ทรงรู้ไว้ด้วย" "ชูซอน ข้าว่าเจ้าคงจะเมามาก
ถ้าไงกลับไปก่อนเถอะ" "คืนนี้ถ้าไม่ได้ฟัง คำตอบที่จริงใจของฝ่าบาท
หม่อมฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ฝ่าบาท ช่วยอธิบายให้หม่อมฉันฟังหน่อย
ว่าทำไมต้องนอกใจหญิงที่เป็นรักแท้ของพระองค์ด้วย เพราะอะไร" "ชูซอน
ข้ามั่นใจว่าตัวเองไม่เคยลืมความรักที่มีต่อชุงจอน จนถึงวันนี้เวลานี้
ข้าก็ยังกล้าพูดได้เต็มปาก แต่ความรู้สึกที่มีต่อผู้หญิงคนนั้น
ข้าก็ห้ามใจตัวเองไม่อยู่เหมือนกัน ข้าอาจจะรักนางเพิ่มอีกคนก็ได้" "ฝ่าบาท"
คิมชูซอนอึ้งไป
พระมเหสียุนโซฮวาที่กำลังจะเข้าเฝ้าพระเจ้าซองจงได้ยินเช่นนั้นก็เสด็จกลับไปทันทีจบ 37
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ
เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn
2 comments:
ชอบมากๆเลย อ่านสนุกมากๆยังไงก็เอามาให้ได้อ่านอีกนะคะ จะติดตามอ่านไปเรื่อยจนกว่าจะจบ ขอบคุณที่นำมาให้ติดตาม สุดยอด
พระราชาองค้นี้แย่จริงๆ
ขอบคุณนะค่ะที่เอามาให้อ่าน
Post a Comment