Thursday, August 28, 2008

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ - คิมชูซอน 36

คิมชูซอน 36

นับเป็นอีกครั้งที่พระเจ้าซองจงเสด็จออกจากวังหลวงโดยมีคิมชูซอนติดตามไปด้วย
นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้พระเจ้าซองจงกลับถูกคนร้ายลอบปลงพระชนม์
เนื่องจากคิมชูซอนตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ถวายอารักขาพระเจ้าซองจงได้ทันท่วงทีจนตนเองต้องได้รับบาดเจ็บ
คนร้ายที่ลอบปลงพระชนม์ไม่ใช่ใคร ที่แท้ก็คือคนรักเก่าของออลูตงนั่นเอง
พระเจ้าซองจงเสด็จไปที่บ้านออลูตงเพื่อให้คิมชูซอนทำแผล "อาการเขาเป็นไงบ้าง"
พระเจ้าซองจงตรัสถามหมอ "ถือว่าโชคยังดีครับ โดนแทงแต่ไม่ถูกจุดสำคัญ
คาดว่าคงไม่มีอันตรายถึงชีวิต" "อ้อ ขอบคุณท่านมาก" "งั้นข้าขอตัวก่อน"

"เป้าหมายของคนร้าย ไม่ใช่ชูซอน แต่เป็นข้า"
พระเจ้าซองจงตรัสกับออลูตง "ท่านพอเดาออกมั้ยว่า เป็นฝีมือพวกไหนหรือคะ"
"เรื่องมันเกิดกระทันหันเกินไป ทำให้เห็นหน้าคนร้ายไม่ถนัด
แต่เหมือนจะเป็นไพร่คนหนึ่ง" "ข้าน่ะ ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับท่าน
ด้วยการต่อบทกวีที่เขียนไว้ให้ เป็นใจความที่ครบถ้วนสมบูรณ์"
พระเจ้าซองจงทรงพอพระทัย "อึม" "ไม่ทราบว่า ท่านจะให้เขียนไว้ตรงไหน"
"เขียนไว้บนผ้าผืนนี้ ชายเสื้อเขียวขจี ประดุจต้นหลิว ระบายริมสีแดง ราวบุปผางาม"
"ข้าต่อเป็น หากใครคิดเทียบความงามนี้ สีสันคงอับเฉา ไม่เห็นแม้แต่เงา"
"เดิมทีนึกว่าเจ้าเก่งแต่ดีดพิณ ที่ไหนได้ แม้แต่บทกวีก็แต่งได้ไพเราะนัก"
"ขอบคุณที่ชมข้า" "ผ้าผืนนี้ ข้าจะเก็บรักษาไว้อย่างดี วันนี้ยังไง
ข้าคงต้องกลับก่อนตะวันตกดิน ฝากดูแลชูซอนด้วยนะ" "ข้าจะดูแลเขาอย่างดี
ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ" สาวใช้รับคำ "อึม ดีมาก ขอบใจล่วงหน้า"
พระเจ้าซองจงเสด็จออกมาก็พบกับกึมพยอ "โทกึมพยอ เจ้าตามข้ามางั้นหรือ"
"ใต้เท้าโชให้หม่อมฉันมาถวายอารักขา ว่าแต่
ทำไมไม่เห็นมหาดเล็กคิมตามมาด้วยพ่ะย่ะค่ะ" "เขาไปทำงานที่อื่น เรากลับวังกันเถอะ"
พระมเหสีโซฮวาทรงตั้งครรภ์ พระอัยยิกาจองฮีทรงแสดงความยินดีต่อพระเจ้าซองจง
"การที่ชุงจอนตั้งครรภ์อีกครั้ง เพราะบรรพชนคุ้มครองราชวงศ์ของเราแท้ๆ
หลังจากมีวอนจาแล้ว เจ้าจะมีลูกชายอีกหลายๆ คน ให้ราชสำนักของเรามั่นคง
แค่นี้ข้าก็ไม่หวังอะไรอีกแล้ว" "หึๆ วอนจา เจ้าจะมีน้องอีกคนแล้วรู้หรือเปล่า"
พระเจ้าซองจงตรัสกับองค์ชายวอนจา "เมื่อกี้เสด็จพ่อออกไปเที่ยวไหนมาหรือพ่ะย่ะค่ะ
เสด็จพ่อ รีบไปปลอบพระทัยเสด็จแม่ให้หายกังวลเถอะพ่ะย่ะค่ะ" "ฝ่าบาท
ถ้าไงเชื่อฟังลูกคนนี้ไม่ผิดหรอกนะ มเหสีของเจ้า
เป็นห่วงทุกครั้งที่รู้ว่าเจ้าออกไปข้างนอก ถ้ามีเวลาก็หมั่นไปเยี่ยมนางบ้าง
ยิ่งกำลังท้องกำลังไส้อยู่ด้วย" "ทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
พระเจ้าซองจงเสด็จไปหาพระมเหสียุนโซฮวา "ชุงจอน เจ้าตั้งครรภ์อีกแล้วหรือ
ถ้าตอนนี้มีใครไปทูลเสด็จแม่ ที่ไปทำบุญที่วัดหลวงให้ทรงทราบอีกคน
ไม่อยากคิดเลยว่านางจะดีใจขนาดไหน" "หม่อมฉันก็ดีใจเพคะ" "ดูเหมือนว่าเจ้า
จะไม่พอใจข้าหลายอย่างสินะ หึ ชุงจอน ผู้หญิงที่ข้ารัก ชาตินี้มีแต่เจ้าคนเดียว
ข้อนี้ เป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยน เพราะฉะนั้น ข้าจึงอยากให้เจ้า
อย่าได้เข้าใจข้าผิดอีก" "หม่อมฉัน ก็อยากเชื่อในรับสั่งเหมือนกัน
เพียงแต่ว่าหมู่นี้ฝ่าบาท
ทรงห่างเหินหม่อมฉันจนผิดสังเกตเลยรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่านั้น"
"ข้าบอกแล้วว่าเป็นห่วงปากท้องของราษฎร ถึงออกไปเยี่ยมบ่อยครั้ง แต่นับแต่นี้ไป
ข้าให้สัญญาว่า จะไม่ทำให้เจ้าเสียใจอีก"
กึมพยอกลับไปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพระเจ้าซองจงและคิมชูซอนให้โชชิคยอมฟัง
"อะไรนะ ฝ่าบาททรงมีอันตราย เกือบถูกคนปองร้ายงั้นหรือ" "หลังจากเสด็จกลับแล้ว
ข้าถึงได้รู้เรื่องนี้น่ะครับ ได้ยินว่าชูซอน ไปขวางไว้จึงถูกแทงเข้า"
"แล้วชูซอนล่ะ เขาเป็นไงบ้าง" "หมอบอกว่า ไม่มีอันตรายถึงชีวิตครับใต้เท้า
เป็นความสะเพร่าของข้าเอง" "หน้าไหนกล้าบังอาจ คิดลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาท กึมพยอ
ต่อให้พลิกทั่วเมืองหลวง ก็ต้องหาคนๆ นี้ให้พบ และจับมาลงโทษให้ได้" "ข้าน้อย
จะทำตามที่สั่งครับ" ด้านคิมชูซอนพอฟื้นขึ้นมาก็จะกลับวังหลวงตามพระเจ้าซองจง
แต่ร่างกายไม่อำนวยทำให้เขาต้องนอนพักที่บ้านของออลูตง
สาวใช้แปลกใจว่าทำไมเกิดเรื่องนางเกรงว่าจะเป็นแทคังซู แต่ออลูตงคิดว่าไม่ใช่
นางคิดว่าเป็นจีโกบี แล้วก็เป็นจริงตามที่นางคาดไว้ "เจ้า
กลับมาเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อไหร่" "สามวันก่อนเพิ่งมาถึงครับ" "แล้วทำไม
ไม่มาเยี่ยมข้าอย่างเปิดเผย ให้สมเป็นลูกผู้ชายใจกล้าหน่อย กลับย่องมาเงียบๆ
ทำเป็นลับๆ ล่อๆ แถมยังคิดปองร้ายแขกของข้าอีก" "คุณหนู
ทำไมท่านต้องหลอกข้าด้วยครับ" "อะไรนะ ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้าพูด"
"เมื่อก่อนคุณหนูเคยบอกว่า ในใจท่านมีแต่ข้าคนเดียว แล้วทำไม ฮือ
ทำไมมีนัดกับผู้ชายอื่นอีก คุณหนู ท่านต้องเป็นของข้าคนเดียว
แม้ข้าจะเป็นช่างโลหะที่ต่ำต้อย แต่ก็ไม่ยอมให้ใคร มาแย่งคุณหนูไปจากข้าเด็ดขาด"
"เฮ่อๆๆ ผู้ชายทุกคนสำหรับข้า ก็เหมือนกันทั้งนั้น และข้าก็ไม่ใช่คนของใครด้วย
เพราะข้าคือตัวข้า มีชื่อว่าออลูตง" "หึ โปรดดูนี่ซะก่อน
นี่คือรอยสักชื่อของท่านที่ให้ข้าสักไว้ เป็นสิ่งแทนความรักของเรา
ไม่นึกว่ารอยสักยังไม่ทันจางหายไป คุณหนูก็มีคนอื่น มาแทนที่ข้าซะแล้ว ฮือ คุณหนู
ทำไมท่านถึงใจร้าย ทำร้ายจิตใจข้าได้ลงคอ" "ปล่อยมือข้าเดี๋ยวนี้" "ไม่ ฮือ
ต่อให้คนที่มาชอบคุณหนู เป็นถึงพระราชา ข้าก็ไม่มีวันอภัยให้เขา ฮึ่ม ฮือ"
ออลูตงตบหน้าจาโกบี "ไสหัวออกจากบ้านข้าเดี๋ยวนี้
นับแต่นี้อย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก" "คุณหนู"
โอซังกุงให้โบดึ๊กสะกดรอยตามพระเจ้าซองจงกับคิมชูซอนว่าไปที่ไหน
แล้วก็กลับมารายงานว่าทั้งสองไปที่บ้านของออลูตง โอซังกุงได้ยินก็ตกใจมาก
คิมชูซอนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็ลาออลูตงกลับวังหลวงทันที
และเห็นยางซองยุนต้มยาอยู่ก็เข้าไปถาม "นี่เป็นยาของใครหรือครับ
ถึงต้องให้ท่านต้มด้วยตัวเองน่ะ" "เจ้าหนุ่ม ทำตัวให้เหมือนมหาดเล็กหน่อยได้ไหม
อย่าไปเที่ยวข้างนอกบ่อยนัก ใส่ใจเรื่องในวังซะบ้าง" "หึ ขอโทษด้วยครับ"
"ก็พระมเหสีนั่นแหละ ทรงตั้งครรภ์เป็นครั้งที่สองแล้ว"
คิมชูซอนฟังแล้วทั้งดีใจและตกใจ "อะไรนะครับ เรื่องนี้ เป็นความจริงหรือเปล่า" "หึๆ
จริงสิ นี่เป็นยาบำรุงขนานเอก เพื่อให้พระมเหสีเสวยจนไปถึงทารกในพระครรภ์ด้วย
เดี๋ยวพอต้มเสร็จแล้ว เจ้าไปส่งที่ตำหนักกลางด้วยล่ะ" "ด้วยความยินดีครับ"
คิมชูซอนนำยาไปถวายพระมเหสียุนโซฮวา "พระมเหสี ยินดีที่ทรงตั้งครรภ์พ่ะย่ะค่ะ"
"เฮ่อ ขอบใจมาก" "แต่ว่า ทำไมพระพักตร์ดูไม่สดชื่นเลย หรือว่าทรงแพ้ท้องรุนแรง
ถึงเป็นแบบนี้ใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ" "แพ้ท้องให้หนักแค่ไหน ซักพักก็หายไป
แต่ความเจ็บปวดที่เกิดจากคนใกล้ตัวนี่สิ ไม่ว่าเยียวยาแค่ไหน ก็ไม่อาจเป็นปกติได้
เฮ่อ ชูซอน ยังจำสมัยก่อน ที่ฝ่าบาททรงประทานป้ายหยกให้ข้า ในวันนั้นได้ไหม"
"ฝ่าบาทกำลังจะขึ้นครองราชย์ ฝากให้หม่อมฉันนำไปมอบให้พระมเหสี" "เฮ่อ ตอนที่ฝ่าบาท
ทรงประทานป้ายหยกให้ข้านั้น ความหมายเท่ากับทรงสู่ขอข้าด้วย
และข้าก็เชื่อในความจริงใจ ที่พระองค์ทรงมีต่อข้า แม้ว่าหลังๆ จะมีสนมอีกเป็นสิบคน
ก็เพื่อให้มีทายาท ทำให้ราชวงศ์รุ่งเรือง เหล่านี้ข้าพอเข้าใจได้ แต่ว่าจู่ๆ ฝ่าบาท
กลับไปมีผู้หญิงอื่นที่ข้างนอก ยังไงข้าก็ทำใจไม่ได้" "พระมเหสี
ทำไมรับสั่งอย่างงั้นล่ะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทไม่มีใคร ที่เสด็จออกไป
ก็ไม่เกี่ยวกับผู้หญิงเลย" "ข้ารู้ว่าที่เจ้าพูดแบบนี้ เพราะไม่อยากให้ข้าเสียใจ
แต่เจ้าก็เลิกปิดบังข้าได้แล้ว ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็อึดอัดไม่น้อยเหมือนกัน ฮือ
ข้าเคยเชื่อว่าความรักของฝ่าบาท จะไม่มีวันเปลี่ยน ไม่ว่ากี่เดือนกี่ปี ฮือ
แต่ลืมไปว่าพระองค์ก็เป็นผู้ชาย เห็นทีว่า ข้าคงไม่กล้าหวังอะไรอีกแล้ว
ฮือ"ทางด้านสนมออมก็กำลังคุยกับสนมชอง "พระมเหสีช่างเป็นหญิงที่มีบุญนัก
ครั้งแรกที่ประสูติโอรสก็ได้ตำแหน่งมเหสีไปครอง คราวนี้ก็ยังตั้งครรภ์ซ้ำอีก" "เฮ่ย
ข้าก็ว่างั้นแหละ ทีแรกนึกว่าตัวเองตั้งครรภ์
จะเป็นที่สนใจของฝ่าบาทและราชสำนักบ้าง ปรากฏว่าพระมเหสีก็ทรงตั้งครรภ์
เลยแทบไม่มีใครมองข้าอีก" "แต่เจ้ายังดี ถือว่ามีทายาทให้ฝ่าบาทเชยชมซักคน
ไม่เหมือนข้า ไหนจะต้องเป็นเบี้ยล่างพระมเหสี ไหนจะถูกเหล่าสนมด้วยกันมองข้าม
อยู่ในสภาพที่น่าสมเพชนัก แถมตอนนี้
ยังมีผู้หญิงอีกคนมาแบ่งปันความรักจากฝ่าบาทไปอีก ฉะนั้นวันนี้
ข้าต้องสืบให้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร วิเศษมาจากไหนกันเชียว" "ทูลพระสนม
มหาดเล็กคิมมาแล้วเพคะ" "ได้ยินว่าเจ้าเป็นคนเดียวที่ได้ตามเสด็จฝ่าบาทออกไปข้างนอก
มหาดเล็กคิม ฝ่าบาทเสด็จไปพบใคร บอกข้ามาเดี๋ยวนี้" "ขอทรงอภัย
หม่อมฉันทูลไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ" "อะไรนะ เจ้าช่างบังอาจ
กล้าขัดคำสั่งสนมเอกอย่างข้าเชียวหรือ" "ตามกฎของกรมมหาดเล็ก
ไม่อาจเปิดเผยเรื่องส่วนพระองค์ของฝ่าบาท ไม่ว่าจะทรงไปทำอะไรพ่ะย่ะค่ะ"
"เจ้านี่มันกำแหงจริงๆ ถือว่ามีพระมเหสีให้ท้าย เลยไม่เห็นหัวเราสองคนใช่ไหม"
"หม่อมฉัน ไม่เข้าใจที่พระสนมรับสั่ง" "ได้ยินมานานว่า
เจ้าเคยเป็นคนรักเก่าของพระมเหสีงั้นหรือ" ฮุงบีตกใจ คิมชูซอนเองก็ตกใจเช่นกัน
สนมชองกล่าวต่อ "หึ ทำหน้าตกใจ ไม่กล้าปฏิเสธ
แสดงว่าข่าวลือน่าจะมีมูลความจริงบ้าง" "ทำไมต้องเอาข่าวลือเหลวไหล
ทำให้พระมเหสีเสื่อมเสียพระเกียรติด้วยพ่ะย่ะค่ะ พระสนมทั้งสอง
ถ้ามีเจตนาปองร้ายพระมเหสีทางอ้อม หวังทำให้ทรงเสื่อมเสียละก้อ
หม่อมฉันจะไปทูลให้ฝ่าบาททรงทราบ เพื่อให้ลงอาญาพระสนมทั้งสองให้หลาบจำซะบ้าง"
สนมออมตกใจบ้าง "หา อะไรนะ" "คำเตือนของหม่อมฉัน ขอให้ทรงจำไว้ด้วย" สนมออมโมโหมาก
แค้นมากและคิดว่าสักวันจะเล่นงานคิมชูซอนบ้าง คิมชูซอนออกไป ฮุงบีตามไปทันที
"มหาดเล็กคิมๆ ที่พระสนมรับสั่งเมื่อกี้ เป็นความจริงหรือ สมัยก่อนเจ้าเคยเป็น
คนรักเก่าของพระมเหสีจริงหรือเปล่า ฮือ" "แม่นางฮุงบี
ต่อไปจงอย่ามาตีสนิทกับข้าอีก" "หา อะไรนะ" "ตั้งแต่วันนี้ไป
เราจะถือว่าเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน" "เอ่อ มหาดเล็กคิม ทำไมตัดรอนข้าอย่างงั้นล่ะ"
"ได้ยินว่าพระมเหสีมีพระบัญชาห้ามเด็ดขาด ไม่ให้มหาดเล็กกับนางในสนิทเกินเหตุ
จนมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาว ข้าไม่อยากทำอะไรให้คนอื่นครหา
และเจ้าก็จะเป็นฝ่ายเสียหาย จึงได้เตือนไว้" "ฮือ มหาดเล็กคิม ฮือ
เจ้าช่างทำร้ายจิตใจข้าได้ลงคอ ฮือ ไม่เห็นใจข้าบ้างหรือ ฮือๆๆ" แคนัม เกยนัม
กับมูนโซอุนคุยกันเรื่องข่าวลือ เห็นคิมชูซอนนั่งนิ่งก็หันไปถามว่าทำอะไร "อ้อ
เปล่า ทำไมหรือ" "ชูซอน เจ้ารู้อะไรหรือเปล่า ตอนนี้ข้างนอก ใครๆ
ก็รุมพนันกันใหญ่เลย" "พนันอะไร" คิมชูซอนงุนงง "พนันว่าฝ่าบาท
ที่เสด็จออกนอกวังไปบ่อยครั้ง เพราะไปติดนางโลมแถวสะพาน "กวางทง"
หรือลูกสาวบ้านไหนแน่ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่" "ชูซอน
เรื่องนี้เจ้ารู้ดีกว่าใคร ถ้าไงช่วยบอกความจริงให้รู้หน่อยได้ไหม"
"รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้ก็ควรจะห้ามปราม ไม่ใช่ไปผสมโรง
วิจารณ์เรื่องของเบื้องบนเป็นที่สนุก แถมยังไปพนันขันต่ออีก" คิมชูซอนดุเพื่อน
"เห็นมั้ยล่ะ บอกแล้วเขาต้องว่าเราแน่" "ต่อไป ทำอะไรให้รู้จักคิดบ้างล่ะ"
"ขอโทษด้วยนะ" "นั่นสิ ฟังดูเหมือนเราเป็นฝ่ายผิด งั้นข้าก็ขอโทษอีกคน" "ชูซอน
แล้วทำไม ป่านนี้จาจียังไม่กลับมาอีกล่ะ" "หึ คงจะติดงาน ทำให้เสียเวลาไปหน่อย
แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเขาก็มาเอง" คิมชูซอนไปเข้าเฝ้าพระเจ้าซองจง
ทรงตรัสถามว่าบาดแผลดีหรือยัง "โชคดี ที่ไม่ถึงกระดูกและภายใน
กินยาซักพักน่าจะหายพ่ะย่ะค่ะ" "เฮ่อ งั้นก็ดีแล้ว
ช่วงนี้ถ้าข้าจำเป็นต้องออกนอกวังอีก จะไม่ให้เจ้าติดตาม
เจ้ารักษาตัวให้หายก่อนเถอะนะ" "ฝ่าบาท ข้างนอกมีคน คิดปองร้ายต่อพระองค์อยู่
หม่อมฉันว่า ถ้าไงช่วงนี้ อย่าเสด็จออกไปจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ" "ข้าจะระวังให้มาก
เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก" โอซังกุงตัดสินใจเข้าเฝ้าพระเจ้าซองจง
สร้างความแปลกพระทัยแก่พระเจ้าซองจง "โอซังกุง มีธุระอะไร"
"หม่อมฉันมีเรื่องบางอย่างจะทูลฝ่าบาท ไม่ทราบพอว่างมั้ยเพคะ"
พระเจ้าซองจงทรงบอกให้โอซังกุงว่ามา "ฝ่าบาท อย่าเสด็จออกนอกวังอีกได้ไหมเพคะ"
"แม่นม ทำไมถึง" "หึ ฝ่าบาททรงอ้างว่า การเสด็จออกไปข้างนอกบ่อยครั้ง
เพื่อเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของราษฎร แต่จริงๆ
คือเสด็จไปหาหญิงที่ชื่อออลูตงมากกว่าจริงมั้ยเพคะ" พระเจ้าซองจงทรงอึ้ง "หึ"
"หญิงที่ฝ่าบาททรงมีความรักให้ คือพระมเหสีไม่ใช่หรือเพคะ ที่แล้วมาพระมเหสี
ทรงเชื่อและศรัทธาในความรักของฝ่าบาทเสมอ แล้วทำไมกลับไปโปรดปรานหญิงอื่น
ทำให้พระมเหสีทรงเสียพระทัยล่ะเพคะ" "แม่นม ผู้หญิงคนเดียวที่ข้ารัก
คือชุงจอนจริงๆ" "แล้วทำไมถึงได้" "ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าเคยพยายามอยู่หลายครั้ง
ที่จะลืมผู้หญิงคนนั้นให้ได้แต่ว่า ยิ่งห้ามก็ยิ่งคิดถึงมากขึ้น" "หึ เห็นบอกว่า
นางเป็นภรรยาของเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งด้วย ฝ่าบาทไม่ทรงคิดหรือว่า
ทำแบบนี้จะทรงเสื่อมเสียพระเกียรติอย่างมากน่ะเพคะ
ยิ่งตอนนี้พระมเหสีกำลังทรงตั้งครรภ์อยู่ หม่อมฉันอยากให้ฝ่าบาท
ทรงเห็นแก่สายพระโลหิตบ้าง ตัดขาดกับผู้หญิงคนนั้นซะ จะเป็นการดีกว่านะเพคะ"
"ข้าก็ไม่รู้จะทำไงดีเหมือนกัน แม่นม ท่านเหมือนแม่อีกคนของข้า ข้าหวังว่า
จะได้รับความเห็นใจจากท่านบ้าง" โอซังกุงได้แต่ถอนใจ
ไม่รู้จะทูลต่ออย่างไรดี00000000000000000000
โชชิคยอมถามคิมชูซอนถึงอาการบาดเจ็บว่า "ชูซอน
อาการบาดเจ็บที่เกิดจากการปกป้องฝ่าบาท ดีขึ้นบ้างหรือยัง"
"ข้ามักทำให้ท่านพ่อเป็นห่วงอยู่เรื่อย ต้องขอโทษด้วยครับ" "พอรู้มั้ยว่า
คนร้ายน่าจะเป็นพวกไหน" "ฮูหยินของท่านแทคังซู ซึ่งฝ่าบาทไปหาบ่อยๆ นั้น
ได้ยินว่าเคยมีความสัมพันธ์ของชายหลายคน ถ้าจะมีหนึ่งในนั้น
ไม่พอใจฝ่าบาทจนคิดปองร้ายก็ไม่ใช่เรื่องแปลกน่ะครับ" "อึม
งั้นต่อไปก็ยิ่งต้องระวังให้มาก เวลาฝ่าบาทจะไปไหน ต้องถวายอารักขาให้ดีล่ะ"
"ข้ารู้หน้าที่ตัวเองครับ" "ถ้าอย่างงั้น เรื่องลาออกของเจ้า
จะไม่พูดอีกแล้วใช่ไหม" "ข้ายังไม่ได้คิดเลยว่า
ตัวเองจะไปทางไหนถึงเหมาะที่สุดน่ะครับ" "เอาเถอะ
ข้าเชื่อว่าเจ้าน่าจะไตร่ตรองดีแล้ว ค่อยสรุปว่า จะอยู่หรือจะไป"
แม่ของพระมเหสียุนโซฮวาและวอฮามาเข้าเฝ้าพระมเหสียุนโซฮวา "พระมเหสี
ขอแสดงความยินดีด้วยเพคะ" "หึ พระมเหสี ช่างเป็นข่าวดีเหลือเกินเพคะ
แม้พระมเหสีจะมีตำแหน่งสูง แต่ก็น่าเป็นห่วงเพราะครอบครัวเราไม่มีอิทธิพล
ตอนนี้เมื่อทรงตั้งครรภ์อีก หม่อมฉันก็ค่อยเบาใจขึ้นเพคะ" "หึ ข้าต้องขอโทษ
ที่ทำให้ท่านแม่เป็นห่วงมาหลายปีนะคะ" "อย่ารับสั่งอย่างงั้นสิเพคะ
แม่หมอวอฮาจะทำพิธีสวดมนต์ขอพรให้พระโอรสองค์ใหม่ หน้าที่ของพระมเหสี
คือดูแลพระองค์ให้ทรงแข็งแรงก็พอแล้ว" "หม่อมฉัน จะอธิษฐานขอให้พระมเหสีทรงแข็งแรง
มีประสูติกาลด้วยความราบรื่น และได้พระโอรสอีกองค์เพคะ" "ขอบคุณมาก"
องค์ชายวอนจามองวอฮา "ท่านเป็นแม่หมอหรือครับ" "หึๆ เพคะ ไม่เจอองค์ชายพักใหญ่
ดูเหมือนทรงเจริญพระชันษามากขึ้นนะเพคะ" "ทำไมท่านรู้จักข้าด้วยหรือ"
"สมัยที่องค์ชายประสูติใหม่ๆ หม่อมฉันก็เคยเห็นแล้วเพคะ" "ว่าแต่
ตอนนี้พี่ใหญ่เป็นไงบ้าง สบายดีหรือเปล่าคะ" "เอ่อ ก็ยัง เที่ยวเล่นไปวันๆ
เหมือนเดิม ติดตามพวกเชื้อพระวงศ์ เข้านอกออกในหอนางโลมเป็นประจำ
จนหม่อมฉันรู้สึกละอาย ไม่รู้จะทูลยังไงดีแล้ว" วอฮาปะหน้ากับโอซังกุงก็รู้สึกผิด
"ข้ารู้สึก เป็นความผิดจนแทบไม่กล้าสู้หน้าท่านอีก" "การที่ตามหาลูกข้าไม่พบ
ไม่ใช่ความผิดของท่านซักหน่อย โปรดอย่าคิดมากเลยนะคะ
แค่รู้ว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ก็พอแล้ว เชื่อว่าซักวัน อาจมีโอกาสได้เจอเขาบ้าง
ถ้ามีเวลา ก็ช่วยอธิษฐานให้ข้ากับลูก ได้พบเจออีกครั้งเถอะนะ" "เอ่อ
เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ" "หึ ขอบคุณมากค่ะ" พระเจ้าซองจงทรงเล่าเหตุการณ์ต่างๆ
ที่ทรงทอดพระเนตรเห็นทุกครั้งที่เสด็จออกจากวังหลวง
ทำให้พระเจ้าซองจงทรงรู้สึกว่าพระองค์ไม่ใช่พระราชาที่ดี
พระเจ้าซองจงทรงมีรับสั่งถามโชชิคยอมถึงวิธีการขจัดทุกข์บำรุงสุขให้พสกนิกร
"ถ้าจะแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ก่อนอื่นควรให้ขุนนางทยอยเปิดห้องเก็บของ
เอาสมบัติและเสบียงที่กักตุนไว้ออกมาช่วยเหลือพ่ะย่ะค่ะ" "อะไรนะ
มันจะเป็นไปได้ยังไง ที่พวกเขาจะยอมแจกจ่ายเสบียงง่ายๆ น่ะ"
"ฝ่าบาทก็ทรงทำเป็นแบบอย่างซะ เปิดท้องพระคลัง นำทรัพย์สินและเงินทองไปแจกจ่าย
เมื่อราชสำนักเป็นตัวตั้งตัวตี ขุนนางเห็นเข้าก็จำต้องเจริญรอยตาม
ไม่กล้าโต้เถียงแม้แต่น้อยพ่ะย่ะค่ะ" "อึม ราชเลขาจงฟัง ไปเปิดห้องสมบัติของเราก่อน
นำของมีค่าไปแลกเป็นเสบียง แจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ยากไร้
และสั่งการไปยังขุนนางท้องที่ ให้คัดเลือกคนที่ทำความดี กตัญญูต่อพ่อแม่
บอกว่าทางการจะมีรางวัลให้" แล้วก็เป็นจริงดั่งโชชิคยอมว่า
เหล่าขุนนางต่างพูดถึงเรื่องนี้กัน "ไม่น่าเชื่อ
ฝ่าบาทถึงขนาดให้เปิดห้องเก็บสมบัติ เอาของมีค่าไปแลกเป็นเสบียงมากมาย เฮ่อๆ
ถึงทำอย่างงั้นก็ช่วยคนไม่ได้มาก ไม่เข้าใจเลยว่าทรงคิดยังไงกันแน่"
ใต้เท้ายุนโฮกล่าวต่อ "อีกไม่นาน ก็ถึงตาพวกเราเปิดห้องเก็บของ เอามาบริจาคบ้าง
น่าปวดหัวจริงๆ ไม่รู้จะรับมือยังไงดี" "เราจำเป็นต้องทำตามฝ่าบาทด้วยหรือ"
"ในเมื่อฝ่าบาททรงมีน้ำพระทัย ประสงค์จะช่วยชาวบ้านที่ยากไร้ให้ได้
เราเป็นขุนนางแท้ๆ จะนั่งกอดสมบัติ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ยังไง"
ใต้เท้าซังตังกล่าวต่ออย่างไม่ค่อยพอใจว่า "เรื่องของเรื่องเป็นเพราะ
ฝ่าบาทเสด็จออกนอกวังไปคลุกคลีกับชาวบ้านบ่อยเกินไป ถึงได้เป็นแบบนี้
เป็นถึงพระราชา แทนที่จะทรงเชื่อขุนนาง ไว้ใจการทำงานของพวกเรา
กลับไปฟังเสียงชาวบ้านโง่ๆ ที่เรียกร้องโน่นนี่ไม่รู้จบ
แบบนี้บ้านเมืองจะอยู่รอดได้ยังไง คิดแล้วก็น่าเป็นห่วงจริงๆ"
ชองฮันซูกับคิมชูซอนและจาจี พากันมาพบโตชิ และบอกเรื่องคืนชีพของจาจีให้ฟัง "อึม
คืนชีพหรือนี่ ข้าเคยแต่ฟังมา แต่ไม่เคยเห็นกับตาซักครั้ง จาจี เจ้ารู้สึกว่า
ความเป็นชายได้กลับคืนมาจริงหรือ" "ใช่ครับ" โตชิถอนใจ "นั่นสินะ
เห็นหนวดเคราที่ขึ้นประปราย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะ" "ท่านอาครับ คิดว่าเขา
ยังจะรับการตอนอีกครั้งได้ไหม" "หึ ตอนในวัยหนุ่ม มันจะเสี่ยงมาก"
"แต่ถ้าไม่จัดการตอนให้หมด เขาก็ต้องตายสถานเดียวนะครับ" ชองฮันซูว่า
จาจีเองก็ยืนยัน "แม้จะมีความเสี่ยงขนาดไหน ข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่น ท่านอา
โปรดตอนให้ข้าอีกครั้ง ไม่ต้องห่วงหรอกครับ" "เราเชื่อมือท่านอา คิดว่าคงไม่มีปัญหา
ต้องทำสำเร็จแน่" โตชิย้ำถามจาจี "เจ้าไม่เปลี่ยนใจแน่นะ" "ข้าจะไม่เปลี่ยนใจแน่"
"คนที่เคยผ่านความสุขทางโลกมาแล้ว ถ้าให้เขาถูกตอน ชีวิตก็แทบหมดความหมาย
อยู่ไปก็เหมือนไร้ค่า เจ้าไม่เสียใจแน่นะ" "ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองได้คืนความเป็นชาย
เพราะกลัวถูกคนอื่นจับได้ วันๆ อยู่ด้วยความหวาดหวั่น ยังไงซะ ถ้าไม่เป็นมหาดเล็ก
ข้าก็หมดอนาคตอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ข้าจะไม่มีวันเสียใจ" โตชิตอนให้จาจีอีกครั้ง
และบอกกับคิมชูซอนและชองฮันซูว่าให้จาจีพักอีกสัก 3 วัน
คงไม่มีปัญหาจากนั้นก็ให้กลับไปทำงานต่อได้ "ฝากดูแลจาจีด้วยนะครับ"
คิมชูซอนกล่าวกับโตชิและวอฮา "พวกเราทำดีที่สุดแล้ว
ที่เหลือก็แล้วแต่สวรรค์จะปรานีเถอะ" "ไม่ต้องห่วงเขาหรอก
แม่เชื่อว่าสวรรค์ต้องคุ้มครองคนดีอย่างเขาแน่" "งั้นก็ขอรบกวนหน่อยแล้ว"
"ฟื้นเมื่อไหร่ จะส่งข่าวให้รู้ แล้วค่อยมาเยี่ยมละกัน"
พระมเหสียุนโซฮวาทรงกลัดกลุ้มพระทัยมาก จนโอซังกุงต้องคอยเตือน "พระมเหสี
เสด็จเข้าตำหนักเถอะเพคะ ทารกในครรภ์ไม่ควรตากลมเย็นนะเพคะ"
"แม้จะให้ลมเย็นพัดผ่านร่างกาย แต่ในใจข้ายังรู้สึกอัดอั้น
หาความโปร่งโล่งไม่มีเลย" พระอัยยิกาจองฮีทรงเห็นก็อดทักไม่ได้ "ชุงจอน
หมู่นี้ทำไมหน้าตาซีดเซียวล่ะ เพราะเรื่องฝ่าบาทออกไปข้างนอกบ่อย
ทำให้เจ้ากลุ้มใจจนเครียดใช่ไหม" "หม่อมฉันทำให้ทรงเป็นห่วง ขออภัยเพคะ" "ชุงจอน
ภาษิตว่าต้นตอของโรคมักเกิดที่ใจเป็นส่วนใหญ่ ยังไงถือว่าเห็นแก่ลูกในท้อง
เรื่องบางอย่างปล่อยวางได้ก็ปล่อยวางไปเถอะ" "หม่อมฉัน
ก็เห็นด้วยที่ฝ่าบาทจะเสด็จไปเยี่ยมราษฎร ให้รู้สภาพความเป็นจริงบ้าง แต่ว่า
เนื่องจากเสด็จออกไปบ่อย ทำให้เกิดการครหาไปทั่ว หม่อมฉันเกรงว่าถ้าปล่อยไว้นานๆ
อาจทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติก็เป็นได้" "อึม ความรู้สึกของเจ้า ข้าย่อมเข้าใจดี
แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือวันยังค่ำ เราต้องเชื่อใจฝ่าบาท ให้เวลาเขาหน่อยเถอะนะ"
"หม่อมฉัน เชื่อใจฝ่าบาทเสมอเพคะ" สนมยุนซุกปลอบใจพระมเหสียุนโซฮวาเช่นกัน
"พระมเหสีก็ทรงทราบดีว่า หญิงที่ฝ่าบาททรงรักที่สุด มีแต่พระมเหสีองค์เดียวเท่านั้น
ใครก็ไม่อาจเทียบได้ ขอทรงวางพระทัยเถอะเพคะ ตอนนี้พระมเหสีต้องทรงแข็งแรง
ทารกในพระครรภ์ ถึงจะแข็งแรงตามได้นะเพคะ" "หึ
เจ้ารู้มั้ยว่าเหล่าขุนนางมีความเห็นยังไง ต่อการเสด็จของฝ่าบาทบ้าง" "พระมเหสี
ตอนนี้สำคัญคือดูแลทารกในพระครรภ์มากกว่า เรื่องในราชสำนัก
หม่อมฉันเชื่อว่าฝ่าบาทคงสามารถจัดการเองได้" "หึ บอกข้ามาตามตรงเถอะ"
"ได้ยินว่าขุนนางทั้งหลาย
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อการเสด็จออกไปข้างนอกของฝ่าบาทไม่น้อย
หม่อมฉันกลัวว่าถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ฝ่าบาทอาจถูกเหล่าขุนนางตำหนิก็เป็นได้"
พระมเหสียุนโซฮวาทรงฟังแล้วก็ถอนพระทัย
เวลาเดียวกันชองฮันซูได้พบหน้าใต้เท้าซังตังก็ทักทาย "ใต้เท้า
ไม่ทราบสบายดีหรือเปล่าครับ" "มหาดเล็กชอง หมู่นี้ได้ยินว่าฝ่าบาททรงปลอมพระองค์
เสด็จออกนอกวังบ่อยครั้ง รู้มั้ยว่าพระองค์เสด็จไปไหนน่ะ"
"เห็นว่าเสด็จไปเยี่ยมราษฎร ตรวจดูปัญหาทั่วไปน่ะครับ" "แน่ใจหรือว่า
มีเพียงแค่นี้" "เท่าที่ข้ารู้มา ก็มีเพียงเท่านี้น่ะครับ" "ดูเหมือนว่า
ตั้งแต่ใต้เท้าโนเสียชีวิตไปแล้ว ข้าจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเจ้าเท่าไหร่
มหาดเล็กชอง ถ้าเจ้ายังอยากเป็นเจ้ากรมมหาดเล็กเหมือนที่คิดไว้ละก้อ
ข้าจะให้การสนับสนุนเอง แต่ว่า ก็มีข้อแลกเปลี่ยน
เจ้าต้องรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับฝ่าบาท ให้ข้ารู้ทุกฝีก้าว ห้ามขาดตกบกพร่อง
สิ่งที่ข้าพูด เจ้าเข้าใจหรือเปล่า" ชองฮันซูคิดตาม ก่อนจะไปพบกับโชชิคยอม
"มหาดเล็กชอง วันนี้นึกยังไง ถึงมาพบข้าได้น่ะ" "ใต้เท้าซังตังถามข้าว่า
ฝ่าบาทเสด็จออกข้างนอก ไปไหนบ้างน่ะครับ" "อะไรนะ" "ใต้เท้าซังตัง เหมือนจะเชื่อว่า
ท่านเป็นคนชี้นำให้ฝ่าบาท เสด็จออกไปหาความสุขข้างนอกน่ะครับ"
"แล้วเอาข้อสงสัยของเขา มาบอกให้ข้ารู้ทำไม" "ข้าน้อย
เป็นมหาดเล็กที่ต้องถวายอารักขาเป็นสำคัญ ต่อให้เป็นใต้เท้าซังตัง
ก็ไม่ควรทำให้ฝ่าบาทมีอันตราย หรือสอดรู้สอดเห็นมากเกินไปน่ะครับ" "หึ มหาดเล็กชอง
จนวันนี้ เจ้าเพิ่งรู้หน้าที่ของการเป็นมหาดเล็ก
แล้วเจ้าคิดว่าข้าควรจะทำอะไรบ้างล่ะ" "หาวิธีระงับการครหา
ที่ใต้เท้าซังตังกับเหล่าขุนนาง พากันวิจารณ์ให้ฝ่าบาททรงเสื่อมเสีย"
"มันก็น่าจะเป็นอย่างงั้นอยู่" "แต่ว่า มีข่าวลือหนาหู
ว่าการที่ฝ่าบาทเสด็จออกไปบ่อยๆ เพราะมีหญิงคนหนึ่ง ซึ่งแอบไปมาหาสู่อย่างลับๆ
น่ะครับ ข่าวลือที่ในวังพูดกัน เป็นความจริงหรือเปล่าครับ ใต้เท้า
ก่อนที่คนอื่นจะรู้ความจริง ข้าว่าเราควรจะห้ามฝ่าบาท ไม่ให้เสด็จออกไปอีก"
"แต่เราเป็นแค่มหาดเล็กเท่านั้น จะมีสิทธิ์อะไรไปห้ามฝ่าบาท ไม่ให้ทำโน่นทำนี่ได้"
"แต่ว่า" "เจ้า เป็นหัวหน้ามหาดเล็กตรวจการณ์ แค่ไปจัดการพวกปากหอยปากปู
อย่าให้พูดมากก็พอ ที่เหลือจากนี้ ปล่อยเป็นหน้าที่ข้าเอง" "ทราบแล้วครับใต้เท้า
ถ้าอย่างงั้น วันนี้ข้าคงต้องขอตัวก่อน" โชชิคยอมสั่งให้กึมพยอไปตามซอยองกลับมา
เขาปฏิบัติตามคำสั่งทันที "ตอนนี้ใต้เท้าโช กำลังรอพบเจ้าอยู่" "กี่ปีๆ
ท่านก็ดูเย็นชาเหมือนเดิม ไม่เหมือนข้า ออกจะคิดถึงท่านอยู่บ่อยไป แล้วทำไมท่าน
ไม่รู้สึกคิดถึงข้าบ้างหรือไง หึ" ด้านจาจีทั้งเจ็บปวดและหอบ
แต่โตชิยังบังคับให้เขายืนและเดิน คิมชูซอนเข้ามาเห็นบอกให้โตชิไปพักผ่อน
เขาจะดูแลจาจีเอง "เฮ่ย ถึงข้าจะหนีไปกับนางในปาร์ค ก็ต้องกลัวว่าจะถูกทหารจับ วันๆ
ไม่เป็นอันทำมาหากินเหมือนกัน ที่สำคัญ ข้าไม่อยากให้เจ้า ออกหน้ารับแทน
และยังถูกลงโทษแทนข้าอีก เฮ่อ แค่ให้นางออกจากวังอย่างปลอดภัยได้ บุญคุณของเจ้า
ข้าจะไม่มีวันลืม" "รีบหายดีไวๆ จะได้กลับไปทำงานต่อนะ ทั้งโซอุน แคนัมและเกยนัม
ต่างก็บ่นถึงเจ้า อยากให้กลับไปเร็วๆ" "หึ แล้วพวกเขา สบายดีหรือเปล่า
ข้าก็คิดถึงนัก" ซอยองกลับมาพบโชชิคยอม "ใต้เท้าโช ไม่เจอหลายปีสบายดีมั้ยคะ"
"สบายดี แล้วเจ้าล่ะ อยู่สบายหรือเปล่า" "หึ เพราะมีท่านช่วยดูแลมาตลอด
ข้าเลยอยู่อย่างหายห่วงน่ะค่ะ" "เห็นว่าเจ้าไปอยู่แถววัด "เมียวเฮียง"
อยู่อย่างสันโดษงั้นหรือ" "แค่จะหาที่เงียบๆ ถือศีลกินเจชำระจิตใจน่ะค่ะ ว่าแต่
ไม่ทราบว่าใต้เท้า ตามข้ากลับมามีอะไรหรือคะ" "อยากให้เจ้า
ทำงานบางอย่างเพื่อฝ่าบาท และราชสำนักหน่อย ไม่ทราบจะยินดีมั้ย" "เรื่องนี้
แล้วแต่ใต้เท้าจะสั่งเถอะค่ะ เพราะทุกวันนี้ข้าเปรียบเหมือน
สุนัขที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของที่ชุบเลี้ยง" ที่กรมมหาดเล็ก
เจ้ากรมมหาดเล็กบอกกับเหล่าหัวหน้าว่า "ใต้เท้าโชสั่งมาว่า
เกี่ยวกับการเสด็จออกนอกวังของฝ่าบาท ให้ทุกคนปิดเงียบไว้
ห้ามมีการวิพากษ์วิจารณ์เด็ดขาด" "ข้าทราบแล้วครับ" "แต่จริงๆ แล้วฝ่าบาท
เสด็จไปไหนแน่ ท่านรู้หรือเปล่าครับ หลายคนบอกว่า ทรงไปหลงเสน่ห์
หญิงนางโลมแถวสะพานกวางทง ไม่รู้จริงหรือเปล่า"
"แม้ว่าข่าวลือมักจะขยายเกินจริงก็เถอะ แต่ก็น่าเป็นห่วงว่าฝ่าบาทจะทรงเสียภาพพจน์
และอาจเป็นที่เสื่อมศรัทธาของผู้คน เพราะเรื่องนี้ก็เป็นได้" "ฮึ่ม
ใครจะพูดยังไงก็ช่าง พวกเรา ก็อย่าลืมทำหน้าที่ตัวเองให้สมบูรณ์ ถวายอารักขาฝ่าบาท
ให้มีความปลอดภัยก็พอแล้ว" "เรียนท่านเจ้ากรม ฝ่าบาทมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าครับ"
พระเจ้าซองจงเสด็จออกนอกวังหลวงครั้งนี้ให้เจ้ากรมมหาดเล็กติดตามไปด้วย
พอถึงระยะหนึ่งก็ทรงตรัสกับเจ้ากรมมหาดเล็กว่า "ข้าต้องไปอีกที่หนึ่ง
เชิญท่านเจ้ากรมกลับไปก่อนเถอะ" "เอ่อ หม่อมฉันขอติดตามไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ" "อย่าเลย
มีกึมพยอคอยดูแลข้าอยู่ ท่านไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงข้าจะรีบไปรีบกลับ" "เอ่อ
ถ้าอย่างงั้น อย่าเสด็จกลับค่ำ ให้ทุกคนเป็นห่วงล่ะพ่ะย่ะค่ะ" "อึม ข้ารู้แล้ว"
พระเจ้าซองจงเสด็จไปกับกึมพยอตามลำพัง
เวลาเดียวกันพระมเหสียุนโซฮวาก็ทรงตรัสถามโอซังกุงว่า "โอซังกุง
ตกลงสืบได้ไหมว่าฝ่าบาทเสด็จไปไหนแน่" โอซังกุงตัดบทว่า "หึ พระมเหสี
เกี่ยวกับการเสด็จออกนอกวังของฝ่าบาท
หม่อมฉันว่าอย่าไปใส่พระทัยให้มากจะดีกว่านะเพคะ" "เฮ่อ
ข้าก็อยากทำอย่างงั้นเหมือนกัน แต่ถ้าไม่มีใครห้ามพระองค์เลย
อีกหน่อยอาจมีเรื่องเสียหายตามมา แล้วเราจะแก้ไขก็ไม่ทันแล้ว โอซังกุง
จงบอกข้ามาตามตรงเถอะ" โบดึ๊กโพล่งมาว่า "เฮ่อ หม่อมฉันเห็นฝ่าบาท
เสด็จไปบ้านผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อออลูตงเพคะ" "ออลูตงหรือ" โอซังกุงหันมาดุ "โบดึ๊ก
ข้าเคยสั่งแล้วว่าอย่าพูดมาก ใครให้มาสอดไม่เข้าเรื่อง อยากเจ็บตัวหรือไง"
"ข้าผิดไปแล้วค่ะ แต่ว่า พระมเหสีอยากรู้ จะให้ข้าทำไงล่ะคะ" "เฮ่อ ออลูตงหรือ
ผู้หญิงอะไรกัน ทำไมตั้งชื่อเป็นการลบหลู่ตัวเองถึงขนาดนี้
เป็นนางโลมของหอไหนรู้มั้ย" "เอ่อ เห็นว่าชื่อนี้
นางจงใจตั้งขึ้นเองและไม่ใช่นางโลม แต่เป็น
ฮูหยินของเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งชื่อแทคังซูเพคะ" พระมเหสียุนโซฮวาตกพระทัยยิ่งนัก
"ว่าไงนะ เป็นฮูหยินของพระญาติเชียวหรือ หึ เฮ่อ"
พระเจ้าซองจงเสด็จมาถึงบ้านของออลูตง ก็ทรงไอนิดหน่อย "ตลอดทางมานี่มีแต่ลมเย็น
พัดนานๆ ทำให้รู้สึกหนาว" "สงสัยจะเป็นหวัดมังคะ ถ้าไงไปแช่ในน้ำอุ่นหน่อย
เป็นการขจัดไอเย็น น่าจะช่วยให้ดีขึ้นหรือเปล่า" พระเจ้าซองจงทรงเห็นด้วย
ออลูตงสั่งให้กิดโยต้มน้ำร้อนทันที และให้พระเจ้าซองจงทรงแช่น้ำ "หึ
ทำไมกลิ่นหอมจัง" "เป็นน้ำมันหอมมาจากต้าหมิงน่ะค่ะ ช่วยให้ผ่อนคลาย
บรรเทาความเหนื่อยล้าได้ดีนัก"
พระมเหสียุนโซฮวาทรงเรียกคิมชูซอนมาเข้าเฝ้าและบอกกับคิมชูซอนว่า "ชูซอน
ข้าจะออกไปข้างนอกซักครั้ง" "พระมเหสี ทรงหมายความว่าไงหรือพ่ะย่ะค่ะ"
"เจ้าช่วยพาข้าไปบ้านผู้หญิงคนนั้น ที่ชื่อออลูตงหน่อย" "พระมเหสี ทำไมถึง หึ
หม่อมฉันพาไปไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ" "ข้าไม่ได้ทำเพราะความหึงหวงหรอกนะ
แต่เพราะเป็นห่วงฝ่าบาทและอยากเห็นนางซักครั้งเท่านั้น
ถ้าเจ้ามีความหวังดีต่อฝ่าบาทจริง ก็ต้องพาข้าไปบ้านนางเดี๋ยวนี้
เพื่อให้เห็นกับตา" พระเจ้าซองจงทรงอยู่กับออลูตงสองต่อสองทรงมีความสุขมาก
"การได้อยู่ตามลำพังกับเจ้า รู้สึกเหมือนฝันไป ข้าแทบอยากทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง
เพื่อขออยู่กับเจ้าคนเดียว และถ้านี่เป็นความฝันจริง ข้าก็ไม่อยากตื่นขึ้นมาอีก หึ"
"ใครๆ ก็ว่าชีวิตคนเรา เกิดมาก็ไม่ต่างกับความฝันอยู่แล้ว แค่พริบตาเท่านั้น
สิ่งที่เห็นก็เหมือนภาพลวงตา ที่พร้อมจะเลือนหายทุกเมื่อ หึ คุณชายคะ วันนี้
เมื่อท่านออกจากบ้านนี้ไปแล้ว ก็ขอให้ลืมข้าและเรื่องระหว่างเราซะ ต่อไปไม่จำเป็น
ได้โปรดอย่ามาหาข้าอีก" "หมายความว่าไงน่ะ" "ข้าเชื่อว่าท่าน
คงมีภารกิจมากมายที่ต้องทำเพื่อครอบครัวและวงศ์ตระกูล แม้ว่า
ข้าจะเป็นแค่ผู้หญิงต่ำต้อย แต่ก็รู้กาลเทศะดี และรู้ว่าไม่ควรทำลายอนาคต
ของคนที่เรารัก เรื่องระหว่างเราสองคน ก็ให้ถือเป็นความฝันเถอะนะ
ต่อไปอย่าเสียเวลามาหาข้าอีกเลย" "เจ้าจะคิดยังไงก็ช่าง
แต่ห้ามบอกว่าต่อไปไม่ให้ข้ามาที่นี่อีก เข้าใจหรือเปล่า" "เรื่องระหว่างเราสองคน
ขอให้จบเพียงเท่านี้เถอะค่ะ อย่าให้ข้าเป็นต้นเหตุ ทำลายอนาคตที่ดีงามของท่านเลย"
"ทุกวันนี้ถ้าไม่ได้เห็นหน้าเจ้า ข้าแทบไม่มีวันความสุขเลยซักวัน" "แต่คุณชาย
ยังมีภรรยาซึ่งเป็นหญิงคนเดียวที่รักมาชั่วชีวิต ท่านลืมนางแล้วหรือคะ"
หลังพระเจ้าซองจงเสด็จกลับไปแล้ว ออลูตงก็นั่งคิดถึงคำพูดระหว่างนางกับพระเจ้าซองจง
จนกิดโยเข้ามาบอกว่ามีแขกมาหา ทำให้ออลูตงแปลกใจว่าแขกที่ไหนกัน "ไม่ทราบว่า
มาหาข้ามีธุระอะไร" "เจ้าก็คือ ออลูตงใช่ไหม" พระมเหสียุนโซฮวาตรัสถาม

จบ 36

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn


Related Posts



3 comments:

Anonymous said...

ขอบคุณสำรับเรื่องย่อนะค่ะ สนุกมากค่ะเอามาลงบ่อยๆนะค่ะเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

Anonymous said...

อยากจะบ้าตาย ลุ้นซะใจหาย
อยากอ่านต่อเร็วๆ จัง.....


ขอบคุณนะค่ะ ขอบคุณจริงๆ

Anonymous said...

สนุกมากๆๆค่ะ คอยติดตามอ่านตลอด เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal