Tuesday, August 26, 2008

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ - คิมชูซอน 35

คิมชูซอน 35
พระเจ้าซองจงเสด็จมาหาออลูตงและทรงมีรับสั่งถามออลูตงถึงข่าวลือที่ว่านางมีความสัมพันธ์กับผู้ชายนับไม่ถ้วนนั้นเป็นความจริงหรือไม่
ออลูตงจับจ้องไปที่พระเจ้าซองจง จากนั้นนางก็ทูลพระเจ้าซองจง ด้วยความน้อยใจว่า
"หึๆๆ ที่แท้ ผู้ชายก็เหมือนกันทั้งโลกจริงๆ
ข้ายังนึกว่าท่านจะไม่เหมือนคนอื่นซะอีก แสดงว่าข้า ตาบอดดูคนผิดไป
เชิญท่านกลับไปได้แล้ว ได้โปรด ปล่อยมือข้าซะ นี่ท่านทำอะไรน่ะ"
"ทำไมเจ้าถึงเล่นตลกกับข้าได้ขนาดนี้ ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเจ้า
ความโกรธแค้นและรังเกียจบอกให้ข้าลืมเจ้าซะ แต่ยิ่งห้ามใจตัวเองก็ยิ่งลืมเจ้าไม่ลง
เจ้าทำให้ข้าเกิดความวุ่นวายใจ รู้ตัวหรือเปล่า ข้าอยากให้เจ้าช่วยบอกว่า
ข่าวลือพวกนั้นไม่เป็นความจริง แล้วข้า จะเชื่อเจ้าคนเดียวเท่านั้น" "จริงๆ แล้ว
ข้าเคยมีความสัมพันธ์ กับผู้ชายมากหน้าหลายตา แต่ว่า
ข้าไม่เคยมอบความรักให้กับผู้ชายคนไหนอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้
ข้าจึงบอกท่านให้รู้ว่าที่แล้วมา ไม่เคยผูกพันกับใครมาก่อน ท่านเป็นผู้สูงศักดิ์
ตามหลักไม่ควรมาใยดีผู้หญิงต่ำต้อยอย่างข้า ให้เสียเวลาโดยเปล่า ถ้าไง
เชิญท่านกลับไปหาภรรยาที่แสนดีเถอะนะ" "คืนนี้ข้าคิดว่า จะไม่กลับไปนอนที่บ้าน"
พระเจ้าซองจงทรงหายไปจากวังหลวงโดยไม่มีผู้ใดรู้
พระมเหสีโซฮวาทรงมีรับสั่งให้บรรดานางกำนัลเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไว้ก่อน
อย่าได้แพร่งพรายออกไปเป็นอันขาด กรมมหาดเล็กให้คำมั่นว่าจะต้องตามหาพระเจ้าซองจง
พบก่อนฟ้าสางอย่างแน่นอน คิมชูซอนออกจากวังหลวงไปเพื่อตามเสด็จพระเจ้าซองจง
กลับวังหลวง ที่บ้าน ออลูตงนำเหล้ามาให้พระเจ้าซองจงดื่มฉลอง "ถ้วยนี้
ถือว่าเป็นเหล้ามงคล แม้เราจะไม่ได้เข้าพิธีให้ถูกต้องตามประเพณี
แต่เมื่อได้ร่วมหอลงโรง ก็ควรดื่มเหล้าให้เป็นมงคลหน่อยนะคะ"
"แต่ข้าไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ต้องขอโทษด้วยนะ" "จริงๆ แล้ว
ข้ามีฐานะเป็นแค่หญิงม่ายคนหนึ่ง ยังจะกล้าเรียกร้องอะไรจากท่านอีก
แค่มีเหล้าดื่มซักถ้วย ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว จนวันนี้
ข้ายังไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนามของคุณชายเลยนะคะ ไม่แน่สำหรับท่านแล้ว
ข้าอาจเป็นแค่ดอกไม้ริมทาง เชยชมแล้วก็ผ่านไป แต่ในความรู้สึกของข้าแล้ว
ท่านคือสามี ที่ข้าควรจะให้เกียรติ" "ข้ามาจากเมือง "ชวนจู" ชื่อ "ลีเซ็งวอน"
ตั้งใจมาสอบที่เมืองหลวง แต่ว่า เพราะด้อยความรู้จึงพลาดหวังหลายปี จนรู้สึกท้อใจ
แต่พอมาปีนี้ ข้าตั้งใจจะสอบเป็นขุนนางให้ได้ เลยมาเมืองหลวงอีกครั้ง" "ส่วนข้า
มีชื่อว่า ออลูตง ค่ะ" "ออลูตงหรือ เพราะอะไร


ถึงต้องตั้งชื่อที่เหมือนดูถูกตัวเองด้วย" "ความหมายคือหญิงที่หาความสุขไปวันๆ
ไม่เคยจริงจังกับใคร ตรงกับตัวข้าดี ไม่เห็นจะดูถูกตรงไหน
ส่วนท่านมีความตั้งใจจะเป็นขุนนาง แต่สอบไม่ได้ซะที
กลับมาคลุกคลีกับหญิงม่ายของเชื้อพระวงศ์อย่างข้า ว่าไปก็พอสมน้ำสมเนื้อ
เหมือนโชคชะตานำชักให้ได้รู้จัก" พระเจ้าซองจงทรงฟังแล้วหัวเราะ
ออลูตงชวนดื่มต่อจนรุ่งเช้าพระเจ้าซองจงทรงตื่นก็บอกออลูตงว่าต้องรีบกลับ
ออลูตงพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่า "แม้จะเป็นความสัมพันธ์ฉาบฉวย แต่พอตื่นมา
ท่านก็บอกว่าจะไป มันก็น่าใจหายเหมือนกัน เมื่อคืนนี้
ถ้าท่านมีความจริงใจต่อข้าเหมือนที่ข้ามีต่อท่าน ก็อยากให้ท่าน ฝากของที่ระลึกไว้
เป็นสิ่งแทนใจได้ไหมคะ ข้าจะได้เก็บไว้คลายความคิดถึง"
พระเจ้าซองจงเขียนกวีมอบให้ออลูตง "ชายเสื้อเขียวขจีประดุจต้นหลิว
ระบายริมสีแดงราวบุปผา ผ้าแพรสีเขียว เปรียบเหมือนต้นหลิวในฤดูใบไม้ผลิ ชายไหมงดงาม
ราวกับดอกไม้ในเดือนสอง แล้วทำไม ไม่เขียนต่อให้จบล่ะคะ" "ต่อจากนี้
ให้เจ้าแต่งเติมเอง" "ท่านให้ข้าเขียนต่อหรือคะ" "ข้าจะได้มีข้ออ้างเรื่องบทกวี
มาพบเจ้าที่นี่อีกไง" "หึ งั้นก็ได้ค่ะ คุณชาย ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ"
"ข้าทิ้งบทกวีไว้ครึ่งๆ กลางๆ แล้วจะมาดูใหม่"
พระเจ้าซองจงทรงตกพระทัยมากเมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นคิมชูซอนดักรออยู่หน้าประตู
"ชูซอน เจ้ารออยู่นี่ทั้งคืนเลยหรือ ข้ารู้สึกละอายต่อเจ้านัก ชูซอน
ทำไมไม่พูดไม่จาซักคำล่ะ ถ้าเจ้าเอาแต่ทำเมินเฉยใส่ข้า ข้าคงไม่สบายใจ"
"ป่านนี้พระมเหสีคงเป็นห่วงแย่แล้ว รีบเสด็จกลับเถอะพ่ะย่ะค่ะ" "งั้นก็ได้
รีบไปเถอะ" พอเสด็จกลับถึงวังหลวงพระเจ้าซองจงรีบเสด็จไปพบพระมเหสียุนโซฮวา "ชุงจอน
ได้ข่าวว่าเจ้าเป็นห่วงข้ามาก แต่ข้าก็ปลอดภัยกลับมาแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงอีกนะ"
"ฝ่าบาท เมื่อคืนออกจากวัง เสด็จไปไหนหรือเพคะ ทำไมไม่ทรงตอบหม่อมฉันล่ะเพคะ" "เฮ่อ
หลายวันก่อน ข้ารู้จักเพื่อนใหม่คนหนึ่งที่อยู่นอกวัง รู้สึกถูกชะตากับเขาเป็นพิเศษ
มีเรื่องให้พูดคุยต่างๆ นานา เมื่อคุยเพลินก็เลยทำให้ลืมเวลาไป" "แล้วทำไมฝ่าบาท
ต้องเสด็จออกจากวังเงียบๆ โดยไม่มีผู้ติดตามซักคนล่ะ เพคะ" "ชุงจอน
ข้าให้สัญญากับเจ้า เรื่องเมื่อคืนจะไม่เกิดซ้ำอีก เพราะฉะนั้น
ต่อไปเลิกพูดซะทีได้ไหม"
พระมเหสียุนโซฮวารับสั่งให้คิมชูซอนมาเฝ้าและคาดคั้นว่าพระเจ้าซองจงเสด็จไปหาพระสหายใหม่จริงหรือ
คิมชูซอนตอบว่าจริง "งั้นเจ้ารู้มั้ยว่า สหายใหม่ที่ฝ่าบาททรงไปพบปะนั้น
เขาเป็นใคร" คิมชูซอนอึ้งไป "ไม่เป็นไร พูดมาเร็วเข้า" "ทูลพระมเหสี
โดยหน้าที่ของมหาดเล็กแล้ว
หม่อมฉันไม่อาจเปิดเผยเรื่องส่วนพระองค์ขณะเสด็จออกข้างนอก
ให้คนอื่นรับรู้โดยไม่ได้รับพระราชานุญาติพ่ะย่ะค่ะ" "แม้แต่ข้า
ก็ไม่มีสิทธิ์รับรู้หรือ" "ทรงอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ" "หึ ในเมื่อเป็นกฎของมหาดเล็ก
ข้าก็ไม่อยากฝืนใจเจ้า แต่ว่า ยังไงข้าก็ผิดหวังนัก" "พระมเหสี" "ช่างเถอะ
ออกไปได้แล้ว" กึมพยอรายงานให้โชชิคยอมรับทราบ
โชชิคยอมให้กึมพยอไปสืบประวัติของออลูตง และให้เฝ้าพระเจ้าซองจงอย่างให้คาดสายตา
พระอัยยิกาจองฮีทรงทราบก็เรียกเจ้ากรมมหาดเล็กมาสอบถามและคาดคั้นว่าต้องสืบให้ได้ว่าพระเจ้าซองจงเสด็จไปที่ไหน
ทันใดนั้นโชชิคยอมก็มาขอเข้าเฝ้า "พระอัยยิกา หม่อมฉัน
มาถวายพระพรขอให้ทรงพระเจริญพ่ะย่ะค่ะ" "เชิญมานั่งทางนี้ ใต้เท้าโช
วันนี้นึกยังไงขึ้นมา ถึงได้มาพบข้าน่ะ" "หม่อมฉัน
เกรงว่าเรื่องที่ฝ่าบาทเสด็จออกจากวังไปเมื่อคืน จะทำให้พระอัยยิกาทรงเข้าพระทัยผิด
จึงมาทูลอธิบายพ่ะย่ะค่ะ" "อะไรนะ นี่แปลว่าท่าน
รู้ว่าเมื่อคืนฝ่าบาทไปไหนงั้นหรือ" "ฝ่าบาทเสด็จไปบ้านหม่อมฉันพ่ะย่ะค่ะ"
"ใต้เท้าโช ท่านพูดความจริงหรือเปล่า"
"เรามีการพูดคุยถึงหลักการบริหารของอดีตพระราชา และฝ่าบาทก็ทรงดื่มมากไปหน่อย
จึงได้บรรทมหลับไปพ่ะย่ะค่ะ" "แล้วทำไมกรมมหาดเล็ก ไม่มีใครรู้ว่าฝ่าบาทไปบ้านท่าน
แถมกว่าจะกลับก็รุ่งเช้าล่ะ"
"เป็นความผิดของหม่อมฉันที่ไม่ได้แจ้งให้กรมมหาดเล็กรู้ก่อนพ่ะย่ะค่ะ
แต่ระหว่างที่ฝ่าบาทอยู่ข้างนอก มีคนของหม่อมฉันคอยถวายอารักขา
ดูแลความปลอดภัยทุกฝีก้าว จึงขอให้พระอัยยิกาไม่ต้องทรงเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ" "ฮึ่ม
ถ้าเป็นอย่างท่านว่าจริง งั้นก็แล้วไปเถอะ"
พระเจ้าซองจงทรงซาบซึ้งพระทัยที่โชชิคยอมช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้พระองค์
"เพราะท่านมาช่วยไกล่เกลี่ยให้คลายความตึงเครียด จึงทำให้ข้ารอดตัวหวุดหวิด
ไม่นึกว่าขนาดท่านอยู่ข้างนอก ยังสามารถช่วยข้าแก้ปัญหาได้อีก" "ฝ่าบาท
เมื่อกี้หม่อมฉันทูลความเท็จต่อพระอัยยิกา ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง
ฐานปิดบังเบื้องสูงนะพ่ะยะค่ะ" "ปิดบังเบื้องสูงอะไรกัน ไม่ถึงอย่างงั้นซักหน่อย
ใต้เท้าโช ท่านทำเพื่อจะช่วยข้าไว้ อย่าตำหนิตัวเองนักเลย" "ฝ่าบาท
ภาษิตว่าความลับไม่มีในโลก ถ้าพระองค์เสด็จออกไปบ่อย
เกิดให้เหล่าขุนนางรู้เรื่องเข้า
จะมีผลต่อความศรัทธาและการบริหารที่ถูกหาว่าเอนเอียงไปรับฟังคนนอกแทน เพราะฉะนั้น
จึงขอให้ทรงสำรวมไว้บ้าง" "อึม คำเตือนของท่าน ข้าจะจดจำไว้" "ฝ่าบาท
พระราชาคือประมุขแห่งแผ่นดิน ต่อให้ฝ่าบาท มีสนมอีกนับร้อยนับพันตามแต่พระทัย
ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะถูกตำหนิได้" พระเจ้าซองจงทรงอึ้ง "แต่ว่า
นั่นไม่ได้แปลว่าพระองค์มีสิทธิ์ที่จะแย่งภรรยาคนอื่นได้
มิหนำซ้ำยังเป็นฮูหยินของพระญาติพระวงศ์ด้วย
ไม่งั้นชื่อเสียงและพระเกียรติที่ทรงสร้างมาอย่างยากเย็น อีกไม่นาน
ก็จะเสื่อมเสียมากมาย จนไม่อาจกอบกู้ได้พ่ะยะค่ะ" "ใต้เท้าโช ท่านก็รู้ด้วยหรือ"
"ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ" "ความจริงข้าก็รู้ ว่าไม่ควรไปหาผู้หญิงคนนั้นอีก ถึงจะถูกต้อง
แต่ไม่รู้เพราะอะไร ข้าไม่อาจบังคับจิตใจได้เลย ยังไงเรื่องนี้ข้าจะแก้ไขเอง
ส่วนท่าน ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นต่อไปได้ไหม"
คิมชูซอนพบว่าแชจาจีฟื้นฟูร่างกายได้แล้ว จาจีเข้ามาขอโทษคิมชูซอน
ตอนแรกคิมชูซอนไม่อยากฟังคำแก้ตัวของจาจี "อภัยให้ข้าเถอะนะ หึ ข้าเองก็เจ็บปวด
ที่ต้องคอยปิดบังคนอื่นมานาน พยายามหักห้ามใจตัวเองแล้ว แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ซะที"
"เลยต้องยุ่งกับผู้หญิงของฝ่าบาทงั้นหรือ" "ชูซอน ข้าไม่เคยคิดหลอกลวงนางในปาร์ค
เจ้าเชื่อข้าสิ" "หึ ต่อให้เป็นอย่างงั้น เจ้าก็ยังมีความผิดอยู่ดี" "อึม ข้ารู้ หึ
ต่อให้อธิบายยังไง ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรอีก ข้าเตรียมตัวที่จะรับโทษอยู่แล้ว ฮือ
แต่ว่า สำหรับนางในปาร์ค เจ้าอย่าเอาเรื่องนางได้ไหม
ข้าไม่อยากให้นางเจ็บตัวเพราะข้าเป็นต้นเหตุ ขอเพียงเจ้ายอมยกโทษให้นาง
จะลงโทษข้ายังไง ข้าก็ยินดีรับหมด" "เฮ่อ เจ้าจะยอมตัดขาด
ความสัมพันธ์กับนางแล้วเป็นมหาดเล็กต่อ หรือจะให้ข้าเปิดโปง
แล้วไปอยู่ข้างนอกชั่วชีวิต ก็แล้วแต่จะเลือกเถอะ"
เวลาเดียวกันชองฮันซูก็สั่งให้ลูกน้องไปสืบดูว่ายังมีมหาดเล็กคนไหนบ้างที่ไม่ได้ผ่านการตรวจร่างกาย
ให้มาตรวจให้หมด เพื่อไม่ให้กรมมหาดเล็กเกิดเรื่องอัปยศอีก
กาลต่อมาคิมชูซอนก็ถามจาจีว่าตัดสินใจได้หรือยัง
จาจีบอกว่ายังไงก็ตัดใจจากนางในปาร์คไม่ได้ "แปลว่าเจ้าคิดจะ
พานางหนีออกจากวังงั้นหรือ" "ชูซอน ชีวิตของข้า ตอนนี้อยู่ในกำมือเจ้าแล้ว
เพราะฉะนั้น สุดแต่เจ้าจะจัดการเถอะ" คิมชูซอนไปพบพูดคุยกับนางในปาร์ค
นางเข้าใจความรู้สึกของนางในซงที่ฆ่าตัวตายได้ดี และนางเองก็ยอมตายเช่นกัน
จาจีฟังแล้วก็ตกใจ "นางในปาร์ค อย่าพูดน่ากลัวอย่างงั้นสิ ชูซอน คำพูดของนาง
เจ้าอย่าไปฟังเชียวนะ เรื่องนี้ถ้าแดงขึ้นมาจริง ข้าจะรับผิดชอบเอง" "หึ ข้า
จะไม่ให้มหาดเล็กแชรับโทษคนเดียวอย่างแน่นอน ฮือ ถ้าไม่มีเขาซักคน
ข้าอยู่ไปก็ไม่มีความหมาย" "หึ นางในปาร์ค ยาที่ข้าจัดให้ชุดนี้
ให้ดื่มวันละสามครั้ง และต้องกินยาเม็ดด้วย" "เอ่อ ชูซอน นี่มันยาอะไร
ทำไมต้องให้นางกิน" จาจีถาม "ถ้าคิดว่าเชื่อข้า ก็ทำตามที่ข้าสั่งเถอะ"
โชชิคยอมไปพบออลูตงที่บ้าน และกล่าวกับนางว่า "ได้ยินว่านายของข้า
หลายวันก่อนมานอนค้างที่นี่ ทำให้ครอบครัวเป็นห่วง แทบไม่ได้อยู่เป็นสุขอีก
ในเมื่อฮูหยิน มีสามีเป็นตัวเป็นตน ส่วนนายข้า ก็ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว
ซ้ำยังมีภรรยาที่เป็นแม่ศรีเรือนนัก ก่อนจะเกิดเรื่องไม่ดีไม่งาม ข้าอยากให้ยุติ
ตัดไฟแต่ต้นลมซะดีมั้ย" "ดอกไม้ ไม่เคยเชิญชวนให้แมลงมาดอมดม เช่นเดียวกัน
ข้าก็ไม่เคยขอให้ผู้ชายมาหา คำขอของท่าน ข้าว่าไปพูดกับคุณชายลีดีกว่า" "หึ
ดอกไม้ที่มีกลิ่นยวนใจเกินเหตุ ถึงทำให้แมลงบินมามากมาย
ถ้าไม่เพราะฮูหยินให้ท่าก่อน นายข้าก็คง ไม่คิดเดินทางมาถึงนี่หรอก" "หึ
ผู้ชายสำหรับข้าแล้ว คนไหนๆ ก็ไม่แตกต่างกันหรอกค่ะ" "ถ้าอย่างงั้น
ข้าจะถือว่าฮูหยิน ยอมรับคำขอร้องของข้า จะไม่ข้องแวะกับเขาอีก"
พอออกมาจากบ้านของออลูตง โชชิคยอมกล่าวกับกึมพยอว่า "สมแล้วที่เป็นหญิงเลอโฉม
ทำให้ผู้ชายทั้งเมืองหลวงพากันกล่าวขานและหลงใหลคลั่งไคล้ หญิงที่งามละมุนเช่นนี้
ผู้ชายคนไหนเห็นเข้า ถ้าไม่หวั่นไหวก็คงผิดมนุษย์แน่ ข้าเองถ้าไม่ได้เป็นขันที
ไม่แน่อาจใจอ่อน ไปหลงเสน่ห์นางเหมือนกัน" "แต่ข้าว่าไต้เท้า
ไม่มีวันชอบนางได้หรอกครับ" "อะไรนะ เฮ่อๆๆ ทำไมเจ้ามั่นใจอย่างงั้นล่ะ"
"เพราะในใจท่าน มีหญิงที่รักมั่นมานานไม่ใช่หรือครับ" "ใช่ คนเดียวที่อยู่ในใจข้า
ก็คือนางเท่านั้น หึๆๆ" ขณะที่พวงนางในทำงานกันอยู่ นางในปาร์คก็เกิดเป็นลมขึ้น
คิมชูซอนมาตรวจและบอกว่านางเป็นโรคฝีดาษ ขอให้ส่งนางไปอยู่ข้างนอก
ก่อนออกจากวังหลวง
ซังกุงได้เตือนนางในปาร์คให้สัญญาว่าชาตินี้นางคือผู้หญิงของฝ่าบาท
ห้ามไปแต่งงานกับผู้ชายอื่นเด็ดขาด
คิมชูซอนหาทางให้แชจาจีและนางกำนัลปาร์กหญิงคนรักไปจากวังหลวงได้ เขายังมอบของให้
"นี่คือ ในห่อนี้คืออะไร" จาจีถาม "ป้ายอนุญาตให้เข้าออกเมืองหลวงได้ทุกเมื่อ
บวกกับเงินเก็บสะสมเท่าที่ข้ามีอยู่ ข้า จะช่วยลางานให้เจ้า 3 วัน
โดยอ้างว่าไปเก็บสมุนไพร ในสามวันนี้
เจ้ากับนางในปาร์คต้องออกจากเมืองหลวงให้เร็วที่สุด" "เอ่อ ชูซอน"
"อย่าให้ถูกใครจับได้เป็นอันขาด พานางหนีไปให้ไกล แล้วอยู่กันเงียบๆ ปิดชื่อแซ่
ใช้ชีวิตตามประสาเถอะนะ" "หึ ชูซอน ถ้าข้าหนีไปแล้ว เจ้าอยู่ทางนี้จะทำไงต่อ" "หึ
ไม่ต้องห่วงแทนข้าหรอก" "หึ ข้าทำแบบนี้ไม่ได้ ข้าไม่อยากให้เจ้า
เดือดร้อนเพราะข้าเป็นต้นเหตุ" "ในฐานะเป็นมหาดเล็ก
จะให้ยกโทษให้เจ้ากับนางในปาร์คที่ทรยศต่อราชสำนัก ข้าคงทำไม่ได้
แต่นอกจากเป็นมหาดเล็กแล้ว ข้ายังเป็นเพื่อนของเจ้าด้วย ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง
นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ข้า จะสามารถทำเพื่อเจ้าได้ จงเชื่อฟังข้าเถอะนะ" "ชูซอน"
จาจีซาบซึ้งใจมาก "ป่านนี้นางคงรอเจ้าอยู่ รีบไปเร็วเข้า" "เฮ่อ น้ำใจที่มีต่อข้า
ชาตินี้ ข้าจะไม่มีวันลืม" "จาจี ขอให้เจ้ามีความสุข"
เหล่าขุนนางเข้ามาสอนองค์ชายวอนจา ใต้เท้าซังตังทูลสอนว่า "พระราชา ขุนนางและฟ้าดิน
หมายถึงความแตกต่าง ระหว่างพระราชากับขุนนาง เปรียบเสมือนฟ้ากับดินพ่ะย่ะค่ะ"
"พระราชาคือผู้สูงส่ง ขุนนางเป็นผู้ต่ำต้อย ขุนนางจึงมีหน้าที่ถวายการรับใช้พระราชา
ซึ่งเป็นสิ่งที่สวรรค์กำหนดไว้แล้ว และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาแต่โบราณกาล"
"รับสั่งของพระราชาจึงเปรียบเหมือนประกาศิตแห่งสวรรค์ ใครก็ขัดไม่ได้
ขุนนางมีหน้าที่คอยช่วย เสริมสร้างความดี ขจัดความชั่วร้ายพ่ะย่ะค่ะ" "ถ้าอย่างงั้น
ทำไมท่านทั้งหลายไม่เห็นทำตามกฎระหว่างพระราชากับขุนนางบ้างเลย" ขุนนางอึกอัก
ใต้เท้าซังตังทูลว่า "ทรงหมายความว่าไงหรือพ่ะย่ะค่ะ" "ใครๆ
ก็บอกว่าทุกวันนี้ขุนนางมีอิทธิพลมากกว่าพระราชาซะอีก" "เอ่อ ใครบอกพ่ะย่ะค่ะ
เป็นไปไม่ได้เลย" ใต้เท้ายุนโฮทูลถาม
"ทำไมองค์ชายน้อยทรงมีความเห็นแบบนี้ได้ล่ะพ่ะย่ะค่ะ" "ถ้าพวกท่านสักแต่สอนคนอื่น
ตัวเองไม่ปฏิบัติตาม ความรู้พวกนี้ก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากหลับหูหลับตาท่องจำ"
พวกขุนนางออกมา ใต้เท้าซังตังกล่าวขึ้นว่า "ภาษิตว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
องค์ชายน้อยคนนี้ ช่างมีไหวพริบเฉลียวฉลาด ถือว่าน่ากลัวมาก" "คงพูดตามประสาเด็ก
ไม่รู้อะไรมั้ง" ใต้เท้ายุนโฮว่า
"ตัวแค่นี้ก็สามารถตำหนิขุนนางผู้ใหญ่อย่างเราซึ่งหน้า
แล้วจะบอกว่าพูดตามประสาเด็กอมมือได้ยังไง ข้าว่าน่าจะเป็นคำพูดของฝ่าบาทมากกว่า"
"หึ อนาคตถ้าหากว่า องค์ชายน้อยได้ครองราชย์เมื่อไหร่ คงจะควบคุมราชสำนักไว้
ถืออำนาจเหนือกว่าพวกเราแน่ หึ" พระเจ้าซองจงเรียกคิมชูซอนมาเฝ้า
เพื่อที่จะเสด็จไปหาออลูตง พอไปถึงออลูตงก็กำลังจะออกไปข้างนอก
บอกว่ามีคนว่าจ้างให้ไปดีดพิณแล้วยังชวนพระเจ้าซองจงไปด้วย
พอไปถึงงานก็ทรงทราบว่าเป็นงานที่สะใภ้ลงทุนขายผมเพื่อมาจัดงานวันเกิดให้พ่อสามี
"เฮ่ย เพื่อจัดงานวันเกิดให้พ่อสามี สะใภ้ถึงขนาดต้องขายเส้นผมเชียวหรือนี่"
"แม้ทางการจะยกย่องว่าพระราชาของเรา ช่างปรีชาสามารถนัก
แต่ความยากไร้ของราษฎรยังคงมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ขายเส้นผมยังถือว่าเรื่องเล็ก
มีผู้หญิงบางคนจำต้องขายตัว เพื่อเอาเงินไปเลี้ยงครอบครัวด้วยซ้ำ
ราษฎรลำบากเลือดตาแทบกระเด็น แต่ขุนนางและคนในราชสำนัก กลับอิ่มหมีพีมัน
เต็มไปด้วยลาภยศเงินทองและอำนาจล้นฟ้า ไม่เข้าใจเลยว่าพระราชามัวทำอะไรอยู่
คิดแล้วก็น่าโมโหจริงๆ" "แล้วเจ้าล่ะ ทำไมรู้จักพวกเขาดี เป็นอะไรกับพวกเขาหรือ"
"ผู้หญิงคนนั้น เอาเส้นผมมาขายให้กับข้า
บอกว่าต้องการเงินไปจัดงานวันเกิดให้พ่อสามี ไม่รู้จะทำไงดีกว่านี้
ข้ารู้สึกเห็นใจนาง ก็เลยรับปากว่าจะไปดีดพิณให้ฟัง เพื่อเพิ่มความสนุก"
คิมชูซอนไปพบโชชิคยอมและบอกว่าเขาคิดจะลาออกจากตำแหน่งมหาดเล็ก โชชิคยอมตกใจ
ภรรยาของโชชิคยอมถามว่าเขาไม่พอใจที่ไม่ได้เป็นหัวหน้ามหาดเล็กตรวจการณ์หรือ
"ไม่ใช่หรอกครับ แต่เพราะข้าไม่ได้ถวายงานด้วยความภักดี
คิดว่าไม่คู่ควรเป็นมหาดเล็กอีก จึงอยากจะขอลาออกดีกว่า" "ท่านพี่คะ
ท่านเข้าใจความหมายที่เขาพูดหรือเปล่าน่ะ" "เรื่องนี้เจ้าคิดดีแล้วหรือ
ถึงมาบอกข้าน่ะ" "ใช่ครับท่านพ่อ" "แม้ข้าจะหวังให้เจ้าเป็นมหาดเล็กต่อไป
แต่เมื่อเจ้าตัดสินใจแบบนี้ ก็แต่แล้วเจ้าละกัน" "ท่านพ่อเข้าใจความรู้สึกของข้า
ต้องขอบคุณมากครับ" "แต่ยังไงก็ อยากให้เจ้าตรองดูให้หนัก
ถ้าคิดว่าตัดสินใจแน่นอนแล้ว พ่อก็ไม่ขัด จะตามใจเจ้าทุกอย่าง" "ข้าเข้าใจดีครับ
ถ้าอย่างงั้น ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับ" คิมชูซอนออกไป
คิมชูซอนไปหาวอฮาที่บ้านและได้ยินวอฮากำลังขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า
"สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดให้ความคุ้มครองชูซอน ให้เขาปลอดภัย
ทำงานราบรื่นด้วยเถอะ อย่าให้บาปที่ข้าทำไว้ ไปตกอยู่แก่เขา ได้โปรดเถอะนะ"
ทำให้คิมชูซอนตัดสินใจกลับไปทันที และเขาก็ไปลาออกกับเจ้ากรมมหาดเล็ก
"เจ้าหรือจะลาออก มหาดเล็กคิม ทำไมอยู่ดีๆ จะลาออกซะล่ะ" "เพราะข้าน้อย
ทำความผิดอันถือว่าลบหลู่ต่อฝ่าบาทและราชสำนัก จึงอยากให้ใต้เท้า
อนุมัติการลาออกน่ะครับ" "ความผิดอะไรกัน พูดให้มันชัดกว่านี้ได้ไหม" คิมชูซอนอึ้ง
"ข้าน้อย" ชองฮันซูแทรกขึ้นว่า "เฮ่อ ชูซอน
ทำไมเจ้าต้องแบกรับความผิดที่ถวายอารักขาบกพร่องไว้คนเดียวด้วยล่ะ เรียนใต้เท้า
มหาดเล็กคิม กลัวถูกครหาว่าถวายอารักขาบกพร่อง ให้ฝ่าบาทเสด็จออกนอกวังบ่อยๆ
จึงได้มาขอลาออกน่ะครับ" "มหาดเล็กคิม เกี่ยวกับการถวายอารักขานั้น
เป็นหน้าที่ของกรมมหาดเล็กทั้งหมดไม่ใช่เจ้าคนเดียว ถ้าจะพูดถึงการลาออก
ข้าควรเป็นคนแรกที่รับผิดชอบด้วยซ้ำ" "ไม่ใช่อย่างงั้นครับใต้เท้า" คิมชูซอนว่า
"เหมือนที่มหาดเล็กชองบอกไว้ ข้าไม่อนุญาตให้ลาออก ออกไปทำงานได้แล้ว"
พอออกมาคิมชูซอนก็กล่าวกับชองฮันซูว่า
"ข้าบอกแล้วว่าตัวเองมีความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูงและราชสำนัก ข้ารู้ว่าจาจี
คืนความเป็นชาย แต่ไม่ได้รายงานผู้ใหญ่ให้รู้ แถมยังช่วยให้เขาหนีไป
จึงคิดไถ่บาปด้วยการลาออก แล้วทำไมเจ้าต้องมาปกป้องข้าอีก"
"ข้าไม่ได้ทำเพื่อปกป้องเจ้า ถึงได้ขัดขวางการลาออก
แต่ไม่อยากให้เจ้าออกไปในฐานะผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง
แต่ได้ทำให้กรมมหาดเล็กด่างพร้อยไปแล้ว ในกรมของเรา ไม่มีใครคืนความเป็นชาย
ไม่ว่าปัจจุบันหรืออนาคตก็จะไม่มีอีก" "มหาดเล็กชอง นี่แปลว่า"
"มหาดเล็กแชไม่ได้หนีหายไปไหน เพียงแต่ออกไปทำงานบางอย่างเท่านั้น" "อะไรนะ"
"ถ้าไม่เชื่อละก้อ ไปดูที่เรือนฝ่ายในก็ได้ เขากำลังรอพบเจ้าอยู่ที่นั่น"
คิมชูซอนไปกับชองฮันซูทันที แล้วเขาก็ได้พบกับจาจีจริงๆ "จาจี นี่มันอะไรกันน่ะ"
คิมชูซอนงงมาก "หึ เจ้าก็เห็นแล้วนี่" "เจ้ามาอยู่นี่ แล้วนางในปาร์คล่ะ"
ชองฮันซูตอบแทนว่า "นางในปาร์คปลอดภัยดี ไม่ต้องเป็นห่วง"
จาจีบอกว่าเขาได้บอกกับนางในปาร์คว่า "ขอโทษด้วยนะ ถ้าเราสองคนหนีไปแบบนี้
ไม่แน่ชูซอน อาจมีโทษหนักเพราะช่วยให้เราหลบหนี
ข้าไม่อยากให้เพื่อนเดือดร้อนเพราะข้าเป็นต้นเหตุ เพราะฉะนั้น
ต่อไปขอให้เจ้าลืมข้าซะ แล้วไปหาผู้ชายดีๆ ซักคน อยู่อย่างมีความสุขต่อไป"
นางในปาร์คได้แต่ร้องไห้ ไม่รู้จะรั้งจาจีไว้อย่างไร พระมเหสียุนโซฮวาทรงคลื่นไส้
ยางซองยุนจึงมาตรวจดูอาการและก็ทูลว่าพระมเหสียุนโซฮวาทรงตั้งครรภ์
ทรงความปลาบปลื้มใจให้ทุกคนยิ่ง พระอัยยิกาจองฮีตรัสกับพระมเหสียุนโซฮวา "ชุงจอน
เจ้านี่ช่างเก่งแท้ๆ ทุกครั้งที่พระมเหสีตั้งครรภ์ จะถือเป็นบุญของบ้านเมือง
ท้องนี้ ก็ต้องเป็นโอรสเหมือนเดิมล่ะ" "ขอบพระทัยเพคะ" "พระมเหสี ยินดีด้วยเพคะ"
โอซังกุงถามโบดึ๊กว่าทูลพระเจ้าซองจงว่าพระมเหสีทรงตั้งครรภ์หรือยัง
โบดึ๊กจึงบอกว่าพระเจ้าซองจงเสด็จออกนอกวังไปเยี่ยมราษฎรอีกแล้วจบ 35
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn

Related Posts



5 comments:

Anonymous said...

แหะๆๆๆ รอตั้งหายวันหง่ะ
ขอบคุณมากเลยนะคะ ^^

Anonymous said...

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ ขอบคุณค่ะ

Anonymous said...

ขอบคุณนะค่ะ ที่มีให้อ่านติดตามมาตลอดเลย
แต่รู้สึกว่าอันตอนนี้จะรอนานไปหน่อย หุหุหุ

Anonymous said...

ขอบคุณมากๆ ครับ

Anonymous said...

ขอบคุณมากๆนะคะ สนุกมากๆเลยค่า

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal