Tuesday, July 22, 2008

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ - คิมชูซอน (25 )ถึง (26)

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์คิมชูซอน ตอนที่ 25

"เจ้ากรมมหาดเล็ก ขอให้เคารพมติที่ประชุมอาวุโสของเราด้วย"
ใต้เท้าโนกล่าว โชชิคยอมตอบว่า "คงต้องขออภัย
ที่ข้าทำตามไม่ได้" "แปลว่าเจ้ากล้าขัดคำสั่งมหาดเล็กอาวุโสอย่างเราเชียวหรือ" "ตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็ก
มีเพียงฝ่าบาทองค์เดียวที่จะถอดถอนได้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์" "หุบปาก
เจ้าไม่ได้รับการยอมรับจากพวกเราอีกแล้ว" "ที่ประชุมที่จู่ๆ มีขึ้น
โดยไม่มีสาเหตุสำคัญ แล้วบอกว่ามีการลงมติ
ข้าคงเห็นชอบด้วยไม่ได้" "อะไรนะ" "ท่านทั้งหลายทำไมว่างนัก จู่ๆ
มารวมตัวที่นี่ เพื่อเป็นหุ่นเชิดให้พ่อข้า ทำตามที่เขาสั่ง
จัดประชุมไร้สาระที่ทำให้เกียรติของตัวเอง ต้องมัวหมองเปล่าๆ โดยเฉพาะใต้เท้าคิม
มีเหตุผลอะไรถึงต้องสั่งถอดข้าออกจากตำแหน่ง หรือว่าเพราะพ่อข้า
รับปากจะให้ลูกชายท่าน พ้นโทษกลับมาเมืองหลวงหรือไง ข้าอยากรู้ว่าท่านทั้งหลาย
จะถอดถอนข้าด้วยข้อหาอะไรไม่ทราบ ถ้ามีเหตุผลที่ฟังขึ้นละก้อ ข้าจะพร้อมเสมอ
ที่จะออกจากตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็ก เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น" ใต้เท้าโนโกรธมาก
"บังอาจนัก เจ้ากล้าลบหลู่พวกเรา


ที่เป็นผู้ใหญ่เชียวหรือ" "ที่ทำให้ทุกคนเสื่อมเสียคือท่านพ่อไม่ใช่ข้า
ท่านกำลัง คิดจะใช้กรมมหาดเล็กซึ่งมีหน้าที่ปกป้องราชสำนัก
ไปเป็นเครื่องมือพิทักษ์ผลประโยชน์ของวงศ์ตระกูลตัวเอง
นึกว่าข้าไม่รู้หรือ" ใต้เท้าโนทั้งอึ้งและโกรธ "หา
ว่าไงนะ" ชองฮันซูทำโอ่ปกป้องใต้เท้าโน
"พี่ใหญ่พูดจาโอหังมากไปแล้วนะ" "เจ้าหุบปาก คนที่จะมาอยู่อย่างข้าได้
ต้องมีจุดยืนมั่นคงและจิตสำนึกที่ดี ไม่เหมือนเจ้า ทำตัวเป็นนกสองหัว
เห็นใครได้ดีก็ไปประจบสอพลอ หาความดีไม่ได้ซักนิด เพราะใคร ใครกันแน่
ที่ใช้การประชุมคราวนี้มาแข็งข้อ จะทำลายกฎของกรมมหาดเล็ก ท้าทายข้าใช่ไหม
มหาดเล็กชาง เจ้าคิดว่า ตัวเองคู่ควรเป็นเจ้ากรมฯ เหมือนอย่างข้าหรือเปล่า"
มหาดเล็กชางส่ายหน้า "มหาดเล็กออมล่ะหรือว่า
เจ้าอยากมาแทนที่ข้าจนตัวสั่นแล้ว" มหาดเล็กชางอึ้งไป "ไม่ว่าใครก็ตาม
ถ้าอยากเป็นเจ้ากรมมหาดเล็กละก้อ ก่อนอื่น ให้ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะ
การประชุมในวันนี้ ให้ถือเป็นโมฆะซะ เชิญใต้เท้าทั้งหลาย กลับไปพักผ่อนได้แล้ว
ข้าในฐานะเจ้ากรมมหาดเล็ก
ขอสั่งให้ทุกคนเลิกประชุมเดี๋ยวนี้" บรรดามหาดเล็กเห็นบรรยากาศตึงเครียด
ทุกคนจึงพากันแยกย้าย ชองฮันซูแอบไปหาชางซุนโม
ออมคยองห้วนและบรรดามหาดเล็กคนสำคัญโดยต้องการให้คนเหล่านี้ปฏิบัติตามคำแนะนำของตน
มหาดเล็กไม่อยากยุ่งแล้ว ชองฮันซูบอกให้คอยปฏิบัติตามคำสั่งของเขาอย่างเดียวก็พอ
ซอยองยังแนะนำชองฮันซูว่า "พวกหัวหน้ามหาดเล็กทั้งหลายปกติก็ไม่มีจุดยืนอยู่แล้ว
การจะให้คนพวกนี้มาเข้ากับเรา ไม่ใช่เรื่องยากนักหรอก สำคัญที่โชชิคยอม
เป็นคนโปรดของฝ่าบาทมาแต่ไหนแต่ไร เราต้องทำให้เขาหมดความสำคัญ
ไม่เป็นที่โปรดปรานอีก
ตรงนี้ที่จำเป็นมากกว่า" โชชิคยอมชวนคิมชูซอนมาดื่มเหล้าด้วยกัน
"คืนนี้พระจันทร์สวยดี ข้าอยากชวนเจ้ามาดื่มเป็นเพื่อนหน่อย" "เมื่อกี้
ข้าเห็นท่านพ่อต่อสู้กับพวกผู้เฒ่าตามลำพังคนเดียวแน่ะครับ" "นั่นเพราะปู่ของเจ้า
ไม่เข้าใจความคิดของพ่อ เลยกลายเป็นความบาดหมาง
หึๆๆ" "แล้วท่านคิดจะทำไงต่อหรือครับ" "เรื่องนี้ถ้าจะแก้ปัญหา
ก็มีสองทางให้เลือกเดิน ทางที่หนึ่งคือข้าลาออกจากตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็ก
หรือไม่ก็สู้กับปู่ของเจ้า ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง เจ้าคิดว่าข้า
ควรจะเลือกเดินทางไหนดี" "ครั้งหนึ่งท่านปู่ เคยวางยาพระมเหสี
แถมยังปล่อยข่าวทำร้ายนางอีก เพียงเพื่อเห็นแก่วงศ์ตระกูลของเรา
มีแต่ท่านพ่อยังอยู่เหมือนเดิมเท่านั้น ถึงจะปกป้องกรมมหาดเล็กไว้ได้" "ชูซอน
แล้วทำไมเจ้าไปถามยางซองยุนว่า
สมัยก่อนเรื่องอดีตพระราชาสวรรคตกระทันหันจะเกี่ยวข้องกับข้าหรือเปล่า
เพราะเจ้าสงสัยว่า จะเป็นฝีมือข้าใช่ไหม" "ข้าเพียงแต่ คิดจะยับยั้งพวกคนชั่ว
ที่เที่ยวปล่อยข่าวทำลายชื่อเสียงของท่าน
เลยอยากรู้ความจริงจะได้ไปแก้ต่างให้น่ะครับ" "อึม ขอเพียงเจ้าเชื่อใจข้า
ข้าก็พอใจแล้ว" "ท่านพ่อ ไม่ว่ายังไงข้าจะอยู่เคียงข้างท่านเสมอ
ขอเพียงท่านไม่ลืมอุดมการณ์ของตัวเอง" "เอาเถอะ
ต้องทำยังไงถึงจะดีต่อราชสำนักและกรมมหาดเล็ก ข้าจะคิดให้รอบคอบอีกที
แล้วค่อยตัดสินใจ แต่ไม่ว่าข้าจะเลือกเดินทางไหน
เชื่อว่าเจ้าคงเห็นด้วยใช่ไหม" ใต้เท้าซังตังและขุนนางใหญ่ต่างพากันทูลพระเจ้าซองจง
ถึงความวุ่นวายในกรมมหาดเล็ก
พระเจ้าซองจงทรงมีรับสั่งถามถึงต้นสายปลายเหตุจากคิมชูซอน "หม่อมฉัน
ไม่ทราบรายละเอียดพ่ะย่ะค่ะ" คิมชูซอนตอบ "อึม จาจีล่ะ
เจ้าก็ไม่รู้หรือ" "หม่อมฉันเป็นมหาดเล็กชั้นผู้น้อย ไม่ทราบว่าผู้ใหญ่
มีปัญหาอะไรพ่ะย่ะค่ะ" "อึม เอาเถอะ
งั้นข้าจะถามท่านเจ้ากรมเองละกัน" คิมชูซอนทูลว่า "ฝ่าบาท อย่าทรงสนพระทัย
เรื่องของกรมมหาดเล็กจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ
เพราะถ้าฝ่าบาทต้องดูแลเรื่องใหญ่น้อยในวังทั้งหมด
หม่อมฉันคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องที่เหมาะนัก" "งั้นก็ได้
ข้าเข้าใจแล้ว" ทางด้านพระมเหสียุนโซฮวากล่าวขอโทษสนมออมที่เรียกนางในของสนมออมมาลงโทษ
ทำให้สนมออมกล่าวโทษว่าเป็นเพราะสนมยุนซุกยอนเป็นเหตุ
พระมเหสียุนโซฮวาของยุติเรื่องนี้ "พระพันปีทรงห่วงว่า
ถ้าเรามัวแต่ทะเลาะจะมีผลต่อการทรงงานของฝ่าบาท เลยให้ข้ายุติเรื่องนี้ซะ
ข้าจะคอยดูพวกเจ้าไว้ ทีหลังอย่าทำอะไรเลยเถิดจนเป็นที่สงสัยของคนอื่น
จะพูดจะจาก็ให้ระวังปากหน่อยเข้าใจมั้ย" สนมทั้งสามรับคำพร้อมกัน
"ทราบแล้วเพคะ" พระอัยยิกาจองฮีเสด็จมาหาพระพันปียินซู "ข้าอยู่ว่างๆ
เลยจะมาคุยกับเจ้าหน่อย แต่กลัวว่าเป็นการรบกวนหรือเปล่า" "อ้อ
ไม่หรอกเพคะเสด็จแม่ หึ หม่อมฉันเอง อยู่เฉยๆ ไม่มีอะไรทำ
เลยหาตำราเกี่ยวกับวีรสตรีมาอ่าน
กะว่าจะคัดลอกบทความเกี่ยวกับหญิงที่ดีควรปฏิบัติยังไงน่ะเพคะ" "งั้นหรือ
เคยได้ยินมานานว่าเจ้าเป็นคนมีความรู้ วันนี้เพิ่งจะเห็นหนังสือที่อ่าน
แทบไม่ด้อยกว่านักปราชญ์ด้วยซ้ำ เฮ่อๆๆ" "หึๆๆ
เสด็จแม่รับสั่งล้อเล่นกับหม่อมฉันอีกแล้ว" "หน้านี้เขียนว่าไงนะ" "การที่มนุษย์ถือว่าเป็นผู้ประเสริฐ
เพราะรู้จักการวางตัว ถือจารีตประเพณี รู้กาลเทศะ รู้ที่ต่ำที่สูง สิ่งใดควรละ
สิ่งใดควรปฏิบัติน่ะเพคะ" "อึม
อีกไม่นานเราจะมีกฎหมายฉบับใหม่มาใช้ในการบริหารประเทศ
ส่วนเจ้าก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับข้อปฎิบัติของกุลสตรี ถือว่าเกื้อหนุนทั้งสองทาง
จะได้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองสืบไปนะจ๊ะ" ชองฮันซูนำเจ้าหน้าที่สืบคดีลอบปลงพระชนม์อดีตพระราชา
ชองฮันซูอ่านบันทึกการทำงานของมหาดเล็กอย่างละเอียด
โชชิคยอมรู้เรื่องนี้จากกึมพยอจึงต่อว่าชองฮันซู "ชองฮันซู บันทึกกรมมหาดเล็ก
ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ขอดูได้ ทำไมไม่มาขออนุญาตข้าก่อน
กลับถือวิสาสะไปดูเองซะล่ะ" "เพราะนี่เป็นขั้นแรก
ในการคลี่คลายคดีวางยาอดีตพระราชา
เลยจำเป็นต้องดูน่ะครับ" "ข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้มีการคลี่คลาย
ตั้งแต่สมัยสิบกว่าปีก่อนแล้ว ทำไมยังจะฟื้นฝอยหาตะเข็บอีก ว่างมากหรือไง
ขอเตือนให้หยุดได้แล้ว" "ข้าหยุดไม่ได้หรอกครับ" "บังอาจ
เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้าเชียวหรือ" "เพื่อให้การครองราชย์ของฝ่าบาทมีความชอบธรรม
ไม่ถูกใครครหาอีก ผู้เฒ่าทั้งหลายจึงเห็นชอบ ที่จะให้มีการไต่สวนเรื่องนี้ใหม่
นี่คือหนังสืออนุญาต
ให้มหาดเล็กตรวจการณ์มีสิทธิ์ทำงานต่อได้" "มหาดเล็กตรวจการณ์
ไม่ควรไปเชื่อฟังเหล่าผู้เฒ่า แต่น่าจะขึ้นตรงกับข้ามากกว่า ไม่งั้น
เจ้าควรลาออกจากตำแหน่งหัวหน้ามหาดเล็กตรวจการณ์ได้แล้ว" "ในเมื่อท่านเจ้ากรม
ฝืนมติที่ประชุมมหาดเล็กอาวุโส ข้าก็คงไม่อาจทำงาน
ภายใต้คำสั่งของท่านได้อีก" โชชิคยอมโกรธมาก
"อะไรนะ" "ไม่งั้นท่านเจ้ากรมฯ จะทำให้ระบบอาวุโสในกรมของเรา
ถูกทำลายอย่างย่อยยับ" มหาดเล็กคนหนึ่งแทรกขึ้นว่า "เอ่อ ตามความเห็นของข้า
คิดว่าท่านเจ้ากรมฯ
น่าจะทำตามมติที่ประชุมจะดีกว่านะครับ" "ถ้าแม้แต่ท่านเจ้ากรม
ยังขัดคำสั่งผู้เฒ่าทั้งหลาย
อีกหน่อยกลัวว่าเราจะเสียการปกครองด้วย" "ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง
ทีหลังถ้าจะให้ใครทำอะไร ลูกน้องก็จะแข็งข้อเหมือนกันนะครับ"
มหาดเล็กอีกคนกล่าว "ตกลงท่านคิดจะเอายังไงแน่ ยังจะขัดขวาง
ไม่ให้เราสืบต่อหรือเปล่า" ชองฮันซูถาม "ก็ได้ อยากสืบก็เชิญไปสืบให้พอเถอะ
แต่ว่า ถ้าหาความจริงไม่ได้ละก้อ
เจ้าต้องชดเชยความผิดนี้ด้วยชีวิต" "แต่ถ้าข้าหาความจริงได้
เกรงว่าถึงเวลาท่านเจ้ากรมฯ แค่ลาออกอย่างเดียว
อาจไม่พอให้ชดเชยก็ได้" โชชิคยอมโกรธมากแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
เขากลับไปปรึกษากับกึมพยอ "เห็นทีท่านพ่อคงจะเอาจริง จะบีบให้ข้าจนตรอกให้ได้
เจ้าว่าอย่างงั้นหรือเปล่า" "ตอนนี้หลายคนเริ่มแข็งข้อต่อท่านแล้ว ข้าว่า
คงต้องทำอะไรบางอย่างน่ะครับ" "แต่ถ้าเราวู่วามเกินเหตุ
ก็จะตกหลุมพรางที่ท่านพ่อวางไว้พอดี
อย่าเพิ่งทำอะไรดีกว่า" ซอยองมาเข้าพบสนมออม "พระสนม
ไม่ทราบทรงสบายดีมั้ยเพคะ" ซอยองเอ่ยทัก สนมออมเสียงดุ "บังอาจ
เจ้าผิดคำพูดแล้วยังกล้ามาอีกหรือ" "หึ พระสนม
โปรดอย่าทรงกริ้วสิเพคะ" "ข้าอุตส่าห์ไว้ใจ
นึกว่าเจ้าจะช่วยให้เป็นพระมเหสีได้ แต่สุดท้ายเจ้าก็โกหกข้า" "ไหนๆ
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไปรื้อฟื้นจะได้อะไรขึ้นมาอีกล่ะเพคะ"
ซอยองเสียงแข็งขึ้น "อะไรนะ" "โอกาส
เป็นของคนที่รู้จักรอคอย" "โอกาสอะไรอีก ตำหนักแคเทก็มีเจ้าของแล้ว
แถมเป็นยังมเหสีที่มีโอรสอีกต่างหาก
แล้วจะมีโอกาสบ้าบออะไรอีก" "ขอเพียงควบคุมกรมมหาดเล็กไว้
ให้ราชสำนักอยู่ในกำมือของเรา การจะเปลี่ยนตำแหน่งมเหสีก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก
ทรงเข้าพระทัยมั้ยเพคะ" "เจ้า
พูดแบบนี้หมายความว่าไง" "ถ้าทรงทำตามที่หม่อมฉันแนะนำ ไม่นานนัก
ตำหนักแคเทจะได้เปลี่ยนเจ้าของอย่างแน่นอน" พอซอยองออกมาก็สั่งให้ฮุงบีรีบทำให้คิมชูซอนใจอ่อนให้ได้ก่อนที่จะเริ่มดำเนินแผนการต่อไป00000000000000000 กึมพยอเรียกพวกเรามหาดเล็กฝ่ายในมาคุย
และกล่าวว่า ยังไงก็จะขอภักดีต่อท่านเจ้ากรมคนเดียว
และพร้อมจะปกป้องท่านเจ้ากรมมหาดเล็กด้วยชีวิต
ซอยองบอกกึมพยอมว่า "ความเป็นพ่อลูกระหว่างท่านเจ้ากรมกับใต้เท้าโนที่มีมายาวนาน
ข้าไม่เคยนึกว่าจะขาดสะบั้นได้เร็วขนาดนี้ และไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ท่านก็ยังคงซื่อสัตย์ต่อท่านเจ้ากรมคนเดียวใช่ไหม" "ลูกผู้ชาย
พูดคำไหนก็คำนั้น เจ้าไม่ต้องมาลองใจข้าอีก มีแต่เสียเวลาเปล่าๆ
ข้าขอตัวก่อนดีกว่า" "ท่านกึมพยอ
ข้ามีวิธีทำให้ท่านเจ้ากรมกับใต้เท้าโนปรับความเข้าใจโดยไม่ต้องห้ำหั่นกันอีก
คืนพรุ่งนี้ หลังจากส่งท่านเจ้ากรมกลับถึงบ้านแล้ว เชิญไปบ้านใต้เท้าโนหน่อย
เพราะใต้เท้าโนบอกว่ามีเรื่องบางอย่างจะพูดกับท่าน ทำไมคะ คงไม่ใช่ระแวงว่า
นี่จะเป็นหลุมพรางจนไม่กล้าปรากฎตัวให้เห็นหรอกนะ
หึ" พระเจ้าซองจงบอกพระมเหสียุนโซฮวาว่าอยากให้พี่ชายของนางมารับราชการ
พระมเหสียุนโซฮวาไม่เห็นด้วย
พระเจ้าซองจงกลับบอกให้พระมเหสีทรงเชื่อพระองค์ดีกว่า พอพระพันปียินซูทรงทราบก็รีบตรัสเรื่องนี้กับพระมเหสียุนโซฮวา "ชุงจอน
ได้ยินว่าฝ่าบาท แต่งตั้งให้พี่ชายเจ้ารับตำแหน่ง ซึนโฮ
แล้วใช่ไหม" "ขอทรงอภัยเพคะ หม่อมฉัน
เคยทูลขอฝ่าบาทว่าอย่าทรงแต่งตั้งพี่ชายเลยเพราะไม่เหมาะสม
แต่ฝ่าบาทก็ไม่ทรงรับฟัง" "เขาทำแบบนี้ไม่ผิดหรอก ตำแหน่ง ซึนโฮ
ก็แค่สามารถเข้าออกวังหลวง เยี่ยมเยียนพระญาติตามหน้าที่เท่านั้น
ก็ถือว่าเหมาะกับฐานะเขาดี แต่ว่า แม้ตำแหน่งนี้จะไม่มีอิทธิพลอะไร
แต่เนื่องจากเป็นพี่ชายเจ้า ก็อาจมีคนเห็นช่องทาง
ติดสินบนเขาเพื่อจะทำอะไรบางอย่างก็ได้ แต่ยังไงก็หวังว่าพี่ชายเจ้า
คงไม่ก่อเรื่องเหมือนที่แล้วมา ทำให้ฝ่าบาทเสื่อมเสียอีก เพราะถ้าทำจริง
ข้าจะไม่อยู่เฉย คราวนี้อาจมีการลงโทษให้หนัก อยากให้เจ้าไปเตือนเขาหน่อย
ทำอะไรให้ระวังตัวหน่อยล่ะ" "หม่อมฉันจะจำไว้เพคะ" ฮุงบีแอบมาพบมหาดเล็กคิม
และบอกว่าสนมออมอยากถวายการปรนนิบัติ ให้ช่วยหน่อย
พอนางเดินออกมาคิมชูซอนก็เข้าประชิดตัว "ข้าเห็นเจ้ามอบอะไร
ให้มหาดเล็กตำหนักใหญ่" "เอ่อ มอบอะไร
ข้าไม่เข้าใจที่พูด" "ข้าเห็นกับตาชัดๆ เจ้าให้อะไรเขากันแน่" "เอ่อ
ก็แค่ สนมออมไม่ได้เฝ้าฝ่าบาทนานแล้ว ข้าก็เลยทำตามรับสั่งช่วยติดต่อให้บ้าง
ข้าเป็นแค่นางในเล็กๆ จะกล้าขัดคำสั่งได้ยังไง" "ถ้าอย่างงั้น คราวที่แล้ว
เจ้าถูกพระมเหสีลงโทษเกิดจากสาเหตุอะไร" "เอ่อ จะมีเหตุอะไรได้
นอกจากข้าถูกปรักปรำล่ะไม่ว่า" "จริงหรือว่าเรื่องที่เกิด
ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าน่ะ" "แม้แต่เจ้าก็ไม่เชื่อข้าหรือ ฮือ
ข้าเทิดทูนพระมเหสียังกะอะไร ถ้าเคยคิดไม่ซื่อ ปองร้ายพระนาง
หรือแม้แต่องค์ชายน้อยละก้อ ขอให้สวรรค์ลงโทษข้าดีกว่า ฮือๆ" "เอ่อ หึ
งั้นก็ขอโทษ ข้าคงเข้าใจผิด อย่าร้องไห้เลยนะ เอ่อ เจ้า อย่าทำแบบนี้" "ฮือ
ข้าถูกใส่ร้ายนี่นา ฮือๆๆ"
คิมชูซอนมองอย่างลำบากใจนักที่ฮุงบีเอาแต่ร้องไห้ ชองฮันซูนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นบ้านโชชิคยอม
เรื่องนี้สร้างความโกรธแค้นให้โชชิคยอมยิ่งนัก ชองฮันซูไปพบใต้เท้าซังตัง
และบอกเรื่องที่เขากำลังสืบอยู่
ใต้เท้าซังตังตกใจ "จะรื้อคดีอดีตพระราชาขึ้นมาใหม่หรือ อะไรกัน
เจ้าเพี้ยนแล้วหรือไง" "ถ้าจะบีบให้โชชิคยอมออกจากตำแหน่งเจ้ากรมฯ
เราก็จำเป็นต้องทำแบบนี้ล่ะครับ" "แต่ว่า ถ้าทำอย่างงั้นจริง
จะทำให้ข้ากับไต้เท้าโน
พลอยติดร่างแหไปด้วยหรือเปล่า" "ใต้เท้าไม่ต้องห่วงหรอกครับ
เรื่องที่ไม่มีหลักฐาน ใครวางยาก็ไม่รู้
ปล่อยให้โชชิคยอมรับกรรมไปคนเดียวจะดีกว่า" "แต่ยังไง
จดหมายที่ข้าเคยลงชื่อไว้ ก็จะมีปัญหาเหมือนกัน" "ข้าไปค้นบ้านเขาจนหมดแล้ว
ไม่เห็นมีจดหมายสำคัญซักฉบับ แสดงว่าไม่มีหลักฐานพอ เห็นทีว่า
จดหมายอาจถูกทำลายไปนานแล้วก็ได้" "ขอให้เป็นอย่างงั้นจริงเถอะ แต่ว่า
ปกติโชชิคยอม เป็นคนทำอะไรรอบคอบเสมอ
เราจะประมาทไม่ได้เป็นอันขาดเข้าใจมั้ย" โชชิคยอมไปขอพบใต้เท้าโน
แต่ซอยองบอกว่า "ใต้เท้าโนสั่งไว้ว่า นับแต่นี้ไป
ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ขอพบท่านเจ้ากรมอีก เพราะฉะนั้น
เชิญท่านกลับไปดีกว่านะคะ" "อะไรนะ" "ในเมื่อท่านเป็นฝ่ายตัดสัมพันธ์
ไม่เห็นแก่ความเป็นพ่อลูก ไม่เคารพไต้เท้าโนอีก แล้วทำไม
ยังจะมาขอพบอีกล่ะคะ" "ถ้าท่านพ่อไม่อยากพบข้าก็ไม่เป็นไรหรอก
แต่ฝากบอกเขาด้วยว่า ถ้าจะพลิกคดีอดีตพระราชามาสอบใหม่ เพื่อหวังว่า
จะบีบให้ข้าลาออกละก้อ นับแต่นี้
ท่านพ่อก็จะไม่ได้อยู่เป็นสุขเหมือนกัน" "คำพูดของท่าน ข้าจะไปเรียนตามนี้
แต่ว่า ข้าเชื่อว่าใต้เท้าโน
คงจะไม่มีวันเปลี่ยนใจเป็นแน่" โชชิคยอมกลับไปแล้ว
ใต้เท้าโนถามซอยอง "ชิคยอมกลับไปแล้วเรอะ" "ใช่ค่ะใต้เท้า" "ซอยอง
เจ้าคิดว่าเขาจะยอมออกจากตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็กง่ายๆ เหมือนที่เราคิดหรือเปล่า
เพราะถ้าเปิดเผยเรื่องอดีตพระราชาถูกวางยา ไม่เพียงแต่ชิคยอมคนเดียว
แม้แต่ข้ากับใต้เท้าซังตังก็จะมีส่วนเกี่ยวพัน
ข้อนี้ที่น่าเป็นห่วง" "ปกติใต้เท้า
สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตระกูลไว้ไม่ใช่หรือคะ
แต่สำหรับท่านเจ้ากรมฯ เขาจะถือเอาเกียรติและชื่อเสียงมาก่อน
ต่อให้ท้ายที่สุดเขายอมสละตำแหน่งเจ้ากรมฯ ไป ก็เพราะไม่อยากให้
ราชสำนักหมดความเชื่อมั่นในตัวเขา และคิดว่าเขาเป็นคนไม่ซื่อสัตย์"
ซอยองกล่าว "ใช่ น่าจะเป็นอย่างงั้น แต่ว่า ถ้าเราจะกำจัดชิคยอมจริงๆ
ก็ต้องทำให้ฝ่าบาทเลิกโปรดปรานเขาซะก่อนจริงมั้ย" "ข้อนี้แน่นอนอยู่แล้วค่ะ" คืนนี้มหาดเล็กคิมทูลขอให้พระเจ้าซองจงเสด็จไปตำหนักสนมออม
คิมชูซอนจึงไปต่อว่ามหาดเล็กคิม "สินบนอะไรกัน เจ้านึกว่าเป็นคนโปรดของฝ่าบาท
จะมาดูถูกข้าได้หรือ"
มหาดเล็กคิมแก้ตัวและทำทีต่อว่าคิมชูซอน "ข้ารู้ว่าท่านรับสินบนจากใคร
จนได้ทูลเชิญฝ่าบาท เสด็จไปตำหนักสนมออมแทนที่จะเป็นสนมซุกยอนมากกว่า" "หา
อะไรนะ" "หมายกำหนดการของฝ่าบาท ถ้าขึ้นอยู่กับการรับสินบน
แล้วแต่ใครจะจ้างวาน นั่นก็เท่ากับลบหลุ่พระเกียรติของฝ่าบาทแล้ว
ทีหลังถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำอีก
ข้าจะฟ้องว่าท่านบกพร่องต่อหน้าที่" พระเจ้าซองจงเสด็จถึงตำหนัก
สนมออมนำอาหารมาให้เสวย "รสชาติพอใช้ได้มั้ยเพคะ" "อึม แต่ว่า
เหมือนไม่ใช่อาหารจากห้องเครื่องหรือเปล่า" "หึ
ได้ยินว่าฝ่าบาททรงเครียดกับราชกิจจนเบื่อหน่ายอาหาร
หม่อมฉันเลยให้ทางบ้านส่งมาถวายเพคะ" "น้ำใจของเจ้า
ข้ารู้สึกขอบใจนัก" "หม่อมฉัน ขอเพียงได้รับใช้ฝ่าบาท
ให้ทรงสบายพระทัยในการทำงานเพื่อบ้านเมือง
แค่นี้ก็ไม่หวังอะไรอีกแล้วเพคะ" "ข้าก็ขอสัญญา
จะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังเหมือนกัน" "แต่ว่า
หมู่นี้ในวังมีข่าวลือบางอย่างทรงทราบมั้ยเพคะ" "มีข่าวลืออะไรอีกล่ะ" "หม่อมฉันได้ยินพวกมหาดเล็กคุยกันว่า
กำลังมีการไต่สวน คดีอดีตพระราชาถูกวางยาจนสวรรคต แถมยังลือกันว่า
คนร้ายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังก็คือท่านเจ้ากรมมหาดเล็ก" "อะไรนะ สนมออม
เจ้าเอาอะไรมาพูดน่ะ"
พระเจ้าซองจงทรงตกพระทัย ทางด้านพระมเหสียุนโซฮวาก็ทราบเรื่องนี้จากโบดึ๊ก
พระมเหสียุนโซฮวาตกใจมาก "หึ ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเป็นแบบนี้จะมีคนสงสัยฝ่าบาท
ถึงความชอบธรรมในการครองราชย์ ไม่ว่าเรื่องจะจริงหรือเท็จ
ก็ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการปกครองของฝ่าบาทที่เพิ่งจะเริ่มต้น
หึ" พระอัยยิกาจองฮีทรงทราบก็ไม่สบายพระทัยมาก "แทปี เราจะทำไงดีล่ะนี่
สมัยก่อนก็เพราะข่าวลือนี้ ทำให้องค์ชายคูซอง
และเชื้อพระวงศ์อีกหลายคนต้องโทษก่อกบฎไปตามกัน เฮ่อ มาถึงวันนี้แล้ว
ทำไมยังมีข่าวลือเหลวไหลแบบนี้ออกมาอีกนะ เฮ่อ" "หึ เพียงแค่พูดกันปากต่อปาก
ก็มีผลต่อการบริหารราชการของฝ่าบาทมากแล้ว
หม่อมฉันเห็นว่าเราอาจต้องปลดเจ้ากรมมหาดเล็ก
ถึงจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้นนะเพคะ" "อึม
ยังไงก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนี่"
พระอัยยิกาจองฮีทรงไม่สบายพระทัยเลย พระเจ้าซองจงทรงเรียกโชชิคยอมมาเข้าเฝ้าด่วน "ฝ่าบาท
รับสั่งให้หาหรือพ่ะย่ะค่ะ" "ข้า เคยได้ยินว่าท่านเจ้ากรมฝีมือล้ำเลิศนัก
ถ้าไงคืนนี้ ข้าอยากรบกวนท่าน
ให้มาประลองกับข้าหน่อยได้ไหม" พระเจ้าซองจงทรงต่อสู้กับโชชิคยอม
"สมัยก่อนข้าเคยถามท่าน เกี่ยวกับการวางยาอดีตพระราชา แล้วท่านก็ยืนยัน
ถึงขนาดสาบานต่อฟ้าว่าไม่เป็นความจริง" "จนถึงวันนี้
หม่อมฉันก็ยังยืนยันคำพูดเดิม" "แล้วเพราะอะไร กรมมหาดเล็กของท่าน
ถึงต้องรื้อคดีนี้ขึ้นมาไต่สวนอีก ย้าก" พระเจ้าซองจงสู้ต่อ "หึ
ทำไมไม่ยอมหลบดาบของข้าล่ะ" "ถ้าฝ่าบาทหมดความเชื่อมั่นต่อหม่อมฉัน
หม่อมฉันอยู่ไปจะมีความหมายอะไรอีก ฝ่าบาท
ทรงมีรับสั่งให้ประหารหม่อมฉันเถอะพ่ะยะค่ะ หม่อมฉันยินดีตาย
ด้วยพระหัตถ์ของฝ่าบาท" คิมชูซอนรีบเข้ามาขอร้อง "หึ ทูลฝ่าบาท
ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ ท่านเจ้ากรมไม่ได้ทำอะไรผิด" "เจ้าไม่ต้องยุ่งกับข้า
เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาขวางคนที่ยินดีรับความตายจากฝ่าบาทเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์น่ะ
ฝ่าบาท ถ้าไม่ทรงเชื่อหม่อมฉันอีกแล้ว ก็ขอให้ทรงฆ่าหม่อมฉันดีกว่า" "ข้า
ไม่อยากเป็นพระราชาที่หูเบา แค่ฟังข่าวลือก็ฆ่าคนส่งเดชอย่างไม่มีเหตุผล
แต่ว่าข้าก็ไม่อยากเป็นพระราชาที่เลอะเลือนไม่มีหัวคิด หลงเชื่อคนถ่อยง่ายๆ
ถูกขุนนางชั่วจูงจมูกเหมือนกัน ฉะนั้นจงฟังให้ดี ข้าจะให้เวลาท่านครึ่งเดือน
ไปสืบว่าเรื่องที่เกิดขึ้น มีต้นสายปลายเหตุเป็นมายังไงกันแน่
เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของท่านเอง แต่ถ้าสืบไม่ได้ละก้อ ท่านก็ต้องจัดการ
ปลิดชีพตัวเองต่อหน้าข้าซะ ชูซอน ถ้าเจ้ายังคิดปกป้องเขาอีก
ไม่แน่ว่าเจ้าจะมีชะตาเหมือนเขาด้วย" "ท่านพ่อ" "ก็ได้
ข้าจะทำตามพระบัญชา" ด้านชองฮันซูรู้เรื่องรับสั่งของพระเจ้าซองจงกับโชชิคยอมจากลูกน้อง "เจ้าบอกว่าฝ่าบาททรงให้เวลาครึ่งเดือน
ให้เขาพิสูจน์ตัวเองงั้นหรือ" "ถ้าครบกำหนดแล้วไม่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ได้
ก็ต้องฆ่าตัวตายน่ะครับ" "อย่าว่าแต่ครึ่งเดือนเลย ต่อให้อีกร้อยปี
เขาก็ไม่มีวันล้างมลทินได้หรอก ข้าจะเอาชีวิตเขาซะก่อน ไม่รอให้ครบกำหนดให้เสียเวลา
หึ เฮ่อๆๆ" ชองฮันซูเชื่อมั่นมาก คิมชูซอนกล่าวกับโชชิคยอมว่า "ท่านพ่อ
ตอนนี้ยังไม่สายไป ท่านสามารถตรวจสอบได้ว่า
ชองฮันซูรับคำสั่งจากท่านปู่ให้วางยาพิษองค์ชายน้อยเพื่อปองร้ายเหมือนกัน
ถ้าไงข้าจะไปทูลฝ่าบาทด้วย" โชชิคยอมปรามไว้ว่า "อย่าทำอะไรวู่วามนัก
ถ้าทำอย่างงั้นจริง
เกียรติของกรมมหาดเล็กก็จะย่อยยับหมด" "ไม่งั้นเราจะรับมือยังไงดีล่ะครับ
ขอเพียงแต่ ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ของท่าน และรักษาเกียรติของราชสำนักไว้ แม้ให้ข้า
บุกน้ำลุยไฟ ข้าก็ไม่เกี่ยง" "ทุกวันนี้ ข้าเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในกรม
แม้แต่ฝ่าบาทเอง ก็จะไม่เห็นใจข้าหรือแก้ต่างให้ข้าอีก แต่ก็ไม่ต้องห่วงมากนัก
ข้าจะไม่ยอมให้พวกมหาดเล็กนอกรีต ใช้วิธีสกปรกเล่นงานจนออกจากตำแหน่งง่ายๆ
ตราบใดที่มีลูกชายที่เชื่อใจข้า และคนสนิทที่พร้อมจะตายเพื่อข้าอยู่เคียงข้างแล้ว
ข้ายังต้องกลัวอะไรอีก ข้าจะโต้กลับ กวาดล้างพวกนอกรีตให้สิ้นซาก
เพื่อให้กรมมหาดเล็ก ได้อยู่ต่อไป"

จบเรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์คิมชูซอน ตอนที่ 25

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์คิมชูซอน ตอนที่ 26

โชชิคยอมเรียกประชุมบรรดามหาดเล็ก
โชชิคยอมเน้นย้ำว่ามหาดเล็กมีหน้าที่หลักในการถวายอารักขาพระราชาและเชื้อพระวงศ์
แต่ในเวลานี้มีบางคนไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน
ในสภาพเช่นนี้จะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ขอให้มหาดเล็กทุกคนยอมรับการปฏิรูปที่จะมีขึ้นโชชิคยอมบอกกับกึมพยอว่า "เจ้ารู้มั้ยว่า
ทำไมคนอื่นถึงได้กลัวข้านัก นั่นเพราะมีคนของเจ้า
ซึ่งยังภักดีต่อข้าอย่างไม่เสื่อมคลาย ในคืนที่มีการประชุมมหาดเล็กอาวุโส
ถ้าไม่มีคนของเจ้าอยู่ ป่านนี้ข้าคงถูกปลดจากตำแหน่งนานแล้ว" "ใต้เท้า
เรื่องอารักขาไม่ต้องห่วง เรายินดีมอบชีวิตให้ท่าน" "ขอบใจมาก
ข้าเชื่อใจเจ้าเสมอ ชีวิตข้า ก็เหมือนอยู่ในกำมือเจ้า เจ้าเองก็ต้องระวัง
อย่าทำอะไรประมาทล่ะ" "ข้าจะจำไว้ครับใต้เท้า" "ชูซอน
ฝ่าบาทให้ข้าเอาชีวิตเป็นประกัน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง
จากนั้นก็ให้ทุกฝ่ายยุติความขัดแย้งซะ แต่ตอนนี้หัวหน้าแต่ละแผนก
ล้วนถูกพวกผู้เฒ่ายุยงให้หักหลังข้าหมด เรื่องคราวนี้ เห็นจะแก้ปัญหายากซะแล้ว
ที่สำคัญฝ่าบาท ทรงให้เวลาเพียงแค่ครึ่งเดือน ถ้าภายในเวลาที่กำหนด
ข้าไม่สามารถทำให้เหตุการณ์ดีขึ้น ไม่เพียงแต่ข้าเท่านั้น แม้แต่ชีวิตเจ้า
ก็จะมีอันตรายเหมือนกัน" "แล้วจะให้ข้าทำไงดี ถึงสามารถช่วยท่านพ่อ
ล้างมลทินที่ถูกกล่าวหาได้ล่ะครับ ขอเพียงท่านสั่งมา
ข้ายินดีรับใช้ทุกอย่าง" "ถ้าจะแก้ปัญหาวุ่นวายที่เกิดอยู่ตอนนี้
คือต้องสังคายนากรมมหาดเล็กซะใหม่ ให้ทุกคนอยู่ในระเบียบมากขึ้น
อยากให้เจ้าช่วยข้าได้ไหม มีแต่ทางนี้ ถึงจะยืนยันความบริสุทธิ์ของข้าได้ และรวมถึง
จะเป็นแนวทางที่ดี
สำหรับการทำงานในอนาคตด้วย" พระพันปียินซูทรงวิตกกังวลการสืบคดีลอบปลงพระชนม์อดีตพระราชา
จะส่งผลกระทบต่อการบริหารแผ่นดินของพระเจ้าซองจง
ด้วยเหตุนี้พระพันปียินซูจึงทูลแนะนำให้พระเจ้าซองจงทรงมีรับสั่งปลดโชชิคยอมออกจากตำแหน่งเพื่อให้มรสุมสงบลง
พระเจ้าซองจงทรงมีรับสั่งว่า "หม่อมฉัน กลับไม่กลัวข่าวลือเหลวไหล
จะมาบั่นทอนชื่อเสียงของหม่อมฉันได้ ถ้าเรื่องอดีตพระราชามีพิรุธจริง
หม่อมฉันก็อยากสืบให้รู้ ไม่ว่าจะเกี่ยวพันถึงใคร
หม่อมฉันก็จะจับมาลงโทษให้หนัก" พระอัยยิกาจองฮีทรงตรัสชื่นชม
"ได้เห็นหลานคนนี้โตเป็นผู้ใหญ่ มีความคิดความอ่านเป็นของตัวเองแล้ว
ย่าก็รู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้ไม่ว่าฝ่าบาท จะตัดสินใจยังไงก็ตาม
ย่าก็จะฟังเจ้าเสมอ" ไต้เท้าซังตังบอกสนมออมว่าโชชิคยอมกำลังตกที่นั่งลำบาก
"เพราะวันก่อนพระสนม ทูลฝ่าบาทเกี่ยวกับข่าวลือของกรมมหาดเล็ก
ทำให้โชชิคยอมตกที่นั่งลำบากจนถึงวันนี้
รับสั่งของพระสนมได้ผลยิ่งกว่าเหล่าขุนนางซะอีก เฮ่อๆๆ" "หึ ท่านชมเกินไปแล้ว
แต่ว่า ต่อให้ขับไล่เจ้ากรมมหาดเล็กไปได้ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างมากมายนักหรอก
เพราะสุดท้าย ข้าก็ยังเป็นแค่สนมเล็กๆ อยู่ดี" "พระสนมอย่าเพิ่งร้อนใจนัก
รอให้เจ้ากรมมหาดเล็กที่ทรงอิทธิพลออกจากวังไปซะก่อน อีกไม่นาน
พระสนมก็จะได้ลืมตาอ้าปากเหมือนกัน" "ใต้เท้า
พูดจริงหรือเปล่าคะ" "ขอให้ทรงเชื่อหม่อมฉันได้
เฮ่อๆ" พระพันปียินซูเรียกชองฮันซูมาสอบถาม "ชองฮันซู ทำไมกรมมหาดเล็ก
ต้องเอาเรื่องการสวรรคตของอดีตพระราชามาไต่สวนอีก หรือเจ้าคิดว่า
การครองราชย์ของฝ่าบาทไม่มีความชอบธรรมหรือยังไง" "หามิได้พ่ะย่ะค่ะ
การที่หม่อมฉันไต่สวนเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าเกี่ยวพันถึงท่านเจ้ากรมฯ โดยตรง
และมีข่าวลือ ซึ่งจะทำให้มัวหมองถึงราชสำนักและพระเกียรติของฝ่าบาท
จึงอยากให้เขาลาออกพ่ะย่ะค่ะ" "ให้เขาลาออกก็ควรมีเหตุผลไม่ใช่หรือ" "เพราะท่านเจ้ากรมมักจะทูลยุยงฝ่าบาท
ชี้นำความคิดไปในทางที่ผิด อีกทั้งยังทำให้ขุนนางกับเชื้อพระวงศ์ผิดใจกัน ที่สำคัญ
ยังละเมิดกฎของมหาดเล็กที่ว่า จะไม่ยุ่งกับการเมืองเด็ดขาด ซ้ำยังลืมฐานะตัวเอง
นึกว่ามีอิทธิพล เหล่าผู้เฒ่าจึงร่วมประชุม
และมีมติออกมาพ่ะย่ะค่ะ" "แล้วทำไมจนป่านนี้
ยังไม่เห็นเขาลาออกซะทีล่ะ" "นั่นเพราะท่านเจ้ากรม
ฝืนมติการประชุมของมหาดเล็กอาวุโสพ่ะย่ะค่ะ" "อะไรนะ" "หม่อมฉันยังจะสืบอีกว่า
เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ในแง่ไหนอีกบ้างจะได้ลงโทษพร้อมกันซะทีเดียว
ทั้งหมดนี้ จึงทำเพื่อบีบให้ไต้เท้าโชลาออกเท่านั้น ไม่มีจุดประสงค์อื่น
ขอทรงวางพระทัยพ่ะย่ะค่ะ" "ที่เจ้าพูดนี่
เป็นความจริงหรือเปล่า" "พระพันปี เรื่องวุ่นวายคราวนี้ จะไม่แพร่ออกไปข้างนอก
ทำให้ราชสำนักเสื่อมเสียอย่างแน่นอน
ขอทรงเชื่อหม่อมฉันเถอะพ่ะย่ะค่ะ" โชชิคยอมเรียกประชุมบรรดาหัวหน้ากองเพื่อสอบถามถึงแนวทางการปฏิรูปกรมมหาดเล็ก
นึกไม่ถึงว่าบรรดาหัวหน้ากองต่างพากันสนับสนุนชองฮันซู
ชองฮันซูต่อว่าโชชิคยอมไม่ควรเป็นปฏิปักษ์กับขุนนางเก่า
เมื่อโชชิคยอมได้ยินเช่นนั้นก็ตอบโต้กลับไปว่าตนยอมรับว่าเป็นความผิดของตนเอง
ไม่ว่าอย่างไรตนจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง
ชองฮันซูถามสาเหตุการสวรรคตของอดีตพระราชาจากยางซองยุน
ชองฮันซูขอร้องยางซองยุนอย่าได้ปกป้องโชชิคยอมอีกต่อไป
ยางซองยุนในสภาพที่มึนเมาตบหน้าชองฮันซูเป็นการสั่งสอน
การที่ตนไม่เปิดเผยความลับการปลงพระชนม์อดีตพระราชานั้นก็เพื่อความสมัครสมานสามัคคีของคนในกรมมหาดเล็ก
การที่ตบหน้าหน้าชองฮันซูนั้นถือเป็นการสั่งสอน
หลังจากที่ยางซองยุนพูดจบก็จากไปโดยปล่อยให้ชองฮันซู
เคียดแค้นอยู่เพียงลำพัง กึมพยอซึ่งไปพบใต้เท้าโนนั้น
ทันทีที่ดื่มน้ำชาที่ซอยองนำมาให้ก็ตกที่นั่งลำบาก คิมชูซอนอธิบายภาระหน้าที่ของมหาดเล็กให้ทุกคนฟัง
ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือในการปฏิรูปกรมหาดเล็ก เพื่อนๆ
ต่างให้การสนับสนุนความคิดของคิมชูซอน พระพันปียินซูทรงเรียกโชชิคยอมมาพูดคุย "ได้ยินว่าเพราะเรื่องจะให้ท่านลาออก
ทำให้หลายฝ่ายเกิดความขัดแย้งใช่ไหม" "เรื่องของหม่อมฉันทำให้พระพันปีทรงเป็นห่วง
ขอทรงอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ" "แต่ข้าคิดว่าท่าน ถ้ามีความภักดีต่อฝ่าบาทจริง
ก็ควรลาออกจากตำแหน่งซะ เพื่อให้ความตึงเครียด
เบาบางลงไปและงานก็ไม่หยุดชะงักด้วย" "หม่อมฉันเข้าใจความหมายของพระพันปีพ่ะย่ะค่ะ
แต่ตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลาที่หม่อมฉันจะถอนตัวจากกรมมหาดเล็ก" "อะไรนะ
ยังไม่ใช่เวลาจะถอนตัวหรือ" "ถ้าหม่อมฉันลาออกตอนนี้ ก็แสดงว่า
หม่อมฉันวางยาปลงพระชนม์อดีตพระราชาจริงๆ และถ้าเป็นอย่างงั้น
จะทำให้พระเกียรติของฝ่าบาท ยิ่งต้องมัวหมองด้วยซ้ำ หม่อมฉัน
จะขอพิสูจน์ตัวเองภายในเวลาที่ฝ่าบาททรงกำหนดแล้วหลังจากนั้น
มีการวางระบบใหม่ให้กรมมหาดเล็กเรียบร้อย ค่อยคิดว่าจะลาออกหรือไม่
จึงอยากให้พระพันปีทรงเข้าพระทัย อย่าทรงเร่งรัด รออีกหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ"
พระพันปียินซูได้แต่ทรงอึ้ง โชชิคยอมมีโอกาสได้พบกับใต้เท้าซังตัง
เขาทักทายอย่างปกติ "ใต้เท้าซังตัง ไม่เจอหลายวัน
สบายดีหรือเปล่าครับ" "เจ้ากรมมหาดเล็ก เห็นบอกว่า
หมู่นี้ท่านไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นัก เพราะที่ประชุมมีมติ
ให้ท่านลาออกจากตำแหน่งใช่ไหมนี่" "ทั้งหมดนี้เพราะอิทธิพลของใต้เท้าบันดาลให้เป็นไปไม่ใช่หรือ
ตอนนี้แม้แต่ฝ่าบาทเอง ก็ไม่โปรดปรานข้าเหมือนแต่ก่อน เท่ากับชีวิตข้า
แขวนอยู่บนเส้นด้ายก็ไม่ปาน" "อะไรนะ ท่านรนหาที่เอง จะมาโทษข้าได้ไง
ข้าไปเกี่ยวอะไรด้วย" ขุนนางอีกคนก็ว่า "นั่นน่ะซี้ ทีแรกทำเป็นอวดดี
หยิ่งยะโสไม่กลัวตาย ตอนนี้รู้ฤทธิ์ของใต้เท้าแล้วสิ เฮ่อๆๆ" "แต่ว่า
ตอนนี้ข้ายังไม่ตายไม่ใช่หรือครับใต้เท้า ปะเหมาะเคราะห์ร้าย
จดหมายที่ท่านเคยลงชื่อ สมัยอดีตพระราชายังมีพระชนม์ชีพ เกิดวันดีคืนดี
อาจส่งไปถึงหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทก็เป็นได้" "ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง
ไม่แค่เราสองคนเท่านั้น แม้แต่ฝ่าบาทก็จะถูกครหาด้วย ข้าน่ะ เชื่อว่าท่านคงไม่โง่
ทำอะไรให้เสียหายบานปลายถึงขนาดนั้น เกิดวันไหนลาออกจริงๆ ก็มาหาข้าได้ บางที
ข้าอาจมีตำแหน่งเล็กๆ ไว้รองรับ ไม่ให้เหงามาก เฮ่อๆๆ"
ใต้เท้าซังตังกล่าวอย่างเป็นต่อ โอซังกุงมาให้กำลังใจโชชิคยอม
ทำให้เขารู้สึกอุ่นใจและมีกำลังใจมากขึ้น พระอัยยิกาจองฮีทรงเรียกวอฮาให้มาดูองค์ชายน้อย "ลักษณะขององค์ชายน้อยเป็นไงบ้าง" "พระพักตร์มีแววเฉลียวฉลาด
พระเนตรซุกซนบ่งบอกถึงพระปรีชาญาณและบุญบารมีอันล้ำเลิศ เชื่อว่า
อีกหน่อยคงเป็นพระราชาที่ทรงปรีชาสามารถ
ปกครองบ้านเมืองให้ร่มเย็นแน่เพคะ" "ใช่ ข้าก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน
งั้นก็รบกวนเจ้าช่วยอธิษฐานขอพรให้เขาหน่อยนะ" "เรื่องนี้เป็นหน้าที่หม่อมฉันอยู่แล้วเพคะ" โอซังกุงเข้ามาคุยกับวอฮา
เมื่อนางออกมาจากตำหนักพระอัยยิกาจองฮี "ได้ข่าวว่านายหญิงที่เรือนฝ่ายในออกจากเมืองหลวงไปแล้วหรือคะ
เห็นสีหน้าท่านไม่สู้ดี
จะเป็นเพราะกลุ้มใจเรื่องนี้หรือเปล่า" "หมู่นี้ข้ามักจะฝันร้าย
เห็นภาพหลอนแปลกๆ
ราวกับตัวเองจะป่วยเป็นอะไรซักอย่าง" "เห็นภาพหลอนหรือ" "ดูเหมือนเป็นเรื่องราวที่
เมื่อก่อนท่านเคยเล่าให้ข้าฟังเกี่ยวกับชีวิตท่านน่ะค่ะ
ท่านบอกว่าหลังจากคลอดลูกไม่กี่วัน ถูกคนตามล่า หนีหัวซุกหัวซุนจนสุดท้ายตกหน้าผาไป
นี่คือสิ่งที่ข้าฝันอยู่ตลอดน่ะค่ะ" "อะไรนะ ทำไมท่านถึง
เห็นภาพแบบนี้เหมือนข้าได้ล่ะคะ" "ถ้าท่านมีเวลา
เชิญไปพบข้าที่บ้านซักครั้งจะได้ไหม บางทีข้าอาจช่วยทบทวนความจำ
ให้ท่านจำอดีตได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อท่านด้วย"
โอซังกุงยิ่งฟังก็ยิ่งอึ้ง00000000000000 พระเจ้าซองจงตรัสกับพระมเหสียุนโซฮวาถึงองค์ชายน้อยว่า "เฮ่อๆๆ
ลูกคนนี้เกิดมามีบุญ อีกหน่อยจะเป็นพระราชาที่ปรีชาสามารถงั้นหรือ
แม้ข้าจะเรียนหนังสือมาเยอะ ใจจริงก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องหมอดูทำนายซักเท่าไหร่
แต่ในฐานะเป็นพ่อ ก็ชอบที่จะฟังคำพูดแบบนี้" "วันก่อนมหาดเล็กคิม
ก็เคยทำนายเช่นเดียวกันเพคะ" "ชูซอนน่ะหรือ" "ฝ่าบาท อีกหน่อยมหาดเล็กคิม
จะเป็นคนที่ภักดีต่อองค์ชายน้อย แล้วทำไมฝ่าบาทต้องลงอาญาเขา
เพราะความที่ปกป้องเจ้ากรมมหาดเล็กด้วยล่ะเพคะ ตลอดเวลาที่ผ่าน
ฝ่าบาทก็ทรงเชื่อมั่นต่อเขา
ว่าเป็นผู้จงรักภักดีแค่ไหนไม่ใช่หรือเพคะ" "เจ้าพูดถูกต้องแล้ว
ข้าเชื่อใจชูซอน มากกว่าขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์ไหนๆ ด้วยซ้ำ แต่ว่า
ถ้าเจ้ากรมมหาดเล็กไม่อาจพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ ถึงตอนนั้นชูซอน
ก็จะต้องรับโทษเช่นเดียวกับเขา" พระมเหสียุนโซฮวาตกใจ "ฝ่าบาท
ทำไมถึง" "พระราชาที่จะปกครองประเทศได้
ก่อนอื่นต้องดูแลคนใกล้ตัวให้มีระเบียบก่อน ไม่งั้นต่อหน้าเหล่าขุนนาง
ข้าจะไม่มีศักดิ์ศรี ไม่เป็นที่เกรงขามอีก หึ ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้าดี
เพียงแต่เรื่องคราวนี้ ข้าจนปัญญาที่จะช่วยได้ คงต้องรอให้ท่านเจ้ากรมกับชูซอน
ช่วยกันแก้ปัญหาของพวกเขา
ส่วนข้าได้แต่เอาใจช่วย" คิมชูซอนรู้ข่าวจากเกยนัมก็ตกใจ "อะไรนะ
มหาดเล็กไปตรวจค้นเรือนฝ่ายใน แถมยังยึดทรัพย์และสมุดบัญชีด้วยหรือ" "ใช่
พวกเขาอ้างว่าจะไต่สวนคดีท่านเจ้ากรมเลยไปตรวจค้นที่นั่นเป็นการใหญ่
คนอื่นก็ไม่กล้าขัดขวาง ข้าว่าตอนนี้
ฮันซูคงจะเสียสติไปแล้ว"ซึ่งเวลานั้นชองฮันซูชื่นชมลูกน้องว่า "ทำดีมาก
แค่นี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าท่านเจ้ากรมมีเกี่ยวข้องกับเรือนฝ่ายใน
ช่วยให้เด็กจากที่นั่นผ่านการคัดเลือกอย่างง่ายดาย
อีกหน่อยถ้าข้าได้เป็นเจ้ากรมมหาดเล็ก พวกเจ้าทุกคน จะได้เป็นหัวหน้าแผนกต่างๆ
แต่ช่วงนี้ ขอให้ทำตามที่ข้าสั่งทุกอย่าง" "ไม่ต้องห่วง
นับแต่นี้เราจะภักดีต่อหัวหน้าชองคนเดียวเท่านั้น" "แน่นอน
เราจะขอติดตามท่านคนเดียว" ชองฮันซูเห็นคิมชูซอน "อึม หึๆๆ ไม่เป็นไร
ให้เขาเข้ามา ชูซอน เจ้ามาถึงนี่ มีอะไรจะพูดกับข้าใช่ไหม" "ชองฮันซู
สิ่งที่ทำไม่เกินไปหน่อยหรือ เรือนฝ่ายใน ถือเป็นที่ๆ มอบชีวิตใหม่ให้แก่พวกเรา
จนได้ก้าวหน้าอย่างทุกวันนี้
เปรียบเหมือนบ้านเก่าที่ให้ความอบอุ่นไม่ต่างกับอ้อมกอดของแม่
แล้วทำไมต้องให้คนไปทำลายด้วย" "ข้ากำลังสืบคดีสำคัญ
ตามหน้าที่ของหัวหน้ามหาดเล็กตรวจการณ์ ขนาดท่านเจ้ากรมยังทรยศพ่อบุญธรรมได้
แล้วข้าแค่ตรวจค้นเรือนฝ่ายในจะเป็นไรนักหนา พูดจบแล้วก็เชิญกลับไปได้" "ก็ได้
ที่แล้วมาข้าถือว่าเจ้า เป็นเพื่อนที่อยู่เรือนฝ่ายในด้วยกันมา
ทำอะไรเกินเลยก็ให้อภัย แต่นับแต่วันนี้ เจ้าจะไม่ใช่เพื่อนข้าอีก ชองฮันซู
ข้าจะไม่ให้เจ้ายึดครองกรมมหาดเล็ก เพื่อทำอะไรตามใจชอบแน่นอน"
คิมชูซอนไป "หมอนี่กำแหงนัก ให้ไปสั่งสอนมั้ยครับ" "ไม่ต้องสนใจเขาหรอก
อีกไม่นานก็จะถูกระเห็จออกจากวัง พร้อมกับท่านเจ้ากรมทั้งสองคน
เมื่อเราเป็นฝ่ายถือไพ่เหนือกว่า
ยังจะกลัวอะไรอีกเล่า" คิมชูซอนเดินหัวเสียออกมา
ฮุงบีเห็นก็ร้องทัก "มหาดเล็กคิมๆ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า
ทำไมหน้าตาอย่างงั้นล่ะ เห็นสีหน้าแล้วน่ากลัวมากเลย เกิดอะไรขึ้นหรือ" "ฮุงบี
เจ้ารู้มั้ยพวกนางในมีความเห็นยังไง
ต่อเรื่องเจ้ากรมมหาดเล็กบ้าง" "เห็นว่าท่านเจ้ากรม
คือตัวการที่ลอบปลงพระชนม์อดีตพระราชา และอีกไม่นาน
เขาจะลาออกจากตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็ก" "ไม่เป็นความจริง
นี่เป็นการกุเรื่องใส่ร้ายของคนถ่อย ที่จะคิดปองร้ายต่างหาก
ท่านเจ้ากรมจะไม่มีวันลาออกง่ายๆ อยากให้เจ้าเข้าใจใหม่
อย่าไปหลงเชื่อคนอื่น" "เข้าใจแล้ว" วอฮาเห็นคิมชูซอนก็ร้องเรียก
"ชอนตง" "ท่านแม่" "วันนี้แม่มาเฝ้าพระอัยยิกา
คิดถึงเจ้าเลยแวะมาเยี่ยมด้วย" "หึ ยินดีที่ได้รู้จัก
ข้าเป็นนางในของสนมออมชื่อฮุงบีค่ะ" "อ้อ ค่ะ" "พอเห็นท่าน ข้าถึงรู้ว่า
มหาดเล็กคิมหน้าตาเหมือนแม่นี่เอง อยู่ที่นี่มีข้าคอยดูแล ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ
ถ้าอย่างงั้น เชิญท่านตามสบายก่อน" "อึม ชอนตง
ทำไมสีหน้าเจ้าดูเครียดอย่างงั้นล่ะ" "อ้อ ไม่มีอะไร
ไม่ต้องห่วงหรอกครับ" "ยังไงก็ตามแต่ บางอย่างฝืนไม่ได้ก็ปล่อยไปตามดวงเถอะนะ
อย่าใจร้อนวู่วาม แต่ก็อย่านิ่งเฉยเกินไป
แล้วเจ้าจะอยู่ในวังนี้ได้อย่างสบายใจ" "ท่านเจ้ากรมให้ท่านรีบไปพบครับ"
คิมชูซอนหันมาบอกแม่ "ท่านแม่กลับบ้านดีๆ นะครับ วันหลังถ้ามีเวลา
ข้าจะกลับไปเยี่ยมท่านบ้าง" "ได้จ้ะ
เจ้าก็ระวังเหมือนกัน" คิมชูซอนไปพบโชชิคยอมทันที
โชชิคยอมนำข้อมูลออกมาให้ "นี่คืออะไรหรือครับ" "ตลอดสิบกว่าปีมานี้
ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เฒ่าทั้งหลายในกรมมหาดเล็ก รวมถึงหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ทุกระดับชั้น
มีการทุจริตรับสินบนจากใครยังไงบ้าง ถ้าใครได้อ่าน
จะทำให้รู้ว่าเบื้องหลังของกรมมหาดเล็กมันเหลวแหลกขนาดไหน
ทุกคนต่างก็จ้องหาผลประโยชน์ หรือแม้แต่ ที่ซ่อนทรัพย์สินของพวกเขา
มีการเล่นแร่แปรธาตุยังไงบ้าง ข้าก็ได้จดบันทึกเอาไว้หมด" "ถ้าอย่างงั้น
ทำไมเอาของสำคัญแบบนี้มาให้ข้าล่ะครับ" "เอาหลักฐานพวกนี้
ไปต่อรองกับพวกเขาให้อ่อนข้อ หรือจะให้หายนะพร้อมกัน แล้วแต่ความประสงค์ของเจ้า
และไม่ว่าเจ้าจะจัดการยังไง ข้าก็ไม่ยุ่งเกี่ยวทั้งนั้น แต่ว่า
ถ้าเจ้าไม่สามารถกำราบพวกเขาได้อีก ข้าก็จะสั่งให้กึมพยอ
ใช้ไม้แข็งไปจัดการกับพวกเขาแทน แต่ข้าไม่อยากให้เกิดการนองเลือด
เลยอยากให้เจ้าทำมากกว่า" โอซังกุงถามวอฮาว่าได้พบองค์ชายน้อยแล้วหรือ "ใช่ค่ะ
ดูจากวันเกิดและลักษณะหน้าตา
อนาคตต้องเป็นพระราชาที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดพระองค์หนึ่งแน่" "เฮ่อ
ทุกวันนี้ขอเพียงองค์ชายน้อยทรงแข็งแรงเท่านั้น
พระมเหสีถึงจะอยู่ในวังอย่างสงบได้" "เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ว่าแต่
ท่านมีปัญหากลุ้มใจอะไรอีกหรือคะ" "เฮ่ย ข้าเป็นห่วงลูกชาย
กลัวเขาจะทำอะไรบุ่มบ่าม จนส่งผลกระทบถึงพระมเหสีกับองค์ชายน้อยหรือเปล่าก็ไม่รู้
ทำให้ทุกวันนี้อดกังวลไม่ได้น่ะค่ะ
เฮ่อ" ใต้เท้าซังตังชวนคีฮอมพี่ชายของพระมเหสียุนโซฮวามาดื่มเหล้าแสดงความยินดี
และยังเอื้อเฟื้อว่าอยากทำงานตำแหน่งอะไรอีก ทำให้คีฮอมซาบซึ้งใจมาก
ขณะที่ใต้เท้าซังตังมองอย่างดูถูกว่าปัญญาเบา โชชิคยอมบอกกล่าวกับกึมพยอว่า "หึ
กึมพยอ เห็นทีคราวนี้ท่านพ่อ คงไม่ยอมรับ ข้อเสนอจากข้าไม่ว่าจะพูดยังไงก็ตาม
ถึงข้าจะบอกชูซอน ให้เขารู้วิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ แต่เพราะความที่เขายังเด็ก
คงยากจะรับผิดชอบได้" "ถ้าอย่างงั้น" "ใจจริงข้าไม่อยากใช้ไม้แข็ง
ไปห้ำหั่นกับท่านพ่อด้วยตัวเองเลย แต่ดูแล้วคงไม่มีทางเลือกอื่น
นี่คือไม้ตายขั้นสุดท้าย ถ้าชูซอนไม่สามารถ ทำงานตามที่ข้าสั่งให้เรียบร้อยได้
ขั้นต่อไปก็คือพึ่งเจ้า" กึมพยอไปพบใต้เท้าโน ซอยองทักทันทีว่า "หึ
นึกแล้วว่าท่านต้องมา ไม่เคยผิดคำพูดแน่" "ข้าอยากรู้ว่าใต้เท้าโน
มีอะไรจะพูดกับข้าถึงได้สั่งให้มา" "หึ เดี๋ยวค่อยให้ไปพบ แต่ตอนนี้
เชิญไปดื่มเหล้าทางโน้นก่อน ข้าอุ่นเหล้ารอไว้ก่อนแล้ว
เชิญดื่มซักนิดเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นก่อน กลัวอะไรคะ
หรือห่วงว่าข้าจะวางยาพิษในเหล้าหรือไง หึ ถ้าคิดว่าไม่มั่นใจ ข้าจะดื่มให้ดูก่อน"
กึมพยอยอมดื่มเหล้า "หึ สมแล้วที่เป็นยอดฝีมือของกรมมหาดเล็ก หึ
คนมีฝีมือและซื่อสัตย์อย่างท่าน ถ้ายอมช่วยงานหัวหน้าชอง
สองแรงแข็งขันน่าจะดีไม่น้อย เป็นไงคะ ท่านอยากมาเป็นพวกเดียวกับเรา
เผื่อวันหลังจะได้สบายกว่านี้หรือเปล่า" "เลิกเพ้อเจ้อกับข้าได้แล้ว
ข้าจะมาพบใต้เท้าโนมากกว่า" "ถ้าท่านยืนกรานหนักแน่นไม่ยอมมาเข้าพวกกับเรา
งั้นใต้เท้าโนก็ไม่มีอะไรจะพูดด้วยเหมือนกัน" "อะไรนะ งั้นข้าขอตัวกลับก่อน"
กึมพยอลุกขึ้นก็รู้สึกเวียนหัว "ในเหล้ามียาสลบนิดหน่อย
ท่านคงรู้สึกเวียนหัวแล้วสิ" ทันใดนั้นชองฮันซูก็ปรากฎตัวขึ้น "โทกึมพยอ
สมัยก่อนเจ้ารับคำสั่งจากเจ้ากรมมหาดเล็ก
ฆ่าคนปิดปากหลายรายและจงใจทำลายหลักฐาน ข้าจะขอจับเจ้า" "ถ้าใครไม่อยากเจ็บตัว
จงถอยไปห่างๆ" "หึๆ จับเขาไว้"
ชองฮันซูสั่ง พวกลูกน้องช่วยกันจับตัวกึมพยอจนได้
ซอยองกล่าวกับชองฮันซูว่า "แค่นี้โชชิคยอมก็เหมือนถูกเด็ดปีก
อีกหน่อยกรมมหาดเล็ก
จะเป็นของท่านคนเดียวเท่านั้น" ทางด้านจาจีบอกกับพรรคพวกว่า
"นี่คือสิ่งที่เราอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง
หลังจากท่านเจ้ากรมเสนอให้มีการปฏิรูปใหม่
รวมถึงการลงชื่อรับรองด้วย" มูนโซอุนกล่าวต่อว่า
"มหาดเล็กรุ่นเยาว์ก็ร่วมลงชื่อเกือบทั้งหมด" "การปฏิรูปกรมมหาดเล็กไม่ใช่ทำเพื่อท่านเจ้ากรมฯ
คนเดียว เพราะถ้าเราไม่ลุกขึ้นทำอะไรซะบ้าง ความเหลวแหลกและปัญหาที่สั่งสมมานาน
จะมีผลทำให้ราชสำนักสั่นคลอนและหมดความน่าเชื่อถือ ทุกคน ตัดสินใจดีแล้ว
ที่จะติดตามข้าใช่ไหม" คิมชูซอนถาม เกยนัมบอกว่า "คนที่ลงชื่อในหนังสือ
ถือว่ายินดีติดตามเจ้าทั้งนั้น" แคนัมกล่าวต่อว่า "อึม ใช่ ถึงให้เราไปตาย
เราก็จะไม่เกี่ยงเลย รีบสั่งมาเร็วเข้า
หือ" โชชิคยอมรู้สึกเป็นห่วงกึมพยอที่ออกไปข้างนอกแล้วไม่ได้กลับเข้ามา
ทันใดนั้นคนของชองฮันซูก็มาถามเขาไปพบ
โชชิคยอมไปพบชองฮันซู "พี่ใหญ่มาแล้วหรือครับ" "นี่เจ้าเหิมเกริมไปหรือเปล่า
กล้ามานั่งเก้าอี้ข้าเชียวหรือ" "ไหนๆ อีกหน่อยพอท่านลาออกแล้ว
ตำแหน่งนี้ก็ต้องเป็นของข้าอยู่ดี วันนี้เลยมานั่งดูเล่นๆ เดี๋ยวก็คืนให้ท่าน
ไม่ต้องโมโหมากนักหรอก" "อะไรนะ" "ข้ากลัวว่าท่านจะห่วงลูกน้องคนสนิท
ว่าไม่รู้หายไปไหน เลยตั้งใจจะมาบอกให้รู้" โชชิคยอมเห็นกึมพยอก็ตกใจมา
"กึมพยอ" "ใต้เท้า" "เจ้า ทำไมถึงเป็นแบบนี้" "โปรดอภัยให้ข้าด้วย
เพราะความโง่เขลาของข้า จึงได้ตกหลุมพรางคนอื่นน่ะครับ" "อยู่ดีๆ
ทำไมต้องจับเขามาขังไว้ เขาทำอะไรผิด" โชชิคยอมถามชองฮันซู "สมัยก่อนโทกึมพยอ
เคยสังหารพยานปากสำคัญ เกี่ยวกับคดีวางยาลอบปลงพระชนม์อดีตพระราชา และเร็วๆ นี้
ก็ขับไล่ชาวบ้านที่เคยเห็นชู้รักของพระมเหสี ให้ออกจากเมืองหลวงไปอีก
แถมยังฆ่าคนเป็นผักปลา ข้าเลยต้องจับมาไต่สวน" "อะไรนะ" "คนๆ นี้
ปกติเป็นคนสนิทของท่านที่ไว้เนื้อเชื่อใจมานาน ตอนนี้เขาได้รับโทษแทนท่าน
ถูกทรมานอย่างสาหัสไปแล้ว คิดว่าท่านคงมีเรื่องจะคุยกับเขาเยอะ
ถ้าไงข้าจะขอตัวก่อน" ชองฮันซูเดินออกไปเลย กึมพยอกล่าวกับโชชิคยอมว่า
"ข้าทำให้ใต้เท้า ต้องพลอยเดือดร้อนและเสียงานใหญ่ เพราะความบุ่มบ่ามของข้า
รู้สึกละอายใจนัก" "ไม่ต้องพูดอีกแล้ว เจ้าเป็นคนยังไง
มีหรือข้าจะไม่รู้" "ใต้เท้า โปรดสั่งให้ประหารข้าซะดีกว่า" "กึมพยอ
เจ้าเอาอะไรมาพูดน่ะ" "ชองฮันซู ต้องเอาชีวิตข้าเป็นเครื่องต่อรอง
บีบให้ท่านลาออกจากตำแหน่งแน่ ข้า ไม่อยากให้ท่านไปอ่อนข้อต่อเขา
เพื่อจะช่วยชีวิตข้าไว้ ในเมื่อเราทำอะไรไม่ได้
ก็สู้ฆ่าข้าซะดีกว่า" "อย่าคิดโง่ๆ อย่างงั้น ต่อให้ถึงขั้นสุดท้าย
ข้าต้องหลุดจากตำแหน่งจริง ก็ไม่มีวันทิ้งเจ้าได้หรอก" "ข้ายังจำได้ดี
สมัยก่อนท่านเอาเด็กกำพร้าอย่างข้ามาชุบเลี้ยง โดยไม่มีความรังเกียจ ฮือ
หลังจากนั้นข้าป่วยเป็นโรคประหลาดใกล้ตาย ท่านก็ยิ่งเป็นห่วง ใช้ปากดูดพิษ
ดูแลข้าหลายวันทำให้รอดตายอีกครั้ง ที่สำคัญ ท่านยังเป็นคนตอนให้ข้าด้วยตัวเอง
ทำให้ข้าได้เป็นมหาดเล็กในวัง ชีวิตของข้า จึงเป็นของใต้เท้าคนเดียว
ถ้าข้าจะทำให้ท่านเดือดร้อน มิสู้ให้ข้าตายซะ
เพื่อตอบแทนบุญคุณท่านยังดีกว่า" "กึมพยอ" "ใต้เท้า โปรดรับปากข้า
อย่ารอช้าอีกเลยครับ ฮือ" โชชิคยอมออกมา
ชองฮันซูถามเขาว่า "ตกลงพี่ใหญ่คิดจะทำยังไง
จะยอมลาออกจากตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็กหรือว่า ยอมให้โทกึมพยอตายต่อหน้าต่อตา พี่ใหญ่
ข้ากำลังรอคำตอบอยู่ ทำไมไม่พูดล่ะ" "แล้วเจ้า
อยากให้ข้าทำแบบไหนดีล่ะ" "ลาออกเองจะดีที่สุด หากทำแบบนี้
บรรดาข้อกล่าวหาต่างๆ ในอดีตของท่าน ก็จะไม่มีการรื้อฟื้นอีก ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ
ชื่อเสียงของท่านไม่ถูกทำลายให้มัวหมองด้วย" "นี่ยังไม่ถึงเวลา
ที่ฝ่าบาททรงขีดเส้นตายให้ข้าพิสูจน์ตัวเอง รอให้ถึงตอนนั้น
ข้าจะมีคำตอบให้เอง" "เอางั้นก็ได้ แต่ในระหว่างนี้
ท่านไม่มีสิทธิ์สั่งงานในกรมมหาดเล็กเพราะถือว่าเป็นเจ้ากรมอีก
ข้อนี้จะรับปากได้ไหม" "ตกลง ข้าจะทำตามนี้ แต่ว่า เจ้าห้ามทำอะไรกึมพยอ
ต้องดูแลเขาให้ดี" "ข้าก็รับปากได้" พอใต้เท้าโนรู้เรื่องจากชองฮันซูก็หัวเราะชอบใจ "ฮ่าๆๆ
เฮ่อๆๆ ชิคยอมยอมแพ้แล้วหรือนี่ เฮ่อๆๆ ฮันซู เจ้าสมเป็นลูกรักของข้าจริงๆ
ทำงานได้ดั่งใจทุกอย่าง เฮ่อๆๆ" "ทุกอย่างนี้
เป็นเพราะบารมีของท่านพ่อต่างหากล่ะครับ" "แน่นอน ไม่ว่าใครก็ตาม
ถ้าเป็นศัตรูกับข้า มันจะต้องมีผลแบบนี้" ซอยองกล่าวต่อว่า "แต่ว่า
ข้ารู้สึกว่าที่ใต้เท้าโชยืดเวลาออกไป
จะมีปัญหาหรือเปล่าคะ" "ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ต่อให้เขาเก่งกล้าสามารถแค่ไหน
ทุกวันนี้ ฝ่าบาทก็ไม่มีรับสั่งให้เข้าเฝ้า แถมยังไม่มีกึมพยอคอยช่วย
แล้วจะกล้าแผลงฤทธิ์อะไรอีก" "พอถึงสิ้นเดือน เขาลาออกไปแล้ว
ที่ประชุมมหาดเล็กอาวุโส จะเลือกใครเป็นเจ้ากรมฯ คนใหม่แทนครับ"
ชองฮันซูถามทันที "อย่าเพิ่งใจร้อนนักเลย เพื่อไม่ให้คนครหา
ข้าจะให้มหาดเล็กชางเป็นชั่วคราวก่อน
หลังจากนั้นเจ้าค่อยไปแทนที่เขา" "ได้ครับ
ข้าจะทำตามที่ท่านพ่อสั่ง" ด้านโชชิคยอมก็กล่าวกับคิมชูซอนว่า "ชูซอน
เพราะเรื่องของข้าทำให้เจ้าเดือดร้อน อาจจะถูกฝ่าบาทลงอาญาไปด้วย
คิดแล้วข้าก็รู้สึกละอายต่อเจ้านัก" "ทำไม
ทำไมพูดท้อแท้และเหมือนเป็นลางอย่างงั้นล่ะครับ เรื่องนี้ยังไม่ถึงเวลาสิ้นสุด
ข้ารับรอง ไม่ว่ายังไงก็จะช่วยท่านพ่อให้ได้
ขอให้ท่านพ่อเชื่อใจข้า" คิมชูซอนออกไปก็สั่งพรรคพวกให้แยกย้ายกันทำงานทันทียางซองยุนมาพบใต้เท้าโน "ซองยุน
เจ้าบอกว่ามีธุระอยากพบข้างั้นหรือ" "ได้ยินว่าท่านไม่ค่อยสบาย
สุขภาพทรุดโทรมหนัก ข้าเลยเอายามามอบให้น่ะครับ นี่คือยาที่หายาก
มีเฉพาะในวังเท่านั้น ต้มให้ใต้เท้ากิน เช้าเย็นวันละชุดล่ะ" ใต้เท้าโนงุนงง
"ไม่สบายอะไรกัน ข้าออกจะสบาย เจ้าไปฟังผิดมาหรือเปล่า" "อ้อ ไม่ผิดหรอกครับ
ข้าได้ยินว่าท่าน แก่จนเลอะเลือน ทำอะไรโง่เขลาไปหมด" "อะไรนะ
นี่แปลว่าเจ้าจะมา เล่นตลกกับข้าใช่ไหม" ใต้เท้าโน "ถ้าท่านไม่เลอะเลือน
แล้วทำไมทำให้กรมมหาดเล็ก เกิดความแตกแยกได้ขนาดนี้ล่ะครับ เป็นลูกพ่อมา 30 ปี
ตัดความสัมพันธ์ยังพอว่า ยังจะฆ่าลูกอีก
แบบนี้เขาไม่เรียกว่าแก่จนเลอะหรอกหรือครับ"
ยางซองยุนพูดไปเรื่อยอย่างไม่สะทกสะท้าน "พอที
เจ้ามาพล่ามอะไรน่ะ" "เมื่อก่อนท่านก็เคยรับใช้ราชสำนัก ทำงานหามรุ่งหามค่ำ
ทนกับความกดดันรอบด้าน แต่ยังยึดมั่นในหน้าที่ไม่ใช่หรือครับ แล้วทำไมตอนนี้
กลับทำให้เด็กรุ่นหลังไม่มีที่ยืนเพื่ออะไรกันแน่" "ข้าไม่อยากฟัง รีบออกไปซะ
ก่อนที่ข้าจะไล่เจ้า" "ไหนๆ พวกเราก็ถูกตอนหมดแล้ว
วงศ์ตระกูลจะมีความหมายอะไรอีก กะอีแค่ ลาภยศจอมปลอมที่ตายแล้วก็เอาไปไม่ได้
เราจะให้คนรุ่นหลังมาประณามทำไมล่ะครับ ใต้เท้า
ถ้าไม่อยากให้ใครว่าท่านแก่จนเลอะทำอะไรไม่มีหัวคิด เรื่องในกรมมหาดเล็ก
ต่อไปท่านอย่ายุ่งดีกว่า" "เจ้านี่มันแกว่งปากหาเสี้ยนจริงๆ
ใครอยู่ข้างนอกบ้าง" "ไม่ต้องห่วง ข้าจะกลับไปเดี๋ยวนี้ แต่ว่า คนอย่างชิคยอม
ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ และกรมมหาดเล็ก
ก็ไม่ควรเกิดความแตกแยกเพราะกิเลสของตาแก่คนหนึ่ง ข้าอยากให้ท่านจำไว้ด้วย
หึ" "หนอย หมอนี่มันช่างกล้านัก"
ใต้เท้าโนโกรธแค้นมาก ยางซองยุนกำลังจะออกไป
ซอยองเรียกเขาไว้ "ใต้เท้ายางคะ อย่าเพิ่งไปได้ไหม" "ทำไม
เจ้ามีเรื่องจะพูดกับข้าหรือไง" "ท่านเองก็รู้ดีว่า
ใต้เท้าโชเป็นคนบงการให้วางยาลอบปลงพระชนม์ อดีตพระราชาไม่ใช่หรือคะ แล้วทำไม
รู้อยู่ว่าใครทำผิดยังจะช่วยเขาปิดบังอีก" "แล้วทีใต้เท้าโนของเจ้าล่ะ
ที่แล้วมาเห็นปิดปากเงียบ แล้วจู่ๆ จะมาฟื้นฝอยหาตะเข็บเพื่ออะไรอีก
คนเราต่อให้ฉลาดแค่ไหน แก่ตัวก็ต้องมีเลอะเลือนบ้าง เจ้าเองก็หัดมีหัวคิดหน่อย
อย่าเอาแต่ทำตามคำสั่งเขาตะพืดตะพือ เห็นอะไรผิดก็เตือนเขาซะบ้าง
เพื่อไม่ให้เสียคนตอนแก่ มันจะไม่คุ้ม ไม่งั้นอีกหน่อยจะไม่ได้ตายอย่างสงบ เฮ่อๆๆ
ข้าว่าเจ้าน่ะ น่าจะกินยาที่ข้าเอามามอบให้ใต้เท้าโนซักชุดเหมือนกันนะนี่ เฮ่อๆๆ
ยานั่นอาจจะขม แต่ทำให้คนหายโง่ได้ เฮ่อๆๆ ชีวิตคนเรานี้หนอ
ช่างเหมือนความฝันซะนี่กระไร" มหาดเล็กคนหนึ่งมาบอกเพื่อนมหาดเล็กว่า "ตอนนี้ข้างนอกมีประกาศไปทั่ว
ให้หัวหน้าแต่ละฝ่ายชี้แจงเรื่องการรับสินบน แถมยังบอกว่า
ใครรู้ตัวก็รีบลาออกไปซะ" "ถ้าเราไม่ทำอะไรซักอย่าง
ไม่นานจะมีคนสนับสนุนมากขึ้น ถึงตอนนั้นมิแย่หรอกหรือ" "นั่นน่ะซี้
ใครเป็นคนบงการเรื่องนี้ เราต้องสืบให้รู้
และจับมาลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง" ชองฮันซูบอกว่า
"ข้าจะสืบว่าใครเป็นต้นคิดและลงโทษให้หนัก
พวกท่านไม่ต้องห่วงหรอกครับ" "แน่นอน
ต้องทำอย่างงั้นอยู่แล้ว" หนุ่มคนหนึ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
"เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ มีมหาดเล็กผู้น้อยหลายคน
มาเรียกร้องให้หัวหน้าทุกแผนกลาออก" "อะไรนะ" คิมชูซอนนำทุกคนมาร้องบอกว่า
"หัวหน้าแต่ละแผนกที่ทำให้กรมมหาดเล็กของเรามีมลทิน
ขอให้ลาออกไปซะ" ทุกคนว่าตาม
"ขอให้หัวหน้าทุกคนลาออกไปซะๆๆๆ" ชองฮันซูจ้องคิมชูซอน "คิมชูซอน
ทำแบบนี้หมายความว่าไง ช่วยบอกหน่อยซิ" "เราสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนระบบใหม่
จึงอยากให้หัวหน้าทุกคนที่มีส่วนพัวพันกับการทุจริตลาออกจากตำแหน่งชั่วคราว
เพื่อรอการไต่สวน" ชองฮันซูอึ้ง "อะไรนะ"

จบเรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์คิมชูซอน ตอนที่ 26

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn

Related Posts



4 comments:

Anonymous said...

สนุกจังเลยค่ะ ขอบคุณคุณlilyมากๆ

Anonymous said...

ขอบคุณมากนะครับ

bluewoft_013 on 7/24/2008 said...

สนุกมากค่ะ ขอให้ลงครบทุกตอนนะค่ะจะติดตามคะ ขอบคุณคะ

Anonymous said...

ทำไมหลายวันแล้วไม่มีอัพเดตใหม่เลย รออ่านเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal