Saturday, July 19, 2008

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ - คิมชูซอน (23) ถึง (24)

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์คิมชูซอน ตอนที่ 23

พระเจ้าซองจงทรงมีพระราชดำริที่จะสถาปนายุนโซฮวาซึ่งได้ให้ประสูติการองค์ชายขึ้นเป็นพระมเหสี พระอัยยิกาจองฮีและพระพันปียินซูทรงคัดค้านโดยเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง ไม่ใช่ว่าโปรดปรานยุนโซฮวาก็ทรงสถาปนานางเป็นพระมเหสี พระเจ้าซองจงทรงยืนยันตามความคิดของพระองค์ว่าจะสถาปนายุนโซฮวาเป็นพระมเหสีให้ได้
"ฝ่าบาท การจะเลือกมเหสีนั้น เป็นเรื่องใหญ่เปรียบเสมือนมารดาของผู้คนทั้งหล้าเชียวนะ ไม่ควรดูแค่ว่าเจ้าโปรดปรานยุนโซฮวามากกว่าคนอื่น ตำแหน่งนี้ก็ต้องเป็นของนางเสมอไป"
"เสด็จแม่เจ้าพูดมีเหตุผล และยิ่งไม่ควรมองข้ามความเห็นชอบของเหล่าขุนนาง ดึงดันจะเลือกคนที่เจ้าชอบเพียงคนเดียว"
"หม่อมฉัน ไม่ใช่เพราะรักนางเป็นพิเศษ จึงอยากให้เป็นมเหสีหรอกนะพ่ะย่ะค่ะ การที่ทุกวันนี้หม่อมฉันไม่เป็นที่นับถือของใคร นั่นก็เพราะว่าหม่อมฉันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของอดีตพระราชา"
พระอัยยิกาจองฮีทรงตกพระทัย "หา ฝ่าบาท ทำไมพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ล่ะ"
"การที่พระราชาจะปกครองบ้านเมืองได้นั้น ก่อนอื่นต้องมีความชอบธรรมในการสืบราชสมบัติเป็นอันดับแรก หม่อมฉัน จึงอยากให้องค์ชายน้อยเป็นผู้สืบต่อ ซึ่งหากเป็นอย่างงั้นจริง ก็ต้องให้พระมารดาขององค์ชายน้อย ดำรงตำแหน่งพระมเหสีอย่างถูกต้อง เพื่อเห็นแก่บ้านเมืองของเรา นี่เป็นสิ่งที่หม่อมฉันไตร่ตรองอย่างดีแล้ว เพราะฉะนั้น จึงอยากให้เสด็จย่า ทรงเข้าพระทัยความหมายของหม่อมฉันด้วย"
คิมชูซอนบอกยุนโซฮวาว่าพระเจ้าซองจงทรงมีพระราชดำริสถาปนาหยิ่นจ้าวเป็นพระมเหสี
ชองฮันซูถามคิมชูซอนว่าจงใจขัดคำสั่ง ต้องการเป็นแกะดำเช่นนั้นหรือ คิมชูซอนตอบโต้กลับไปว่าตนรู้หน้าที่ตนเป็นอย่างดี

ที่บ้านไต้เท้าโน ไต้เท้าซังตังบอกไต้เท้าโนว่าพระเจ้าซองจงทรงมีพระราชดำริที่จะสถาปนายุนโซฮวาเป็นพระมเหสี ถ้าหากสนมออมไม่ได้รับการสถาปนาเป็นพระมเหสี อย่าหวังว่าจะมีความสงบสุขเลย
โชชิคยอมไปหาวิธีแก้กับแชซังกุงเรื่องพระมเหสี แต่แชซังกุงกับเตือนเขาไม่เป็นปรปักษ์กับไต้เท้าโน เพราะถ้าเป็นศัตรูกับไต้เท้าโนก็เท่ากับพ่อลูกห้ำหั่นกันเอง ซึ่งเป็นเรื่องน่าอนาถและอาจถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ด้วย
ชองฮันซูและปาร์กต๊อกโฮพากันวางแผนเพื่อให้พี่ชายของยุนโซฮวามีความผิดฐานรับสินบน วังหลวงถูกปกคลุมด้วยเมฆดำ
พระอัยยิกาจองฮีกับพระพันปียินซูทรงตรัสกับพระเจ้าซองจงอีกครั้งว่า
"ฝ่าบาท นี่คือรายละเอียดสิ่งของที่พี่ชายของสนมโซฮวารับไว้ เรื่องนี้ถ้ารู้ไปถึงเหล่าขุนนางเมื่อไหร่ เกียรติของราชสำนักต้องป่นปี้แน่ เพราะฉะนั้น ต่อไปอย่าคิดเสนอให้นางเป็นมเหสีอีกเลยนะ"
"แม่ก็เห็นด้วยกับรับสั่งของเสด็จย่า เพียงเพราะมีลูกชายให้เจ้า ญาติพี่น้องก็กำเริบเสิบสานถึงขนาดนี้ อีกหน่อยถ้าสนมโซฮวาได้เป็นพระมเหสีจริง มิก่อเรื่องร้ายแรงกว่านี้ ให้เราปวดหัวไม่รู้จบหรอกหรือ คราวนี้โชคดีที่ว่า ให้มหาดเล็กตรวจการณ์จับได้ซะก่อน ไม่งั้นถ้าให้กรมอาญาไปพบเข้าละก้อ แม้แต่ชื่อเสียงของเจ้าก็จะพลอยเสียหายด้วย"
"วิธีที่จะแก้ปัญหานี้ ก็คือก่อนที่เหล่าขุนนางจะไม่พอใจ เรารีบแต่งตั้งสนมอีกสองคน ให้เป็นมเหสีองค์ใหม่ ทีนี้คนก็จะไม่กล้าพูดอะไรอีก"
"เฮ่อ หม่อมฉัน จะทำตามความเห็นชอบของเสด็จย่ากับเสด็จแม่ หลังจากทบทวนดีแล้ว ค่อยตัดสินใจเลือกอีกทีได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ"
"ดีมาก เราเชื่อว่าเจ้าน่าจะเลือกคนที่เหมาะสมได้ ไม่เป็นไรหรอก"
000000000000
หลังจากที่โชชิคยอมคิดใคร่ครวญเป็นอย่างดีแล้ว โชชิคยอมก็เข้าเฝ้าพระเจ้าซองจงโดยทูลถึงความสำคัญของการสถาปนาพระมเหสี ขอให้พระเจ้าซองจง ทรงไตร่ตรองอีกครั้ง พระเจ้าซองจง กลับทรงยืนยันตามความคิดของพระองค์
"แต่ข้าไม่อยากเอาตำแหน่งมเหสี มาเป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง ข้ารู้ว่าท่านมีความจงรักภักดี การที่มีคนใกล้ชิดอย่างท่าน มาเตือนสติข้าโดยไม่ห่วงชีวิตตัวเองนั้น ข้ารู้สึกอุ่นใจนัก รอให้ฟ้าสางเมื่อไหร่ ข้าจะไปพบเหล่าขุนนางที่ท้องพระโรง เพื่อแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าข้าจะตัดสินใจยังไงก็ตาม ข้าเชื่อว่าท่าน จนถึงสุดท้ายแล้ว ก็จะเห็นด้วยกับข้าใช่ไหม"
"หม่อมฉันเชื่อใจฝ่าบาทเสมอ และหวังว่าพระองค์ก็เช่นกัน หม่อมฉันขอทูลลา"
คิมชูซอนเข้าพบโชชิคยอม และบอกโชชิคยอมว่า
"ท่านพ่อ ทำไมต้องคัดค้าน พระประสงค์ของฝ่าบาทด้วยครับ"
"อะไรนะ"
"ท่านพ่อเคยบอกว่า มหาดเล็ก เปรียบเหมือนเงาของพระราชา เงาที่ได้แต่เดินตามหลังนาย ห้ามล้ำหน้าผู้เป็นนายอย่างเด็ดขาด แล้วเพราะอะไร ท่านจึงคิดโน้มน้าว การตัดสินใจของนายล่ะครับ"
"ใช่ เจ้าพูดถูกแล้ว แต่หน้าที่อีกอย่างคือต้องคอยเตือนให้นายหลีกเลี่ยง ถ้าเห็นว่าข้างหน้ามีเหวลึก แต่ชักนำให้เดินทางที่ราบรื่นกว่า เจ้าคิดว่าอย่างงั้นหรือเปล่า"
"หมายความว่าถ้าให้สนมซุกยอนขึ้นเป็นพระมเหสี คือเส้นทางที่ถูกต้อง ฝ่าบาทควรเดินงั้นหรือครับ"
"ใช่แล้ว ถ้าฝ่าบาทยังทรงอยู่ตามลำพังอย่างทุกวันนี้ ไม่นานต้องถูกโค่นอำนาจแน่ เพราะยังมีโอรสของอดีตพระราชาคือองค์ชาย "แจอัน" รวมถึงฝ่าบาทก็ยังมีเชษฐาอีกองค์หนึ่งอยู่ ถ้าอีกหน่อยมีขุนนางบางคนคิดแปรพักตร์ ใครจะรับรองได้ว่า มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า"
"แต่ฝ่าบาทไม่ใช่เด็กสามขวบที่ไร้เดียงสา หากแต่เป็นพระราชามาหลายปีแล้ว ข้าเชื่อว่าต่อให้พระองค์เหยียบถูกโคลนตมบ้าง ก็ไม่ควรชี้นำให้ไปทางอื่น หากแต่เราต้องทอดกายลงไปในตมนั้น เพื่อให้ฝ่าบาททรงเหยียบข้ามไป นี่คือหน้าที่ของมหาดเล็กต่างหาก ข้าไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องการเมือง แต่ว่า เมื่อฝ่าบาททรงมีความคิดของพระองค์เอง เราก็ไม่ควรไปคัดค้านให้มากนักจริงหรือเปล่าครับ"
"หึ ชูซอน ความคิดเจ้าไม่ตรงกับข้าหลายอย่าง แต่ยังไงวันหลัง เจ้าจะได้สืบต่อตำแหน่งของข้า แล้วถึงตอนนั้น เจ้าค่อยทำตามความคิดตัวเองละกัน แต่ก่อนหน้านั้น เจ้ายังต้องเชื่อฟังคำสั่งพ่อ ไม่ใช่ ต้องเชื่อฟังคำสั่งเจ้ากรมมหาดเล็ก เข้าใจหรือเปล่า"
"ท่านพ่อครับ"
"ไม่ว่าพรุ่งนี้เช้าฝ่าบาท จะทรงตัดสินยังไงกลางที่ประชุมก็ตาม ข้า ก็พร้อมจะรับฟัง และไม่คัดค้านอีก"
ที่ท้องพระโรง พระเจ้าซองจงทรงตำหนิความคิดของไต้เท้าซังตังและพวก
"ใต้เท้าซังตัง ถ้าหากว่าข้า ไม่ต้องการให้สนมออมขึ้นเป็นพระมเหสี พวกท่านจะหาหนทางถอดถอนข้าหรือเปล่า"
"ฝ่าบาท กระหม่อมไหนเลยจะกล้าถึงขนาดนั้น"
"เจ้ากรมกลาโหม ท่านต้องการมีอำนาจมากกว่าทุกวันนี้ เพื่อจะควบคุมราชสำนักให้อยู่ในกำมือหรือเปล่า"
"ฝ่าบาท เป็นไปไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่เคยคิดอย่างงั้นเลย"
"งั้นเพราะอะไร เพียงแค่การสรรหามเหสีคนใหม่ ทำให้ท่านทั้งหลายต้องมาออกความเห็นต่างๆ นานา"
ใต้เท้าซังตังตอบว่า "นั่นเพราะสนมโซฮวาเคยมีบิดาที่ต้องโทษก่อกบฎ ที่สำคัญ อดีตยังเคยถูกถอนหมั้นด้วยพ่ะย่ะค่ะ"
"ความผิดของใต้เท้ายุนถูกลบล้างไปแล้ว ส่วนที่สนมโซฮวาเคยถูกถอนหมั้น ก็ไม่ใช่ความผิดของนางแม้แต่น้อย แล้วจะถือเป็นมลทินได้ยังไง"
"แต่ว่า การที่พี่ชายของพระสนมทำความผิดล่ะพ่ะย่ะค่ะ พี่ชายของพระสนมคือยุนคีฮอม เห็นว่าน้องสาวได้ดี จึงถือโอกาสหาประโยชน์ใส่ตัว เท่ากับมีความผิดฐานลบหลู่เบื้องสูงชัดๆ"
"แต่ถ้าข้าแต่งตั้งลูกของพวกท่านเป็นมเหสีบ้าง ก็จะมีคนเอาของกำนัลมากมายไปส่งถึงบ้านเหมือนกัน ถึงตอนนั้น จะมีใครกล้าพูดมั้ยว่านั่นคือการรับสินบนหรือเปล่า ข้า คือพระราชาแห่งโชซอน พระราชาแห่งโชซอน จะมีคำสั่ง ณ. บัดนี้ ข้าจะขอแต่งตั้ง สนมยุนโซฮวา ธิดาไต้เท้ายุนจองวานเป็นมเหสีคนใหม่ ต่อไปพวกท่านต้องให้ความเคารพแก่ข้า รวมถึงพระมเหสีด้วย"
คิมชูซอนไปบอกยุนโซฮวาว่านางจะได้ขึ้นเป็นพระมเหสี ยุนโซฮวาจะไปเฝ้าพระเจ้าซองจง แต่คิมชูซอนห้ามไว้และบอกว่า
"พระสนม นี่เป็นนัยยะสำคัญ อันแสดงถึงฝ่าบาท จะได้ว่าราชการด้วยพระองค์เองหรือไม่ หากว่าพระสนม ทรงมีความหวังดีต่อฝ่าบาทจริง ก็ขอให้ช่วยพระองค์อีกแรงหนึ่ง หรือจะถือว่าเห็นแก่พระโอรส ก็ขอให้ทรงฟัง พระดำริของฝ่าบาทเถอะ"
พระเจ้าซองจงเข้าไปกราบขอโทษพระอัยยิกาจองฮีที่ไม่อาจทำตามพระประสงค์ของเสด็จย่าได้ พระอัยยิกาจองฮีไม่ทรงว่าอะไรแต่เตือนให้พระเจ้าซองจงนึกถึงพระพันปียินซูที่จะยิ่งเสียใจ
พระเจ้าซองจงจึงเสด็จไปเฝ้าพระพันปียินซู แต่พระพันปียินซูให้ซังกุงออกมาบอกว่าพระนางไม่สบายและไม่อยากพบใคร พระเจ้าซองจงเสด็จกลับไปแล้ว พระพันปียินซูยังทรงคิดหาทางขัดขวาง
ขณะเดียวกันใต้เท้าโนก็ปรึกษากับชองฮันซูและซอยองว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี เพราะถ้าเป็นอย่างนี้เขาต้องถูกใต้เท้าซังตังต่อว่าแน่ ซอยองบอกว่า
"เพื่อเห็นแก่อนาคตของบ้านเรา ข้าเห็นว่า คงต้องกำจัดไต้เท้าโช ออกจากตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็กซะก่อนดีมั้ยคะ"
ทำเอาใต้เท้าโนถึงกับอึ้งไปทีเดียว
พระเจ้าซองจงตรัสปรึกษากับโอซังกุงว่าจะทำอย่างไรดี เพราะพระพันปียินซูทรงโกรธอยู่ โอซังกุงแนะนำว่า
"โลกนี้ไม่มีอะไรที่จะผูกพันแน่นแฟ้นยิ่งกว่าความเป็นแม่ลูกอีก ดีชั่วยังไงก็เป็นลูกที่อุ้มท้องมาไม่ต่ำกว่าสิบเดือน เลี้ยงดูอุ้มชูยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจซะอีก โลกนี้จะไม่มีแม่คนไหน โกรธลูกได้ข้ามวันหรอกเพคะ ฝ่าบาท ทรงไปแสดงความจริงใจให้พระพันปีเห็นเถอะ หม่อมฉันเชื่อว่า พระนางคงเข้าพระทัย ความรู้สึกที่แท้จริงของฝ่าบาทได้"
พระเจ้าซองจงเสด็จไปหาพระพันปียินซูอีกครั้ง
"เสด็จแม่ หม่อมฉันนะพ่ะย่ะค่ะ"
"ฝ่าบาท ตอนนี้ข้ายังไม่อยากเห็นหน้าเจ้าและไม่มีอะไรจะพูดด้วย บอกให้กลับไปก่อน"
"หม่อมฉัน มีเรื่องสำคัญจะมาทูลเสด็จแม่จริงๆ"
"ฝ่าบาท เจ้ากำลังเสียมรรยาทรู้หรือเปล่า"
"เสด็จแม่ หม่อมฉัน อยากให้ยุนโซฮวาเป็นพระมเหสี ขอทรงอนุญาตด้วยเถอะ"
"เจ้าอยากทำอะไรก็ทำตามใจชอบไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ จะมาเสียเวลา ให้ข้าอนุญาตทำไมอีกล่ะ"
"เสด็จแม่ หม่อมฉันนอกจากจะเป็นพระราชาแล้ว ยังเป็นโอรสของเสด็จแม่ด้วย จำได้ตั้งแต่เด็ก เสด็จแม่ทรงอบรมหม่อมฉันมาอย่างเข้มงวด หลังจากครองราชย์แล้ว เสด็จแม่ก็ยกย่องหม่อมฉันเป็นพระราชา ทั้งที่หม่อมฉันก็รู้จักโหยหาอ้อมกอดของเสด็จแม่ อยากจะออดอ้อนเหมือนเด็กคนอื่น บางครั้งก็อยากงอแงกับแม่บ้าง แต่ว่าเสด็จแม่ของหม่อมฉัน ไม่เคยให้ความอบอุ่นแก่ลูกเลย นี่เป็นครั้งแรก ที่หม่อมฉันอยากจะขอวิงวอนเสด็จแม่ ทรงให้หม่อมฉันแต่งตั้งโซฮวาเป็นมเหสีเถอะพ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่ทรงอนุญาตด้วย"
"ฝ่าบาท" พระพันปียินซูทรงอึ้งไป
"เสด็จแม่ ฮือ" พระเจ้าซองจงโผเข้ากอดพระมารดา
ที่ท้องพระโรง พระเจ้าซองจงทรงทรงสถาปนายุนโซฮวาเป็น พระมเหสี
"ข้า ขอใช้ธรรมเนียมแห่งราชสำนัก ประกาศสถาปนา ให้ธิดายุนจองวานนามว่ายุนโซฮวา เป็นมเหสีคนใหม่ นับแต่โบราณ พระราชาที่จะปกครองบ้านเมืองได้ดีนั้น ต้องมีมเหสีคอยเกื้อหนุน จึงจะนำไปสู่ความรุ่งเรืองได้ วันนี้จึงขอประกาศ ให้รับรู้โดยทั่วกัน ข้าและมเหสีโซฮวา จะยึดมั่นในทศพิธราชธรรม สร้างประโยชน์สุขให้แก่บ้านเมือง และขอให้ขุนนางใหญ่น้อยทั้งหลาย ให้เกียรติพระมเหสีองค์ใหม่นี้ด้วย"
"พระมเหสี ทรงพระเจริญ คู่บุญ คู่บารมี คู่บัลลังก์ตลอดไปด้วยเถอะ" เหล่าขุนนางกล่าวพร้อมกัน
พระอัยยิกาจองฮีทรงตรัสกับยุนโซฮวาว่า
"ตำแหน่งมเหสีนั้น หมายถึงแม่ของแผ่นดินนี้ด้วย จึงต้องใช้ความรักและความเมตตา ปกครองฝ่ายในให้ร่มเย็น รวมถึงราษฎรทั่วหล้าด้วยล่ะ"
"รับสั่งของพระอัยยิกา หม่อมฉันจะจดจำไว้เพคะ"
พระพันปียินซูตรัสว่า "ขอให้เจ้ามีน้ำใจ เปิดใจให้กว้าง อีกทั้งมีลูกมีหลานให้ราชวงศ์ของเราอย่างพรั่งพร้อม เป็นคนอ่อนโยนแต่หนักแน่น รู้จักยึดหลักเป็นธรรม เพื่อเป็นเสาหลักให้แก่ราชสำนักต่อไปเถอะนะ"
"รับสั่งของพระพันปี หม่อมฉัน จะจำใส่ใจไว้เพคะ"
จบเรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์คิมชูซอน ตอนที่ 23

คิมชูซอนเรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน ตอนที่ 24
งานเลี้ยงอันหรูหราใหญ่โตถูกจัดขึ้นในวังหลวง โอซังกุงมอบน้ำแกงโสมให้ยุนโซฮวา คิมชูซอนเห็นเช่นนั้นจึงขัดขวางไม่ให้ยุนโซฮวาดื่มน้ำแกงเข้าไป
ยุนโซฮวาซึ่งดื่มน้ำแกงเข้าไปแล้วนั้นแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อโชชิคยอมรู้เรื่องนี้ก็ถามคิมชูซอนว่าเหตุใดจึงทำเช่นนี้ คิมชูซอนบอกโชชิคยอมว่าชองฮันซูเคยบอกตนว่าในอาหารมียาพิษ
เมื่อยุนโซฮวากลับห้องพักแล้วก็หมดสติไป หลังจากที่ยางซองยุนตรวจดูอาการแล้วก็วินิจฉัยว่ายุนโซฮวาได้รับพิษชนิดเดียวกันกับครั้งที่แล้ว คิมชูซอนปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือชองฮันซูอย่างแน่นอน
คิมชูซอนอาสาไปจับกุมตัวชองฮันซูมาไต่สวน แต่กลับถูกโชชิคยอมขัดขวาง
"อย่าทำอะไรวู่วามอย่างงั้น ไม่มีหลักฐานเอาแต่คาดคั้น จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น"
ยางซองยุนเห็นด้วย "แน่นอน ถ้าให้ใครรู้ว่ามีการวางยาพระมเหสีในพิธีสถาปนาละก้อ ทั้งราชสำนักมีหวังแตกตื่นกันยกใหญ่ หรือไม่ คนที่วางแผนอาจต้องการเห็นแบบนี้ก็ได้"
"ไม่อย่างงั้น เราจะปล่อยให้พระมเหสีตกอยู่ในห้วงอันตราย โดยไม่ทำอะไรบ้างหรือครับ"
พระเจ้าซองจงทรงมีรับสั่งกับยุนโซฮวาว่าทำให้พระองค์มีความกล้าที่จะปกครองบ้านเมือง ยุนโซฮวาจะต้องเป็นพระมเหสีที่แข็งแรงเช่นกัน
"น้องหญิง เจ้าต้องรีบหายไวๆ ล่ะ ถ้าข้าสามารถแบ่งปันความเจ็บปวดของเจ้าได้ คงจะดีไม่น้อย"
"หม่อมฉันทำให้ฝ่าบาททรงเป็นห่วง ต้องขออภัยเพคะ"
"แต่ไหนแต่ไร เจ้าหวังให้ข้าเป็นพระราชา ที่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง จึงให้กำลังใจมาตลอด ข้าเองก็ไม่อยากให้เจ้าผิดหวัง จึงตั้งใจทำงานมาตลอด แต่เจ้าก็ต้องรักษาตัวให้แข็งแรง เพื่อเป็นพระมเหสีที่ดี ให้ผู้คนยกย่องเหมือนกัน"
"หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ หึ"
หลังจากที่โชชิคยอมกลัดกลุ้มใจสักพักหนึ่งแล้วก็ตัดสินใจไปหาใต้เท้าโน โชชิคยอมวิงวอนขอร้องใต้เท้าโนช่วยยับยั้งชองฮันซูอย่าได้ก่อเรื่องก่อราวในวังหลวงอีกต่อไป แต่ใต้เท้าโนกลับตำหนิโชชิคยอมที่ไม่สนับสนุนสนมออม ถ้าหากในเวลานี้โชชิคยอมสละตำแหน่งก็เท่ากับว่าโชชิคยอมสนับสนุนให้ยุนโซฮวาเป็นพระมเหสี
"ท่านพ่อ โปรดเห็นแก่ข้า ถือว่าข้าขอร้องเถอะนะ"
"ก็ได้ ถ้างั้น เจ้าลาออกจากตำแหน่งเจ้ากรมมหาดเล็กละกัน แล้วข้าจะรับปาก ตามที่เจ้าขอร้อง ก่อนที่จะให้ฮันซูรับตำแหน่งแทน ข้ากะว่า จะให้มหาดเล็กชางทำงานแทนชั่วคราวไปก่อนดีมั้ยล่ะ หรือเจ้าเห็นว่าไง ทำตามที่ข้าขอได้หรือเปล่า"
"ข้าทำอย่างงั้นไม่ได้"
"อะไรนะ หมายความว่าเจ้า จะเป็นศัตรูกับข้าให้ได้ใช่ไหม"
"สมัยก่อน เพื่อรักษากรมมหาดเล็กไว้ ข้าเคยสังหารเพื่อนสนิทคนหนึ่งด้วยมือข้าเอง และเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของมหาดเล็กก็ถึงขนาดยอมให้เปลี่ยนแผ่นดินใหม่ จนวันนี้ย่อมไม่อาจปล่อยให้ กรมมหาดเล็กที่อยู่มายาวนาน กลายเป็นเครื่องมือสำหรับคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ"
"เลิกเพ้อเจ้อซะทีเถอะ นี่แสดงว่าเจ้า จะเนรคุณ ยอมตัดพ่อตัดลูกกับข้าใช่หรือเปล่า"
"สมัยก่อน ข้าเคยทำให้แผ่นดินเปลี่ยนใหม่ ถ้าวันนี้จะเปลี่ยนตระกูลใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าท่านพ่อคิดว่าจะตัดขาดกับข้าจริง ข้าก็ขอ แยกตัวไปจากวงศ์ตระกูลเหมือนกัน"
"อะไรนะ เจ้าชิคยอม เจ้าพูดอะไรออกมา"
"ทุกอย่างนี้เพราะท่านรนหาที่เอง ข้าในฐานะเจ้ากรมมหาดเล็ก ยังไงก็จะไม่ให้ใคร มาท้าทายศักดิ์ศรีของเรา หรือคิดจะกดขี่เราได้ คำพูดของข้า อยากให้ท่านพ่อจำไว้ด้วย" โชชิคยอมไป
"หนอย มันช่างกล้า หึ เนรคุณข้า ฮึ่ม ก็เอาซี่ ข้าจะคอยดู น้ำหน้าไอ้คนที่ทรยศพ่อตัวเอง มันจะมีจุดจบ ยังไงบ้าง ข้าจะคอยดู" ใต้เท้าโนหอบ
ภายในตำหนักหลวง ยุนโซฮวาบอกยอนฮูหยินว่าข้าวต้มที่นางนำมาให้มีพิษ เมื่อยอนฮูหยินได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจมาก ยุนโซฮวากล่าวต่อไปว่ามีคนปองร้ายองค์ชาย
"สิ่งที่ข้าพูด ไม่ได้สงสัยเจ้า เพราะข้าเชื่อเจ้า ถึงได้กล้าพูดตรงๆ และยาพิษนั่น ไม่ได้มาทำร้ายข้า แต่จะทำร้ายองค์ชายน้อยต่างหาก ข้าไม่ได้พูดในฐานะเป็นแม่คนหนึ่ง แต่เพราะเห็นแก่รัชทายาทในอนาคตถึงได้พูดกับเจ้าแบบนี้ ถ้าในโจ๊กนั่นมียาพิษจริง แสดงว่า คนที่เข้าออกตำหนักเจ้ามีปัญหา อยากให้เจ้าช่วยสืบให้หน่อยได้ไหม"
โชชิคยอมนำข้อมูลการรับสินบนของใต้เท้าซังตังและการซื้อขายตำแหน่งขุนนางมาถวายพระเจ้าซองจง ทรงตรัสว่า
"เฮ่อ ขุนนางที่สร้างภาพว่าใจซื่อมือสะอาด ลับหลังมีแต่ฉ้อราษฎร์บังหลวงเลวทรามทั้งนั้น แล้วจะไม่ให้ราษฎรถูกกดขี่ได้ยังไง ข้าแทบอยากปลดใต้เท้าซังตังซะเดี๋ยวนี้ และยึดทรัพย์เข้าหลวงให้หมดจะได้เป็นแบบอย่าง"
"ฝ่าบาท ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาพ่ะย่ะค่ะ"
"ไม่ถึงเวลาหรือ"
"ถ้าฝ่าบาทลงอาญาใต้เท้าซังตัง เหล่าขุนนางต้องลุกฮือขึ้นมาต่อต้านแน่ ถึงตอนนั้น ราชสำนักกับขุนนางก็จะกลายเป็นศัตรู ทำให้ราชกิจต่างๆ พลอยเสียหายหมด"
"ถ้าอย่างงั้น ข้าจะทำไงดีล่ะ"
"การจะเปลี่ยนแปลงระบบเก่านั้น ไม่อาจทำได้ในชั่วข้ามคืน ก่อนอื่น ต้องใช้คนที่มีความภักดีต่อฝ่าบาทด้วยความจริงใจ เราจะหว่านเมล็ดพันธุ์ใหม่ในราชสำนัก รอให้พวกเขางอกงามขึ้น ถึงตอนนั้น ก็จะช่วยกันหักโค่น ไม้เก่าอย่างใต้เท้าซังตังให้ล้มลง"
"เฮ่อ ข้าจะทำตามข้อเสนอของท่าน แต่ท่านก็ต้องปกป้องบัลลังก์ของข้า อย่าให้ใครมาแตะต้องได้ล่ะ"
ขณะที่แชซังกุงกำลังจะจากไป วอฮาไม่ยอมรับช่วงต่อ แชซังกุงจึงให้ผู้ช่วยดูแลต่อไปก่อน แชซังกุงกำชับคิมชูซอนว่า
"เสื้อที่เปื้อนเลือดของแม่ อย่าไปให้ลูกชายดูเด็ดขาด"
"นายหญิง หมายความว่าไงหรือครับ"
"ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่าเอาเสื้อที่เปื้อนเลือดของแม่ ไปให้ลูกชายเห็นเป็นอันขาด เรื่องอื่นไม่ต้องถามมาก แค่รับปากข้าข้อนี้ได้ไหม"
"ได้ครับ ข้าขอรับปากท่าน"
"ดีมาก ถ้าอย่างงั้นราชสำนักก็จะแคล้วคลาดจากปัญหาวุ่นวายทั้งปวง ที่สำคัญจงจำไว้ เพื่อฝ่าบาทและราชสำนัก พวกเจ้านอกจากทำหน้าที่อย่างดีแล้ว ยังพร้อมจะพลีชีพเพื่อเบื้องบนด้วยล่ะ"
"เราจะจำไว้ครับ"
แชซังกุงพบกับชองฮันซู นางบอกเขาว่า
"ทุกวันนี้ เจ้ายังไม่ละทิ้งความแค้น ความอาฆาตที่มีต่อคนรอบข้างอีกใช่ไหม"
ชองฮันซูอึ้งเงียบไป แชซังกุงกล่าวต่อว่า "การทำให้ครอบครัวหมดสิ้นทายาทนั้น เป็นการตัดสินใจของเจ้าเอง ถ้าสามารถตัดใจเลิกโทษคนอื่น ยุติความมักใหญ่ใฝ่สูงและทะเยอทะยาน อีกหน่อยเจ้าจะเป็นเจ้ากรมมหาดเล็กที่หลายคนยกย่องด้วยซ้ำ แต่ถ้าไม่อาจห้ามใจตัวเองได้ อีกหน่อย ชีวิตเจ้าจะเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตกนรกซะอีก"
"แต่ว่า เพราะข้าต้องการหนีพ้นจากนรก ถึงได้ยอมทิ้งครอบครัวและมาเป็นขันทีแทนต่างหาก ทุกวันนี้ยังมีอะไรต้องกลัวอีกล่ะครับ"
"ฮันซู"
"เอานี่เป็นค่าเดินทางเถอะ หมดเรื่องแล้ว ข้าขอตัวกลับไปก่อน" ชองฮันซูเดินจากไป แชซังกุงได้แต่มองตาม
แชซังกุงเรียกวอฮามาพบกลางดึก และมอบจดหมายให้นาง
"อีก 6 ปีข้างหน้า เดือน 8 ปี ยิมยอง เอาจดหมายฉบับนี้มอบให้ชูซอนด้วย"
"อะไรนะคะ"
"สวรรค์ให้เขาเกิดมา มี 3 อย่าง เสีย 3 อย่าง นั่นอาจเพราะว่า ต้องการให้ชูซอนมีหน้าที่บางอย่าง ช่วยให้บ้านเมืองของเราไม่เข้าสู่ภาวะวิกฤติมากนัก วอฮา เจ้าจงอย่าลืม ต้องมอบจดหมายให้เขาอ่านด้วยล่ะ"
"ข้าจะไม่ลืมล่ะ"
"งั้นข้าก็จะได้หมดห่วง ไปจากเมืองหลวงได้แล้ว หึ"
และวันที่แชซังกุงจะออกเดินทาง โชชิคยอมก็นำพวกมหาดเล็กทั้งหลายมาส่งด้วยความเคารพรักเสมือนแม่คนหนึ่ง
ยอนฮูหยินสืบจนรู้ว่าฮุงบีคือคนที่ใส่ยาพิษ แต่นางจะมาจับตัวฮุงบีสนมออมก็ช่วยไว้ พระมเหสียุนโซฮวาจึงรับสั่งให้โอซังกุงไปจัดการพาตัวฮุงบีมาพบจนได้
"ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องกลัวข้าหรอก ขอเพียงตอบตามความจริงก็พอ"
"เชิญรับสั่งถามมาได้เพคะ"
"สมัยที่เจ้าเป็นนางในห้องผลไม้ เคยไปเข้าออกตำหนักสนมซุกยอน เป็นความจริงหรือเปล่า"
"จริงเพคะ หม่อมฉันไปส่งผลไม้ที่ตำหนัก ก็เลย เคยไปอยู่หลายครั้ง"
"ถ้าอย่างงั้น สมัยที่ข้าเป็นสนมอยู่ล่ะ เจ้าไปเข้าออกที่ตำหนักทำไม"
"หา อะไรนะ นั่น นั่นเพราะ หม่อมฉัน เดินหลงทางเพคะ"
"เจ้ามาอยู่ในวังตั้งแต่ยังเล็ก เข้าออกตำหนักใหญ่น้อยเป็นว่าเล่น ถ้าจะบอกว่าเดินหลงทาง จะฟังขึ้นหรือเปล่า"
ฮุงบีอึ้งไป "เพราะอะไร เจ้าต้องวางยาในโจ๊กลูกสน เพื่อปองร้ายองค์ชายน้อย ใครเป็นคนสั่งให้เจ้าทำ"
"เอ่อ พระมเหสี หม่อมฉันถูกปรักปรำเพคะ ฮือๆๆ"
"ตอนเจ้าเข้าออกตำหนักสนมซุกยอน แหวนของนางจู่ๆ ก็หายไป แล้วพอมาเข้าออกตำหนักของข้า จู่ๆ สวนด้านหลังก็ถูกพบว่ามีตุ๊กตาทำคุณไสย ถูกทิ้งให้เห็นเป็นหลักฐานคาตา เจ้าจะยอมสารภาพดีๆ หรือจะให้ข้าลงโทษก็ว่ามา"
เวลาเดียวกันสนมออมก็ไปร้องห่มร้องไห้กับพระพันปียินซู และบอกให้ไล่นางออกจากวัง และทำทีขอให้พระพันปียินซูช่วยล้างมลทิน
ฮุงบีถูกตีขาให้รับสารภาพ แต่ฮุงบีไม่ยอมสารภาพ พระพันปียินซูก็เสด็จมาก่อน
"ชุงจอน ทำไมต้องลงไม้ลงมือตีนางในด้วยล่ะ"
"พระพันปีเพคะ นี่เป็นเรื่องของตำหนักกลาง ปล่อยให้หม่อมฉันจัดการเถอะเพคะ"
"มีสนมคนหนึ่งของฝ่าบาท มาขอให้ข้าไล่นางออกจากวัง แล้วจะไม่ให้ยุ่งได้ยังไง เรื่องอะไรว่ามาซิ เพราะเรื่องที่องค์ชายน้อยถูกพิษ เจ้าเลยมาคาดคั้นเอากับนางใช่หรือเปล่า"
"ใช่แล้วเพคะ หม่อมฉันคิดว่านางน่าสงสัยที่สุด ก็เลยเรียกตัวมาพบ เพื่อจะสอบถามที่มาที่ไปให้รู้"
"หึ เจ้าออกไปก่อนเถอะ" พระพันปียินซูบอกฮุงบี
"ชุงจอน ที่จริงข้าก็อยากเอาเรื่องคนที่กล้าเหิมเกริมขนาดนี้ยิ่งกว่าเจ้าอีก เพราะเจ้ากินอาหารที่มีพิษ ทำให้ไม่กล้าป้อนนมให้ลูกอยู่นาน เรื่องนี้ข้าก็รู้เหมือนกัน แต่ว่า นี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะลงโทษใคร ลำพังแค่นางในเล็กๆ จะกล้าทำเรื่องปองร้ายถึงองค์ชายน้อยได้ยังไง ต่อให้ตอนนี้รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ราชสำนักกับขุนนาง ก็ต้องเกิดความขัดแย้งขึ้นมาอย่างหนัก ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง ฝ่าบาทที่เพิ่งว่าราชการไม่นาน ก็จะมีอุปสรรคในการทำงานด้วย"
"แต่ว่า องค์ชายน้อยจะมีอันตรายนะเพคะ"
"เจ้าเป็นแม่ก็ย่อมห่วงลูกเป็นธรรมดา ข้าเข้าใจดี ข้าเองก็จะสั่งให้ดูแลชายน้อยมากขึ้น เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ รอให้ฝ่าบาททำงานจนเข้าที่ซะก่อน ถึงตอนนั้น ข้าจะออกหน้าไต่สวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง หากพบใครทำผิด ก็จะลงโทษให้หนัก ฉะนั้นตอนนี้ขอให้เจ้าอดทนไว้ก่อน อย่าเพิ่งทำอะไรเร็วเกินไป วิธีนี้ จะเป็นการดีต่อฝ่าบาทและตัวเจ้าเองเข้าใจมั้ย"
0000000000000000
พระเจ้าซองจงทรงตรัสกับใต้เท้าซังตังกับใต้เท้ายุนโฮว่า
"ที่ข้าให้ท่านทั้งสองมาพบวันนี้ เพื่อจะหารือเกี่ยวกับการโยกย้ายตำแหน่งในบางหน่วยงาน จากที่มีมาแต่ก่อน คือให้ขุนนางเสนอรายชื่อขึ้นมา แล้วข้าจะเป็นคนอนุมัติ แต่ครั้งนี้ ข้าจะเป็นคนเสนอรายชื่อเอง โดยให้ไต้เท้าซังตังกับเจ้ากรมกลาโหม แสดงความคิดเห็น"
"ฝ่าบาท ทำไมต้องทรงใช้วิธีด้วยล่ะพ่ะย่ะค่ะ"
"หึ เพราะทุกวันนี้ มีแต่คนของท่านและเจ้ากรมกลาโหมซะส่วนใหญ่ คนนอกแทบไม่มีเลย ข้าจึงต้องถามความเห็นจากพวกท่านไงล่ะ"
"เราสองคนมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ การโยกย้ายสับเปลี่ยน เป็นสิทธิ์ของพระราชาอยู่แล้ว เราจะกล้าชี้นำพระดำริได้ยังไง"
"แหม ปกติพวกท่านจะเลือกใครก็ต้องดูว่าใครมีผลประโยชน์ให้มากกว่า ถึงข้ามีสิทธิ์ในการเลือก ก็คงขัดไม่ได้อยู่แล้ว"
"ฝ่าบาท ทำไมทรงเชื่อข่าวลือเหลวไหลไร้สาระ คิดว่าเราสองคนทุจริตหรือพ่ะย่ะค่ะ"
"ฝ่าบาท ขอให้ทรงเชื่อความเป็นกลางของเราได้"
"ข้าไม่ได้ตำหนิพวกท่านซักหน่อย หึ นี่คือรายชื่อบุคคลที่ข้าอยากให้มารับราชการ หวังว่าหลังจากหารือกับพวกท่านแล้ว คงจะมีตำแหน่งที่เหมาะสมให้พวกเขา จริงมั้ย"
หลังจากออกมาแล้ว ใต้เท้ายุนโฮก็กล่าวอย่างแปลกใจ
"ทำไมจู่ๆ ฝ่าบาท ทรงเข้าพระทัยเราผิดได้ถึงขนาดนี้น่ะ"
"ใต้เท้ายุนโฮ ท่านพอเดาออกมั้ยว่าใคร เอาเรื่องของเราไปทูลฝ่าบาทน่ะ ข้าว่าต้องเป็นฝีมือโชชิคยอมแน่"
"เจ้ากรมมหาดเล็กมีเหตุผลอะไรถึงต้องทำแบบนี้น่ะ"
"เพื่อจะแทรกแซงอำนาจระหว่างฝ่าบาทกับเหล่าขุนนาง ไปให้ตัวเขาเองได้เสวยสุขบ้างไงล่ะ เห็นว่าหมู่นี้ ของกำนัลที่ส่งให้กรมมหาดเล็กมีมากกว่าเข้าถึงวังหลวงซะอีก ถ้าเรายังปล่อยให้กำเริบเสิบสาน อีกหน่อยอาจจะถูกปลดทั้งสองคน และบ้านเมืองก็จะมีปัญหาตามมา เราสองคน คงต้องร่วมมือกัน ทำให้โชชิคยอม ถูกปลดออกจากตำแหน่งเจ้ากรมให้ได้"
ใต้เท้าโนกับชองฮันซูรวบรวมกำลังคน เพื่อหวังกำจัดโชชิคยอมให้ได้
ยางซองยุนถูกคิมชูซอนมาขวางหน้าก็ถามว่ามาขวางทำไม
"ได้ยินว่าสมัยก่อน อดีตพระราชาสวรรคตเพราะถูกวางยาจริงหรือเปล่าครับ" คิมชูซอนถาม
ยางซองยุนตกใจ "หา อะไรนะ"
"เห็นว่ามีท่านคนเดียวที่รู้ ว่าอดีตพระราชาถูกวางยาพิษจริงหรือเปล่า ที่สำคัญเรื่องนี้มีคนบอกว่าพ่อข้ามีส่วนเกี่ยวพันด้วย ไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือเปล่าครับ"
"ฮึ่ม เจ้าหนุ่ม ถ้าพ่อเจ้าเกี่ยวข้องจริง แล้วเจ้าจะทำยังไง ไปร้องเรียนเขาเพื่อให้ถูกตัดหัวหรือเปล่า"
"ข้า แค่อยากรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่านั้น"
"ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อใจพ่อตัวเองแล้วนี่ ถึงข้าบอกความจริงให้รู้ แล้วจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเจ้าอยากรู้ความจริงนัก ก็ไปถามอดีตพระราชาบนสวรรค์เองละกัน ฮึ่ม" ยางซองยุนตอบ
โชชิคยอมมาพบยางซองยุนเมาก็บ่นๆ ขึ้นว่า
"เฮ่อๆๆ ดูเหมือนเจ้าจะคออ่อนกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยนะนี่ เฮ่อๆๆ"
"ชิคยอม เฮ่ย ข้าไม่ได้เมาเหล้า แต่เมาเรื่องบ่าวคิดจะฆ่านาย พ่อลูกหวาดระแวงกัน แถมจะกลายเป็นศัตรูด้วยซ้ำ คิดแล้วน่ามันอนาถ ชูซอนมาถามข้า เกี่ยวกับการสวรรคตของอดีตพระราชา เฮ่อๆๆ อยากรู้ว่าเจ้าจะพลอยเดือดร้อนด้วยมั้ย อยากรู้ว่าความจริงคืออะไร แต่ทั้งหมดนี้ เพราะเจ้าก่อกรรมทำเข็ญ ในเมื่อสร้างปัญหาขึ้นมา ก็ไปแก้เองแล้วกัน หึ หรือไม่ก็เอาอย่างข้า อยู่กับขวดสุราทั้งวัน ให้มันลืมโลกไปเลย เฮ่อๆๆ เอิ๊ก" โชชิคยอมฟังอย่างอึ้งๆ
ภรรยาของโชชิคยอมรู้เรื่องที่ใต้เท้าโนจะบีบให้โชชิคยอมลาออก นางรีบไปต่อว่าโชชิคยอมและบอกให้ไปขอโทษใต้เท้าโน โชชิคยอมไม่สนใจไล่นางกลับบ้านไป พอดีกับกึมพยอเข้ามาบอกให้เขารีบกลับกรมด่วน
พอไปถึงที่กรมมหาดเล็ก ใต้เท้าโนนำบรรดามหาดเล็กทุกคนมาบีบบังคับให้โชชิคยอมลาออก

จบเรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์คิมชูซอน ตอนที่ 24

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn

Related Posts



2 comments:

Anonymous said...

ขอบคุณพี่ lily มากเลยครับ

ติดตามอ่านทุกวันเลย กว่าจะมาอีกที ก็รอตั้งอาทิตย์นึงเลย

เป็นกำลังใจให้ครับ

^^

Anonymous said...

เป็นกำลังใจให้คุณ Lily นะค่ะ
ตามอ่านเรื่อยๆนะค่ะ
สู้ๆคะ

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal