Wednesday, October 28, 2009

สูตรเสน่หา - เรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ - สูตรเสน่หา ตอนที่ 2

สูตรเสน่หา ตอนที่ 2

http://aoon1986.exteen.com/images/kaneanne/sutsaneha0006.jpg

หลังจากที่อลินประสบความสำเร็จจากการเอาครูกุ๊กมาสอน จนทำซูเฟล่สำเร็จน่ากิน ถือเป็นฝีมืออันดับหนึ่งของอลินโดยแท้...คราวนี้อนุชาชายในฝันของอลินจะต้อง ติดใจในรสชาติซูเฟล่ที่ทำด้วยจิตวิญญาณแห่งความรักอันอมตะของอลินอย่างแน่ นอน...
อลินกำลังฝันเคลิ้มไปถึงอนุชา ซึ่งตอนนี้อยู่ที่บริษัทอวตาน เขากำลังต้อนรับการมาของคุณแม่อมราที่แต่งตัวสวยเช้ง เหมือนถูกห่อด้วยน้ำยาเสริมสวยแทนเสื้อเกราะและหน้ากาก จนถูกคนในบริษัทแอบนินทา จนอนุชาต้องรีบพาแม่เข้าไปคุยในห้องประชุมที่เตรียมการทดสอบพิธีกรตัวจริง แล้วอนุชาก็รับรู้จากแม่ว่า แม่มีไอเดียเกี่ยวกับการคัดพิธีกรในรายการของลูก แล้วแม่ก็จะเป็นกรรมการคัดเลือกด้วย...
"เล็กก็รู้นี่ลูกว่าคนที่จะมา เป็นพิธีกรรายการนี้มีความสำคัญกับครอบครัวเรามากมายแค่ไหน แม่ไม่อยากเสียใจภายหลัง แม่จะเป็นคนลงมือเลือกด้วยตัวเอง"
แม่อมราเดินมานั่งหัวโต๊ะในที่ประชุม หันไปมองรูปผู้ผ่านการคัดเลือกมาเหลือเพียง 3 คน แม่อมราชี้ไปที่รูปอลินกับอีกสองคน
" นี่ใช่ไหม ผู้เข้ารอบทั้งสามคน" เมื่ออนุชารับคำ แม่ ทำเสียงอู้อี้ในคอ "แล้วลูกต้องเล่าพื้นฐานแต่ละคนให้แม่ฟังอย่างละเอียดด้วยนะลูก" อนุชารับคำแม่ด้วยความเคารพนบนอบ...
ooooooo
ที่บ้านหลังเล็ก... นงพะงา มารดาของพสุอุตส่าห์ ทำขนมถ้วยฟูส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งครัว ตั้งใจจะเอาไว้ ถวายพระพรุ่งนี้ บุญเหลือคนใช้รุ่นเดียวกับนงพะงา แต่นงพะงาได้ดีเป็นเมียน้อยเจ้าสัว บุญเหลือจึงไม่ได้ ให้เกียรติสักเท่าใด มาบอกว่าคุณลมให้ไปพบบน
ตึกใหญ่ด่วน คุณลมหรือชื่อจริงวายุ บนบ้าน "บริบรรณ" ส่งรายการอาหารให้นงพะงา
" เย็นนี้ฉันจะมีปาร์ตี้ ทำอาหารตามนี้ให้ฉันด้วย" ลมสั่งเฉียบ ในชุดแบรนด์เนมมาดหนุ่มไฮโซทุกตารางนิ้ว นงพะงาเห็นรายการยาวเหยียดแต่จะให้ทำในเย็นนี้ พอถูกติง ลมรีบดักคอ ถ้าทำไม่ได้จะให้บริษัทจัดเลี้ยงทำแทน นงพะงาหรือจะกล้าขัดลูกบ้านใหญ่ได้ พอรับปากลมจึงสั่งต่อ
"อีกเรื่อง เห็นบุญเหลือบอกว่าวันนี้ทำขนมถ้วยฟู...เอามาเป็นของหวานในงานปาร์ตี้ เพราะฉันมีเพื่อนต่างชาติมาหลายคน ฉันอยากให้เขาลองกินขนมไทย"
"ได้ค่ะ ...เดี๋ยวน้าจัดให้" นงพะงาซ่อนความขมไว้ เต็มปากด้วยเจียมตัว แล้วรีบขอตัวไปจัดตามสั่ง...ลมยิ้มหยามเหยียดเต็มมุมปาก พอใจในอำนาจที่เหนือกว่า...
เมื่อนงพะงากลับมาในครัวบ้านเล็ก จึงบอกอ้อนทันทีว่า ไม่ต้องจัดเอาไปถวายพระแล้ว จะเอาขนมพวกนี้ไปให้เพื่อนคุณลมทานในงานเลี้ยงคืนนี้...อ้อนมึน นงพะงารีบเอาถาดมาให้จัดใส่อีกถาด แล้วสั่งให้ยกขึ้นบ้านใหญ่ เอาผ้าคลุมกันแห้ง แล้วบอกอ้อนว่าจะรีบไปตลาด...ไม่ตอบคำถามอ้อนว่า จะรีบไปตลาดทำไมตอนนี้...นงพะงาไม่อยากพูด ปล่อยให้อ้อนยืนงง ก่อนจะทำตามคำสั่ง...
ooooooo
พสุกลับเข้าบ้านก็มืดแแล้ว มาหยุดหน้าตึกใหญ่ เห็นไฟสว่างไสว มีเสียงดนตรีไลท์มิวสิกนุ่มๆดังมา แขกหนุ่มสาวทั้งไทยเทศเดินเม้าท์กัน มีเสียงหัวร่อร่าดังมาเป็นระยะ...พสุส่ายหน้า เดินเลี่ยงไปยังบ้านเล็ก
ที่ ครัว...ตอนนี้นงพะงากำลังทำครัวง่วนอยู่ ทั้งเอาของลงกระทะ ทั้งทอด ทั้งจัดของอีกอย่าง หันรีหันขวาง ทำจนมือเป็นระวิงถึงเวียนหัว มือป่ายกะละมังรองน้ำมันหล่นลงเสียงดังเพล้ง น้ำมันกระเด็นลวกมือจนร้องลั่นขึ้น พสุมองเห็นร้องเรียกแม่ กระโจนเข้าไปช่วย เอาผ้าซับน้ำมันจากมือแม่
"ดีนะ น้ำมันไม่ร้อนมาก...แล้วนี่สามทุ่มแล้ว ทำไมยังทำครัวอีก...แล้วนี่ทำอะไรมากมายนัก"
พสุ เห็นอ้อนถือถาดกับจานวิ่งหอบแฮ่กๆเข้ามาก็รู้ว่ากำลังเอาของไปเสิร์ฟปาร์ตี้ บนตึก โดยคุณลมเป็นคนสั่ง แล้วให้เอาขนมปังหน้าหมูไปพร้อมกระทงทองอีกสามชุดไปเสิร์ฟ
"คนอื่นจัดงาน ยังจ้างบริษัทข้างนอกมาทำ แล้วทำไมต้องมาสั่งให้แม่ทำ" แม่ทำท่าจะค้าน พสุสั่งอ้อนทันที "อ้อนไปบอกเขาว่าของกินไม่เหลือแล้ว ทุกอย่างหมด"
อ้อนรีบขึ้นไปบอกลมขณะอยู่ในงาน ลมมองตาเขียว
"ของหมดก็ไปซื้อมาเพิ่มสิ มาบอกฉันทำไม"
" หนูก็มาบอกตามที่คุณดินสั่งค่ะ" อ้อนตอบชัดคำ ลมชะงัก "คุณดินให้มาบอก หนูก็มาบอกตามสั่งเจ้านายค่ะ" ลมตาวาวฉุนขาดผึง สลัดเก้าอี้ล้มระนาว สาวๆส่งเสียงกรี๊ด อ้อนผวาถูกจิกด่า
"จำใส่สมองที่ไม่มีการศึกษาเอาไว้ด้วย เจ้านายของแกคือฉัน ไม่ใช่มัน" ลมเดินปึงปังออกไป แขกในงานมองเลิ่กลั่ก อ้อนยืนเซ่อเงอะงะ
ในครัว พสุช่วยเอายาทาแล้วพันมือให้แม่ แม่ได้แต่ติงลูกชายว่า ไม่น่าให้อ้อนไปบอกคุณลมอย่างนั้น ของเรายังมี
อีกเยอะ พสุบอกเขาไม่ชอบ คนอื่นมีเยอะแยะ กลับให้แม่ทำคนเดียว มันแกล้งกันชัดๆ แม่แย้งอีกว่า ลมไม่ได้แกล้ง อย่าไปว่าน้องอย่างนั้น
"น้อง...เขานับผมเป็นพี่ซะที่ไหน ในสายตาคุณลม ผมเป็นแค่กาฝากที่เกาะอยู่ในครัว แค่นามสกุลเดียวกันมันไม่ได้ทำให้เขาเห็นผมเป็นพี่"
เห็น แม่หน้าเสีย พสุรีบตัดบทให้แม่ไปอาบน้ำนอน จะให้เด็กคนอื่นมาเก็บ แม่กลับขอเก็บเอง พสุไม่ยอม ถามว่าเดี๋ยวนี้เราไม่มีสิทธิ์ใช้เด็กมาเก็บของแล้วหรือ ถ้าแม่เกรงใจเดี๋ยวเขาจัดการเอง ว่าแล้วพสุเดินออกไปอย่างไม่ยอมใคร แม่ทำท่าจะลมใส่ อ้อนมาพยุง แม่ให้อ้อนตามลูกดินไปเร็วๆ
ooooooo
พสุ หรือคุณดินของบ้านนี้เดินมาถึงครัวใหญ่ เห็นบุญเหลือคนใช้รุ่นเดียวกับแม่นงพะงาของดินกำลังจัดผักกับคนใช้อื่นอีก สามสี่คน พสุจึงถามว่า นี่จัดผักหรือร่อนทอง ถึงต้องสุมหัวสามสี่คน ทุกคนชะงัก บุญ-เหลือที่ทำใจดีสู้เสือ ถามว่าคุณดินต้องการอะไรคะ
"ต้อง การน้ำใจ...แต่คิดว่าแถวนี้คงไม่มี ถึงได้ปล่อยให้แม่ฉันทำอาหารแทบเป็นลมคนเดียว ไม่มีใครคิดช่วยสักคน" ทุกคนเงียบ มีคนหนึ่งบอกว่า เธอกำลังจะไปช่วย แต่ป้าเหลือเรียกมาจัดผัก แล้วต้องร้องอูย เมื่อบุญเหลือจิกเต็มเล็บ...พสุจึงประชดว่า เห็นใจที่งานจัดผักงานหนัก ทุกคนเกื้อกูลกัน ไม่แบ่งก๊กแบ่งนาย ทุกคนทำงานคุ้มเงินเดือนจริงๆ
"จะคุ้มหรือไม่คุ้มมันเป็นเงินของครอบครัว ฉัน ไม่เกี่ยวกับเธอ" วารินสาวใหญ่มายืนจังก้าในชุดกีฬาเต้นแอโรบิก เชิดหน้าบานเบอะ ข้างๆมีวายุหรือลมยืนเป็นวอลเปเปอร์แบบยียวนกวนโอ๊ย...
อ้อนตามมาเห็น รู้ทันทีว่าสงครามเกาหลีกำลังจะปะทุ... อ้อนคิดหาตัวช่วย รีบเผ่นทันที
วารินเดินมา วายุหรือลมแปรขบวนตาม บุญเหลือสาระแนเสริมอีกคน วารินจิกก่อน
" แล้วเธอมาเสนอหน้าแถวนี้ทำไม ทำไมไม่ไปช่วยแม่ ตัวเอง คุณลมสั่งแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้เตรียมของให้พอดี ปาร์ตี้ยังไม่จบ ของกินห้ามหมด จำไว้ ที่เธอควรอยู่คือก้นครัวโน่น ฉันจะจ้างคนสิบยี่สิบคนมาจัดผักจัดมะเขือมันเรื่องของฉัน อย่าเสือกะบากมายุ่ง"
"ที่จริงของในครัวมันก็ไม่หมดหรอกครับ แต่ผมไม่ให้ กิน" พสุหรือนายดินลูกคนใช้เปิดปาก นายลมคอต่อหด "ปาร์ตี้จะจบรึไม่ช่วยไม่ได้ แม่ผมไม่ใช่คนรับใช้ คุณลมก็ไม่ใช่เจ้านายผม ผมจะทำตามหาพระแสงหอกอะไร" ลมกัดฟันกร้วม พสุ
หันไปทางวาริน "อีกอย่างที่คุณน้ำต้องจำใส่ที่สวมหมวกไว้ ถ้าน้องชายคุณไม่มาสั่งให้เแม่ผมทำอาหารจนหน้ามืด คุณน้ำจะจ้างคนใช้อีกร้อยคนมาวิ่งไล่จับเด็กอายุ 18-19 เมียน้อยของสามี ผมก็ไม่อยากเสือกะบากยุ่งด้วยหรอก"
วารินเจอไม้นี้ ตวาดชื่อนายดิน โกรธจนตัวสั่น เด็กรับใช้ คิกคักจนวารินหันมาตาขวาง บุญเหลือรีบเข้าใจนาย ไล่เด็กๆแปรขบวนหนีทันที
"แกกล้าพูดแบบนี้กับพี่สาวฉันได้ไง" ลมจำต้องเดินตามเกม
"ไม่ใช่แค่พูดแบบนี้ มากกว่านี้ก็กล้า ถ้าพวกคุณบังคับ" พสุยืนหยัด
"อวดดีนักนะมึง" ลมคาดโทษกระโจนเข้าใส่ กะใช้ หมัดใส่ดินเต็มสตีมเดือด
" ลม...จะทำอะไร" เสียงนภาดังขึ้นอย่างมีอำนาจ ลมถึงชะงักกึก หันไปเห็นนภายืนวางท่าสง่างามและทรงอำนาจ ลมอุทาน "พี่ฟ้า" ขณะที่อ้อนตัวการไปบอกคุณนภานั่งแอบ เหมือนนั่งบนภูดูเสือกัดกัน...เสือสามตัวต้องหัวหดลงชั่วคราว เมื่อนภาตั้งคำถาม
"มันเรื่องอะไรกันถึงได้ลงมือลงไม้กัน...พี่น้องกันแท้ๆ"
" นายลมน่ะสิคะ" วารินเริ่มเอาดีใส่ตัว "อยากอวดเพื่อนๆว่าครอบครัวเราทำอาหารอร่อย เลยให้น้านงทำให้ แต่น้องดินไม่เข้าใจ คิดว่าลมแกล้งเลยโมโห..."
"แต่พี่เห็น ลมกำลังจะทำร้ายดินไม่ใช่เหรอ" นภาฟันธงทันที
"ก็ผมทนไม่ได้ ไอ้...พี่ดินดูถูกพี่น้ำเรื่องสามีมีเมียน้อย ผมรับไม่ได้" ลมอ้าง วารินฟังแล้วสะอึก
"ดินมีอะไรจะอธิบายหรือเปล่า" นภาหันมาถาม ให้
ความเป็นธรรม
"ไม่มีครับ ผมไม่ต้องอธิบาย คุณฟ้าคงรู้จักน้องๆแต่ละคนดีแล้ว ว่าใครนิสัยยังไง"
พี่ ฟ้าหรือนภายอมรับในใจว่าถูกแล้ว หันมาถามลมว่า ให้แม่นงทำอะไรบ้าง พสุรีบบอกว่าทำทุกอย่าง คนเดียวด้วย พี่ฟ้าตกใจ ซักนายลมว่า ของไม่ใช่น้อยๆ ให้แม่นงทำคนเดียวหรือ สองสามพี่น้องจึงเถียงกันชนิดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วไปขย่มบ่าคนอื่น พี่ฟ้าจึงตวาดให้หยุด

"พี่เห็นด้วยกับดิน ลมทำเกินไป ต่อจากนี้ไปห้ามใช้ แม่นงทำอาหารเป็นอันขาด" วารินทำท่าจะขัด ฟ้าไม่สน "แม่นง ไม่ใช่คนรับใช้ แต่มีศักดิ์เป็นภรรยาของคุณพ่อ เหมือนกับคุณแม่พี่ และคุณแม่ของเธอทั้งสองคน" สองพี่น้องอยากจะเถียง ได้แต่คันปากยุบยิบ
พสุสะใจที่พี่ฟ้ายุติธรรม...แม้ทยอยกันกลับ ลมกับน้ำ สองพี่น้องยังตามแขวะพสุ ด่าไอ้ลูกคนใช้อีก พสุมองตามด้วยความเซ็งสุดโลก...
เมื่อ กลับถึงบ้าน แม่ฟังพสุเล่าเรื่องที่เพิ่งรบกันมาว่าเป็นลูกคนใช้ แม่กลับบอกว่าพวกเขาพูดถูก แต่พสุรับไม่ได้ ร้องบอกแม่ว่า สุดแสนจะเบื่อคำพูดถากถางแบ่งชั้นของมนุษย์
"ผมอยากมีบ้านของตัวเอง แม่ครับ เราย้ายออกไปอยู่ข้างนอกกันเถอะ...พ่อ...เจ้าสัวก็ตายไปนานแล้ว อยู่พึ่งใบบุญคนอื่นให้เขาดูถูกทำไม"
" ไม่ไปไหน...แม่จะอยู่ที่นี่...ดินอย่าลืมสิ บ้านหลังนี้เป็นของเรา ถึงจะอยู่ในรั้วบ้านใหญ่ เจ้าสัวก็แยกโฉนดให้เป็นสิทธิ์ขาดของเราสองคน มันเป็นสิ่งเดียวที่พ่อให้ไว้กับแม่ ถ้าจะให้ทิ้งมันไป ขอให้เป็นวันที่แม่สิ้นลมหายใจ" พสุเห็นน้ำตาแม่แล้วต้องเบือนหน้าหนี อับจนหัวใจไร้ปัญญาโดยแท้...
เมื่อกลับเข้ามาในห้อง...ก่อนจะล้มตัวลงนอน พสุมองเห็นแผ่นพับบ้านในหมู่บ้านขนาดกลางวางบนโต๊ะ มองรูปหมู่บ้าน แล้วหยิบเช็คของอลินที่ให้มาดู ก่อนจะหยิบแผ่นพับเก็บใส่ลิ้นชัก เห็นรูปอีกรูปจึงเอามาดู...นั่นคือรูปโสภิตา เขามองด้วยความคิดถึงตรึงใจ มันเป็นรูปโสภิตากับพสุ ทั้งสองอยู่ในชุดนักศึกษา เขามองดูเธอช่างสวยสดใสนี่กระไร โสภิตามองกล้องด้วยดวงหน้าสดใส พรายพราวด้วยรอยยิ้ม...เขาเคยอยากบอกรักเธอในครั้งนั้น แต่พสุหรือจะกล้า เขาพูดคำว่ารักไม่ได้จนเดี๋ยวนี้...
เวลาผ่านไป...หลังจากพ้นรั้ว มหาวิทยาลัยมาด้วยกันแล้ว วันหนึ่งโสภิตาลงเครื่องบินมา พสุเตรียมช่อดอกไม้ให้เธอ แล้วพสุ แทบหัวใจสลาย เมื่อโสภิตาพาหนุ่มที่ชื่อเล็กมาด้วย เธอบอกว่ามีคนสำคัญอยากแนะนำให้รู้จัก ชายหนุ่มคนนั้นเดินมาหาโสภิตา
" นี่คุณอนุชา...แฟนตาเองจ้ะ" พสุกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น เนื้อตัวเย็นวาบ อนุชายิ้มให้พสุ โสภิตาคล้องแขนอนุชาอย่างมีความสุขในรัก พสุซ่อนดอกไม้ไว้ข้างหลังอย่างมิดชิดที่สุด...
พสุกลับมาสู่ความเป็นจริง กับรูปถ่ายโสภิตาบนโต๊ะในห้องนอน...เขาตัดใจเก็บรูปไว้ ปิดไฟมืดไปทั้งห้อง ความมืดดำอีกอย่างที่พสุไม่รู้คือ ชายหนุ่มชื่ออนุชาคนนั้นคือเทพบุตรที่อลินเฝ้าแต่ฝันถึงทั้งยามหลับและตื่น นั่นเอง
ooooooo
พสุตกใจตื่นขึ้นมาตอนเช้ามืดเมื่อเสียงโทรศัพท์ ดังลั่นขึ้น พอรับฮัลโหลได้คำเดียว เสียงที่แปร๋นมาอย่างคนกำลังจะเป็นจะตายคือ "ครู กุ๊กกกก...ช่วยฉันด้วยยยย..." เสียงนั้นเป็นเสียงอลินเป็นแน่แท้...จากนั้นพสุหรือดิน ครูกุ๊กของอลิน ก็ดิ้นตายไปยังคอนโดฯของน้องนางทันที
อลินละล้าละลังหวังเอาครูกุ๊กเป็น ที่พึ่ง ชี้ให้ดูซูเฟล่ที่โชว์ความเหี่ยวแฟบอยู่ต่อหน้า อลินบอกตอนแรกมันก็ดูดีกว่า แต่ตอนนี้มัน...ครูกุ๊กต่อให้ทันทีว่า "เหี่ยว" อลินสั่งห้ามพูดคำนี้ มันแสลงใจกัน...เขาแก้ว่า ไม่ได้พูดถึงเธอ เขาพูดถึงซูเฟล่
"คิดดูนะ ถ้าตอนทดสอบฉันทำมันออกมาแบบนี้ นักข่าวมาเห็น นางเอกระดับเหยียบทางช้างเผือกทำซูเฟล่ เหี๊ยวเหี่ยว...ฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหน"
"เอาไว้บนบ่าที่เดิม...แล้วมาเริ่มทำใหม่ อยากรู้ว่าทำผิดอีท่าไหน"
"ฉันไม่ผิด คุณสอนผิดหรือว่าจดมาให้ผิดๆ" ส่งสมุดให้พสุดู
"จะผิดยังไง สอนไม่ผิด ที่จดให้ก็ถูก สอนคนชิมมาลิ้มรสจนลิ้นกุดไปหลายคนแล้ว"
"อ้าว...เว่อร์ไปแล้ว...ไม่ผิด แล้วมันทำไมไม่ฟูล่ะ"
พสุ ฟันธงทันทีว่า เดี๋ยวก็รู้...ว่าแล้วดึงกระทะมากระชับ ขยับอย่างมั่นใจ เมื่อเริ่มละเลงฝีมืออย่างชำนาญ เท่และมีเสน่ห์ จนอลินมองแล้วหลับตาทำท่าเซิ้มๆโดยไม่รู้ตัว...
เวลาผ่านไปจนเตาอบส่ง เสียงติ๋ง...เขาจัดแจงเอาซูเฟล่ ออกมา ใช้ช้อนเล็กๆตักชิม อลินกลืนน้ำลายตาม...เขางึมงำทำท่ามองฟ้า "หาที่ติมิได้..."
อลินตาลุกวาว คว้าช้อนมาตักชิม ร้องออกมาว่าอร่อยมาก แล้วถามว่า ฉันทำเมื่อเช้าอย่างนี้เป๊ะ แล้วทำไมมันไม่เป็นยังงี้
" เป๊ะจริงมันก็ไม่เหี่ยว" พสุเน้นคำว่าเหี่ยว อลินรีบแซงคำว่า "ไม่ฟู" แล้วตามด้วยคำว่าแต่...พสุจับได้ ซักทันทีว่าแต่ทำไมให้รีบบอกมา อลินจึงสารภาพ
"ตอนทำ ฉันมาร์คหน้าเอาไว้ จึงตีไข่ขาวทิ้งไว้แล้วไปล้างหน้า ต่อด้วยทาอะไรอีกนิดหน่อย แป๊บเดียวเอง ก็ราวๆห้า...สิบ เอ้อครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง..."
"จบ...จบกัน" พสุร้องอย่างสิ้นหวัง...อลินยื่นหน้าถามว่าจบอะไรแน่ จบคอร์สสอนแล้วใช่ไหม? "จบ...จบการเป็นพิธีกรรายการอาหารของคุณ...จบแล้ว" อลินฟังยังจับไม่ติด ได้แต่อึ้งย้ง แล้วสะดุ้งเมื่อพสุบอกเธอว่า ปัญหาของอลินคือ
"ไม่รู้กาลเทศะ" อลินโต้ไม่เกี่ยวกัน เขาจึงเทศนา "ทำอาหารต้องมีสมาธิ ไม่ใช่ทำไปดูทีวีไป มาร์คหน้าทาเล็บหมัก ผมไป...สาวใช้บ้านโน้นทอดปลาไป หนีบมือถือเม้าท์ไปเรื่องพระนางในทีวีใช้ไม้ตีพริกตำหัวเมียน้อย...เม้าท์จน ปลาไหม้ดำปี๋"
"พอแล้ว...คุณรู้ได้ไงว่าคนใช้บ้ามือถือ"
พสุส่ายหัว เป็นเชิดสิงห์โต...ไม่ตอบโต้ หยิบปากกามาวางตรงหน้าอลินแล้วสั่งเฉียบ ทั้งแนะวิธีทำ แล้วตั้งข้อห้ามยาวยืด ห้ามช้า ห้ามโอ้เอ้ เสริมซวยได้ แต่ห้ามเสริมสวย...ยังไม่ถึงเวลา ห้ามเปิดเตาเด็ดขาด กระเทือนนิดเดียว ซูเฟล่ยุบ...
อลินต่อว่า ถ้าเธอไม่ทำให้มันยุบ เขาก็ไม่ยอมบอกให้รู้ ถ้าไปทดสอบพลาด ก็ยังไม่รู้อีกใช่ไหม แล้วจะมีใครบอกเธอ...พสุตอบหน้าตาย
" ไม่มี..." อลินผงะ เขาว่าต่อ "ทำอาหารมันละเอียดอ่อน ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องหัดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเอง ของแบบนี้มันสอนกันไม่ได้ ผมก็อยู่ช่วยคุณตลอดเวลาไม่ได้"
"ทำไมจะไม่ ได้..." อลินคิดอยู่ครู่ใหญ่ จึงตะเบ็งเสียงใส่...ผลที่ตามมาคือพสุแจวอ้าวออกมาถึงหน้าคอนโดฯ อลินตามติดเป็นตังเม สั่งให้หยุดมาพูดกัน
"ผมไม่ไป...ยังไงพรุ่งนี้ผมก็ไม่ไปทดสอบกับคุณ"
อลิ นเจอระนาดไม้แข็งแล้ว เธอต้องเอาไม้นวมสู้ ออกท่านางพญาโศกว่า ถ้าพรุ่งนี้ไปทดสอบคนเดียว พลาดท่าขึ้นมาเธอต้องตายแน่ๆ เพราะแก้ปัญหาหน้าเตาไม่เป็น เธออยากได้ งานนี้จริงๆ เขาแย้งว่า เธอแสดงเรื่องเดียวได้เป็นล้าน ทำไมอยากได้งานบ้าๆนี้จะเป็นจะตาย ถ้าเธอมีเหตุผลดี เขาอาจไปกับเธอ...อลินยิ้มนิดๆ ให้เขาสัญญาว่าจะไม่บอกใคร แล้วอ้อมแอ้ม
"ฉัน...ฉันเจอ...เนื้อคู่เข้า ให้แล้ว" พสุฟังแล้วอยากหัวเราะสักสามก๊าก คิดขำว่าดอกฟ้าอยากตกไปในมือโจร ผู้ชายคนนี้มันจะอะไรกันนักนะน้อง...อลินจึงเปิดอกว่า ผู้ชายคนนี้เจ้าของบริษัทที่จะทำรายการอาหาร หน้าตาดี มีการศึกษา เธอสืบประวัติมาหมดแล้ว สอดจิ๊กซอว์กับเธอได้สนิทจนดังเอี๊ยดๆ
"แค่แว่บ แรกที่ฉันเห็นหน้า ฉันรู้ด้วยญาณพิเศษ ประสาทที่หกถึงแปดว่าชายผู้นี้เหมาะที่จะสละความโสดที่ฉันรักษามายิ่งกว่า ความสดใดๆ สามสิบกว่าปีโดยแท้" พสุฟังแล้วรู้สึกว่าอาการของเธอวัดความดึงดันได้ทะลุเพดานห้องหมอทีเดียว แล้วอลินยังเพ้อ "อีกไม่นาน...แล้วไม่ต้องรอ ฉันกับคุณเล็ก...อนุชา ก็จะได้แต่งงานกัน"
พอพสุได้ยินชื่อ...สึนามิย่อมๆชนประสาทเขาผึงทันที ถามย้ำชื่อเนื้อคู่ อลินตอบอีกครั้ง
"คุณเล็ก...อนุชา โสพัฒน์" พสุรู้สึกว่าสมองของเขาจมหายไปสู่ภาพของโสภิตาในอดีต ที่เคยแนะนำแฟนของเธอให้เขารู้จักโดยไม่คาดฝัน
"ดินจ๊ะ...ตามีคนสำคัญอยากแนะนำให้รู้จัก นี่คุณอนุชา...แฟนตาเองจ้ะ"
พสุอึ้งต่อโสภิตาในอดีต อึ้งกับอลินในปัจจุบัน...
ooooooo
แล้ว พสุก็ไปปรากฏตัวที่ร้านเป้หวาน ได้เห็นโสภิตาเจ้าของร้านเบเกอรี่เล็กๆนี้กำลังถูกเจ๊เจ้าของร้านมาทวงค่า เช่า ทั้งข่มขู่สารพัดเพราะให้ผัดผ่อนมาสามเดือนแล้ว ถ้าไม่มีจ่ายก็ย้ายออกไป พสุจึงเข้าไปเจรจาจะจ่ายให้ก่อน
โสภิตาพยายามจะ ค้าน เจ๊ไม่ยอม จะเอาหกพันห้า พสุมีสี่พันเอาไปก่อน พรุ่งนี้จ่ายอีกสองพันห้า อีกหมื่นสามสิ้นเดือนมาเอา...เจ๊ไปแล้ว พสุพูดเล่นๆว่าเขาเป็นเจ้าหนี้เธอ ตอนนี้ขอขนมในร้านมากินแก้หิว
พสุกิน ขนมไปชมไปว่าอร่อยจนสุดโลก พสุถามถึงปัญหาเรื่องเงินของโสภิตา เธอบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าน้อย ลูกปูเป้ไม่ค่อยสบาย พสุถามถึงอนุชาพ่อของปูเป้ โสภิตาบอกทันทีว่า เธอกับเล็กไม่ได้คุยกันมาตั้งหลายปีแล้ว พสุฟังแล้วค่อยโล่งใจ แล้วเตือน
" ตาไม่คุยกับเขาก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องเสียใจ ถ้าได้เห็นข่าวอนุชากับผู้หญิงคนอื่น" โสภิตามองอย่างสนใจ "อนุชากับดาราสาวสวยระดับนางเอก รวยระดับพันล้าน เพียบพร้อมทุกอย่าง...จากคุณสมบัตินี้ คุณหญิงอมราคงไม่ปล่อยให้หลุดมือ..."
โส ภิตาขอตัวเข้าห้องน้ำ เธอเข้าไปกลั้นสะอื้นอย่างเต็มที่...เธอมองมือถือที่ดังขึ้น พอรู้ว่าเล็กหรืออนุชาโทร.มา ใจเต้นระทึกและกดรับ...เสียงอนุชาถามมาอย่างนุ่มนวล ถามถึงร้านและโสภิตาว่าเหนื่อยไหม เธอบอกไปว่าไม่เหนื่อย ชินแล้ว อนุชาชมว่าเธออดทนเสมอ...ส่วนเขาทุกวันนี้น่าเบื่อ
"แล้วลูกเป็นไงบ้าง อาการดีขึ้นหรือยัง"
เสียง คุณหญิงอมราดังเข้ามา ถามเล็กว่าคุยกับใคร อนุชาเองตกใจ โสภิตาพูดอยู่ในห้องน้ำ ได้ยินแล้วต้องสะดุ้งไปด้วย...แล้วมีเสียงพสุเคาะประตูห้องน้ำ ถามว่าเธอเป็นอะไรไปหรือเปล่า อนุชาเองได้ยินเสียงพสุลอดมา สงสัยว่าโสภิตาคุยกับใคร?
โสภิตารีบเปิดประตูห้องน้ำออกมา บอกพสุว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร ท้องเสียนิดหน่อย
คุณ หญิงอมราดึงมือถือจากลูกชายไปกดดู เสียงอนุชาบอกแม่ว่า ถ้าไม่เชื่อให้ถามเพรียวดู เขาคุยกับเพรียว ไม่โกหก แม่ โสภิตาให้พสุไปกินขนมต่อ พสุยิ้มขำ เดินไปกินขนมกับปูเป้ที่ดีใจได้พบพสุ...พสุแอบคิดว่าโสภิตายังติดต่อกับ อนุชา เพราะเห็นรูปถ่ายของทั้งสองกับลูกสาวเพิ่งถ่ายมาเมื่อเร็วๆนี้ รู้ดีว่าโสภิตาโกหก ยิ่งทำให้พสุคิดถึงอลินขึ้นมาทันที แต่เมื่อจำที่อลินเพ้อถึงอนุชาแล้ว พสุจึงตกอยู่ในสภาพถูกคลื่นซัดจนหาทางหนีไม่พ้น...
ooooooo

พสุนัดกินข้าวต้มตอนดึกกับปฏิคม พูดถึงพสุต้องไปทดสอบอาหารกับคุณอลิน ทั้งสองคุยกันไปมาถึงนิสัยใจคออลิน ผู้เป็นดาราดังขาลง ปฏิคมจึงเตือนพสุว่า เขาจะบอกความจริงให้ อย่าคาบไปบอกใครเด็ดขาด...อลินมีพระสามองค์คือคุณป้าใหญ่ คุณป้ากลาง และคุณป้าเล็ก...
คุณป้าทั้งสามเป็นพี่สาวของคุณน้อย แม่ของคุณอลิน ซึ่งเสียตั้งแต่เธอยังเล็ก ป้าทั้งสามจึงเลี้ยงเธอมาอย่างใกล้ชิด ใกล้ชิดมากๆ ขนาดครูอนันต์พ่อแท้ๆยังได้เข้าใกล้ลูกแค่อาทิตย์ละครึ่งวัน...ครูอนันต์ พยายามจะสนิทสนมกับอลิน แต่พอชวนไปเที่ยวต่อ ป้าใหญ่มาขวางทันที บอกว่าบ่ายแล้ว หมดเวลาเยี่ยม อนันต์ต่อรองว่า เพิ่งพูดกับลูกสองสามคำเอง ป้าทั้งสามให้มาคุยต่ออาทิตย์หน้า...แล้วปฏิคมยังบอก ป้าทั้งสามไม่ใช่คนธรรมดา นอกจากเป็นสาวแก่คานทองนิเวศน์แล้ว ยังมีนิสัยประหลาดล้ำ...
นิสัยป้าใหญ่เฮี้ยบมหาเฮี้ยบ รักษาความสะอาดยิ่งชีพ เข้าร้านไหนใครเอาผ้าเช็ดปากมาให้ ดมดูจื๊ดเดียวโยนผ้าทิ้งลงพื้นหาว่าสกปรก...คุณอลินรับมรดกมาถึงขนาดไม่ยอม ใส่เสื้อผ้าของกองถ่าย โยนทิ้งลงพื้น จนเป็นอุจจาระปากไปทั้งวงการ คนใช้ในบ้านที่ทำงานกัน ป้าใหญ่นั่งให้คะแนนทั้งในบ้านและนอกบ้าน ต้องมีคะแนนเพื่อเลือกที่ดีที่สุด...อลินก็นั่งในกองถ่าย ให้คะแนนไปด้วยเหมือนกัน
ส่วนป้ากลางสวยเช้งกระเด๊ะ แต่งตัวทันสมัย ตั้งใจไว้แล้วต้องทำ ป้ากลางแต่งสวย พร้อมกับความหยิ่งหลงตัวเอง ซึ่งคุณอลินก็รับมาเช่นกัน คุณอลินจึงติดแต่งตัวมาแต่เด็ก ป้ากลางเดินเริ่ดเข้ามาในงานท่ามกลางสายตาสามหมื่นแปดพันคู่ เธอหาสนใจไม่...อลินก็เชิดหน้ามาในงานรับรางวัล หาสนใจใครไม่เช่นกัน
คุณ ป้าเล็กคนสุดท้าย นิสัยชอบร้องรำทำเพลงหาตัว จับยาก แต่ก็จริงจังชีวิตเกินไป ตอนที่ครูอนันต์จะมาเอาตัวหนูอลินไป คุณป้าเล็กคว้ามีดจะปาดคอตัวเองประท้วง จนครูอนันต์จำต้องยอมแพ้ คืนอลินให้สามป้าไป...ปฏิคมสรุป
"ฉันจึงไม่แปลกใจที่คุณลินเข้าวงการ บันเทิง เป็นนางเอกอันดับหนึ่งโดยรวดเร็ว ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่คุณป้าทั้งสามมาเสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อนใน เวลาใกล้เคียงกัน คุณลินถึงได้หลุดจากการครอบงำ แต่ฉันว่าทุกวันนี้ป้าๆทั้งสามไม่ได้หายไปไหน ผลัดกันมาสิงที่คุณลิน เดี๋ยวก็เฮี้ยบเนี้ยบเหมือนป้าใหญ่ เดี๋ยวก็ทำเริ่ดๆ เชิดๆเหมือนป้ากลาง สักพักก็สวมบทละครเหมือนป้าเล็ก ถ้าวันไหนลงพร้อมกันสามองค์ก็ตัวใครตัวมันละครับ พระเดชพระคุณ" ปฏิคมหนาวจนหัวหด
"ฉันไม่คิดถือสาเธอ..." พสุเอ่ยขึ้นเมื่อเพื่อนเตือน "แต่ฉันฟังแล้วยิ่งเป็นห่วง บางทีเขาอยู่ในโลกที่เพียบพร้อมเหมือนฝันมากเกินไป เลยไม่รู้คนอื่นในโลกที่เป็นจริงเป็นยังไง"
"คนอื่นหมายถึง...ใครวะ" ปฏิคมสวน
" คุณลินบอกแกเรื่องเจอเนื้อคู่หรือยัง" เมื่อปฏิคมสั่นหัวแล้วย้อนถาม พสุบอกว่า อลินบอกเขาแล้ว เพื่อนจึงรู้ว่าอลินแม้เจอพสุวันเดียวยังไว้ใจบอกเรื่องสำคัญขนาดนี้ แล้วถามว่ารู้ไหม เขาคือใคร?
"เนื้อคู่คุณลินเป็นเจ้าของบริษัทที่ทำรายการอาหาร ชื่อคุณเล็ก...อนุชา โสพัฒน์"
" พ่อปูเป้" ปฏิคมร้องลั่น "แล้วตารู้เรื่องหรือยัง แล้วคุณลินรู้เรื่องคุณตากับปูเป้หรือยัง" พสุสั่นหน้า จึงถูกเพื่อนตวาดใส่ "อ้าว...ทำไมแกไม่บอกคุณลินวะ"
"บอกไปก็เท่านั้น เขาไม่สนใจหรอก คุณลินเขามั่นใจว่าอนุชาเป็นคนดี ไม่มีมลทิน"
"แต่แกต้องบอกคุณลิน ยิ่งตั้งความหวังไว้สูง ตกลงมาหลังแอ้หลังแอ่นเลยนะเว้ย"
"ฉันไม่บอก เพราะฉันรู้ว่าเขาไม่ฟัง แต่ถ้าแกอยากบอก แกก็บอกเองก็แล้วกัน"
พสุหันไปมองฟ้า หาดาวสักดวงก็ไม่มี...ปฏิคมคิดหนักเหมือนอุ้มภูเขาทั้งลูกไว้เต็มอก
ooooooo
เรื่อง คุณหญิงแม่ของอนุชาจะมาเป็นกรรมการตัดสินการคัดตัวพิธีกรในรายการทำอาหาร เพรียวพอรู้เรื่องก็เที่ยวโทร.ไปเอาหน้ากับสามคนที่กำลังเป็นคู่แข่งสำคัญ กันคืออลิน ซึ่งเพรียวคิดว่าเป็นตัวเต็งหนึ่ง เป็นดารา มาจากครอบครัวใหญ่ มีฝีมือทำอาหาร ทางบ้านฐานะเยี่ยม ชาติตระกูลพูนสุข
อลินถามถึงอีกสองคน คือ ฮยองกึน นางเอกใหม่ลูกครึ่งเกาหลีที่กำลังมาแรง คนที่สามคือ หมิง ดารารัตน์ นางอิจฉาคู่ปรับอลินนั่นเอง...เพรียวเที่ยวไปลุ้นใครชนะ เพรียวก็เข้าได้ทุกคนไปหมด เพรียวจึงอวยพรให้ทุกคนชนะโดยทั่วหน้ากัน
สำ หรับหมิงหรือดารารัตน์นั้น เคยมีปัญหาการช่วงชิงการรับบทกับอลินมาแล้ว บังเอิญคืนนี้หมิงอยู่กับคู่ขาวายุ หรือนายลม น้องชายคนละแม่กับพสุ ที่ห้องพักของหมิง เมื่อหมิงจะลงแข่งชิงเป็นพิธีกรรายการอาหารจอแก้วพรุ่งนี้ นายลมจึงหนุนหมิง อย่าได้แคร์อลิน เพราะแม่ดาราค้างฟ้าคนนี้ต้องการจับอนุชามากกว่า หมิงตั้งป้อมแน่นหนาว่า เธอจะชนะใครในโลกนี้ก็ไม่สะใจเท่ากับชนะนังอลินแค่ครั้งเดียว เพราะแค้นและหมั่นไส้มานาน...นางเอกลวงโลก ทำกับข้าวเป็นซะที่ไหน
"หมิงต้องชนะนังลินให้ได้...จะให้มันเป็นอีแก่ขึ้นคาน ไม่มีงานทำ เหมือนที่มันเป็นอยู่ทุกวันนี้"
ooooooo
ตอนที่ 3
ขณะ ที่อลินกำลังปาดครีมใส่หน้าตัวเองอย่างละเมียดจนได้ครบทุกขนานแล้ว พอจะขึ้นเตียง เสียงออดหน้าห้องพักดังขึ้นอย่างขัดอารมณ์...ใครวะมาบังอาจกระตุกเส้น...พอ เปิดประตู เห็นปฏิคมลูกมือของพ่อแต่เป็นลูกไล่ของเธอมายืนเท่อยู่ จึงว้ากใส่ บอกจะนอนแล้ว ก่อนจะปิดประตูปฏิคมแทรกตัวกันไว้ พยายามบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุย อลินบอกจะนอน พรุ่งนี้ไปทดสอบอาหาร ให้กลับไป
"เรื่องที่ผมจะพูดมันสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด"
"นี่นายเปี๊ยก สำคัญแค่ไหนก็ไม่ฟัง" ว่าแล้วเอาอะไรมาครอบหัวหู ปิดประตูใส่หน้าอย่างแรง ปฏิคมถอนใจฟูดใหญ่ ก่อนเดินกลับอย่างท้อแท้...
ปฏิคมไม่มีทางเลือก รีบไปหาพสุที่บ้าน ดึงมาคุยเป็นการเป็นงาน บอกว่าไปหาอลินจะบอกเธอเรื่องนายอนุชา แต่เธอไม่ยอมฟัง ขอให้พสุช่วยดึงเธอขึ้นจากนรกหน่อยเถอะ ขอให้ เห็นแก่เพื่อนที่พ่อของอลินมีพระคุณต่อเขา ถ้าอลินได้งานนี้ เรื่องอนุชาคงไม่จบ มันจะเป็นบาปให้เราทั้งสองต่อไปทั้งชาติ
พสุจึงเตือนปฏิคมว่าอย่าคิดมาก ให้เธอได้งานก่อน ค่อยมาคุยเรื่องนายอนุชา
ขณะ ที่ทั้งสองยืนคุยกัน รถเก๋งสปอร์ตของวายุพุ่งเข้ามาจากหน้าบ้านอย่างแรง พสุกับปฏิคมร้องเฮ้ยตกใจและโดดหนีตาย วายุหรือลมหยุดรถ ลดกระจกลงด่า "ไอ้ลูกคนใช้" แล้วขับรถวิ่งไปเข้าที่จอด ปฏิคมด่าเปิง พสุจึงให้ปลงว่า เราได้บุญทำให้พวกเขานอนหลับ แล้วส่งเพื่อนกลับด้วยคำรับรองว่า จะดูแลอลินให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะยอมให้ช่วยดูจนครบสองตา...
ooooooo
อย่าง ที่ปฏิคมเล่าไว้ อลินรับมรดกนิสัยมาจากป้าทั้งสาม พอพสุไปรับ เธอโชว์ชุดแต่งตัวแล้วถามว่างามไหม ทำไมไม่ตะลึง พสุกลับถามว่า ถ้าเรียบร้อยก็รีบไป เดี๋ยวสาย...เรื่องยังไม่จบ อลินสั่งให้เขาหยุดก่อน โยนเสื้อให้ บอกว่าชุดคนขับรถ รีบแต่งเสีย...พสุโวยที่ให้เขาไปกับเธอฐานะคนขับรถ
"คราวนี้ให้แต่งวัน เดียวจริงๆ ถ้าใครรู้ว่าฉันหนีบครูสอนทำอาหารไปด้วย นอกจากซวยไม่ได้งาน ยายหมิงกับพวกจะต้องไชโยโห่ร้องเล่นงานฉันเละ" ว่าแล้วชี้ให้ไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำด่วนจี๋ พสุจำยอมเดินถือชุดคนขับเข้าห้องน้ำตัดปัญหา...
จากห้องน้ำออกมา อลินชมว่าแต่งแล้วเขาเท่ระเบิด พสุเร่งให้รีบไป อลินดึงไว้อีก...ส่งปากกาใหม่เอี่ยมเป็นของขวัญในฐานะที่ช่วยเหลือเธอ ทีแรกจะซื้อมีดทำครัวให้ แต่ป้าใหญ่เคยสอนไม่ให้ของมีคม จะไม่ดี พสุคืน บอกว่าเขาไม่ใช้ปากกา อลินจึงตาโตบอกทันทีว่า นี่ด้ามทองแท้ มีไม่กี่อันในโลก เอ๊ยในประเทศ ไม่ใช้ก็เก็บบูชาหัวเตียง...พสุยืนยันเขาไม่เหมาะ เป็นแค่ครูสอนทำอาหาร
" คืนไม่ได้ ฉันสั่งสลักคำว่ากุ๊กไว้ที่เสียบ มันต้องเป็นของคุณเท่านั้น เก็บไว้น่า ฉันอยากให้" พสุอ้อมแอ้มว่าแพงเกินไป อลินตอกย้ำแล้วยืด "ไม่เป็นไร ฉันรวย" พสุนึกถึงกำพืดประหลาดๆของ 3 ป้าของเธอแล้วอดยิ้มขำไม่ได้ อลินว้ากถามว่ายิ้มอะไร พสุจึงตั้งหลักได้
"เปล๊า...ผมก็แค่...เฮ้อ...ดีใจ...แล้ว...ขอบคุณ"
" โอเค ฉันรับคำขอบคุณ...ไปกันได้แล้ว ฉันอยากไปถึงได้แต่งหน้าก่อนคนอื่น อย่าลืมยกเครื่องครัวไปให้ครบ ฉันไม่อยากใช้ของบริษัทจัดไว้...มันไม่เท่...ฮ่าๆๆ" อลินเบิ่งฟ้า ก้าวออกไปอย่างสง่างาม พสุเก็บปากกา ลงมือหอบข้าวของเป็นกุลีตามไป...
ลี ลาอลินนั้นฟุ่มเฟือยจนพสุระอา...แม้ออกรถมาได้ครึ่งทาง เธอกลับร้องลั่นให้จอดรถ จนพสุเบรกตัวโก่ง ถามว่าเป็นอะไรไป อลินตอบหน้านิ่งว่าตื่นเต้น แล้วออกตัวว่า สงสัยไม่ออกงานนาน มันไม่ค่อยมั่นใจ ถ้าวันนี้พลาด มีคนรอกระทืบซ้ำเรียงแถวยาวเป็นกิโล
"อย่าทำหน้าสงสัย ภายนอกฉันดูเพียบด้วยเสน่ห์ แต่ที่จริงมิได้เพอร์เฟกต์อย่างที่คิดหรอกนะ"
" ผมมีความจริงจะบอกคุณสองข้อ" อลินตาพองจ้องฟัง "ข้อแรก ผมไม่เคยคิดว่าคุณเพอร์เฟกต์ ฉะนั้น อย่าเข้าใจผิด" อลินจะอ้าปากโต้ เขารีบลุย "ข้อที่สอง ผมรู้วิธีที่จะทำให้คุณอนุชาและคุณหญิงอมราชอบฝีมือการทำอาหารของคุณ" อลินตาลุกวาว ขยับมาใกล้ เปิดหูฟังเต็มพิกัด...
ประเด็นแรก พสุบอกเธอว่า เขารู้ว่าอนุชาเนื้อคู่ของ อลินเป็นคนชอบกินอะไรก็ได้เยี่ยงพวกไม่มีลิ้นแบบตะเข้ กินไม่เลือก ไม่รู้รส แล้วคนแบบนี้มาทำรายการอาหารได้ไง อลินแทบอุดหู พสุบอกเรื่องคุณหญิงอมราไม่ชอบอาหารรสจัด เครื่องแกงเผ็ดๆยิ่งไม่ชอบ จึงต้องจืดๆชืดๆ เรียบแต่หรูเข้าไว้ อลินถอนใจโล่ง ที่เธอทำซูเฟล่ก็เหมาะแล้ว
"ฉันยังสืบรู้ว่ายายหมิงทำห่อหมก ส่วนเด็กฮยองกึน ยองกึ๋นอะไรนั่น ทำกิมจิกับข้าวยำเกาหลี"
พสุเสริมทันที "ลงได้ชื่อว่าข้าวยำต้องรสจัดแบบของชาวใต้ของเรา"
สรุปว่าอลินได้เปรียบจนโล่งใจ หายตื่นเต้น แล้วสำนึกบุญคุณพสุ ถามว่าเขาจะเอาเงินเท่าไหร่ เธอมีให้จงบอกมา พสุสั่นหัวดิกๆ
"คุณลิน ผมรู้ว่าคุณรวยแต่คุณไม่ต้องซื้อทุกอย่างด้วยเงินหรอกนะ"
อลิ นนิ่งคิดแล้วพยักหน้า ขอบคุณเขา...พสุหันไปออกรถ ทั้งสองเริ่มมีความรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น รังสีแห่งความอบอุ่นความสุขสบายใจเริ่มซ่านไปทั่วทั้งรถเป็นครั้งแรก...แล้ว พสุก็ให้กำลังใจอลิน เมื่อรถคันงามของเธอคลานมาจอดหน้าตึกสตูดิโอที่จัดคัดเลือก แฟนคลับของดารามากันเพียบ ช่างภาพ นักข่าวมากันหลายกระบิ...แล้วก็กรูกันมามะรุมมะตุ้มเมื่ออลินนวยนาดมาดนาง พญา แต้มแต่งของมีราคา มุ่งไปยังตึก เสียงแฟนๆฮือฮา ทั้งกรี๊ดกร๊าดแทบแก้วหูระเบิด...พสุขนของตาม ไหลไปแทบไม่ต้องเดิน จึงเชียร์ส่งให้กรี๊ดกันให้แก้วหูร้าวกันไปข้างหนึ่ง
อลินเดินไปอย่าง สง่างาม แฟนคลับตามมาเป็นพรวน แต่แล้วพากันผ่านอลินไป ร้องกรี๊ดไปหาฮยองกึนกันมากมาย อลินต้องชะงักมองอย่างแปลกใจ...รถของฮยองกึนจอดลงเท่านั้น ถูกแฟนๆเข้ากลุ้มรุม เสียงเชียร์ฮยองกึนดังไปทั่ว เธอลงรถมาโบกมือให้ทุกคน โดยมีคุณแม่ของเธอท่าทางปากจัดคอยกันคอยยืด...พสุเห็นแล้วอดขำไม่ได้
"กะอีแค่แฟนคลับ เชอะ...คราวหน้าฉันจะให้นายตัวเปี๊ยกจ้างมาให้เยอะกว่านี้สามเท่าไปเลย"
อลินทำปากจิ๊กจั่ก ฟอร์มเสียไปเล็กน้อย เชิดหน้าเดินหนี...พสุก้าวตาม
อลิ นเดินผ่านกลุ่มนักข่าว ต่างก็ร้องบอกว่ามาแล้ว...หันไปหยิบกล้องเตรียมลั่น อลินลุ้นในใจให้นักข่าวมารุมล้อมเธอ นักข่าวมาใกล้ อลินคิดว่าจะถ่ายเธอ จึงยืนโพสท่า แต่แล้วช่างภาพและนักข่าวก็รีบพากันเดินไป...
รถสปอร์ตของ หมิงจอดลง หมิงเปิดประตูก้าวออกมาในชุดสุดเซ็กซี่ กางเกงขาสั้นจู๋แทบกุดไปถึงขาหนีบ ผ้าที่อกคว้านควากลึกจนล้นทะลักมากองใหญ่ หมิงจงใจก้มลงหยิบของที่เบาะหลังช้าๆ เสียงชัตเตอร์ แสงไฟสว่างวาบๆ หมิงทำสะเทิ้นน้อยๆ
"อุ๊ย...ขอโทษค่ะพี่นักข่าว อย่าเพิ่งถ่ายได้ไหมคะ" หมิงสะเทิ้นอายไปสิบห้าม้วน ซ้ายขวาหน้าหลัง...อลินมองแล้วคิดหนัก พสุเข้ามากระซิบ
"กำลังคิดจะให้นายตัวเปี๊ยกจ้างนักข่าวมาเป็นหน้าม้าอีกละสิ"
"เปล่า...แต่คิดว่าเมื่อก่อนหมิงไม่อึ๋มขนาดนี้ มันต้องไปทำนมมาแน่ๆ"
พสุไม่พูด เดินหอบของก้าวฉับๆไป อลินยังแอบปรายตามองยายหมิงอย่างหมั่นไส้ ขมิบปากด่า "โธ่เอ๋ย....ยายนมปลอม"
ooooooo
ขณะ ที่คุณหญิงอมรากับอนุชานั่งหัวโต๊ะ นอกนั้นมีคณะกรรมการมากันพร้อมหน้า อนุชาสั่ง ใครแต่งตัวพร้อมให้มาลงมือทดสอบก่อน...อลินสั่งให้พสุเอาของไปไว้ข้างใน ให้ทีมงานเขารู้ แล้วนั่งรอเธออยู่ที่นั่น อลินรีบไปแต่งตัว
เพรียววิ่งมาทักทายอลินอย่างดีใจเหมือนญาติเสีย กอดกันแน่นแทบหยุดหายใจ...พสุขนของหนี ไม่อยากมอง แล้วเห็นว่านี่มันปีศาจมายาจริงๆ
ขณะ ที่พสุเอาของไปให้พนักงานที่คอยดูแลของ พสุแนะนำว่าเขาคือคนขับรถคุณอลิน อนุชาเดินมาบอกว่า คนขับรถคุณอลินไม่น่ารูปร่างหน้าตาดีขนาดนี้ ทั้งสองมองตากันเหมือนเคยเมื่อ 8 ปีก่อนตอนโสภิตาแนะนำ พสุบอกอนุชาว่าเคยพบกับเขามาก่อน แต่คงจำเขาไม่ได้ เพราะเขาจอดรถคอยคุณอลินหน้าบริษัท อนุชานึกขำ จึงเปลี่ยนเรื่อง ถ้าพสุไม่อยากรอที่นี่ เขามีที่ให้คนขับรถนั่งรอข้างๆสตูดิโอก็ได้ แล้วบอกให้ตามสบาย...พสุมองตามไปอย่างไม่วางใจ
ส่วนอลินกำลังให้ช่างแต่ง หน้า เพรียวมายกยออลิน ดาราดังขนาดนี้เรื่องทำอาหารหน้ากล้องสบายบรื๋อ...แต่อลินยังหนักใจที่ต้อง ทำอาหารให้อร่อยถูกใจคุณอนุชากับคุณหญิงด้วย ยิ่งข้อมูลที่เพิ่งได้มาแล้วยิ่งเครียด เพรียวถามว่า ข้อมูลอะไร คนแต่งหน้าพลอยสงสัยว่า จะมีปัญหาข้อมูลอะไรอีก?
อลินจึงเปิดไต๋ เธอรู้มาว่าคุณหญิงชอบทานรสจัด เผ็ดจนน้ำตาเล็ดยิ่งดี แต่ที่เธอเตรียมมามันจืดชืด สู้ของหมิง กับฮยองกึนไม่ได้แน่ๆ ว่าแล้วตีหน้าเหี่ยวเหมือนจะตายดับ แล้วขอร้องเพรียวว่า รู้แล้วอย่าไปบอกใครเด็ดขาด โดยเฉพาะคู่แข่งสองคนนั้น...อลินเห็นเพรียวทำหน้าชื่นเหมือนได้แก้ว... อลินแอบสะใจ รู้ว่าเพรียวต้องเอาไปบอกคู่แข่งทั้งสองสาวนั้นชัวร์ป้าบ...
แล้ว ก็เป็นไปตามนั้น เพรียวแอบไปบอกหมิง พอหมิง ฟังแล้วยิ้มลึกถึงโคนลิ้น เพรียวรีบแนะ ถ้าคุณหมิงทำห่อหมก ต้องซัดพริกใส่อีกกำมือ เติมเครื่องลงไปอีก อย่าได้รอรา หมิง เริ่มกังวลว่า เธอเตรียมพริกมานิดเดียวเอง...
พอฮยองกึนได้ฟังจากเพรียว รีบบอกคุณแม่ คุณแม่แสบพอกัน รับรองว่าแม่เตรียมพริกมาใส่กิมจิสามกำมือเกินพอ คุณหญิงได้สูดปากถึงใจแน่...เพรียวยังกำชับให้ใส่เข้าไป เท่าไหร่เท่ากัน คราวนี้ดังจนฟ้าแตก...
ooooooo
ในห้องแต่งตัว ขณะที่อลินแต่งหน้าอย่างใจเย็น แต่หมิงกับฮยองกึนต่างทุ่มเทจนแทบหมดกึ๋น โดย เฉพาะการเอาพริกมาปั่นเพื่อใส่อาหารให้คุณหญิงถูกใจในรสเผ็ด จนทั้งสองน้ำหูน้ำตาไหล เพราะมือป่าย ขอบตาอย่างลืมตัว...
เมื่ออลินแต่ง เสร็จ บอกเพรียวว่าพร้อมแล้ว พสุเดินตามอลินไปแต่ไม่ทัน แต่ได้ยินฮยองกึนถามแม่ว่า พริกแค่นี้พอไหม? แม่สั่งเพิ่มอีกหน่อย คนวงในบอกว่าคุณหญิงชอบเผ็ดๆ เติมให้แซ่บๆเข้าไว้ พสุฟังแล้วชะงัก พสุมองเข้าไปเห็นฮยองกึนช่วยแม่ตำพริกกันหน้าตั้ง ส่วนที่ติดๆกันนั้น เสียงลูกเป็ดเรียกหมิงหยุดตำพริกมาแต่งผมดีกว่า...พสุเดินเข้าไปดู หมิงบอกว่ายังแต่งไม่ได้ เดี๋ยวคุณหญิงไม่ชอบ...พสุยืนคิด แล้วนึกถึงคำพูดของเขาที่บอกอลิน...
ในห้องจัดการแข่งขัน อลินแอ่นแต้เข้าไปหาคุณหญิง ทรุดนั่งลงที่พื้นไหว้สุดนอบน้อม จนคุณหญิงต้องรีบให้ลุกขึ้นมานั่งเก้าอี้ แล้วชมว่าอลินตัวจริงสวยกว่าบนจอแก้ว อลินชมคุณหญิงว่า ท่านดูเด็กกว่าที่เห็นตามนิตยสาร ถ้าไม่แนะนำ คิดว่าคุณเล็กพาเพื่อนมาดูคัดตัวมากกว่า...คุณหญิงอมราหัวร่อร่าฮ่าๆเอิ๊ก ถูกใจสบายอารมณ์...
อนุชามองอลินอย่างชื่นชม เมื่ออลินหันมาสบตาอนุชาเป้งเดียว เธอยิ้มน้อยๆ ขยิบตาแล้วขมิบอารมณ์ให้มากไว้...
พสุเดินมาเห็นอาการผสานมายาของอลิน ถึงกับอ้าปากอย่างไม่เคยเห็น
คุณ หญิงอมราถามถึงอลินเป็นหลานเจ้าพระยาเมืองนครชัยศรีใช่หรือไม่ อลินรีบรับ คุณทวดเป็นเจ้าพระยา ส่วนคุณตาหลังเกษียณกำลังจะเล่นการเมืองก็มาด่วนเสียไปซะก่อน คุณหญิงจึงบอกว่า ท่านกำลังจะลงสมัครที่สุโขทัย กำลังจะให้อลินช่วยขอเสียงทางสุโขทัย อนุชาต้องขัดจังหวะ เสนอให้ทดสอบฝีมือกันเลย...อนุชาเชิญอลินเริ่มต้นก่อน
อลินลุกเดินไป อย่างแช่มช้อยประจำที่ อนุชาตามไปแนะนำ ทั้งสองช่างสมกันดีแท้ในสายตาทุกคน มีแต่พสุเท่านั้นที่มองอลินอย่างไม่ชอบใจโก๋...อลินมองหาจนพบพสุ จึงยิ้มให้นิดๆ
อลินเริ่มการปรุงอย่างคล่องแคล่ว หลายคนชมชื่น พสุทั้งขุ่นใจทั้งลุ้นอลินระคนกัน อนุชาดูไปให้คะแนนไป... กระทั่งเมื่อเปิดเตาอบเอาใส่จานให้คุณหญิงและอนุชาคนละจาน คุณหญิงชิมด้วยความชื่นชมว่า หนูลินทำซูเฟล่ได้อร่อยมาก อลินยิ้มแป้นแล้น อนุชาบอกว่าอร่อยไม่มีที่ติ อลินรีบบอกว่า นึกว่าจะพลาดอีกแล้ว
"อุ๊ย หนูลินทำได้คล่องแคล่ว แถมอร่อยอีกต่างหากแบบนี้ไม่มีพลาดจ้ะ" คุณหญิงยิ่งกว่าบอกข้อสอบ พสุยืนมอง ได้ยินยิ่งเครียดขรึมยิ่งขึ้น...
แล้ว หมิงก็หอบของเข้ามา อนุชาจึงเชิญแสดงฝีมือทันที อลินขออยู่ดูการแสดงฝีมือของหมิงต่อ อยากหาความรู้ทำห่อหมก อนุชายิ้มให้ ชื่นชมที่อลินมีน้ำใจและใฝ่หาความรู้ พสุฟังการชื่นชมของทั้งสองแล้วรู้ทันทีว่า ช่วยกันเสแสร้งแกล้งยกกันเกินเลย....
หมิงเปิดการปรุงอย่างคล่องแคล่ว จับโน่นผสมนี่ เมื่อคุณหญิงเห็นพริกแดงเถือกถึงกับอ้าปากออกอาการเผ็ดด้วยสายตา เอาผ้ามาซับเหงื่อก่อนแล้ว หมิงยิ้มพอใจ หันมามอง หยันอลินอย่างสะใจ พสุเห็นอาการซ่อนปมร้ายของอลิน ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้น...
ooooooo
ทันที ที่รถอลินวิ่งมาจอดหน้าคอนโดฯของเธอ พสุลงรถมาเปิดประตูให้ แล้วหน้าตูมตึงไม่พูดจา อลินต่อว่า ทำไมเขาไม่พูดจาแล้วยังมาทำหน้างอใส่ พสุจึงถามว่า อลินเอาข้อมูลที่เขาให้ไปหลอกคู่แข่งทำไม
"ผมเห็นคุณหัวเราะ ขณะคุณหญิงชิมอาหารแล้วแทบลมจับเพราะเผ็ด ไปโกหกพวกนั้นทำไม"
" ฉันไม่ได้ตั้งใจ" อลินลอกการเล่นละครของป้าเล็กมาใช้ ทำท่าโศก "ฉันพูดเล่นๆ ไม่นึกจะไปทำจริง ฉันไม่ได้ทำผิด พวกนั้นทำตัวเอง ถ้าเขาไม่หูเบาไม่ชอบฟังเรื่องเม้าท์ของคนอื่น ก็ไม่เดือดร้อน"
"เอาละ ผมไม่อยากเถียง ผิดชอบชั่วดีเป็นของคุณ โลกของคุณมันต่างกับโลกของผม" เขาถอดเสื้อคนขับรถออก "ดีใจด้วย วันนี้คุณตีบทพิธีกรแตก คงได้งานตามที่หวัง แม้จะแทงข้างหลังแล้วเหยียบหัวคนอื่นขึ้นก็ตาม" โยนเสื้อให้ทันที "ขอให้โชคดี ทั้งในเรื่องงานและเรื่องผู้ชาย" คำว่าผู้ชายแดกดันเต็มคำ แล้วเดินหนีไป ไม่สนใจเสียงเรียกจากอลิน...แล้วเธอก็ยังยืนกราน
"ทำไมต้องโกรธ ฉันไม่ได้ทำผิดสักหน่อย" เชิดหน้าขึ้นเสียงดังเชอะออกมาจากปากของเธอ สายสัมพันธ์ของทั้งสองขาดผึงตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป...
พสุเอาเรื่องการ กระทำที่เขาไม่ชอบของอลิน ที่ไปทำกับคนอื่นในการชิงชัยเรื่องทำอาหารมาบอกปฏิคม พสุไม่นึกว่าเธอจะกล้าทำขนาดนี้ ปฏิคมบอกนี่ยังน้อยไป องค์ป้าเล็กเข้าสิงแน่นอน พสุยืนยันว่า เขาไม่ชอบเอาเปรียบใคร ไม่ชอบวิธีเอาชนะกันแบบนี้
"คุณลินของแกเอาความลับที่ฉันให้หาประโยชน์ ใส่ตัว ฉันรับไม่ได้ ทำไมต้องลงทุนทำเพื่อผู้ชายอย่างนายอนุชาขนาดนี้...แต่จะว่าไป สองคนนี้เขาเหมาะกันดี ถ้าคุณหญิงอมราได้คุณลินเป็นสะใภ้ คงจะสนุกพิลึก"
"เฮ้ย อย่าพูดเป็นลางร้าย แบบนี้ฉันซวยแน่ คุณลินต้องยกหูหาฉันทุกห้านาที ชัวร์"
"แกเตรียมตัวได้เลย เพราะคุณลินได้งานพิธีกรแน่ เรื่องวุ่นๆ จะตามมาเพียบ...ชัวร์ปึ๊บ"
ปฏิคมเส้นหมี่หล่นเป็นสายจากปาก บอกได้คำเดียวว่า ซวยละกูตานี้...

จบ สูตรเสน่หา ตอนที่ 2

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : ไทยรัฐ

Readlakorn เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ ละครเกาหลี ละครช่อง3

Related Posts



0 comments:

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal