Wednesday, October 28, 2009

สูตรเสน่หา - เรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ - สูตรเสน่หา ตอนที่ 1

สูตรเสน่หา - เรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ - สูตรเสน่หา ตอนที่ 1

http://www.baanseries.com/asp-bin/images-source/image/series/%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%B2-%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3-02.jpg


หน้าโรงแรมหรูที่สุดใต้ฟ้าบางกอก...คืนนี้...
สุดสว่าง พร่างพราย เจิดจ้าและส่งประกายระยิบระยับ มีเสียงดนตรีเริ่มด้วยการโหมโรง จุดชนวนความตื่นเต้น แทบจะดังไปทั่วทั้งบ้านทั้งเมือง แม้ที่ไกลออกไปก็เฝ้าจับจ้องทางสื่อนานาไม่วางตา
บนเวทีแห่งงาน "เดอะ ไวท์ไนท์" ที่มีแขกมาอย่างล้นหลาม สว่างแพรวพราวด้วยชุดสีขาวที่ประชันกันมาละลานตา... พิธีกร ออกมาบนเวที เปิดตัวละครสุดฮิตสุดฮอต ถึง 7 เรื่อง 7 โปรเจกต์ยักษ์...ผู้คนมองไปจนละลานตากับโปรเจกต์มหึมาที่เรียงรายให้ชม...
ภาพ ที่หน้างานขึ้นจอใหญ่...เริ่มความตื่นเต้นด้วยเสียงดนตรีกระหึ่มต้อนรับ... สิ่งที่ผู้คนรอคอย คือ การทยอยกันมาของดาราที่กำลังดังระเบิดแห่งยุค...
เริ่ม ด้วยการมาของนางเอก ที่ชื่อ "พลอย"...ก้าวลงจากรถคันหรูที่หน้างาน ช่างภาพช่างกล้องถ่ายกันจนนางเอกแทบล้มด้วยตาพร่า แต่ยังยิ้มหวานฉ่ำไม่เลิกรา...คนต่อมาคือ "มิวมิว" ลงรถมาในมาดสวยหวาน เนี้ยบ ก้าวฉับๆ แอ่นระแน้นิดๆรับการยิงของช่างภาพ ที่ช่วยกันยิงจนมือหงิก...
แล้วเสียงปรบมือยิ่งดัง เมื่อดาราดัง แม้จะมาในมาดนางร้ายหลายเรื่องบนจอแก้ว "หมิง-ดารารัตน์" มาในชุดโชว์อึ๋ม อกตัน เสียงเป่าปากดังเบาๆ แต่มีเสียงฮือๆ เป็นนกทึดทือระงมถมเถ ยิ่งตากล้องสารพัดชนิดมารุม เธอยิ่งแอ่นหน้าหลังให้ถ่าย สายใจเฉิบ...
จาก นั้น เสียงพิธีกรตะเบ็งขึ้นมาอย่างตื่นเต้น....ขอเชิญพบและทักทายกับนางเอกที่ กำลังดังเป็นพลุแตกกลางฟ้า เจ้าของผลงานละครถึง 3 เรื่องในคืนนี้ เสียงประกาศชื่อดังกึกก้องขึ้น "คุณอลิน ทิพยดา" ....บนจอมีภาพอลินมาในบทละครถึงสามเรื่องติดต่อกัน คือ...ละครพีเรียด เธอมาในชุดไทยสมัยร.5 ในชื่อเรื่อง "รักสามภพ" ภาพเรื่องต่อมาเป็นละครแอ็กชั่น เธอมาในชุดดำรัดติ้ว ใส่หน้ากากคริสตัล ในเรื่อง "สายลับหน้ากากแก้ว" และเรื่องที่สาม "อลิน ทิพยดา" มาในมาด ราชินีบนหลังม้าในชื่อ "บัลลังก์ราชินี"...
แล้วภาพที่คนจ้องกันทั้ง เมือง...เริ่มด้วย อลินมาในรถเก๋งยาวแปดวา เธอค่อยๆเยื้องย่างลงจากรถ ในชุดเฟอร์ ขาวหรู ตามแบบชุดเมืองหนาว เธอไม่ได้หนาว แต่มาเสริมความสง่างาม ให้นักข่าวช่างภาพได้มารุมกันแทบเหยียบกันตายหน้างาน พอถอดเฟอร์ออก เธออยู่ในชุดแดงทั้งปี แดงจริงๆแดงไม่เกรงใจฟ้าดิน...จากนั้น นักข่าวช่างภาพ ต่างก็ฮือกันมารุมยิงกระหน่ำด้วยแสงแฟลชไลต์และแสงไฟทีวี จนแทบมองไม่เห็นอลินทีเดียว ดาราที่มาก่อนหน้า ยังต้องเขย่งขาตามองอย่างอิจฉาไปตามๆกัน
จากนั้น เมื่ออลินได้มีโอกาสหายใจ เธอมองเห็นหมิง ดาราดังแต่ถูกชาวบ้านเกลียดเพราะเป็นตัวอิจฉาตาร้อน อลินเรียกไว้ ก่อนที่หมิงจะเดินหนี อลินวิ่งไปกอดหมิง แล้วยืนให้ถ่ายรูป อลินสะใจที่หมิงช่วยส่งเธอให้เด่นขึ้นมาอีกตั้งเป็นสองสามกอง...ก่อนที่ดารา จะก้าวไปสู่เวที ตามหมายกำหนดการ...
ooooooo
ในโลกมายา...มี ทั้งน่ารักใคร่ ชื่นชมยกย่อง และความชิงชังรังเกียจ มีทั้งสอดรับปรับประสานกัน... สลับกันไป...เช่นเดียวกับโลกและสังคมอื่นๆ...แต่ในโลกมายานั้น...มันถูกจับ ตามองมากกว่าสังคมอื่น...ในที่สุด ทุกสรรพสิ่ง มันมีขึ้นต้น ก้าวสู่ความสูงส่ง และท้ายที่สุดกลับลงสู่ความไม่มีดุจดังการเริ่มต้น ฉะนั้น...
ดาราดังระเบิดเลิศทะลุฟ้า อย่าง อลิน ทิพยดา เธอผู้มาจากชาวไฮโซ...ร่ำรวยมหาศาลเหมือนกับว่า ดวงตาของเธอนั้น มองเห็นแต่ฟ้า ไม่สามารถมองทะลุลงมาสู่ดินได้เลย...
เมื่อเริ่มสู่วงการ นั้น หมิง เป็นดาราที่มีทุกสิ่งที่เหนือกว่า ในความเป็นดาราดัง หมิงดูดีกว่าอลินไปหมด...นี่คือจุดเริ่มต้น ที่อลินแอบขุ่นเคืองในใจ แล้วคิดอะไรๆไว้เพื่อจะเอาชนะหมิง...
และแล้วแผนของอลินก็ได้ผล เมื่ออลินเปลี่ยนเอาหมิงออกไป เอาดาราที่ด้อยกว่าอลินมาร่วมเล่นในช่วงนี้แทน จนหมิงไม่พอใจ...ไปต่อว่าพี่ติ๋ม ผู้จัดละครเรื่องนี้ พี่ติ๋มต้องขอโทษหมิงและว่า หมิงดูดีกว่า ไม่เหมาะกับบท จึงให้คนอื่นที่ดูแย่กว่ามาแทน หมิงรู้ดี จึงบอกพี่ติ๋ม
"หมิงไม่โกรธพี่ ติ๋มหรอกค่ะ หมิงรู้ว่า คนที่ขอเปลี่ยนตัวหมิงคือนังลิน คนที่หมิงเกลียดคือมัน ไม่ใช่พี่" หมิงคว้ากระเป๋าเดินหนีไป...พี่ติ๋มมองอลิน เห็นยืนเด่นเฉิดฉาย มันแตกต่างจากการกระทำของเธอฟ้ากับดิน...
อลิน ในอีกบทหนึ่ง เธอต่อว่าผู้กำกับ ว่าบทเธอมันอ่าน ยาวก็ยาว ใครจะจำได้ ให้คนเขียนบทมาเล่นเองบ้าง แล้วสำทับ
" ถ้าพี่ไม่เปลี่ยนบทให้ ก็เปลี่ยนนางเอกก็แล้วกัน" อลินเดินหนี ผู้กำกับและทีมงานเป็นโรคเอ๋อไปตามๆกัน... แล้ว...จึงได้ดาราคนอื่นมาประกบ คนนั้นคือ ดาราดัง "พลอย" เข้ามาเสียบบทอลินแทน ข่าวนี้ดังระเบิดทำนอง "อลิน วืด พลอย...เสียบแทน" หรือไม่ก็ "อลินถูกปลดกลางอากาศ"
การเล่นตัว ของอลิน ในเรื่อง บัลลังก์ราชินี...ทุกคนทนไม่ไหว จึงเปลี่ยนตัวเอา "มิวมิว" มาสวมบทนางเอกแทน ข่าวที่ออกมาจึงเป็นว่า "ปลดนางเอกขี้วีน" หรือ "วืดรอบสอง อลินขาลง" หรือรูปอลินเล็กลง ตามด้วยข้อความ "นางเอกไร้บัลลังก์" กระทั่ง "นางเอก งานหด...ตกบัลลังก์"
ทั้งข่าวทั้งรูปของอลิน นับวันแต่จะเล็กลง จนกระทั่งหายไปจากหน้าจอและหน้ากระดาษ
ooooooo
เวลา ผ่านไป 2 ปี...ครูอนันต์ บิดาของอลิน รู้ดีว่าลูกสาวเป็นดาราอับแสง จึงมาหา บอกลูกว่า การเป็นดารา เงียบไปนานๆไม่ดี ควรจะรับบทเล่นบ้าง แต่อลินตั้งข้อรังเกียจว่า ไม่มีบทได้ดังใจ มีแต่เรื่องผีดิบ ผีพวงเซ่งจี๊ เธอไม่เล่น จนกว่าจะมีบทดีๆมาให้เล่น พ่อยืนยันว่า โลกมันเปลี่ยน นางเอกดังๆไปเล่นบทตัวร้าย ก็ดังเปรี้ยงปร้างได้ คนดูไม่ว่าอะไร พอลูกสาวถามว่า มันเรื่องอะไรพ่อถึงมาว่าเธอ พ่อจึงบอกว่า พ่อไปอ่านคอลัมน์หนึ่งมา ไม่สบายใจ แล้วเอาให้ดู อลินอ่านทันที
"...นางเอกเจ้าบทบาท ถูกโหวตให้เป็น...นางเอกขาลงสองปีซ้อน...ไม่มีงาน ไม่มีข่าว ไม่มีอะไรน่าสนใจ...จบ... เฮ้ย..บ้าจริง"
" ถ้าไม่มีใครเสนอบทมาให้ พ่อว่าลินกลับไปอยู่บ้านสวนเราดีกว่า เก็บค่าเช่าสวน ค่าเช่าตลาด เดือนนึงๆตั้งหลายแสน ไม่เหนื่อยด้วย" อลินรีบบอกพ่อว่าเธอเป็นดารา จะไปเก็บค่าเช่าได้ไง จากนั้นพ่อเตือนว่า ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน มีดังก็มีดับ ไม่มีใครเป็นนางเอกตลอดกาล "ถ้าลูกทำใจไม่ได้ ลูกต้องตัดใจจะอยู่ให้เขาโหวตให้เราเสียชื่อหรือเสียใจแบบนนี้ไปทำไม" อลินก้มหน้านิ่ง...ไม่ยอมรับความจริง...
พ่อกลับไปแล้ว อลินยังทำใจไม่ได้ ยิ่งเห็นบนจอแก้ว มีดารารุ่นใหม่มาเป็นแถว ดารารุ่นเก่าก็ยังเปลี่ยนมุมเปลี่ยนบทบาท ที่มีอยู่มากมายในรายการ นอกจากการเป็นนางเอกลูกเดียว
"ทำไมไม่มีใครมาติดต่อฉันเลย..." อลินคับแค้น ปิดทีวี ปารีโมตทิ้ง...มองไป คิดไป นึกถึงคำพูดของพ่อ...แล้วอลินน้ำตาซึม รำพึงว่า หรืออาชีพนักแสดงของเธอจะจบแล้วจริงๆ...เสียงมือถือดังขึ้น
อลินรับ แล้วต้องรำพึง...เขาจะให้เธอไปทดสอบ บท "พิธีกร...รายการอาหาร"
ooooooo
เพรียว ในนาม "บริษัทอวตาน"บอกอลินว่า เขาจะผลิตรายการอาหารแนวใหม่ ต้องการพิธีกรที่มีความสามารถเช่น คุณอลิน อลินยังเล่นตัวว่าต้องเช็กคิวกับผู้จัดการก่อน...เพรียวรู้ว่า ตอแหล อลินเล่นตัวว่า เธอไม่ค่อยได้สนใจพิธีกรเท่าไหร่ แต่พอรู้ว่าได้เวลาดี แล้วยังจะเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าอีกมาก
อลินสะระตะแล้ว รีบตกลงทันที เพรียวจึงนัดอลินไปคุยกันพรุ่งนี้เลย...
อลิ นไปนั่งรอที่ห้องประชุม บริษัทอวตาน อนุชาก้าวมาในมาดหนุ่มฟ้อพ่อรวย หล่อเฟี้ยว เพรียวตามหลัง เขามาจับมืออลิน ยินดีที่ได้รู้จัก ต่างแลกเปลี่ยนชื่อเล่น อนุชาชื่อเล็ก ส่วนอลินให้เรียกลินเฉยๆ ทั้งสองจับมือกันแน่น ไม่ยอมปล่อย อลินรู้ตัว รีบปปล่อยทันที ตามเขาไปนั่งคุยกัน อลินเริ่มจะเคลิ้มมาดหล่อของผู้จัดการเล็ก
คุยกันตาม ธรรมเนียม พอเล็กถาม คุณลินชอบอาหารอะไร ลินบอกทันทีว่าอาหารฝรั่งเศส ชอบ "ซูเฟล่เนยแข็ง กับ ซอสปู" ทานกับซุบหัวหอม ตามด้วยปลาเทราต์กริลล์กับ
อัล มอนด์ซอส..."อร่อยม้ากกก...ในเมืองไทยหาทานยาก แต่ใครได้ลองต้องร้องชอบทั้งวัน...พอเพรียวบอกว่า เราจะมีการทดสอบการทำอาหารกันเลย อลินตาโตตกใจแทบตายเมื่อรู้ว่า จะมีการให้ทำกันจริงๆจังๆ มีกรรมการมาคอยดู เพื่อคัดเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด...อลินงึมงำว่าทำอาหารจริงๆหรือนี่...พอ อนุชาหันมามอง อลินรีบยืดใส่ว่าวิเศษ เธอชอบทำอาหาร จะแสดงฝีมือทำซูเฟล่เนยแข็งให้ดังระเบิดทะลุโลกไปเลย...
อลินโม้เพื่อชาติจนลืมน้ำยาตัวเอง...
เมื่อ อลินกลับไป รีบโทร.ไปปรึกษาปฏิคม...เมื่อเขารู้ว่า ลูกสาวครูที่เขานับถือมาก ไม่ได้รู้เรื่องทำอาหารเลย จึงแนะให้ถอนตัวดีกว่าเยอะเลย อลินจี๊ดขึ้นสมอง...สั่งการทันที
"จงรีบหาครูมาสอนให้ฉันทำอาหารฝรั่งเศสให้ได้ ภายในหนึ่งวัน"
"คุณผึ้งครับ"ปฏิคมเรียกผึ้ง ชื่อเล่นเก่าแก่ของอลิน "แค่ไข่เจียวครึ่งลูก คุณผึ้งยังไม่เคยทำเลย"
" นี่ อย่ามาเรียกชื่อบ้านนอกได้ไหม ฉันคือคุณลิน เรียกให้ถูกๆ ไม่งั้นฉันจะไปยืนด่านาย หน้าสำนักทนายที่สร้างมาจากเงินพ่อฉัน" ย้ำให้ไปหาครูมาสอน แล้วรีบรายงานให้เธอทราบที่ร้านเดิม สองทุ่มปฏิคม...ยืนมะลื่อทื่อ กลัวอลินจนไม่กล้าแม้จะปิดมือถือ...
ooooooo
พสุ ชายหนุ่มเชฟมือดีเฉียดกุ๊กอัจฉริยะ กำลังอยู่ในห้องครัวร้านอาหารอิตาเลียน บรรเลงเพลงปรุงอาหารสำหรับคออาหารยุโรปอยู่ในห้องครัวอย่างคล่อง แคล่ว เสียงฉาดฉ่า ส่งกลิ่นหอมหวนชวนลิ้มลอง เสร็จแล้ววางอย่างงามๆ ผู้จัดการร้านมายืนหน้าตึงวางมาดชิม แล้วงึมงำ
"ใช้ได้...แต่ก่อนจะรับ เข้าทำงานจะให้ลองเข้าครัวคืนนี้ ถ้าผ่านการทดสอบ พรุ่งนี้ให้เริ่มงานจริงทันที" ผู้จัดการเดินหนีไปแล้ว....พสุรีบพยักหน้าหงึกๆ ยิ้มด้วยความหวังจะได้งานคราวนี้แน่
พสุหันไปกดมือถือไปหาแม่ที่บ้าน บอกว่าคืนนี้กลับดึก เขาให้ทดลองงาน ถ้าผ่านพรุ่งนี้ได้งานแน่ แม่ฟังแล้วพลอยดีใจด้วย พสุตัดสาย หันมา พนักงานเอาออเดอร์มาวางให้ทันที...
ขณะ เดียวกัน...อลินมานั่งร้านอาหารอิตาเลียนเช่นกัน... วางมาดนางเอก ยิ่งเชิดเมื่อหลายคนจำได้มองดูเธอ อลินสั่งน้ำมาดื่ม กำชับเอาน้ำอุ่นขนาดไหนเป็นนาน พอบ๋อยถามอาหาร เธอตั้งคำถามว่า เชฟสลัดมีส่วนผสมอะไรบ้าง? บ๋อยยืนเซ่อไปทันที
เมื่อบ๋อยไปบอกเชฟพสุ ตามที่อลินถาม พสุก็อธิบายมายาวยืด พอถามอีกอย่าง พสุก็อธิบายอีกมากมาย ถามถึงน้ำสลัดเป็นแบบไหน พสุมองเพดาน แทบจะหมดความอดทน... พอฟังแว่วๆมาจากพสุแล้ว อลินปิดเมนู แล้วพูดดังๆให้เชฟพสุได้ยิน
"โอเค ฉันเอาเชฟสลัด แต่ไม่เอามะเขือเทศ ไม่มะกอก ไข่ต้มไม่เอาไข่แดง น้ำสลัดใส่น้ำตาลทรายแดง ไม่ใส่เยอะ ใส่ครึ่งนึง รากผักชีไม่เอา ไม่เข้ากัน น้ำส้มโอคั้นไม่ใส่ ฉันไม่ชอบกินส้มโอ ผักสี่อย่าง ขอเป็นผักกาดม่วง แครอท เซอราลลี่ พริกหวานสีเหลืองซอยบางๆ ที่สำคัญห้ามคลุก ฉันจะมาคลุกเอง"...ขาดคำสั่งของอลิน พสุลืมตัวโยนกระทะลงเตาอย่างแรง คนใกล้ๆหันมามอง
"ตกลงเขาจะเอาเชฟสลัด หรือเซลฟ์สลัดกันแน่ เล่นคิดสูตรเองสั่งมาแบบนี้ ไม่ต้องเอาสูตรพ่อครัวก็ได้มั้ง..." พูดดังๆ "ไปบอกเขาว่า ถ้าจะให้ทำตามที่เขาสั่ง ก็ลงรายการพิเศษมา แต่ถ้าจะสั่ง เชฟสลัดสูตรพ่อครัว ก็ต้องทำตามสูตรของผมเท่านั้น"
เสียงเข้าหูเต็มๆ อลินแทบชักกระตุก หันไปจิกบ๋อยจนผงะ
"ทำไม ฉันต้องการสั่งอย่างที่ฉันต้องการ แต่ใช้ชื่อว่าเชฟสลัด มันจะเป็นจะตายแค่ไหน"
" ก็เขาไม่ใช่เชฟ" พสุว่าฝากบ๋อยตามเคย "ถ้าผมทำตามที่เขาสั่ง แล้วมันไม่อร่อย มันเสียชื่อพ่อครัว ไม่ใช่แค่ผม แต่ทุกคนในร้าน คุณช่วยไปอธิบายให้เขาเข้าใจหน่อย ผมไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ"
" ไปบอกพ่อครัวคุณด้วยนะ" อลินก็ร้อนผ่าวไปทั้งตัวพอกัน "จะเรื่องมากอะไรนักหนา ฉันสั่งให้ทำอะไรก็ทำมาสิ ฉันไปสั่งร้านอื่นไม่เห็นจะมีปัญหา...รีบๆทำมาด้วย ฉันหิว... ฮึ่ยยยย...ไร้สาระจริงๆ" อลินส่ายหัวดิกๆ ผู้จัดการเดินมาถามอลินว่า มีปัญหาอะไรหรือครับ?
ต่อหน้าผู้จัดการ พสุกับอลินเผชิญหน้ากัน ไม่มีใครยอมใคร
พสุตอบโต้อลินทันทีว่า เขาไม่ได้เรื่องมาก ถ้าจะให้ทำตามต้องลงเป็นเมนูพิเศษ...
"ไอ้สูตรที่เขาบอกมา ไม่ใช่แค่ไม่อร่อย แต่มันกินไม่ได้ ด้วยซ้ำ"
" แต่ฉันจะกิน" อลินเสียงดัง เดินมาประจันหน้า เตรียมประจัญบาน "คุณเป็นแค่กุ๊ก ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นในสิ่งที่ฉันจะกิน มีหน้าที่ทำก็ทำ ตามที่ฉันสั่ง"
พสุไม่โต้ตอบ ผู้จัดการรีบขอโทษขอโพย แล้วรับรองจะให้เชฟทำให้ตามสั่งทุกประการเทอญ อลินเดินกลับไปนั่งโต๊ะ พสุบอกผู้จัดการว่า เขาทำให้ได้ แต่อย่าใช้ชื่อเชฟสลัด อลินหันมาแว้ด ทำไม มันสูตรของเธอ จะใช้ชื่อเชฟสลัดไม่ได้... พสุยืนยันว่าไม่ได้ มันเสียชื่อเชฟอย่างเขา ไม่ใช่ของคุณ เพราะของคุณไม่อร่อยแน่...ทุกคนมองอลิน เธอจึงตวาดกวาดไปรอบข้างว่า มองอะไร? แล้วหันไปทางผู้จัดการ บอกว่าเธอไม่ใช่คนเรื่องมาก แต่คราวนี้มันเกินไป
"ลินยอมรับว่าไม่พอใจมากๆ ไม่รับปากว่าจะเผลอให้ข่าวกับหนังสือพิมพ์ หรือโทรทัศน์หรือเปล่า แล้วช่วยบอก กุ๊กด้วยว่า ทำตามที่ลินสั่งอย่างไม่มีเงื่อนไข"
"ขอโทษนะ ครับ ผมทำไม่ได้จริงๆ" พสุว่าแล้วถอดผ้ากันเปื้อน หันไปหาอลิน "ถ้าคุณต้องการกินตามที่คุณสั่ง... ก็ทำเองก็แล้วกัน" โยนหมวกไปอีกทาง พสุเดินออก ผ่านโต๊ะอลิน เธอเปรยขึ้น
"คนอย่างอลิน ไม่ต้องการทำเองก็ได้กิน" หันบอกผู้จัดการ "ถ้าผู้จัดการหาคนทำตามสูตรอลินได้ อลินพร้อมจ่ายในราคาพิเศษ เท่าไหร่ก็ไม่อั้นประตู" อลินเชิด พสุมองแล้วแหงะ หน้าหนี แทบไม่เชื่อว่า จะมาเจอผู้หญิงพันธุ์ดึกดำบรรพ์เยี่ยงนี้...
หลังจากผู้จัดการบอกกับพสุ เป็นครั้งสุดท้ายในห้องด้านในว่า เพื่อไม่เป็นตัวอย่างไม่ดีต่อพนักงานคนอื่น แล้วคุณอลินเขาเป็นดาราและลูกค้าประจำ ทางร้านคงให้เขาผ่านงานไม่ได้...พสุเอ่ยคำว่า ดารา ออกไรฟัน ก่อนจะก้มหัวลาผู้จัดการกลับไป...
เมื่อปฏิคมมาถึง พอรู้เรื่องเข้า ถึงกับตบอกสามผาง แค่เขามาช้าไปหน่อย คุณลินหาเรื่องไล่เชฟออกไปคนนึงแล้ว อลินบอกว่านายกุ๊กหาเหาใส่หัวตัวเอง ว่าแล้วผลักจานหนี บอกว่า อาหารไม่อร่อยเลย...ปฏิคมบอกว่า ยังหาครูมาสอนทำอาหารไม่ได้ อลินเซ็ง วางรายชื่ออาหารให้ พร้อมบอกว่านี่คือรายชื่ออาหารที่ต้องทำในการทดสอบ แล้วสั่งแบบสำทับ
"หาครูมาสอนฉันให้ได้ ภายในพรุ่งนี้...อย่างไม่มีเงื่อนไขให้รำคาญใจ" วางกระดาษให้ แล้วลุกเดินออกจากร้านไป ไม่ ฟังเสียงเรียกของปฏิคม....เขาหยิบรายชื่ออาหารมาพูดคนเดียวเหมือนคนบ้า
"เฮ้อ...ตูจะทำอันหยังดีหวา..."
ooooooo
นาย พสุ แต่ไม่มี...ธา...แม่ตั้งชื่อเล่นให้ว่า ดิน... กลับมาถึงบ้าน แม่นงพะงาเห็นหน้าลูกชาย ก็รู้ว่าไม่ได้ งาน แต่แม่กลับยินดีมากที่จะได้อุ้มหลานเร็วขึ้น เพราะทุกวันนี้ งานสอนทำอาหารที่โรงเรียนก็เยอะ ไม่มีเวลาไปจีบผู้หญิง...พสุมองแม่ยิ้มๆ ชมว่า มิน่า เจ้าสัวมีเมีย ตั้งสองคนแล้ว ยังอยากได้แม่เป็นเมียอีก...แม่หาว่าลูกนรก ลามปามแม่...พอดีเสียงมือถือดัง พสุรีบรับ ร้องออกมาดังๆ
"เฮ้ย...ว่าไง...แกจะให้ฉันทำอะไรนะ"
พสุ นิ่งฟัง พอซักกลับไป เพื่อนที่โทร.มากลับนัดให้ไปพบที่ร้านหนึ่ง...พอทั้งสองพบกัน สั่งอาหารมา ลงมือกินก่อนพูดธุระ ปฏิคมส่งเศษกระดาษให้ พสุอ่านทันที "ซูเฟล่เนยแข็ง ซอสปู..." เพื่อนขอให้ไอ้ดินของเพื่อน ช่วยไปสอนทำอาหารตัวนี้ให้ที เขาเป็นดาราดังมากเมื่อสองปีก่อน เป็นลูกสาวผู้มีพระคุณ เขาจะเอาการทำอาหารไปทดสอบบทพิธีกรรายการอาหาร...
การเจรจาของเพื่อนทั้งสองผ่านไปด้วยดี...
ยัง ไม่สว่างดีนัก...ขณะที่อลินนอนหลับในห้องคอนโดฯ ฝันว่ากำลังจะแต่งงานกับอนุชารูปหล่อ ก็ต้องสะดุ้งตื่น เมื่อเสียงมือถือดังขึ้น อลินโกรธที่กำลังฝันดีแท้ๆ ดันโทร.มาได้...ปรากฏว่าสมเดชโทร.มาบอกว่า มีคนมาขอพบคุณอลิน บอกว่าเขานัดคุณไว้ พอจะให้คุยกัน ปรากกว่า แขกที่มาพบกลับ หายตัวไป รีบบอกอลินว่า แขกที่มาขอพบเรื่องอาหาร ขึ้นไปหาแล้ว...อลินตกใจ...แต่เมื่อบอกว่ามาเรื่องอาหาร จึงนึกออก... พอดีเสียงออดหน้าห้องดังขึ้นกระชั้นถี่ อลินวิ่งไปเปิดประตูรับแทบไม่ทัน
พออลินเปิดประตูออกมาเท่านั้น พสุมายืนหน้าเข้มเต็มพิกัด เธอแทบผงะหงายหลังตึง แต่ความแค้นพลุ่งพล่าน จึงคำรามเรียก
"นะ...นาย กุ๊ก..." ชี้หน้าเต้นก๋าใส่ "นี่นายสะกดรอยตามฉัน คิดแค้นมาทำร้ายฉันเรอะ"
" อย่าเพ้อ ผมไม่ได้มาทำร้ายคุณ...มาสอนคุณทำอาหาร" อลินย้อนถาม โกหกรึเปล่า "คุณชื่ออลิน ลูกครูอนันต์ รู้จักกับไอ้คม อยากมาทำซูเฟล่ให้เป็นภายในวันเดียว ผมไม่ได้โกหก" เมื่อเห็นเธอยังรับไม่ได้ พสุขยับตัวเตรียมหันหลังกลับ อลินเรียกไว้ให้รอเดี๋ยว ปิดประตูใส่หน้าพสุปังเบ้อเร่อ
อลินเข้าไปโทร. เล่นงานปฏิคมตามเคย ที่ส่งกุ๊กที่ทำให้ เธอโกรธ จนเขาถูกไล่ออกไปเมื่อวานนี้ ถ้าเขาแค้น จับเธอปาดคอหมกห้องน้ำ นายจะแก้ตัวกับพ่อเธอว่าไง ปฏิคมรับรองว่า ไม่เป็นไร เคลียร์กับมันแล้ว รับรองไม่ถูกฆ่าหมกส้วมแน่ รีบเรียนซะ ถ้าทำอาหารไม่เป็นวันนี้ ไม่ได้งานนะ...เจอคำขู่ อลินเห็นเวลากระชั้นเต็มที จึงตกลงเรียนก็ได้ ถ้าเธอเป็นอะไรไป จะมาหักคอนายเป็นคนแรก...
อลินเดินเปิดประตูออกมา เชิดหน้าใส่พสุ ก่อนบอก โลกมันกลม ตกลงเรียนก็ได้
" ไม่ใช่เรื่องโลกกลม แต่มันเป็นกรรม ที่ไอ้คมมันต้องรับใช้คุณ กรรมที่ผมเป็นเพื่อนรักของมัน ผมต้องยอมมาสอนคุณ" อลินบอก...ปากจัด จึงถูกพสุสั่ง ยกของมาด้วย"
อลินหันไปมอง กล่องเครื่องครัววางอยู่ ถึงกับโวย...
"ฉันเป็นดารา จะมายกของได้ไง?"
"ดารายังทำคนอื่นตกงานได้ ทำไมจะยกของไม่ได้ รีบยกของเข้า คนจะมาเห็น เขารู้ว่าคุณจ้างผู้ชายมาสอนทำอาหาร อายผีสางเทวดา"
อลิ นสะอึก ลังเลว่า จะต่อกรกับนายคนนี้ยังไงดี แล้วก็จำใจก้มลงยกกล่องแสนหนัก อุ้มไปเซเข้าไปในห้อง...วางโครมถูกด่าว่า มันไม่หนักสักหน่อย อลินว่า มันไม่ใช่หน้าที่เธอ เขาจึงว้ากใส่ว่า จะทำกับข้าว ยกกระทะยกหม้อไม่เป็น อย่าเรียน มันเลย อลินถลึงตาใส่ ถูกพสุสำทับว่าจะเรียนหรือไม่เรียน
"จะเรียนรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าใน 5 นาที" เธอตอกกลับ ใครจะเปลี่ยนทัน "ไม่ทันก็ไม่ต้องเรียน" พสุหันหลังจะเดินกลับ อลินรีบอ่อนลง
" เออๆ นึกว่าขู่แล้วกลัวเหรอ...5 นาทีก็ 5 นาที" สะบัดเสียงชิชะไปตามเรื่อง แต่ต้องเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามคำสั่ง พสุมองตาม ยิ้มเพื่อสะสมชัยชนะ...
ขณะรอ พสุเดินดูภาพของอลิน ทิพยดา ที่เพิ่งเข้าวงการบันเทิงดาราใหม่ๆ กระทั่งรับรางวัลมากมาย เป็นดาราดังเป็นพลุแตกกลางฟ้า พสุมองแล้วทึ่งกับความงามของ
อลิน...แล้วยิ่งทึ่งมากขึ้น เมื่อเธอแต่งตัวทะมัดทะแมงมายืน บอกว่า...พร้อมแล้ว
พสุ มองเหมือนต้องมนต์ชมว่า ห้านาทีแต่งได้ขนาดนี้ เหรอ อลินสั่ง อย่าพูดมาก เธอจะรีบเรียน ไม่มีเวลามากนัก พอถูกแหย่ว่า ตกงานอยู่ไม่ใช่เหรอ อลินตาขวางใส่ แล้วออกตัว
"เขาเรียกว่า "เว้นวรรค" การแสดง ไม่ใช่ตกงาน... ปากพันธุ์ไหนเนี่ย...รีบๆสอนได้แล้ว"
พสุ จึงเริ่ม...ก่อนสอน ต้องคุยเรื่องสำคัญก่อน ต้องรู้ว่า ทำอาหารอะไรเป็นบ้าง เธอตอกกลับว่า ถ้าเป็นแล้ว จะมาเรียนหาพระขรรค์อันใด? พสุตั้งเงื่อนไขใหม่ว่า ถ้าไม่เป็น ค่าเรียนจึงสูงตามด้วย พร้อมส่งตัวเลขค่าเรียนใส่กระดาษให้อลิน เธอเห็นตาโต บอกสอนวันเดียว ค่าเรียนมันมากพิลึก กึกกือ ไม่สมเหตุผล อลินดึงเอามา ขีดฆ่าทิ้ง เขียนลงไปใหม่ แล้วส่งคืน เขามองดู รีบเก็บข้าวของจะกลับ อลินร้องลั่นถามว่าจะไปไหน พสุเดินไปทางประตู อลินวิ่งไปขวางเสียงอ่อนลง...ต่อนิดหน่อย ทำเป็นหัวล้านไปได้ พสุบอก ราคาเขาไม่ให้ต่อ ถ้าอยากได้ถูก ให้เพื่อนเขาไปซื้อซีดีมาดูแล้ว
หัดทำเองดีกว่า
" ก็ได้...ก็ได้" อลินกัดฟันกรอดๆ "ราคานี้ก็ได้...ฉันไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ขนหน้าแข้งลิงไม่ร่วง แต่ไม่ชอบคนนิสัยเอาเปรียบ...นี่เห็นว่าเอาของมาแล้วนะ จึงไม่อยากให้หอบหิ้วกลับ...ฉันจ่ายสบายๆ"
พสุจำต้องหอบของกลับครัว อลินมองราคาบ่นอุบ "แพงอิ๊บอ๋าย ตายอ๋อง"
จาก นั้น...พสุเริ่มสอนและสั่งให้ทำโน่นทำนี่สารพัดบางครั้งถูกอลินตอบโต้อย่าง แรง ว่าเธอจ้างเขามาสอน ไม่ใช่ ให้มาข่มขู่ เอะอะก็จะขนของกลับ พอเรียกนายกุ๊ก เขายังไม่ยอม ยังให้เรียกว่า "ครูกุ๊ก" จนได้...
การสอน เริ่มขึ้น ตั้งแต่การอุ่นเตา ก่อนทำซูเฟล่ ไม่งั้นไม่อร่อย สั่งผสมแป้ง ตามส่วนที่สอนและให้จำไว้...สั่งหยิบกระทะมา ถูกดุที่วางดังไป สั่งใส่เนยลงไปยี่สิบกรัม สอนให้ใส่ยี่สิบกรัมไม่ขาดไม่เกิน สั่งเสียงดัง อลินตวาดกลับ
พูดดีๆ เธอมาทำอาหาร ไม่ได้มาฝึกทหาร พสุตะเพิดแล้ว
ลำเลิก ทีเมื่อคืนวีนครัวแทบแตก ตอนนี้มาทำขวัญอ่อน
แล้วขู่อีกว่า จะทำหรือไม่ทำ อลินจนแต้มเสียงอ่อนว่า...
ทำก็ทำสิ...
จาก นั้นสั่งตวงแป้งใส่สี่ถ้วยตวง พอใส่เกิน อลินถูกว้าก กระแทกถ้วยลงจาน แป้งฟุ้งเข้าเต็มหน้าจนร้องลั่น พสุได้แต่ สมน้ำหน้า พอลืมตาเห็นพสุยิ้มสะใจ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า ให้ทนฝากเอาไว้ก่อนเถอะ...
การ สอนทำอาหารคืบหน้าไป ท่ามกลางการถกเถียงกันทุกขั้นทุกตอน...กระทั่งแป้งกับเนยในกระทะเริ่มเหลือง มีควันกรุ่น หอมอ่อนๆ...ขณะที่ใบหน้าอลินเลอะไปด้วยแป้ง...เขาสั่งให้เธอเทนมลงไป อลินเทพรวดเดียว เสียงปะทุดังฉ่า พสุร้องลั่นบ้าน โวยใส่ให้ค่อยๆ เทแบบนี้ไม่ได้...อลินโต้ว่า สั่งช้าจะโทษใคร พสุสั่งเททิ้งไป แล้วเริ่มใหม่...อลินตั้งสติ จะเอาชนะ แล้วเริ่มทำใหม่อย่างตั้งใจ...
อลินเดินไปมา มองเตาอบ...หมายมั่นปั้นมือว่า คราวนี้ เห็นสีมือแม่แน่นอน...
เสียง เตาอบดังขึ้น อลินรีบเปิดฝาออก...อลินแทบจะหัวเราะให้ฟันหัก เมื่อกลิ่นหอมระรื่นชื่นนาสาโชยมา...ถาดซูเฟล่ถูกดึงออกมา เห็นหน้าเหลืองอร่ามน่ารับประทานแท้ ร้องว่านี่ฝีมือฉันโดยแท้ไม่น่าเชื่อ พสุก็สอดขึ้นทันทีว่า เขาก็ไม่อยากเชื่อ แล้วพสุก็จัดซูเฟล่ใส่จานพร้อมช้อนส่งให้บอกว่า ได้เวลาทดสอบฝีมือแล้ว อลินรับมา ยังจ้องมองซาบซึ้งในตัวเอง จึงถูกเตือนให้กินตอนร้อนๆ ทิ้งไว้นานเดี๋ยวแฟบ...อลินบรรจง ตัก นานกว่าจะถึงปาก ลีลาพญาหงส์เป็นนาน พอเข้าปาก ก็หลับตาเหมือนได้กินอาหารทิพย์จากสรวงสวรรค์ แล้วชมตัวเองอีกครั้งจนได้ว่า อลินเอ๋ย...มีฝีมือจริงๆ...
พสุอดทนดูลีลา การกินและชมตัวเองของอลินอยู่นาน จึงสั่งสอน อย่าหลงตัวเองให้มันเว่อมากนัก แล้วส่งคู่มือให้ เอาไว้ทบทวน หัดทำให้คล่อง จนฝีมือคงที่ อลินยังโวว่า รู้น่า...
พสุบอกเธอว่าเขาจะกลับแล้ว พร้อมแบมือ...อลินให้ รอเดี๋ยว...รีบไปหยิบกล่อง
" ฉันก็ว่าจะแบ่งให้คุณกินเหมือนกัน ฉันกินแค่อันเดียวพอ เป็นดารากินมากเดี๋ยวอ้วน" หยิบของใส่กล่องส่งให้ พสุค้านทันที "ผมไม่ได้เอาขนม"
"เอ๊ะ...ยึกยักอีกละสินี่" อลินชักเขม่น แค่เป็นกุ๊ก ท่ามาก ไม่กินอย่ากิน
"ผมจะเอาค่าสอน..." เสียงดังฟังชัด อลินถึงผงะ นึกขึ้นมาได้...แต่ขยักมุมปาก ยักไหล่ไว้ฟอร์ม
พสุ ลงมารอที่ห้องนั่งเล่น อลินเขียนเช็ค เอาลงมาส่งให้ พร้อมบอก เธอเพิ่มให้เขาอีก 10% เป็นค่าทิป เขาไม่ว่าอะไร ยัดใส่กระเป๋า...แล้วอบรมต่อ...เวลาไปทดสอบ หาถ้วยเล็กๆ มาใส่ให้ถ้วยละอัน กรรมการกินน้อยๆอร่อยกว่า ใส่ดอกไม้ข้างถ้วยเล็กๆ กินเวลาร้อน มะนาวฝานบางๆ
" ถ้ามีปัญหาอะไร โทร.ถามตามเบอร์ที่ให้ไว้ ผมไม่คิดค่าปรึกษา" เขาก้าวไป อลินจึงรีบเท้าความเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านอาหารอิตาเลียน อยากแนะนำเขา อย่ามีทิฐิถ้ามีลูกค้าอย่างเธอ ให้หยวนๆยอมๆ เธอก็วีนๆ ไม่ยอมเสียหน้าไป งั้นเอง ไม่คิดทำลายอาชีพเขา...แล้วเรื่องมันก็จบ" พสุย้อนถามว่า มาพูดเพื่ออะไร? "ที่พูดนี่ เพื่อตอบแทนน้ำใจที่ตั้งใจสอนฉันมาทั้งวัน ฉันหวังดี ไม่อยากให้ความจองหอง ทำชีวิตคุณต้องลำบาก"
"ถ้าความจองหองทำให้ผมลำบาก แล้วความเอาแต่ใจตัวเองของคุณ ทำให้คุณเป็นอะไร"
" เป็นนางเอกไง" อลินมั่นใจ เชิดใส่จนพสุจุกถึงยอดอก...เขาซึ้งจนรีบเดินหนี อลินมองตาม เรียก "ครูกุ๊ก" อยู่ หลายคำแต่ไม่หันมา จึงได้แต่ทำปากจิ๊กจั๊กหมั่นในลำไส้... พูดแค่นี้รับไม่ได้...หยิ่ง...อิ๊บอ๋ายว่ะ
ooooooo

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : ไืทยรัฐ

Related Posts



0 comments:

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal