Wednesday, September 09, 2009

มูยุล- เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ - มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน (29)-(32)

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 29

ทั้ง ที่องค์ชายมูยุลสามารถขับไล่กองกำลังของโทจินที่เข้ามาตีเมืองโชบุนได้ สำเร็จ แต่องค์ชายมูยุลกลับปล่อยโทจินไปโดยไม่ได้ตามล่าจนถึงที่สุด เคยูไม่เข้าใจเหตุใดมูยุลจึงทิ้งโอกาสกำจัดโดจิน ที่แท้องค์ชายมูยุลมีแผนการแยบยลรองรับไว้แล้ว
พระราชายูริทรงพอ พระทัยผลงานขององค์ชายมูยุลเป็นอันมาก พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยมอบพระราชอำนาจให้องค์ชายมูยุล บริหารราชการแผ่นดินแทนพระองค์
"ผู้สำเร็จราชการ หมายความว่าเป็นตัวแทนข้า บริหารจัดการได้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่เพียงแต่กำลังทหาร แม้แต่อำนาจที่ข้ามีอยู่ในมือ เจ้าก็สามารถใช้แทนได้"
"หม่อมฉันจะคู่ควร ทำงานแทนฝ่าบาทได้ยังไง ทรงถอนรับสั่งคืนเถอะ"
" เจ้ามีแนวคิดที่จะพาให้บ้านเมืองอยู่รอด แม้แต่ข้าเอง ก็เชื่อมั่นในความคิดของเจ้า ฉะนั้นไม่ต้องกลัว จงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะฟันฝ่าอุปสรรคเถอะ"
"ฝ่าบาท"
"ที่ข้าให้เจ้า เป็นผู้สำเร็จราชการแทนนั้น เพราะข้ายังมีงานอื่นต้องทำอีก ไม่ต้องลังเลอีกแล้ว จงรับคำสั่งเดี๋ยวนี้"
เมื่อแยกออกมาจากพระราชายูริ เฮยาบอกองค์ชายมูยุลว่า
"รับสั่งของฝ่าบาทเมื่อซักครู่ ช่างคิดไม่ถึงจริงๆ แสดงว่าฝ่าบาท ทรงเชื่อมั่นต่อองค์ชายมากนะเพคะ"
" ที่ข้าทำงานได้ดีจนทุกวันนี้ เพราะทุกครั้งที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ฝ่าบาทจะทรงแนะวิธีแก้ไข แต่ตอนนี้ ถ้าข้าเป็นผู้สำเร็จราชการ ไม่ว่าจะตัดสินใจอะไรซักอย่าง จะเกี่ยวพันถึงชะตาของบ้านเมือง"
"แต่ช้า เร็ว องค์ชายก็ต้องทรงรับหน้าที่นี้อยู่แล้ว มีแต่ทางนี้ ถึงสามารถเอาชนะ ชะตาที่ต้องคำสาปขององค์ชาย กลายเป็นพระราชาที่สมบูรณ์นะเพคะ ตอนนี้สำคัญที่สุด คือต้องมั่นพระทัย อย่าทรงหวั่นไหวเป็นอันขาด"
มาโนเข้ามาตามหาองค์ชายมูยุลว่ายอนหายตัวไป เวลานั้นยอนถูกลีจีอากับพวกจับตัวไป และสั่งยอนว่า
"ส่งเจ้ากลับไปที่ๆ เจ้าควรอยู่ ถ้าไม่อยากตายอยู่นี่ ก็กลับไปพูยอซะ อย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก พานางไปที่เมืองหลวง"
"เอ่อ หึ ได้โปรด ปล่อยหม่อมฉันไปเถอะเพคะ ถึงไม่ได้อยู่กับองค์ชายก็ไม่เป็นไร ขอเพียงได้อยู่ในโกคูรยอก็พอ
"ตราบใดที่ข้ายังอยู่ จะไม่ให้เจ้าได้พบองค์ชายอย่างแน่นอน พานางไปเดี๋ยวนี้"
ขณะที่โทจินกลับไปพบพระราชาเทโซ ทรงตรัสถามถึงกระบี่จูมงทันที แต่โทจินบอกว่าองค์ชายมูยุลรู้ทันซะก่อน ทำให้ถูกซุ่มทำร้าย
"แปลว่าแพ้มันอีกแล้วหรือ"
"หึ ทรงให้โอกาสหม่อมฉันอีกครั้ง หม่อมฉันให้สัญญาจะเอากระบี่มาถวายให้ได้"
"ไม่ต้องอีกแล้ว ข้าน่ะ จะไม่ให้เจ้ามูยุลกำแหงต่อไปอีก ข้าจะนำทัพไปเมืองโชบุน หากระบี่ด้วยตัวเอง ใต้เท้าแชบู"
"พะยะค่ะ"
"ไปเชิญท่านแพกึย และแม่ทัพทั้งหลายมาพบข้า"
เมื่อพระราชาเทโซเรียกประชุม ทำให้แพกึยไม่ค่อยพอใจที่ต้องมารับคำสั่งพระราชาเทโซ
"ให้เราเตรียมไพร่พลเพื่อจะออกศึก หมายความว่าไงหรือพะยะค่ะ"
"ข้าจะไปตีเมืองโชบุน ตัดหัวยูริกับมูยุลมาให้ได้"
แชบูกล่าวว่า "ทางเราก็จะรวบรวมทหารพูยอเพื่อไปเมืองโชบุนเหมือนกัน ถึงเวลาจะได้ร่วมมือกับพวกท่านตีมันให้หนัก"
" นับแต่นี้ทุกคนต้องฟังคำสั่งข้า เพราะข้าจะนำทัพเอง ไม่ว่าเผ่าไหนๆ ก็ต้องให้ความร่วมมือ รู้แล้วก็ไปเตรียมตัวซะ" พระราชาเทโซสั่งการ
"ฝ่าบาทมีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้เราทำงานแบบนี้" หัวหน้าเผ่าคนหนึ่งไม่พอใจ
"มีสิทธิ์อะไรหรือ"
"การโค่นอำนาจของพระราชายูริหรือจะตีโชบุน เป็นเรื่องภายในของโกคูรยอ ฝ่าบาทไม่มีสิทธิ์มาสั่งให้เราทำโน่นทำนี่"
หัวหน้าเผ่าถูกฆ่า พระราชาเทโซมีรับสั่งต่อว่า
"ต่อไปถ้าใครกล้าขัดคำสั่งอีก นี่คือจุดจบของคนๆ นั้น ใครมีปัญหาก็ว่ามา ใครข้องใจอีกมั้ยว่า ข้ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งการที่นี่"
"เรายังมีทหาร ที่อยู่ชายแดนพร้อมจะเดินทางเข้ามา และอย่าลืมว่าในเมืองหลวง ยังมีนักรบทมิฬด้วย" แชบูขู่
ด้วย ความที่ชนเผ่าทั้งหลายไม่พอใจพระราชาเทโซที่ทรงทำเกินกว่าเหตุ ดังนั้นจึงพากันไประบายอารมณ์ใส่แพกึย เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแพกึยและชนเผ่าทั้งหลายพังทลายลง แล้วแพกึยก็รู้ความจริงว่าถูกโทจินหลอกใช้มาตลอด แพกึยยิ่งแค้นใจมาก
โทจินได้ยินว่ายอนถูกส่งกลับมา ก็รีบไปดู พระราชาเทโซตรัสกับเขาว่า
" ข้าเห็นแววตาของนางแล้ว เต็มไปด้วยความรักที่มีต่อมูยุล แล้วเจ้ายังต้องการนางอีกหรือ นับแต่นี้เราไม่เกี่ยวข้องกันอีก ตอนนี้คนที่อยู่ต่อหน้าข้า คือนักโทษแห่งพูยอ เมื่อเจ้าหักหลังข้าหลายครั้ง อย่าว่าแต่ความรักที่เคยมีให้ แม้แต่ที่เจ้าเป็นหลานข้าๆ ก็จะลืมซะ แต่ว่า ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าด้วยตัวเอง ทั้งที่อยากเอาชีวิตเจ้ามาชดเชยความเจ็บแค้น แต่ข้าเคยบอกว่าจะมอบตัวเจ้าให้โทจิน ข้าบอกว่าให้เจ้าเป็นผู้ตัดสินชะตาของนาง ก็จะรักษาคำพูด เอาตัวออกไปซะ"
โทจินไปพบยอนซึ่งนางบาดเจ็บ และพาไปอยู่กับเขา ยอนกล่าวกับโทจินว่า
"ยิ่งฝืนใจให้ข้ามาอยู่นี่ ท่านก็จะยิ่งเจ็บมากขึ้น ได้โปรด ปล่อยข้าไปเถอะนะ"
"นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เจ้ายังไม่รู้อีกหรือ"
"พี่โทจิน"
"พานางไปพักผ่อน"
โทจินให้หมอมาตรวจ จนรู้ว่ายอนตั้งครรภ์ โทจินโกรธมากสั่งหมอห้ามบอกใครเด็ดขาด แล้วโทจินก็เข้าไปพบยอน
"เจ้าเชี่ยวชาญการแพทย์ น่าจะรู้สภาพร่างกายตัวเองดี เป็นลูกมูยุลใช่ไหม"
"ใช่"
"นับแต่นี้ไป เจ้าก็คือคนของข้า เด็กคนนี้ จะถือเป็นลูกข้าด้วย"
ยอนตกใจ "หึ หา พี่โทจิน"
"ต่อไป ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่ทำตามที่ข้าสั่ง ข้าจะไม่รับรอง ความปลอดภัยของลูกในท้องเจ้า"
"พี่โทจิน"
00000000000000000
องค์ชายมูยุลเห็นพระราชายูริจะเสด็จไปเมืองโชบุนก็เข้าไปทูลถาม
"จะออกจากเมืองโชบุนหรือพะยะค่ะ"
"ก็เหมือนที่เฮยาไปรายงานเจ้า"
"หึ แล้วฝ่าบาทจะเสด็จไปไหน"
" เดินทางไปพบเจ้าเมืองอื่นๆ บอกให้รู้ว่าแพกึยทรยศต่อเรายังไง พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากพวกเขา ที่แล้วมามีเจ้าเมืองหลายคนแข็งข้อ ข้าจึงอยากไปพบด้วยตัวเอง เพื่อปรับความเข้าใจกับพวกเขา"
"หึ ไม่ได้พะยะค่ะ ฝ่าบาท ถ้าไปเองจะมีอันตรายมาก"
องค์หญิงเซยูทูลว่า "ให้หม่อมฉันไปแทนดีกว่าเพคะ เสด็จพ่อเป็นพระราชา ไม่ควรไปเสี่ยงด้วยพระองค์เอง"
"ถ้าข้าไม่ไปเอง คงไม่มีวันสบายใจ"
"เสด็จพ่อ"
" หน้าที่ของเจ้าคืออยุ่กับมูยุลและคอยช่วยเขา เมื่อเป็นพระราชาแล้วทำให้คนอื่นศรัทธาไม่ได้ ข้าก็ควรแก้ปัญหาเอง เรื่องแค่นี้ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเจ้ายังมีงานต้องทำอีกมาก เรื่องที่ข้าออกไป อย่าให้ใครรู้ เข้าใจมั้ย"
เฮยาน้อมรับ "เพคะฝ่าบาท"
"ไปเถอะ"
พระราชายูริเสด็จโดยมีคูชูกับแทชองตามเสด็จ
"ฝ่าบาท พระอาทิตย์ใกล้ลงเขาแล้ว หม่อมฉันว่า เราน่าจะหาที่ค้างแรมซักคืนนะพะยะค่ะ"
"ไม่จำเป็น ถ้าออกเดินทางตอนนี้ พรุ่งนี้เช้าก็จะถึงเมือง ขับซาน"
"แต่จะทรงเหนื่อยเกินไป"
"ก็แค่ข้ามเขา ชอนยง เท่านั้น"
"แต่ยังไง พระวรกายก็สำคัญนะพะยะค่ะ หม่อมฉันดูฝ่าบาท เหมือนจะไม่ทรงแข็งแรงนัก"
"เสด็จพ่อข้าทรงวางรากฐาน แค่มาถึงรุ่นข้าก็ไม่สามารถปกป้องไว้ แถมยังถูกคนอื่นแย่งไป ต้องหนีมาเมืองโชบุนอีก"
"ฝ่าบาท"
" ถ้าไม่อาจปกป้องบ้านเมืองไว้ได้ ข้าอยู่ไปจะมีความหมายอะไร ไม่ต้องห่วงสุขภาพข้าหรอก ทำตามที่สั่งก็พอ ขอเพียงได้ทำเพื่อบ้านเมืองและมูยุล ข้ายอมสละได้ทุกอย่าง แม้จะแลกด้วยชีวิตของข้า เพื่อช่วยให้เขาได้กอบกู้บ้านเมือง ข้าก็พร้อมจะยอมตาย"
พระมเหสีมียูเข้าเฝ้าพระราชาเทโซ
"อึม ยินดีต้อนรับ เชิญมานั่งทางนี้ วันก่อนข้าเพิ่งรู้ว่าพระมเหสียังอยู่ในวัง ไม่ทันได้ไปพบ ต้องขออภัย หนีไปคนเดียวโดยไม่ห่วงมเหสี แม้ยูริกับข้า จะเกี่ยวดองเป็นญาติ แต่ข้าก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำ อย่าเสียใจมากเลยนะ ถ้าไงข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี ไม่ให้ลำบากนัก"
"ฝ่าบาททรงหวังดีจริง ก็ให้หม่อมฉันไปเมืองโชบุนเถอะ"
"ไปหาคนไม่เอาไหนอย่างงั้น จะมีประโยชน์อะไร ข้าน่ะ ยังจะสั่งสอนเขาฐานทอดทิ้งลูกเมียด้วยซ้ำ เจ้ารออยู่นี่ดีกว่า เข้าใจมั้ย หึ"
เฮยาเข้ามาหาองค์ชายมูยุล และบอกว่า
"อ๋องเทโซ กำลังจะโยกย้ายกำลังทหารมาตีเมืองโชบุน และพวกแพกึยก็เชื่อฟังด้วยเพคะ"
" ทุกวันนี้อ๋องเทโซวางอำนาจราวกับเป็นพระราชาซะเอง ทำให้แพกึยกับพวกหัวหน้าเผ่าเกิดความขัดแย้ง แต่เพราะกลัวอ๋องเทโซเลยไม่กล้าต่อต้าน เท่าที่ดู อีกไม่นานคงมาถึงนี่แน่ ต้องรีบหาทางรับมือนะเพคะ"
"เชิญท่านมาวังมาพบข้า"
"พะยะค่ะ"
องค์ชายมูยุลบอกกับมาวังว่า มีเรื่องสำคัญอย่างหนึ่ง อยากรบกวนให้ช่วย
"เชิญรับสั่งมาได้ โอ้โห แหม หม่อมฉันค้าขายมาหลายสิบปี ไม่เคยเห็นกระบี่ที่งามขนาดนี้ ทรงได้มาจากไหนหรือพะยะค่ะ"
"หึ นี่ก็คือ กระบี่ของพระราชาจูมง"
"นี่ ก็คือกระบี่วิเศษที่กล่าวขานมานานงั้นหรือ"
" ใช่ มีคำทำนายว่า ถ้าใครได้ครอบครอง จะเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรทางเหนือ ที่อ๋องเทโซพยายามช่วงชิงกระบี่เล่มนี้ให้ได้ ก็เพราะคำทำนายนี้"
"แล้ว ของสำคัญแบบนี้ทำไมถึงได้"
"เอากระบี่เล่มนี้ ไปมอบให้แพกึย"
มาวังอึ้ง "หา"
"หลังจากมอบกระบี่ให้เขาแล้ว บอกคำทำนายให้รู้ด้วย จงอย่าลืมซะล่ะ"
"แต่ ไหนว่าถ้าได้ครอบครองกระบี่จะได้เป็นใหญ่ แล้วองค์ชาย ทรงคิดว่า จะมอบให้แพกึยจริงหรือพะยะค่ะ"
"ใช่"
"ทรงคิดจะทำอะไรกันแน่" เคยูถาม
เฮ ยาค้าน "ไม่ได้นะเพคะ หลายปีนี้ เราทุ่มเทขนาดไหนเพื่อรักษากระบี่เล่มนี้ไว้ เพราะมันเป็น สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของเรามานาน แล้วจะไปมอบให้แพกึยง่ายๆ ได้ยังไงเพคะ"
"การเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ไม่ใช่อาศัยแค่กระบี่ก็จะเป็นได้ คำทำนายไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่เป็นการต่อสู้ฟันฝ่าต่างหาก และความมุ่งมั่นของเรา ถ้ายอมให้โชคชะตานำพา ป่านนี้ข้าคงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ กระบี่เล่มนี้ จะทำให้แพกึยกับอ๋องเทโซแตกหัก"
"แล้ว จะให้หม่อมฉันทำอะไรบ้าง"
"หลังจากมอบกระบี่ให้แพกึยแล้ว เขาจะแข็งข้อต่ออ๋องเทโซเอง"
"เชื่ออย่างงั้นหรือพะยะค่ะ"
"มันอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ว่าไม่ว่าจะทำไง ก็ต้องให้แพกึยเชื่อคำพูดของท่านให้ได้"
"หึ เฮ่อ หม่อมฉัน จะพยายามทำงานนี้ให้สำเร็จ"
มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน จบ 29

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 30

พวกชาวบ้านพยายามหนีออกจากเมืองหลวง แต่ถูกทหารฆ่าตายหมด แพกึยรู้เรื่องก็อึ้ง แถมเผ่าคีริวก็จะขอออกจากเมืองหลวงไปด้วย
"ตัวแทนจากเผ่าคีริวก็ไปด้วยหรือ คนพวกนี้ เคยสาบานว่าจะภักดีต่อข้าจนตายไงล่ะ"
"ได้ยินว่ายูริ เดินทางไปเจรจาด้วยตัวเอง"
"อะไรนะ"
" เพราะตอนนี้หลายคนยังเชื่อว่า ยูริคือพระราชาแห่งโกคูรยอเหมือนเดิม ส่วนทางนี้ อ๋องเทโซใช้อำนาจบาตรใหญ่ ไม่เห็นใครในสายตา ขืนปล่อยไว้คงเป็นเรื่องใหญ่แน่"
ทหารเข้ามาบอกว่ามาวังมาขอพบ แพกึยรีบให้พาเข้ามา มาวังมอบกระบี่วิเศษของจูมงให้
"หึ ก็แค่กระบี่ธรรมดาจะตื่นเต้นอะไรนัก"
"ใครว่านี่เป็นกระบี่ธรรมดา แหม บอกแล้วอย่าตกใจ ถ้ารู้ถึงประวัติของมัน"
"จะพูดอะไรกันแน่ เลิกโยกโย้ซะที" แพกึยเริ่มหงุดหงิด
"นี่ก็คือ กระบี่วิเศษของจูมง"
"กระ กระบี่วิเศษหรือ"
" ใช่ครับ กว่าจะได้มา ข้าต้องเสี่ยงชีวิตแทบตาย หลังจากพวกนักรบทมิฬถูกเล่นงานซะเกลี้ยง เฮอะ ที่แท้กระบี่ก็อยู่ในตำหนักเทพ ข้าก็เลยคิดจะแอบขโมยมาให้ไต้เท้า เพื่อให้ดีใจ ว่าแล้วก็เฝ้าทั้งวันทั้งคืน ในที่สุด โอกาสก็มาถึง ข้าเลยเสี่ยงตายไปจิ๊กมาน่ะครับ"
"นี่คือกระบี่วิเศษ ที่สมัยก่อนจูมงเคยใช้ ในการสร้างบ้านเมืองจริงหรือ"
"หรือท่านคิดว่าไม่ใช่ล่ะ ถ้าไม่เชื่อละก้อ เอาไปให้อ๋องเทโซพิสูจน์ก็ได้ รับรองได้ว่าเขาต้อง ฮ่าๆๆ ดีใจจนเป็นลมไปเลย"
"แล้วกระบี่นี่ มีอะไรดีนักหนา"
"หา มีอะไรดีหรือ แปลกจริงใต้เท้า ท่านไม่รู้หรือว่าทำไมอ๋องเทโซถึงอยากได้กระบี่เล่มนี้ไปครองน่ะ"
"แล้วเจ้ารู้สาเหตุหรือไง"
"รู้สิครับท่าน"
"บอกมาเร็วเข้า"
" นั่นเพราะว่า ใครเป็นเจ้าของกระบี่เล่มนี้ มีคำทำนายจะได้เป็นจ้าวแห่งอาณาจักรทางเหนือ หึ เป็นคำทำนายของธิดาเทพในสมัยก่อน หลังจากนั้นพระราชาจูมง ก็ใช้กระบี่เล่มนี้เอาชนะอ๋องเทโซไงล่ะครับ"
"จ้าวแห่งอาณาจักรเหนือหรือ"
"ถูกต้อง หึ อ๋องเทโซก็หวังจะได้กระบี่เล่มนี้ เพื่อซักวันจะได้เป็นจ้าวแห่งอาณาจักรทางเหนือ"
พอมาวังออกไปแล้ว มยองจินของแพกึยก็กล่าวว่า
" ท่านจะทำไงต่อดี ตอนนี้มีหลายคนเริ่มไม่พอใจเรา แม้แต่ชาวบ้านก็เริ่มพากันหลบหนี โดยเฉพาะอ๋องเทโซ แทบไม่เห็นความสำคัญของท่าน นึกว่าตัวเองเป็นพระราชาแห่งโกคูรยอ แบบนี้ มันแย่ยิ่งกว่าอยู่ใต้ปกครองของยูริซะอีก ใครได้กระบี่เล่มนี้ก็คือจ้าวแห่งอาณาจักรเหนือ ถ้าให้คนอื่นรู้ ไม่เพียงแต่โกคูรยอ แม้แต่แคว้นพูยอก็จะถือว่ามีสิทธิ์ ถ้าให้พวกชาวบ้าน หรือแม้แต่หัวหน้าเผ่าอื่นๆ รู้ว่ากระบี่มาอยู่ในมือท่าน พวกเขาอาจจะ สนับสนุนให้ท่านเป็นพระราชาเองก็ได้ นี่เป็นโอกาสทอง ที่หาไม่ได้อีกแล้ว"
มาวังกลับมาหาพวกองค์ชายมูยุล เฮยารีบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง
"ทุกอย่างราบรื่นดีครับ"
"ในเมืองหลวงมีความเคลื่อนไหวยังไง"
" หึ หลายฝ่ายเริ่มจะก่อหวอด เพราะเห็นอ๋องเทโซสังหารหัวหน้าเผ่าที่ไม่เชื่อฟังต่อหน้าต่อตา ทุกวันนี้ หลายคนเลยเริ่มเสียใจที่ปล่อยให้คนนอกมาชุบมือเปิบซะหมด หึๆๆ และนับแต่วันนั้น แพกึยกับพวกหัวหน้าเผ่าก็เริ่มเข้าหน้าไม่ติดพะยะค่ะ"
"ขอบคุณมาก"
มาโนแอบถามมาวังว่ามีข่าวองค์หญิงยอนบ้างมั้ย มาวังตอบว่า
" เฮ่ย นั่นสิ ข้าก็สืบหาอยู่ แต่ยังไม่มีข่าวเลย ไม่เป็นไร ยังไงก็ไม่ต้องห่วง คุณหนูเป็นคนดวงแข็ง ลูกน้องข้ากำลังตามหาอยู่ ขอเพียงอยู่ในเมืองหลวง ต้องหาเจอแน่"
"แม้องค์ชายจะดูเฉยๆ แต่ในใจคงเป็นห่วงคุณหนูมาก ถ้าไง รบกวนช่วยหานางด้วย"
"อึม ได้ ข้าไม่ลืมอยู่แล้ว หึ เฮ่ย"
ขณะที่เฮยาก็ถามองค์ชายมูยุลว่า จะไปพบหัวหน้าเผ่าฮันนาหรือ เคยูรีบค้าน
"ไม่ได้นะพะยะค่ะ มันจะเสี่ยงเกินไป"
"คนๆ นี้รวมหัวกับแพกึย ขายชาติก่อนใครด้วยซ้ำ"
"เกิดดีไม่ดี เขาวางแผนคิดร้ายต่อองค์ชาย ถึงตอนนั้นมิยิ่งแย่หรือเพคะ"
" ข้าก็รู้ว่าอันตราย แต่ว่า เหมือนที่ราษฎรยอมไปตายเอาดาบหน้า ข้าเชื่อว่าพวกเขา น่าจะมีบางคนเปลี่ยนใจบ้าง ถ้ามัวแต่ถือตัวแล้วรอให้พวกเขามาหาเอง ใครจะยอมเสี่ยงตายมาขอให้ข้ายกโทษให้บ้าง"
"ถ้าอย่างงั้น พวกเราขอตามเสด็จไปด้วย"
"ข้าจะไปคนเดียว เพื่อให้พวกเขารู้ว่าข้ามีความจริงใจ"
เมื่อองค์ชายมูยุลไปพบหัวหน้าเผ่าฮันนา และกล่าวว่า
"จงเอากระบี่ มาฆ่าข้าได้เลย แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ขอให้มาช่วยข้า"
"ทรงประมาทเกินไปแล้ว ถ้าตัดหัวองค์ชายไปมอบให้แพกึย อีกหน่อยหม่อมฉันจะได้เป็นใหญ่เป็นโตกว่านี้ องค์ชายไม่รู้หรอกหรือ"
"ท่านเชื่อหรือว่าคนอย่างเขา จะมอบอำนาจวาสนาให้ได้"
"ใช่ เขาสัญญาว่าจะให้หม่อมฉันเป็นถึงอำมาตย์"
" คนที่ได้มาด้วยผลประโยชน์แลกเปลี่ยน ก็พร้อมจะเสียไปได้ทุกเมื่อ แต่ว่าคนที่ได้มาด้วยความซื่อสัตย์ จะไม่มีวันเสียเขาไป ท่านอยากทำอะไรก็เชิญ"
องค์ชายมูยุลออกมาบอกทุกคนว่า อีกไม่นานจะมีศึกหนักอีกครั้ง
หัวหน้าเผ่าฮันนาไปคุยกับแพกึยว่า
"ที่แล้วมา ท่านพยายามที่จะโค่นอำนาจของพระราชายูริ แล้วตอนนี้เราได้อะไรกลับคืนบ้าง"
แพกึยนิ่งไปไม่พูดอะไร หัวหน้าเผ่าฮันนากล่าวต่อว่า
"เราแทบไม่รู้เลยว่า เมื่อไหร่จะถูกพวกนักรบทมิฬสังหารหรือเปล่า"
"นั่นสิใต้เท้า ถ้ายึดเมืองโชบุนได้ รายต่อไปก็คือพวกเรา เราคงต้องลงมือก่อน" มยองจินของแพกึยเห็นด้วยกับหัวหน้าเผ่าฮันนา
"ขอเพียงท่านเห็นด้วยกับเรา แค่ทหารของพูยอ ไม่เคยอยู่ในสายตาเราซักนิด"
"รีบตัดสินใจเร็วเข้าเถอะ"
แพกึยตอบว่า "ก็ได้ ข้าไม่คัดค้าน"
จาก นั้นเคยูก็เข้ามารายงานทุกคนว่าทหารเผ่าพีรูเริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว ทางโทจินเห็นความเคลื่อนไหวก็แปลกใจ นักรบบอกว่าแพกึยคงสั่งรวมพลเพราะพระราชาเทโซทรงเร่งให้ออกศึก โทจินจึงสั่งรวมพลนักรบทมิฬ
"มีเรื่องอะไรหรือ" นักรบถาม
"ข้ารู้สึกว่าบรรยากาศแปลกๆ จะบอกให้ทุกคนระวังตัว ส่วนเจ้าไปจับตาความเคลื่อนไหวของแพกึย"
โทจินรีบไปทูลรายงานความแปลกๆ กับพระราชาเทโซ
"เหตุการณ์ไม่ปกติหรือ หมายความว่ายังไง" พระราชาเทโซตรัสถาม
"ทหารซึ่งปกติอยู่นอกวัง กำลังทยอยเข้ามาพะยะค่ะ"
"พวกเขาต้องมารวมพลเพราะเราจะไปตีเมืองโชบุนอยู่แล้วนี่นา"
"แต่ทหารส่วนใหญ่ เหมือนเป็นคนของเผ่าพีรูมากกว่า หม่อมฉันรู้สึกว่า ไม่แน่แพกึยอาจคิดไม่ซื่อก็ได้"
"แพกึยน่ะหรือ"
"ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง ฝ่าบาทอาจต้องออกจากวังซักพักนะพะยะค่ะ"
"หึ ไม่เป็นไร คนๆ นี้ มีทหารแค่หยิบมือ ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก"
"แต่ว่าฝ่าบาท"
" ถ้าข้าเชื่อฟังเจ้า ไปหลบภัยที่นอกเมือง แล้วสุดท้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้ามิต้องเสียหน้าหรอกหรือ ถ้าเจ้าเป็นห่วงนัก พรุ่งนี้เช้าก็ให้แพกึยมาพบข้าละกัน หึ หึ"
โทจินออกไปถามกับนักรบว่าแพกึยอยู่ไหน นักรบบอกว่าให้ลูกน้องสืบอยู่ เวลานั้นแพกึยบอกเหล่าทหารว่า
"ใครตัดหัวเทโซได้ ข้าจะมีรางวัลให้อย่างงาม"
เสียงการต่อสู้ดังเข้ามาในตำหนัก จนพระราชาเทโซถามว่าเกิดอะไรขึ้น แชบูรีบทูลว่า
"แพกึยพาทหารบุกเข้าวังมา"
"อะไรนะ เจ้าคนสารเลวนี่"
"รีบหนีก่อนเถอะพะยะค่ะ"
องค์หญิงยอนหอบ "หา พี่โทจิน"
โทจินสั่งลูกน้อง "ข้างในตำหนักเทพ จะมีทางลับที่ออกจากวังหลวงได้ รีบคุ้มครององค์หญิงไปจากที่นี่เร็วๆ"
"ครับ"
"เกิดอะไรขึ้นหรือ"
"เจ้าไม่ต้องรู้ ถ้าออกจากวังได้เมื่อไหร่ ให้รีบตรงไปพูยอทันที เข้าใจมั้ย"
0000000000000000
พระราชาเทโซปะหน้ากับแพกึย ทรงโกรธมาก
"อึ้ม เจ้าคนทรยศแพกึย"
" เฮ่อๆๆ หึ รู้มั้ยว่านี่คืออะไร นี่ก็คือ กระบี่วิเศษของจูมง ข้าจะใช้มันตัดหัวเจ้าเดี๋ยวนี้ เพื่อจะได้เป็นจ้าวแห่งอาณาจักรเหนือ ยืนเฉยทำไม ฆ่ามันเร็ว"
พวกทหารบุกสู้กับทหารของพูยอ โทจินรีบทูลให้พระราชาเทโซหนี แพกึยเห็นดั่งนั้นก็สั่งให้ทหารตามจับโดยเร็ว
มาโนรีบไปส่งข่าวให้พระราชายูริทราบทันทีว่า
"หึ แพกึยกับอ๋องเทโซแตกหักแล้วหรือนี่"
"หึ เป็นความจริงหรือ"
"ครับ อ๋องเทโซหนีออกจากเมืองหลวง กลับไปพูยอแล้ว"
"หึ ฝ่าบาท ดีแล้วพะยะค่ะ"
"เราต้องเกลี้ยกล่อมอีกหลายฝ่าย จะได้เป็นกำลังสำคัญให้องค์ชาย"
"แต่องค์ชายรับสั่ง ให้เชิญฝ่าบาทกลับไปเมืองโชบุนพะยะค่ะ"
"ไม่ต้องห่วงข้าหรอก"
"แพกึยอาจรู้ร่องรอยของฝ่าบาท เราไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรบ้าง เสด็จกลับเถอะพะยะค่ะ" มาโนทูลขอร้อง
คูชูเห็นด้วย "นั้นสิพะยะค่ะ ไหนๆ ตอนนี้ เราก็เจรจาไปเยอะแล้ว น่าจะกลับไปซะที พระวรกายสำคัญนะพะยะค่ะ"
องค์ชายมูยุลเรียกรวมพลด่วน เคยูกล่าวนำว่า
"ถึงเวลา เราเล่นงานทัพใหญ่ก่อนดีมั้ยพะยะค่ะ"
เฮยาว่า ทัพใหญ่จากเมืองหลวงกว่าจะมาถึงตรงนี้,ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 วัน แล้วพวกเรา จะมีแผนอะไรเพื่อรับมือได้เพคะ"
" ในส่วนนี้ หัวหน้าเผ่าฮันนาจะรับผิดชอบเอง เราตกลงกันไว้แล้ว ต้องลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด โจมตีเมื่อไหร่ เราจะเผด็จศึกให้ได้โดยเร็ว และอย่าให้อีกฝ่ายรู้ความเคลื่อนไหวของเรา ไปจับตาดูแพกึยไว้ก่อน"
"ทราบแล้วเพคะ"
ด้านแพกึยก็เรียกโหรหลวงมาเพื่อบังคับให้ประกาศบางอย่าง
"วันนี้ ข้าคงต้องรบกวนท่านโหรซักหน่อย ให้ช่วยประกาศออกไป ว่าข้าคือผู้มีบุญที่สวรรค์ส่งมา"
"สวรรค์ไม่มีบัญชามาแบบนี้" โหรหลวงค้าน
"หึๆๆ มีหรือไม่มี ไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือ นี่เป็นสิ่งที่ข้าต้องการ คำพูดของท่านมักเป็นเชื่อถือของชาวบ้านไม่ใช่หรือ"
"ข้าทำอย่างงั้นไม่ได้หรอก"
แพกึยจัดการโหรหลวงแล้วสั่งให้หญิงสาวอีกคนขึ้นเป็นโหรแทน แล้วทำตามที่เขาสั่ง จากนั้นมยองจินเข้ามา แพกึยรีบถามว่าเป็นยังไงบ้าง
"ส่งทหารไปไล่ล่า แต่ไม่พบร่องรอยอ๋องเทโซกับโทจิน"
"ยังจับไม่ได้อีกหรือ ข้าบอกให้สกัดทุกเส้นทางที่จะไปพูยอไงล่ะ"
"ขอโทษด้วยครับ"
"ไม่เอาไหนจริงๆ"
" ท่านอย่าเพิ่งโกรธเลย ข้าสั่งให้ทุกคน ไปรวมตัวที่ท้องพระโรงแล้ว เชิญท่านก็ไปด้วย เพื่อจะได้ฉลองชัยชนะพร้อมกับพวกเราทุกคน" แพกึยอารมณ์ดีขึ้นทันตา
มาวังเองก็มาแสดงความยินดีแต่กลับถูกมยองจินว่า
"เลิกมาวุ่นวายกับเราซะที"
"อ้าว ข้าวุ่นวายเมื่อไหร่กัน พูดแบบนี้ไม่น่าฟังเลยนะท่าน" มาวังว่า
"เอาเถอะ ถือว่าเจ้ามีผลงานไม่น้อยเหมือนกัน" แพกึยตัดบท
" ถึงบอกว่า มีแต่ท่านที่คู่ควรกับกระบี่วิเศษของจูมง ที่จริงก็ไม่เกี่ยวกับข้า แต่เพราะกระบี่ได้เจอเจ้าของที่แท้จริงต่างหาก เห็นทีว่า อนาคตต้องเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรเหนืออย่างแน่นอน"
"ยังไม่รู้ว่าชาวบ้านคิดยังไง อย่าเพิ่งพูดส่งเดชก่อน" แพกึยเตือน
"ครับ"
"จนวันนี้ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว ทุกคนรู้ว่าท่านหลอกใช้อ๋องเทโซแล้วขับไล่เขาไป แค่นี้ก็นับถือท่านมากแล้ว"
"นั่นสิครับ ข้าก็จะใช้ลู่ทางทางการค้า ประกาศศักดาของท่านให้เป็นที่ประจักษ์แก่ทั่วหล้า ดีมั้ยครับ"
"เฮ่อๆๆ ดีมาก เฮ่อๆๆ"
กง ชอนมาบอกมาวังว่าเขาเห็นกับตาว่าองค์หญิงยอนถูกทหารพาออกจากเมืองหลวงไปแล้ว กงชอนจะให้ไปบอกองค์ชายมูยุล แต่มาวังห้ามไว้สั่งว่าห้ามบอกเด็ดขาด
"ท่านไม่รู้หรือว่าองค์ชายเป็นห่วงนางแค่ไหน"
"ก็เพราะรู้ถึงได้ห้ามไง บอกแล้วทำไม ไปช่วยนางได้หรือ นี่เป็นช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานรู้หรือเปล่า"
"แต่ว่านั่น"
"เงียบ ไม่ต้องพูดมากอีก เฮ่ย ช่างเป็นชะตาที่ผกผันสิ้นดี เฮ่ย"
พระมเหสีมียูถามอันซึงว่าแพกึยไล่พระราชาเทโซไปแล้วจริงหรือ อันซึงบอกว่าจริง
"เฮ่อ เราจะได้ไม่ถูกลบหลู่อีก"
"พี่ใหญ่ ท่านหมายความว่าไงน่ะ"
"เจ้าอยากอยู่ที่นี่ตลอดไปหรือไง ข้าจะไปพบแพกึย ถ้าไม่ปล่อยข้าออกไป หรือไม่งั้น ก็ให้ฆ่าข้าซะ ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง"
"จะไปรนหาที่ทำไม เราแค่อดทนอีกหน่อย"
"อดทนแค่ไหนก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้นหรอก เว้นแต่ข้าจะเห็นกับตา ไม่งั้นไม่เชื่อว่ายอจินจะตายแล้ว ฮือ ไม่แน่ว่า แพกึยอาจจะหลอกเราก็ได้"
"พี่ใหญ่"
"ยอจินต้องยังไม่ตาย หึ เขาไม่มีวันทิ้งข้าไปก่อนแน่"
"พี่ใหญ่ ขอร้องล่ะ" พระมเหสีมียูร้องไห้เสียใจมาก
พระราชายูริเสด็จกลับมาที่เมืองโชบุน พบองค์หญิงเซยู
"เสด็จพ่อ"
"มูยุลอยู่ไหน"
"ตอนนี้มูยุล ไปดูลาดเลาที่เมืองหลวงเพคะ"
"เจ้าบอกว่า เขาไปเมืองหลวงงั้นหรือ"
"เพคะ"
"องค์ชายกำชับไม่ให้ทูลก่อน จนกว่าฝ่าบาทจะเสด็จกลับมา ขอทรงอภัยด้วย" มาโนทูล
"มูยุลไปคุยกับหัวหน้าเผ่าฮันนา และได้รับความเห็นชอบจากเขาแล้ว" องค์หญิงเซยูทูล
"หัวหน้าเผ่าฮันนามาเข้ากับพวกเราแล้วพะยะค่ะ"
"รอให้คุมทัพหลวงได้ก่อน แล้วจะรวมกำลังกับพวกชนเผ่า ค่อยบุกไปตีเมืองหลวงพะยะค่ะ"
เวลานั้นองค์ชายมูยุลกับเคยูพบกับหัวหน้าเผ่าฮันนา หัวหน้าเผ่ารายงานว่า
"ตอนนี้ทหารของเรากำลังจะมุ่งมาเมืองหลวง ว่าแต่ มีทางชนะแน่หรือเปล่า"
"เราจะแพ้หรือชนะ ขึ้นอยู่กับท่านคนเดียว ข้ากับหัวหน้าเฮยามั่นใจเต็มร้อย แต่ไม่รู้คนอื่นคิดยังไง"
"หม่อมฉันก็มั่นใจ" เคยูว่า
"แล้วท่านล่ะ" องค์ชายมูยุลถามหัวหน้าเผ่าฮันนา
หัวหน้าเผ่าฮันนาพยักหน้า "อึม"
"อาจเป็นศึกที่ค่อนข้างหนัก แต่ถ้าสู้เต็มที่ เราคงไม่แพ้ ท่านจงวางใจได้"
ด้านพระราชาเทโซทรงดื่มสุราด้วยความโกรธ
"อย่าทรงกริ้วเลยพะยะค่ะ"
"ข้าเทโซ จะกลายเป็นตัวตลกก็งานนี้ แล้วจะไม่ให้โกรธได้ยังไง หึ"
"เราเป็นห่วงพระวรกายของฝ่าบาทมากกว่า ถ้าไงจะตามหมอหลวง"
" ไม่ต้อง พรุ่งนี้แหละ ข้าจะไปถล่มโกคูรยอให้ราบ สังหารเจ้าแพกึย ทั้งยูริ ยังมีเจ้ามูยุลอีกคน ไม่งั้นจะไม่หายแค้น ไปสั่งการเดี๋ยวนี้ เตรียมกำลังทหารให้พร้อม ข้าจะไปตีโกคูรยอ ปราบพวกมันให้ราบไปเลย ฮึ่ม ทำไมยังยืนเฉยอยู่อีกล่ะ"
"ตอนนี้ ยังเคลื่อนพลไม่ได้พะยะค่ะ"
"เพราะเมือง "ฮวางยง" ส่งทหารมาประจันหน้า อยู่ชายแดนของเราเหมือนเตรียมจะบุกมา ถ้าเรายกทัพไปตีโกคูรยอ พวกมันต้องมาตลบหลังเราแน่"
" ท่านพูดเล่นหรือเปล่า แค่เมืองเล็กๆ บังอาจมาตีพูยอของเราเชียวหรือ แล้วพวกท่านทำงานประสาอะไร ข้าศึกมาประชิดถึงหน้าบ้าน ทำไมเพิ่งมารายงานข้าล่ะ"
โทจินทูลว่า "ทันทีที่ฝ่าบาททรงแตกหักกับแพกึย ทหารฮวางยงก็เคลื่อนพลมาประชิดชายแดนของเราอย่างรวดเร็ว เห็นชัดว่า เพราะโกคูรยอไปส่งข่าวให้พวกเขารู้ ไม่งั้นคงไม่เร็วขนาดนี้"
"แปลว่าแพกึยไปลากเมืองฮวางยงมาพัวพันด้วยหรือ"
"ไม่เกี่ยวกับแพกึย ข้าว่าคงเป็นมูยุลมากกว่า" โทจินว่า
"มูยุลอีกแล้วหรือ" พระราชาเทโซยิ่งทรงหงุดหงิด
" ถ้าเมืองฮวางยงมาขวางกั้นเราไว้ ใครจะเป็นฝ่ายได้ประโยชน์ที่สุด นั่นก็คือมูยุล บวกกับฝ่าบาทบาดหมางกับแพกึย อีกไม่นานอำนาจของเขาจะค่อยๆ ลดลง"
"แสดงว่าทั้งหมดนี้ เป็นแผนของมูยุล ที่ทำเพื่อจะยึดโกคูรยอกลับคืนใช่ไหม"
"หม่อมฉันคิดว่าใช่พะยะค่ะ"
โทจินกลับมาบอกองค์หญิงยอนว่า
" เจ้า คงไม่มีสิทธิ์อยู่ในวัง ข้าจะหาบ้านข้างนอกให้อยู่ โดยมีทหารคอยเฝ้าอยู่ตลอด ขอบอกให้รู้อีกครั้ง อย่าคิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นับแต่นี้ไป เจ้าต้องลืมทุกอย่างที่เกี่ยวกับมูยุลและโกคูรยอ เพื่อให้ตัวเองได้อยู่รอด รวมถึงลูกในท้องก็จะได้ปลอดภัย"
000000000000000
มาวังมาบอกทุกคนว่าแพกึยเรียกประชุมเจ้าเมืองต่างๆ เฮยาคิดว่าแพกึยจะตีเมืองโชบุน แต่มาวังบอกว่า
"ไม่ๆ ทุกวันนี้เขาไม่สนใจเมืองโชบุน"
"หมายความว่าไง"
"เพราะเขา คิดแต่ว่าทำไงถึงจะได้เป็นพระราชาเร็วๆ ทันทีที่บรรดาเจ้าเมืองไปถึง เขาจะสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นพระราชาองค์ใหม่"
"มันช่างไม่เจียมซะบ้าง องค์ชาย เราจะปล่อยไว้ไม่ได้ หม่อมฉันจะไปเมืองหลวง สังหารคนถ่อยนี่ซะก่อน"
"อย่าวู่วาม" องค์ชายมูยุลปรามเคยู
"หึ ถ้าปล่อยให้มีคนสนับสนุนมัน เราจะยึดเมืองหลวงกลับคืนได้ยากนะพะยะค่ะ"
"ตอนนี้เขากำลังหลงกับชัยชนะ นี่คือจุดอ่อนที่เห็นชัด เราต้องรวบรวมกำลังพลให้มากที่สุด ไปเตรียมตัวเร็วเข้า"
อีกด้านหนึ่ง คูชูก็มารายงานข่าวนี้ให้พระราชายูริทรงทราบ
" มีข่าวว่า แพกึยเรียกประชุมเจ้าเมืองทั้งหลาย เพื่อจะสถาปนาตัวเองเป็นพระราชาองค์ใหม่ ถ้าใครบังอาจไม่เห็นด้วยหรือไม่ยอมเข้าประชุม จะถูกสังหารทันทีพะยะค่ะ ตอนนี้เจ้าเมือง "มกชอง" และเจ้าเมือง "ซงซาน" เห็นว่าถูกสังหารไปแล้ว"
"เฮ่อ หึ ข้าจะไปเมืองหลวงเดี๋ยวนี้ เตรียมตัวเร็วเข้า"
"จะเสด็จไปทำไมพะยะค่ะ"
"ข้าจะไปพบแพกึยด้วยตัวเอง"
"หา เอ่อ ฝ่าบาท คิดดีแล้วหรือพะยะค่ะ ถ้าแพกึยเห็นเข้า ต้องไม่ปล่อยฝ่าบาทแน่ จะไปรนหาที่หรือพะยะค่ะ"
"ในเมื่อปัญหาเกิดจากข้า ข้าก็ต้องไปจัดการเอง"
"ไม่ได้พะยะค่ะ เราต้องเชื่อองค์ชาย องค์ชายรับสั่งว่า จะเอาชีวิตแพกึย และยึดเมืองหลวงกลับคืนให้ได้"
"ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจเขา แต่นี่คือ งานชิ้นสุดท้ายที่ข้าจะทำเพื่อเขาและบ้านเมืองของเราได้"
"หม่อมฉันเข้าใจความรู้สึกของฝ่าบาทดี แต่ว่า ทรงเปลี่ยนพระทัยจะดีกว่า ฝ่าบาท"
พระราชายูริทรงเรียกลีจีอามาเฝ้า
" อยู่ที่นี่พอสบายมั้ย ถ้าคิดว่าเป็นห่วง ที่เผ่าพีรูก่อกบฎแล้วกระทบถึงฐานะของเจ้า ก็ไม่ต้องกังวลหรอกนะ เพราะเจ้า คือชายาของรัชทายาทแห่งโกคูรยอ"
"เพคะฝ่าบาท"
"ข้ามีอีกเรื่องที่จะขอเตือนเจ้า"
"เชิญรับสั่งมาได้"
" แผนชั่วของแพกึยคราวนี้ พระมเหสีมีส่วนรู้เห็นด้วย เจ้าคงรู้ใช่ไหม ตำแหน่งพระมเหสี สำหรับคนที่หวังผลประโยชน์ มักเป็นเป้าหมายให้พวกเขามาประจบสอพลอได้ดี ถ้าไปเกี่ยวพันกับขุนนางที่คิดไม่ซื่อ จะพาให้บ้านเมืองและตัวเองหายนะ ฉะนั้น เจ้าจงอย่าทำอะไรโง่ๆ เด็ดขาด ส่งที่เจ้าต้องเทิดทูนไว้ คือโกคูรยอและมูยุล เข้าใจหรือเปล่า"
"เข้าใจเพคะ"
"งั้นก็ไปได้แล้ว แทชอง ไปเถอะ"
"ฝ่าบาท ไม่ไป จะได้ไหมพะยะค่ะ"
แต่ไม่มีอะไรขวางพระราชายูริได้ ทรงเสด็จไปทันที ทรงพบแม่ทัพและตรัสกับแม่ทัพว่า
" รู้มั้ยทำไมพวกเจ้าถูกกำราบง่ายนัก นั่นก็เพราะ เรามีทหารที่สู้ด้วยความกล้ามากกว่า การจะกำราบคนนั้น ใช้อาวุธอาจจะง่ายที่สุด แต่จะไม่มีวันได้ใจของพวกเขา แต่วันนี้ เห็นแก่ที่เราเป็นพวกเดียวกัน ข้าจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย พวกเจ้าอยากตายเพื่อแพกึย หรือว่า อยากอยู่เพื่อชาวโกคูรยอ"
"เราขอถวายความภักดีต่อองค์ชาย"
คูชูไปรายงานองค์ชายมูยุลว่าพระราชายูริทรงเสด็จไปเมืองหลวงแล้ว องค์ชายมูยุลและทุกคนพากันตกใจมาก
"กลับไปเมืองหลวงหรือ"
"เพราะได้ยินว่า แพกึยเรียกประชุมเจ้าเมืองและหัวหน้าเผ่า เลยจะไปพบเขาด้วยพระองค์เอง"
องค์ชายมูยุลจะรีบไปเมืองหลวงทันทีเพื่อช่วยพระราชายูริ คูชูรีบบอกให้ทุกคนช่วยกันขวางไว้
"หึ หลีกไปเดี๋ยวนี้"
"ถ้าจะไป ให้ผ่านศพหม่อมฉันซะก่อน" เคยูว่า "เชิญลงมือได้"
"เฮ่ย ตอนนี้ฝ่าบาท กำลังจะไปตายเพื่อข้า หลีกไปเดี๋ยวนี้"
"ที่ฝ่าบาททรงทำ ไม่ใช่เพื่อไปตาย แต่จะช่วยองค์ชาย ปกป้องบ้านเมือง ให้คงอยู่ตลอดไป"
ณ เมืองหลวงโกคูรยอน แพกึยกำลังประกาศต่อทุกคนที่มาร่วมประชุมว่า
" ข้ารู้ว่า ทุกวันนี้ยังมีเจ้าเมืองบางคนไม่พอใจที่ข้าจะขึ้นครองบัลลังก์ และข้าก็ได้คิดแล้วคิดอีกว่าตัวเองเหมาะกับตำแหน่งนี้ มีความคู่ควร มากน้อยแค่ไหน แต่ว่า ถึงเวลาแล้ว ที่สวรรค์ได้สั่งมา ให้ข้าปลดปล่อยราษฎรที่ทุกข์ยาก ตั้งแต่สมัยก่อนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างเมืองใหม่ที่มีอนาคตอันสดใส"
เวลาเดียวกันด้านนอกพระราชายูริทรงเสด็จมาถึงและถูกขวาง
" พวกเจ้าเป็นทหารของใคร ถ้าเป็นคนของเผ่าพีรูก็ไม่ใช่ใครอื่น ในฐานะที่เป็นชาวโกคูรยอ กล้าขวางทางพระราชาอย่างข้าเชียวหรือ หลีกไปเดี๋ยวนี้"
ในท้องพระโรง มยองจินของแพกึยกล่าวว่า
"บัดนี้ เราต้องมีพระราชาองค์ใหม่ และคนที่คู่ควรก็คือท่านแพกึย ทุกท่านมีความเห็นยังไงบ้าง"
พระราชายูริเสด็จเข้ามา "คนอย่างเขาก็คู่ควรด้วยหรือ ตกใจมากใช่ไหม ไม่กล้าพูดกับทุกคนที่มาประชุมอยุ่นี่แล้วหรือไง"
"ยืนเฉยทำไม ลากตัวคนๆ นี้ออกไปซะ"
พระราชายูริเสียงเข้มไล่ทหาร "ถอยไป"
แพกึยเสียงดัง "ไม่ต้องไปฟังเขา ลากตัวไปตัดหัวเร็ว"
"ไม่ต้องเปลืองแรงให้มากหรอก ถึงข้าตายวันนี้ วิญญาณข้าก็จะติดตามมูยุล สถิตอยู่กับโกคูรยอตราบนานเท่านาน"
"ไม่มีโกคูรยออีกแล้ว เพราะความอยู่รอดของมูยุล ทำให้โกคูรยอต้องล่มสลาย และนี่คือเมืองใหม่ของเรา"
"รอดูไปละกัน มูยุลจะกลับมายึดคืนโกคูรยอ"
"หึ เฮ่อๆๆ ยังจะเชื่อหมอนี่อีกหรือ น่าสมเพชจริงๆ"
"ใครจะน่าสมเพชกว่าเจ้าได้ ขนาดพ่อบุญธรรมยังฆ่าได้ลงคอ มิน่าถึงไม่เข้าใจความเชื่อมั่นที่พ่อลูกมีให้กัน"
"หนอย หุบปากเดี๋ยวนี้"
"เพื่อสนองความทะเยอทะยานของตัวเอง ถึงขนาดเอาชีวิตพ่อและบ้านเมือง ไปมอบให้อ๋องเทโซยังทำได้"
"ข้าแค่หลอกใช้แคว้นพูยอกับอ๋องเทโซเท่านั้น ให้เขามาช่วยงาน เพื่อให้ฝันของข้าได้เป็นจริง"
" เพราะเจ้า ทำลายเกียรติของพวกเรา ชาวโกคูรยอที่เคยอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี เพราะความมักใหญ่ใฝ่สูงของเจ้า ทำให้ราษฎรทั้งหลาย ต้องถูกคนอื่นดูหมิ่นดูแคลน ถึงวันนี้เจ้าได้เป็นพระราชา ก็ไม่มีทางได้ครองราชย์นานหรอก คนที่สังหารพ่อ ชักศึกเข้าบ้านตัวเอง สวรรค์จะไม่ยอมให้อภัยอย่างแน่นอน"
แพกึยโกรธ แทงพระราชายูริ มาวังและคนอื่นพากันตกใจ
"ดูอะไรอีก ลากตัวไปประหารเร็ว"
แพ กึยร้อง "หึ ช่วยเขาไว้ ข้าจะไม่ให้ตายง่ายๆ ข้า จะให้เห็นกับตา ว่าเอาชีวิตมูยุลยังไง ข้าจะสับมันเป็นชิ้นๆ เพื่อให้รู้ว่าความคิดท่านโง่เขลา ผิดมาตลอด ช่วยเขาเร็ว ยังไงก็ต้องรักษาให้หาย ข้าบอกให้รักษาเขาได้ยินมั้ย ต้องรักษาให้ได้ล่ะ นับแต่นี้ พระราชาแห่งเมืองนี้ ไม่ใช่ยูริ แต่เป็นข้า แพกึย ได้ยินหรือเปล่า ทุกคนได้ยินมั้ย คือข้าแพกึย ได้ยินหรือเปล่า ไม่ใช่ยูริ แต่เป็นข้าต่างหาก หึ ข้าคือพระราชา หึ เฮ่อๆๆ ข้าคือพระราชา"
พระมเหสีมียูได้เข้าเฝ้าพระราชายูริก็ร้องไห้
" ฝ่าบาท ฮือๆๆ ฝ่าบาทเพคะ ฮือๆๆ ฮือ ฝ่าบาท ฮือ ฝ่าบาทเพคะ ฮือๆๆ ฝ่าบาท เพราะความโลภของหม่อมฉัน ทำให้ทรยศฝ่าบาทซึ่งดีต่อหม่อมฉันมาตลอด ฮือ หม่อมฉันเคยคิดจะตายหลายครั้ง ฮือ แต่ก็อยากพบฝ่าบาทซักครั้งเพื่อขอให้อโหสิ หม่อมฉันต้องการจะรับอาญาจากฝ่าบาทมากกว่า"
"ทุกวันนี้ ข้ายกโทษให้เจ้าแล้ว"
"ฮือ แม้ฝ่าบาทจะทรงให้อภัย หม่อมฉันก็ยกโทษให้ตัวเองไม่ได้ คนที่หักหลังสามี ทำให้ลูกตัวเองตาย คงไม่มีหน้าอยู่ในโลกนี้ได้อีก"
" ถ้าเป็นเพราะยอจินละก้อ เจ้ายิ่งไม่ต้องตำหนิตัวเอง เพราะแม้แต่เขา ก็ไม่เคยถือสาเจ้าเลย ลูกคนนี้ เขาเป็นห่วงเจ้าจนถึงวาระสุดท้าย"
"ฮือ ฝ่าบาทเพคะ ฮือๆๆ ฮือๆๆ"
มาวังแอบมาพบพวกองค์ชายมูยุล ทุกคนรีบถามถึงพระราชายูริ
"พูดมาเร็วซี่ ตอนนี้ฝ่าบาท ทรงเป็นยังไงแน่"
" ขณะที่ แพกึยกำลังประกาศว่าจะสถาปนาตัวเองเป็นพระราชา จู่ๆ ฝ่าบาทก็ปรากฎพระองค์ขึ้น ต่อจากนั้น ทรงไล่เรียงความผิดของแพกึยมากมาย สุดท้ายหมอนั่นก็แทบคลั่ง ใช้กระบี่แทงฝ่าบาทเข้า"
"แล้วตอนนี้ ฝ่าบาททรง"
" หึ โชคดีที่ไม่เป็นไรมาก แพกึยให้หมอหลวงมาดูอาการทันที เหตุผลก็เพื่อ ให้ฝ่าบาทได้อยู่ต่อ จะได้ฆ่าองค์ชายต่อหน้าพระพักตร์ให้เห็น"
"เจ้าคนสารเลวนี่"
"องค์ชาย พาทหารเข้าเมืองเถอะพะยะค่ะ"
"องค์ชาย หม่อมฉันยอมแลกด้วยชีวิต ไม่ว่ายังไงจะตัดหัวเจ้าแพกึยมาให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้ฝ่าบาท"
"โปรดรับสั่งมาเร็วเข้า"
"องค์ชาย"
" หึ ถ้าเรายกทัพเข้าเมืองตอนนี้ อย่าว่าแต่ช่วยฝ่าบาทไม่ได้เลย แม้แต่เราก็จะตายด้วย ถ้าจะยึดเมืองหลวงกลับคืน เราต้องรอทหารจากเพียงชอง มาสมทบถึงจะมีกำลังเพียงพอ"
จากนั้นองค์ชายมูยุลก็ได้แต่ปรับทุกข์ให้มาโนฟัง
"เฮ่อ รู้ว่าฝ่าบาททรงมีอันตราย แต่ข้ากลับช่วยอะไรไม่ได้เลย พ่อตัวเองไปเสี่ยงภัยแท้ๆ ข้าเป็นลูกได้แต่อยู่เฉย ทำอะไรไม่ได้"
"ไม่ใช่ แม้จะเป็นพระบิดา แต่องค์ชายก็ต้องทรงคิดให้หนักก่อนจะไปช่วย"
"ถ้าเพราะการตัดสินใจของข้า ทำให้เสด็จพ่อประสบเคราะห์ร้าย ข้าจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย"
" องค์ชายต้องทรงเข้มแข็งไว้ นอกจากเพื่อจะช่วยฝ่าบาทแล้ว ยังมีทหารอีกจำนวนมาก รวมถึง ราษฎรที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นก็หวังพึ่งองค์ชายอยู่" องค์ชายมูยุลได้แต่ถอนใจ
0000000000000000
มยองจินของแพกึยกำลังบอกเรื่องตำแหน่งของแต่ละคนให้แพกึยและทุกคนฟัง
" ให้ "มยองจิน" แห่งเผ่าพีรูเป็นอำมาตย์ใหญ่ หัวหน้าเผ่าฮันนา "ยีซู" เป็นอำมาตย์ฝ่ายขวา นอกนั้น ให้ดำรงตำแหน่งเหมือนเดิม ส่วนตำแหน่งประมุขใหญ่แห่งชนเผ่า คือซังกานั้น ฝ่าบาทจะทรงรับไว้ซะเอง"
" หึ อึม นับแต่นี้ไป เราจะไม่แบ่งราชสำนักกับชนเผ่าต่างๆ อีก เพื่อไม่ให้อำนาจจากภายนอกมาบั่นทอนการบริหารของเรา ข้าจึงอยากให้ทุกท่าน คอยปรามคนของตัวให้อยู่อย่างสงบ เพื่อให้ข้า ได้เป็นจ้าวแห่งอาณาจักรเหนืออย่างแท้จริง จึงขอให้ปรองดองไว้"
"พะยะค่ะฝ่าบาท"
"ท่านอำมาตย์จงฟัง เปิดคลังเสบียงของราชสำนักและเผ่าพีรู ทำการแจกจ่ายให้ชาวบ้าน เพื่อฉลองที่ข้าได้ครองราชย์"
"ทราบแล้วพะยะค่ะ"
"ท่านอำมาตย์ขวา ส่งทูตไปยังเมืองต่างๆ ที่เป็นมิตรกับเรา บอกให้รู้ว่า เรากำลังจะมีราชวงศ์ใหม่ ให้รับทราบโดยทั่วกัน"
"ทราบแล้วพะยะค่ะฝ่าบาท"
"ฝ่าบาท ยังมีงานด่วน คือยกทัพไปเมืองโชบุนสังหารมูยุลซะ ขอเพียงมีรับสั่ง หม่อมฉันจะไปตัดหัวมันทันที"
หัวหน้าเผ่าทั้งหลายมาขอพบองค์ชายมูยุล
"องค์ชายทรงอภัยให้เราด้วย"
"เรื่องอะไรกันน่ะ ท่านทั้งหลาย เชิญลุกขึ้นก่อน"
" วันก่อนฝ่าบาททรงเสี่ยงชีวิต เข้าวังเพื่อตำหนิการกระทำของแพกึย แต่พวกเรา กลับไม่กล้าทำอะไรซักอย่าง แพกึยทำเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ แต่เรากลับรักตัวกลัวตาย ปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยไม่ใส่ใจ ที่จริงเราน่าจะฆ่าแพกึย เพื่อช่วยฝ่าบาทด้วยซ้ำ"
"ข้าเข้าใจความคิดของพวกท่าน ไม่ต้องพูดหรอก แค่นี้ก็เจ็บปวดยิ่งกว่าตายแล้ว ข้ายังจะตำหนิพวกท่านได้ยังไง ลุกขึ้นเร็วเข้า"
"แม้เราจะช่วยองค์ชายอย่างเปิดเผยไม่ได้ แต่ถ้าทรงพาทหารเข้าเมืองเมื่อไหร่ พวกเราทั้งหลาย จะให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอน"
" ขอบคุณมาก ขอบคุณพวกท่านจริงๆ ข้าจะนำทหารของโชบุน ซึ่งผ่านการฝึกอย่างดี เข้าทางประตูเมืองทิศใต้ ส่วนทางเหนือ จะมีทหารของเผ่าฮันนาล้อมไว้อยู่"
"พะยะค่ะ"
"แม้ตอนนี้ทหารเราจะมีกำลังใจดี แต่ศึกคราวนี้ เราจะถือโอกาสโจมตี ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว"
เฮ ยากล่าวต่อว่า "ซึ่งรอบๆ เมืองหลวง มีแต่ทหารของแพกึยเต็มไปหมด การเดินทางต้องคอยหลีกเลี่ยง อย่าให้พวกเขาสังเกตเห็น ที่สำคัญ อย่าให้แผนของเรารั่วไหลก่อนด้วย"
"ไม่มีปัญหา"
"ทุกคนต้องจำไว้ แม้เราจะเสียเปรียบด้านกำลังคน แต่เชื่อว่าราษฎรส่วนใหญ่ อยู่ฝ่ายเรามากกว่า เราต้องชนะให้ได้ เพื่อให้ชาวบ้านรู้ว่า พวกเขาเลือกไม่ผิด"
"พะยะค่ะ"
องค์ชายมูยุลกล่าวกับเฮยาว่า "เข้าวังได้เมื่อไหร่ รีบหาฝ่าบาทให้พบ"
"ทราบแล้วเพคะ"
แพกึยกับมยองจินและเหล่าขุนนางต่างดื่มฉลอง ทหารเข้ามาบอกว่าองค์ชายมูยุลพาทหารเข้ามาบุ
"คอยดูนะ ข้าจะใช้กระบี่เล่มนี้ตัดหัวมัน ให้รู้ว่าใครคือเจ้าของแผ่นดินนี้กันแน่" แพกึยฮึกเฮิม
"ฝ่าบาท หนีก่อนเร็วเข้า"
"หลีกไป มันมารนหาที่,เรื่องอะไรข้าจะหนีง่ายๆ เฮ้ย"
"ฝ่าบาท หนีก่อนเถอะ อย่าสู้เลย"
องค์ชายมูยุลบุกเข้ามาก็ร้องบอกแม่ทัพสั่งให้ทุกคนหยุด และถามหาแพกึย มาโนรายงานว่าหนีไป องค์ชายมูยุลรีบตามหาพระราชายูริจนพบ
"ฝ่าบาท"
"มูยุล ข้ารู้ว่าเจ้าต้องมา ข้ามั่นใจว่า ยังไงเจ้าต้องมาช่วยข้า"
"เสด็จพ่อ"
มยองจินพาแพกึยหนีออกมานั่งพักกันสักครู่ เพราะต่างก็หอบด้วยกันทั้งคู่
"ถ้าเชื่อหม่อมฉัน ไปตีเมืองโชบุนซะก่อน เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น หึ แล้วตอนนี้ เราจะทำไงต่อดี"
" ไม่เป็นไร ข้ายังมีกระบี่วิเศษของจูมงอยู่ แสดงว่า ข้ายังมีโอกาส ที่จะได้เป็นจ้าวแห่งอาณาจักรเหนือ หึ คอยดูไปละกัน ซักวันข้าจะกลับมาใหม่ เล่นงานเจ้ามูยุล เอาสิ่งที่เป็นของข้ากลับคืนมา หึ"
พระราชาเทโซทรงทราบข่าวก็รีบถามถึงแพกึยกับกระบี่วิเศษของจูมง แชบูบอกว่าแพกึยหนีและเอากระบี่ไปด้วย
โทจินมาบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้องค์หญิงยอนฟัง
" มูยุล ยึดเมืองหลวงกลับคืนได้แล้ว แต่เชื่อว่าคงไม่นานนัก โกคูรยอจะได้อยู่สงบซักพัก หึ พอรู้ว่าเจ้าหายไป เขาก็แค่เสียใจไม่นาน แต่ว่า ในฐานะรัชทายาท เขาก็ต้องอยู่ต่อไป กับชายาที่แต่งงานอย่างถูกต้อง เหมือนตอนเจ้าอยู่พูยอ แล้วเขาก็ไปแต่งงานกับคนอื่น แล้วอีกไม่นาน พระชายาก็จะมีโอรสให้เขา"
"พี่โทจิน ถึงเอาเรื่องพวกนี้มาพูดให้ฟัง ใจข้าก็ไม่มีวันเปลี่ยนหรอก เหมือนที่ท่านเคยบอกไว้ นับแต่นี้ไป ข้าอาจไม่มีโอกาสได้พบเขาอีก หึ แต่ว่าทุกวันนี้เขาก็ยังอยู่กับข้า เพราะในท้องข้ามีสายเลือดของเขาอยู่ ถึงจะอยู่ห่างไกล แต่ลูกก็เป็นตัวเชื่อมให้เราได้"
พระราชาเทโซทรงเรียกโทจินเข้าเฝ้า
"รับสั่งให้หาหรือพะยะค่ะ"
"รู้เรื่องที่โกคูรยอหรือยัง"
"พะยะค่ะ"
" เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ถือเป็นความชอบก็จริง แต่เจ้าก็ไม่สามารถยับยั้งสิ่งที่แพกึยทำกับข้าได้ ตอนนี้ข้าจะให้เจ้า มีโอกาสได้ทำคุณไถ่โทษซักครั้ง"
"เชิญรับสั่งมาได้"
"กระบี่วิเศษของจูมงยังอยู่กับแพกึย รีบไปโกคูรยอชิงมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ แล้วข้าจะอภัยให้เจ้าทุกอย่าง"
ที่ท้องพระโรง องค์ชายมูยุลประกาศว่า
" แม้ว่า จะมีบางคนหลงผิดไปเข้ากับแพกึย แต่ถ้าพวกเขาสำนึกและยอมกลับตัวใหม่ ข้าก็จะไม่เอาเรื่องเอาราว อีกอย่างสิทธิประโยชน์ที่พวกเขาควรได้ ทั้งสัมปทานการค้า ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง รบกวนท่านช่วยประกาศ ให้รู้กันทั่วเมือง ชาวบ้านจะได้ดีใจ"
คูชูรีบรับคำ "หม่อมฉันจะไปเดี๋ยวนี้"
"องค์ชาย ฝ่าบาททรงมีอาการทรุดลง" แทชองรายงาน
จบ
มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 30

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 31


องค์ชายมูยุลรีบไปเฝ้าพระราชายูริทันที รวมทั้งองค์หญิงเซยู
"ฮือๆๆ เสด็จพ่อ"
" ฮือ ฮือ ข้ารู้สึกเสียใจที่ไม่อาจรักษารากฐานที่เสด็จพ่อทรงสร้างมาแม้จะพยายาม บากบั่นแค่ไหน ใครๆ ก็ว่าเทียบกับเสด็จพ่อแล้ว ข้ายังห่างไกลนัก แถมยังว่าข้าได้ครองบัลลังก์เพราะกระบี่หักเล่มหนึ่ง รู้มั้ยว่านี่คืออะไร มันเป็นของสิ่งเดียว ที่พ่อข้าเหลือไว้ให้ ข้าเคยคิดว่าถ้าเจอพ่อ ความทุกข์ทั้งหลายก็จะหมดสิ้นไป แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างงั้น ข้ายังมีความน้อยใจต่อเสด็จพ่ออยู่ เพราะฉะนั้น ข้าถึงรู้ดีว่า เจ้าคิดยังไง เมื่อคืนข้าฝันเห็นยอจินมา ถึงเขาจะตาย แต่หน้าตายังเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด ข้ายังเห็นเจ้าพี่ใหญ่ของเจ้า รวมถึงแฮเมียงด้วย ไม่น่าเชื่อว่าลูกชายสามคน จะด่วนจากข้าไปซะหมด แล้วทำไมข้า ยังมีชีวิตอยู่ถึงป่านนี้ โลกนี้ จะหาพ่อคนไหนเหมือนข้าไม่มีอีกแล้ว เจ้ายังจะช่วยข้าหรือเปล่า เจ้าอาจต้องใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบจนตาย อยู่กับการต่อสู้และนองเลือด ถึงอย่างงั้น เจ้ายังจะช่วยหรือเปล่า นับแต่นี้ ข้าจะไม่กลัวโชคชะตาอีกแล้ว"
"หึ ฝ่าบาท"
"ฮือ ฮือ ฮือ มาใกล้ๆ ข้าซิ เห็นทีว่า ข้าคงเหลือเวลาจะอยู่อีกไม่นานแล้ว"
พระมเหสีมียูได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ่งร้องไห้ "ฮือๆๆ ฮือๆๆ"
"เสด็จพ่อ"
" ข้า อยากไปตำหนักเทพซักครั้ง พระราชา ไม่ควรจบชีวิตตัวเอง อยู่ในวังหลวงแห่งนี้ อย่าให้เหล่าขุนนาง มาเห็นพระราชาในวาระสุดท้าย ก่อนที่จะไป มีเพียงรัชทายาทที่จะอยู่เคียงข้าง"
"หึ หม่อมฉันจะให้ฝ่าบาท ไปอยู่ตำหนักเทพได้ยังไง"
"แต่นี่คือ คำสั่งของบรรพชน"
" แม้จะอยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิต ก็ให้คนมาเฝ้าไม่ได้หรือ เป็นถึงพระราชา แม้แต่เวลาที่เป็นส่วนตัว ก็มีไม่ได้หรือพะยะค่ะ หม่อมฉัน จะไม่ยอมให้เสด็จพ่อไปง่ายๆ"
องค์หญิงเซยูกับพระมเหสีมียูได้แต่ร่ำไห้
มาโนถามเคยูว่า "ฝ่าบาทรับสั่ง จะไปตำหนักเทพจริงหรือครับ"
"นี่เป็นพระบัญชา แต่องค์ชายไม่ยอม ยังไงก็ไม่ให้เสด็จไป"
"น่าแปลกจริงๆ อยู่ในวังก็ดีแล้ว ทำไมต้องไปที่นั่น"
"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็อย่าประมาทเป็นอันขาด ตอนนี้พวกกบฎกำลังคุมเชิงอยู่ ถ้ารู้เรื่องทางนี้ ก็ไม่รู้แพกึยจะทำอะไรอีก"
ด้านเฮยาก็กล่าวขึ้นกับองค์หญิงเซยูและองค์ชายมูยุลว่า
"ไม่มีเวลาให้คิดอีกแล้ว ประกาศเรื่องนี้ไปทั่วเมือง ทำตามรับสั่งของฝ่าบาทเถอะเพคะ"
องค์หญิงเซยูไม่เห็นด้วย "เราจะทำแบบนี้ได้ไง ต่อให้เสด็จพ่อทรงยืนกราน เราก็ยอมไม่ได้"
"องค์หญิง ตอนนี้ทรงรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน หม่อมฉันเข้าใจดี แต่ว่า"
" ชั่วชีวิตเสด็จพ่อ อยู่กับความสิ้นหวังและอ้างว้างมาตลอด แล้วจะให้เรา ปล่อยพระองค์อยู่ตามลำพังได้ยังไง รบกวนท่านคูชู ไปทูลเสด็จพ่อหน่อยได้ไหม เพราะท่าน เป็นคนสนิทที่เสด็จพ่อทรงไว้วางพระทัย ถ้าท่านไปเกลี้ยกล่อม ไม่แน่เสด็จพ่ออาจทรงฟังก็ได้"
"นี่แสดงถึงว่า พระราชาแห่งโกคูรยอ ไม่ว่าอยู่หรือสวรรคตก็จะอยู่กับบ้านเมืองเสมอ ฝ่าบาททรงคิดว่า จะให้ราษฎรได้เห็นว่าพระองค์ไม่เคยทิ้งพวกเขาไปไหน เมื่อทรงตัดสินพระทัยแน่วแน่ แล้วหม่อมฉันจะเอาเหตุผลอะไรไปทูลอีก"
"ส่งฝ่าบาท เสด็จไปตำหนักเทพเดี๋ยวนี้ ไปเตรียมการเร็ว" องค์ชายมูยุลตัดสินใจสั่งการ
เฮยาน้อมรับคำสั่ง องค์หญิงเซยูร้องไห้ออกมา องค์ชายมูยุลกล่าวอีกว่า
" ประกาศเรื่องนี้ไปยังหัวเมืองทั้งหลาย ให้เตรียมการบูชาฟ้า และงานนี้ ให้ราษฎรมีสิทธิ์เข้าร่วม เพื่อช่วยอธิษฐาน ให้สวรรค์ได้รับรู้ น้อมส่งฝ่าบาท"
"พะยะค่ะ"
องค์หญิงเซยูเฝ้าพระราชายูริด้วยน้ำตานองหน้า
"เสด็จพ่อ"
"หึ ขอโทษด้วยนะ"
พระราชายูริทรงกล่าวกับคูชู "ขอบใจท่านมากนะ"
พระ ราชายูริทรงตรัสกับทุกคนว่า "ข้าไม่ได้ตายจากไปไหน เพราะยังมีลูกชายที่จะสานต่อเจตนารมณ์ แม้ว่าอีกไม่นาน ข้าจะเหลือแต่วิญญาณ ก็จะอยู่กับโกคูรยอไม่ไปไหน ส่วนพวกเจ้า ก็ต้องช่วยมูยุลทำงานต่อไป"
เหล่าขุนนางน้อมรับ "พะยะค่ะฝ่าบาท"
"ไปได้"
"พะยะค่ะ" องค์ชายมูยุลนำไป
องค์หญิงเซยูร้องไห้ คูชูถอนใจ พวกชาวบ้านต่างตะโกนเรียก "ฝ่าบาทๆๆ"
0000000000000
แพกึยถามมยองจินว่า เหตุการณ์เป็นไงบ้าง
"เจ้าอันซึง ไม่เห็นแม้แต่เงาด้วยซ้ำ"
"ทำไมอย่างงั้นล่ะ"
"ได้ยินว่ามูยุลจัดทหารเฝ้าอย่างแน่นหนา และมีข่าวว่า เจ้าอันซึง หันไปสวามิภักดิ์ต่อมูยุลแทนพะยะค่ะ"
"เจ้าคนทรยศนี่ ที่มันมีทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะเราหรอกหรือ"
"ถ้าไงรีบหนีก่อนเถอะ มีข่าวว่ายูริใกล้จะตาย มูยุลจะพาไปตำหนักเทพที่อยู่นอกเมือง เพราะฉะนั้น นี่เป็นโอกาสดีที่จะหลบหนี"
" เฮ่อๆๆ สวรรค์ยังเข้าข้างเราอยู่ ถ้ามูยุลพายูริไปอยู่ตำหนักเทพจริง แสดงว่าที่นั่น จะมีแต่พวกเขาสองคน ถือโอกาสนี้ ข้าจะใช้กระบี่จูมงสังหารพวกเขาซะเลย ทีนี้สถานการณ์ก็จะพลิกกลับ"
"แต่ว่า แค่มีกระบี่เล่มเดียว คิดว่าจะบุกเข้าไปในตำหนักเทพได้หรือพะยะค่ะ"
"ยังไงก็ต้องลองดู ดีกว่าหนีหัวซุกหัวซุนล่ะ เจ้าไม่ต้องพูดอีกแล้ว หึ"
เวลา นั้นอันซึงออกมาเจอชาวบ้าน และพวกชาวบ้านจำได้ว่าอันซึงกับพระมเหสีมียูทรยศต่อพระราชายูริ จึงพากันซ้อมอันซึง ดีที่องค์หญิงเซยูมาเห็นและห้ามไว้
"ทำไมฝ่าบาท ถึงทรงเลือกที่จะไปจากโลกนี้ตามลำพังรู้มั้ย เพราะฝ่าบาททรงมีความคาดหวังว่า ทุกคนจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ช่วยฟันฝ่าอุปสรรค เพราะฉะนั้น ทุกคนขอให้ทำตามด้วย" อันซึงฟังแล้วยิ่งร้องไห้เสียใจ
เคยูสั่งทหาร "คอยเฝ้าให้ดี อย่าให้ใครเข้าใกล้ตำหนักเทพ ต้องระวังให้มากล่ะ"
เฮยาถามทุกคน "เตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม"
"ครับ ตลอดเส้นทางจนถึงตำหนักเทพ มีทหารเฝ้าตามจุดต่างๆ"
"หลังเขาก็ไม่มีปัญหาครับ" พักโซรายงาน
"เราจะไปดูชาวบ้านแถวนี้ ยะ ยะ"
แพกึยกับมยองจินสั่งรวมพล ทันใดนั้นโทจินก็เข้ามาหาแพกึย
"เจ้านี่บังอาจนัก ไม่กลัวตายหรือไง กล้าโผล่มาให้ข้าเห็นอีกหรือ"
" ข้าว่าคนที่น่าจะเป็นห่วง ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านมากกว่า ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกหรือ ท่านทะเยอทะยานเกินเหตุไปแล้ว อ๋องเทโซมีรับสั่ง ให้จับท่านกลับไปลงโทษ แต่เห็นว่าท่านเคยเป็นนายข้า เลยจะไว้ชีวิตซักครั้ง หึ มอบกระบี่ให้ข้าเดี๋ยวนี้ ยังจะพูดไม่รู้ฟังอีกใช่ไหม มูยุลใช้กระบี่เล่มนี้ ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับอ๋องเทโซ ตอนนี้ทั้งท่านและอ๋องเทโซ ล้วนถูกมุยุลปั่นหัวทั้งคู่"
"พูดแบบนี้ หมายความว่าไง ขนาดเจ้ามูยุล ยอมทิ้งกระบี่จูมงแล้ว อ๋องเทโซยังจะหลงโง่ ดึงดันเอากระบี่กลับไปอีกใช่ไหม"
"หุบปาก ถ้ากล้าลบหลู่ฝ่าบาทของเราๆ จะไม่เกรงใจ" นักรบจะเอาเรื่องแพกึย
"มอบกระบี่จูมงมาให้ข้าซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตท่าน"
" ฮึ่ม แต่ว่า ข้ามีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ข้าจะยึดโกคูรยอกลับมา เจ้าจะยอมช่วยมั้ย ข้าจะสังหารมูยุลซะ เจ้าส่งทหารพูยอมาช่วยข้าหน่อย อย่าเพิ่งไป ข้ามีวิธีที่จะเอาชีวิตมูยุลได้ ถ้าเราไปตำหนักเทพเดี๋ยวนี้ จะฆ่ามูยุลกับยูริได้ทันที"
โทจินสั่งนักรบให้รีบไปที่ตำหนักเทพทันที
ภายในตำหนักเทพ พระราชายูริทรงตรัสกับองค์ชายมูยุลว่า
"คิดว่า เวลาสำหรับชีวิตข้า คงเหลือน้อยเต็มที"
"หึ เสด็จพ่อ"
" เปิดหีบนั้นดูสิ ของพวกนี้ ข้าเตรียมไว้สำหรับมอบให้เจ้า ครั้งหนึ่ง ที่ข้าเคยไปสวามิภักดิ์ต่อพูยอ หลายคนนึกว่าข้าใจเสาะ กลัวแคว้นพูยอนักหนา แต่เพราะที่นี่ มีรากฐานที่อดีตพระราชาของเราสร้างมาอย่างยากเย็น และยังมีสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อบ้านเมือง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เป็นจริงซักครั้ง เพราะข้าไม่เอาไหน จึงไม่อาจทำเพื่อบ้านเมืองได้อีก ต่อไป คงต้องให้เจ้าสานต่อ"
"หม่อมฉัน จะทำตามรับสั่งของเสด็จพ่อ"
" กระบี่เล่มนั้น เป็นกระบี่ที่ สมัยก่อนเกือบจะเอาชีวิตเจ้าเพื่อสังเวยแก่สวรรค์ ข้า ใช้มันยุติชะตาที่อาภัพของเจ้า ขณะเดียวกันก็ได้ปกป้องชีวิตเจ้าไว้ กลับทำให้เจ้าต้องไปอยู่ข้างนอก ข้าเสียใจนัก อภัยให้ข้าเถอะนะ เจ้าจะอโหสิให้ข้าได้ไหม"
"หึ เสด็จพ่อ หึ หม่อมฉันเคยเกลียดเสด็จพ่อ แต่ตอนนี้คิดได้และจะกลับมาดูแล แต่กลับทรง ไม่เปิดโอกาสให้หม่อมฉัน สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ"
"แต่เจ้าได้ทำให้ข้าพอใจหลายอย่าง คำทำนายของโหรหลวง บอกว่าเจ้าจะฆ่าพ่อและทำให้บ้านเมืองไปสู่ความหายนะ นั่นแปลว่าเจ้าจะเหนือกว่า สามารถสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่กว่าบรรพชน เสียดายข้าไม่เข้าใจความหมายนี้ ว่าเจ้า จะเหนือว่าเสด็จปู่และข้าอีก เจ้าจะสร้างเมืองใหม่ ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร เจ้าจึงต้องเข้มแข็งไว้ วันหลังเมื่อครองราชย์ เจ้าต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย อาจมีความมืดมิด ที่จะค่อยๆ กลืนกินเจ้า แต่ว่า เจ้าก็ต้องเดินหน้าต่อไป อย่าลืมว่าเบื้องหลัง ยังมีพ่อ ที่จะคอยเป็นกำลังใจให้ และคอยดูเจ้าอยู่"
"เสด็จพ่อ"
ด้านนอกตำหนักเทพ นักรบกล่าวกับโทจินว่า
"โจมตีตำหนักเทพ มันยากนะ"
"ข้าจะไม่ให้พลาดโอกาสที่จะได้สังหารมูยุล"
"อย่าเห็นแก่เรื่องส่วนตัวจนขาดสติได้ไหมไ
"เจ้ารู้อะไร กล้ามาสอนข้าหรือ" โทจินไม่พอใจ
"ถ้าไม่เพราะความแค้นส่วนตัว ทำไมเจ้ายอมช่วยแพกึยโดยไม่มีพระบัญชาล่ะ"
"หุบปากเดี๋ยวนี้"
"ดีไม่ดี อาจถูกแพกึยหลอกใช้และเอากระบี่กลับไปอีก ถ้าไงกลับไปก่อนเถอะ โอกาสยังมีอีกเยอะ" นักรบเตือนสติโทจิน
พอโทจินไปบอกแพกึยว่าจะกลับแคว้นพูยอ แพกึยก็กล่อมอีก
"จะไม่ลองคิดอีกหน่อยหรือ ถึงเราจะไม่ใช่นายกับบ่าวอีก แต่มีศัตรูคนเดียวกัน ก็น่าจะร่วมมือกันได้นี่นา"
"ต่อไปเราจะไม่ร่วมมืออีก ถ้าท่านอยากเห็นมูยุลตายละก้อ อย่าให้ตัวเองอายุสั้นละกัน"
มยองจินเองก็เตือนแพกึยว่า
"ฝ่าบาท ทรงคิดให้ดีก่อน เรามีกำลังน้อยมากนะ"
"อย่าห่วงไปเลยน่า ถึงไม่มีเจ้าโทจินมาช่วย ข้าก็สามารถยึดเมืองหลวงกลับได้"
"ถึงอย่างงั้นก็ต้องรอเวลา และวางแผนให้ดีก่อน"
"ถ้าเราหนีวันนี้ ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีโอกาสอีก"
"ขนาดนี้ยังจะดื้อแพ่งอีก"
" หุบปาก ขืนพูดอีกคำเดียวข้าจะตัดหัวเจ้า สภาพข้าตอนนี้ ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว ถ้าไม่สังหารเจ้ามูยุล ข้าก็ต้องตาย เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ว่าไง จะไปทางไหน ไปตำหนักเทพกับข้าดีๆ หรือจะตายอยู่ที่นี่"
"ฝ่าบาท"
"ตามข้ามา"
และพวกแพกึยก็บุก เข้ามา เฮยาได้รับบาดเจ็บแต่ก็สั่งให้ทุกคนช่วยกันไม่ให้พวกนั้นเข้าถึงตำหนักเทพ ได้ ภายในตำหนักเทพ แทชองรีบบอกองค์ชายมูยุลว่า
"องค์ชาย เราคงต้องปิดทางเข้าออกที่นี่แล้ว"
"เกิดอะไรขึ้น"
"แพกึย พาทหารบุกมาพะยะค่ะ"
องค์ชายมูยุลรีบออกไปสู้กับพวกแพกึย
"ไม่อยากตายก็ทิ้งอาวุธซะ หึ ข้าบอกพูดย้ำอีกครั้ง คนไหนไม่อยากตาย ฮึ่ม ทิ้งกระบี่เดี๋ยวนี้"
แพกึยสั่งทหาร "ยืนเฉยทำไม รีบสังหารเจ้ามูยุลเร็ว หึ"
" ต่อให้เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูงแค่ไหน ก็ไม่ควรสิ้นคิดถึงขนาดนี้ แม้จะเป็นศัตรูก็ยังคิดถึงความสัมพันธ์เก่าก่อน ท่านเคยเป็นอำมาตย์ของโกคูรยอ ทำไมถึงทำได้ขนาดนี้"
"เฮ่อๆๆ อย่าหลงตัวเองนักเลย นึกว่าเจ้าเกิดมาวิเศษนักหรือ ถ้าให้เลือกใหม่อีกครั้ง ข้าก็จะเลือกเดินทางนี้อยู่ดี เสียดายที่เมื่อก่อนปรานีเจ้า ไม่จัดการซะแต่แรก เอาซี่ มาฆ่าข้าเลย ตอนนี้ ข้าตายก็ไม่เสียดาย ฮึ่ม"
"ข้าไม่อยากให้เลือดของท่าน แปดเปื้อนเส้นทางที่ฝ่าบาทจะเดิน เอาตัวกลับไปก่อน ขังไว้ในเรือนจำที่เมืองหลวง แล้วค่อยตัดสินโทษอีกที"
เฮยาน้อมรับ "เพคะ"
แทชองรีบบอก "องค์ชาย ฝ่าบาททรง"
องค์ชายมูยุลเข้ามาเฝ้าพระราชายูริที่ทรงหายใจหอบ
"หึ หึ หึ เสด็จพ่อ"
"หึ ข้าคง หมดห่วงได้แล้ว โตชิ หึ แฮเมียง หึ และยอจินอีกคน หึ หึ พวกเขากำลังรอข้าอยู่ เฮ่อๆ หึๆๆ" พระราชายูริทรงสวรรคต
"เสด็จพ่อๆ หึ ฮือๆๆ เสด็จพ่อ ฮือ เสด็จพ่อๆ"
"ฝ่าบาททรง สวรรคตแล้ว"
"ฝ่าบาทได้ เสด็จสู่สรวงสวรรค์แล้ว"
เหล่าขุนนางต่างร้องเรียก "ฝ่าบาทๆๆ"
องค์หญิงเซยูรับสั่งว่า "ฝ่าบาทรับสั่งว่า จะทรงอยู่กับมูยุล เก็บน้ำตาของพวกเจ้าไว้ เพื่อต้อนรับ พระราชาองค์ใหม่ของเราเถอะ"
"ฝ่าบาทๆๆ"
0000000000000000
โทจินนำกระบี่วิเศษของจูมงไปถวายพระราชาเทโซ
"นี่ก็คือ กระบี่ของจูมงหรือ"
"ใช่แล้วพะยะค่ะ"
"ยินดีด้วยพะยะค่ะ"
"อึม ขอบใจเจ้ามาก"
"แล้วจัดการกับแพกึยยังไง"
"ข้าไม่ได้ฆ่าเขา"
"ทำไมไม่ฆ่าเขา"
"ถึงหม่อมฉันไม่ลงมือเอง เขาก็ต้องตายด้วยน้ำมือมูยุล"
"ทำดีมาก ให้เขาตายแบบนั้นจะยิ่งทรมาน"
"ฝ่าบาท พระราชายูริ สวรรคตแล้ว"
"เจ้าบอกว่าเขา ตายแล้วงั้นหรือ"
"พะยะค่ะ"
โทจินกลับไปหาองค์หญิงยอน องค์หญิงยอนกล่าวกับโทจินว่า
" ข้ามีเรื่องบางอย่างจะพูดกับท่าน ต่อไป ข้าจะไม่ขอให้ท่านปล่อยตัวข้ากลับไปโกคูรยออีก ข้าจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เกี่ยวกับองค์ชายมูยุลให้หมด"
"ข้าเพิ่งกลับจากโกคูรยอ พระราชายูริสิ้นแล้ว ตอนนี้มูยุลจะขึ้นเป็นพระราชาองค์ใหม่ ส่วนข้า ก็อาจได้ครองแคว้นพูยอ ต่อจากฝ่าบาทก็เป็นได้ ถ้าเจ้าลืมเขาได้จริง เมื่อนั้น ข้าก็จะพยายามลืมความแค้น ที่มีต่อเขา เมื่อเจ้าตัดสินใจแบบนี้ ก็ถือว่าดีแล้ว อีกหน่อยลูกของมูยุลเกิดมา ข้าจะดีต่อเขาให้มาก ไม่ต้องเป็นห่วง"
นักรบไปรายงานแชบูว่าโทจินดูแลองค์หญิงยอนที่กำลังตั้งครรภ์กับองค์ชายมูยุลอยู่
แคว้นโกคูรยอ องค์หญิงเซยูทรงปลอบองค์ชายมูยุล ที่ยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ที่ตำหนักเทพกับพระราชายูริ
" ฮือ เฮ่อ มูยุล เจ้าต้องเข้มแข็งไว้นะ ข้ารู้ดีว่า ตอนนี้เจ้ารู้สึกเสียใจแค่ไหน แต่ว่า เจ้าเป็นพระราชาแล้ว เมื่อเป็นประมุขแห่งโกคูรยอ ก็ต้องมีความหนักแน่น ทนรับความเจ็บปวดได้ทุกอย่าง ถ้าพระราชาหลั่งน้ำตา ราษฎรก็จะยิ่งเสียใจ ถ้าพระราชาเจ็บปวด บ้านเมืองนี้ จะยิ่งตกอยู่ในความลำบากยากเข็ญ หึ ทำตัวให้เข้มแข็งได้แล้ว จากนั้น ออกไปยืนต่อหน้าคนที่รอเจ้า เร็วเข้า"
องค์ชายมูยุลค่อยๆ คิดทบทวนสิ่งที่พระราชายูริทรงตรัส แล้วก็ทำให้องค์ชายมูยุลมีกำลังใจออกมาเผชิญกับทุกคน
" หึ เพราะการสิ้นพระชนม์ของฝ่าบาท ทำให้ข้าเสียใจไปชั่วขณะ แต่ต่อไปข้าจะเข้มแข็ง ร่วมมือกับทุกท่าน ช่วยกันทำนุบำรุงบ้านเมืองของเรา"
"เราได้เห็นองค์ชายพ้นจากความโศกเศร้า กลับมายืนหยัดอีกครั้ง รู้สึกปลื้ม ปิติอย่างยิ่งพะยะค่ะ" คูชูกล่าว
"เราจะประกาศให้รู้กันทั่ว ให้ทุกคนร่วมฉลองและแสดงความยินดี ที่เราจะมีพระราชาองค์ใหม่"
" ขอบคุณทุกท่านที่หวังดี แต่ตอนนี้ เรามีทั้งศึกนอกและใน ความเป็นอยู่ของราษฎรก็ยังลำบาก ถ้าฟุ่มเฟือยกับการจัดงาน รังแต่ยิ่งซ้ำเติมราษฎรเท่านั้น"
"แต่ว่า"
"ตอนนี้ สิ่งสำคัญไม่ใช่พิธีเถลิงราษฎร์ แต่ต้องคิดว่าเมื่อเป็นพระราชาแล้ว ควรทำอะไรบ้าง พิธีเถลิงราชย์ ให้จัดอย่างเรียบง่ายก็พอ"
เมื่อถึงเวลาทำพิธีเถลิงราชย์ พระราชามูยุลตรัสว่า
" พระราชาแห่งโกคูรยอ มูยุลขอสาบานต่อฟ้า ข้ามูยุล ได้ครองแผ่นดินนี้ ก็ด้วยบัญชาแห่งสวรรค์ ข้าจะปกป้องรักษาบ้านเมือง ดูแลทุกข์สุขของราษฎรอย่างดี"
"ยินดีด้วยพะยะค่ะ ฝ่าบาท"
"ยินดีด้วยพะยะค่ะ ฝ่าบาท
มาวังดีใจมากที่พระราชามูยุลเถลิงราชย์แล้ว
"และแล้ว ในที่สุด ก็มาถึง ยุคของข้ามหาเศรษฐีมาวังอีกครั้ง ยุคแห่งความร่ำรวย ฮ๋าๆๆ"
"เฮ้ ใครบอกว่านี่เป็นยุคของท่าน พูดผิดหรือเปล่า" กงชอนว่า
"พูดผิดได้ไง อีกหน่อยจะมีฝ่าบาทคอยหนุนหลัง คิดดูซิ ใครจะกล้าขัดขวางความยิ่งใหญ่ของข้าได้ ฮ๋าๆๆ"
"อ้อ งั้นก็ยินดีด้วยน่ะครับ"
"ขอบใจๆ เดี๋ยวก่อน นี่ไม่ใช่เวลาจะมาดีอกดีใจ ป่านนี้ ฝ่าบาทและโกคูรยอกำลังต้องการข้าอยู่"
"ถูกต้อง"
"ไปเถอะ เร็วเข้า ฮ๋าๆๆ"
พระมเหสีมียูเสด็จมาแสดงความยินดีพร้อมกับอันซึง ต่อพระราชามูยุล
"ยินดีด้วยนะ" พระมเหสีมียูตรัส
"ยินดีด้วยพะยะค่ะ" อันซึงทูล
"บัดนี้พระนาง ถือเป็นเชื้อพระวงศ์สูงสุดของฝ่ายใน ต้องโทษหม่อมฉันที่ไร้ความดี ไม่อาจให้พระนางยอมรับได้"
" อย่าพูดอย่างงั้น ข้าทำผิดไว้มากจนไม่มีหน้าจะอยู่นี่ได้อีก ข้าจะออกไปอยู่ข้างนอก ข้างกายฝ่าบาทยังมีคนเก่งอีกมาก จงใช้พวกเขาให้ดี เป็นที่ปรึกษาหารือ แค่นี้ก็พอแล้ว"
ลีจีอาทูล "อย่าเสด็จไปไหนเลยเพคะ อยู่เป็นพระพันปีที่นี่ เป็นเสาหลักให้ฝ่ายในก็ยังดี"
"หึ ข้าเป็นคนบาปสำหรับทุกคน โดยเฉพาะฝ่าบาทและยอจินด้วยแล้ว ต่อไป จะขอใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อการไถ่บาป" พระราชามูยุลทรงถอนใจ
พระราชามูยุลทรงเรียกหาเฮยา
"รับสั่งให้หาหรือเพคะ"
"ข้าให้ทุกคนมาพบ เพราะมีงานสำคัญจะมอบหมาย"
"เชิญรับสั่งมาได้" เคยูทูล
"ตั้งแต่วันนี้ไป ให้หัวหน้าเฮยาเป็นเสนาขวา แม่ทัพเคยูขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ บัญชาทหารในส่วนกลาง"
"หึ ฝ่าบาท"
"มาโนกับพักโซ รับผิดชอบหน่วยองครักษ์"
"เราเป็นคนต่ำต้อย จะรับหน้าที่สำคัญได้ยังไง"
" ที่ข้าเลื่อนตำแหน่งให้ ไม่ใช่เพื่อตอบแทนความดีความชอบ แต่จะให้พวกเจ้าทำงานเพื่อบ้านเมือง ตามเป้าหมายที่ข้าวางไว้ หลายปีนี้ที่เราเหนื่อยมา ก็เพื่อหวังว่าซักวันจะได้สบาย แต่ตอนนี้บ้านเมืองยังไม่เป็นตามที่คิด จึงอยากให้ทุกคน เข้าใจความคิดข้า ช่วยกันทำงานต่อไป"
"เราจะขอถวายชีวิตเพื่อฝ่าบาท"
พอพ้นจากทุกคน พักโซกระแอมเสียงดัง มาโนมองพักโซที่ยิ้มไม่หุบ
"อึม ตั้งใจทำงานหน่อยนะ อีกหน่อยจะได้ดีเหมือนพวกเรา นี่ ทำไมไม่วางมาดให้เคร่งขรึมหน่อย หือ"
" แหะๆ ข้าก็อยากเคร่งขรึมกว่านี้ แต่ปากมันยิ้มจนหุบไม่ลง หึๆ เจ้าก็รู้ สมัยก่อนข้าเป็นอะไร แค่อันธพาลในตัวเมือง แล้วได้เป็นถึงหัวหน้าองครักษ์ ฝันไปหรือเปล่านี่"
"มันก็จริง คนอย่างเจ้าไม่น่าดูแลองครักษ์ ให้ไปดูนางในดีกว่า"
"เดี๋ยวนี้ข้าเป็นหัวหน้าพักโซแล้วนะ หือ หัวหน้ามาโน"
มาโนมอง "หือ"
"ต่อไปข้าจะไม่ยุ่งกับพวกนางในอีก"
"ดูซิจะทนได้กี่น้ำ นี่ เรียกอีกทีซิ"
"หัวหน้ามาโน"
"หัวหน้าพักโซ"
พักโซและมาโนต่างบอกกัน "ยินดี"
มาวังเข้ามาหาทั้งสอง "ฮ่าๆๆ ยินดีด้วยนะจ๊ะ ทั้งสองคนเป็นหัวหน้าองครักษ์แล้วสิ"
"ท่านมาวัง มานี่ทำไมไม่ทราบ"
"แหะๆ ข้ามีเรื่องสำคัญจะมาบอกท่านมาโน"
"เรื่องอะไร"
"เดี๋ยวก่อน ทำไมพูดกับเขาคนเดียว บอกข้าบ้างไม่ได้หรือ"
"เฮ้ย ก็ไม่มีอะไร อีกไม่นานข้าจะจัดงานเลี้ยงที่บ้าน ซึ่ง มีเหล้ายาปลาปิ้งเพียบ อย่าลืมให้เกียรติไปด้วยล่ะ"
"อึม ลำบากเจ้าหน่อยนะ"
"ลำบากเจ้าด้วย หึๆ"
"มีเรื่องอะไร" มาโนถามมาวัง
" มีข่าวเกี่ยวกับคุณหนูยอน" มาวังทำเสียงซี้ดปาก "ข้ามีเพื่อนคนหนึ่งอยู่แคว้นพูยอ เลยวานให้เขาสืบเรื่องคุณหนูยอน จนพอได้เรื่องบ้าง"
"นางอยู่ไหน เป็นไงบ้าง"
"เอ่อ เฮ่ย คือว่า"
"บอกข้ามาเร็ว"
"ข่าวว่าอยู่ใต้การดูแลของโทจิน แต่ว่า ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์อยู่"
"หา กับใคร เป็นลูกโทจินหรือ"
"ไม่ใช่ๆ คือ ข่าวแจ้งมาว่า อาจจะเป็นลูกของฝ่าบาท แล้วทำไงดี จะทูลดีมั้ย"
มาโนอึ้งไป "เฮ่ย หึ หึ"
สาวใช้ของพระมเหสีลีจีอาได้ยินก็รีบไปทูลบอกพระมเหสีลีจีอา
จบ
มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 31

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน32

มาโนกับมาวังจะเข้าเฝ้าพระราชามูยุล แต่พบกับพระมเหสีลีจีอาที่ดักรออยู่
" คิดจะทำยังไง คุณหนูยอน ตั้งครรภ์ลูกของฝ่าบาท ข้ารู้หมดแล้ว คิดว่า จะทูลให้ฝ่าบาททรงทราบมั้ย ข้าขอสั่งพวกเจ้าเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ ต้องบอกว่าขอร้อง อย่าไปทูลเลย ถึงฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้ แล้วจะทำอะไรได้ มีแต่ทำให้พระองค์ยิ่งเป็นทุกข์ ฉะนั้นอย่าพูดดีกว่า"
"เอ่อ พะยะค่ะ หม่อมฉันก็คิดเช่นเดียวกับพระมเหสี ไม่ต้องห่วง" มาวังทูล
มาโนก็ทูลว่า "หม่อมฉันก็ไม่ทูล"
"ข้าจะลองเชื่อซักครั้ง แต่ถ้าวันหลัง ฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้เข้า ข้าจะไม่ละเว้นพวกเจ้าสองคน"
มาโนเข้าเฝ้าพระราชามูยุล
"ฝ่าบาท หม่อมฉันมาโน"
"เข้ามาได้"
"หม่อมฉันขอรินเหล้าให้" พระราชามูยุลทรงรินให้ "ไม่ได้พะยะค่ะ"
"เอาเถอะ"
"ฝ่าบาท"
"เจ้า พอได้ข่าวคุณหนูมาหรือยัง"
"ไม่มีพะยะค่ะ"
"เฮ่อ งั้นหรือ แต่เจ้าก็ยุ่งหลายอย่างนะ"
"ฝ่าบาท นี่ก็ดึกมากแล้ว"
" ข้ารู้ ไม่ควรคาดหวังกับเรื่องนี้ให้มาก แต่ว่าในใจก็บอกว่า อย่าไปหานางอีกเลย เพื่อข้าแล้ว นางต้องเผชิญกับความลำบาก ไม่รู้ว่า ป่านนี้นางจะเป็นไงบ้าง"
วันต่อมา พระราชามูยุลทรงประกาศว่า
"ต่อไปเรื่องใหญ่น้อยในเมือง ก็รบกวนท่านคูชูกับใต้เท้าฮันนาช่วยกันดูแลนะ"
ขุนนางทูลถาม "ทำไมอย่างงั้นล่ะพะยะค่ะ ฝ่าบาทไม่ประทับอยู่ในวังแล้วหรือ"
" ข้าจะทำตามรับสั่งของเสด็จพ่อ ไปปราบชนเผ่าที่แข็งข้อต่อเรา สมัยก่อนเสด็จปู่ ย้ายเมืองหลวงจากโชบุนมาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อจะให้เป็นศูนย์กลาง สร้างอาณาจักรยิ่งใหญ่ในแถบนี้ ตอนนี้ข้าจะเป็นตัวแทน สานต่อเจตนารมณ์ให้สำเร็จ"
"แต่ว่าฝ่าบาท เพราะการก่อกบฎของแพกึย ทำให้เศรษฐกิจเราถดถอยจนไม่มีงบประมาณเพื่อจะทำศึกอีก"
"ปัญหานี้ ไว้ข้าปราบเผ่าต่างๆ ได้แล้ว ค่อยยึดอาวุธและปัจจัยมาชดเชย"
"ในเมื่อฝ่าบาทจะออกรบ แล้วแพกึยทำไงเพคะ"
พระราชามูยุลเสด็จไปพบแพกึย
"ไม่ต้องหาข้ออ้างมาลบหลู่ข้าอีก จะฆ่าก็เชิญเลย"
" ข้าไม่ฆ่าท่านหรอก แต่ว่าจะให้ท่านเป็นทาสชั่วชีวิต ให้ไปทำงานในเหมืองเหล็ก อยู่กับความเหน็บหนาว เป็นคนงานที่อดมื้อกินมื้อ ให้อยู่อย่างทุกข์ทรมาน จะได้รู้ถึงความเจ็บปวดของคนที่ตายเพราะท่าน ให้รู้จักสำนึก ในความผิดของตัวเอง เอาตัวไปได้"
"พะยะค่ะ"
"หึ ฆ่าข้าซะดีกว่า ถ้าวันนี้ไม่เอาชีวิตข้า ซักวันเจ้าต้องเสียใจ"
คูชูสั่งทหาร "ยังไม่รีบเอาตัวไปอีก"
พระมเหสีลีจีอาเรียกหัวหน้าเผ่าที่รอดตายมาพบ
"หัวหน้าเผ่าที่รอดตายมีแค่นี้เองหรือ"
"พะยะค่ะพระมเหสี"
" หึ เผ่าพีรู ต้องเผชิญกับวิกฤติ เพราะการก่อกบฎของแพกึย ในฐานะพระมเหสี ข้าไม่อาจละเว้นคนที่คิดไม่ซื่อก็จริง แต่ในฐานะคนของเผ่าพีรู ข้าคงไม่อาจทนเห็นชนเผ่าซึ่งเป็นเสาหลักของโกคูรยอ ถูกตราหน้าว่าทรยศ ซ้ำยังถูกผู้คนประณามอีก วันนี้ที่ให้ทุกท่านมาพบ เพราะข้าคิดจะกอบกู้เผ่าพีรูใหม่ เข้ามาได้ ทุกท่านคงรู้ว่า ท่านมยองจิน คนนี้ เคยช่วยแพกึยก่อกบฎ ถือว่ามีความผิดมาก แต่ว่าเขาเป็นคนสำคัญ ที่เคยช่วยเราทำงาน ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไร ข้าจะสั่งผ่านเขา และจะตั้งให้เขา เป็นหัวหน้าเผ่าพีรูคนใหม่ด้วย"
"ทุกวันนี้ ฝ่าบาทยังไม่อภัยโทษให้ข้า จึงออกหน้าไม่สะดวกนัก ต่อไปถ้ามีอะไรจะมาปรึกษา ขอให้ทุกคนระวังความเคลื่อนไหวหน่อย" มยองจินกล่าว
พวกหัวหน้ารับคำ "ครับ"
"เพื่อตอบแทนน้ำพระทัยเมตตาของพระมเหสี หม่อมฉันยินดีเป็นบ่าวรับใช้"
ด้วยคำพูดขององค์ชายแฮเมียงที่ว่า
" เจ้า เคยได้ยินเมือง "พูโต" มั้ย นั่นเป็นที่ๆ พ่อบังเกิดเกล้า ของพระราชาจูมง รวมถึงบรรพชนเคยอยู่อาศัย เป็นที่ทำกินมา สมัยก่อนพระราชาจูมง เคยตั้งความหวังไว้ว่า จะเอาดินแดนผืนนี้ หรือก็คือ "พูโต" กลับคืนมา ทุกวันนี้โกคูรยอ แม้จะถูกพูยอและเทียนเฉากดขี่ แต่ความหวังของข้า ก็คือซักวันจะได้ยึดครองพูโต เจ้ายินดีจะช่วยข้า สร้างฝันให้เป็นจริงได้ไหม งั้นเจ้าจงจำไว้ ที่ๆ เราจะช่วยกันกอบกู้คืนมา เรียกว่าเมืองพูโต"
พระราชายูริก็ตรัสไว้ว่า "เจ้า ต้องเหนือกว่าเสด็จปู่และข้า ทำให้โกคูรยอ เป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่"
พระราชามูยุลจึงตัดสินใจยึดครองเมืองพูโต แล้วก็สำเร็จ
ยอนให้กำเนิดทารกเพศชายที่แคว้นพูยอชื่อว่าฮอตง โทจินรักลูกของยอนดุจกับลูกในไส้ของตนเอง
2 ปีที่ผ่านมาเต็มไปด้วยศึกสงคราม พระราชามูยุลตรากตรำทำศึกได้รับชัยชนะจนสามารถกลับเข้าแคว้นโกคูรยอดังเดิม
โทจินดูและฮอตงอย่างดี วันนี้เขารู้สึกว่าองค์หญิงยอนดูเศร้าผิดปกติ
"มีอะไรกลุ้มใจหรือเปล่า"
"ไม่มี"
" เพราะว่า วันนี้ครบวันตายของพ่อเจ้าใช่ไหม หึ อย่าห่วงไปเลย งานเซ่นไหว้ปีนี้ ข้าจะไม่ให้เจ้าต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีก จะให้จัดโต๊ะเซ่นไหว้ท่านทังโนอย่างเปิดเผย"
"ข้ายังไงก็ได้ ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ว่า ข้าไม่อยากสร้างปัญหาให้ท่านมากกว่า"
"หึ เจ้าห่วงข้าเป็นด้วยหรือ ไหนๆ ก็เป็นวันสำคัญ ข้ามีของขวัญจะให้เจ้ากับลูก"
โทจินจับนักรบที่ฆ่าพ่อขององค์หญิงยอนมา
"หลายปีก่อน เจ้าเคยทำอะไรไว้บ้าง ใต้เท้าแชบูวางแผนชั่ว เจ้าก็มีส่วนรู้เห็นด้วยใช่ไหม"
"เอ่อ ข้า ข้าไม่เข้าใจที่พูด เอ่อ"
" ตอนนี้ การจะเอาชีวิตเจ้าคนเดียว มันง่ายสำหรับข้านัก แต่เพื่อรอวันนี้ ข้าต้องอดทนอดกลั้นตั้งเท่าไหร่ คิดว่าเจ้าคงไม่มีทางรู้ ถ้าคิดว่าใต้เท้าแชบูสามารถปกป้องเจ้า ก็ขอให้เลิกคิดได้แล้ว เพราะนับแต่นี้ชีวิตเจ้า จะขึ้นอยู่กับคำพูดเจ้าเท่านั้น"
โทจินเป็นที่ไว้วางพระทัยของพระเจ้าเทโซ
"ถ้าข้าสั่งตามที่เจ้าแนะนำมา คิดว่าเหล่าเชื้อพระวงศ์จะยอมง่ายๆ หรือ"
"เพื่อให้เรามีกำลัง พอจะต่อกรกับโกคูรยอได้ สิ่งสำคัญคือต้องมีกองกำลังที่ขึ้นตรงต่อฝ่าบาทองค์เดียว"
"ทำอย่างงั้นพวกเขาต้องแข็งข้อแน่"
"ถ้าใครกล้าแข็งข้อ หม่อมฉันจะจัดการให้เอง ฝ่าบาททรงวางพระทัยได้"
" ตลอด 2 ปีที่ผ่าน ทุกครั้งที่เห็นมูยุลขยายอาณาเขตออกไป ใจข้า จะรู้สึกราวกับมีมีดมากรีด ก่อนที่มันจะมาเล่นงานพวกเรา ข้าคงต้องชิงลงมือก่อน"
"หม่อมฉัน จะทำให้ฝ่าบาททรงสมหวังเอง"
แล้วโทจินก็ทำให้แชบูได้รับผลกรรมเหมือนที่เคยทำกับพ่อขององค์หญิงยอน เมื่อแชบูถูกจับฐานลอบปลงพระชนม์ขณะพระราชาเทโซไปล่าสัตว์
"เจ้าคนเลี้ยงไม่เชื่อง ถึงขนาดคิดฆ่าข้าเชียวหรือ"
"มิได้พะยะค่ะ ฝ่าบาททรงเข้าพระทัยผิด"
ขุนนางที่โดนด้วยช่วยทูล "พวกเราบริสุทธิ์ สวรรค์เป็นพยานได้พะยะค่ะ"
"หม่อมฉันเชื่อว่าฝ่าบาท ถูกปิดบังพระเนตรพระกรรณ มันเป็นแผนชั่วของคนบางคน ที่คิดใส่ร้ายหม่อมฉัน ขอฝ่าบาททรงพิจารณาด้วย" แชบูทูล
" แต่ข้าเห็นกับตา และได้ยินพวกทหารรับสารภาพ ว่าพวกเจ้าวางแผนปองร้ายข้าขณะไปล่าสัตว์ บวกกับ มีจดหมายที่เขียนด้วยลายมือและประทับ ตราของท่านในบ้านหัวโจกคนหนึ่ง ขนาดนี้แล้วยังคิดปฏิเสธอีกหรือ"
"เรื่องแบบนี้ สามารถเสกสรรปั้นแต่งยังไงก็ได้พะยะค่ะ"
"ปั้นแต่งหรือ"
"พะยะค่ะ ในเมืองหลวง มีคนๆ หนึ่งเลียนแบบลายมือได้เก่งนัก ไม่ว่าลายมือใคร ก็ปลอมแปลงได้หมด ซ้ำยังเหมือนจริงมากพะยะค่ะ"
"อ้อ แล้วท่านรู้จักเขาได้ไง"
"เอ่อ คือ หม่อมฉัน"
"เพราะท่านเคยให้เขาเขียนจดหมายใส่ร้ายทังโน หาว่าเขาคิดการไม่ซื่อใช่ไหม"
"เอ่อ ทั้งหมดนี้ เป็นแผนชั่วพะยะค่ะ"
"ใช่ เป็นแผนชั่วจริงๆ และท่านก็จะหลอกข้า หาว่าโทจินใส่ร้ายป้ายสี ว่าเขาคิดกบฎอีกล่ะสิ"
"ฝ่าบาท โปรดให้หม่อมฉันได้พิสูจน์ตัวเอง หม่อมฉันจะทำให้ดูว่า ทั้งหมดนี้มีการวางแผน เพื่อเล่นงานหม่อมฉันพะยะค่ะ"
โทจินเรียกนักรบ "เข้ามาหน่อยซิ เขาเป็นคนสนิทของท่าน เคยรายงานความเคลื่อนไหวของใต้เท้าทังโนให้รู้"
"เป็นความจริงหรือเปล่า" พระราชาเทโซตรัสถาม
" เอ่อ จริงพะยะค่ะ หึ นอกจากนี้แล้ว เขายังสั่งให้หม่อมฉัน จับตาดูแม่ทัพโทจิน และเมื่อวาน ที่เกิดเหตุร้ายขึ้น ก็เป็นแผนที่จะให้ร้ายแม่ทัพโทจิน"
"หุบปาก เจ้าคนสารเลว ข้าเคยสั่งอย่างงั้นเมื่อไหร่ ฝ่าบาท โปรดทรงเชื่อหม่อมฉันด้วย ให้โอกาสหม่อมฉันได้ล้างมลทินบ้างเถอะพะยะค่ะ" แชบูโกรธมาก
"เจ้ายังต้องการโอกาสอีกหรือ ลากตัวสองคนนี้ ไปขังคุกไว้ก่อน"
"พะยะค่ะ"
"ฝ่าบาท โปรดทรงเชื่อหม่อมฉันด้วย"
"ฝ่าบาทๆ ทรงเชื่อหม่อมฉันด้วย ฝ่าบาท ทรงเชื่อหม่อมฉันด้วย ฝ่าบาทๆ"
องค์หญิงยอนเข้าเฝ้าพระราชาเทโซ
" มาใกล้ๆ ข้าซิ ข้ารู้แล้วว่าพ่อเจ้าถูกใส่ร้าย การเปิดเผยเรื่องนี้เท่ากับยอมรับความผิดของข้าด้วย ข้ารู้สึกเสียใจนัก ถ้าไงจะคืนยศศักดิ์ให้เขาส่วนหลุมฝังศพ ก็ให้ย้ายไปอยู่ในสุสานหลวง อภัยให้ข้าเถอะนะ"
องค์หญิงยอนดีใจจนร้องไห้ออกมา แล้วกล่าวกับโทจินว่า
"ฮือฮือๆๆ ในที่สุด พ่อข้าก็ได้ล้างมลทินซะที ขอบคุณพี่โทจินมาก"
"ระหว่างทางอาจมีอันตราย ดูแลให้ดีล่ะ" โทจินสั่งลูกน้อง
"ถ้าไง ท่านจะไปด้วยมั้ย คิดว่าท่านพ่อ คงคิดถึงพี่โทจินเหมือนกัน"
"เฮ่ย อยากให้ข้าไปด้วยหรือเปล่า หือ หึ ก็ได้ งั้นเราไปด้วยกัน หึ"
00000000000000
พระราชามูยุลทรงสะดุ้งตื่นและหอบ ก่อนจะลุกออกไปข้างนอก มาโนเห็นก็ทัก
"ทำไมมาอยู่ข้างนอกล่ะ ข้างนอกอากาศเย็น เสด็จไปข้างในเถอะ"
" เมื่อกี้ข้าฝันร้าย ฝันเห็นคุณหนูยอน ถูกคนตามล่าจนต้องหลบหนี นางมีอันตราย อยู่ต่อหน้าข้าแท้ๆ ข้ากลับได้แต่เฝ้าดู โดยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย"
"ฝ่าบาท ทรงถนอมพระวรกายไว้บ้างเถอะ ตั้งแต่เราออกศึกมา ถึงวันนี้ก็ 2 ปีแล้ว บรรลุเป้าหมายที่ฝ่าบาททรงตั้งไว้ บวกกับทหารก็เหนื่อย ถ้าไงถอนทัพดีมั้ยพะยะค่ะ"
"ข้ารู้สึกว่าชีวิตตัวเองแทบอยู่ห่างสนามรบไม่ได้ เทียบกับวังหลวงแล้ว อยู่นี่สบายใจกว่า"
"แต่ราษฎรรอคอยฝ่าบาทอยู่ น่าจะกลับไปเมืองหลวง ดูแลทุกข์สุขของพวกเขาบ้าง ถ้าไง เสด็จกลับเถอะพะยะค่ะ"
มาวังมาเฝ้าองค์หญิงเซยูในวังหลวง
"ทรงสำราญดีมั้ยพะยะค่ะ"
"ข้ากำลังอยากพบท่านอยู่ ตอนนี้ฝ่าบาทอยู่ไหน"
" ฝ่าบาทหรือพะยะค่ะ ปราบเผ่า "ซอนบี"ได้แล้ว เตรียมจะคืบหน้าต่อไปเพื่อยึดครองเผ่าอื่นๆ แต่นี่เป็นเหตุการณ์เมื่อ 4 เดือนก่อนพะยะค่ะ แหะๆ"
"หมายความว่า ป่านนี้น่าจะรบกับเมืองยางแบ แล้วสิ"
" อีกไม่นานเมืองยางแบก็ต้องสวามิภักดิ์ให้เราแน่ คิดดูก็น่าทึ่งนะพะยะค่ะ แค่ 2 ปีครึ่งเท่านั้น ฝ่าบาทก็ขยายอาณาเขตมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า เฮ่อๆๆ"
"ใช่ เป็นอย่างงั้นจริงๆ แล้วฝ่าบาททรงสบายดีมั้ย"
มาวังทำเสียงซี้ดปาก "เรื่องนี้ ให้องค์หญิงทอดพระเนตรเองจะดีกว่า เพราะฝ่าบาทกำลังจะเสด็จกลับมาแล้ว ฮ่าๆๆ"
องค์หญิงเซยูดีพระทัย "หึ เป็นความจริงหรือ"
"พะยะค่ะ เฮ่อๆๆ"
พระราชามูยุลเสด็จกลับถึงวังหลวง องค์หญิงเซยูกับคูชูก็จัดการต้อนรับพร้อมเหล่าขุนนาง
"ยินดีต้อนรับฝ่าบาทพะยะค่ะ"
"ราษฎรรู้ถึงผลงานของฝ่าบาท ต่างก็แซ่ซ้องยินดีพะยะค่ะ"
"แต่ทั้งหมดนี้ เป็นความเหนื่อยยากของเหล่าทหารด้วย" พระราชามูยุลตรัส
องค์หญิงเซยูทูล "เพราะมีผู้นำที่เก่งกล้า ทหารถึงมีกำลังใจสู้รบ"
"ฝ่าบาท เชิญพะยะค่ะ"
พระมเหสีลีจีอาทูล "เห็นฝ่าบาททรงปลอดภัยดี หม่อมฉันก็หายห่วง"
"เจ้าก็สบายดีใช่ไหม"
"เพคะฝ่าบาท"
มาวังทูลพระราชามูยุลถึงเหตุการณ์แคว้นพูยอ
"ระหว่างที่ฝ่าบาทไปออกศึก แคว้นพูยอก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่น้อย"
"ใต้เท้าแชบูถูกปลดจากตำแหน่ง เป็นความจริงหรือ"
" พะยะค่ะ และคนที่เล่นงานเขา ก็คือโทจิน ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ ทุกวันนี้คนที่มีอำนาจสูงสุดไม่ใช่อ๋องเทโซ หากแต่เป็นโทจิน ใช้เวลาไม่นานก็ไต่เต้าขึ้นเป็นคนโปรด ไม่เพียงแต่อ๋องเทโซ แม้แต่ราษฎรก็นับถือเขามาก"
"แปลว่าอ๋องเทโซ จะให้เขาสืบอำนาจต่อหรือไง"
"หึ จะว่าอย่างงั้นก็ได้พะยะค่ะ"
" คนๆ นี้ รู้สภาพในโกคูรยอดีกว่าใคร อนาคตถ้าเขาได้ครองแคว้นพูยอ จะเป็นภัยต่อเราอย่างมากนะเพคะ เราคงต้องหาทางป้องกันไว้ก่อน" เฮยาทูล
มาโนกลับมาก็นำของมามอบให้ยุนวา พักโซเห็นก็แซว
"เฮ่อๆๆ ทำเนียนนักนะ คิดว่า นี่คงเหมาะกับเจ้า ดีมาก ใจกล้าดี"
"เจ้าทำอะไร มาแอบดูข้าหรือ"
"อายอะไรเล่า ชอบนางก็พูดไปตรงๆ หรือไม่ก็คว้ามากอดไว้"
"อย่าพูดบ้าๆ นะ มันไม่ใช่อย่างงั้น"
"ไม่ใช่อะไร นี่ ถ้าไม่กล้าพอ ให้ข้าช่วยมั้ยล่ะ"
"พูดพอหรือยัง เจ้าก็รู้ ป่านนี้นางยังไม่ลืมองค์ชายยอจิน ข้าไม่มีสิทธิ์หรอก เฮ่ย"
"โธ่เอ๊ย ทำยั๊วะ เรื่องแบบนี้ข้าถนัดนัก เดี๋ยวจะช่วยเอง ไม่ต้องห่วง หึๆ"
องค์หญิงเซยูก็มาคุยกับเคยูด้วยความเป็นห่วง
"เห็นเจ้าปลอดภัยกลับมา ข้าก็ดีใจแล้ว"
"องค์หญิงทรงสบายดีหรือเปล่าพะยะค่ะ"
"สบายกายน่ะใช่ แต่ในใจ ไม่ค่อยสบายนัก"
"หึ องค์หญิง หม่อมฉัน"
"แม่ทัพเคยู ยังจำที่เราสองคน พบครั้งแรกได้ไหม"
"หึ ตอนนั้น หม่อมฉันไม่รู้ฐานะขององค์หญิง เลยเกือบจะล่วงเกินไป"
" หึ คนส่วนใหญ่ ต่างอิจฉาที่ข้าเกิดเป็นองค์หญิง แต่ข้าไม่คิดว่า การเป็นองค์หญิงจะมีอะไรดี แต่เล็กจนโต ข้าเฝ้าดูโศกนาฏกรรมในวังซึ่งคนนอกไม่อาจรับรู้ เพื่อเห็นแก่เสด็จพ่อและบ้านเมือง ข้าต้องแต่งไปอยู่เผ่าคีซานที่แสนไกล หึ อาจจะสายไป ที่เราสองคนได้รู้จัก แต่ท่านก็ค่อยๆ เข้าสู่จิตใจข้า จนถึงวันนี้ ข้าถึงรู้สึกอุ่นใจจริง หึ ด้วยเหตุนี้ ข้าอยากบอกว่าขอบคุณท่านมาก"
"หม่อมฉันฐานะต่ำต้อย แม้จะถูกผู้คนประนามเพราะชื่นชมองค์หญิง หม่อมฉันก็ไม่กลัวคำครหา จะขอภักดีต่อองค์หญิง จนกว่าชีวิตจะหาไม่"
องค์หญิงเซยูเสด็จกลับมาเห็นพระราชามูยุลยังไม่บรรทมจึงเข้ามาทัก
"ดึกป่านนี้แล้ว ยังไม่เข้านอนอีกหรือ"
"อ้อ ระหว่างที่ข้าไม่อยู่ ต้องรบกวนพี่หญิงมาก"
"หึ เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว เจ้าไปพักผ่อนเถอะ"
"ได้"
" ราษฎรต่างคาดหวัง เมื่อพระราชากลับมาพร้อมกับชัยชนะ ก็อยากให้มีทายาทซักคน พระมเหสีกำลังรอเจ้าอยู่ รีบไปหานางเถอะ สองปีนี้ นางเฝ้ารอเจ้าด้วยความห่วงใยและอ้างว้าง ในเมื่อกลับมา ก็น่าจะไปปลอบใจนางบ้าง ไปเร็วเข้า"
พระราชามูยุลเสด็จไปพบพระมเหสีลีจีอา
" ขอบใจที่รอข้ามานาน และที่ข้าห่างเหินไป ต้องขอโทษด้วย อย่าถือเลยนะ ข้ามักจะหลอกตัวเองว่าไม่อยากให้เจ้าเสียใจกว่านี้ แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่ทำไว้กับเจ้า มันหนักหนาสาหัส ขอโทษด้วย"
"ฝ่าบาท ขณะที่ฝ่าบาทอยู่ในสนามรบ ต้องเผชิญกับความยากลำบาก อุปสรรคมากมาย แต่ในวังที่ไม่มีฝ่าบาท หึ มันก็เงียบเหงา อ้างว้างไม่แพ้กัน"
วันต่อมาพระราชามูยุลเรียกมาวังมาเฝ้า และบอกว่ามีเรื่องรบกวน
" อยากให้ท่าน ไปแคว้นพูยอซักครั้ง ข้าอยากรู้ว่าอ๋องเทโซ จะให้โทจินเป็นรัชทายาทสืบต่อจริงมั้ย ถ้าโทจินมีอำนาจในแคว้นพูยอจริง อีกไม่นานคงจะยกทัพมาตีเราแน่ เรื่องนี้ อยากให้ท่านสืบให้ชัดเจน ข้าจะให้มาโนกับพักโซไปกับท่านด้วย"
"อ้อ ทราบแล้วพะยะค่ะ ข่าวที่ฝ่าบาททรงต้องการ หม่อมฉันจะไปสืบมาให้ครบถ้วน"
และเมื่อประชุมรวม พระราชามูยุลตรัสว่า
"เมือง "นัมซอ" ตรงนี้ เป็นพรมแดนสำคัญของเราที่จะให้ทหารพูยอมาล่วงล้ำไม่ได้ สั่งการลงไป ให้ส่งทหารไปเฝ้าอย่างเข้มงวด"
"ทราบแล้วเพคะ"
"แม่ทัพใหญ่ ไปจัดระเบียบกองทัพ และเกาะติดสถานการณ์ชายแดนทุกระยะ"
"ทราบแล้วพะยะค่ะ"
มาโนกับพักโซเดินทางไปแคว้นพูยอพร้อมกับมาวังและกงชอน ระหว่างผ่านแดนพักโซถามมาวังว่า
"ฐานะเราถูกเปิดเผยหรือเปล่า"
"นั่นสิ ปกติไม่เห็นตรวจเข้มขนาดนี้เลย"
"หึ เทียบกับคราวก่อนที่มาแคว้นพูยอ สถานการณ์ต่างกันมาก"
"ใช่ ต่างกันมากจริงๆ"
"เห็นเขาว่า เพราะโทจินกุมอำนาจถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ ตอนนี้ เราได้ข้อมูลมากพอแล้ว กลับไปโกคูรยอก่อนดีมั้ย"
"ข้ามีเรื่องจะขอปรึกษาท่านหน่อย" มาโนบอกมาวัง
"หือ ว่าไง จะพูดอะไรกับข้า คงไม่ใช่ เกี่ยวกับคุณหนูยอนหรอกนะ"
"ใช่ ข้าอยากรู้ข่าวของคุณหนู"
"เป็นรับสั่งของฝ่าบาทหรือ"
"ไม่ใช่ แต่ไหนๆ มาแล้ว ข้าไม่อยากกลับไปมือเปล่า"
"เฮ่อ หึ งั้นก็ได้ จะลองไปสืบดู"
เวลานั้น โทจินก็บอกกับองค์หญิงยอนว่า
"ข้าอาจต้องออกจากเมืองไปพักใหญ่"
"ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรือคะ"
"อีกไม่นาน สิ่งที่ข้ารอคอยมาหลายปี ใกล้จะเป็นจริงแล้ว"
มาวังพามาโนมาที่บ้านของโทจิน แต่ไม่พบองค์หญิงยอน ทั้งสองเฝ้าอยู่ครู่ก็เห็นเด็กผู้ชาย
" เด็กคนนั้น ต้องเป็นลูกฝ่าบาทแน่ องค์ชายแห่งโกคูรยอ หึ โอรสของฝ่าบาท จะไปอยู่กับโทจินไม่ได้ หึ รีบไปช่วยคุณหนูกับองค์ชายน้อยเถอะ"
"จะบ้า เอ่อ ไม่ใช่ เจ้าคิดมันก็ถูก แต่เรามีแค่ 4 คน บุกเข้าถ้ำเสืออย่างงั้น เกิดพลาดพลั้งมิต้องตายหรอกหรือ หา" มาวังเตือน
"ข้าไม่เคยกลัวตาย"
"แต่ข้ากลัว กลัวๆๆๆๆ คือว่า ไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวจะถูก พวกมันจับไปทรมานมากกว่า หึๆ"
มาโนกับพักโซบุกเข้าไป แต่สู้ไม่ได้จึงต้องถอยออกมา และเดินถามกลับโกคูรยอนทันที เข้าเฝ้าพระราชามูยุล
"เฮ่อ ใต้เท้าแชบูต้องโทษประหารชีวิต แปลว่าตอนนี้ โทจินกุมอำนาจเบ็ดเสร็จแล้วสิ"
"พะยะค่ะ แคว้นพูยอทั้งหมด ล้วนอยู่ใต้อำนาจโทจินคนเดียว"
มา วังทำเสียงซี้ดปาก "เท่าที่ดูเหมือนไม่ต้องเตรียมการอะไร ทั้งอาวุธและยุทธปัจจัยก็มีพร้อม ไม่ว่าเวลาไหน แค่สั่งคำเดียว สงครามก็เกิดขึ้นได้พะยะค่ะ"
"ท่านอำมาตย์ ไปเชิญท่านคูชูมาหน่อย บอกว่าข้ามีเรื่องจะหารือ"
"ทราบแล้วเพคะ"
"หึ เจ้า มีอะไรจะพูดใช่ไหม" พระราชามูยุลถามมาโน
"เอ่อ ไม่มีพะยะค่ะ"
"งั้นก็ขอบใจ ไปพักผ่อนได้ หึ"
มาวัง มาโนและพักโซออกมา มาวังก็บอกกับมาโนว่า
"นี่ ท่านมาโน ทำดีแล้ว ทำดีมากๆ ถึงเราจะทูลว่าพบองค์ชายน้อยและคุณหนูยอน ก็รังแต่สร้างความทุกข์ใจให้ฝ่าบาทมากกว่า"
พักโซเห็นด้วย "ท่านมาวังพูดถูก ทูลฝ่าบาทตอนนี้ คงยังไม่เหมาะนัก"
มาโนฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ในที่สุดเขาก็อึดอัดจนทนไม่ได้ต้องไปพบเฮยา บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แล้วเขาก็บอกเรื่ององค์หญิงยอน
"หา เจ้าบอกว่าคุณหนูยอน มีโอรสให้ฝ่าบาทจริงหรือ"
"ครับ"
"หึ แล้วฝ่าบาททรงทราบหรือเปล่า"
"ตอนนี้ยังไม่ทราบ คนที่รู้เรื่องนี้มีแต่ท่านมาวังและพักโซ รวมถึงพระมเหสี"
"พระมเหสีก็ทรงทราบด้วยหรือ"
" ครับ อาจไม่ทราบว่าเป็นโอรสและประสูติที่ไหน แต่รู้ว่าคุณหนูยอนตั้งครรภ์กับฝ่าบาท เคยสั่งให้ข้ากับท่านมาวัง เป็นตายร้ายดีก็ห้ามทูลฝ่าบาทน่ะครับ เราจะทำไงดีครับ"
"ปิดเป็นความลับ ต่อไป อย่าให้ฝ่าบาท ทรงทราบเรื่องนี้เป็นอันขาด ถ้าอีกหน่อย มีใครรู้ว่าฝ่าบาททรงมีโอรส อาจนำภัยมาสู่ราชสำนักก็ได้"
เฮยาตัดสินใจจะเดินทางไปแคว้นพูยอ นางบอกกับเคยูว่ามีเรื่องต้องไปจัดการด้วยตัวเอง
"เรื่องสำคัญอะไรนักถึงต้องไปด้วยตัวเองน่ะ ฝ่าบาทต้องไม่ทรงยินยอมแน่"
"อย่าให้ฝ่าบาททรงทราบ เลือกทหารฝีมือดีซัก 2-3 คน ไปกับข้าเงียบๆ ก็พอแล้ว"
"ท่านอำมาตย์"
" หลายปีนี้ เราถวายงานให้ฝ่าบาท และฝ่าบาทก็ทรงมี พระเมตตาต่อเรามาก ตอนนี้ถึงเวลา ที่เราจะตอบแทนพระองค์บ้าง ฉะนั้นไม่ต้องถามอะไร ทำตามที่สั่งก็พอ"
พักโซนำเฮยาไปถึงที่พักของโทจิน เห็นทหารเฝ้าอยู่มาก
เวลาเดียวกันเคยูก็มาทูลพระราชามูยุลว่าเมืองนัมซอถูกแคว้นพูยอตีไปได้แล้ว
"แน่ใจหรือว่าข่าวนี้ไม่ผิดน่ะ ข้าสั่งให้เฝ้าเมืองนัมซอดีๆ อย่าให้ข้าศึกมาตีได้ไงล่ะ"
"คนที่นำทัพมา ก็คือโทจิน"
"หึ ฝ่าบาท ถ้าเมืองนัมซอถูกตีแตก จะมีผลต่อการค้าระหว่างแคว้นต่างๆ ที่ชายแดนนะพะยะค่ะ"
"ให้ท่านอำมาตย์มาพบข้า"
"ตอนนี้ท่านอำมาตย์ ไม่อยู่ในเมืองหลวงพะยะค่ะ"
"ไม่อยู่แล้วไปไหน"
"ท่านอำมาตย์ เดินทางไปแคว้นพูยอ" เคยูทูล
"นี่มันหมายความว่าไง ทำไมไม่มาบอกข้า จู่ๆ ไปแคว้นพูยอซะได้"
"สาเหตุเพราะอะไรนั้น คิดว่าท่านมาวังอาจจะรู้"
"หึ ไปเชิญท่านมาวังมาพบข้า"
"พะยะค่ะ"
มาวังมาเฝ้าพระราชามูยุลและตัดสินใจบอกความจริง
" สมัยก่อน ตอนคุณหนูหายไปจากเมืองโชบุน คาดว่าตอนนั้นน่าจะตั้งครรภ์แล้ว คราวก่อนหม่อมฉันไปแอบดูที่แคว้นพูยอ เห็นองค์ชายน้อยคล้ายฝ่าบาทมาก"
"ความหมายของท่านก็คือ คุณหนูอยู่ใต้การดูแลของโทจิน และลูกของข้า ก็เติบใหญ่อยู่ในแคว้นพูยองั้นหรือ"
"ถูกแล้วพะยะค่ะ"
มาโนรีบขออภัย "ทรงอภัยให้หม่อมฉันด้วย"
"หึ หึ ทำไมไม่มาบอกข้า เจ้ารู้อยู่แก่ใจ ทำไมไม่บอกให้ข้ารู้"
"หม่อมฉันไม่อยากเห็นฝ่าบาททรงเป็นทุกข์"
"แต่ลูกข้า เติบใหญ่อยู่ในเมืองของศัตรู ในขณะที่ข้า ไม่รู้อะไรเลย เจ้าทำได้ไง"
" ถ้าย้อนเวลากลับได้ หม่อมฉันก็จะทำเหมือนเดิม ไหนๆ เรื่องก็ได้เกิดแล้ว คุณหนูเองก็จงใจ ไม่ส่งข่าวให้ฝ่าบาทรู้เพราะคิดเช่นเดียวกับหม่อมฉัน หม่อมฉันอาจไม่รู้อะไรมากนัก แต่เชื่อว่าคุณหนู คงไม่อยากทำตัวเป็นภาระให้ฝ่าบาท ฝ่าบาททรงมีพระมเหสีแล้ว ทรงมีหน้าที่ต่อบ้านเมือง คุณหนูอยากให้ฝ่าบาททรงลืมเรื่องในอดีตให้หมด"
"เงียบเดี๋ยวนี้นะ"
จบ
มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 32

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn

Readlakorn เว็บเรื่องย่อละครรายตอนตามบทโทรทัศน์ ละครเกาหลี

Related Posts



5 comments:

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากมาย
ติดตามอ่านประจำ

Anonymous said...

ขอบคุณมากค่ะ ที่นำมาให้อ่าน
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ

fiberhaha on 9/14/2009 said...

สงสารยอนมากเลยอ่ะ

มาต่ออีกนะค่ ขอบคุณค่ะ

Anonymous said...

ขอบคุณมากค่ะ สนุกมาก อยากรู้จังว่ามูยุลจะไปหายอนกับลูกหรือเปล่า จะรอติดตามอ่านค่ะ

Anonymous said...

ขอบคุณมากๆค่ะ สนุกมากเลย ลุ้นอยู่ค่ะว่าตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร ขอบคุณที่สละเวลานะค่ะ

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal