Sunday, August 17, 2008

เรื่องย่อละครตามบทโทรทัศน์ คิมชูซอน ตอนที่ 33 ถึง 34

คิมชูซอน 33
พระเจ้าซองจงทรงลำบากพระทัยยิ่งนักเมื่อพระองค์ทรงถูกพระ มเหสีโซฮวาทูลถามว่าพระองค์และคิมชูซอน เสด็จไปที่ใดในยามวิกาล คิมชูซอนลังเลชั่วขณะ จากนั้นคิมชูซอน ก็ทูลพระมเหสีโซฮวาว่า
"ฝ่าบาททรงห่วงใยราษฎร ประสงค์จะไปดูความเป็นอยู่ของพวกเขา จึงได้ปลอมพระองค์ เสด็จออกนอกวังพ่ะย่ะค่ะ"
"ฝ่าบาท คำพูดของชูซอน จริงมั้ยเพคะ"
"เป็นความจริง แต่ข้ากลับมาดึกไปหน่อย เลยทำให้เจ้าเป็นห่วง"
"ฝ่าบาท ถ้าจะเสด็จออกข้างนอก ทำไมไม่พาองครักษ์ไปด้วยล่ะเพคะ"
"ไหนๆ ข้าก็ปลอดภัยกลับมาแล้ว เจ้าไม่ต้องห่วงอีก อ้อ ข้างนอกอากาศหนาว เข้าไปในตำหนักดีกว่า"
หลังพระมเหสียุนโซฮวาเสด็จไปแล้ว พระเจ้าซองจงทรงรับสั่งกับคิมชูซอนว่า
" เฮ่อ กลับมาพอเห็นนางเข้า ข้าแทบตกใจ จนเกือบพูดอะไรไม่ออกด้วยซ้ำ จนวันนี้ถึงรู้ว่า ผู้ชายที่ถูกภรรยาจับได้ว่าแอบไปซุกซนข้างนอก ความรู้สึกจะเป็นแบบไหน เฮ่อๆๆ’
"ฝ่าบาท ทีหลังถ้าไม่จำเป็น อย่าทรงมีรับสั่งเท็จกับพระมเหสี ให้นางเสียพระทัยได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ"
"อึม ก็ได้ ข้าเชื่อฟังเจ้า แต่ว่า ข้าก็ยังอดห่วงไม่ได้ ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะถูกสามีเล่นงานหนัก เพราะความเข้าใจผิดหรือเปล่า"
"ฝ่าบาท หม่อมฉันว่าเรื่องที่เกิดในคืนนี้ ทรงลืมให้หมดจะดีกว่า"
"ข้าก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน"
ทาง ด้านที่บ้านออลูตง นางก็ถูกแทคังซูด่าว่าทั้งที่ออลูตงบอกว่าเขาเป็นคนไล่นางออกมาเอง แล้วจะมาบอกว่าเป็นสามีนางได้อย่างไร แทคังซูจึงบอกว่าการหย่าของเชื้อพระวงศ์ต้องให้พระเจ้าซองจงทรงรับทราบถึงจะ ถือว่าหย่า และบอกว่าจะต้องหาหลักฐานให้ได้ว่านางมีชู้
พระมเหสียุนโซฮวาทรงรับสั่งให้โบดึ๊กไปดักเรียกคิมชูซอนมาพบอีกครั้ง
"ชูซอน เมื่อกี้เจ้าบอกว่าฝ่าบาท ทรงปลอมพระองค์เป็นสามัญชน เพื่อจะไปเยี่ยมชาวบ้านข้างนอก ทั้งหมดนี้เป็นความจริงหรือเปล่า"
"จริงพ่ะย่ะค่ะ"
"แต่นี่ก็เลยเที่ยงคืนแล้ว ทุกคนเข้านอนหมด ยังมีใครที่ไหนให้เยี่ยมได้อีก"
"ไปอยู่ร้านเหล้า ฟังพวกบัณฑิตแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองพ่ะย่ะค่ะ"
" ความเห็นในวงสุราน่ะหรือ เอาเถอะ ข้าจะถือว่าเชื่อเจ้าซักครั้ง แต่การที่ฝ่าบาท เสด็จออกข้างนอกบ่อยๆ จนมีใครรู้เข้า อาจทำให้พระพันปีกับพระอัยยิกาทรงเป็นห่วง และขุนนางกับราษฎรที่ไม่เข้าใจ ก็จะวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ฉะนั้นเจ้าต้องคอยเตือนพระองค์ อย่าให้ออกนอกลู่นอกทางล่ะ"
"หม่อมฉันจะไม่ลืมพ่ะย่ะค่ะ"
พระ อัยยิกาจองฮีและพระพันปียินซูทรงมีรับสั่งดุพระมเหสียุนโซฮวาที่จัดการ เรื่องนางในซงไม่ได้ พระอัยยิกาจองฮีจะทรงรับมาดำเนินการเอง แต่พระมเหสียุนโซฮวาของเวลาสืบอีกสักหน่อย
กรมมหาดเล็กตรวจสอบคดี มหาดเล็กมีสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับนางกำนัล ในโอกาสนี้ได้มีการตรวจสอบว่ายังมีนางกำนัล คนอื่นตั้งครรภ์อีกหรือไม่ แชจาจีโล่งใจเมื่อรู้ว่านางกำนัลปาร์กผ่านการตรวจสอบการตั้งครรภ์ แชจาจีและนางกำนัลตกลงกันว่า
"หึ แม่นางปาร์ค ตั้งใจฟังคำพูดข้าให้ดีล่ะ ตั้งแต่วันนี้ไป เราจะถือว่าไม่รู้จักกัน ต่อให้ข้าถูกทรมานแค่ไหน เจ้าก็ห้ามช่วยและอย่าร้องไห้ด้วย สัญญาได้หรือเปล่า"
"มหาดเล็กแช ไม่ได้หรอก ข้าให้สัญญาไม่ได้ ฮือ ฮือ หรือไม่งั้น เราหนีออกจากวังด้วยกัน ขอเพียงได้อยู่กับเจ้า ต่อให้ไปใช้ชีวิตลำบาก ข้าก็ไม่มีวันเสียใจ"
"อย่าพูดโง่ๆ สิ เราจะหลบหนีชั่วชีวิตได้ยังไง หรือต่อให้เราหนีได้ พ่อแม่พี่น้องไม่ต้องสนใจแล้วหรือ"
"ไม่งั้นจะทำไงดีล่ะ"
"หึ ทำตามที่ข้าบอกแหละดีแล้ว นับแต่นี้ทำเหมือนไม่รู้จักกัน เข้าใจหรือเปล่า"
"ฮือ มหาดเล็กแช เจ้าจะใจร้ายกับข้าได้ลงคอหรือ"
"เฮ่อ มีแต่วิธีนี้เท่านั้น ถึงจะช่วยเจ้าได้ หึ เฮ่ย" นางในปาร์คร้องไห้
คิมชูซอนบอกกับชองฮันซูว่า
"ข้าเจอที่ผูกเสื้อของผู้ชายอยู่ในห้องนางในซง ถ้าเสื้อใครถูกตัด นั่นก็คือผู้ทำผิด"
ชองฮันซูสั่งมหาดเล็กซิม ให้รีบไปตรวจดูเครื่องแบบของมหาดเล็กทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่
"แต่ว่า ทำไมเจ้าต้องเอาหลักฐานชิ้นนี้มาให้ข้าล่ะ ถ้าข้าสืบหาผู้ทำผิดได้ก่อน ตำแหน่งหัวหน้ามหาดเล็กตรวจการณ์ก็จะเป็นของข้า"
" ตอนนี้ที่สำคัญ ไม่ใช่ใครเป็นหัวหน้ามหาดเล็กตรวจการณ์ หากแต่ต้องรีบสืบหาผู้กระทำความผิด เพื่อไม่ให้กรมมหาดเล็กของเราต้องเสื่อมเสีย ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่กว่าหลายเท่านัก"
คิมชูซอนกำลังวุ่นกับการหาคนที่ทำ ให้นางในซงตั้งครรภ์อยู่ เขาบอกให้จาจีรีบไปตรวจร่างกาย แต่ยังไม่ทันที่จาจีจะตรวจ เด็กเข้ามาตามเขาไปเข้าเฝ้าพระเจ้าซองจงเสียก่อน
พระเจ้าซองจงทรงพบว่าหยกส่วนพระองค์หายไป เรื่องนี้ทำให้พระองค์ทรงกลัดกลุ้มพระทัยยิ่งนัก พระเจ้าซองจง ทรงมีรับสั่งหาคิมชูซอน
"ชูซอน ข้ารู้สึกเป็นห่วงฮูหยินคนนั้นเหลือเกิน จะทำไงดีล่ะ"
"ฝ่าบาท ไหนทรงสัญญาแล้วว่า จะลืมเรื่องนี้ให้หมดไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ"
" ถ้าผู้หญิงคนนั้นเกิดเดือดร้อนขึ้นมา ก็เพราะข้าเป็นต้นเหตุ นางก็ถือเป็นราษฎรของข้าเหมือนกัน แล้วข้าจะไม่ใส่ใจได้ยังไงจริงมั้ย ถ้าไงเจ้าไปเยี่ยมนางหน่อย แล้วค่อยมาบอกข้าได้ไหม"
คิมชูซอนไปที่บ้านของออลูตงอีกครั้ง และบอกว่าเจ้านายของเขาเป็นห่วงเลยให้มาเยี่ยม
"คนที่ถูกหาว่าเป็นชายชู้ ถึงขนาดปีนกำแพงหนี ยังรู้จักเป็นห่วงข้าอีก ช่วยกลับไปบอกเขาว่า ข้าสบายดีทุกอย่าง"
"คืนก่อน ข้าได้ยินบอกว่า ท่านแทคังซูเป็นสามีของฮูหยิน ไม่ทราบเป็นความจริงหรือเปล่า"
" ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็นเมียแต่งของเชื้อพระวงศ์คนนี้จริงๆ แต่ว่า ปัจจุบันข้ากับเขาถือว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก ทำไมทำหน้าแปลกๆ อย่างงั้นล่ะ ผู้หญิงที่ถูกไล่ออกจากครอบครัวฝ่ายชาย มันน่าตกใจมากหรือไง"
"ในเมื่อผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว ทำไมฮูหยินยังกล้านัดพบกับชายอื่น โดยไม่มีการสำรวมซะบ้าง"
" ชายกับหญิงถ้าพบกัน บางครั้งก็แค่พูดคุยปรับทุกข์ คงไม่ใช่ความผิดอะไรนักหนาหรอก ส่วนใหญ่คนที่ชอบแบ่งเขาแบ่งเรา ยึดมั่นเกี่ยวกับชนชั้นวรรณะ มักเป็นพวกที่มีอำนาจในมือ หรือไม่ก็เชื้อพระวงศ์,เพื่อไว้ปกครองชาวบ้านที่ด้อยความรู้ จะได้ว่านอนสอนง่ายไม่กล้าหือ"
"เมื่อเห็นฮูหยินสบายดี ข้าก็ขอตัวก่อน"
"หยกชิ้นนี้ น่าจะเป็นของนายเจ้าใช่ไหม"
"แล้วทำไมถึงได้"
"แสดงว่าข้าทายไม่ผิด เขาทำหล่นไว้ ตอนกระโดดข้ามกำแพง"
"หึ งั้นจงคืนมาให้ข้า จะได้มอบให้นายต่อไป"
" ท่าทางเหมือนจะเป็นของสำคัญ ถ้าอยากได้คืน ก็ให้นายเจ้ามารับเองดีกว่า เพื่อกันการสูญหาย ถ้าไง ช่วยไปบอกนายเจ้าด้วยว่า ข้าจะรอเขามาพบ"
พอคิมชูซอนกลับมาพระเจ้าซองจงก็ทรงตรัสถามถึงทันที
"เป็นไงบ้าง นางถูกสามีลงโทษถึงขนาดเจ็บตัวหรือเปล่า"
"หม่อมฉันเห็นนางอยู่สบาย ไม่ต้องทรงเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ"
" เฮ่อ งั้นก็ค่อยโล่งอกหน่อย ท่านแทคังซู ขึ้นชื่อว่าเป็นคนอารมณ์ร้าย ในหมู่พระญาติ ใครๆ ก็กลัวเขาทั้งนั้น ข้าเลยอดเป็นห่วงไม่ได้ แล้วนางพูดอะไรกับเจ้าอีกมั้ย"
คิมชูซอนนึกถึงคำพูดของออลูตง แต่กลับทูลพระเจ้าซองจงว่านางไม่ได้พูดอะไร พระเจ้าซองจงทรงผิดหวังมาก
"เอ่อ ฝ่าบาท ผู้หญิงคนนั้น เป็นฮูหยินของท่านแทคังซู ซึ่งเป็นพระญาติ ฝ่าบาทไม่สมควร จะไปข้องแวะด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ"
"เอาเถอะ ข้าไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทางหรอก เจ้าอย่าห่วงนักเลย"
ขณะ ที่ยางซองยุนกับชองฮันซูกำลังตรวจร่างกายมหาดเล็กอยู่ ลูกน้องเขาก็เข้ามาบอกว่าเจอตัวการที่ทำให้นางในตั้งครรภ์ได้แล้ว ยางซองยุนจึงบอกว่าไม่ต้องตรวจร่างกายแล้ว เกยนัมบอกคิมชูซอนแล้วรีบไปดูที่ฝ่ายตรวจการณ์ คิมชูซอนถามชองฮันซูว่าเป็นใคร
"ไกลสุดขอบฟ้า ใกล้อยู่แค่ตา ที่แท้ก็คือมหาดเล็กซิม"
"อะไรนะ เป็นเขาหรอกหรือ"
"ผ้าชิ้นนี้ คิดว่าน่าจะตัดจากชุดเครื่องแบบของเขา ไปจับ "ซิมกีซู" มาพบข้าเดี๋ยวนี้"
ครู่ต่อมาพวกมูนโซอุนก็เข้ามา คิมชูซอนรีบถามว่าเจอตัวมหาดเล็กซิมหรือยัง
"แคนัม ให้เจ้าพูดดีกว่า"
"คือ มหาดเล็กซิม มาบอกข้าว่าจะตรวจเครื่องบรรณาการที่ส่งมา ข้าเลยเปิดห้องเก็บสมบัติให้เขา"
คิมชูซอนฟังแล้วตกใจมาก "หา อะไรนะ"
"มหาดเล็กซิมหนีออกจากวัง เกือบ 2 ชั่วยามได้แล้วครับ"
ชองฮันซูสั่งการทันที "หึ สั่งการให้มหาดเล็กทุกฝ่าย ออกตามหาโดยเร็วที่สุด ไม่ว่ายังไงก็อย่าให้หนีรอดได้"
มหาดเล็ก ซิมลอบออกจากวังหลวงไปที่บ้านนางกำนัลซ่ง จากนั้นมหาดเล็กซิมก็นำสิ่งของของนางกำนัลซ่งมอบให้แม่ของนาง หลังจากที่มหาดเล็กซิมออกจากบ้านนางกำนัลซ่งแล้วก็ถูกคิมชูซอนพาพวกเข้าจับ กุม มหาดเล็กซิมรีบหนี
"มหาดเล็กซิม ทุกอย่างจบไปแล้ว ไปคุยที่กรมมหาดเล็กดีกว่า"
" ถ้าข้ากลับไปอีกครั้ง มีหวังตายแน่ หึ ฮือ ถ้าพวกเจ้ายอมเมตตาปล่อยข้าซักครั้ง ชาตินี้ ข้าจะไม่ลืมบุญคุณเลย ฮือ ได้โปรด ฮือ ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะนะ ฮือๆๆ"
"มหาดเล็กซิม ถ้าเจ้ายอมออกหน้าตอนนางในซิมถูกลงโทษ ไม่แน่เด็กในท้องอาจไม่ต้องถึงที่ตาย เรื่องนี้เจ้าก็ควรรับผิดชอบบ้าง กลับไปเถอะนะ"
"ฮือ ข้ายอมตายซะดีกว่า ยังไงก็ไม่ขอกลับไปอีกแล้ว ฮือ ถ้าให้กลับไปรับโทษหนัก งั้นก็สู้ฆ่าข้าซะเดี๋ยวนี้ดีกว่า ฮือๆๆ"
ชอง ฮันซูพามหาดเล็กตรวจการตามมาจับกุมตัว มหาดเล็กถูกเฆี่ยนเพื่อให้เขาบอกความจริง มหาดเล็กซิมยอมรับความจริง ชองฮันซูถามว่าเขาคืนชีพได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
"หึ หึ ข้าก็ไม่รู้ หึ จู่ๆ มีวันหนึ่ง ก็พบว่าตัวเองมีหนวดขึ้น ไม่รู้เพราะอะไร ฮือ ข้าพยายามจะหักห้ามใจตัวเองแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้ ฮือ แล้วจะมาโทษข้าได้ยังไง ฮือๆๆ"
"เฮ่อ ในเมื่อผู้ต้องหายอมรับผิดแล้ว เราก็มาคิดกันว่า ควรจะลงโทษยังไงดีนะ" เจ้ากรมมหาดเล็กว่า
" ในเมื่อพระมเหสีทรงวางพระทัยให้เราไต่สวนเรื่องนี้ เมื่อมีความคืบหน้าก็สมควรไปกราบทูล เพื่อขอคำวินิจฉัยว่าจะลงอาญายังไงดี" คิมชูซอนว่า
ชองฮันซูแย้งว่า "เรื่องของกรมมหาดเล็ก ข้าว่าไม่ควรให้พระมเหสีมาก้าวก่าย"
"มหาดเล็กชอง มีนางในที่ตั้งครรภ์จนเสียชีวิต เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวเฉพาะกรมมหาดเล็กนะ" คิมชูซอนเถียง
"ท่านเจ้ากรม ถ้าไงเรื่องนี้มอบให้ข้าดีกว่า รับรองว่า ข้าจะไม่ทำให้กรมมหาดเล็กเสื่อมเสียเลย"
เจ้ากรมมหาดเล็กยอมมอบให้ชองฮันซูจัดการ เขาประกาศว่า
" นักโทษซิมกีซู ปกปิดเรื่องการคืนชีพของตัวเอง แอบมีความสัมพันธ์กับนางในจนตั้งครรภ์ เท่ากับลบหลู่ฝ่าบาทและราชสำนักอย่างแรง ซ้ำยังทำให้กรมมหาดเล็กเสื่อมเสีย สมควรรับโทษอย่างหนัก ตามกฎที่มีอยู่ ต้องใช้ไฟนาบส่วนที่คืนชีพให้หมดไป จากนั้นก็ขับออกจากวังหลวง ลงทัณฑ์ได้แล้ว"
มหาดเล็กซิมร้องขอให้ชองฮัน ซูฆ่าเขาเสียดีกว่า เมื่อมหาดเล็กซิมถูกลงโทษแล้วชองฮันซูก็พาเขาไปรักษากับยางซองยุน ยางซองยุนกล่าวกับชองฮันซูว่า
"เฮ่ย คนที่เคยผ่านความสัมพันธ์แบบชายหญิงมาแล้ว จู่ๆ กลายเป็นแบบนี้ ถึงมีชีวิตอยู่ไปก็ไร้ความหมายอีก ข้าว่า สู้ฆ่าเขายังดีซะกว่า โลกนี้น่ะนะ มี 3 อย่างที่มนุษย์เราไม่สามารถจะควบคุมได้ นั่นก็คือ ข้อหนึ่ง เราไม่อาจเลือกเกิดหรือเลือกพ่อแม่ได้ สอง คนเป็นพ่อแม่ก็ไม่อาจเลือกเพศของลูกได้ และสุดท้ายก็คือ ผู้ชายทุกคน ไม่อาจควบคุมกิเลสตัณหาที่อยู่ในใจตัวเองได้ เฮ่ย จุ๊ๆๆ"
ก่อนที่มหาดเล็กซิมจะออกจากวังหลวง คิมชูซอนกล่าวกับเขาว่า
" นางในซง หวังจะช่วยชีวิตเจ้าไว้ ยอมถูกทรมานสาหัส ก็ไม่บอกว่าเป็นอะไรกับเจ้า สุดท้ายถึงขั้นฆ่าตัวตาย เพื่อหวังช่วยเจ้า ไม่ให้ถูกตรวจสอบ นางบอกว่าไม่เคยเสียใจ ที่มีความรักต่อผู้ชายคนหนึ่ง เจ้าจงอย่าลืมการเสียสละ และความดีของนางด้วยล่ะ"
อดีตมหาดเล็กซิมฟังแล้วได้แต่ร้องไห้เสียใจ ก่อนจะออกจากวังหลวง
คิมชูซอนและชองฮันซูมาขอเฝ้าพระมเหสียุนโซฮวา
"ตัวการที่ทำให้นางในซงตั้งครรภ์ สืบหาได้หรือยัง"
ชองฮันซูทูลว่า "หม่อมฉันให้ทุกคน ออกมารับการตรวจร่างกายอย่างพร้อมเพรียง แต่ไม่พบการคืนชีพพ่ะย่ะค่ะ"
"อะไรนะ ถ้าไม่มีการคืนชีพ แล้วเรื่องนี้จะเป็นฝีมือใครได้"
" เชื้อพระวงศ์ที่เข้าออกวังหลวง บวกกับขุนนางใหม่ รวมถึงองครักษ์และบ่าวไพร่ ต่างก็ได้ตรวจหมด ปรากฎว่ามีคนแซ่ "ซอน" ซึ่งอยู่ฝ่ายกรมวัง ค้นพบหลักฐานเป็นสิ่งแทนใจ มอบให้นางในซงพ่ะย่ะค่ะ"
"หมายความว่า ตัวการที่ทำให้นางในตั้งครรภ์ ก็คือเจ้าหน้าที่ฝ่ายกรมวังคนนี้น่ะหรือ"
"คาดว่าทั้งคู่คงรู้จักมานาน ขณะทำงานอยู่ในวังพ่ะย่ะค่ะ"
"หึ ถ้าอย่างงั้น จับคนที่ก่อเรื่องได้หรือยัง"
"เมื่อคืนหนีรอดไปหวุดหวิด แต่หม่อมฉันก็สั่งให้ตามล่าทั่วเมือง กันการหลบหนี คิดว่าอีกไม่นานคงจะเจอตัวแน่"
" หึ มหาดเล็กคิม ที่เขาพูดมาทั้งหมด จริงหรือเปล่า" คิมชูซอนนิ่งอึ้งไป "มหาดเล็กคิม ข้าถามว่าที่มหาดเล็กชองพูด เป็นความจริงหรือเปล่า"
" ทูลพระมเหสี มหาดเล็กคิมไม่รู้รายละเอียดเหมือนที่หม่อมฉันรู้มา นี่คือรายงานของท่านเจ้ากรมฯ มีข้อมูลบันทึกไว้อย่างถี่ถ้วนพ่ะย่ะค่ะ"
"งั้นข้าจะอ่านดูก่อน พวกเจ้าออกไปได้แล้ว"
"ถ้าอย่างงั้น หม่อมฉันขอทูลลาก่อน"
พอออกมาจากพระตำหนัก คิมชูซอนก็ถามชองฮันซู
"มหาดเล็กชอง ทำไมเจ้าต้องปิดบังความจริง กุเรื่องส่งเดชไปทูลพระมเหสีล่ะ"
"ใครบอกว่าข้ากุเรื่อง คนที่ทำให้นางในซงตั้งครรภ์ สรุปแล้ว คือเจ้าหน้าที่ฝ่ายกรมวังไม่ผิดแน่"
"อะไรนะ"
" หลักฐานที่พวกเขามีความสัมพันธ์กัน คือที่ผูกเสื้อที่ถูกตัดขาดไม่ใช่หรือ แสดงว่าน่าจะคบหาดูใจมานาน พอฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ขึ้นมา ฝ่ายชายกลัวความผิดจึงรีบหนีไป ทั้งหมดนี้ คือความจริงที่เราสืบหามาได้"
"ชองฮันซู"
" ชูซอน เราจะให้มหาดเล็กแค่คนเดียว มาทำให้พวกเราทั้งหมดเสื่อมเสียไม่ได้หรอกนะ ถ้าวันหลังให้ใครรู้ว่า มหาดเล็กมีคนคืนชีพได้ อีกหน่อย ราชสำนักก็จะไม่ไว้ใจเราอีก หรือแม้แต่ขุนนาง ก็จะพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ถึงตอนนั้นกรมมหาดเล็ก มิเดินไปสู่ความหายนะหรอกหรือ หรือว่าเจ้า ต้องการให้เราเป็นอย่างงั้น"
"แต่หน้าที่ของมหาดเล็ก คือภักดีต่อฝ่าบาทและราชสำนักไม่ใช่หรือ ถ้าจะสร้างหลักฐานเท็จ ปกปิดความจริง แล้วสิ่งที่เรายึดมั่นมาตลอด จะมีความหมายอะไรอีก"
"ถ้า ไม่มีกรมมหาดเล็ก แล้วความจงรักภักดีที่เจ้ายึดมั่นจะมีความหมายอะไร ถ้าเจ้าคิดว่า อุดมการณ์ของเจ้าสำคัญกว่าความอยู่รอดของพวกเราละก้อ เชิญเอาเรื่องนี้ ไปทูลให้พระมเหสีทรงรู้ความจริงก็ได้ ถ้าไม่ทำอย่างงั้น เจ้าก็ต้องทำตามที่ข้าแนะนำ เพราะนี่คือ สิ่งที่หวังดีต่อส่วนรวม"
พูดจบชองฮันซูก็เดินจากไป คิมชูซอนได้แต่ถอนใจ
เจ้า กรมมหาดเล็กมาปรึกษาว่าควรจะให้ใครเป็นมหาดเล็กตรวจการณ์ดี ระหว่างชองฮันซูที่ไม่เปิดเผยเรื่องคืนความเป็นชาย ซึ่งโชชิคยอมถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ฉลาด แต่คิมชูซอนก็มีความชอบไม่น้อยไปกว่ากัน โชชิคยอมคิดหนัก
พระเจ้าซองจงเสด็จมาที่ตำหนักกลาง ตรัสกับพระมเหสียุนโซฮวา
"หึๆๆ คราวก่อนวอนจา พูดเรื่องการยกทัพไปตีแคว้นหนี่เจิน ทำให้ข้าได้ฉุกคิดบางอย่าง"
"หึๆๆ วอนจา ไม่นึกว่าเจ้าตัวแค่นี้ ก็มีความรู้เกี่ยวกับการเมืองแล้วหรือ"
"หม่อมฉันแค่ทูลในสิ่งที่ตัวเองคิดให้เสด็จพ่อรับฟังเท่านั้น"
พระเจ้าซองจงทรงชื่นชม "ดีมากลูก เจ้ารู้จักห่วงใยราษฎร ออกหน้าแทนพวกเขา อนาคตคงจะเป็นพระราชาที่เก่งกว่าพ่อซะอีก เฮ่อๆๆ"
"เสด็จแม่ นั่นคือหยกอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ"
"เป็นป้ายหยกที่เสด็จพ่อเจ้า เคยประทานให้กับแม่ ตอนเรายังเด็กน่ะจ้ะ"
"เสด็จพ่อทรงประทานหรือ"
"หึๆ ใช่"
"แล้วอีกครึ่งหนึ่งอยู่ไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ"
"ป้ายหยกอีกครึ่งหนึ่ง ก็ต้องอยู่กับเสด็จพ่อเก็บไว้เองสิจ๊ะ"
"เสด็จพ่อ ให้หม่อมฉันดูได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันจะลองเอามาประกบดู"
"ได้สิจ๊ะ ให้เจ้าลองประกบก็ได้ เอ่อ แย่จริง สงสัยจะลืมไว้ที่ตำหนักใหญ่ ไว้วันหลังค่อยประกบเถอะนะ"
"พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่ออย่าลืมเอามาด้วยล่ะ"
"อึม แน่นอน พ่อให้สัญญา"
พระ เจ้าซองจงชวนคิมชูซอนไปที่บ้านของออลูตงอีกครั้ง เพื่อหาป้ายหยก แต่เข้าไปไม่ได้เพราะแทคังซูสั่งคีฮอมให้เฝ้าไว้ พระเจ้าซองจงจึงส่งจดหมายฝากเด็กไปนัดให้ออลูตงออกมาพบ
"เจ้ายอมมาจนได้ เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตของคนอื่น ข้าเลยนัดมาพบที่นี่แทน"
"คนที่อยู่ข้างนอก เป็นลูกน้องสามีข้าเอง"
"คราวก่อน ทำให้เจ้าถูกสามีเข้าใจผิด ต้องขอโทษด้วยนะ"
" ไม่เกี่ยวกับท่านหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะความใจแคบของสามีข้า ชอบหึงหวงไม่เข้าเรื่องเอง ที่นัดข้าออกมาเพราะต้องการป้ายหยกคืนใช่ไหมคะ"
"ใช่"
"อันนี้ใช่หรือเปล่า"
"อ้อ นึกแล้วต้องอยู่ที่นี่ หยกชิ้นนี้สำหรับข้าแล้ว ถือเป็นสิ่งมีค่าอย่างมาก"
" ข้านึกแล้ว ท่านคงเป็นหนุ่มสำอางคนหนึ่ง ครั้งแรกมาคืนผ้าเช็ดหน้าจนได้ทำความรู้จัก ครั้งที่สองจะโดดข้ามกำแพงหนีสามีข้า ยังไม่ลืมทิ้งป้ายหยกไว้ เพื่อจะได้เป็นข้ออ้างมาพบข้าอีกครั้ง"
"โปรดอย่าเข้าใจผิด ป้ายหยกนี้ ถือเป็นของหมั้นหมายระหว่างข้ากับคนรัก ซึ่งมีความสำคัญ ข้าจึงทำหายไม่ได้เด็ดขาด"
"ท่านบอกว่า คนรักงั้นหรือ"
" ใช่ และตอนนี้ก็เป็นภรรยาของข้า ขอบคุณที่ช่วยเก็บไว้แล้วนำมาคืน ต่อไปข้าจะไม่มาหาเจ้าอีก ยังไงก็ขอบอกว่าขอบคุณด้วยใจจริงอีกครั้ง"
" ใต้เท้าคะ ข้าไม่เคยเชื่อคำพูดของผู้ชายคนไหน ต่อให้เป็นพระราชาผู้สูงศักดิ์ ก็สามารถทอดทิ้งพระมเหสีคู่พระทัย จนมีสนมนางในเป็นร้อยเป็นพันได้ ผู้ชายคนไหนๆ ก็มีแต่ใช้คำพูดหวานหูหลอกให้ผู้หญิงตายใจ คล้อยหลังไม่ทันไร ก็ไปหาคนอื่นต่อ ราวกับแมลงที่เชยชมดอกไม้ ถ้ายังไง ยามสามในอีกสามวันข้างหน้า ข้าจะมารอพบท่านที่นี่ ถ้าท่านกล้ามาจริง ถึงตอนนั้นก็จะได้ครอบครองตัวข้าทันที"
"คนที่ข้ารัก มีเพียงคนเดียว ความซื่อสัตย์ที่มีต่อภรรยานั้น จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง"
จบ 33

คิมชูซอน 34
ออลูตงทูลขอให้พระเจ้าซองจงทรงเสด็จมาหานางบ่อยๆ แต่นางกลับได้รับการปฏิเสธจากพระเจ้าซองจง พอแยกจากออลูตง คิมชูซอนก็กล่าวขอบพระทัยที่ทรงรักษาคำมั่นที่ทรงมีต่อพระมเหสียุนโซฮวา เขาเองก็คิดว่าพระองค์จะทรงหวั่นไหวด้วยซ้ำ
"นั่นสินะ ข้าก็ไม่รู้เป็นผู้ชายหรือเปล่า ถึงได้ปฏิเสธไมตรีของหญิงงามขนาดนั้น ชูซอน ถ้าข้ากลับไปหานางตอนนี้ เจ้าคิดว่านางจะยอมรับข้าหรือเปล่า"
"ฝ่าบาท ทำไมถึง"
"เฮ่อๆๆ แค่นี้ก็ล้อเล่นไม่ได้หรือไง อย่าห่วงเลยน่า ข้าไม่นอกใจชุงจอน ให้นางผิดหวังในตัวข้าหรอก หึ"
เมื่อเป็นเช่นนี้ ออลูตงจึงตัดสินใจที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของนางกับพระเจ้าซองจงออกมา
"รักผู้หญิงคนเดียวงั้นหรือ หึ คอยดูไปเถอะ ข้าจะทำให้ท่านเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาให้ได้"
พระ มเหสียุนโซฮวารับปากพระอัยยิกาจองฮีว่าจะตามล่าคนที่เป็นชู้สาวกับนางในให้ ได้ และจะถือเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เข้มงวดต่อฝ่ายในมากขึ้น พระพันปียินซูทรงตำหนิว่าให้แก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสนมด้วยกันก่อน
" แต่ว่า ถ้าไม่ถือโอกาสนี้สร้างระเบียบวินัยให้เคร่งครัด อีกหน่อยก็อาจเกิดเรื่องไม่ดีไม่งาม ให้ฝ่าบาทและราชสำนักเสื่อมเสียอีกก็ได้ หม่อมฉันเชื่อว่า สามารถดูแลได้เพคะ"
พระอัยยิกาจองฮีทรงตัดบท "งั้นก็ทำตามที่ชุงจอนบอกเถอะ ไหนๆ หน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของฝ่ายใน ก็เป็นของพระมเหสีอยู่แล้ว เราสองคนอย่าไปก้าวก่ายการทำงานของนางดีกว่า"
"ขอบพระทัยเพคะ"
พระ มเหสียุนโซฮวาทรงออกกฏเกณฑ์ห้ามไม่ให้นางกำนัลและมหาดเล็กมีสัมพันธ์ฉันท์ ชู้สาวกัน ถ้าหากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกลงโทษสถานหนัก เหล่าซังกุงต่างไม่ค่อยพอใจนัก
พระมเหสียุนโซฮวาทรงกริ้วมากเมื่อทรง รู้ว่าสนมชองไม่ยอมรับการลงโทษ ขณะที่พระมเหสียุนโซฮวากำลังจะหวดแส้ใส่สนมชองนั่นเอง พระพันปียินซูก็เสด็จเข้ามาและตรัสว่าสนมชองกำลังตั้งครรภ์ เมื่อพระมเหสียุนโซฮวาทรงสดับเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะจัดการนางอย่างไร
พระ พันปียินซูทรงยินดีกับสนมชองและให้พระมเหสียุนโซฮวาเลิกลงโทษและให้ดูแลสนม ชองอย่างดี พระมเหสียุนโซฮวาคิดว่าสนมชองต้องมีอะไรแอบแฝงจึงไม่ยอมบอกแต่แรกว่าตั้ง ครรภ์
ด้วยเรื่องสืบหาความจริงนางกำนัลตั้งครรภ์ เจ้ากรมมหาดเล็กชางซุนโมชมเชยคิมชูซอนและชองฮันซูต่างมีผลงานด้วยกันทั้งคู่ ชางซุนโมแต่งตั้งชองฮันซูเป็นหัวหน้าผู้ตรวจการกรมมหาดเล็ก และให้คิมชูซอนและชองฮันซูไปหาโชชิคยอม
โชชิคยอมอบรมสั่งสอนคิมชูซอนและชองฮันซูไม่ว่าจะทำอะไรให้เห็นแก่กรมมหาดเล็กเป็นสำคัญ
" ที่ข้าให้เจ้าสองคนมาพบวันนี้ ก็เพราะว่า อีกหน่อยพวกเจ้าจะเป็นผู้กุมชะตาของกรมมหาดเล็ก จึงอยากให้รักกันเข้าไว้ ชูซอน รู้มั้ยว่าทำไมข้าถึงเลือก ชองฮันซูให้เป็นหัวหน้ามหาดเล็กตรวจการณ์ ทั้งที่น่าจะเป็นเจ้ามากกว่า"
"ข้ารู้แต่มีหน้าที่ทำตามคำสั่งผู้ใหญ่เท่านั้น ไม่บังอาจคาดเดาความคิดของท่านพ่อหรอกครับ"
"ฮันซูล่ะ รู้เหตุผลหรือเปล่า"
"ข้าน้อย พอจะรู้นิดหน่อยครับ"
" อึม ชูซอน เจ้า ตั้งใจสืบหาผู้ทำผิดถือว่าดีแล้ว แต่ถ้าให้ราชสำนัก รู้เบื้องหลังความจริงว่าเกิดจากใครละก้อ กรมมหาดเล็ก จะถูกคนอื่นดูแคลนทันที ข้าชื่นชมที่เจ้า ใช้สติปัญญาสืบคดีนี้ แต่คนที่ช่วยกรมมหาดเล็กไว้ คือชองฮันซู และความรอบคอบของเขาต่างหาก"
"ใต้เท้าเข้าใจเจตนาของข้า ทำให้ข้าซาบซึ้งนัก"
"ท่านพ่อคิดว่า การรักษาเกียรติของกรมมหาดเล็กไว้ ไม่ให้ใครลบหลู่ สำคัญยิ่งกว่ารายงานข้อเท็จจริง ให้เบื้องบนทรงทราบงั้นหรือครับ"
" การยึดมั่นอุดมการณ์ ลอยตัวเหนือปัญหาทั้งปวง ทำได้ไม่ยากหรอกนะ แต่ว่า การเป็นหัวหน้ามหาดเล็กนั้น เราต้องมองให้กว้าง คำนึงถึงผลได้ผลเสียและประโยชน์ของส่วนรวมมาก่อน แทนที่จะมองแค่ตัวเอง"
พระ เจ้าซองจงทรงมีพระราชประสงค์ที่จะเปิดศึกสงคราม แต่กลับถูกใต้เท้าซังตังและพวกถวายฏีกาคัดค้าน พระเจ้าซองจงทรงตัดสินพระทัยแล้วและจะไม่พูดเรื่องนี้อีกต่อไป
แม่และคีฮอมพี่ชายของมาเข้าเฝ้าพระมเหสียุนโซฮวา
"น่าชื่นใจนัก ที่เห็นองค์ชายน้อยโตวันโตคืนและเฉลียวฉลาด"
คีฮอมกล่าวต่อ "ขนาดพระญาติคนอื่นๆ ก็มักจะเอ่ยชม ว่าองค์ชายน้อยเป็นเด็กหัวไว เรียนรู้เร็วพ่ะย่ะค่ะ"
"หึ แล้วพี่ใหญ่เป็นไงบ้าง หมู่นี้สบายดีหรือเปล่า"
" เฮ่ย หม่อมฉันก็แค่อยู่ไปวันๆ หน้าที่การงานไม่มีความสำคัญ อย่างเก่งก็แค่ คอยตามคนอื่นไปดื่มเหล้าเท่านั้น ได้แต่หวังว่า รอให้องค์ชายน้อยครองราชย์เมื่อไหร่ หม่อมฉันคงจะได้รุ่งตาม ได้ลืมตาอ้าปากกะเขาบ้าง"
"พี่ใหญ่ ทำไมเริ่มเพ้อเจ้อขึ้นมาอีกแล้ว"
"คีฮอม ยังไม่รีบขอขมาต่อพระมเหสีอีก"
"พระมเหสี หม่อมฉันพูดโดยไม่คิด ขอทรงอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ"
"คนเป็นพระญาติ ไม่ว่าทำอะไรก็ตาม จะเป็นที่จับตามองของคนอื่น ข้าถึงอยากให้ท่านระวังความประพฤติ อย่าให้ใครครหาได้"
"ท่านลุง อย่าลืมรับสั่งของเสด็จแม่ต้องทำตามด้วยนะ"
"ทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ เฮ่ย"
ขณะ ที่พระเจ้าซองจงกำลังทรงทอดพระเนตรฏีกาจำนวนมากอยู่นั่นเอง ทันใดนั้นเอง พระเจ้าซองจงก็ทรงคิดถึงออลูตงที่ส่งจดหมายมา พระเจ้าซองจงทรงมีรับสั่งให้คิมชูซอน นำเสด็จพระองค์ไปหานาง โดยไม่ฟังคำทัดทาน ของคิมชูซอน
"ฝ่าบาท นี่เป็นครั้งสุดท้ายแน่นะพ่ะย่ะค่ะ"
"แน่สิ จะให้พูดอีกกี่ครั้งกี่หนนะ รีบไปเร็วเข้า"
และ พอใกล้ถึงที่นัดพบก็มีคนร้ายบุกเข้ามาจะชิงตัวออลูตงไป คิมชูซอนทูลให้พระเจ้าซองจงพาออลูตงหนีไปก่อน ส่วนทางนี้เขาจะจัดการเอง ทันใดนั้นกึมพยอก็เข้ามาช่วยคิมชูซอนอีกแรงจนพวกคนร้ายหนีไป ทั้งสองก็รีบตามหาพระเจ้าซองจง
พระเจ้าซองจงเสด็จพาออลูตงมาหาที่หลบ
"หึ คิดว่าคงไม่มีใครตามมาอีกแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง"
"ผู้ชายคนเมื่อกี้ เป็นใครหรือคะ"
"หึ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน รีบหาที่หลบฝนก่อนเถอะ"
คิม ชูซอนกับกึมพยอรีบมาบอกโชชิคยอมว่าหาพระเจ้าซองจงไม่พบ โชชิคยอมสั่งให้กึมพยอรีบไปสั่งการให้องครักษ์คุ้มกันและตรวจการณ์ออกสืบหา ร่องรอยพระเจ้าซองจงให้พบ แล้วก็สอบสวนคิมชูซอน
"เจ้าบอกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง อยู่กับฝ่าบาทใช่ไหม นางเป็นใคร ทำไมไม่ยอมตอบข้าล่ะ"
"เรื่องนี้ข้ากับฝ่าบาท ได้มีสัญญาต่อกันไว้ จึงบอกท่านพ่อไม่ได้น่ะครับ"
"แต่ตอนนี้ไม่รู้ฝ่าบาทหายไปไหน ซึ่งน่าเป็นห่วง สิ่งสำคัญที่สุดคือรีบหาพระองค์ให้พบ บอกมาเร็วเข้า ผู้หญิงคนนั้น นางเป็นใครแน่"
"เป็นฮูหยินของท่านแทคังซู แต่ได้เลิกรากันแล้ว"
"อะไรนะ"
ทางด้านพระเจ้าซองจงทรงเห็นออลูตงถอดเสื้อผ้าก็ตกพระทัย
"เจ้าทำอะไรน่ะ"
" ดูท่าฝนคงจะตกข้ามวันข้ามคืน ถ้าเราใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้น ไม่นานคงเป็นหวัดตายแน่ ท่านเองก็เหมือนกัน รีบถอดเสื้อเร็วเข้า หึ ที่นี่จะก่อไฟก็ไม่ได้ ทางเดียวก็คือ ต้องอาศัยความอบอุ่นจากร่างกาย ท่านว่าจริงหรือเปล่า"
"เราไม่ควรทำอย่างงั้น"
"ข้าก็รู้ว่าอะไรคือยางอาย แต่ว่า ถ้าไม่อยากตายอยู่นี่ คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวิธีนี้เท่านั้น"
พระเจ้าซองจงทรงไอ และจำต้องทำตามที่ออลูตงว่า
"ท่านเคยบอกว่า ชั่วชีวิตรักผู้หญิงเพียงคนเดียวก็คือภรรยาไม่ใช่หรือ แล้วทำไมยังมาหาข้าอีกล่ะคะ"
"ที่ข้ามาเพราะเป็นห่วงเจ้า แต่ไม่เคยคิดว่าต้องการตัวเจ้า"
"เมื่อกี้ที่ท่านมาช่วย เพียงเพราะห่วงข้าเองหรือ"
"ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง จะปล่อยให้ผู้หญิงมีอันตรายได้ยังไง หึ เห็นว่าเจ้าเป็นฮูหยินของเชื้อพระวงศ์ ที่ชื่อแทคังซูใช่ไหม"
"เมื่อก่อนเคยใช่ค่ะ ข้าต้องอยู่กับสามีที่ไร้สมรรถภาพ แถมยังถูกหาว่ามีชู้อีก สุดท้ายก็เลยถูกทอดทิ้ง"
"หมายความว่า เจ้าไม่เคยมีอะไรกับเขาเลยหรือ"
"อ้อมแขนท่าน อบอุ่นดีจัง ข้ารู้สึกง่วงนอนแล้ว"
พระมเหสียุนโซฮวาทราบเรื่องจากโอซังกุก็ตกพระทัย ขณะที่คิมชูซอนก็มาดักรอพบพระเจ้าซองจงที่หน้าบ้านของออลูตงจนเจอกับพระองค์
"ฝ่าบาท เป็นไรหรือเปล่าพ่ะย่ะคะ" กึมพยอทูล
"ข้าไม่เป็นไร เมื่อคืนดีที่เจ้ามาช่วย ข้าถึงได้ปลอดภัย ชูซอน เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม"
"ฝ่าบาท ทรงปลอดภัยก็ดีแล้ว"
"อึม ข้าไม่ดีเอง ทำให้ทุกคนลำบากไปหมด"
"ตอนนี้ในราชสำนัก ยังไม่มีใครรู้ว่าฝ่าบาทเสด็จออกมาข้างนอกทั้งคืน ถ้าไงรีบกลับเถอะพ่ะย่ะค่ะ"
"ข้ารู้แล้ว ไปเถอะ"
พระเจ้าซองจงตรัสกับพวกมหาดเล็กว่า "ข้ารู้สึกละอายต่อพวกเจ้าจริงๆ ต่อไปจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก"
"เป็นเพราะพวกเรา ไม่ได้ถวายอารักขาให้ฝ่าบาททรงได้รับความสะดวก จึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นพ่ะย่ะค่ะ"
"เจ้ากรมมหาดเล็ก ชูซอนไม่ได้ทำอะไรผิด ท่านอย่าตำหนิเขาเลยนะ"
" แต่ว่าฝ่าบาท ทีหลังถ้าจะเสด็จออกนอกวังอีก โปรดแจ้งให้ทราบก่อนได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ เพื่อที่ว่าพวกเรา จะได้เตรียมการอารักขา ไม่ให้เหตุการณ์เมื่อคืนเกิดซ้ำรอยอีก"
"อึม ข้าเข้าใจแล้ว"
พระเจ้าซองจงได้รับคำเตือนจากพระพันปียินซูเรื่องการออกไปนอกวัง พระเจ้าซองจงเสด็จมาหาพระมเหสียุนโซฮวา
"ชุงจอน ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง แต่ข้าสัญญาจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก"
" หม่อมฉัน เป็นห่วงฝ่าบาททั้งคืนเพราะกลัวว่าจะมีคนคิดปองร้าย แถมยังไม่มีข่าวคราวอีก จริงๆ แล้ว เมื่อคืนฝ่าบาท ไปทรงค้างที่ไหนหรือเพคะ"
"เอ่อ ข้าไปไกลจนหลงทาง พอเจอฝนตกก็ไปหลบในกระท่อมร้าง จากนั้นก็นอนหลับไป"
"แค่นี้เองหรือเพคะ"
"ใช่"
"แต่เมื่อทรงปลอดภัยกลับมา แค่นี้ก็พอแล้วเพคะ"
"เสด็จพ่อ ต่อไปอย่าทำให้เสด็จแม่เสียพระทัยอีกนะ"
"อึม ได้ พ่อให้สัญญากับเจ้า"
"หม่อมฉันเชื่อว่าเสด็จพ่อรับสั่งคำไหนเป็นคำนั้น"
"หึๆๆ เจ้าช่างโชคดี มีลูกที่กตัญญูแบบนี้ ต่อไปคงไม่ต้องห่วงอีก"
โชชิคยอมกับโอซังกุงพบกับวอฮาที่มาส่งข่าวเรื่องลูกของโอซังกุง
"เห็นบอกว่าเจ้า พบร่องรอยของเด็กแล้วหรือ"
"ได้โปรดบอกข้ามาเร็วเข้า ไม่ว่าคำตอบจะเป็นแบบไหน ข้าก็ไม่ถือว่าท่านทำงานบกพร่อง"
"ปี "ชองชุน" มีหมอดูหญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กทารกไปจากใต้ก้อนหิน จากนั้นก็ออกจากเมืองหลวงไป ไม่มีข่าวคราวพอจะให้สืบหาอีก"
"เป็นไปไม่ได้ ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะคะ พวกเขาออกจากเมืองหลวงแล้วไปที่ไหน ฮือ ต่อให้เป็นนรกขุม 18 ข้าก็จะไปหาให้พบ"
" นายหญิง ลืมเด็กคนนี้ซะดีกว่า ถึงเจอเขาตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์สำหรับท่านอีกแล้ว ข้าอยากให้ท่านถือซะว่า ไม่มีวาสนาเกี่ยวพันกับเด็กคนนี้ ต่อไปไม่ต้องตามหาเขาอีก"
"ข้าไม่ยอม แพ้หรอก ฮือ ต่อให้ไม่อาจทำความรู้จัก ฮือ หรือได้แต่มองอยู่ห่างๆ ฮือ ขอเพียงแต่ ฮือ ได้เห็นลูกซักครั้ง แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ฮือ ข้าก็ไม่หวังอะไรอีก ฮือๆๆ"
"โอซังกุง ทำใจดีๆ ไว้เถอะ"
วอฮากลับไปอย่างเศร้าหมองรู้สึกสงสารโอซังกุงยิ่งนัก
พระ เจ้าซองจงประชุมกับเหล่าขุนนาง และถามหาแทคังซูที่ไม่มาด้วย เหล่าขุนนางจึงพูดเรื่องแทคังซูไปตามชายชู้ที่มายุ่งกับภรรยาของเขา และพูดเลยไปว่าผู้ชายในเมืองที่มีเงินต่างก็ข้องแวะกับหญิงที่ชื่อออลูตงมา ก่อน ทำให้พระเจ้าซองจงคิดแต่เรื่องของออลูตงว่าจริงหรือไม่ และในที่สุดพระองค์ก็ทรงอดทนต่อไปไม่ไหว ตัดสินพระทัยเสด็จไปหาออลูตงโดยที่ไม่บอกให้คิมชูซอนรู้
จบ 34

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn

Related Posts



2 comments:

Anonymous said...

สนุกมากๆๆๆๆๆ รออ่านอยู่นะค่ะ ติดตามตลอดเลย
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ลงเรื่อยๆๆเลยนะ *-*

Anonymous said...

เมื่อไรตอนใหม่จะมาค่ะรออยู่นะค่ะ

 

Recommended Product

  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads
  • ads

My Blog List

Read Lakorn Copyright © 2009 Shopping Bag is Designed by Ipietoon Sponsored by Online Business Journal